Share

เล่ห์แค้นจินฉาน
เล่ห์แค้นจินฉาน
Penulis: lianlian

บทนำ

Penulis: lianlian
last update Terakhir Diperbarui: 2025-05-11 18:47:57

รัชศกอันหย่งที่ 15 แห่งต้าเจวียน เกิดสงครามระหว่างต้าเจวียนและป๋ายอี้ อาณาจักรเล็กๆ ที่เกิดจากการรวมตัวกันของชนเผ่าหลายชนเผ่า ซึ่งเป็นรัฐบรรณาการของต้าเจวียนมาแต่โบราณ ด้วยเหตุจากที่ผู้นำแห่งป๋ายอี้ จินเช่อ ได้นำป๋ายอี้เอาใจออกห่างต้าเจวียน สวามิภักดิ์กับแคว้นเหลียนที่อยู่ใกล้กัน ต้าเจวียนจึงส่ง อู่เฉิงอ๋อง อนุชาของฮ่องเต้มาเป็นทูตเจรจาและตักเตือนเพื่อให้เปลี่ยนใจ แต่ป๋ายอี้กลับสังหารอู่เฉินอ๋อง ฮ่องเต้เลือดขึ้นจึงกองทัพนับแสนปราบปรามป๋ายอี้

ทว่าดั่งไข่กระทบหิน...ผลที่ได้คือความย่อยยับอัปราชัยของอาณาจักรป๋ายอี้ที่แข็งข้อ กระนั้นการศึกสงครามดำเนินไปอย่างโหดเหี้ยมทารุณ เลือดนองถั่งท้นพสุธา ได้รับความเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า ชายถูกฆ่าอย่างไร้ความปรานี สตรีและดรุณีวัยแตกเนื้อสาวถูกทหารย่ำยี เด็กน้อยตาดำๆ พลัดพรากจากอกบิดามารดา บ้านเมืองเสียหายมหาศาลมิอาจประเมินค่า อาณาประชาราษฎร์แตกกระสานซ่านเซ็นราวแมลงวันที่ไร้หัว เรียกว่าจวนเจียนจะล่มสลายสิ้นชาติ

ในรัชศกอันหย่งที่ 17 ผู้นำแห่งป๋ายอี้ที่สู้จนสุดทางถอยอับจนหนทาง จำยอมกลืนเลือดลงคอ กลืนความอัปยศยอมสวามิภักดิ์ต้าเจวียนตามเดิม เพื่อความสงบสุขของป๋ายอี้ โดยครานี้ป๋ายอี้ต้องส่งบรรณาการเพิ่มเป็นสองเท่า ทั้งมณีรัตนชาติ งาช้าง แพรไหม เครื่องเทศสมุนไพร ทองคำ ที่ทางต้าเจวียนขูดรีดจากอาณาจักรที่เฉียดล่มสลายราวรีดเลือดจากปู...

แต่อันใดมิเหยียดหยามทำร้ายทำลายจิตใจได้เท่าการส่งองค์หญิงจินฉาน พระธิดาสุดที่รักของจินเช่อที่ต้องถวายตัวเป็นสนม

ขณะนั้นองค์หญิงเพิ่งอายุได้สิบแปดพรรษา ถ้าเปรียบเป็นดอกไม้ก็เป็นเพียงดอกตูมเต่งที่กลีบเพิ่งขึ้นสีระเรื่อรอวันผลิบาน ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เพิ่งได้รับรู้รสชาติอันหอมหวานของแรกรัก...กลับถูกพรากมาอยู่ในดินแดนที่นางรู้จักเพียงในตำราแผนที่ที่บิดาเคยวางทิ้งไว้ เป็นอาณาจักรที่นางมิเคยจะไปเหยียบย่างไปแม้แต่น้อย

............

วันที่พระสนมคนใหม่เข้าวัง ข้าราชบริพารในวังได้มีโอกาสติดสอยห้อยตามเหล่ากูกูมาแอบดูพระราชพิธีด้วย แม้อากาศจะหนาวเย็นเนื่องจากเป็นช่วงปลายฤดูหนาวเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ผลิ แต่ก็ไม่อาจห้ามความอยากรู้อยากเห็นของบรรดานางกำนัลขันทีไปได้

ขบวนบรรณาการของป๋ายอี้ปีนี้ดูยิ่งใหญ่อลังการ ไม่เหลือเค้าของอาณาจักรที่เพิ่งผ่านพ้นสงครามอันยาวนาน ริ้วธงหลากสีสดใสปลิวไสวท้าสายลมเหน็บหนาว บุรุษแต่งกายแปลกตา บางส่วนเปลือยท่อนบนอวดกล้ามเนื้อสมส่วน มีเพียงสายทองคำคล้องไหล่สะพายแล่ง มีทับทิมแดงเม็ดโตประดับเด่นสะดุดตา อีกทั้งกางเกงที่สวมก็ดูแปลกตาเกินกว่าที่จะได้เห็นได้จากแผ่นดินต้าเจวียน ทางด้านสตรีของป๋ายอี้เองก็การแต่งกายก็ประหลาดไม่ต่างกัน ล้วนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าแปลกตา โดยเฉพาะองค์หญิงจินฉาน นางสวมเสื้อป้ายแขนกระบอกสีชมพูอ่อนที่ใช้เชือกผูกแทนกระดุมยาวคลุมสะโพกพอดีตัว ขับเน้นส่วนสัดที่อกอัดเอวคอด กระโปรงก็ไม่ได้ยาวลากพื้นแบบที่สตรีชนชั้นสูงของต้าเจวียนนิยมใส่ กลับเป็นกระโปรงทรงแคบยาวกรอมเท้าที่ขมวดเป็นปมด้านหน้า คาดด้วยเข็มขัดทองที่ฉลุลวดลายสวยงามตระการเพื่อไม่ให้เลื่อนหลุด ยามที่เคลื่อนไหวชายกระโปรงแหวกออกเล็กน้อยเผยให้เห็นเท้าเปล่าเปลือยขาวเนียนและกำไลข้อเท้าทองคำเนื้อสุกปลั่งเส้นหนาไม่แพ้กำไลข้อมือ ทั้งกำไลทองเนื้อเกลี้ยงและกำไลเกลียวแปลกตา ทั้งๆ ที่การแต่งการนั้นอลังการสมฐานะ แต่ทรงผมกลับขมวดมุ่นเป็นมวยสูงปักปิ่นดอกไม้ไหวทำจากทองคำตีแผ่แผ่นบางเฉียบราวกระดาษประดิษฐ์เป็นช่อดอกไม้รับกับใบหน้าขาวเนียนดั่งหยกขาวมันแพะ ดวงตากลมโตสีดำสนิท ขนตายาวงอน จมูกโด่งได้รูป ริมฝีปากแดงระเรื่อดั่งสีอิงเถา ในมือขององค์หญิงถือภาชนะหน้าตาประหลาดประดับด้วยดอกไม้ที่ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน ส่วนนางกำนัลที่ตามหลังถือภาชนะเดียวกัน แต่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับพืชพรรณที่ข้าก็ไม่รู้จักอีก ดูจากสีน่าจะทำด้วยเงินและทอง

ยอมรับว่าแม้เป็นสตรีก็ยังอดตกหลุมรักนางมิได้ องค์หญิงจินฉานผู้นี้นั้นนับว่าเป็นสาวงามหาตัวจับยากมิแพ้นางสนมในวังหลวงเลยแม้แต่น้อย

.....

เมื่อองค์หญิงจินฉานเข้ามาถึงท้องพระโรง นางกำนัลขันทีที่ต่ำต้อยไม่อาจตามเข้าไปดูได้ ว่าภายในเกิดอะไรขึ้นอีก ดังนั้นเรื่องราวต่อจากนี้เป็นสิ่งที่ได้ฟังมาจากราชองครักษ์ที่เฝ้าหน้าตำหนักท้องพระโรง

เขาเล่าให้ฟังว่า ตอนที่องค์หญิงจินฉานเข้ามาในท้องพระโรง เหล่าขุนนางทั้งบุ๋นบู๊ต่างจ้องนางตาไม่กะพริบ ซึ่งคนเหล่านั้นต่างแอบลงความเห็นว่าท่าทางของพวกเขาไม่ได้จ้องมองเพราะว่านางเป็นผู้ที่ถูกส่งมาเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ของป๋ายอี้ที่ร้าวฉานให้สมานดังเดิม หากแต่จ้องมองอย่างเผลอไผลหลงใหลราวกับชายหนุ่มที่จ้องมองสตรีผู้เป็นที่รัก ยามที่นางและคณะผู้ติดตามวางเครื่องบรรณาการก็ไม่ได้คุกเข่าคารวะ หากพับเพียบหมอบราบมือประสานไว้เบื้องหน้าแสดงถึงความจงรักภักดีและการสวามิภักดิ์อย่างไร้เงื่อนไข ฮ่องเต้เองก็เหมือนจะนั่งอยู่ไม่สุขอยู่บนบัลลังก์ พระองค์คงปรี่เข้าไปประคองนางแล้ว ถ้าไม่ติดว่ามีขุนนางอยู่ อีกทั้งหลังจากรายงานรายชื่อข้าวของราชบรรณาการ ฝ่าบาทก็ไม่รีรอที่จะโอบประคององค์หญิงจินฉานให้ไปพร้อมกับพระองค์โดยที่ฝ่าบาทยังไม่ทันสั่งเลิกประชุมด้วยซ้ำ ท้องพระโรงเลยวุ่นวายกันใหญ่

"ทุกคนดูราวกับสติจะหลุดลอยไปเสียหมด" ราชองครักษ์เอ่ยกับเหล่านางกำนัลขันทีพลางทอดถอนใจ "ข้าไม่เคยเห็นฝ่าบาทมีท่าทีหลงใหลสตรีตรงหน้าเช่นนี้มาก่อน"

“องค์หญิงงามเพียงนั้น ไม่แปลกที่ฝ่าบาทจะหลงรัก”

นางกำนัลเด็กนางหนึ่งออกความเห็น ยิ่งเห็นว่าที่เจ้านายพระองค์ใหม่งามถึงเพียงนี้ คงจะใจดีกับพวกนางไม่มากก็น้อย...

"เจ้าไม่เคยได้ยินเหรอ ที่ชาวบ้านเคยพูดถึงเกี่ยวกับชาวป๋ายอี้" ชายหนุ่มเจ้าของตำแหน่งราชองครักษ์หันมาถาม ทุกคนได้แต่ส่ายหน้า มองเขาอย่างงุนงง เขาจึงเอ่ยต่อ"เคยมีคำกล่าวที่ว่า ชาวป๋ายอี้ชายเป็นใหญ่เหนือหญิง ไม่ถือพรหมจรรย์ เชี่ยวชาญด้านการใช้พิษและไสยศาสตร์"

“แล้วอย่างไร?” มีคนเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

คนพูดมองซ้ายขวา คล้ายกลัวว่าใครจะได้ยิน ก่อนเอ่ยเสียงเบาคล้ายกระซิบ "เจ้าไม่คิดบ้างหรือว่าฝ่าบาทอาจจะต้องยาเสน่ห์ขององค์หญิงผู้นั้นแล้วก็ได้ ท่าทางแบบนั้นมันคือคนที่ต้องไสยศาสตร์แล้วชัดๆ "

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เล่ห์แค้นจินฉาน   เรื่องราวในวังที่มิได้เล่าขาน - ตื่นจากภวังค์ฝัน 5

    “ชีวิตเจ้าที่ต้องทนทุกข์อยู่ในตำหนักเย็นแห่งนี้ยังอีกยาวไกล อย่าเพิ่งรีบร้อนปลิดชีวิตตนเอง”หญิงสาวช้อนตาขึ้นมองบุรุษที่นางเคยรัก เคยมีช่วงเวลาที่ตกอยู่ในบ่วงเสน่หาร่วมกัน เคยคาดหวังรอคอยถึงชีวิตคู่ที่อบอุ่นพร้อมหน้า ทว่าคนตรงหน้านี้กลับไม่เหลือเค้าของผู้ที่อยู่ในห้วงความทรงจำอีกต่อไป กลับเป็นบุรุษที่เต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เป็นผู้ชายที่พร้อมจะสลัดนางออกไปจากชีวิตเพื่อลาภยศของตนอย่างแท้จริง...หลีอ๋องปล่อยให้อดีตคนรักมองเขาจนพอใจ เขาพรูลมหายใจอย่างนึกสมเพช จากนั้นจึงหันหลังค่อยๆ เดินจากไป หญิงสาวจ้องมองแผ่นหลังสง่างามของอีกฝ่ายเขม็ง ขบฟันกรืดกรอดจนแทบแหลกละเอียด ก่อนตัดสินใจเอ่ยเรียก“ท่านอ๋อง!”เมื่อหลีอ๋องหันกลับมาครั้ง หญิงสาวก็เข้ามาประชิดตัวแล้วทำให้มิอาจปัดป้องหลบหนี รู้ตัวอีกทีสองแขนของนางก็สวมกอดเขาไว้แน่นอีกครั้ง พร้อมริมฝีปากอิ่มที่ประกบเข้าที่ริมฝีปากของชายหนุ่ม เพื่อมอบจูบอ่อนหวานเฉกเช่นที่พวกเขาเคยถ่ายเทแลกเปลี่ยนเวลาลอบพบกัน...สายลมด้านนอกตำหนักปิงตี้เหลียนหวีดหวิวพร้อมพัดพาความหนาวเย็นเสียดกระดูก ทว่าฮ่องเต้และจินฉานก็ยังไม่มีทีท่าขยับ ราวกับรอ

  • เล่ห์แค้นจินฉาน   เรื่องราวในวังที่มิได้เล่าขาน - ตื่นจากภวังค์ฝัน 4

    ...เนื่องจากนั่งอยู่ที่เก้าอี้กุ้ยเฟยเป็นระยะเวลานาน ขาทั้งสองข้างจึงไม่สามารถขยับเดินเหินได้ดั่งใจ จำต้องใช้แขนข้างหนึ่งยันตัวเองให้ลุกขึ้น ก่อนก้าวโผเผเข้าไปหา มือซึ่งทั้งสิบนิ้วสวมแหวนเงินเปรอะเปื้อนเลือดและน้ำเหลืองจากการกอดกล่องใส่ซากทารกมาเนิ่นนานตรงเข้าสวมกอดอีกฝ่าย ใบหน้าซุกซบลงกับอกกว้าง น้ำตาหลั่งริน “ดี...ดียิ่ง เป็นเช่นนี้แสดงว่าท่านได้คืนตำแหน่งอ๋องแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างเราฮ่องเต้ยอมรับแล้วใช่หรือไม่? ที่ท่านมาวันนี้เพื่อมารับพวกเราแม่ลูกไปอยู่กับท่านใช่หรือไม่?”หลีอ๋องหรืออดีตต้าซืออู่คงมองเจ้าของริมฝีปากที่กล่าวพร่ำเพ้อไม่หยุดปากด้วยรอยยิ้ม..รอยยิ้มที่แสดงถึงความสมเพชสังเวชอย่างถึงที่สุด เขาผละจากอ้อมกอดอย่างนึกรังเกียจ ทว่าเนื่องด้วยจำเป็นต้องส่งยิ้มอบอบอุ่น ทั้งที่ในใจนั้นสุดแสนจะผะอืดผะอม จนรอยยิ้มที่พยายามปั้นออกมาดูพิลึกพิลั่น แต่หลีอ๋องยังคงเอื้อนเอ่ย “ไม่ใช่เช่นนั้นหรอก ที่ข้ามาที่นี่เพราะมีเรื่องหนึ่งอยากจะบอกให้เจ้าได้รับรู้”เซวียนเฟยพลันร่างกายแข็งทื่อ ดวงตากลอกไปมาท่าทางหวาดหวั่น นางจับมือเขาไว้แน่นแล้วพยายามดึงเขาให้เดินไปพร้อมกับนางพลางเอ่ยเพียงพร่า “ไ

  • เล่ห์แค้นจินฉาน   เรื่องราวในวังที่มิได้เล่าขาน - ตื่นจากภวังค์ฝัน 3

    เซวียนเฟยช้อนตาขึ้นมองด้วยความฉงน แล้วเอ่ย “ข้าจะให้ลูกกินนม เขาหิวแล้ว เสียงร้องไห้ดังไปทั่ว เจ้าไม่ได้ยินเลยหรือ?”หยวนจิ่นขนลุกชูชันพลางหันรีหันขวางมองไปรอบๆ จนแน่ใจแล้วว่าไม่ได้ยินเสียงตามที่เซวียนเฟยกล่าวอ้างแม้แต่น้อย แต่ก็ไม่มีความกล้าพอที่จะใช้คำพูดตามจริงทำร้ายจิตใจ ได้แต่จัดสาบเสื้อที่ชุ่มไปด้วยเลือดและน้ำเหลืองที่ไหลซึมออกมาจากรอบฝากล่องของอีกฝ่ายให้เข้าที่ พยายามส่งยิ้มฝืดเฝื่อนแล้วกล่าวเสียงอ่อน “อาห์ ที่แท้นายหญิงต้องการให้นมองค์ชายน้อย แต่ว่าเท่าที่หม่อมฉันเห็น ท่านไม่ได้ดื่มน้ำและรับประทานอาหารอย่างเต็มที่มาหลายวันแล้ว เกรงว่าน้ำนมจะมีไม่เพียงพอ ท่านควรจะรับประทานอะไรบ้าง” ว่าพลางผละออกจากเซวียนเฟยอย่างแนบเนียน “อย่างไรเสียให้หม่อมฉันไปดูที่ห้องเครื่องเสียหน่อย ว่ามีอะไรพอให้นายหญิงรับประทานได้บ้าง ท่านรออยู่ตรงนี้ อย่าเพิ่งไปไหนนะเพคะ”เซวียนเฟยพยักหน้าช้าๆ ท่าทีสงบเสงี่ยมว่าง่ายนั้นทำให้หยวนจิ่นเบาใจ จึงเดินไปยังห้องเครื่องเพื่อเตรียมอาหารให้ตามที่ได้ว่าไว้โดยปล่อยให้เจ้านายของตนอยู่เพียงลำพังนาฬิกาน้ำที่วางอยู่ที่มุมห้องบ่งบอกเวลาว่าผ่านไปสองเค่อแล้ว อาจเป็นเพราะอา

  • เล่ห์แค้นจินฉาน   เรื่องราวในวังที่มิได้เล่าขาน - ตื่นจากภวังค์ฝัน 2

    จินฉานร้องอาห์พลางพยักหน้าอย่างเข้าใจ จากนั้นจึงเอ่ยถามต่อ “แล้วต้าซืออู่คงล่ะเพคะ เป็นเช่นไรบ้าง”ฮ่องเต้เลิกคิ้ว “เหตุใดถึงอยากรู้”จินฉานเพียงยิ้มน้อยๆ กล่าว “วันก่อนหม่อมฉันได้ไปงานเลี้ยงน้ำชาที่ตำหนักของฟู่เหม่ยเหริน ได้ยินเหล่าพี่สาวน้องสาวเล่าลือกันว่าต้าซือร่วมสวดอำนวยพรให้พี่เซวียนเฟยไม่สำเร็จ ซ้ำยังทำให้นางให้กำเนิดสิ่งอัปมงคล ฝ่าบาททรงกริ้วนัก สั่งปลดต้าซือจากเจ้าอารามแล้วนำไปไต่สวน ลงทัณฑ์ทรมานสารพัด จนป่านนี้แล้วเสียงของต้าซือยังร้องโหยหวนออกจากฝ่ายราชทัณฑ์ไม่หยุด” จินฉานว่าพลางลูบแขนตนเองไปมา ท่าทางขนพองสยองเกล้า “หม่อมฉันฟังแล้วกลัวยิ่งนัก แต่เชื่อมั่นว่าฝ่าบาทมิใช่คนพระทัยโหดเหี้ยมปานนั้น เห็นว่าวันนี้เป็นโอกาสดี หม่อมฉันเลยทำใจกล้า ทูลถามฝ่าบาทโดยตรง”ฮ่องเต้จ้องมาที่อีกฝ่ายนิ่ง จนจินฉานขยับตัวอย่างรู้สึกอึดอัด “หม่อมฉัน...หม่อมฉันสมควรตาย ไม่ควรถามอันใดไร้สาระเช่นนี้”แต่อีกฝ่ายกลับส่ายหน้าช้าๆ ท่าทียังเอื้อเอ็นดูมิคลาย “เรามิได้จะตำหนิเจ้า แต่เรากำลังคิดว่าฟู่เหม่ยเหรินนี่เป็นสตรีปากมาก วาดขาเติมตาให้มังกรเก่งมาแต่ไหนแต่ไร ว่างๆ เราจะให้นางคัดตำราสักสิบจบน่าจะช่วยได

  • เล่ห์แค้นจินฉาน   เรื่องราวในวังที่มิได้เล่าขาน - ตื่นจากภวังค์ฝัน 1

    ศพของทารกผู้นั้นลือกันว่าถูกนำไปฝังบริเวณลานทิ้งศพของเหล่านางกำนัลขันทีอย่างเงียบๆ ไร้นาม ไร้พิธีศพ ไร้การสถาปนายศหลังจากสิ้นพระชนม์ ไม่มีการกล่าวถึง ทั่วทั้งวังหลวงต่างปฏิบัติกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคราวนั้นเป็นเพียงฝันร้ายตื่นหนึ่ง ไม่เคยมีตัวตนอันแสนอัปลักษณ์ที่เซวียนเฟยให้กำเนิดอุบัติขึ้นในตำหนักปิงตี้เหลียนมาก่อนช่วงนี้ฮ่องเต้มิอาจบรรทมที่ตำหนักใหญ่ได้ จึงได้แต่แวะเวียนไปยังตำหนักต่างๆ แต่สถานที่ที่ทำให้เขารู้สึกสงบใจลงได้อย่างที่สุดคงมีแต่งตำหนักผิงอันของอี๋ผิน ระยะหลังมานี้ถ้าไม่ต้องออกว่าราชการในตอนเช้า ก็มักจะขลุกอยู่แต่ในตำหนักผิงอัน โดยให้หลี่ฮุ่ยนำฎีกามาอ่านที่ตำหนัก ซึ่งจินฉานเองก็มิได้ทำสิ่งใดเป็นการรบกวนให้รำคาญใจ หลังจากชงชากาหนึ่งถวาย ก็มักจะหาหนังสือมาอ่าน ไม่ก็หางานฝีมือมาทำอยู่ไม่ห่างกัน ใช้เวลาร่วมกันยาวนานหลายชั่วยามอย่างสงบจากนั้นจึงร่วมรับประทานอาหารกลางวันและเย็น จากนั้นจึงให้จินฉานถวายการปรนนิบัติฮ่องเต้แล้วเข้าบรรทม เป็นเช่นนี้ต่อเนื่องนานนับครึ่งเดือนจนกลายเป็นภาพชินตาวันหนึ่งท่ามกลางบรรยากาศที่เริ่มหนาวเย็นในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ใบเฟิงจากต้นเฟิงที่ปลูกอย

  • เล่ห์แค้นจินฉาน   เรื่องราวในวังที่มิได้เล่าขาน - เด็กน้อย 4

    “แต่ว่าพี่หญิงเซวียนเฟย...” จินเฟยเอ่ยแย้งเสียงเบา ทว่าฮ่องเต้ไม่มีท่าทีเคืองโกรธ กลับยินยอมอธิบายโดยดี “ห้องคลอดเป็นเรื่องของหมอตำแยและตัวผู้เป็นแม่ของเด็ก พวกเรารออยู่เช่นนี้ก็มิอาจเข้าไปช่วยเหลืออันใดได้ สู้ไปอยู่ที่อื่น อย่าได้เกะกะพวกเขาทำงานอีกเลย”ฮองเฮาและจินเฟยแม้จะรู้สึกไม่เห็นด้วย แต่ก็มิได้กล่าวอันใดมากความเนื่องด้วยมิใช่ธุระปะปังอันใดของตนไม่ เพียงแค่รับคำอย่างสำรวม แล้วเดินตามฮ่องเต้ไปยังตำหนักปีกอีกที่ ยิ่งเดินเสียงของเซวียนเฟยที่กำลังอยู่ในช่วงเป็นตายยิ่งห่างไกลลงไปทุกที สุดท้ายตำหนักปีกที่เคยเงียบสงบนั้นก็อบอวลไปด้วยบรรยากาศที่ชื่นมื่นไร้กังวลจนเสียงชุลมุนวุ่นวายของตำหนักส่วนกลางนั้นถูกกลบไปเสียสิ้น...ทว่าบรรยากาศรื่นรมย์นั้นก็ถูกกลบด้วยเสียงกรีดร้องจากตำหนักกลาง จินฉานเพียงปรายตาไปมองยังประตู พลันเห็นหยวนจิ่น นางกำนัลคนสนิทของเซวียนเฟย วิ่งเข้ามาในตำหนักปีกอย่างลืมสำรวมกิริยา สุดท้ายเข่าสองข้างพลันอ่อนยวบทรุดลงเบื้องหน้าฮ่องเต้และฮองเฮาที่หยุดเดินหมากกลางคัน ก่อนฟุบหน้าลงกับพื้นกราบทูลเสียงสั่นเครือจนเหมือนกับจะร้องไห้ “กราบทูลฝ่าบาท กราบทูลฮองเฮา นายหญิง...นายหญิง

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status