Share

บทที่ 52

Author: Karawek House
last update Last Updated: 2025-09-07 17:58:16

อัยน์นายกกระสอบเมล็ดธัญพืชใบบนสุดลงมา แล้วจับตั้งที่พื้นห้องอย่างยากลำบาก

ก่อนหน้านี้ เธอเคยคิดว่าการลอบออกกำลังกายและบริหารสัดส่วนอย่างพวกทหารใต้สังกัดบิดา จะช่วยให้เธอแข็งแกร่งจนดูแลและปกป้องตัวเองได้อย่างไร้ที่ติ แต่พอต้องมายกยกกระสอบเมล็ดธัญพืชพวกนี้โดยไม่มีใครช่วย อัยน์นาก็เข้าใจทันที ว่าตัวเองคิดผิด

ที่เธอฝึกมา ยังไม่หนักพอ

ถึงเธอจะคิดว่ามันเพียงพอ แต่มันยังไม่พอ

ไม่ต้องให้ใครมาบอก อัยน์นาก็พอเดาออก ว่าที่ร่างกายเธอยังดูปวกเปียกแบบนี้ อาจเพราะ ถึงเธอจะพยายามบริหารแขนขาเพิ่มกำลัง แต่การออกกำลังกายอย่างหลบๆ ซ่อนๆ ที่เธอลอบทำ ยังเทียบไม่ได้กับวิธีที่พวกครูฝึกใช้ฝึกทหารใหม่ด้วยซ้ำ

เธออาจจะใช้ผ้านุ่มๆ ห่อรองเท้าเพื่อไม่ให้เกิดเสียงตอนออกวิ่ง แล้วทั้งวิ่งย่ำอยู่กับที่เพื่อเสริมกำลังขา ทั้งวิ่งวนไปวนมาในสวนรกครึ้มเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น เธออาจจะฝึกลุกนั่งโดยไม่ใช้มือช่วยเพื่อสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้อง เธออาจทำสิ่งที่ครูฝึกทหารเรียกว่าการ ‘ยึดพื้น’ เพื่อให้มีกำลังแขนและกล้ามเนื้อหน้าอกแข็งแรง แต่นอกจากสิ่งเหล่านั้นจะช่วยให้เธอสุขภาพแข็งแรงไม่เจ็บไข้ได้ป่วยง่ายๆ แล้ว มันกลับช่วยได้เพียงเปลี่ยนให้แขน ขา และทรวดทรงองค์เอวดูกระชับยิ่งขึ้น มากกว่าเปลี่ยนให้เธอเป็นผู้หญิงร่างกายบึกบึน ที่ยกกระสอบธัญพืชใบใหญ่เท่าตัวคนง่ายดายเหมือนยกนุ่นอย่างพวกทหาร

ความที่กระสอบธัญพืชทั้งใหญ่และหนัก ทำให้เพียงยกกระสอบลงมาตั้งแล้วเปิดปากถุง คุณหนูคนเล็กของคฤหาสน์ก็ถึงกับเหงื่อตก

อาการเหนื่อยหอบ ความขัดใจในผลลัพธ์การฝึก ทำให้อัยน์นาเริ่มพาลสงสัย ว่าเธอจะยอมนั่งคัดแยกเมล็ดธัญพืชงกๆ ให้เหงื่อตกมากกว่านี้ตามความต้องการท่านผู้หญิงแกรนเทรนท์ หรือจะสรรหาวิธีอะไรสักวิธีมาช่วยให้เธอทำตามคำสั่งไร้เหตุผลนี้สำเร็จโดยไม่ต้องลงแรงเท่าที่คนสั่งวาดหวังไว้

“ให้ตายเถอะ...” อัยน์นาได้แต่ทอดถอนใจ รู้ดีว่าสุดท้ายแล้วตัวเองก็ต้องมองหาตัวช่วยสักอย่างอยู่ดี

คุณหนูในชุดราตรีฟูฟ่องไล้ปลายนิ้วเรียวสวยวนบนผิวเมล็ดธัญพืชปากกระสอบไป สมองก็ลองคิดหาวิธีการคัดแยกเมล็ดธัญพืชเหล่านี้ไปด้วย

เมล็ดธัญพืชในกระสอบเหล่านี้ มีทั้งหมดห้าชนิด แบ่งเป็นเมล็ดถั่วแดงชนิดเมล็ดใหญ่พิเศษ เมล็ดถั่วดำรูปทรงรีอวบอ้วน เมล็ดถั่วเขียวกลมเกลี้ยงขนาดเล็กกว่าเมล็ดถั่วดำราวหนึ่งในสามส่วน เมล็ดธัญพืชชนิดที่มีเกิดและเติบโตเฉพาะในปัญจาปเท่านั้นอย่าง ‘ลูกเดือย’ ซึ่งเกือบจะครองตำแหน่งเมล็ดธัญพืชที่ขนาดเล็กที่สุดในกลุ่ม ถ้าไม่มีเมล็ดธัญพืชชนิดที่ห้า อย่างเมล็ดข้าวกะเทาะเปลือกที่ตัวเมล็ดเล็ก รูปทรงยาวรี ผิวเมล็ดมีส่วนผสมระหว่างสีขาวเหลืองและม่วง ดูสวยแปลกตา

เพื่อความแน่ใจ คุณหนูคนเล็กของคฤหาสน์ลองหยิบเมล็ดถั่วทั้งสามชนิด กับเมล็ดลูกเดือย และเมล็ดข้าวไม่รู้สายพันธุ์ ขึ้นมาวางเทียบขนาดบนฝ่ามือ ชนิดละหลายเมล็ด

ที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด...คือขนาด

ต่างกันที่ขนาด ก็ต้องแยกด้วยขนาด คิดได้เท่านั้น นักคัดแยกเมล็ดธัญพืชจำเป็นก็รีบสาวเท้าเข้าหาห้องครัว แล้วกวาดสายตาหาข้าวของที่มีลักษณะคล้ายตาข่ายหรือตะแกรงที่เห็นว่าเมล็ดข้าว เมล็ดลูกเดือย เมล็ดถั่วเขียว และเมล็ดถั่วดำ ลอดผ่านได้ แต่เมล็ดธัญพืชชนิดที่ใหญ่กว่าเมล็ดธัญพืชชนิดนั้นๆ ลอดผ่านไม่ได้

ค้นไปค้นมา ก็เลือกได้ตะแกรงกรองเส้นแป้งสำหรับใช้ทำอาหารจำพวกเส้นมาสองขนาด กับถุงตาข่ายที่แม่ครัวใช้แขวนผึ่งของแห้ง

ของพวกนี้ สองอย่างแรกน่าจะใช้แยกเมล็ดลูกเดือย กับเมล็ดถั่วเขียวได้ ส่วนถุงตาข่ายรูไม่เล็กไม่ใหญ่ก็ใช้กรองแยกเมล็ดถั่วดำออกจากเมล็ดถั่วแดงได้อย่างไม่ต้องสงสัย

เหลือพวกที่เล็กที่สุด อย่างข้าว... อัยน์นากวาดสายตาจนทั่ว ก็ยังไม่เจอของที่น่าจะใช้การได้

ในนาทีที่เธอเกือบจะตัดใจ ใช้ถุงตาข่ายแยกเอาพวกที่ใหญ่ที่สุดอย่างเมล็ดถั่วแดงออกก่อน หางตาก็เหลียวไปเห็นชายกระโปรงตัวเอง

ชุดราตรีฟูฟ่องชายยาวเหยียดชุดนี้ มีผ้าตาข่ายสีขาวติดประดับแทรกอยู่ระหว่างชั้นผ้าสีฟ้าโปร่ง ตั้งแต่ช่วงก้น ยาวมาจนถึงสุดชายผ้า มองเผินๆ ก็ดูสวยเหมือนเมฆสีขาวล่องลอยกลางท้องฟ้า แต่ถ้าถามความรู้สึกคนสวมอย่างเธอแล้ว บอกได้แค่สองคำ ว่า หนัก และ เกะกะ เกินไป

อัยน์นารีบลองเอาชายผ้าตาข่ายมากรองเมล็ดธัญพืชดู พอเห็นว่าผ้าตาข่ายผืนนี้ใช้กรองเมล็ดข้าวได้ดี ไร้ที่ติ คุณหนูคนงามก็คว้ากรรไกรมาตัดชายผ้าส่วนที่เป็นตาข่ายดังฉับ แล้วจับผ้าตาข่ายผืนนั้นไปขึงบนปากหม้อทรงกลมใบโต เริ่มลงมือแยกเมล็ดธัญพืชทั้งห้าชนิดออกจากกัน

เธอใช้ผ้าตาข่ายแยกเมล็ดข้าวออกก่อนเพื่อน จากนั้น ใช้ตะแกรงกรองเส้นแป้งทั้งสองชิ้นแยกเมล็ดลูกเดือยและถั่วเขียวตามขนาดเล็กใหญ่ แล้วใช้ถุงตาข่ายของแม่ครัวแยกถั่วดำออกจากถั่วแดง

ด้วยวิธีการนี้ ใช้เวลาไม่นานเท่าที่คิด เธอก็แยกเมล็ดธัญพืชกระสอบแรกสำเร็จอย่างสวยงาม

หึ...สองชั่วโมง

คุณหนูคนเล็กมองกองกระสอบใบใหญ่ตรงหน้าอย่างไม่ยี่หระ

นึกว่าจะยากกว่านี้ซะอีก

เมื่อรอบทดลองเสร็จสิ้น อัยน์นาก็ออกแรงยกกระสอบที่เหลือทั้งหมดลงมาตั้งเรียงกัน นัยว่าจะยอมเหนื่อยยกของหนักอีกแค่เที่ยวเดียวเท่านั้น จากนั้นก็เริ่มทำงานตรงหน้าอีกหน

แล้วหลังจากนั้น ภายในคฤหาสน์ทรงเก่าแก่โบราณ ก็แว่วเสียงเพลงไพเราะกังวานหวาน จากห้องเก็บของข้างห้องครัว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 61

    “ขออภัย ขอผมอกไปสูดอากาศข้างนอกสักครู่” นี่เป็นคำพูดตัดบทขอปลีกตัวที่ไซรัสมองว่าช่างฟังดูทื่อและเสียมารยาทที่สุดเท่าที่เขาเคยทำหลุดจากริมฝีปาก แต่ตอนนี้สมองเขาเริ่มตื้อตันเกินกว่าจะนึกอะไรไหว“สีหน้าคุณดูไม่ดีเลย ไม่สบายหรือเปล่าคะ เราติดต่อขอความช่วยเหลือมหาดเล็กขอให้เขาช่วยจัดห้องพักให้คุณดีไหม”“อย่าให้ใครต้องลำบากเลยครับ ผมแค่มึนหัวนิดหน่อยเท่านั้น” เขาเริ่มนึกถึงสวน นึกถึงต้นไม้รกครึ้ม ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองไม่ปกติก็ยิ่งอยากซ่อนตัวมากขึ้นเท่านั้น“ถ้าอย่างนั้น เราออกไปที่อุทยานกลางดีไหมคะ” สิ่งที่พริสซิลล่าเสนอ ตรงใจเขาพอดี “นะคะ เดินออกไปทางประตูตะวันออก แป๊บเดียวก็ถึงแล้ว เดี๋ยวดิฉันจะพาไป”“เปลี่ยนเป็นบอกทางดีกว่าครับ หายไปด้วยกัน ใครเห็นเข้าจะดูไม่ดี”พริสซิลล่ากัดริมฝีปากอย่างขัดใจ“แต่คุณบอกว่ามึนหัวนี่คะ” เธอจ้องหน้าเขา แววตาบ่งบอกว่าจะไม่ยอมทำตามที่บอกแน่ๆบทจะดื้อ ก็ดื้อดึงขึ้นมาแววตาท่านหญิงผมทองยามนี้ ดูรั้น ไม่ยอมคน คล้ายอัยน์นาอย

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 60

    “ตาถั่วน่ะสิ” แอนนาเบลถลึงตาใส่ “เถียงคำไม่ตกฟาก แค่ถามว่าฉันทำหายที่ไหนแล้วช่วยกันหาไม่ได้หรือไง นั่นของแพงมากนะยะ”“แล้วคุณพี่ไปทำตกไว้ที่ไหนล่ะคะ”คำถามสั้นๆ จากอันย์นา ทำเอาท่านหญิงคนรองสะอึกหล่อนกลอกตา ก่อนตอบ“ในสวน”“ในสวน...? สวนไหนคะ”“ก็สวนใกล้ๆ นี่น่ะสิ!” แอนนาเบลแหวใส่ “เอาเป็นว่าหล่อนต้องมาช่วยฉันหา เดี๋ยวนี้!” บอกแล้ว คนอ้างว่าทำของหายก็เดินนำเธอมุ่งหน้าเข้าหาอุทยานที่เต็มไปด้วยพุ่มไม้ดอก ไม้ดัด และซุ้มไม้เลื้อยนานาชนิดแสงสลัวรางจากเสาติดตะเกียง ส่องให้คุณหนูทั้งสองจากตระกูลแกรนเทรนท์เห็นว่าอุทยานแห่งนี้กว้างขวางจนน่าตกใจ“คุณพี่ไปทำหายบริเวณไหนคะ” อัยน์นาถามหลังกวาดสายตามองไปรอบๆเธอแน่ใจว่าคนอย่างแอนนาเบลไม่มีทางทิ้งงานเลี้ยงหรูหราลงมาที่อุทยานซึ่งทั้งมืดสลัว ทั้งกว้างขวาง ทั้งเงียบเชียบ แบบนี้คนเดียวแน่ แต่ครั้นจะพูดว่ารู้ทัน ประเดี๋ยวพี่สาวจอมโวยวายรายนี้ ก็คงส่งเสียงแหลมแสบแก้วหูปฏิเสธคอเป็นเอ็น กลาย

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 59

    “คุณจืดชืดจนใครต่อใครอิจฉา...จืดชืดเสียจนผมละสายตาจากคุณไม่ได้”กระทั่งคำพูดเชิงลบแบบนี้ ยังใช้เกี้ยวพาราสีผู้หญิงได้...เชื่อเขาเลยอัยน์นาพยายามเตือนตัวเองว่าชายคนนี้เป็นจอมเสแสร้ง ทั้งที่เกิดขัดเขินขึ้นมาจนแก้มตึง“ข่าวว่าท่านผู้หญิงสั่งตัดชุดราตรีสีฟ้าสดใสให้คุณสวมมางานนี้...เพราะอะไรถึงกลายเป็นสีทองไปได้” จู่ๆ เขาก็ชวนเปลี่ยนหัวข้อพูดคุยเสียอย่างนั้นไม่เปลี่ยนเรื่องเปล่า ยังมองเสไปทางอื่นชั่วครู่อีกด้วยคุณหนูเจ้ากรมการเมืองไม่ถึงกับรับความเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ทัน เพียงแต่รู้สึกชัดเจน ว่าเขาจงใจพาเธอออกจากบทสนทนาเกี้ยวพาราสีที่ตัวเขาเองเป็นคนเริ่ม ชวนให้สงสัยว่าภายใต้ใบหน้าสวมหน้ากากยิ้มแย้ม เป็นมิตร พ่อค้ารายนี้ คิดอะไรอยู่ในใจท่ามกลางบรรยากาศคลอเคล้าเสียงดนตรี อัยน์นาเผลอจ้องมองนัยน์ตาสีดำ นิ่ง นาน“ความลับค่ะ” เธอเลือกตอบสั้นๆ เพราะไม่อยากพูดเรื่องตัวเองให้ใครฟังเกินจำเป็น“น่าเสียดาย ที่ผมจะไม่มีโอกาสทำความรู้จักช่

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 58

    คิดได้ไม่เท่าไหร่ สายตาคมกริบก็สังเกตเห็นชายหนุ่มร่างสูง ผิวขาว รูปร่างสมส่วน สวมชุดสีดำ ขลิบขอบปกคอเสื้อไล่ยาวมาถึงชายด้วยดิ้นเงิน ดูเข้มขรึม น่าเกรงขามเธอจำเขาได้ดี...ถึงวันนี้เขาจะแต่งกายเป็นทางการผิดหูผิดตา แต่นัยน์ตาสีดำกับเส้นผมยาวเหยียดสีเดียวกันและท่าทีทรงอำนาจดุจราชาอย่างนี้ จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกเสียจากพ่อค้าน่าสงสัยวันนี้ไซรัสไม่ได้รวบผมต่ำอย่างทุกที แต่ปล่อยให้มันพลิ้วสยาย ติดจะดูเป็นทรงผมที่ดูสบายๆ เกินเหตุ แต่กลับน่ามองอย่างที่สุดเธอส่งยิ้มให้แล้วเดินตรงไปหาเขาทันที‘วันนี้คุณหนูอัยน์นาก็ยังต้องเป็นมิตรที่ดีต่อไซรัส’ นั่นเป็นสิ่งที่เธอบอกตัวเอง เมื่อเกิดแปลกใจที่สองขาพาร่างกายเข้าใกล้เขาโดยไม่แม้แต่จะหยุดคิดไซรัสเองก็คลี่ยิ้มน้อยๆ ให้เธอเช่นกันภาพเหล่านี้ ทำให้บรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ในวงสังคมพึงพอใจ...นัยว่าหมดคู่แข่งไปอีกราย แต่ไม่ใช่พริสซิลล่าตอนเห็นอัยน์นาเต้นรำกับเจ้าชาย เธออาจจะริษยา แต่ก็ยังรู้สึกดีกว่าตอนนี้ ตอนที่น้องสาวต่างมารดาพุ่งตรงเข้าหาผู้ชายที่เธอพึงใจโดยไม่หยุดคิดเล

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 57

    นานมากแล้วที่เสียงเพลงหวานซึ้งจากเครื่องสายดังกังวานใสขับกล่อมผู้คน และทำหน้าที่ต่างเสียงบอกจังหวะก้าวขาให้คู่เต้นรำที่เหลืออยู่เพียงคู่เดียวเท่านั้น“เธอเต้นเก่งมาก” คู่เต้นหนุ่มกระซิบแผ่วเบาในจังหวะที่อัยน์นาต้องหมุนตัวเข้าใกล้เขาอย่างช่วยไม่ได้“ไม่หรอกค่ะ เพราะคุณเต้นเก่งมากกว่า” เธอหมายความตามนั้นจริงๆถ้ามีใครมาถามว่าชายตรงหน้าเต้นรำเก่งแค่ไหน อัยน์นากล้าบอกทันทีว่าชายคนนี้เต้นเก่งมาก มากจนสามารถเปลี่ยนให้คนเต้นรำพอได้อย่างเธอกลายเป็นคนที่เหมือนเต้นเก่งได้ในพริบตาอยู่ในวงแขนเขา เธอก็ไม่ต่างจากขนนก ได้แต่ล่องลอยพลิ้วไหวไปตามสายลมทุกฝีเท้า ทุกการก้าวเดิน ทุกท่วงท่าการหมุนที่เขาชี้นำ ทำให้เธอได้รับเสียงปรบมือจากแขกในงานเป็นระยะเวลานี้ ใครต่อใครล้วนไม่กล้าก้าวขาเข้ามาเต้นเทียบเคียง พวกเขาเอาแต่เฝ้ามองเธอกับคู่เต้น...นั่นเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดที่สุด“ฉันไม่เคยเห็นหน้าเธอมาก่อน” นักเต้นหนุ่มบอกพลางยกแขนส่งให้เธอหมุนตัวใต้การควบคุมอีกครั้ง “

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 56

    กว่าตระกูลแกรนเทรนท์จะมาถึงประตูท้องพระโรงที่ใช้เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงหนนี้ งานเลี้ยงก็เริ่มไปนานแล้วอย่างที่ท่านผู้หญิงว่า สร้างความพึงพอใจให้ท่านผู้หญิง พริสซิลล่า และแอนนาเบลไม่น้อยงานเลี้ยงหนนี้ จัดเป็นงานเลี้ยงเต้นรำอย่างที่อัยน์นาเคยได้ข่าวมันเป็นงานเลี้ยงขนาดใหญ่ ภายในท้องพระโรงกว้างขวางปูพรมสีแดงจัดผู้คนมากมายในชุดหรูหราต่างจับคู่เต้นรำ บ้างก็พูดคุย ยิ้มแย้มผู้คนและการแต่งกายว่าน่าประทับใจแล้ว ต้นเสาและเพดานโค้งสีขาวสลักลายละเอียดอ่อน โคมไฟระย้าคริสตัลขนาดใหญ่ใจกลางเพดาน สายประดับคริสตัลที่ห้อยทิ้งตัวเป็นสาย ช่อดอกลิลลี่สีขาวดอกใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วน ทหารยืนยามและบริกรในชุดหรูหรา วงดนตรีเล่นสดขนาดมหึมา เครื่องดื่มสีสันแปลกตามากกว่าสิบชนิด ม้านั่งบุกำมะหยี่สีแดงเข้มขาตั้งฉลุลายแบบเดียวกับเพดานดูเรียบหรูรับกับพื้นพรมและผนัง อาหารและของว่างนับร้อยชนิดจัดไว้เป็นคำๆ ประดับประดาด้วยผงสีทองสวยเด่น แต่ละรายละเอียดในงานเลี้ยงล้วนดูสวยงามมีระดับจนไม่อาจนิยามเพียงสั้นๆ ได้ว่า ‘น่าประทับใจ’“เข้าไปตอนนี้ต้องเด่นแน่ๆ ”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status