"อลิซเสียใจไหม ที่ตกเป็นของพี่" เขาแกล้งถามหญิงสาว มือเรียวกำลังเกลี่ยผมที่ปรกผ้าผากของเธออย่างอ่อนโยน เขาทำเหมือนกับว่าเธอคือคนสำคัญที่สุดในชีวิต แล้วอย่างนี้ จะไม่ให้ใจอ่อนได้ยังไง
คนตัวเล็กซุกหน้ากับแผงอกที่มีซิกแพคแน่นๆของเขาอย่างเขินอาย จะพูดยังไงดีล่ะ อันที่จริงก็ไม่คิดว่ามันจะรวดเร็วขนาดนั้นหรอก แต่เป็นเพราะบรรยากาศมันเป็นใจ และฤทธิ์ไวน์ที่ดื่มเข้าไปนั้น มันทำให้หญิงสาวไม่ลังเลที่จะตามเขามาที่บ้านพักหลังนี้ และทุกอย่างมันก็เลยตามเลย " ไม่ค่ะ อลิซรักพี่เพชร " เธอแหงนหงายใบหน้างามขึ้นไปบอกกับเขา "แต่พี่ก็รู้สึกผิดนะ ที่ทำกับน้องอลิซอย่างนี้ ทั้งๆที่เรายังไม่ได้แต่งงานกัน พี่ว่ากลับไปกรุงเทพคราวนี้ เราจัดงานแต่งกันเลยดีไหม" เขาส่งสายตาแสดงความรู้สึกผิดต่อหญิงสาว ทั้งๆที่จริงแล้ว ทุกอย่างมันเป็นแค่แผนการ แผนการที่เขาจะได้ทรัพย์สมบัติของคุณย่าคืนมา หลังจากนั้น เขาก็จะหย่ากับเธอ ส่วนคนที่อยู่ในอ้อมกอดของเขานั้นกำลังพยักหน้ากับแผงอกกว้าง เธอใสซื่อเกินกว่าจะทันเล่ห์เหลี่ยมคนอย่างเขานัก แต่เพราะรักด้วยแหละหล่อนจึงยอมทุกอย่างไม่มีการลังเล หลายอาทิตย์ต่อมา @ กรุงเทพมหานคร สองหนุ่มสาวมาบอกข่าวดีกับพ่อแม่ทั้งสองฝ่าย พลอยใสดีใจจนเนื้อเต้น เมื่อเห็นว่าลูกชายคนเดียวจะได้แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝากับผู้หญิงที่ตัวเองเลือกเอาไว้ให้เสียที ส่วนพ่อแม่ของอลิซาเบธนั้น ถึงจะแปลกใจในการเปลี่ยนแปลงกระทันหันของเพชรกล้า แต่เพื่อความสุขของลูกสาวเขาจึงไม่คัดค้านอะไร แล้วอีกอย่างเงินกว่าสามพันล้าน มันก็ยากที่จะหามาคืนได้ทัน สามเดือนต่อมา การแต่งงานแแบบสายฟ้าแลบ ถูกจัดขึ้นภายในโรงแรมหรูระดับห้าดาว ซึ่งมีแต่แขกผู้ใหญ่ระดับบิ๊กๆทั้งนั้นที่มาร่วมงาน ก็ไต้ฝุ่นเป็นนักธุรกิจส่งออกระดับประเทศ เขาทำธุรกิจมาหลายปี เรียกว่ามีหน้ามีตาทางสังคม ส่วนทางคริสเตียนโน่ก็ไม่น้อยหน้า ถึงแม้ว่าธุรกิจของเขา มันจะเป็นธุรกิจสีเทาๆ แต่ก็มีคนนับหน้าถือตาไม่น้อยเหมือนกัน "วันนี้แกสวย เหมือนกับเจ้าหญิงเลยว่ะ" ไผ่หลิวเอ่ยชมเพื่อนสาวตอนอยู่ด้วยกันในห้องแต่งตัว ก็ชุดที่อลิซาเบธใส่อยู่นี้ มันเป็นผ้าลูกไม้ราคาแพงที่ส่งตรงมาจากปารีส พอสวมใส่อยู่ในตัวของหญิงสาวแล้ว สวยสง่าราวกับเจ้าหญิงที่ออกมาจากเทพนิยาย ผมของเธอถูกตกแต่งเป็นลอนสวยงามถักเปียเล็กๆรวบไว้ทางด้านหลัง และเสียบดอกไม้เล็กๆดูสวยงาม ส่วนใบหน้านั้นถูกตกแต่งอย่างปราณีตยิ่งมีรูปหน้าทรงไข่รับกับดวงตากลมโตของเธอแล้ว คืนนี้จึงเป็นคืนพิเศษ ที่อลิซาเบธสวยมากกว่าทุกคืน " ออกไปได้แล้วจ้ะสาวๆ ได้ฤกษ์แต่งงานแล้ว" มาริสาเข้ามาเรียกลูกสาวให้ออกไป เพราะในตอนนี้มันได้ฤกษ์งามยามดีสำหรับพิธีมงคล ซึ่งตีมงานในวันนี้จะจัดแบบไทยๆหลังจากตักบาตรและสวมแหวนหมั้นในช่วงเช้า ตอนนี้ก็จะเป็นพิธีรดน้ำสังข์ เพื่อความเป็นสิริมงคล อลิซเบธเดินลงมาตรงบันไดเวียนทรงโรมันเพื่อจะเดินไปหาเจ้าบ่าวที่ยืนรออยู่ตรงนั้น และเขาก็แหงนหน้าขึ้นมามองเธอพอดี หัวใจของชายหนุ่มเต้นเป็นจังหวะเพลงร็อค เมื่อเขาเห็นผู้หญิงที่นอนกอดมาหลายเดือน อยู่ในชุดเจ้าสาวแสนสวย มันเป็นชุดผ้าลูกไม้แขนยาว ชายกระโปรงฟูฟ่อง แต่เผยความเซ็กซี่เล็กๆโดยการผ่ากลางหน้าอกแต่พองาม ถึงมันจะผ่าเล็กๆก็เถอะ แต่หน้าอกอวบอิ่มขาวผ่องสองข้างที่เขามองเห็นอยู่นั้น มันก็ทำให้ลำคอแห้งผากได้เหมือนกัน "มองขนาดนี้ กูว่าไม่มีการหย่าแล้วมั้ง" คฑาแซวเพื่อน เมื่อมองเห็นแสงวิววับจากสายตาของชายหนุ่ม คำพูดของคนข้างๆทำให้เมธินีร้อนรนจนแทบจะทนไม่ไหว เพราะเธอก็เห็นอย่างนั้นเหมือนกัน และอีกอย่างตั้งแต่เพชรกล้าเตรียมงานแต่งกับอลิซาเบธ เขาก็ไม่เคยโทรหาเธออีกเลย ' แล้วอย่างนี้ เขาจะหย่าขาดจากกันหรือ ' หญิงสาวเริ่มวิตกกังวล พลางกำมือถือในมือเอาไว้แน่น เธอมีข้อมูลบางอย่างอยู่ในนี้ หากเพชรกล้าไม่ยอมหย่ากับผู้หญิงคนนั้น เธอจะเป็นคนทำให้ทั้งคู่หย่าขาดจากกันเอง แต่ถึงจะคิดอย่างนั้น เมธินีก็ยังเดินไปหา พร้อมส่งยิ้มไปให้อลิซาเบธอย่างเป็นมิตร แต่เป็นยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตา " ยินดีด้วยนะคะ" " ขอบคุณค่ะ" อลิซาเบธยิ้มตอบ เพราะเคยเจอผู้หญิงตรงหน้าสองสามครั้ง ตอนคุยงานด้วยกัน เพราะอีกไม่นานโรงแรมก็จะเปิดให้บริการ และมาเก็ตติ้งที่เพชรกล้าเลือกเอาไว้ ก็คือเมธินี คนนี้นั่นเอง เพชรกล้าเป็นคนเสนอเมธินีให้มาทำตำแหน่งมาเก็ตติ้งของโรงแรม เขาบอกว่าตอนเรียนอยู่ที่อเมริกานั้นเธอทำงานพิเศษเกี่ยวกับการตลาดให้กับโรงแรมหลายแห่ง และมีคอนแทคนักท่องเที่ยวอยู่ในมือ อลิซาเบธก็เห็นด้วยกับเขา เพราะดูจากบุคลิคที่ดูมั่นใจของผู้หญิงตรงหน้า คงสามารถหาลูกค้าเข้ามาพักในโรงแรมได้อย่างมากมาย "เชิญตามสบายนะคะ" อลิซาเบธเอ่ยขอตัวกับผู้หญิงตรงหน้า ก่อนจะยื่นมือให้เพชรกล้า จูงขึ้นไปบนเวที ทั้งคู่นั่งให้ผู้ใหญ่รดน้ำสังข์เหมาะสมกันดั่งกิ่งทองใบหยก แขกเหรื่อที่มาร่วมงานวันนี้ ต่างก็พูดถึงเจ้าสาวเจ้าบ่าวอย่างชื่นชม ผิดกับ 'เมธินี' เธอเอาแต่มองขึ้นไปบนเวทีด้วยความอิจฉาริษยา ริษยาอลิซาเบธที่ได้แต่งงานกับเพชรกล้า ผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงนั้น มันควรจะเป็นเธอมากกว่า หญิงสาวหยิบแชมเปญขึ้นมาดื่มแก้วต่อแก้ว จนคฑาต้องห้ามปราม "เมนี่ เราว่าเธอดื่มมากเกินไปแล้วนะ " คฑาพยายามแย่งแก้วใบนั้นจากมือของหญิงสาว "อย่ามายุ่งน่ะ วันนี้จะดื่มฉลองให้ผัวเก่าซะหน่อย" เธอเผลอพูดเรื่องความหลังออกมา ทั้งๆที่เรื่องของเธอกับเพชรกล้า มันผ่านไปตั้งนานแล้ว และตอนนี้สถานะเธอกับเขา เป็นเพียงแค่เพื่อนกัน "นี่เธอยังไม่เลิกพูดถึงเรื่องนี้อีกเหรอเมนี่" เมื่อคำว่าผัวเก่าหลุดออกจากปากเมธินี มันก็ทำให้คนที่อยู่เคียงข้างเธอมาตลอด ใบหน้าตึงขึ้นมาเหมือนกัน "นี่อย่าบอกนะว่า ที่ดื่มจนเมาขนาดนี้ เพราะเมนี่อยากจะกลับไปหามัน" "แล้วทำไมเมนี่จะกลับไปไม่ได้ เดี๋ยวอีกหน่อยเขาก็เลิกกัน" "นี่เธอหูหนวกตาบอดหรือไงวะเมนี่ ไอ้เพชรมันมองเมียตาเชื่อมขนาดนั้น เขาจะเลิกกันได้ยังไง" คำพูดของผู้ชายข้างๆทำให้เมธินี จับแก้วแชมเปญในมือเอาไว้แน่น หากว่าเพชรกล้าไม่ยอมหย่า เหมือนที่เคยพูดเอาไว้ เธอนี่แหละ จะทำให้ทั้งคู่เลิกกันเอง งานแต่งสุดหรูดำเนินไปจนกระทั่งถึงตอนกินเลี้ยง ตอนนี้ทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ออกมาต้อนรับแขก อลิซาเบธอยู่ในชุดเดรสเปิดไหล่สีขาว ส่วนเจ้าบ่าวของเธอก็อยู่ในชุดทักซิโด้สีขาวเหมือนกัน ทั้งสองคนเดินทักทายแขกเหรื่อไปทั่วงาน จนกระทั่งเดินพูดคุยกับแขกหลายชั่วโมงผ่านไป อลิชขอตัวจากกลุ่มแขกในงานเลี้ยง พร้อมรอยยิ้มสุภาพ เธอจับชายกระโปรงพลิ้วไหวแล้วเดินออกจากห้องจัดเลี้ยงไปยังห้องน้ำ ทิ้งเสียงเพลงคลอเบา ๆ และเสียงหัวเราะไว้เบื้องหลัง ทว่าในเงามืดของเสาฉากหนึ่ง เมธินีจ้องตามเธอไปด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยแรงอาฆาต “นี่คือโอกาสเดียว... ฉันจะปล่อยให้เธอได้ครอบครองเพชรไปไม่ได้เด็ดขาด ยัยอลิช!” เมธินีคำรามเสียงรอดไรฟัน ไม่รอช้า เมธินีรีบสาวเท้าเดินตามไป เธอเดินเร็วขึ้นเรื่อย ๆ จนมาหยุดอยู่หน้าห้องน้ำหญิง ทว่า...เมธินีถือแก้วแชมเปญในมือหนึ่ง ก่อนจะคว้าแขนของเพชรกล้าอย่างถือวิสาสะ แล้วลากเขาไปยังมุมหนึ่งของห้อง ซึ่งเต็มไปด้วยกลุ่มเพื่อนเก่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัย โดยมีอลิซาเบธที่มองตามไปจนสุดสายตา“เพชร! นายหายเงียบไปเลยนะ” หนึ่งในเพื่อนชายยิ้มแซว ก่อนจะพูดขึ้นเสียงดังโดยไม่ทันสังเกตว่าเสียงของตนดังเกินความจำเป็น “นี่มันแต่งงานสายฟ้าแลบเลยนะโว้ย!”อีกคนหัวเราะเสริม “ตอนแรกก็นึกว่าแต่งกับคู่จิ้นสมัยเรียนที่พวกเราเชียร์กันสุดใจ ที่แท้เป็นคนนี้เหรอ… ไม่อยากจะเชื่อเลย!” พูดพลางหันไปทางเมธินี เพื่อนๆในกลุ่มต่างรู้กันว่า สองคนนี้เป็นคู่จิ้นกัน ถึงขนาดไปเรียนที่อเมริกา เขายังหอบหิ้วเธอไปด้วยสว่นเพชรกล้าเขาแค่ยิ้มบาง ๆ รับคำแซว แต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ในตอนนี้ชายหนุ่มไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เขาสนแค่แผนการเอาคืนทุกอย่าง ที่จะเริ่มต้นในเร็ววันไม่ไกลจากตรงนั้น อลิซาเบธยืนอยู่หลังเสาใกล้ ๆ เธอไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟัง... แต่ทุกคำพูดที่ลอดออกมา มันกรีดหัวใจของหญิงสาวจนเจ็บชา“ที่แท้… เขาเคยมีใครในใจอยู่แล้ว…” เธอยิ้มเจื่อน พยายามไม่ให้น้ำตารื้นขึ้นมาในงานแต่งของตัวเอง มือเล็กกำชายกระโปรงเอาไว้แน่น แต่ก็ไม่กล้า
เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้น ก่อนที่บานประตูจะเปิดออก อลิซาเบธเดินออกมาพอดี ใบหน้าหน้าสวยเปล่งประกายอย่างเจ้าสาวผู้กำลังมีความสุข วันนี้เป็นวันที่อลิซาเบธมีความสุขมากที่สุด ได้เข้าพิธิแต่งงานกับชายอันเป็นที่รัก เหมือนดั่งในฝันของเธอ ส่วนอีกคนที่เฝ้าดูอยู่นั้น ดวงตาจับจ้องร่างงามด้วยความอิจฉา ก่อนจะรวบรวมอารมณ์ร้ายทั้งหมด ใส่รอยยิ้มที่ดูเหมือนจริงใจเข้าไปบนใบหน้า และเดินเข้าไปหาเธอ"คุณอลิซคะ" เสียงเธอหวาน ราวกับว่าไม่ได้มีอะไรในใจแม้แต่น้อย ทำให้อลิซหยุดมองผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้า ก่อนจะยิ้มกว้างออกมา มันเป็นรอยยิ้มที่สดใสจริงใจ อย่างที่ไม่ได้คิดร้ายกับคนตรงหน้า และถามเธอว่า“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณเมนี่” อลิซาเบธรอฟังว่าเมธินีอยากอะไรจะคุยกับเธอ "ฉันขอคุยอะไรกับเธอหน่อยได้ไหม? เรื่องสำคัญมาก... ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินไป" เมธินีตอบด้วยท่าทางที่จริงจังเป็นอย่างมาก ทำเอาอลิซาเบธถึงกับหุบยิ้มลงทันที ผู้หญิงคนนี้อยากจะพูดอะไรกับเธอ? หญิงสาวคิดอย่างสงสัย แต่ก็พยักหน้ากลับไปก่อนจะถามอีกครั้งว่า "มีอะไรเหรอคะ?" “คุณอลิซคงรักเพชรมากสินะคะ แต่คุณรู้อะไรไหมคะว่าในความรักของคุณนั้น....”
"อลิซเสียใจไหม ที่ตกเป็นของพี่" เขาแกล้งถามหญิงสาว มือเรียวกำลังเกลี่ยผมที่ปรกผ้าผากของเธออย่างอ่อนโยน เขาทำเหมือนกับว่าเธอคือคนสำคัญที่สุดในชีวิต แล้วอย่างนี้ จะไม่ให้ใจอ่อนได้ยังไง คนตัวเล็กซุกหน้ากับแผงอกที่มีซิกแพคแน่นๆของเขาอย่างเขินอาย จะพูดยังไงดีล่ะ อันที่จริงก็ไม่คิดว่ามันจะรวดเร็วขนาดนั้นหรอก แต่เป็นเพราะบรรยากาศมันเป็นใจ และฤทธิ์ไวน์ที่ดื่มเข้าไปนั้น มันทำให้หญิงสาวไม่ลังเลที่จะตามเขามาที่บ้านพักหลังนี้ และทุกอย่างมันก็เลยตามเลย" ไม่ค่ะ อลิซรักพี่เพชร " เธอแหงนหงายใบหน้างามขึ้นไปบอกกับเขา"แต่พี่ก็รู้สึกผิดนะ ที่ทำกับน้องอลิซอย่างนี้ ทั้งๆที่เรายังไม่ได้แต่งงานกัน พี่ว่ากลับไปกรุงเทพคราวนี้ เราจัดงานแต่งกันเลยดีไหม" เขาส่งสายตาแสดงความรู้สึกผิดต่อหญิงสาว ทั้งๆที่จริงแล้ว ทุกอย่างมันเป็นแค่แผนการ แผนการที่เขาจะได้ทรัพย์สมบัติของคุณย่าคืนมาหลังจากนั้น เขาก็จะหย่ากับเธอส่วนคนที่อยู่ในอ้อมกอดของเขานั้นกำลังพยักหน้ากับแผงอกกว้าง เธอใสซื่อเกินกว่าจะทันเล่ห์เหลี่ยมคนอย่างเขานัก แต่เพราะรักด้วยแหละหล่อนจึงยอมทุกอย่างไม่มีการลังเลหลายอาทิตย์ต่อมา @ กรุงเทพมหานครสองหนุ่มสาว
"อือ" เสียงหวานครางกระเส่า เมื่อโดนฝีปากร้อน ทาบทับไปทุกสัดส่วน เพชรกล้าตั้งใจปลุกเร้าหญิงสาวให้เคลิบเคลิ้มไปกับการล่อลวงของเขา หลังจากพรุ่งนี้ทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนการ อ้ะ! ร่างน้อยสะดุ้งตกใจ เมื่อกลางกายสาวถูกล่วงล้ำเป็นครั้งแรก นิ้วเรียวแทรกอยู่ตรงกลางรอยแยกตรงกลีบสวย แต่แล้วชายหนุ่มก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อรู้สึกถึงความคับแน่นข้างใน มันปิดสนิทเหมือนไม่เคยผ่านมือใครมาก่อนเลย หรือเขาจะเปลี่ยนใจตอนนี้ดี ชายหนุ่มเริ่มลังเล ไม่อยากจะทำร้ายเธอมากไปกว่านี้ ไม่อยากจะล่อลวงหากว่าอีกฝ่ายยังไม่เคย ชายหนุ่มกำลังจะลุกออกจากร่างน้อยที่เขาเล้าโลมมากว่าครึ่งชั่วโมงแต่ทว่า..หมับ! มือเรียวจับคว้าต้นแขนเขาเอาไว้ พร้อมส่งสายตาเว้าวอน เธอกำลังเคลิบเคลิ้ม กำลังลุ่มหลงในไฟพิสวาสที่กำลังลุกโชนอยู่ตอนนี้ และเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่มันอยู่ในร่างกาย ทำให้สาวน้อยใจกล้า ทำอะไรอย่างที่ไม่เคยทำ เมื่ออลิซาเบธพยุงตัวขึ้นเพื่อแลกจูบกับชายหนุ่มเสียเอง"อืมมม" เสียงครางดังออกมาจากลำคอแกร่ง เมื่อนักเรียนที่เขาพึ่งสอนมาหมาดๆส่งลิ้นเล็กกวาดต้อนลิ้นใหญ่ของเขาอย่างน่ารัก พร้อมกับเบียดตัวเข้าหาร่างใหญ่อย่างไม่เกรงกลัว 'ถ
หลังหายไปจากพัทยาหลายวัน ไผ่หลิวกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับแปลนออกแบบทั้งหมด เพื่อนำมาเสนอเจ้าของโครงการอย่างอลิซาเบธและเพชรกล้า และตอนนี้หญิงสาวนักออกแบบร่างเล็กแต่ท่าทางคล่องแคล่วพูดจาฉะฉาน กำลังเปิดภาพจากวีดีโอ แสดงถึงการออกแบบจัดวางเฟอร์นิเจอร์ในจุดต่างๆของโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ในห้องนอน ห้องอาหาร รวมทั้งในส่วนของเค้าท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ทางโครงการก็ให้ความไว้วางใจ บริษัทของนพคุณเป็นผู้ออกแบบและติดตั้งให้ทั้งนั้น เรียกได้ว่ากินรวบตั้งแต่ก่อสร้างยันออกแบบภายในสายตาคมกริบของเพชรกล้า กำลังไล่ดูการออกแบบอย่างสนใจ ถึงแม้ในใจของเขาจะมีอคติและคิดหมั่นไส้ลูกชายเจ้าของบริษัทอย่างนพคุณ แต่ก็ต้องยอมรับว่า การออกแบบเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งภายในของไผ่หลิวนั้นมันดูเรียบหรูทันสมัย และเหมาะแก่การใช้งานในทุกฟังก์ชั่น อย่างปฏิเสธไม่ได้เลย"ออกแบบดีมากครับ มันดูทันสมัยเหมาะกับการใช้งานทุกอย่าง ทั้งโทนสีและรูปแบบ ผมเอาตามนี้ก็แล้วกัน" เขาหันไปบอกสาวร่างเล็กที่กำลังยิ้มแป้นจนตาหยี ในที่สุดงานแรกของเธอก็ผ่านเสียที แถมได้ทำโครงการใหญ่หลายพันล้านทั้งๆที่พึ่งจะเรียนจบมา"จริงหรือคะคุณเพชร งานของหลิวผ่
หลายอาทิตย์ต่อมาหลังจากตรวจสอบโครงสร้างตึกเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นขั้นตอนตกแต่งภายใน และบริษัทของนพคุณมีบริการครบวงจรตั้งแต่ก่อสร้างตึก จนถึงตกแต่งภายใน แต่ทว่างานตกแต่งภายในนี้ เขาไม่ได้มาดูแลด้วยตัวเอง แต่ส่งมัณฑนากรหรือว่านักออกแบบมาแทน และมัณฑนากรที่มารับงานนี้ก็คือไผ่หลิว เพื่อนสาวของอลิซาเบธนั่นเอง ทำให้หลายวันที่ผ่านมานี้เพชรกล้าหายใจคล่องคอขึ้นมาก เพราะไม่มีก้างมาขวางคอ แต่ถึงแม้ว่า ไม่มีนพคุณอยู่ตรงนี้ อลิซาเบธก็ยังไม่เปิดโอกาสให้เขาอยู่ดี เธอจะคุยกับเขาเฉพาะเรื่องงานเท่านั้น นอกนั้นก็จะถามคำตอบคำ ชวนไปเที่ยวข้างนอกก็ไม่เคยไป แม้กระทั่งชวนไปทานอาหารข้างๆโรงแรม เธอยังไม่เคยไปกับเขาเลย แต่เพชรกล้าไม่รู้หรอกว่า จริงๆอลิซาเบธใจอ่อนมานานแล้ว แต่ที่ทำอยู่ทุกวันนี้ เธอก็แค่เก็บทรงและกำลังลองใจเขาอยู่แค่นั้นเอง เหมือนอย่างตอนนี้ที่เลือกสีผ้าม่านกับไผ่หลิว เธอก็ลอบมองคนตัวโตตลอดเวลา" ฮันแน่ แอบมองอีกแล้วนะ แต่ก็อย่างว่าแหละ พี่เพชรหล่อขนาดนั้น ฉันอิจฉาแกจริงๆ " ไผ่หลิวแอบกระซิบกระซาบเพื่อนรัก พลางชะเง้อคอมองชายหนุ่มร่างสูง ที่กำลังเทียบสีของผ้าม่านอยู่อีกมุมอลิซาเบธหันไปดูคนตัวโ