เมธินีถือแก้วแชมเปญในมือหนึ่ง ก่อนจะคว้าแขนของเพชรกล้าอย่างถือวิสาสะ แล้วลากเขาไปยังมุมหนึ่งของห้อง ซึ่งเต็มไปด้วยกลุ่มเพื่อนเก่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัย โดยมีอลิซาเบธที่มองตามไปจนสุดสายตา
“เพชร! นายหายเงียบไปเลยนะ” หนึ่งในเพื่อนชายยิ้มแซว ก่อนจะพูดขึ้นเสียงดังโดยไม่ทันสังเกตว่าเสียงของตนดังเกินความจำเป็น “นี่มันแต่งงานสายฟ้าแลบเลยนะโว้ย!” อีกคนหัวเราะเสริม “ตอนแรกก็นึกว่าแต่งกับคู่จิ้นสมัยเรียนที่พวกเราเชียร์กันสุดใจ ที่แท้เป็นคนนี้เหรอ… ไม่อยากจะเชื่อเลย!” พูดพลางหันไปทางเมธินี เพื่อนๆในกลุ่มต่างรู้กันว่า สองคนนี้เป็นคู่จิ้นกัน ถึงขนาดไปเรียนที่อเมริกา เขายังหอบหิ้วเธอไปด้วย สว่นเพชรกล้าเขาแค่ยิ้มบาง ๆ รับคำแซว แต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ในตอนนี้ชายหนุ่มไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เขาสนแค่แผนการเอาคืนทุกอย่าง ที่จะเริ่มต้นในเร็ววัน ไม่ไกลจากตรงนั้น อลิซาเบธยืนอยู่หลังเสาใกล้ ๆ เธอไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟัง... แต่ทุกคำพูดที่ลอดออกมา มันกรีดหัวใจของหญิงสาวจนเจ็บชา “ที่แท้… เขาเคยมีใครในใจอยู่แล้ว…” เธอยิ้มเจื่อน พยายามไม่ให้น้ำตารื้นขึ้นมาในงานแต่งของตัวเอง มือเล็กกำชายกระโปรงเอาไว้แน่น แต่ก็ไม่กล้าเดินเข้าไป เพราะไม่รู้จักใครในที่นั้น… เหมือนเธอเป็นแค่คนนอกในกลุ่มของเขา หลังจากนั้นไม่นาน เพชรกล้าเดินแยกออกมาจากกลุ่มเพื่อนพร้อมเมธินี ที่ยังควงแขนเขาไว้ราวกับเป็นเจ้าของตัวจริง และก่อนที่อารมณ์ในใจของอลิซาเบธจะดำดิ่งลงไปกว่านี้ ก็มีเสียงทักขึ้นจากด้านหลังว่า “อลิซ!” เธอหันไปยิ้มต้อนรับ นพคุณกับไผ่หลิวเดินเข้ามาหาพร้อมช่อดอกไม้เล็ก ๆ ที่เตรียมมามอบให้ “ยินดีด้วยนะ เธอสวยมากเลยวันนี้” ไผ่หลิวยิ้มกว้าง ก่อนจะพูดติดตลก “แต่งงานแล้วห้ามลืมเพื่อนนะ!” สองสาวโอบกอดกันเอาไว้ด้วยความยินดีเป็นอย่างมาก ทั้งสามคุยกันอย่างสนุกสนาน เบาใจลงนิดหน่อย แต่จู่ ๆ โทรศัพท์ของไผ่หลิวก็ดังขึ้น เธอรีบหยิบขึ้นมาดู ก่อนจะทำหน้าเหวอเล็กน้อย “ขอโทษนะ ขอไปรับสายแป๊บ” พูดจบไผ่หลิวก็เดินแยกตัวออกไปในทันที เหลือเพียงอลิชกับนพคุณยืนอยู่แค่สองคน “อลิช…” เสียงเขาอ่อนโยนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มือของเขายื่นมาจับมือเธอไว้แผ่วเบา “ยินดีด้วยจริง ๆ จากใจเลยนะ” ชายหนุ่มยิ้มเศร้า เอ่ยแสดงความยินดีออกมา ตั้งแต่จบงานตรวจสอบโครงสร้างตึก เขาก็ไม่ได้เจออลิซาเบธอีกเลย ไม่คิดว่าหญิงสาว จะแต่งงานสายฟ้าแลบแบบนี้ อลิชาเบธมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างซาบซึ้ง ยังไม่ทันตอบอะไร ก็รู้สึกถึงแรงสายตาบางอย่าง กำลังจ้องมองมาที่เธอ เพชรกล้ายืนอยู่ไม่ไกลนัก สีหน้าเขาเปลี่ยนไปทันทีที่เห็นภาพนั้น ดวงตาคมวาววับจับจ้องมือทั้งสองที่ประสานกัน ริมฝีปากเม้มแน่น แววตาที่บ่งบอกความไม่พอใจอย่างชัดเจน แต่ในขณะเดียวกันเมธินีกลับยิ้มเหยียดและควงแขนเขาอย่างออกนอกหน้านอกตา และก่อนที่อลิชจะได้เอ่ยคำอธิบาย เมธินีก็เดินเข้ามาเสียก่อน ยืนพิงโต๊ะเครื่องดื่มแล้วพูดเสียงดังอย่างจงใจให้ได้ยิน “ให้ตายสิ! เพิ่งแต่งงานหมาด ๆ ก็จับมือผู้ชายแล้วเหรอ ไม่เกรงใจสามีบ้างเลยเนอะเพชร” เธอแกล้งจุดไฟในใจของอีกฝ่าย พลางแสยะยิ้มเยือกเย็น เพชรกล้ายังคงเงียบ… แต่มือสองข้างของเขากำแน่น เขาไม่อยากแสดงท่าทีอะไรออกไปทั้งนั้น ไม่ได้หึง ไม่ได้หวง เพราะทุกอย่างมันเป็นแค่เกม ชายหนุ่มบอกตัวเองอย่างนี้ ผิดกับสายตาของเขา ที่จ้องมองเจ้าสาว ราวกับจะเผาเธอให้เป็นจุล “แต่คุณเมนี่คะ ที่คุณพูดมาเหมือนจะว่าฉันไม่มีมารยาทเลยนะคะ แล้วคุณล่ะควงแคนสามีฉันออกหน้าออกตานี่ ถ้าใครไม่รู้คงคิดว่าคุณเป็นเมียน้อยมากกว่าเป็นพนักงานในบริษัทเรานะคะ” อลิซาเบธตอบกลับอย่างเจ็บแสบไม่ต่างกัน เพราะเธอสังเกต ดูแล้วว่า คนที่อยู่ในใจสามีเธอนั้น อาจจะเป็นผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้นี่เอง และก่อนที่อะไรมันจะบานปลายไปมากกว่านี้นั้น พิธีกรก็ประกาศว่าอีกไม่กี่นาทีจะเป็นการส่งตัวคู่บ่าวสาวเข้าหอตามฤกษ์ที่ได้กำหนดไว้ อลิซาเบธที่ได้ยินดังนั้นเดินตรงมาหาเมธินี ก่อนจะดึงมืออีกฝ่ายออกจากแขนของเพชรกล้า และเป็นมือของเธอที่คล้องแขนสามีเอาไว้ และหันมาบอกว่า “ขอตัวนะคะ ” พูดจบเธอก็ควงเพชรกล้า เดินไปในทันที หน้าห้องหอ พ่อแม่ของทั้งสองคนต่างก็มายืนรอส่งลูกชายและลูกสาวอันเป็นที่รักของพวกเขาเข้าหอ สองครอบครัวยืนแยกกันและสอนลูก ๆ ของพวกเขาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เด็ก ๆทั้งสองจะไปสร้างครอบครัวของตัวเอง คริสเตียนโน่พ่อของเพรชกล้า กระซิบลูกชายของเขาเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก “พ่อดีใจที่ลูกเลือกหนูอลิซผู้หญิงที่พ่อหาให้ ดูแลน้องดี ๆ อย่าทำให้สองครอบครัวต้องแตกแยกเข้าใจไหม” "........." ชายหนุ่มไม่ตอบอะไร “เพชรพ่อพูดด้วยได้ยินไหมลูก ใจลอยไปไหนกัน” พลอยใสผู้เป็นแม่เรียกสติลูกชาย “ครับได้ยินครับ ดูเหมือนกับว่าพ่อจะดีใจออกหน้าออกตาไปไหมครับ ถ้าพ่อแต่งแทนผมได้ ผมว่าพ่อคงแต่งไปแล้ว” ภายใต้ใบหน้าเรียบนิ่ง แต่ไม่วายพูดจาเหน็บแนมพ่อของตัวเองจนได้เรื่อง “อย่ามาต่อปากต่อคำไปพาน้องเข้าหอได้แล้ว” ผู้เป็นพ่อบอกกับลูกชาย ภายในห้องหอ ถูกตกแต่งด้วยแชนเดอเลียร์คริสตัลที่เปล่งประกายระยิบระยับจากเพดานสูง พื้นห้องปูพรมสีครีมเนื้อนุ่มที่เท้าเปลือยเปล่าของใครบางคนย่ำผ่านแผ่วเบา ผ้าม่านสีทองอ่อนปลิวไหวตามแรงลมจากเครื่องปรับอากาศ กลิ่นหอมจางของดอกไม้สดที่จัดวางไว้บนโต๊ะกลางห้องแต่งเติมบรรยากาศให้ดูนุ่มนวล ราวกับนี่คือคืนแห่งความฝันที่เพิ่งเริ่มต้น อลิซาเบธยืนอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องแต่งตัว ผมยาวถูกรวบขึ้นหลวม ๆ ขณะที่เธอกำลังสวมเดรสใหม่สำหรับออกไปปาร์ตี้เลี้ยงฉลองต่อกับเพื่อน ๆ ในค่ำคืนนี้ เดรสสั้นผ้าซาตินสีแดงสดแนบเรือนกายเผยให้เห็นไหล่ขาวเนียน ริมฝีปากเธอแต้มสีชมพูระเรื่อ ดวงตากลมสวยสะท้อนประกายวาวจากโคมไฟเหนือศีรษะ แต่ยังไม่ทันจะได้หยิบต่างหูมาใส่ ร่างสูงของเพชรกล้าก็เข้ามาหยุดอยู่ข้างหลังเธออย่างเงียบเชียบ แววตาของเขาคมกริบจ้องผ่านกระจกไปราวกับจับจ้องเหยื่อที่ไม่อาจหนีรอด "จะไปแล้วเหรอ?" เสียงของเขาต่ำและทุ้ม เสียงนั้นเหมือนกระซิบแต่หนักแน่นพอจะทำให้หัวใจเธอเต้นผิดจังหวะ อลิซาเบธยังไม่ทันตอบ มือของเขาก็เอื้อมมาสัมผัสเอวเธออย่างแผ่วเบา ก่อนที่ริมฝีปากหยักจะโน้มเข้ามาแนบลงกับต้นคอของเธอ โดยไม่ให้เวลาได้ตั้งตัว "พี่เพชรคะ... เดี๋ยว... เราต้องออกไปปาร์ตี้กับเพื่อน" "ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น" คำพูดนั้นเปล่งออกมาชัดถ้อยชัดคำ พร้อมแรงจูบที่กดแนบริมฝีปากลงบนริมฝีปากอิ่มอย่างร้อนแรงและดุดัน ก่อนที่เธอจะทันได้ขยับหนี เขาก็กระชากเธอเข้าหาตัวอย่างรวดเร็ว มือหนาตะปบเข้าที่ชุดเดรสตัวบาง แล้วเสียง “ฉีก” ก็ดังขึ้นทันที อลิชเบิกตากว้างเมื่อผ้าซาตินขาดเป็นทางยาว เผยให้เห็นผิวขาวเนียนน่าสัมผัส ดวงหน้าเธอแดงวูบด้วยความตกใจและขัดเขิน “พี่เพชร! เดรสนั่นมัน” "ช่างมันเถอะน่ะ ไม่สวยเท่าเวลาที่เธอ ไม่ใส่อะไรเลย" เขากระซิบข้างใบหู น้ำเสียงแหบพร่าเคลือบไปด้วยความต้องการอย่างปิดไม่มิด มือทั้งสองประคองใบหน้าเธออย่างหลงใหล ก่อนจะประกบริมฝีปากเข้าหาอีกครั้ง : : : : : กรี้ด อะไรกันนี่ ปล่อยเจ้าสาวไปปาร์ตี้ก่อนพี่เพชร โอย ไรต์จะเป็นลมเมธินีถือแก้วแชมเปญในมือหนึ่ง ก่อนจะคว้าแขนของเพชรกล้าอย่างถือวิสาสะ แล้วลากเขาไปยังมุมหนึ่งของห้อง ซึ่งเต็มไปด้วยกลุ่มเพื่อนเก่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัย โดยมีอลิซาเบธที่มองตามไปจนสุดสายตา“เพชร! นายหายเงียบไปเลยนะ” หนึ่งในเพื่อนชายยิ้มแซว ก่อนจะพูดขึ้นเสียงดังโดยไม่ทันสังเกตว่าเสียงของตนดังเกินความจำเป็น “นี่มันแต่งงานสายฟ้าแลบเลยนะโว้ย!”อีกคนหัวเราะเสริม “ตอนแรกก็นึกว่าแต่งกับคู่จิ้นสมัยเรียนที่พวกเราเชียร์กันสุดใจ ที่แท้เป็นคนนี้เหรอ… ไม่อยากจะเชื่อเลย!” พูดพลางหันไปทางเมธินี เพื่อนๆในกลุ่มต่างรู้กันว่า สองคนนี้เป็นคู่จิ้นกัน ถึงขนาดไปเรียนที่อเมริกา เขายังหอบหิ้วเธอไปด้วยสว่นเพชรกล้าเขาแค่ยิ้มบาง ๆ รับคำแซว แต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ในตอนนี้ชายหนุ่มไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เขาสนแค่แผนการเอาคืนทุกอย่าง ที่จะเริ่มต้นในเร็ววันไม่ไกลจากตรงนั้น อลิซาเบธยืนอยู่หลังเสาใกล้ ๆ เธอไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟัง... แต่ทุกคำพูดที่ลอดออกมา มันกรีดหัวใจของหญิงสาวจนเจ็บชา“ที่แท้… เขาเคยมีใครในใจอยู่แล้ว…” เธอยิ้มเจื่อน พยายามไม่ให้น้ำตารื้นขึ้นมาในงานแต่งของตัวเอง มือเล็กกำชายกระโปรงเอาไว้แน่น แต่ก็ไม่กล้า
เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้น ก่อนที่บานประตูจะเปิดออก อลิซาเบธเดินออกมาพอดี ใบหน้าหน้าสวยเปล่งประกายอย่างเจ้าสาวผู้กำลังมีความสุข วันนี้เป็นวันที่อลิซาเบธมีความสุขมากที่สุด ได้เข้าพิธิแต่งงานกับชายอันเป็นที่รัก เหมือนดั่งในฝันของเธอ ส่วนอีกคนที่เฝ้าดูอยู่นั้น ดวงตาจับจ้องร่างงามด้วยความอิจฉา ก่อนจะรวบรวมอารมณ์ร้ายทั้งหมด ใส่รอยยิ้มที่ดูเหมือนจริงใจเข้าไปบนใบหน้า และเดินเข้าไปหาเธอ"คุณอลิซคะ" เสียงเธอหวาน ราวกับว่าไม่ได้มีอะไรในใจแม้แต่น้อย ทำให้อลิซหยุดมองผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้า ก่อนจะยิ้มกว้างออกมา มันเป็นรอยยิ้มที่สดใสจริงใจ อย่างที่ไม่ได้คิดร้ายกับคนตรงหน้า และถามเธอว่า“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณเมนี่” อลิซาเบธรอฟังว่าเมธินีอยากอะไรจะคุยกับเธอ "ฉันขอคุยอะไรกับเธอหน่อยได้ไหม? เรื่องสำคัญมาก... ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินไป" เมธินีตอบด้วยท่าทางที่จริงจังเป็นอย่างมาก ทำเอาอลิซาเบธถึงกับหุบยิ้มลงทันที ผู้หญิงคนนี้อยากจะพูดอะไรกับเธอ? หญิงสาวคิดอย่างสงสัย แต่ก็พยักหน้ากลับไปก่อนจะถามอีกครั้งว่า "มีอะไรเหรอคะ?" “คุณอลิซคงรักเพชรมากสินะคะ แต่คุณรู้อะไรไหมคะว่าในความรักของคุณนั้น....”
"อลิซเสียใจไหม ที่ตกเป็นของพี่" เขาแกล้งถามหญิงสาว มือเรียวกำลังเกลี่ยผมที่ปรกผ้าผากของเธออย่างอ่อนโยน เขาทำเหมือนกับว่าเธอคือคนสำคัญที่สุดในชีวิต แล้วอย่างนี้ จะไม่ให้ใจอ่อนได้ยังไง คนตัวเล็กซุกหน้ากับแผงอกที่มีซิกแพคแน่นๆของเขาอย่างเขินอาย จะพูดยังไงดีล่ะ อันที่จริงก็ไม่คิดว่ามันจะรวดเร็วขนาดนั้นหรอก แต่เป็นเพราะบรรยากาศมันเป็นใจ และฤทธิ์ไวน์ที่ดื่มเข้าไปนั้น มันทำให้หญิงสาวไม่ลังเลที่จะตามเขามาที่บ้านพักหลังนี้ และทุกอย่างมันก็เลยตามเลย" ไม่ค่ะ อลิซรักพี่เพชร " เธอแหงนหงายใบหน้างามขึ้นไปบอกกับเขา"แต่พี่ก็รู้สึกผิดนะ ที่ทำกับน้องอลิซอย่างนี้ ทั้งๆที่เรายังไม่ได้แต่งงานกัน พี่ว่ากลับไปกรุงเทพคราวนี้ เราจัดงานแต่งกันเลยดีไหม" เขาส่งสายตาแสดงความรู้สึกผิดต่อหญิงสาว ทั้งๆที่จริงแล้ว ทุกอย่างมันเป็นแค่แผนการ แผนการที่เขาจะได้ทรัพย์สมบัติของคุณย่าคืนมาหลังจากนั้น เขาก็จะหย่ากับเธอส่วนคนที่อยู่ในอ้อมกอดของเขานั้นกำลังพยักหน้ากับแผงอกกว้าง เธอใสซื่อเกินกว่าจะทันเล่ห์เหลี่ยมคนอย่างเขานัก แต่เพราะรักด้วยแหละหล่อนจึงยอมทุกอย่างไม่มีการลังเลหลายอาทิตย์ต่อมา @ กรุงเทพมหานครสองหนุ่มสาว
"อือ" เสียงหวานครางกระเส่า เมื่อโดนฝีปากร้อน ทาบทับไปทุกสัดส่วน เพชรกล้าตั้งใจปลุกเร้าหญิงสาวให้เคลิบเคลิ้มไปกับการล่อลวงของเขา หลังจากพรุ่งนี้ทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนการ อ้ะ! ร่างน้อยสะดุ้งตกใจ เมื่อกลางกายสาวถูกล่วงล้ำเป็นครั้งแรก นิ้วเรียวแทรกอยู่ตรงกลางรอยแยกตรงกลีบสวย แต่แล้วชายหนุ่มก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อรู้สึกถึงความคับแน่นข้างใน มันปิดสนิทเหมือนไม่เคยผ่านมือใครมาก่อนเลย หรือเขาจะเปลี่ยนใจตอนนี้ดี ชายหนุ่มเริ่มลังเล ไม่อยากจะทำร้ายเธอมากไปกว่านี้ ไม่อยากจะล่อลวงหากว่าอีกฝ่ายยังไม่เคย ชายหนุ่มกำลังจะลุกออกจากร่างน้อยที่เขาเล้าโลมมากว่าครึ่งชั่วโมงแต่ทว่า..หมับ! มือเรียวจับคว้าต้นแขนเขาเอาไว้ พร้อมส่งสายตาเว้าวอน เธอกำลังเคลิบเคลิ้ม กำลังลุ่มหลงในไฟพิสวาสที่กำลังลุกโชนอยู่ตอนนี้ และเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่มันอยู่ในร่างกาย ทำให้สาวน้อยใจกล้า ทำอะไรอย่างที่ไม่เคยทำ เมื่ออลิซาเบธพยุงตัวขึ้นเพื่อแลกจูบกับชายหนุ่มเสียเอง"อืมมม" เสียงครางดังออกมาจากลำคอแกร่ง เมื่อนักเรียนที่เขาพึ่งสอนมาหมาดๆส่งลิ้นเล็กกวาดต้อนลิ้นใหญ่ของเขาอย่างน่ารัก พร้อมกับเบียดตัวเข้าหาร่างใหญ่อย่างไม่เกรงกลัว 'ถ
หลังหายไปจากพัทยาหลายวัน ไผ่หลิวกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับแปลนออกแบบทั้งหมด เพื่อนำมาเสนอเจ้าของโครงการอย่างอลิซาเบธและเพชรกล้า และตอนนี้หญิงสาวนักออกแบบร่างเล็กแต่ท่าทางคล่องแคล่วพูดจาฉะฉาน กำลังเปิดภาพจากวีดีโอ แสดงถึงการออกแบบจัดวางเฟอร์นิเจอร์ในจุดต่างๆของโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ในห้องนอน ห้องอาหาร รวมทั้งในส่วนของเค้าท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ทางโครงการก็ให้ความไว้วางใจ บริษัทของนพคุณเป็นผู้ออกแบบและติดตั้งให้ทั้งนั้น เรียกได้ว่ากินรวบตั้งแต่ก่อสร้างยันออกแบบภายในสายตาคมกริบของเพชรกล้า กำลังไล่ดูการออกแบบอย่างสนใจ ถึงแม้ในใจของเขาจะมีอคติและคิดหมั่นไส้ลูกชายเจ้าของบริษัทอย่างนพคุณ แต่ก็ต้องยอมรับว่า การออกแบบเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งภายในของไผ่หลิวนั้นมันดูเรียบหรูทันสมัย และเหมาะแก่การใช้งานในทุกฟังก์ชั่น อย่างปฏิเสธไม่ได้เลย"ออกแบบดีมากครับ มันดูทันสมัยเหมาะกับการใช้งานทุกอย่าง ทั้งโทนสีและรูปแบบ ผมเอาตามนี้ก็แล้วกัน" เขาหันไปบอกสาวร่างเล็กที่กำลังยิ้มแป้นจนตาหยี ในที่สุดงานแรกของเธอก็ผ่านเสียที แถมได้ทำโครงการใหญ่หลายพันล้านทั้งๆที่พึ่งจะเรียนจบมา"จริงหรือคะคุณเพชร งานของหลิวผ่
หลายอาทิตย์ต่อมาหลังจากตรวจสอบโครงสร้างตึกเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นขั้นตอนตกแต่งภายใน และบริษัทของนพคุณมีบริการครบวงจรตั้งแต่ก่อสร้างตึก จนถึงตกแต่งภายใน แต่ทว่างานตกแต่งภายในนี้ เขาไม่ได้มาดูแลด้วยตัวเอง แต่ส่งมัณฑนากรหรือว่านักออกแบบมาแทน และมัณฑนากรที่มารับงานนี้ก็คือไผ่หลิว เพื่อนสาวของอลิซาเบธนั่นเอง ทำให้หลายวันที่ผ่านมานี้เพชรกล้าหายใจคล่องคอขึ้นมาก เพราะไม่มีก้างมาขวางคอ แต่ถึงแม้ว่า ไม่มีนพคุณอยู่ตรงนี้ อลิซาเบธก็ยังไม่เปิดโอกาสให้เขาอยู่ดี เธอจะคุยกับเขาเฉพาะเรื่องงานเท่านั้น นอกนั้นก็จะถามคำตอบคำ ชวนไปเที่ยวข้างนอกก็ไม่เคยไป แม้กระทั่งชวนไปทานอาหารข้างๆโรงแรม เธอยังไม่เคยไปกับเขาเลย แต่เพชรกล้าไม่รู้หรอกว่า จริงๆอลิซาเบธใจอ่อนมานานแล้ว แต่ที่ทำอยู่ทุกวันนี้ เธอก็แค่เก็บทรงและกำลังลองใจเขาอยู่แค่นั้นเอง เหมือนอย่างตอนนี้ที่เลือกสีผ้าม่านกับไผ่หลิว เธอก็ลอบมองคนตัวโตตลอดเวลา" ฮันแน่ แอบมองอีกแล้วนะ แต่ก็อย่างว่าแหละ พี่เพชรหล่อขนาดนั้น ฉันอิจฉาแกจริงๆ " ไผ่หลิวแอบกระซิบกระซาบเพื่อนรัก พลางชะเง้อคอมองชายหนุ่มร่างสูง ที่กำลังเทียบสีของผ้าม่านอยู่อีกมุมอลิซาเบธหันไปดูคนตัวโ