หลังหายไปจากพัทยาหลายวัน ไผ่หลิวกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับแปลนออกแบบทั้งหมด เพื่อนำมาเสนอเจ้าของโครงการอย่างอลิซาเบธและเพชรกล้า
และตอนนี้หญิงสาวนักออกแบบร่างเล็กแต่ท่าทางคล่องแคล่วพูดจาฉะฉาน กำลังเปิดภาพจากวีดีโอ แสดงถึงการออกแบบจัดวางเฟอร์นิเจอร์ในจุดต่างๆของโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ในห้องนอน ห้องอาหาร รวมทั้งในส่วนของเค้าท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ทางโครงการก็ให้ความไว้วางใจ บริษัทของนพคุณเป็นผู้ออกแบบและติดตั้งให้ทั้งนั้น เรียกได้ว่ากินรวบตั้งแต่ก่อสร้างยันออกแบบภายใน สายตาคมกริบของเพชรกล้า กำลังไล่ดูการออกแบบอย่างสนใจ ถึงแม้ในใจของเขาจะมีอคติและคิดหมั่นไส้ลูกชายเจ้าของบริษัทอย่างนพคุณ แต่ก็ต้องยอมรับว่า การออกแบบเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งภายในของไผ่หลิวนั้นมันดูเรียบหรูทันสมัย และเหมาะแก่การใช้งานในทุกฟังก์ชั่น อย่างปฏิเสธไม่ได้เลย "ออกแบบดีมากครับ มันดูทันสมัยเหมาะกับการใช้งานทุกอย่าง ทั้งโทนสีและรูปแบบ ผมเอาตามนี้ก็แล้วกัน" เขาหันไปบอกสาวร่างเล็กที่กำลังยิ้มแป้นจนตาหยี ในที่สุดงานแรกของเธอก็ผ่านเสียที แถมได้ทำโครงการใหญ่หลายพันล้านทั้งๆที่พึ่งจะเรียนจบมา "จริงหรือคะคุณเพชร งานของหลิวผ่านแล้วเหรอคะ" เธอแทบไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเอง ก่อนที่จะหันมาหาอลิซาเบธ และพูดอออกมาอย่างดีใจว่า "ขอบใจนะอลิซ ขอบใจมากที่เลือกเรา" เธอจับมือของเพื่อนสาว พลางเขย่าอย่างดีใจ "ต้องเลือกอยู่แล้ว แกเก่งขนาดนี้ พี่นพต้องดีใจมากแน่ๆ ที่ได้มัณฑนากรเก่งๆอย่างแกมาเป็นลูกน้อง" อลิซาเบธบอกกับเพื่อนใบหน้าเปื้อนยิ้ม แต่มันขัดตาอีกคนจนใบหน้าตึงขึ้นมา คำก็พี่นพ สองคำก็พี่นพ ขนาดไอ้ตี๋นั่น มันไปคุมงานที่อื่น ยังจะพูดถึงมันทั้งวัน ส่วนเขาที่นั่งอยู่ตรงนี้ ไม่คิดที่จะสนใจกันเลย จู่ๆก็รู้สึกน้อยใจขึ้นมา เพราะตลอดเวลาหลายอาทิตย์ ที่ผ่านมานี้ เพชรกล้าคอยดูแลเอาใจใส่คนตัวเล็กตลอดแต่ดูเหมือนเอาชนะใจ ไม่ได้เลย "ถ้าอย่างนั้น หลิวขอชวนคุณเพชรไปทานอาหารได้ไหมคะ หลิวอยากจะเลี้ยงขอบคุณ" เสียงของไผ่หลิวทำให้เพชรกล้าตื่นจากภวังค์ ก่อนจะหันไปหาคนตัวเล็กเป็นเชิงปรึกษา สองสามอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ เขาพยายามชวนเธอไปทานอาหาร เพื่อทำตามแผนการที่วางไว้ แต่โดนปฏิเสธอยู่ร่ำไป "ไปก็ได้" เสียงตอบรับของอลิซาเบธทำให้อีกคนหูผึ่งทันที และสมองอันชาญฉลาดของเขา กำลังวางแผนว่าจะทำยังไงต่อไป เขาอยากปิดจ็อบจะแย่แล้ว เพราะเบื่อที่จะตามตื้อเธอเต็มทน "ถ้าอย่างนั้นเราไปกันเย็นนี้เลยนะคะ" ไผ่หลิวหันไปบอกทั้งสองคน ก่อนที่พวกเขาจะพยักหน้าพร้อมๆกัน และในตอนค่ำวันเดียวกันนั้น อลิซาเบธเดินเข้ามาในร้านอาหารหรูพร้อมกับไผ่หลิว สายตาผู้ชายทั้งร้านต่างมองมาที่เธอ ก็ผิวขาวๆที่อยู่ในเสื้อเกาะอกเอวลอยและกางเกงยีนส์ขาดๆสไตล์วัยรุ่นของเธอนั้น มันเรียกสายตาหนุ่มๆได้ไม่ยาก รวมทั้งสายตาของเพชรกล้าก็มองมาเหมือนกัน เขาเผลอหันมองหญิงสาวจนตาค้าง ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ และหันกลับไปเหมือนเดิม "รอนานไหมคะคุณเพชร" ไผ่หลิวเป็นฝ่ายทักทาย "ผมพึ่งจะมาถึง" เขาหันไปพูดนิ่งๆก่อนจะมองเลยไปที่อลิซาเบธที่กำลังส่งยิ้มให้เขาอยู่ตอนนี้ อลิซาเบธยิ้มให้เขาอย่างนั้นเหรอ เพชรกล้าแทบไม่อยากจะเชื่อสายตา เพราะตลอดหลายอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ เธอมึนตึงใส่เขามาตลอด หรือจะใจอ่อนลงแล้ว จู่ๆหัวใจของชายหนุ่มก็เกิดเต้นแรงขึ้นมา เหมือนกับว่าตกหลุมรักครั้งแรก แต่ไม่หรอก เขาไม่มีวันยอมรับการแต่งงานแบบคลุมถุงชนแน่นอน ชายหนุ่มบอกกับตัวเอง ก่อนที่ผ่อนลมหายใจช้าๆเพื่อลดอาการเต้นแรงของหัวใจ "คุณหลิวจะทานอะไรสั่งได้เลยนะครับ มื้อนี้ผมเลี้ยงเอง" เขาหันไปบอกเพื่อนของเธอ "ได้ไงล่ะคะคุณเพชร หลิวชวนมาหลิวก็ต้องเป็นคนเลี้ยงซิ" อีกฝ่ายโวยวาย "ให้พี่เพชรเลี้ยงน่ะ ดีแล้ว แกพึ่งจะทำงานไม่ใช่เหรอ ถือว่าเป็นการเลี้ยงขอบคุณ ที่ออกแบบเฟอร์นิเจอร์สวยๆให้กับโรงแรมของเรา" อลิซาเบธขยิบตาให้เพื่อน ส่งสัญญาณว่าถล่มได้เลย ไผ่หลิวยิ้มรับจนตาหยี ก่อนจะตอบไปว่า "ถ้าอย่างนั้น หลิวไม่เกรงใจนะคะ" ไม่นานอาหารหลากหลายก็ถูกสั่งมาเต็มโต๊ะ แต่เพชรกล้าไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว เรื่องเปย์ผู้หญิงแค่นี้ ขนหน้าแข้งเขาไม่ร่วง แต่กำลังคิดวางแผนขั้นต่อไปมากกว่า ชายหนุ่มกำลังคิดว่า เขาจะทำตามแผนของคฑาดีไหม หรือจะใช้เสน่ห์ของตัวเองหลอกล่อให้เธอตกหลุมพรางที่เขาวางเอาไว้ดี เพราะดูจากแววตาของอลิซาเบธในวันนี้ ดูเธอจะคลั่งรักเขาเหมือนดังเดิม หากเธอคลั่งรักเขาอย่างนี้ มันก็ไม่ยากต่อการล่อลวง ชายหนุ่มพยายามคิดทบทวนแผนบางอย่างอยู่ในใจ ก่อนจะตัดสินใจว่าจะล้มเลิกแผนสร้างสถานะการณ์ แต่จะใช้แผนบอกรักเธอและหลังจากนั้น ก็จะทำให้เธอยอมแต่งงานแบบรวบรัดในอีกไม่นาน หัวสมองอันชาญฉลาดของเขา คิดแผนการทุกอย่างเงียบๆ ก่อนจะสั่งไวน์ราคาแพงมาเลี้ยงสองสาว เขาอยากจะให้เธอเมา ทุกอย่างจะได้ง่ายมากขึ้นกว่าเดิม และถ้าหากคืนนี้ทุกอย่างเป็นใจ เขาจะได้ปิดจ็อบเสียที.. ทั้งสามคนนั่งทานอาหารกันเงียบๆกว่าหนึ่งชั่วโมง ก่อนที่เพชรกล้าจะขอตัวไปห้องน้ำ ระหว่างทางที่เขาเดินออกจากโต๊ะไปนั้น สาวๆต่างหันไปมองความหล่อจนคอแทบเคล็ด "พี่เพชรของแกนี่ฮอตจริงๆว่ะ ดูซิ สาวๆโต๊ะนั้นหันมองอย่างกับจะกลืนกิน" ไผ่หลิวสะกิดเพื่อนให้ดูสาวๆโต๊ะหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกล อลิซเบธยักไหล่ ก่อนจะบอกว่า "ก็ได้แค่มอง" เพราะทุกวันนี้เพชรกล้าเดินตามเธอต้อยๆ จนอลิซาเบธมั่นใจแล้วว่า เขากลับมาคราวนี้ เพราะรักเธอจริงๆ "ทานเสร็จแล้วเช็คบิลเลยไหมครับ" ชายหนุ่มถามสองสาว หลังจากกลับมานั่งที่โต๊ะได้ไม่นาน "เช็คบิลเลยก็ได้ค่ะ หลิวอยากจะกลับห้องเต็มทีแล้ว" ไผ่หลิวบอกกับเขา ก่อนที่เพชรกล้าจะเรียกเช็คบิล และเอ่ยถามทั้งสองสาวว่า "ไปเดินเล่นเลียบชายหาดกันไหมครับ" "พวกคุณไปกันเถอะค่ะ หลิวง่วง อยากจะนอนแย่แล้ว พรุ่งนี้ต้องเข้าบริษัทแต่เช้า" ไผ่หลิวอยากเปิดโอกาสให้เพื่อนปรับความเข้าใจกัน " ไปแป๊บเดียวก็ได้นี่ไผ่หลิว พึ่งจะสองทุ่มเอง" อลิซาเบธหันไปบอกเพื่อนสาว ทำให้คนตัวโตมองจ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างกดดัน "เฮ้ย พวกแกไปเถอะ ฉันไม่สะดวกจริงๆ งั้นแยกกันตรงนี้นะ" ไผ่หลิวรีบปฏิเสธก่อนจะเดินออกจากร้านไป เพชรกล้าจึงลุกขึ้นเต็มความสูง พาอลิซไปเดินเล่นริมชายหาดอันเงียบสงบ แต่ก็โรแมนติกเพราะมีเสียงคลื่นดังเอื่อย และแสงจันทร์ส่องกระทบผืนน้ำอย่างสวยงาม และขณะที่เขาและเธอเดินเล่นริมหาดอยู่นั้น ชายหนุ่มคุกเข่าลงกับพื้นและนำแหวนเพชรที่เตรียมไว้ เปิดออกต่อหน้าหญิงสาว มันเป็นวงเดียวกันกับที่เธอคืนให้ในวันนั้น แต่วันนี้เพชรกล้าอยากจะสวมใส่ให้เธอเหมือนเดิม " ขอโอกาสให้พี่อีกครั้งนะครับอลิซ" เขาส่งสายตาอ้อนวอนไปหาหญิงสาว ทั้งน้ำเสียงและแววตามันอบอุ่นจนยากที่จะปฏิเสธ หัวใจของเธอมันก็เป็นของเขาอยู่แล้ว อลิซาเบธจึงส่งมือให้ชายหนุ่มอย่างไมลังเล เพชรกล้ากดยิ้มลึกตรงมุมปาก ก่อนจะบรรจงสวมแหวนเพชรวงนั้นกลับคืนไปที่นิ้วนางข้างซ้าย และผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ ในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จ นึกว่าตัวเองต้องทำตามแผนบ้าๆของคฑาเสียแล้ว ง่ายกว่าที่คิด ชายหนุมนึกในใจ ก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูง จับใบหน้างามให้แหงนหงายมารับจูบร้อนของเขา เป็นครั้งแรกที่ร่างกายของสองหนุ่มสาวได้สัมผัสกันและกัน และจูบของเขานั้นมันวาบหวามจนอลิซาเบธถึงกับมัวเมา อาจจะเป็นเพราะไวน์ที่ดื่มเข้าไปก่อนหน้านี้ รู้ตัวอีกที แผ่นหลังของเธอ ก็แตะอยู่ที่เตียง ภายในห้องนอนของเขาเสียแล้ว : : : : อ้าว ลูกสาว แผ่นหลังแตะเตียงไปแล้วค่ะ ตอนหน้าเสร็จอีพี่เพชรแน่นอน ส่วนอีพี่เพชรนี่ก็ไบโพล่าเหลือเกิน 😆😆เมธินีถือแก้วแชมเปญในมือหนึ่ง ก่อนจะคว้าแขนของเพชรกล้าอย่างถือวิสาสะ แล้วลากเขาไปยังมุมหนึ่งของห้อง ซึ่งเต็มไปด้วยกลุ่มเพื่อนเก่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัย โดยมีอลิซาเบธที่มองตามไปจนสุดสายตา“เพชร! นายหายเงียบไปเลยนะ” หนึ่งในเพื่อนชายยิ้มแซว ก่อนจะพูดขึ้นเสียงดังโดยไม่ทันสังเกตว่าเสียงของตนดังเกินความจำเป็น “นี่มันแต่งงานสายฟ้าแลบเลยนะโว้ย!”อีกคนหัวเราะเสริม “ตอนแรกก็นึกว่าแต่งกับคู่จิ้นสมัยเรียนที่พวกเราเชียร์กันสุดใจ ที่แท้เป็นคนนี้เหรอ… ไม่อยากจะเชื่อเลย!” พูดพลางหันไปทางเมธินี เพื่อนๆในกลุ่มต่างรู้กันว่า สองคนนี้เป็นคู่จิ้นกัน ถึงขนาดไปเรียนที่อเมริกา เขายังหอบหิ้วเธอไปด้วยสว่นเพชรกล้าเขาแค่ยิ้มบาง ๆ รับคำแซว แต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ในตอนนี้ชายหนุ่มไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เขาสนแค่แผนการเอาคืนทุกอย่าง ที่จะเริ่มต้นในเร็ววันไม่ไกลจากตรงนั้น อลิซาเบธยืนอยู่หลังเสาใกล้ ๆ เธอไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟัง... แต่ทุกคำพูดที่ลอดออกมา มันกรีดหัวใจของหญิงสาวจนเจ็บชา“ที่แท้… เขาเคยมีใครในใจอยู่แล้ว…” เธอยิ้มเจื่อน พยายามไม่ให้น้ำตารื้นขึ้นมาในงานแต่งของตัวเอง มือเล็กกำชายกระโปรงเอาไว้แน่น แต่ก็ไม่กล้า
เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้น ก่อนที่บานประตูจะเปิดออก อลิซาเบธเดินออกมาพอดี ใบหน้าหน้าสวยเปล่งประกายอย่างเจ้าสาวผู้กำลังมีความสุข วันนี้เป็นวันที่อลิซาเบธมีความสุขมากที่สุด ได้เข้าพิธิแต่งงานกับชายอันเป็นที่รัก เหมือนดั่งในฝันของเธอ ส่วนอีกคนที่เฝ้าดูอยู่นั้น ดวงตาจับจ้องร่างงามด้วยความอิจฉา ก่อนจะรวบรวมอารมณ์ร้ายทั้งหมด ใส่รอยยิ้มที่ดูเหมือนจริงใจเข้าไปบนใบหน้า และเดินเข้าไปหาเธอ"คุณอลิซคะ" เสียงเธอหวาน ราวกับว่าไม่ได้มีอะไรในใจแม้แต่น้อย ทำให้อลิซหยุดมองผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้า ก่อนจะยิ้มกว้างออกมา มันเป็นรอยยิ้มที่สดใสจริงใจ อย่างที่ไม่ได้คิดร้ายกับคนตรงหน้า และถามเธอว่า“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณเมนี่” อลิซาเบธรอฟังว่าเมธินีอยากอะไรจะคุยกับเธอ "ฉันขอคุยอะไรกับเธอหน่อยได้ไหม? เรื่องสำคัญมาก... ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินไป" เมธินีตอบด้วยท่าทางที่จริงจังเป็นอย่างมาก ทำเอาอลิซาเบธถึงกับหุบยิ้มลงทันที ผู้หญิงคนนี้อยากจะพูดอะไรกับเธอ? หญิงสาวคิดอย่างสงสัย แต่ก็พยักหน้ากลับไปก่อนจะถามอีกครั้งว่า "มีอะไรเหรอคะ?" “คุณอลิซคงรักเพชรมากสินะคะ แต่คุณรู้อะไรไหมคะว่าในความรักของคุณนั้น....”
"อลิซเสียใจไหม ที่ตกเป็นของพี่" เขาแกล้งถามหญิงสาว มือเรียวกำลังเกลี่ยผมที่ปรกผ้าผากของเธออย่างอ่อนโยน เขาทำเหมือนกับว่าเธอคือคนสำคัญที่สุดในชีวิต แล้วอย่างนี้ จะไม่ให้ใจอ่อนได้ยังไง คนตัวเล็กซุกหน้ากับแผงอกที่มีซิกแพคแน่นๆของเขาอย่างเขินอาย จะพูดยังไงดีล่ะ อันที่จริงก็ไม่คิดว่ามันจะรวดเร็วขนาดนั้นหรอก แต่เป็นเพราะบรรยากาศมันเป็นใจ และฤทธิ์ไวน์ที่ดื่มเข้าไปนั้น มันทำให้หญิงสาวไม่ลังเลที่จะตามเขามาที่บ้านพักหลังนี้ และทุกอย่างมันก็เลยตามเลย" ไม่ค่ะ อลิซรักพี่เพชร " เธอแหงนหงายใบหน้างามขึ้นไปบอกกับเขา"แต่พี่ก็รู้สึกผิดนะ ที่ทำกับน้องอลิซอย่างนี้ ทั้งๆที่เรายังไม่ได้แต่งงานกัน พี่ว่ากลับไปกรุงเทพคราวนี้ เราจัดงานแต่งกันเลยดีไหม" เขาส่งสายตาแสดงความรู้สึกผิดต่อหญิงสาว ทั้งๆที่จริงแล้ว ทุกอย่างมันเป็นแค่แผนการ แผนการที่เขาจะได้ทรัพย์สมบัติของคุณย่าคืนมาหลังจากนั้น เขาก็จะหย่ากับเธอส่วนคนที่อยู่ในอ้อมกอดของเขานั้นกำลังพยักหน้ากับแผงอกกว้าง เธอใสซื่อเกินกว่าจะทันเล่ห์เหลี่ยมคนอย่างเขานัก แต่เพราะรักด้วยแหละหล่อนจึงยอมทุกอย่างไม่มีการลังเลหลายอาทิตย์ต่อมา @ กรุงเทพมหานครสองหนุ่มสาว
"อือ" เสียงหวานครางกระเส่า เมื่อโดนฝีปากร้อน ทาบทับไปทุกสัดส่วน เพชรกล้าตั้งใจปลุกเร้าหญิงสาวให้เคลิบเคลิ้มไปกับการล่อลวงของเขา หลังจากพรุ่งนี้ทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนการ อ้ะ! ร่างน้อยสะดุ้งตกใจ เมื่อกลางกายสาวถูกล่วงล้ำเป็นครั้งแรก นิ้วเรียวแทรกอยู่ตรงกลางรอยแยกตรงกลีบสวย แต่แล้วชายหนุ่มก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อรู้สึกถึงความคับแน่นข้างใน มันปิดสนิทเหมือนไม่เคยผ่านมือใครมาก่อนเลย หรือเขาจะเปลี่ยนใจตอนนี้ดี ชายหนุ่มเริ่มลังเล ไม่อยากจะทำร้ายเธอมากไปกว่านี้ ไม่อยากจะล่อลวงหากว่าอีกฝ่ายยังไม่เคย ชายหนุ่มกำลังจะลุกออกจากร่างน้อยที่เขาเล้าโลมมากว่าครึ่งชั่วโมงแต่ทว่า..หมับ! มือเรียวจับคว้าต้นแขนเขาเอาไว้ พร้อมส่งสายตาเว้าวอน เธอกำลังเคลิบเคลิ้ม กำลังลุ่มหลงในไฟพิสวาสที่กำลังลุกโชนอยู่ตอนนี้ และเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่มันอยู่ในร่างกาย ทำให้สาวน้อยใจกล้า ทำอะไรอย่างที่ไม่เคยทำ เมื่ออลิซาเบธพยุงตัวขึ้นเพื่อแลกจูบกับชายหนุ่มเสียเอง"อืมมม" เสียงครางดังออกมาจากลำคอแกร่ง เมื่อนักเรียนที่เขาพึ่งสอนมาหมาดๆส่งลิ้นเล็กกวาดต้อนลิ้นใหญ่ของเขาอย่างน่ารัก พร้อมกับเบียดตัวเข้าหาร่างใหญ่อย่างไม่เกรงกลัว 'ถ
หลังหายไปจากพัทยาหลายวัน ไผ่หลิวกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับแปลนออกแบบทั้งหมด เพื่อนำมาเสนอเจ้าของโครงการอย่างอลิซาเบธและเพชรกล้า และตอนนี้หญิงสาวนักออกแบบร่างเล็กแต่ท่าทางคล่องแคล่วพูดจาฉะฉาน กำลังเปิดภาพจากวีดีโอ แสดงถึงการออกแบบจัดวางเฟอร์นิเจอร์ในจุดต่างๆของโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ในห้องนอน ห้องอาหาร รวมทั้งในส่วนของเค้าท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ทางโครงการก็ให้ความไว้วางใจ บริษัทของนพคุณเป็นผู้ออกแบบและติดตั้งให้ทั้งนั้น เรียกได้ว่ากินรวบตั้งแต่ก่อสร้างยันออกแบบภายในสายตาคมกริบของเพชรกล้า กำลังไล่ดูการออกแบบอย่างสนใจ ถึงแม้ในใจของเขาจะมีอคติและคิดหมั่นไส้ลูกชายเจ้าของบริษัทอย่างนพคุณ แต่ก็ต้องยอมรับว่า การออกแบบเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งภายในของไผ่หลิวนั้นมันดูเรียบหรูทันสมัย และเหมาะแก่การใช้งานในทุกฟังก์ชั่น อย่างปฏิเสธไม่ได้เลย"ออกแบบดีมากครับ มันดูทันสมัยเหมาะกับการใช้งานทุกอย่าง ทั้งโทนสีและรูปแบบ ผมเอาตามนี้ก็แล้วกัน" เขาหันไปบอกสาวร่างเล็กที่กำลังยิ้มแป้นจนตาหยี ในที่สุดงานแรกของเธอก็ผ่านเสียที แถมได้ทำโครงการใหญ่หลายพันล้านทั้งๆที่พึ่งจะเรียนจบมา"จริงหรือคะคุณเพชร งานของหลิวผ่
หลายอาทิตย์ต่อมาหลังจากตรวจสอบโครงสร้างตึกเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นขั้นตอนตกแต่งภายใน และบริษัทของนพคุณมีบริการครบวงจรตั้งแต่ก่อสร้างตึก จนถึงตกแต่งภายใน แต่ทว่างานตกแต่งภายในนี้ เขาไม่ได้มาดูแลด้วยตัวเอง แต่ส่งมัณฑนากรหรือว่านักออกแบบมาแทน และมัณฑนากรที่มารับงานนี้ก็คือไผ่หลิว เพื่อนสาวของอลิซาเบธนั่นเอง ทำให้หลายวันที่ผ่านมานี้เพชรกล้าหายใจคล่องคอขึ้นมาก เพราะไม่มีก้างมาขวางคอ แต่ถึงแม้ว่า ไม่มีนพคุณอยู่ตรงนี้ อลิซาเบธก็ยังไม่เปิดโอกาสให้เขาอยู่ดี เธอจะคุยกับเขาเฉพาะเรื่องงานเท่านั้น นอกนั้นก็จะถามคำตอบคำ ชวนไปเที่ยวข้างนอกก็ไม่เคยไป แม้กระทั่งชวนไปทานอาหารข้างๆโรงแรม เธอยังไม่เคยไปกับเขาเลย แต่เพชรกล้าไม่รู้หรอกว่า จริงๆอลิซาเบธใจอ่อนมานานแล้ว แต่ที่ทำอยู่ทุกวันนี้ เธอก็แค่เก็บทรงและกำลังลองใจเขาอยู่แค่นั้นเอง เหมือนอย่างตอนนี้ที่เลือกสีผ้าม่านกับไผ่หลิว เธอก็ลอบมองคนตัวโตตลอดเวลา" ฮันแน่ แอบมองอีกแล้วนะ แต่ก็อย่างว่าแหละ พี่เพชรหล่อขนาดนั้น ฉันอิจฉาแกจริงๆ " ไผ่หลิวแอบกระซิบกระซาบเพื่อนรัก พลางชะเง้อคอมองชายหนุ่มร่างสูง ที่กำลังเทียบสีของผ้าม่านอยู่อีกมุมอลิซาเบธหันไปดูคนตัวโ