Share

บทที่ 51

Author: Karawek House
last update Last Updated: 2025-09-06 17:59:49

“ทำไมยะ” แอนนาเบลถามสวนทันควัน

“ดิฉันคิดว่าชุดนี้ติดจะดูหรูหราเกินไป” เธอตอบอย่างถนอมน้ำใจ เพราะไม่อยากเปิดศึกกับแม่เลี้ยงและพี่สาว หาเรื่องให้บิดาต้องปวดหัวไปมากกว่านี้

ใจจริงอัยน์นาก็ไม่ได้อยากจะขัด อยากจะแกล้งปล่อยให้ผู้หญิงสามคนนี้สมใจเสียบ้าง แต่ถึงอย่างไร วันนี้เธอก็จะไปร่วมงานเลี้ยงในฐานะบุตรสาวคนหนึ่งของเจ้ากรมการเมือง ผู้คนย่อมรู้ว่าคุณหนูไร้สกุลผู้นี้อยู่ในความดูแลผู้ใด หากเธอปรากฏตัวในสภาพนี้แล้วทำเรื่องชวนขายหน้า ก็อาจเสื่อมเสียมาถึงท่านเจ้ากรม ดีไม่ดีจะเสื่อมเสียมาถึงท่านผู้หญิง ไหนจะชื่อเสียงตระกูลแกรนเทรนท์อีกล่ะ...

แต่ท่านผู้หญิงก็ยังคงเป็นท่านผู้หญิง

ช่างดื้อรั้น มั่นใจในความคิดตัวเอง และใส่ใจความพึงพอใจมากกว่าอย่างอื่น

“ฉันบอกว่าดีก็ต้องดี” ท่านผู้หญิงตอบ ชัดถ้อย ชัดคำ “เอาล่ะ เท่านี้ ฉันกับลูกก็ไว้วางใจว่าเธอจะแต่งกายดูดีสมฐานะ ปลีกตัวไปแต่งหน้าทำผมได้เสียที”

“เครื่องประดับผมพวกนี้ไม่หรูหราไปหน่อยเหรอคะ ถ้าดิฉันทำหายขึ้นมาต้องแย่แน่ๆ ” อัยน์นายังอดท้วงไม่ได้

ไม่ได้คาดหวังอะไร นอกจากขอให้ได้เอาเครื่องประดับผมออกสักชิ้นสองชิ้นก็ยังดี

“ใช้ของแพงเลยลำบากใจงั้นสิ” พริสซิลล่าถาม น้ำเสียงหมั่นไส้

“เกรงใจเหรอยะ” แอนนาเบลถามตามมาติดๆ ทำตัวเหมือนลูกคู่ให้พี่สาว แต่กลับโดนพริสซิลล่าถลึงตาใส่อีกจนได้

“เกรงใจสิคะ” อัยน์นารีบฉวยโอกาสที่พี่สาวคนรองหยิบยื่นให้โดยไม่ตั้งใจ

แต่หนนี้ เรื่องกลับไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด

“ดูจากสีหน้าเธอ คงจะเกรงใจฉันมากล่ะสิ” ท่านผู้หญิงแกรนเทรนท์ปั้นยิ้มหวานหยดย้อยจนน่ากลัว “ถ้าเกรงใจก็เอาอย่างนี้สิจ๊ะ อีกราวสองชั่วโมงกระมัง กว่าเราจะออกเดินทาง ระหว่างนั้น ตอนที่ทุกคนวิ่งวุ่นช่วยกันแต่งเนื้อแต่งตัวฉัน ลูกๆ กับท่านเจ้ากรม เธอก็ช่วยหยิบจับอะไรสักนิดสักหน่อย”

อัยน์นาเริ่มสังหรณ์ใจว่าตัวเองอาจเผลอหาเรื่องใส่ตัวเข้าแล้ว แต่ยังปั้นสีหน้าสงบเสงี่ยม รอฟัง

“สัปดาห์ก่อน คุณแม่ฉันส่งเมล็ดธัญพืชมาให้พร้อมชาสมุนไพร ส่งมาหลายถุงเชียวล่ะ น่าเสียดายที่พวกแคว้นปัญจาปค้าขายแปลกๆ เห็นว่าเมล็ดธัญพืชพวกนั้นใช้ปรุงอาหารด้วยกันจะอร่อยเป็นพิเศษ ก็เลยเอาเมล็ดธัญพืชมาเทคละเคล้าแล้วขายรวมกัน ฉันว่าไม่ดีหรอก เกิดวันไหนอยากใช้แค่อย่างสองอย่างไม่ได้อยากใช้ที่เหลือ ฉันคงลำบากแย่”

อัยน์นาอยากจะแย้งนัก ว่าคนทำอาหาร ทำขนม ก็เป็นแม่ครัวไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ท่านผู้หญิงเสียหน่อย แต่ครั้นจะแย้งต่อหน้าสาวใช้มากมายก็จะดูไม่ดีเปล่าๆ เลยได้แต่นิ่งเงียบ รอฟังว่าหนนี้แม่เลี้ยงจะกลั่นแกล้งเธออย่างไร

“เธอคงคิดละสิ ว่าให้แม่ครัวหรือพวกสาวใช้แยกก็ได้ ทีแรกฉันก็ว่าจะทำแบบนั้นนั่นแหละนะ แต่ติดที่ว่าเกรงใจ เห็นว่างานล้นมือกันอยู่แล้ว” ท่านผู้หญิงชิงแก้ตัวให้ตัวเองอย่างสวยงาม

“ท่านผู้หญิงอยากให้ดิฉันทำอะไรคะ”

“ไหนๆ ตอนนี้เธอก็ว่างอยู่ แล้วก็รู้สึกเกรงใจจนไม่กล้าสวมชุดหรูหรานี่ไปงานเลี้ยง ก็เอาอย่างนี้สิ ช่วงสองชั่วโมงที่ว่างๆ อยู่ ก็ช่วยลงไปคัดแยกเมล็ดธัญพืชออกจากกันให้หน่อย รู้สึกว่าจะมีห้าชนิดหรือไงนี่ล่ะ แยกใส่ไว้คนละถุงนะ ถ้าเธอทำเสร็จ เราจะได้ไปงานเลี้ยงด้วยกันอย่างสบายใจ ดีไหม”

ปากถามความเห็น สองมือก็ยื่นมาบีบมือเธอเหมือนฝากฝังผสมคาดคั้นให้ทำเต็มที่

“ค่ะ” อัยน์นาตอบรับตัดปัญหา

เธอเองก็ว่างอยู่จริงๆ ไหนๆ ก็ต้องนั่งรอตั้งสองชั่วโมง ไปแยกเมล็ดธัญพืชฆ่าเวลาก็น่าจะดีกว่าต้องทนมองตัวเองในสภาพตุ๊กตาฟูฟ่องพรรค์นี้

ขืนอยู่ใกล้คนพวกนี้ต่อไป ไม่รู้ว่าจะโดนหยิบเครื่องประดับอะไรมาสอดมาเสียบใส่ผมเพิ่มอีกบ้าง

กับแค่แยกเมล็ดธัญพืชไม่กี่ถุง...การกลั่นแกล้งที่ผ่านๆ มายังนับว่าหนักหนาสาหัสกว่ากันเยอะ

รับคำแล้ว คุณหนูคนเล็กของคฤหาสน์ก็ปลีกตัวเดินลงบันได มุ่งหน้าตรงไปยังห้องเก็บของใกล้ห้องครัว

จิตใจที่มัวคิด มัวพะวงเรื่องบิดา ทำให้อัยน์นาไม่เฉลียวใจเลยสักนิด ว่า ‘ถุง’ ที่ท่านผู้หญิงพูดถึง อาจไม่ใช่ถุงปกติธรรมดาตามความหมายของคนสามัญ

“...กระสอบชัดๆ ” คุณหนูคนเล็กของคฤหาสน์ ตัวแข็งทันทีที่เปิดประตูห้องเก็บของเข้ามาเห็นกระสอบธัญพืชใบขนาดเท่าตัวคน กองทับกันสูงแทบจะท่วมหัว

นี่ถ้าวันนี้แม่เลี้ยงกับพี่สาวไม่จับเธอยีผมแล้วเกล้าสูงจนน่ากลัวแบบนี้ อัยน์นามั่นใจ ว่ากองกระสอบพวกนี้จะต้องสูง ‘ท่วมหัว’ เธอแน่ๆ

“สองชั่วโมง” อัยน์นาก้มมองสารร่างตัวเองแล้ว ได้แต่ถอนหายใจยาว

ถึงห้องเก็บของห้องนี้จะสะอาดสะอี่ดี ไม่มีฝุ่นละอองหรือคราบเขม่าใดๆ แต่ไม่มีใครรับประกัน ว่าในกระสอบเมล็ดธัญพืชเหล่านี้ จะไม่มีฝุ่นผงปะปนมา

ท่านผู้หญิงนี่ก็ดีเสียจริง สามีสั่งให้จับลูกเลี้ยงแต่งตัว ก็แต่งให้เสียสุดโต่ง แล้วส่งมาทำงานเรียกเหงื่อคั่นเวลาระหว่างรอเดินทางไปงานเลี้ยง...

ดูจากปริมาณงานตรงหน้า อัยน์นาก็ค่อนข้างแน่ใจ ว่างานนี้ ‘คุณหนูอัยน์นา’ คงได้ไปงานเลี้ยงในสภาพมอมแมมเหลือรับแน่ๆ

เมล็ดธัญพืชทั้งเยอะ ทั้งอยู่ในกระสอบใหญ่โต แต่ละกระสอบดูหนักขนาดนี้ อย่างน้อยๆ คนยกกระสอบลงมานั่งคัดแยกก็ต้องเหงื่อไคลไหลย้อยกันบ้างล่ะ...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 61

    “ขออภัย ขอผมอกไปสูดอากาศข้างนอกสักครู่” นี่เป็นคำพูดตัดบทขอปลีกตัวที่ไซรัสมองว่าช่างฟังดูทื่อและเสียมารยาทที่สุดเท่าที่เขาเคยทำหลุดจากริมฝีปาก แต่ตอนนี้สมองเขาเริ่มตื้อตันเกินกว่าจะนึกอะไรไหว“สีหน้าคุณดูไม่ดีเลย ไม่สบายหรือเปล่าคะ เราติดต่อขอความช่วยเหลือมหาดเล็กขอให้เขาช่วยจัดห้องพักให้คุณดีไหม”“อย่าให้ใครต้องลำบากเลยครับ ผมแค่มึนหัวนิดหน่อยเท่านั้น” เขาเริ่มนึกถึงสวน นึกถึงต้นไม้รกครึ้ม ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองไม่ปกติก็ยิ่งอยากซ่อนตัวมากขึ้นเท่านั้น“ถ้าอย่างนั้น เราออกไปที่อุทยานกลางดีไหมคะ” สิ่งที่พริสซิลล่าเสนอ ตรงใจเขาพอดี “นะคะ เดินออกไปทางประตูตะวันออก แป๊บเดียวก็ถึงแล้ว เดี๋ยวดิฉันจะพาไป”“เปลี่ยนเป็นบอกทางดีกว่าครับ หายไปด้วยกัน ใครเห็นเข้าจะดูไม่ดี”พริสซิลล่ากัดริมฝีปากอย่างขัดใจ“แต่คุณบอกว่ามึนหัวนี่คะ” เธอจ้องหน้าเขา แววตาบ่งบอกว่าจะไม่ยอมทำตามที่บอกแน่ๆบทจะดื้อ ก็ดื้อดึงขึ้นมาแววตาท่านหญิงผมทองยามนี้ ดูรั้น ไม่ยอมคน คล้ายอัยน์นาอย

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 60

    “ตาถั่วน่ะสิ” แอนนาเบลถลึงตาใส่ “เถียงคำไม่ตกฟาก แค่ถามว่าฉันทำหายที่ไหนแล้วช่วยกันหาไม่ได้หรือไง นั่นของแพงมากนะยะ”“แล้วคุณพี่ไปทำตกไว้ที่ไหนล่ะคะ”คำถามสั้นๆ จากอันย์นา ทำเอาท่านหญิงคนรองสะอึกหล่อนกลอกตา ก่อนตอบ“ในสวน”“ในสวน...? สวนไหนคะ”“ก็สวนใกล้ๆ นี่น่ะสิ!” แอนนาเบลแหวใส่ “เอาเป็นว่าหล่อนต้องมาช่วยฉันหา เดี๋ยวนี้!” บอกแล้ว คนอ้างว่าทำของหายก็เดินนำเธอมุ่งหน้าเข้าหาอุทยานที่เต็มไปด้วยพุ่มไม้ดอก ไม้ดัด และซุ้มไม้เลื้อยนานาชนิดแสงสลัวรางจากเสาติดตะเกียง ส่องให้คุณหนูทั้งสองจากตระกูลแกรนเทรนท์เห็นว่าอุทยานแห่งนี้กว้างขวางจนน่าตกใจ“คุณพี่ไปทำหายบริเวณไหนคะ” อัยน์นาถามหลังกวาดสายตามองไปรอบๆเธอแน่ใจว่าคนอย่างแอนนาเบลไม่มีทางทิ้งงานเลี้ยงหรูหราลงมาที่อุทยานซึ่งทั้งมืดสลัว ทั้งกว้างขวาง ทั้งเงียบเชียบ แบบนี้คนเดียวแน่ แต่ครั้นจะพูดว่ารู้ทัน ประเดี๋ยวพี่สาวจอมโวยวายรายนี้ ก็คงส่งเสียงแหลมแสบแก้วหูปฏิเสธคอเป็นเอ็น กลาย

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 59

    “คุณจืดชืดจนใครต่อใครอิจฉา...จืดชืดเสียจนผมละสายตาจากคุณไม่ได้”กระทั่งคำพูดเชิงลบแบบนี้ ยังใช้เกี้ยวพาราสีผู้หญิงได้...เชื่อเขาเลยอัยน์นาพยายามเตือนตัวเองว่าชายคนนี้เป็นจอมเสแสร้ง ทั้งที่เกิดขัดเขินขึ้นมาจนแก้มตึง“ข่าวว่าท่านผู้หญิงสั่งตัดชุดราตรีสีฟ้าสดใสให้คุณสวมมางานนี้...เพราะอะไรถึงกลายเป็นสีทองไปได้” จู่ๆ เขาก็ชวนเปลี่ยนหัวข้อพูดคุยเสียอย่างนั้นไม่เปลี่ยนเรื่องเปล่า ยังมองเสไปทางอื่นชั่วครู่อีกด้วยคุณหนูเจ้ากรมการเมืองไม่ถึงกับรับความเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ทัน เพียงแต่รู้สึกชัดเจน ว่าเขาจงใจพาเธอออกจากบทสนทนาเกี้ยวพาราสีที่ตัวเขาเองเป็นคนเริ่ม ชวนให้สงสัยว่าภายใต้ใบหน้าสวมหน้ากากยิ้มแย้ม เป็นมิตร พ่อค้ารายนี้ คิดอะไรอยู่ในใจท่ามกลางบรรยากาศคลอเคล้าเสียงดนตรี อัยน์นาเผลอจ้องมองนัยน์ตาสีดำ นิ่ง นาน“ความลับค่ะ” เธอเลือกตอบสั้นๆ เพราะไม่อยากพูดเรื่องตัวเองให้ใครฟังเกินจำเป็น“น่าเสียดาย ที่ผมจะไม่มีโอกาสทำความรู้จักช่

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 58

    คิดได้ไม่เท่าไหร่ สายตาคมกริบก็สังเกตเห็นชายหนุ่มร่างสูง ผิวขาว รูปร่างสมส่วน สวมชุดสีดำ ขลิบขอบปกคอเสื้อไล่ยาวมาถึงชายด้วยดิ้นเงิน ดูเข้มขรึม น่าเกรงขามเธอจำเขาได้ดี...ถึงวันนี้เขาจะแต่งกายเป็นทางการผิดหูผิดตา แต่นัยน์ตาสีดำกับเส้นผมยาวเหยียดสีเดียวกันและท่าทีทรงอำนาจดุจราชาอย่างนี้ จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกเสียจากพ่อค้าน่าสงสัยวันนี้ไซรัสไม่ได้รวบผมต่ำอย่างทุกที แต่ปล่อยให้มันพลิ้วสยาย ติดจะดูเป็นทรงผมที่ดูสบายๆ เกินเหตุ แต่กลับน่ามองอย่างที่สุดเธอส่งยิ้มให้แล้วเดินตรงไปหาเขาทันที‘วันนี้คุณหนูอัยน์นาก็ยังต้องเป็นมิตรที่ดีต่อไซรัส’ นั่นเป็นสิ่งที่เธอบอกตัวเอง เมื่อเกิดแปลกใจที่สองขาพาร่างกายเข้าใกล้เขาโดยไม่แม้แต่จะหยุดคิดไซรัสเองก็คลี่ยิ้มน้อยๆ ให้เธอเช่นกันภาพเหล่านี้ ทำให้บรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ในวงสังคมพึงพอใจ...นัยว่าหมดคู่แข่งไปอีกราย แต่ไม่ใช่พริสซิลล่าตอนเห็นอัยน์นาเต้นรำกับเจ้าชาย เธออาจจะริษยา แต่ก็ยังรู้สึกดีกว่าตอนนี้ ตอนที่น้องสาวต่างมารดาพุ่งตรงเข้าหาผู้ชายที่เธอพึงใจโดยไม่หยุดคิดเล

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 57

    นานมากแล้วที่เสียงเพลงหวานซึ้งจากเครื่องสายดังกังวานใสขับกล่อมผู้คน และทำหน้าที่ต่างเสียงบอกจังหวะก้าวขาให้คู่เต้นรำที่เหลืออยู่เพียงคู่เดียวเท่านั้น“เธอเต้นเก่งมาก” คู่เต้นหนุ่มกระซิบแผ่วเบาในจังหวะที่อัยน์นาต้องหมุนตัวเข้าใกล้เขาอย่างช่วยไม่ได้“ไม่หรอกค่ะ เพราะคุณเต้นเก่งมากกว่า” เธอหมายความตามนั้นจริงๆถ้ามีใครมาถามว่าชายตรงหน้าเต้นรำเก่งแค่ไหน อัยน์นากล้าบอกทันทีว่าชายคนนี้เต้นเก่งมาก มากจนสามารถเปลี่ยนให้คนเต้นรำพอได้อย่างเธอกลายเป็นคนที่เหมือนเต้นเก่งได้ในพริบตาอยู่ในวงแขนเขา เธอก็ไม่ต่างจากขนนก ได้แต่ล่องลอยพลิ้วไหวไปตามสายลมทุกฝีเท้า ทุกการก้าวเดิน ทุกท่วงท่าการหมุนที่เขาชี้นำ ทำให้เธอได้รับเสียงปรบมือจากแขกในงานเป็นระยะเวลานี้ ใครต่อใครล้วนไม่กล้าก้าวขาเข้ามาเต้นเทียบเคียง พวกเขาเอาแต่เฝ้ามองเธอกับคู่เต้น...นั่นเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดที่สุด“ฉันไม่เคยเห็นหน้าเธอมาก่อน” นักเต้นหนุ่มบอกพลางยกแขนส่งให้เธอหมุนตัวใต้การควบคุมอีกครั้ง “

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 56

    กว่าตระกูลแกรนเทรนท์จะมาถึงประตูท้องพระโรงที่ใช้เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงหนนี้ งานเลี้ยงก็เริ่มไปนานแล้วอย่างที่ท่านผู้หญิงว่า สร้างความพึงพอใจให้ท่านผู้หญิง พริสซิลล่า และแอนนาเบลไม่น้อยงานเลี้ยงหนนี้ จัดเป็นงานเลี้ยงเต้นรำอย่างที่อัยน์นาเคยได้ข่าวมันเป็นงานเลี้ยงขนาดใหญ่ ภายในท้องพระโรงกว้างขวางปูพรมสีแดงจัดผู้คนมากมายในชุดหรูหราต่างจับคู่เต้นรำ บ้างก็พูดคุย ยิ้มแย้มผู้คนและการแต่งกายว่าน่าประทับใจแล้ว ต้นเสาและเพดานโค้งสีขาวสลักลายละเอียดอ่อน โคมไฟระย้าคริสตัลขนาดใหญ่ใจกลางเพดาน สายประดับคริสตัลที่ห้อยทิ้งตัวเป็นสาย ช่อดอกลิลลี่สีขาวดอกใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วน ทหารยืนยามและบริกรในชุดหรูหรา วงดนตรีเล่นสดขนาดมหึมา เครื่องดื่มสีสันแปลกตามากกว่าสิบชนิด ม้านั่งบุกำมะหยี่สีแดงเข้มขาตั้งฉลุลายแบบเดียวกับเพดานดูเรียบหรูรับกับพื้นพรมและผนัง อาหารและของว่างนับร้อยชนิดจัดไว้เป็นคำๆ ประดับประดาด้วยผงสีทองสวยเด่น แต่ละรายละเอียดในงานเลี้ยงล้วนดูสวยงามมีระดับจนไม่อาจนิยามเพียงสั้นๆ ได้ว่า ‘น่าประทับใจ’“เข้าไปตอนนี้ต้องเด่นแน่ๆ ”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status