เพราะผลประโยชน์บางอย่าง ทำให้เขาหลอกแต่งงานกับเธอ ทว่าในวันที่เขารู้ใจตัวเองนั้น มันกลับเป็นวันที่สายจนเกินไป ตัวอย่างเล็กน้อย "ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ" นพคุณทักทายคณะกรรมการ ก่อนจะนั่งลงข้างๆอลิซาเบธ ทำให้เพชรกล้า หัวร้อนขึ้นมาทันที " นี่มันอะไรกัน" ชายหนุ่มลุกขึ้นเต็มความสูง "อย่าเสียมารยาทสิคะ คุณเพชรกล้า ในเมื่อคุณยังพิสูจน์ตัวเองไม่ได้ คุณควรปล่อยให้ดิฉันได้ทำงาน" คำพูดห่างเหิน และสายตาที่จ้องมองกลับ มันดูไม่เกรงกลัวเขาเลยสักนิด ' อลิซาเบธเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ' เพชรกล้าวูบโหวงอยู่ในอก เขาไม่คัดค้านเลยหากว่า อลิซาเบธจะเข้ามารับตำแหน่งท่านประธาน แต่ผู้ชายคนนั้น "แต่นพคุณเป็นคนนอก พี่ไม่อยากจะให้อลิซพาเข้ามาในบริษัทของเรา" "ทำไมล่ะคะ ในเมื่อตัวคุณเอง ก็ยังพาทั้งเพื่อน ทั้งชู้ อุ้ย! ไม่ใช่ เพื่อนสาวคนสนิท เข้ามาทำงานในบริษัท โดยไม่ต้องถามความคิดเห็นของใคร"
View More"ผมไม่ยอมรับการคลุมถุงชนนะครับคุณแม่ "ชายหนุ่มอายุยี่สิบสี่ปีปฏิเสธการหมั้นหมาย กับผู้หญิงที่พ่อแม่หมายตาเอาไว้ให้แบบหัวชนฝา ถึงจะสนิทกับอลิซาเบธก็เถอะ แต่พอคิดถึงรูปร่างกลมๆของเธอแล้ว เขาวางสถานะให้เป็นแค่พี่น้องแบบเดิมจะดีกว่า ไม่อยากจะคิดถึงสถานะคู่หมั้น ที่ต้องร่วมหอลงโลงกันในอนาคตเลย แต่มันติดตรงที่ว่า พลอยใสเองก็ไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นเหมือนกัน
"ทำไมล่ะเพชร ทำเพื่อความสบายใจของคุณย่าเป็นครั้งสุดท้ายไม่ได้เหรอ" พลอยใสพยายามเกลี้ยกล่อมลูกชาย เพราะตอนนี้คุณย่าของเขาป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้ จึงอยากเห็นสิ่งที่วางแผนเอาไว้ เดินไปถึงจุดมุ่งหมายเสียที แต่ทว่าหลานชายตัวดี ยังปฏิเสธเสียงแข็ง เขาจะไม่ยอมรับการแต่งงานกับยัยลูกเป็ดขี้เหร่อย่างแน่นอน "นี่มันสมัยไหนกันแล้วครับคุณแม่ ยังจะมีการคลุมถุงชนแบบนี้กันอีกเหรอ ยังไงผมก็ไม่ยอมเด็ดขาด" เขาไม่อยากจะเชื่อ ทุกวันนี้เทคโนโลยีก้าวหน้าจนมนุษย์แทบจะบินได้อยู่แล้ว แต่ครอบครัวของเขายังมีความคิดแบบโบราณ จับลูกสาวลูกชายมาคลุมถุงชน ทั้งๆที่ไม่เต็มใจ "หมั้นกันไว้ก่อน เพื่อความสบายใจของคุณย่า เรียนจบกลับมา เพชรค่อยมาคุยเรื่องนี้อีกครั้งก็ได้นี่ลูก" พลอยใสพยายามเกลี้ยกล่อมลูกชาย ให้หมั้นหมายกับผู้หญิงที่คุณย่าได้เลือกเอาไว้ก่อนสิ้นลม ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกทางจมูกอย่างหงุดหงิด เพราะเห็นแก่คุณย่าที่เลี้ยงดูมาหรอกนะ เขาถึงยอม "ก็ได้ครับ แต่กลับมาเมื่อไหร่ ผมจะถอนหมั้นทันที" ชายหนุ่มบอกคนเป็นแม่อย่างนั้น ก่อนจะยอมเข้าพิธิหมั้นและบินไปเรียนต่างประเทศในวันต่อมา... สองปีผ่านไป... "อลิซจะไปหาป้าพลอยแต่งตัวให้มันเรียบร้อยกว่านี้หน่อย ไม่ได้หรือลูก" มาริสาติงการแต่งตัวของลูกสาว เพราะอลิซาเบธใส่แค่เสื้อครอปแขนกุดเอวลอย และสวมเกงเกงยีนส์ขาดๆเหมือนสาวสก๊อยไม่มีผิด ดูแล้วมันไม่งาม เธอกลัวว่าผู้ใหญ่ทางนั้นจะติติง "ป้าพลอยไม่ว่าอะไรหรอกค่ะแม่ แดดเมืองไทยร้อนขนาดนี้ ให้ใส่แบบแม่ชีอึดอัดตาย" เธอหันไปบอกคนเป็นแม่ก่อนจะเดินไปหยิบกุญแจรถคันโปรดของตัวเอง "แม่ว่าให้ลุงฉลองขับไปส่งไหมลูก ขับมอเตอร์ไซส์ไปอย่างนั้นมันอันตราย" นั่นนอกจากจะเป็นห่วงเรื่องแต่งตัวยังเป็นห่วงเรื่องการขับรถของเธออีก "ปีนี้อลิซอายุยี่สิบสามแล้วนะคะแม่ เรียนจบปริญญาตรี มีใบขับขี่แล้วค่ะ"เธอเตือนความจำมาริสา เพราะว่ากี่ปีๆคุณแม่ของเธอก็คอยห่วงเหมือนเป็นเด็กๆและในขณะนั้นเอง ไต้ฝุ่นคุณพ่อสุดหล่อซึ่งปีนี้อายุย่างห้าสิบแปด เดินเข้ามาโอบกอดภรรยาก่อนจะบอกกับเธอว่า "อย่าไปจุกจิกกับลูกมากเลยน่ะคุณ อลิซโตเป็นสาวแล้วนะ เขาดูแลตัวเองได้" "แต่ว่า.." มาริสายังจะเถียงสามี แต่ทว่าไต้ฝุ่นทำท่าจุ๊ปากใส่ภรรยา ก่อนจะหันไปพูดกับอลิซาเบธว่า "รีบไปเถอะลูกเดี๋ยวสาย พ่อฝากสวัสดีคุณลุงคริสกับป้าพลอยด้วยนะ" "ค่ะคุณพ่อ งั้นอลิซไปก่อนนะคะ" เธอเข้าไปหอมแก้มคุณพ่อคุณแม่ก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อหนังตัวโปรด และเดินออกจากบ้านไป "จะไปไหนอ่ะเจ๊ แต่งตัวเท่เชียว" อเล็กซานเดอร์น้องชายวัยยี่สิบปีของอลิซาเบธ เห็นหญิงสาวสวมหมวกกันน็อก ก่อนจะก้าวขาขึ้นบิ๊คไบค์คันใหญ่อย่างคล่องแคล่ว เธอชอบขับมอเตอร์ไซส์คันใหญ่ และแต่งตัวเหมือนสก๊อย แต่อันที่จริงอลิซาเบธเป็นกุลสตรีร้อยเปอร์เซ็น หมายความว่าเธอไม่ใช่ทอมบอย แต่ออกจะติดห้าวนิดหน่อย เพราะตอนเด็กๆชอบตามคุณพ่อไปที่สนามแข่งรถ จนชอบความเร็วเป็นชีวิตจิตใจ "ไปบ้านป้าพลอยอ่ะ เดี๋ยวตอนเย็นๆจะกลับ" "ไปหาคู่หมั้นอ่ะดิ ได้ข่าวว่าพี่เพชรกลับมาแล้วนี่" คำพูดของน้องชาย ทำให้อลิซาเบธถอดหมวกกันน็อกออกจากศรีษะทันที "เล็กรู้ได้ยังไง" หญิงสาวหันไปถามน้องชาย พลางความรู้สึกน้อยใจ มันก็จู่โจมขึ้นมาในอก ตั้งแต่เพชรกล้าไปเรียนที่ต่างประเทศ เขาไม่เคยติดต่อเธอมาเลย แถมกลับมายังไม่ส่งข่าวให้รู้อีกต่างหาก "ก็ผมเห็นสเตตัสเช็คอินที่สุวรรณภูมิ นี่อย่าบอกนะว่าพี่ไม่รู้" คำตอบของน้องชายสุดที่รัก ทำให้อลิซาเบธหันหน้าหนีทันที เธอกำลังน้อยใจใครบางคนจนแทบอยากจะร้องไห้ออกมา ก็เขาหายไปเลย ส่งข้อความไปก็ไม่เคยตอบ อลิซาเบธ จึงเลิกติดตามอินสตาแกรมของคู่หมั้น จนกระทั่งตอนนี้เธอจึงไม่รู้ข่าวคราวความเคลื่อนไหวของเขาเลย "อือ ขอบใจนะ เล็กเข้าบ้านเถอะ" เธอบอกน้องชายก่อนจะสวมหมวกกันน็อก และขับบิ๊กไบค์คันใหญ่ออกจากบ้านทันที ส่วนอีกทางด้านหนึ่ง รถตู้คันหรูกำลังขับพาคุณชายของบ้านเลี้ยวเข้าไปในซอยลึกซึ่งเป็นทางกลับคฤหาสน์ ของพวกเขา แต่ทว่าในระหว่างทางประมาณสามร้อยเมตรก่อนจะถึงตัวบ้าน ดันมีบิ๊คไบค์คันใหญ่ขับปาดหน้าในระยะกระชั้นชิด เอี๊ยด!! เสียงเบรคดังสนั่น พร้อมกับเสียงล้อรถครูดกับถนน จนคนที่กำลังนั่งมองวิวรอบๆก่อนจะถึงบ้านของตัวเองอย่างเพลิดเพลินตานั้น ถึงกับตกใจ "มีอะไรหรือมาโนช" เขาหันไปถามบอดี้การ์ดของคุณพ่อพลางจ้องมองไปที่บิ๊คไบค์คันใหญ่นิ่งๆ ดูจากรูปร่างแล้ว คนขับบิ๊คไบค์คันนั้น น่าจะเป็นผู้หญิงแต่ทำไมขับซิ่งขนาดนี้นะ ชายหนุ่มเพียงแค่มองนิ่งๆไม่ได้นึกกลัวอะไร แต่ทว่าบอดี้การ์ดคุณพ่อของเขานั้น ชักปืนออกมาเตรียมพร้อมทันที "มีคนขับมอเตอร์ไซปาดหน้าครับคุณเพชรร" มาโนชหันไปบอกลูกชายของเจ้านาย พร้อมชักปืนที่เหน็บเอวทำท่าเตรียมพร้อม เรื่องศัตรูรุกราน เรื่องคนรอบทำร้าย มันเป็นเรื่องธรรมดาของพวกมาเฟีย ทว่าบิ๊คไบค์คันนั้น ทำไมมันดูคุ้นจังพอเจ้าของรถถอดหมวกกันน็อกออกเท่านั้น "คุณหนูอลิซ! " มาโนชอุทานออกมาเสียงหลง ก่อนจะหันไปบอกลูกชายเจ้านายว่า "คู่หมั้นของคุณเพชรน่ะครับ ชอบเล่นอะไรแผงๆอยู่เรื่อย เกือบโดนส่องไปแล้วไหมล่ะ" พูดพลางเก็บปืนไว้ที่เดิม ชายหนุ่มนักเรียนนอกที่นั่งอยู่ในรถ มองดูคู่หมั้นสาวที่ไม่ได้เจอกันมานานหลายปี กำลังจ้องมองมาที่เขานิ่งๆ หัวใจของเพชรกล้ามันเต้นกระตุกอยู่เล็กน้อย อลิซาเบธโตเป็นสาวแล้ว แถมยังน่ารักแบบสุดๆชายหนุ่มเผลอมองจนตาค้าง ก่อนจะเรียกสติตัวเองคืนมาและสบถเบาๆว่า "ไม่มีมารยาท ท่าทางเหมือนเด็กสก๊อยไม่มีผิด" : : : ท่าทางเหมือนเด็กสก๊อย แต่เผลอมองจนตะลึง ย้อนแย้งนะคะพี่เพชร"แกต้องไปง้อหนูอลิซให้ได้ ทำยังไงก็ได้ ให้เขายอมแต่งงานกับแก ถ้าแกไม่สามารถง้อหนูอลิซาคืนมาได้ ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าพ่อ" คริสเตียนโน่ระเบิดอารมณ์ใส่ลูกชายทันทีที่มาถึงบ้าน เขาจะไม่ยอมให้แผนการทุกอย่างที่วางเอาไว้ ล้มไม่เป็นท่าอย่างนี้!"แต่คุณพ่อครับ ผมไม่ได้รักอลิซาเบธนะครับ จะให้ไปตามง้อ และแต่งงานกับเธอได้ยังไง""บ้ะ ไอ้ลูกคนนี้นี่ ความรักมันกินได้ซะที่ไหน พ่อสร้างทุกอย่างเอาไว้ให้แกแล้วนะโว้ย หากไม่คิดที่จะสานต่อ ก็ออกจากบ้านหลังนี้ไปเลย!" คริสเตียนโน่โมโหจนฟิวส์ขาด เผลอไล่ลูกชายคนเดียวออกจากบ้าน ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขากับคุณแม่วางแผนเอาไว้ ที่ดินแปลงงามบนทำเลทองขนาดนั้น มันจะปล่อยให้หลุดมือไปได้ยังไง ส่วนเพชรกล้า พอโดนคุณพ่อไล่ออกจากบ้าน ชายหนุ่มเสียใจมาก เขาคว้ากุญแจรถสปอร์ตคันโปรด และขับมากินเหล้าที่ไนท์คลับ ที่อยู่ในตัวเมือง "ทำไมพ่อไม่เคยรักกูเลยวะ" มาระบายให้เพื่อนฟัง เพราะมีปมในใจตั้งแต่เด็ก 'ว่าพ่อไม่รัก' พ่อไม่ต้องการเขา พ่อทิ้งตัวเองตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ หากไม่กลายเป็นหมันจนมีลูกไม่ได้ คริสเตียนโน่คงไม่รับเขากับแม่เข้ามาดูแล คนมันมีปมในใจ เคยมีปัญหาภายในครอบครัว สิ่งเห
สิบห้านาทีต่อมา อลิซาเบธเดินเข้ามาในห้องรับแขกด้วยใบหน้าอันซีดเซียว ถึงจะปกปิดรอบดวงตาด้วยคอลซิลเลอร์ แต่มันก็ปรากฏรอยบอบช้ำให้เห็นอยู่ดี"มาแล้วเหรอลูก มานั่งนี่สิ พี่เพชร ป้าพลอยกับลุงคริส มารอตั้งนานแล้ว" มาริสาบอกลูกสาว อลิซเบธจึงเดินเข้าไปพนมมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสอง และรักษามารยาท ด้วยการยกมือไหว้คนตัวสูง ที่นั่งอยู่ตรงนั้นด้วย"สวัสดีค่ะพี่เพชร" อลิซาเบธเป็นฝ่ายทักทาย ทำให้คนหน้านิ่ง ที่โดนบังคับมานั้น หันมามองอย่างเสียไม่ได้พลันสองสายตาสบประสานกัน แววตาของชายหนุ่มไหววูบอยู่เล็กน้อย เมื่อมองเห็นรอยช้ำตรงขอบตา ก่อนที่จะหันหน้าหนีเหมือนเดิม เขาไม่อยากจะยอมรับความผิดอะไรทั้งนั้น และไม่อยากจะยอมรับการแต่งงานที่จะเกิดขึ้นโดยไม่เต็มใจ"เพชร น้องทักทายน่ะลูก" พลอยใสหันไปสะกิดลูกชาย ก่อนที่เขาจะยกมือรับไหว้อย่างเนือยๆ ทุกอย่างถูกบันทึกอยู่ในความรู้สึกของอลิซาเบธทั้งหมด และวันนี้ เธอเลือกแล้ว ว่าจะคืนแหวนให้เขาไป"ลุงคริสกับป้าพลอยจะมาคุยเรื่องแต่งงานน่ะลูก ก็อย่างที่ตกลงกันไว้ไง ว่าหลังจากเรียนจบ ลูกทั้งสองต้องแต่งงานกัน" มาริสาบอกกับลูกสาวและคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร เพราะเธอรู้ดีว่าอลิซาเบ
ตอนเย็นวันเดียวกัน หลังสามีกลับมาจากทำงาน พลอยใสจึงเล่าทุกอย่างให้คริสเตียนโน่ฟัง รวมทั้งเรื่องที่ลูกชายตัวดีปฏิเสธการแต่งงานกับผู้หญิง ที่ผู้ใหญ่หมั้นหมายเอาไว้อย่างอลิซาเบธ คริสเตียนโนได้ยินอย่างนั้นก็ควันออกหูทันที"แล้วตอนนี้ตาเพชรอยู่ที่ไหน" คนเป็นพ่อกวาดสายตามองหาลูกชายไปทั่วบ้าน ก่อนที่พลอยใสจะบอกว่า"เห็นบ่นว่านั่งเครื่องมาเหนื่อย เลยขึ้นไปนอนข้างบนค่ะ " เธอรีบรายงานสามี เพราะมีแต่คริสเตียนโน่เท่านั้นที่เพชรกล้าจะเชื่อฟัง"จำเนียร ไปเรียกคุณเพชรไปพบฉันที่ห้องทำงาน" พูดจบเขาก็เดินหงุดหงิดเข้าไปในห้องทำงานของตัวเองทันที ปกติคริสเตียนโน่ ก็เป็นคนน่ากลัวอยู่แล้ว พอเจอเรื่องไม่สบอารมณ์อย่างนี้ ยิ่งหน้ากลัวเข้าไปใหญ่ สิบห้านาทีต่อมา เพชรกล้าเดินเข้าไปในห้องทำงานของคุณพ่อ สองมือกำเข้าหากันแน่น ท่าทางเกร็งนิดๆแตกต่างจากการเผชิญหน้ากับคุณแม่ราวกับเป็นคนละคน เวลาใจดีคริสเตียนโน่ก็ดีใจหาย เวลาเขาใจร้ายเพชรกล้าก็ได้รับบทเรียนไปหลายครั้งเหมือนกัน เพราะฉะนั้น ชายหนุ่มจึงกลัวคุณพ่อมากกว่าคุณแม่"เห็นแม่บอกว่าเพชรอยากยกเลิกการแต่งงานอย่างนั้นหรือ" เขาพูดพลางจ้องหน้าลูกชาย ที่ตอนนี้เหงื่อเริ
อลิซาเบธถอดหมวกกันน็อก ก่อนจะมองจ้องทะลุกระจกรถด้านหน้าผ่านคนขับไปถึงคนข้างหลัง สองสายตาประสานกันนิ่งๆสายตาของอลิซาเบธมองชายอันเป็นที่รักอย่างตัดพ้อ อยากจะเข้าไปถามเหลือเกินว่าสองปีที่ผ่านมา ทำไมไม่ติดต่อกันบ้างเลย แต่พอเห็นสายตาเย็นชาของอีกคน เธอเปลี่ยนใจ สวมใส่หมวกกันน็อก และขับรถเข้าคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว อลิซาเบธนำรถบิ๊กไบค์คันใหญ่มาจอดที่หน้าตึกทรงยุโรปอย่างคุ้นเคย เธอมาที่นี่บ่อย เพราะสนิทกันกับพลอยใส และคุณแม่ของเพชรกล้าก็เรียกหาเป็นประจำ พลอยใสเอ็นดูอลิซาเบธมาก ไม่ใช่แค่พลอยใสสิที่เอ็นดูอลิซาเบธ จรรยาคุณย่าของเพชรกล้าก็เอ็นดูเธอเหมือนกัน เอ็นดูถึงขนาดสั่งเสียตอนป่วยหนัก ว่าอยากเห็นเด็กทั้งสองคนแต่งงานกัน ทั้งสองครอบครัวจึงจัดงานหมั้นแบบเรียบง่าย เพื่อให้ท่านสบายใจก่อนที่จะเสียชีวิต และก่อนที่เพชรกล้าจะไปเรียนต่อที่อเมริกา"อ้าว หนูอลิซ หนูอลิซมาแล้วเหรอลูก มาโนชกำลังไปรับพี่เพชรที่สนามบิน เดี๋ยวก็ได้เจอกันแล้วนะจ้ะ" พลอยใสรีบรายงานว่าที่ลูกสะใภ้ อยากจะเห็นรีแอ็คติ้งแบบดีใจ จนกระโดดโลดเต้น แต่ทำไมอลิซาเบธกลับทำหน้าเฉยๆเสียอย่างนั้น อลิซาเบธได้แต่ส่งยิ้มแห้งกลับไปเท่านั้น หญิง
"ผมไม่ยอมรับการคลุมถุงชนนะครับคุณแม่ "ชายหนุ่มอายุยี่สิบสี่ปีปฏิเสธการหมั้นหมาย กับผู้หญิงที่พ่อแม่หมายตาเอาไว้ให้แบบหัวชนฝา ถึงจะสนิทกับอลิซาเบธก็เถอะ แต่พอคิดถึงรูปร่างกลมๆของเธอแล้ว เขาวางสถานะให้เป็นแค่พี่น้องแบบเดิมจะดีกว่า ไม่อยากจะคิดถึงสถานะคู่หมั้น ที่ต้องร่วมหอลงโลงกันในอนาคตเลย แต่มันติดตรงที่ว่า พลอยใสเองก็ไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นเหมือนกัน"ทำไมล่ะเพชร ทำเพื่อความสบายใจของคุณย่าเป็นครั้งสุดท้ายไม่ได้เหรอ" พลอยใสพยายามเกลี้ยกล่อมลูกชาย เพราะตอนนี้คุณย่าของเขาป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้ จึงอยากเห็นสิ่งที่วางแผนเอาไว้ เดินไปถึงจุดมุ่งหมายเสียที แต่ทว่าหลานชายตัวดี ยังปฏิเสธเสียงแข็ง เขาจะไม่ยอมรับการแต่งงานกับยัยลูกเป็ดขี้เหร่อย่างแน่นอน"นี่มันสมัยไหนกันแล้วครับคุณแม่ ยังจะมีการคลุมถุงชนแบบนี้กันอีกเหรอ ยังไงผมก็ไม่ยอมเด็ดขาด" เขาไม่อยากจะเชื่อ ทุกวันนี้เทคโนโลยีก้าวหน้าจนมนุษย์แทบจะบินได้อยู่แล้ว แต่ครอบครัวของเขายังมีความคิดแบบโบราณ จับลูกสาวลูกชายมาคลุมถุงชน ทั้งๆที่ไม่เต็มใจ"หมั้นกันไว้ก่อน เพื่อความสบายใจของคุณย่า เรียนจบกลับมา เพชรค่อยมาคุยเรื่องนี้อีกค
Comments