ร่างบางเปลือยเปล่าทำได้แค่นอนปรือตามองชายหนุ่มที่กำลังปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเขา ร่างหนาหนั่นแน่นเต็มไปด้วยมัดกล้ามและซิกแพค ผิวของเขาขาวเนียนละเอียดสะอาดสะอ้านราวกับผิวพรรณผู้หญิง ดวงตากลมโตไล่มองเรือนร่างกำยำจนสายตาลงต่ำกว่าสะดือก็เป็นอันต้องรีบเบือนหน้าหนีแม้จะมีสติไม่เต็มร้อย ด้วยไม่เคยพบเจอสิ่งนั้นตัวเป็นๆ มาก่อนในชีวิตสาว
เมื่อสองร่างเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์เสมอกัน เขาก็ก้าวขึ้นเตียงนอนคร่อมทับร่างบางไว้ พรางมองสำรวจร่างงามทุกสัดส่วน เขาสอดแทรกกายหนาอยู่ระหว่างกลางร่างของเธอ ค่อยๆแยกขาเธอให้อ้ากว้างและยกขาเธอขึ้นตั้งทั้งสองข้าง ดวงตาคมมองสำรวจกุหลาบงามกลางกายสาวทันใด แค่ได้มองเห็นสิ่งหวงแหนของเธอ ใจของเขาก็เต้นแรงถี่รัวด้วยความตื่นเต้น
กุหลาบงามดอกสวยกลีบปิดสนิทเหมือนไม่เคยมีภมรหนุ่มตัวใดได้หลงเข้ามาเชยชม เมื่อแหวกกลีบกุหลาบสีหวานเข้าไป ความอดทนของเขาก็หมดลง ก้มหน้าลงชิดกุหลาบงามสูดดมกลิ่นเฉพาะตัวหอมหวานแล้วแตะลิ้นหนาที่ใจกลางเกสรสาว ลากไล้รัวลิ้นละเลียดชิมพลางสอดลิ้นลงสู่ซอกลึกสุดของดอกไม้ซ้ำแล้วซ้ำอีก
ร่างบางเจ้าของดอกกุหลาบงามดิ้นเร่าครวญครางไม่เป็นภาษา เสียงของความฉ่ำชื้นยามลิ้นหนากระทบกลีบดอกดังลั่นห้อง ยิ่งเร้าอารมณ์เขาให้ยากจะกู่กลับ ชายหนุ่มเดินหน้าละเลงลิ้นระรัวเร้าแม่ดอกกุหลาบงามจนน้ำหวานฉ่ำเยิ้มหยดย้อยลงมาให้ภมรหนุ่มดูดเม้มดื่มกินดับกระหาย ยิ่งกุหลาบงามผลิตน้ำหวานออกมาเท่าใด ลิ้นร้ายยิ่งชอนไชเกี่ยวกระหวัดดุนดันลากไล้ จนท้ายที่สุด กุหลาบงามดอกสวยไม่อาจต้านทานความเสียวซ่านที่ภมรหนุ่มหยิบยื่นให้ได้ ร่างสาวเกร็งกระตุกแตกพร่าคาลิ้นร้อน พบพานความสุขสมครั้งแรกในชีวิต
ลิ้นสากกวาดต้อนหยาดน้ำหวานที่ทะลักทะลานออกมาเพราะความสุขสมเข้าสู่ปากหยักจนหมดทุกหยาดหยด
“น้ำผึ้ง คุณหวานมาก หวานสมชื่อคุณจริงๆ ที่รัก”
ชายหนุ่มยิ่งรู้สึกหลงใหล หวงแหนแม่น้ำผึ้งหวานโถนี้จับใจ พลันปากหยักค่อยๆ ไต่ลากไล้สูงขึ้นไปประกบปากกระจับ มอบจูบดูดดื่มให้สาวเจ้ารับรู้รสชาติน้ำทิพย์ของตนเองที่ยังติดอยู่ในปากเขา
อัคคีมอบจูบหวานล้ำร้อนแรงเร้าอารมณ์กว่าคราใด ทั้งคู่ล่องลอยเคลิบเคลิ้มเหมือนอยู่ในความฝันแสนวาบหวาม ต่างกอดเกี่ยวลูบไล้ปรนเปรอร่างกายของกันและกัน
ชายหนุ่มโหย่งตัวขึ้นเล็กน้อย มือใหญ่จับอาวุธหัวหยักทู่ประจำกาย ที่ตอนนี้ปลายยอดมีน้ำใสไหลเยิ้มยาวจนแทบสุดโคนฟ้องว่าเจ้าของมันอยู่ในอารมณ์ใด เขาถูไถหัวหยักมนบนกลีบกุหลาบที่เคลือบไปด้วยน้ำผึ้งหวานวาววับ หญิงสาวร้องครางระงมด้วยความเสียวซ่านแสนรัญจวน แทบดึงสติของชายหนุ่มให้ขาดผึงแล้งดันแท่งเหล็กร้อนเสือกไสกระแทกกระทั้นตอกตรึงในร่องกุหลาบให้สาแก่ใจ
แต่ด้วยความตั้งใจตั้งแต่ต้นที่จะไม่ทำอะไรตามใจในตอนที่สาวเจ้ายังอยู่ภายใต้ฤทธิ์ยาปลุกอารมณ์ จึงทำได้แค่กัดฟันแน่นขบกรามจนขึ้นสันนูนเพื่อระงับอารมณ์ แล้วกดสะโพกนำแท่งเหล็กร้อนของตน นาบกับกุหลาบงามของร่างบาง แล้วถูไถเสือกไสลื่นไถลแท่งเหล็กร้อนอยู่แค่ภายนอกของกลีบกุหลาบฉ่ำน้ำหวาน
“อ๊ะ อ๊ะ อื้อ”
สัมผัสแปลกใหม่พาให้จิตใจสาวกระเจิดกระเจิง เธอเอื้อมแขนโอบรัดรอบคอแกร่ง ดึงชายหนุ่มลงมามอบจูบปรนเปรอดั่งให้รางวัลที่ชายหนุ่มสัมผัสถูกจุด ทำได้ถูกใจ
ชายหนุ่มสัมผัสเคล้นคลึงลูบไล้กายบางไปในทุกๆจุดที่มีความอ่อนไหว พร้อมๆกับการเสือกไสถูไถความเป็นชายที่ใหญ่โตร้อนเร่าบนกลีบสาว ยิ่งเพิ่มความรู้สึกหฤหรรษ์เสียวซ่านขึ้นหลายเท่าตัว ทั้งคู่เกาะเกี่ยวกอดกระหวัดรัดรึงบีบเคล้นครวญครางเสียงดังลั่นห้องนอนสุดหรูอย่างลืมอาย เสียงเตียงเคลื่อนไหวกระแทกผนังหนังตึงๆ จากแรงขย่มโยกอย่างเมามันในอารมณ์ของกายใหญ่ ทุกสัมผัสของสองร่างเกิดเสียงดังของเนื้อกระทบเสียดสีฟังดูลามกยิ่งเร้าอารมณ์คนทั้งคู่ให้กระเจิดกระเจิง ยิ่งสัมผัสยิ่งเสียวซ่าน ยิ่งกระแทกกระทั้นยิ่งเมามัน ร่างแกร่งตักตวงจากกลีบสาวจนทั้งคู่ถึงจุดสูงสุดแห่งอารมณ์
“ที่รัก ผมไม่ไหวแล้ว”
ชายหนุ่มเร่งเร้ากระแทกกระทั้นเสือกไสไถลแท่งร้อนเฮือกสุดท้าย เสียงกระทบของเตียงกับพื้นและผนังดังถี่รัว สองร่างกอดรัดกันแน่นก่อนแท่งเหล็กร้อนพ่นน้ำพันธุ์แห่งชีวิตสีขาวขุ่นเต็มหน้าท้องแบนราบ พร้อมๆกับจุดอ่อนไหวของหญิงสาวเกร็งกระตุกถี่รัวตอดตุบตามจังหวะของแท่งร้ายที่ฉีดพ่นแตกพร่า สาวน้อยกรีดร้องครวญครางสุขสมล่องลอยขึ้นสวรรค์พร้อมกับภมรหนุ่มนักล่า
“อื้มมมมมมม”
“อื้อ อ๊ายยยยยยย”
หนุ่มสาวหอบหายใจถี่แรงจากการกรำศึกสวาท และหญิงสาวก็หลับใหลไปในทันที อัคคีเอี้ยวตัวคว้ากระดาษทิชชูมาเช็ดทำความสะอาดกลางกายสาวและหน้าท้องแนบราบให้เธอ แล้วล้มตัวลงนอนเคียงข้าง คว้าตัวเธอมากกกอดให้สมอารมณ์
เขาก็ให้คำตอบกับตัวเองไม่ได้เหมือนกัน ว่าเมื่อได้สัมผัสปรนเปรอและกกกอดร่างนุ่มนิ่มนี้ ทำไมถึงได้รู้สึกอิ่มเอมใจนัก เขาไม่เคยรู้สึกเช่นนี้กับคู่นอนคนไหนมาก่อน แม้จะสวยหยาดฟ้าหรือเป็นดาราดังนางเอกแถวหน้ามาจากไหน แต่ทำไม ผู้หญิงธรรมดาๆที่หาได้ทั่วไป แถมยังไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าเธอเลยด้วยซ้ำ ชื่อของเธอก็เพิ่งรู้ตอนที่เธอหลุดออกมาขณะอยู่ในอารมณ์วาบหวาม ว่าเธอชื่อ “น้ำผึ้ง” ความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไรกัน
คนอย่างเขา รู้จักแต่ความถูกใจ ความใคร่ ความพอใจในเพศรสของอิสตรี จะสวยแค่ไหน แก้ผ้าแล้วทำกิจกรรมอย่างว่า ก็เหมือนๆกันทั้งนั้นแหล่ะ เขาขึ้นชื่อว่าใช้ผู้หญิงเปลืองคนหนึ่ง ไม่ชอบคบใครจริงจัง ไม่ชอบการผูกมัด ชื่นชอบการมีคู่นอนแบบวินๆ กันทั้งสองฝ่าย เขาได้ปลดปล่อย ผู้หญิงเหล่านั้นได้เงิน พอทุกอย่างจบ ก็แยกทาง น้อยคนนักที่เขาจะเรียกใช้งานซ้ำหรือให้เข้ามาวุ่นวายในชีวิตอิสระของเขา
บิดามารดาก็อยากที่จะให้เขาแต่งงานมีลูกมีเมียใจจะขาด อะไรกัน เขาอายุเพียงแค่ 32 ปี เท่านั้น เพิ่งเริ่มต้นวัยผู้ใหญ่ เขายังอยากมีอิสระ อยากใช้ชีวิตโลดโผน จะให้วันๆเอาแต่ก้มหน้าก้มตาทำงานแล้วรีบกลับบ้านไปเอาอกเอาใจเมีย คอยตามใจเมีย พาเมียไปช้อปปิ้ง พาเมียไปเที่ยวต่างประเทศ ถ่ายรูปสวีทหวานโพสต์ลงโซเชียลแบบบิดามารดาเขานะหรือ ฝันไปเถอะ คนอย่างนายอัคคีจะตกเป็นทาสเมียแบบนั้น
คิดได้ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า ความรู้สึกที่เขามีต่อแม่สาวหน้าหวานในอ้อมกอดนี้ คือความหลงใหล คลั่งไคล้ อยากได้ ความพึงพอใจและความใคร่ ตอนนี้เขาได้เธอแค่พอกรุบกริบ มันยิ่งกระตุ้นต่อมความตื่นเต้น ยิ่งทำให้ขากระเหี้ยนกระหือรืออยากได้อยากครอบครองลึกซึ้งมากขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว
“อยากครอบครอง” คำๆนี้นานแค่ไหน “ก็...ตลอดไป” เขาก็แค่ไม่อยากให้ใครมากอด มาจูบ มาลูบ มาคลำ มาดูดดึง มากระทำอะไรต่อมิอะไรซ้ำรอยเขา ก็แค่นั้น แค่คิดว่าจะมีใครมาทำอะไรๆเธอ ในแบบที่เขาทำแล้วนั้น ใจเขาก็ต้นแรงแกว่งไกวแทบจะทนไม่ได้ “ก็เขามันคนหวงของ” อะไรที่เป็นของเขาแล้ว เขาไม่ยอมยกให้ใครเด็ดขาด แล้วสาวๆที่ผ่านมาล่ะ ทำไมต่างออกไป “ก็แค่ สถานการณ์มันต่างกัน” คนอื่นๆ ดีลกันแบบปกติต่างวินๆ แต่กับเธอมันต่างออกไป เพราะเธอตกอยู่ภายใต้ฤทธิ์ยาอย่างว่า เขาควรจะอดใจไม่เอาลูกชายของเขาสอดใส่เข้าไปในกลีบกุหลาบของเธอด้วยความทรมาน เพราะเธอไม่มีสติ เมื่อหมดฤทธิ์ยาตอนเช้าเธออาจไม่ยินดีที่จะมีอะไรกับเขาหรือเธออาจมีคนรักแล้ว “เธอมีคนรักแล้ว” แค่คิด ใจก็แกว่งอีกรอบ
แต่ถึงอย่างนั้น คนอย่าง อัคคี ไม่เคยต้องอดทนอดกลั้นเพื่อใคร สาวๆคนอื่น พวกเธอจะมีใครหรือไม่มันเรื่องของพวกเธอ ถ้าขาตกอยู่ในอารมณ์ใคร่ ก็ไม่จำเป็นต้องสนใจอะไร แค่ได้ปลดปล่อยก็พอ แต่กับเธอคนนี้ทำไมเขาถึงอดทนได้ ทั้งๆที่มันล่อตาล่อใจอยากถลำลึกลงในตัวเธอแค่ไหน เขาก็ข่มใจ ขอแค่ได้สัมผัสกันภายนอกเพื่อช่วยเหลือทั้งเธอและเขาให้ได้ปลดปล่อย โดยเฉพาะเธอที่โดนยาแรงขนาดนั้น ถ้าเขาไม่ช่วยเธอให้ได้ปลดปล่อย เธออาจช็อกตายได้
คิดได้ดังนั้นก็ฉกจมูกโด่งหอมหน้าผากเธอ สูดดมความหอมหวานจากกลิ่นกายสาวจนเต็มปอด พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน ค่อยตกลงกับเธอว่าจะเอายังไง จะเรียกร้องค่าเสียหายเท่าไหร่เขายินดีจ่าย ถ้าตกลงกันลงตัว เขาอาจได้จ้วงแจงถลำลึกในกายเธอซักสองสามครั้งก็คงเพียงพอ แล้วค่อยแยกย้ายทางใครทางมัน คิดถึงตอนนี้เขาก็ฝืนความเหนื่อยล้าของร่างกายไม่ไหว ขยับรั้งผ้าห่มมาคลุมสองกายแล้วกอดกระชับร่างบางแน่นขึ้น เข้าสู่ห้วงนิทราตามเธอไปทันที
“นี่ผมมีเลขาเป็นปลาทูแม่กลอง หน้างอคอหักไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันครับ” ชายหนุ่มพูดหยอกเย้าขณะขับรถพาเธอไปดูโลเคชันที่สาม ที่สุดท้ายที่เขาแพลนเอาไว้ว่าจะมาดูสถานที่สำหรับถ่ายทำโฆษณา ซึ่งตลอดเส้นทางที่เธอนั่งโดยสารมากับรถยนต์คันหรูของเขา เธอก็ทำหน้าตาบึ้งตึง ไม่ยอมพูดจากับเขาสักคำ เหตุเพราะความเอาแต่ใจของเขา ที่อดทนอดกลั้นไม่ไหว ไปทำมิดีมิร้ายเธอในลำธารใสแจ๋ว แถมตอนแรกๆเธอยังไม่ยินยอมพร้อมใจไปกับเขาอีกต่างหาก แต่เขาก็ใช้ประสบการณ์ที่สั่งสมมานาน เล้าโลมจนเธอโอนอ่อนผ่อนตามไปกับเขาได้ในที่สุดอย่าว่าแต่เธอไม่ยอมพูดยอมจากับเขาในรถคันนี้เลย พอเขาทำอะไรเธอและบังคับอาบน้ำด้วยมือของเขาให้เธอเสร็จเรียบร้อย เธอก็สะบัดตัวลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าแล้วเดินหนีเขาออกมาจากป่าเลย จนเขาแทบจะคว้าสัมภาระแล้ววิ่งตามเธอไม่ทัน ผู้หญิงเวลาโกรธจะมีเรี่ยวแรงมหาศาลท่าจะจริง เพราะเพียงแค่แป๊บเดียวที่เธอออกตัวเดินไปจากเขา ก็เห็นหลังเธอไวๆอยู่ไกลลิบๆโน่นแล้ว “ก็ใครทำอะไรกับฉันไว้ล่ะคะ จะให้ฉันยิ้มหน้าชื่นตาบานหรือยังไงที่โดนประธานบริษัทข่มขืนกลางป่าแบบนั้น” “ข่มข
หนุ่มสาวถูกปลุกแต่เช้าตรู่ด้วยการที่คุณปู่คุณย่าเจ้าของโฮมสเตย์นำอาหารเช้ามาเสิร์ฟถึงห้อง และแนะนำให้ทั้งคู่เดินลัดเลาะไปตามไหล่เขาเข้าไปในป่าตามทางเดินที่มีป้ายปักไว้ ใช้เวลาเดินเท้าไม่เกิน 10 นาที จะได้เจอกับน้ำตกธรรมชาติขนาดเล็กที่เป็นแหล่งต้นน้ำของไร่องุ่นและโฮมสเตย์แห่งนี้ ท่านแนะนำให้ทั้งคู่ไปอาบน้ำใสๆ เย็นๆ และดื่มด่ำกับธรรมชาติที่นั่น โดยทางโฮมสเตย์จะมีย่ามใบโตให้ผู้เข้ามาใช้บริการนำไปใส่สัมภาระติดตัวไปเล่นน้ำตกอีกด้วย เมื่อทั้งคู่ทานอาหารเช้าและเข้าห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟันและทำธุระส่วนตัวเรียบร้อย จึงจัดสัมภาระใส่ย่ามคนละใบเพื่อไปเยี่ยมชมน้ำตกตามคำแนะนำของคุณปู่คุณย่าเจ้าของพื้นที่ ทั้งคู่ลัดเลาะมาตามไหล่เขาหลังห้องพักของตนเองได้ไม่นาน เจอป้ายไม้บอกทางขึ้นน้ำตก อัคคีเดินนำหญิงสาวไปตามทางเดินที่ลาดชัดเพียงเล็กน้อย “หวังว่าคราวนี้ คุณคงไม่พาฉันหลงอีกนะคะ ท่านประธาน” เธอพูดเย้าพร้อมกลั้วหัวเราะในลำคอระหง “คร้าบ ผิดพลาดแค่ครั้งเดียว คุณจะพูดไปจนถึงลูกชายคนโตของเราบวชเลยหรือครับ ที่รัก”
ทั้งคู่ขับรถเข้ามาตามป้ายบอกทาง จนเจอกับป้ายของโฮมสเตย์นั้น เมื่อขับผ่านเข้าเขตโฮมสเตย์ก็พบว่าที่นี่เป็นไร่องุ่นขนาดกลาง ที่ค่อนข้างมีความเป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์เพราะตั้งอยู่ติดกับชายเขา ทั้งคู่มองเห็นเรือนหลังใหญ่หนึ่งหลังน่าจะเป็นบ้านเจ้าของไร่องุ่นและโฮมสเตย์แห่งนี้ มองไกลออกไปราว 50 เมตร ก็พบกับเรือนไม้หลังเล็กกระทันรัดรูปแบบน่ารัก เรียงยาวไปจนสุดแนวเขา เรือนหลังน้อยถูกโอบล้อมด้วยธรรมชาติ ป่าเขาและไร่องุ่น ช่างเป็นสถานที่ที่น่าเข้ามาพักผ่อนเพื่อหลีกหนีความเหนื่อยหน่ายและวุ่นวายในเมืองเป็นอย่างมาก “เหลือหลังเดียวติดชายป่าริมน้ำหรือคะ” หญิงสาวถามด้วยความตกใจและผิดหวังปนเปกัน อะไรกัน เธอหลงทางเข้ามาไกลและลึกขนาดนี้ ยังมีคนเสาะแสวงหามาแย่งเข้าพักจนเต็ม หรือพวกเขาก็หลงทางมาอย่างเธอทั้งคู่ “จ้าลูก เหลือหลังเดียว ช่วงนี้นักท่องเที่ยวเยอะน่ะลูก เอาไหมจ๊ะ” “เอาครับ” ว่าแล้วก็รับกุญแจห้องและเดินไปตามทางที่มีโคมไฟดวงน้อยส่องสว่างทันที โดยไม่สนใจหญิงสาว ดั่งกลัวว่าหากให้เวลาเธอ
“น้ำผึ้งครับ เดี๋ยวเราต้องไปดูโลเคชันที่คุณกับคุณวิเสนอผมไว้นะครับ ผมเลือกมาสองสามที่แล้ว” อัคคีโทรศัพท์สั่งงานเลขาสาวแต่เช้า “รับทราบค่ะ” “ออ เอาเสื้อผ้าไปสักสองสามชุดนะครับ เราจะค้างกันหนึ่งคืน ขอไปดูแต่ละไร่ให้ละเอียดหน่อย อีกครึ่งชั่วโมงเจอกันที่ล็อบบี้เลยนะครับ” “ได้ค่ะ” แม้ใจจะแอบกังวล แต่ในการออกนอกพื้นที่แต่ละครั้ง ไม่ว่าจะใกล้ไกล เขามักจะมีชลธีตามไปดูแลด้วยเสมอ เธอจึงเบาใจลงไปได้บ้างว่าไม่ได้ไปกับเขาสองต่อสองแน่ เมื่อลงมาถึงล็อบบี้กลับปราศจากเงาของชลธีที่ปกติหากจะต้องไปทำงานนอกสถานที่เขาจะมารับเจ้านายของเขาเสมอ จึงมองไปรอบๆ เพื่อมองหาชายหนุ่มอีกครั้ง “มองหานายชลเหรอ” เหมือนมานั่งอยู่กลางใจ จนเธอนึกค่อนขอด “ค่ะ คุณชลยังไม่มาหรอคะ” “งานนี้เราไปกันแค่สองคนครับ ผมให้นายชลอยู่ประสานงานทางนี้แทนผม” “อ้าว เอ่อ จะดีหรือคะ”
วันนี้เป็นวันเสาร์ เพชรน้ำผึ้งโดนอัคคีโทรศัพท์ตามให้มาทำหน้าที่แจ๋วแต่เช้า หญิงสาวจึงเลือกใส่ชุดทะมัดทะแมงเพื่อสะดวกต่อการทำงาน คือเสื้อยืดสีขาวพอดีตัว กับกางเกงเลกกิ้งสีชมพูขาสั้นสูงจากเข่าไปหนึ่งคืบ เธอมัดผมรวบสูงเป็นหางม้ามีผ้าคาดผมมัดผูกเป็นโบเล็กๆสีเดียวกันกับกางเกง วันนี้เธอไม่แต่งหน้าเลยยิ่งทำให้เธอดูเด็กลงไปเป็นสิบปี เลขาสาวพ่วงตำแหน่งแม่บ้าน กำลังก้มๆ เงยๆ ทำความสะอาดห้องรับแขกอย่างขะมักเขม้น เขามีปัญญาจ้างแม่บ้าน แต่มาบีบบังคับใช้งานเธอแบบนี้เพราะต้องการกลั่นแกล้ง เธอรู้ดี เมื่อทำความสะอาดพื้นเสร็จแล้วจึงหยิบผ้าผืนน้อยมาเช็ดตามโต๊ะต่างๆ ที่จริงห้องเขาไม่ได้สกปรกอะไรเลย เหมือนมีคนมาทำความสะอาดอยู่ตลอดเวลาด้วยซ้ำ แต่คุณชายก็ยังจะปลุกหล่อนแต่ไก่โห่มาใช้งาน เธอมองค้อนไปที่ปะตูห้องนอนเขา นี่คงตื่นมาเพื่อโทรเรียกเธอมาใช้งานแล้วนอนต่อสินะ เงียบกริบไม่มากวนโมโหเธอเลย คิดพลางหยิบกรอบรูปตั้งโต๊ะที่ด้านในมีภาพใบหน้าชายหนุ่มหล่อส่งยิ้มมีเสน่ห์มาให้เธอ เห็นแล้วก็ให้หมันไส้คนในรูปนัก ทำอะไรตัวจริงไ
เป็นเวลาดึกแล้ว แต่คืนนี้เพชรน้ำผึ้งยังคงนอนพลิกกายไปมาบนเตียงกว้าง เธอนอนไม่หลับ เพราะภาพที่เขาควงเดินควงแขนไปกับนางเอกเบอร์หนึ่งเมื่อตอนกลางวัน ยังคงฉายซ้ำไปมาในสมองของเธอ มันไม่เพียงแค่ภาพนั้น เพราะคำพูดของเขาที่บอกว่าจะไม่กลับเข้ามาอีก ทั้งๆที่เวลานั้นมันยังไม่ถึงเที่ยงวันดีด้วยซ้ำ เขาไปไหน ไปทำอะไรกับเธอคนนั้น แค่ไปทานอาหารกันจริงหรือ ไม่ใช่ว่าป่านนี้คงไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว ในเมื่อทั้งคู่ต่างดูสนิทสนมถึงเนื้อถึงตัวกันขนาดนั้นและโรสิตาก็ดูจะชอบเขามาก เธอไม่ได้โง่ขนาดมองอาการที่โรสิตาแสดงออกต่อเขาและสายตาที่มองเธอแทบจะกินเลือดเนื้อนั้นไม่ออก ส่วนเขานั้นก็ระดับคาสโนวามีข่าวกับสาวๆ ไม่เว้นวัน มีหรือจะปล่อยให้สมันตัวสวยรอดไปได้ ไม่มีทางเลยจริงๆ ยิ่งคิดเพชรน้ำผึ้งก็ยิ่งหงุดหงิด พาลให้นอนไม่หลับ โถ่เอ๊ย ผู้ชายก็เหมือนกันหมด มาทำอะไรต่อมิอะไรกับเรา หลังจากนั้นก็มีท่าทีหึงหวง มองจากดาวอังคารยังดูออกว่าเขาต้องคิดอะไรกับเธอบ้างไม่มากก็น้อย แต่ทำไม สันดานผู้ชาย พอมีผู้หญิงที่ทั้งสวยทั้งเซ็กซี่เข้ามาหาหน่อย ก็สลัดเธอทิ้งอย่า