วันรุ่งขึ้น
ทิวเทพขับรถมารอทิชาที่หน้าคอนโดพร้อมโทรบอกเธอให้ลงมา
ครืน.....ครืน........
"สวัสดีค่ะคุณทิวเทพ"
"รออยู่ข้างล่าง...."
"อ้อค่ะ ๆ ฉันกำลังลงไปค่ะ”
ทิชาบอกพร้อมกับกดวางสาย และรีบลงมาด้านล่าง
"รอนานไหมคะ ฉันมาแล้วค่ะ"
เธอเอ่ยทักทายทิวเทพที่จ้องเธอตาไม่กระพริบเพราะวันนี้เธอสวยมาก ชุดเดรสสีพีชจีบพลิ้วรอบตัวกับการแต่งหน้าอ่อน ๆ เหมาะกับเธอมาก
"ชุดนี้พอได้ไหมคะ ฉันไม่ค่อยมั่นใจเลย แม่คุณจะชอบไหม"
"อืม น่ารักดี ขึ้นรถเถอะ”
ทิวเทพตอบและเปิดประตูให้ทิชา
"ฉันต้องทำตัวยังไงบ้างคะ คุณทิวเทพ แม่คุณจะยอมรับฉันไหม"
"พี่ทิว..."
"คะ?"
"เรียกฉันว่าพี่ทิวและแทนตัวเองว่าทิชา แม่จะได้ไม่สงสัย"
"อ้อ เอ่อ ค่ะ พะ พี่ทิว"
เขินชะมัดเลยที่ต้องเรียกเขาว่าพี่ทิว และแทนตัวเองว่าทิชา มันเหมือนเราเป็นคู่รักกันจริง ๆ
"ทำตัวตามสบาย ไม่ต้องเครียด"
"ทิชาจะพยายามค่ะ"
หลังจากนั่งรถมาสักพักก็มาถึงบ้านของพี่ทิว จะเรียกบ้านได้ไหมนะเพราะมันหลังใหญ่มากแทบจะเป็นคฤหาสน์เลยล่ะ
ทิวเทพลงจากรถและเดินอ้อมมาเปิดประตูให้ทิชา
"ไปกันเถอะ"
ทิวเทพพูดและจูงมือทิชาเดินเข้าบ้าน ไปหาพ่อกับแม่ที่รอทานอาหารอยู่
มือเค้าอุ่นจัง
ทิชาคิดพลางกระชับมือเขาไว้แน่น เธอประหม่ามากที่ต้องมาเจอหน้าพ่อแม่ของทิวเทพ
"พ่อครับ แม่ครับ นี่ทิชาแฟนผม"
"สวัสดีค่ะ ทิชาค่ะ"
ฉันยกมือไหว้พ่อกับแม่ของพี่ทิว พ่อของพี่ทิวคุณลุงไททันหล่อมาก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพี่ทิวถึงได้หล่อขนาดนี้ เขาเหมือนพ่อมาก ส่วนแม่ของพี่ทิว ธารา เป็นผู้หญิงตัวเล็กน่าทะนุถนอม ทั้งคู่ดูไม่แก่เลย
"สวัสดีจ้า ยินดีต้อนรับนะจ๊ะ ชื่อทิชา ใช่ไหม น่าตาน่ารักดีนะ”
แม่พี่ทิวพูดพลางเดินเข้ามาหาและจับมือฉัน
"แม่ให้คนเตรียมอาหารไว้แล้ว ไปทานอาหารกันเถอะ”
คุณแม่พี่ทิวพูดแล้วจูงมือฉันไปที่ห้องอาหาร ฉันหันไปมองพี่ทิวแต่พี่ทิวพยักหน้าให้ฉันเดินตามแม่เขาไป
"ไปเถอะ เดี๋ยวฉันตามไป"เขาบอก
"ค่ะ พี่ทิว" ฉันเดินตามคุณแม่ไปต้อย ๆ
"ลูกชายแม่ เค้าดูแลหนูดีหรือเปล่าจ๊ะ เค้าไม่ได้บังคับอะไรใช่ไหม"
'เอ่อ... ค่ะ เขาดูแลหนูอย่างดีค่ะคุณป้า”
"เรียกป้าได้ไงจ๊ะ อีกหน่อยหนูทิชาก็ต้องเป็นสะใภ้แม่แล้ว ต้องเรียกแม่สิ"
"ค่ะคุณแม่..."
"เนี่ย ลูกชายแม่นะ ตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วเค้าชอบ อะ....."
"อะแฮ่ม แม่ครับ"
ทิวเทพที่เดินตามแม่เข้ามาที่ห้องอาหารกระแอมเตือนแม่ของเขา เพราะกลัวแม่เขาจะหลุดอะไรให้คนตัวเล็กสงสัย
"อ้อ เค้าซนหน่ะ ตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว”
"อ้อค่ะ ทิชาก็คิดว่างั้น"
"กินข้าวเถอะครับ...."
หลังจากนั้นคุณแม่ก็ถามฉันอยู่เรื่อย ๆ อายุเท่าไหร่ เรียนอยู่ไหม เจอกันที่ไหน เจอได้ยังไง คบกันนานหรือยัง
ซึ่งคนที่ตอบคำถามพวกนี้ไม่ใช่ฉันค่ะแต่เป็นพี่ทิวเพราะเรายังไม่ได้ตกลงรายละเอียดกันเลย เขาก็ดันลากฉันมาเจอครอบครัวเขาซะก่อน
ซึ่งเขาตอบไปว่า ฉันอายุ 21 ย่าง 22 กำลังเรียนปี 3 มหาลัย G และคบกันได้สักพักแล้ว เขาไม่ยอมบอกแม่ว่าเราเจอกันได้ยังไงจนแม่เขาพูดขึ้นว่า
"แหม่ ตาทิว แม่ถามหนูทิชานะ ไม่ใช่ลูก นี่ลูกเล่นตอบหมดเลย ให้น้องเค้าพูดบ้างเถอะ"
ฉันอมยิ้มที่เห็นพี่ทิวหน้าแดง เพราะโดนคุณแม่แซว
"ครับ"
"ตามที่พี่ทิวบอกค่ะคุณแม่ เราคบกันมาซักพักแล้ว”
"แล้วนี่มีแพลนแต่งงานหรือยังล่ะ"
"เอ่อ...."
"มีแล้วครับ อีก 2 อาทิตย์"
ฉันหันไปมองพี่ทิวอย่างตกใจเพราะเขาไม่ได้บอกว่าจะแต่งเร็วขนาดนี้
"ไวขนาดนั้นเลยหรอลูก แล้วนี่พ่อแม่หนูว่าไงจ๊ะ"
"หนูมีปัญหากับพ่อนิดหน่อยค่ะเลยออกมาอยู่เอง ยังไม่ได้บอกท่านเรื่องนี้"
ฉันตอบไปตามความจริง
"ตายแล้ว แล้วนี้อยู่กับใครล่ะ"
"อ้อ อยู่กะ.."
"อยู่กับผมที่เพนส์เฮาส์ครับ"
ฉันหันไปมองพี่ทิวอีกรอบ เขาตอบอะไรไปเนี่ยยฉันไปอยู่กับเขาตอนไหน
"อ้อ ค่ะ ๆ ใช่ค่ะ"
ฉันได้แต่เออออห่อหมกตามเขาไปก่อน จบเรื่องเมื่อไหร่คงต้องคุยกับเขาให้รู้เรื่อง!!!
"ผมรบกวนคุณแม่ช่วยเตรียมงานให้ด้วยนะครับ ส่วนเรื่องชุด ผมจัดการเอง"
"ใจร้อนจริง ๆ นะตาทิว ได้นิสัยใครมาเนี่ย งั้นอีก2-3วันแม่จะเข้าไปสู่ขอหนูทิชาให้นะ ส่วนเรื่องงานแต่งแม่จะให้ออแกไนซ์จัดการให้"
"ขอบคุณครับ/ขอบคุณค่ะ คุณแม่"
***********
หลังจากนัดวันเข้าไปสู่ขอได้แล้ว พี่ทิวก็ขอตัวกลับก่อนพร้อมอ้างว่าต้องพาฉันไปดูชุดแต่งงาน เมื่อขึ้นมาบนรถฉันรีบฉะพี่ทิวทันที
"คุณไปบอกแม่คุณว่าเราอยู่ด้วยกันได้ไง ฉันเสียหายนะ ไหนจะเรื่องแต่งงานอีก ทำไมไมบอกฉันว่ามันจะเร็วขนาดนี้ แล้วเรื่องพ่อฉัน
“ถ้าพ่อฉันไม่ยอมล่ะ คุณจะทำไง โอ๊ยยย ทำอะไรไม่ปรึกษากันเลยนะ"
"พูดจบหรือยัง?"
"......."
ฉันเงียบทันทีที่พูดจบ ยอมรับว่าใจหนึ่งก็โมโหเขาแต่อีกใจก็แอบดีใจอยู่ลึก ๆ ที่จะได้แต่งงานกับเขา
"ฉันต้องรีบแต่งเพราะเดี๋ยวแม่จะจับใครยัดมาให้อีกก็ไม่รู้ ส่วนเรื่องที่เราอยู่ด้วยกันเธอต้องย้ายมาอยู่กับฉันเพราะถ้าข่าวออกไปว่าฉันจะแต่งงานเธออาจจะไม่ปลอดภัย อีกอย่างจะแต่งอยู่แล้วไม่เสียหายหรอก"
"เฮ้ออ คุณเป็นมาเฟียหรือไง ถึงได้มีคนจะมาทำร้ายอ่ะ”ฉันถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
"เรื่องนั้นไว้แต่งงานแล้วจะบอก"
ทิวเทพตอบกลับด้วยเสียงราบเรียบ เขายังไม่อยากบอกอะไรเธอตอนนี้เพราะกลัวเธอจะตกใจแล้วหนีเขาไป
"ตามใจคุณแล้วกัน แล้วนี่ฉันต้องย้ายไปอยู่กับคุณวันไหน”
"วันนี้ ตอนนี้ ฉันจะพาไปเก็บของ ห้ามเถียง ห้ามถาม"
ฉันได้แต่นั่งเงียบ จะเถียงอะไรได้ล่ะ เล่นดักทุกทางขนาดนี้
************
เมื่อมาถึงคอนโดฉันรีบไปเก็บของออกมาพร้อมไลน์บอกพวกเพื่อน ๆ ไว้ ส่วนยัยดาวยังไม่ตื่นเลยด้วยซ้ำเมื่อคืนน่าจะกลับเช้า
ฉันไม่อยากรบกวนเพื่อนเลยเขียนโน๊ตแปะไว้หน้าตู้เย็นแทนว่าต้องย้ายไปอยู่กับคุณทิวเทพ
"ไปกันหรือยัง”
"ค่ะ"
พี่ทิวเทพเดินมารับกระเป๋าฉันไปโยนใส่ท้ายรถไว้พร้อมบอกให้ฉันขึ้นรถและขับมาที่เพนเฮาส์ของเขา
"ให้ทิชานอนห้องไหนคะ"
"ห้องฉัน..."
"ว่าไงนะคะ ทิชาเป็นผู้หญิงนะจะให้นอนกับคุณได้ไง"
"ถ้าเราแยกห้องกัน แม่ฉันรู้แน่ ๆ”
ทิวเทพยกเรื่องแม่มาขู่ทิชาอีกครั้ง เมื่อเห็นคนตัวเล็กทำท่าจะไม่ยอม
"คุณห้ามทำอะไรฉันเด็ดขาดเลยนะ รับปากมาสิ"
"....."
"รับปากสิคุณทิวเทพ"
"อืม ถ้าเธอไม่เริ่มก่อน"
"ไม่มีทางหรอก”ทิชาตอบอย่างมั่นใจ
"ไปเก็บของได้แล้ว เดี๋ยวฉันให้แม่บ้านมาเตรียมอาหารเย็นให้"
"คุณก็ออกไปสิ ฉันจะเปลี่ยนชุด”
ทิชาเอ่ยปากไล่ทิวเทพอออกจากห้อง จะให้เธอเปลี่ยนชุดได้ไงในเมื่อเขายืนหัวโด่อยู่ตรงนี้
"หึ"
ทิวเทพหัวเราะเบา ๆ และเดินออกจากห้องไป ทิชาทรุดตัวนั่งบนเตียงพลางกุมขมับตัวเอง
"ฉันจะรอดถึง 6 เดือนไหมเนี่ย ต้องอยู่ห้องเดียวกันเตียงเดียวกันขนาดนี้ รู้งี้ลงระละเอียดในสัญญาให้ชัดเจนกว่านี้ดีกว่า”
ทิชาบ่นกับตัวเองก่อนจะไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดออกมาทานมื้อเย็นกับทิวเทพ เมื่อออกมาถึงโต๊ะอาหารก็เห็นทิวเทพนั่งรออยู่แล้วพร้อมอาหารน่าทานบนโต๊ะ
เขาลุกมาขยับเก้าอี้ให้ทิชา พร้อมกับรินไวน์แดงให้เธอดื่ม
"ขอบคุณค่ะ"
ระหว่างมื้ออาหารทิวเทพและทิชาได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกัน เพื่อให้รู้จักอีกฝ่ายมากขึ้นเพราะทั้งสองต้องแสดงละครตบตาอีกนาน ซึ่งส่วนใหญ่ทิชาจะเป็นคนถามมากกว่า ส่วนทิวเทพก็คอยตอบและรินไวน์เพิ่มให้เธอเรื่อย ๆ คนตัวเล็กเริ่มมึนเมื่อดื่มไป 2-3 แก้ว
"พอแล้วค่ะ ทิชาเริ่มมึน ๆ แล้ว”
เธอรีบห้ามเขาเมื่อเขาจะรินไวน์ให้เธออีกแก้ว
"งั้นพอ ไปนั่งที่โซฟาเถอะ”
ทิวเทพประคองทิชาไปนั่งพักที่โซฟา
"มึนจังเลยค่าาาา เหมือนทิชาจะเมาแล้วอ่าาาา พี่ทิวววว"
ทิชาทำเสียงอ้อน พร้อมกับซบไปที่อกแกร่ง
"อีกซักพักค่อยไปนอน ให้อาหารย่อยก่อน"
"นี่ ๆ พี่ทิว ทำไมถึงเลือกทิชาล่ะ"
ยัยนี่เมาแล้วพูดไปเรื่อยสินะ เขาคิด
"....."
"พี่ทิวรู้ไหม พี่ตรงสเปคทิชามากเลยนะทิชาชอบพี่ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเลยล่ะ อื้อ....."
ผมอดใจไม่ไหวแล้ว ผมก้มลงไปปิดปากทิชาด้วยปากของผมเอง ทิชาตกใจเล็กน้อยเธอพยายามดิ้นหนีผมแต่สุดท้ายก็แพ้
ผมสอดเรียวลิ้นนุ่มเข้าไปหาลิ้นเล็ก ๆ ดูดดึงความหวานของไวน์แดงที่เธอดื่มมา จนคนตัวเล็กเริ่มจูบตอบแบบเงอะง่ะ
"อืมมมมม หวานมาก ทิชา"
ผมผละออกมาพูดเบา ๆ กับเธอ ก่อนจะจูบเธออีกรอบ
ทิชายกแขนขึ้นมาคล้องคอผม แล้บจูบตอบแบบดูดดื่ม รอบนี้ทิชาเริ่มจูบเป็นแล้ว
เธอสอดปลายลิ้นมาหยอกเย้ากับลิ้นผม มันทำให้ผมรู้สึกดีมากจนสุดท้ายผมเป็นฝ่ายถอนจูบก่อนจะช้อนตัวอุ้มเธอเข้าไปในห้องนอน และค่อย ๆ วางเธอลงบนเตียง ทิชาปรือตาที่ฉ่ำไปด้วยฤทธิ์ไวน์มองหน้าผม
ให้ตายเถอะ ถ้าเธอยังทำสายตาแบบนี้อยู่ผมคงอดทนไม่ไหวแน่ ๆ ผมก้มไปจุมพิตหน้าผากมน และบอกเธอว่า
"ฝันดีนะยัยบ๊อง เดี๋ยวฉันกลับมา"
"ค่ะ”
ทิชาตอบกลับมาก่อนจะหลับตาลง
เมื่อทิวเทพออกไปจากห้องทิชาก็ลืมตาขึ้นพลางเอามือลูบริมฝีปาก เธอเริ่มสร่างตั้งแต่ที่เขาเริ่มจูบเธอแล้ว
จูบกันแล้ว จูบแรกของฉัน รู้สึกดีมากเลย เขาจูบเก่งชะมัด
ทิชาดีดดิ้นอยู่บนเตียง เมื่อคิดถึงรสจูบที่เขาฝากไว้ให้ ก่อนจะหลับไป
วันรุ่งขึ้นเพื่อน ๆ ที่รู้ข่าวก็แห่กันมาเยี่ยมจนฉันแทบไม่ได้พักทุกคนต่างตกหลุมรักเจ้าสองแฝด“อร๊ายยยย หลานฉันน่ารักมากแก ถ้าฉันมีลูกชายฉันจองนะ”“แกแต่งงานให้ได้ก่อนนะ น้ำชา”มันทำท่าชำเลืองไปทางแฟนมันก่อนจะพูดออกมา“ก็....รออยู่ล่ะนะ....”“พอ ๆ เลิกมาหวานกันเลย เกรงใจคนโสดบ้างงง”ดาวพูดขึ้นก่อนจะหันไปเล่นกับหลาน“น่ารักจริง ๆ หลานน้า โตขึ้นอย่าเหมือนแม่นะ”“ดาววว นี่เพื่อนนะ!”ดูมันบอกลูกฉันสิ ฉันไม่ดีตรงไหนกัน! เหมือนเด็ก ๆ จะเริ่มรำคาญเสียงรอบ ๆ ตัว ทัชชาเริ่มเบะปากก่อนจะร้องไห้เสียงดังออกมา‘อุแว้ อุแว้ อุแว้’และแน่นอนว่าเมื่อคนหนึ่งร้อง อีกคนก็ร้องตามทันที‘แงงงงงงงงง’เสียงร้องของสองแฝดทำให้ทุกคนในห้องเงียบกริบทันที พี่ทิวเดินไปอุ้มลูกมาให้ฉันคนนึ่งและตัวเองอุ้มไว้อีกคนนึ่งก่อนจะออกปากไล่ทุกคนให้ออกไปจากห้อง“ลูกน่าจะหิว ทุกคนออกไปก่อนนะ”บรรดาน้า ๆ ทั้งหลายรีบเดินออกจากห้องไปเหลือเพียงพ่อ แม่ลูกเท่านั้นฉันเปิดเสื้อออกให้นมทัชชาก่อน พอคนโตเงียบคนเล็กก็เงียบตาม ทัชชกรหลับต่อในอ้อมแขนของพี่ทิวดูท่าจะเป็นหนุ่มขี้รำคาญเหมือนพ่อซะด้วย“หนูว่าทัชชกรน่าจะเหมือนพี่ทิวแน่ ๆ เลยค่ะ”“ท
“โอ๊ยย พี่ทิว หนูปวดท้องง”กลางดึกคืนหนึ่ง ทิชาตื่นขึ้นมาจากความเจ็บปวดที่ท้อง ร่างบางนอนกุมท้อง อีกมือก็เอื้อมไปเขย่าเรียกสามีที่นอนอยู่ข้างๆ“ทิชา เป็นอะไรครับ จะคลอดเหรอ”“ปวดท้องงง โอ้ยยยย”“ไอ้นัท เตรียมรถ”ทิวเทพตะโกนลั่นบ้านเรียกให้นัทที่มาทำงานเตรียมออกรถไปโรงพยาบาล ร่างสูงประคองทิชาลงจากเตียงเบา ๆ แต่พอเธอลุกขึ้นยืนน้ำคร่ำก็ไหลออกมาจนเขาตกใจ‘ซ่า.......’“ทิชา!”“พะ พี่ทิว หนูปวด โอ้ยยยย”เขาก้มลงช้อนตัวทิชาวิ่งออกจากห้องทันทีพอขึ้นรถมาได้ อาการปวดก็ยิ่งถี่กว่าเดิม มันทั้งปวด ทั้งบิดในเวลาเดียวกัน มือเล็กปัดป่ายไปทั่วจนคว้าหมับ! เข้ากับผมดำสลวยของทิวเทพ ก่อนจะออกแรงขยุ้มจนร่างสูงสะดุ้งไปด้วย“ทิชา ใจเย็น ๆ นะ หายใจลึก ๆ ”“โอ้ยยย เงียบไปเลย มาปวดเองไหมล่ะ ปวดจะตายอยู่แล้ว!”ทิวเทพถึงกับอึ้งไปเลยเขาไม่เคยได้ยินเธอขึ้นเสียงใส่เขามาก่อนแม้แต่ครั้งเดียว เขาบีบมือเธอเพื่อให้กำลังใจพร้อมกับเร่งนัทให้ขับไวขึ้น ทิชาออกแรงดึงผมเขาเต็มที่จนเขาขมวดคิ้วแน่น“โอ้ยยย เร็วกว่านี้ได้ไหม!!!”ทิชาตะโกนเร่งดังลั่นรถ เธอจะไม่ไหวแล้วสองแฝดถีบท้องตุบ ๆ ราวกับจะออกมาให้ได้ สัญชาตญาณความเป็นแม่สั่งใ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ๆ“นายครับ ผมมีเรื่องจะแจ้งให้ทราบครับ”นนท์ที่อยู่ในสภาพร้อนใจเคาะห้องรับแขกเรียกเจ้านายไม่หยุดไม่ต่างจากคน 2 คนที่อยู่ในห้อง ทิชาผลักทิวเทพออกเต็มแรงด้วยความตกใจ“พะ พี่ทิว พี่นนท์มาค่ะ”ทิวเทพสบถออกมาเล็กน้อย ก่อนจะไปหยิบผ้ามาให้ทิชาคลุมตัวไว้ ท่าทางเขาหัวเสียน่าดูที่โดนขัดจังหวะจนทิชาอดหัวเราะออกมาไม่ได้“คิก คิก ไม่ทำหน้าแบบนั้นสิคะ พี่นนท์อาจจะมีเรื่องด่วนก็ได้นะ”“ถ้ามันไม่ด่วนอย่างที่หนูบอก พี่จะหักเงินเดือนมัน”ทิวเทพพูดพร้อมกับจัดผ้าคลุมขาของทิชาไว้ก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้ลูกน้องเข้ามา“นายครับ!!!!”“เออ กูได้ยินแล้ว!”‘แกร๊ก’พอประตูเปิดนนท์ก็พรวดพราดเข้ามาด้านในด้านท่าทีลุกรี้ลุกลนจนทิวเทพแปลกใจ นนท์ทำงานข้างกายเขามานานไม่เคยเห็นมันเป็นแบบนี้“มีอะไร?”“เรื่องนายเข้มครับ....”ทิวเทพกำลังจะห้ามไม่ให้นนท์พูดต่อ แต่ว่าไม่ทันแล้วทิชาที่นั่งอยู่ในห้องได้ยินซะก่อน“เกิดอะไรขึ้นคะ พี่นนท์?”“เอ่อ คือ”นนท์หันมองผู้เป็นนายเพื่อขอความเห็นในเมื่อเธอได้ยินแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะปิดบังทิชาอีกต่อไปเขาจึงพยักหน้าให้นนท์พูดได้เลย“นายเข้ม เสียแล้วครับ ที่ชายแดน”ทิชายกมือป
หลังจากนั้นมาทุกอย่างก็เป็นอย่างที่ทิวเทพคิดไว้ เขาต้องพาทิชาไปด้วยทุกทีเพราะเธอติดเขาแจ ถ้าเขาออกไปไหนโดยไม่พาเธอไปเธอก็จะร้องไห้จนเขาต้องรีบกลับมาหาตอนนี้ทิชาท้องได้ 5 เดือนแล้ว เธอตัดสินใจแล้วว่าจะลองมาเจอปู่กับย่าของเธอสักครั้งถึงจะอยากเลี่ยงมากแค่ไหนแต่ก็คงเลี่ยงไม่ได้และเท่าที่แม่บอกก็คือท่านรู้สึกผิดกับเรื่องที่ทำลงไปไม่น้อยเลย“พร้อมไหมครับ”มือบางเย็นและสั่นเล็กน้อย ทิวเทพจับมือทิชาไปกุมไว้มอบความอุ่นใจให้กับเธอร่างบางหันมาส่งยิ้มให้เขา นี่เป็นอีกเหตุผลที่เธอยอมมาเจอท่านทั้งสองเพราะทิวเทพเองก็มีส่วนพูดให้เธอได้คิดไม่น้อย‘พี่ว่าหนูควรไปเจอท่านซักครั้งแล้วค่อยตัดสินใจดีไหมครับ อย่างไรท่านก็เป็นญาติผู้ใหญ่นะ’‘ลองดูนะครับ เดี๋ยวพี่ไปกับหนูเอง’นี่เป็นบทสนทนาที่ทำให้ทิชามาจอดรถหน้าบ้านของพ่อเธอเวลานี้“ไปกันเถอะค่ะพี่ทิว”ทิชาบอกพร้อมสูดหายใจลึก ๆ ก่อนจะลงจากรถไปหาพ่อกับแม่ที่ยืนรออยู่“สวัสดีค่ะ พ่อ แม่”“มาแล้วเหรอลูก เข้าไปด้านในกัน ปู่กับย่ารอเจออยู่”พ่อเดินเข้ามาสวมกอดเธอก่อนจะพาทุกคนเข้าไปในบ้าน ในห้องรับแขกมีร่างสูงอายุของชายหญิงสองคนรอนั่งอยู่ เมื่อทิวเทพและทิชาก้าวม
“พี่ทิวคะ หนูขอออกไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ นะคะ”เสียงหวาน ๆ เรียกเขามาแต่ไกลพร้อมกับเดินมากอดแขนเขาที่นั่งดื่มอยู่ที่บาร์“หืมม จะไปไหนกัน ให้พี่ไปด้วยไหม”ทิวเทพวางแก้วเหล้าลงพร้อมกับยกมือลูบหัวเธออย่างเอ็นดู ตั้งแต่ท้องเธอก็อ้อนเขามากกว่าปกติ สงสัยถ้าลูกสาวออกมาคงจะติดพ่อน่าดู“ไม่ล่ะคะ อยากเที่ยวกันตามภาษาสาว ๆ”“งั้น ให้นนท์ขับรถให้นะ ลูก ๆ อย่าดื้อกับแม่นะครับ”ทิวเทพก้มลงไปพูดกับลูบท้องเธอเบา ๆ“โอเคค่ะ เดี๋ยวหนูมานะคะ”ร่างบางเดินออกไปขึ้นรถโดยมีสายตาของสามีมองตามไม่หยุดถ้าเพื่อนเขาไม่ทักขึ้น คงไม่ยอมละสายตาออกมา“เฮ้ย หวานไม่เกรงใจพวกกูเลยนะ สนใจงานก่อนครับเพื่อน”“นั่นดิ กลับมาคุยเรื่องงานก่อนไหม”เขายิ้มออกมาก่อนจะหันมาคุยกับเพื่อนต่ออีกรอบ««««»»»»ทิชาเดินยิ้มออกมา จริง ๆ อยากให้เขาไปด้วยแต่ก็เข้าใจว่าเขาคงมีธุระคุยกับเพื่อนเลยเลือกที่จะไปกันเองตามประสาสาว ๆเวลาเมาท์จะได้เมาท์ง่าย ๆ ด้วยนนท์ขับรถพาทุกคนมุ่งตรงไปยังห้างหรูใจกลางเมือง ซึ่งก็ไม่ใช่ที่ไหนไกล มันคือห้าง Timeless นั่นเอง“พี่นนท์ไปหาอะไรทำก่อนได้เลยนะคะ เดี๋ยวเสร็จแล้วทิชาโทรเรียก”“ได้ครับ ผมจะรอแถว ๆ นี้นะครับ”
หลังจากที่เธอสงบสติอารมณ์ได้แล้ว นนท์ก็พาทิชามุ่งตรงไปที่บ้านทันที เมื่อมาถึงรถสปอร์ตที่คุ้นตาก็จอดอยู่มันคือรถพ่อแม่ทิชา ซึ่งมันก็ทำให้เธอแปลกใจเล็กน้อยว่าท่านมาทำอะไรกันที่นี่?“สวัสดีค่ะ คุณพ่อ คุณแม่”ทิชายกมือไหว้ผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ในห้อง ซึ่งมีทั้งพ่อแม่เธอและเขารวมทั้งทิวเทพกับเทวาเองนั่งอยู่ด้วย เทวาอาการดีขึ้นมาแล้ว เหลือแค่รักษาแขนที่หักเท่านั้น“สวัสดีค่ะพี่เทวา เป็นยังไงบ้างคะ”“ดีขึ้นเยอะแล้วครับ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะแล้วก็ยินดีด้วยนะ”เทวายื่นกล่องของขวัญที่เตรียมไว้ให้เธอ ทิชากล่าวขอบคุณก่อนจะรับมาแล้วเดินไปนั่งข้าง ๆ สามี“ว่าแต่พ่อกับแม่มาทำอะไรที่นี่คะ?”“เปล่าหรอก พ่อกับแม่ค้างที่นี่น่ะ เมื่อคืนเรามาคุยกันต่อนิดหน่อย”ทิชาอดคิดไม่ได้ว่าไอ้การคุยกันนั่นคงไม่ใช่มาดื่มกันต่อหรอกนะ....แต่เหมือนทุกคนจะรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ ทุกคนเลยพร้อมใจกันเข้าเรื่องทันที“ที่แม่ให้มาหาวันนี้ก็ไม่มีอะไรหรอก แม่มีของจะให้แม่ของทิวเทพหยิบเอกสารส่งให้เธอเปิดดู ด้านในเป็นโฉนดที่ดินพร้อมบ้านที่ตั้งอยู่แถบชานเมือ ทว่าทำเลดีมากแถมราคายังแพงสุด ๆ“นี่มันไม่มากไปเหรอคะคุณแม่ทิชาพูดออกมาอย่างเกรงใจ