@คฤหาสน์ตระกูลเทวาศิริโชติ
ร่างกำยำสมบูรณ์แบบของนักรบเดินเข้ามาในเรือนกระจกที่มีดอกไม้นานาพันธุ์อยู่มากมายหลายชนิดภายในคฤหาสน์ ใบหน้าหล่อเหลานิ่งเรียบไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมาแต่ทว่าดวงตาคมกริบกลับมีแววตาที่ดุดันน่าเกรงขาม นักรบมาตามที่ลูกน้องคนสนิทโทรมารายงานก่อนหน้านี้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่คฤหาสน์ ชายหนุ่มจึงรีบออกจากบริษัทและตรงดิ่งกลับมาที่บ้านของตัวเองทันที
“มันอยู่ด้วยกันดีๆ ไม่ได้เลยหรือไงณิชา!” เสียงบิดาของนักรบเอะอะโวยวายเสียงดังลั่นเรือนกระจกออกมาทำให้นักรบรีบสาวเท้าเดินไปตามเสียงอย่างรวดเร็ว นักรบได้ยินดังนั้นเขาจึงรีบเดินไปหาต้นตอของเสียงทันที
น่านฟ้ากำลังยืนประคองธิดาภรรยาคนใหม่ของตัวเองที่มือของเจ้าหล่อนมีเลือดสีแดงสดไหลออกมา ใบหน้าของหญิงเต็มไปด้วยคราบน้ำตาดูน่าสงสาร ส่วนณิชาก็ได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อหน้าตาตื่นตระหนกอยู่ตรงข้ามสามีกับภรรยาคนใหม่
“หยุดนะ!” นักรบตะโกนออกมาเสียงดังลั่นทำให้ทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นหันขวับมามองนักรบ
“นักรบ..ไม่ได้ทำงานเหรอลูก” ณิชาเอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา นักรบก้าวเดินมายืนเคียงข้างมารดาทันทีเพื่อไม่ให้ณิชารู้สึกว่าตัวเองกำลังต่อสู้กับสองคนนี้อย่างโดดเดี่ยว
“คุณไม่มีสิทธิ์มาว่าแม่ผม” นักรบไม่ได้ตอบกลับอะไรมารดาแต่เขากลับมองจ้องเข้าไปในดวงตาน่านฟ้าราวกับจะกินเลือดกินเนื้อบิดาของตัวเองพร้อมกับกดเสียงต่ำใส่น่านฟ้า
“ก็ดูแม่แกทำตัวสิ ทำร้ายร่างกายคนอื่นแบบนี้มันสมควรไหม” น่านฟ้าที่กำลังโอบประคองร่างภรรยาคนใหม่ที่เอาแต่ร้องห่มร้องไห้ตอบกลับลูกชายเสียงดัง
“มันเกิดอะไรขึ้นแม่” นักรบหันไปเอ่ยถามณิชาที่ยืนอยู่ข้างๆ เขา
“แม่ไม่ได้ทำอะไรเลยนะนักรบ ผู้หญิงคนนี้เข้ามาแย่งกรรไกรไปจากมือแม่เอง” ณิชาตอบกลับไปตามความจริงเพราะก่อนหน้านี้เธอกำลังจะตัดดอกกุหลาบในเรือนกระจกไปจัดใส่แจกัน แต่อยู่ดีๆ ภรรยาของสามีเธอก็เดินเข้ามาและพูดกับเธอว่าอยากจะลองทำ จากนั้นเจ้าหล่อนก็มาดึงกรรไกรไปจากมือของเธอทำให้คมของกรรไกรบาดมือธิดา ถึงแม้มันจะไม่ได้ดูลึกอะไรมากมายนักแต่ธิดาก็ร้องห่มร้องไห้เสียงดังจนน่านฟ้าตามมาดู
โดยปกติแล้วณิชามักจะปลีกตัวออกมาอยู่ในเรือนกระจกคนเดียวโดยไม่ให้คนรับใช้ตามเข้ามาด้วยเลยแม้แต่คนเดียวเพราะเธอต้องการที่จะใช้เวลาส่วนตัวเพลิดเพลินไปกับการอยู่กับดอกไม้ที่เธอรักเป็นชีวิตจิตใจ
“โกหก! ก็เห็นๆ กันอยู่ว่าเธอจงใจทำร้ายเมียของฉัน” น่านฟ้าตะคอกใส่ณิชาเสียงดัง
“หยุด!!” นักรบจึงตะโกนกลับไปด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าวมากกว่าเดิม
“ถ้าผู้หญิงคนนี้เข้ามาในบ้านแล้วมันวุ่นวายมากก็เอาออกไปสะ” นักรบเอ่ยต่อ
“ฝันไปเถอะ ฉันไม่ยอมหรอก”
“ถ้าคุณยังอยากให้ผู้หญิงคนนี้อยู่ที่นี้ต่อก็เตือนคนของคุณด้วยว่าอย่ามาเข้าใกล้แม่ของผม ไม่งั้นอย่าหาว่าผมไม่เตือนก็แล้วกัน” นักรบกดเสียงต่ำแต่แฝงไปด้วยความหนักแน่นจนน่านฟ้าสัมผัสได้ว่าครั้งนี้นักรบเอาจริง
“นี่เมียฉันเจ็บตัวอยู่นะ” น่านฟ้าน้ำเสียงอ่อนยวบลงไปเล็กน้อย
“หาเรื่องทำให้ตัวเองเจ็บตัวละสิไม่ว่า”
“นักรบ!!” บิดาตะคอกใส่ลูกชายอีกครั้ง
“อะไร!!” นักรบสวนกลับไปทันทีเพราะเขาเองก็เริ่มควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่อยู่แล้วเหมือนกัน
“ผมว่าคุณควรรีบพาเมียของคุณไปหาหมอดีกว่านะก่อนที่ผู้หญิงคนนี้จะเลือดหมดตัวตายก่อน” นักรบกัดฟันกรอดพลางเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้น
“กลับมาเรามีเรื่องต้องคุยกัน” น่านฟ้าหันมาจ้องตาณิชาพร้อมกับบอกกล่าวเธออย่างคาดโทษ
“มีอะไรก็มาคุยกับผมเลย” นักรบตอบกลับไปแทนมารดา
“ไปเถอะธิดา ผมพาไปโรงพยาบาลนะ” น่านฟ้าจึงหันมาเอ่ยกับธิดาพร้อมกับประคองเธอเดินออกไปจากเรือนกระจกอย่างช้าๆ
หลังจากที่น่านฟ้ากับธิดาเดินออกไปจากเรือนกระจกแล้ว น้ำตาของณิชาก็ค่อยๆ รินไหลออกมาอาบสองแก้มช้าๆ อย่างห้ามไม่ได้ ณิชาพยายามเบี่ยงหน้าหนีไม่ให้ลูกชายเห็นน้ำตาของเธอแต่ก็ไม่สามารถมีอะไรเล็ดลอดสายตาของชายหนุ่มไปได้ง่ายๆ
นักรบปรายตามองมารดาก็พบว่าแม่ของตัวเองกำลังร้องไห้อยู่ นั่นยิ่งทำให้นักรบรู้สึกแย่เอามากๆ เพราะเขารู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าถึงขนาดที่ว่าเขาไม่สามารถช่วยเหลืออะไรมารดาของตัวเองได้เลยหรือ
“โธ่เว้ย!!” เสียงทุ้มทรงพลังสบถออกมาเสียงดังด้วยความคับแค้นในใจ
ชายหนุ่มยกมือขึ้นมาสะบัดเรือนผมหนาพร้อมกับขยี้มันแรงๆ เพื่อระบายอารมณ์ นักรบเดินวนไปมารอบๆ เรือนกระจกก่อนที่เขาจะทำในสิ่งที่ณิชาไม่คาดขึ้นขึ้นมา
พลัก! เคร้ง!!
มือหนากำแน่นจนเห็นเส้นเลือดนูนที่หลังมือ นักรบต่อยเข้าไปที่กำแพงเรือนกระจกใกล้ๆ ตัวของชายหนุ่มอย่างรุนแรงและตามมาด้วยเสียงกระจกแตกเสียงดังลั่น ถึงแม้ว่ากระจกจะมีความทนทานและหนามากสักแค่ไหนแต่ด้วยแรงมหาศาลของชายหนุ่มที่ความอดทนขาดผึงลงไปจึงทำให้กระจกบานที่ชายหนุ่มออกแรงต่อยเข้าไปอย่างจังแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
“กรี๊ดดด! นักรบ! นักรบลูก!” ณิชาตกใจไปชั่วครู่ เธอรีบก้าวเดินมายังร่างกำยำของลูกสาวที่ยืนหายใจแรงอยู่ด้วยความเดือดดาล เธอมองไปที่หลังมือแกร่งของลูกชายที่เริ่มมีเลือดไหลออกมาเนื่องจากโดนเศษแก้วที่แตกละเอียดอยู่บาดเข้าที่หลังมือ
“ผมเกลียดเขา! แม่ได้ยินไหมว่าผมเกลียดพ่อ!” นักรบไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เขาเผลอตะโกนใส่มารดาเสียงดังลั่นก่อนที่เขาจะก้าวยาวๆ เดินออกไปจากเรือนกระจกอย่างรวดเร็วโดยที่มือหนาก็ยังคงมีเลือดไหลออกมาอยู่เป็นจำนวนมาก
“ฮึกๆ แม่ขอโทษนะนักรบ ฮึก” ณิชายืนตัวแข็งทื่อได้แต่ปล่อยให้น้ำตารินไหลออกมาเหมือนดั่งสายน้ำ เธอรู้สึกสงสารและเป็นห่วงลูกชายจับใจแต่คนดื้อรั้นอย่างนักรบคงจะไม่ยอมให้ใครเข้าไปวุ่นวายกับเขาได้ง่ายๆ อย่างแน่นอน
ณิชาเดินมาที่โต๊ะไม้ที่มีโทรศัพท์เครื่องหรูของเธอวางอยู่ เธอรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกหาคนที่เธอไว้ใจมากที่สุดทันที ในระหว่างที่กำลังรอให้ปลายทางรับสายอยู่เธอก็ยกหลังมือขึ้นมาปาดออกจากแก้มเนียนทั้งสองข้างอย่างลวกๆ รอไม่นานปลายสายก็กดรับสายอย่างรวดเร็ว
“จอมใจ ป้าขอโทษนะแต่พอดีว่า..ป้ามีเรื่องรบกวนหนูอีกแล้ว”
ริมฝีปากหนาของนักรบฉกจูบลงบนเรียวปากสีชมพูระเรื่ออย่างจาบจ้วง ลิ้นสากร้อนส่งเข้าไปทักทายกับลิ้นเรียวเล็กพร้อมกับขบเม้มริมฝีปากล่างของหญิงสาวเบาๆ มือหนาเลื่อนต่ำลงมาโอบรอบเอวคอดกิ่งพลางดึงรั้งหญิงสาวให้แนบชิดกับแผงอกแกร่งเปลือยเปล่า มือบางยกขึ้นมาลูบไล้หน้าอกกำยำอย่างแผ่วเบาด้วยความเสน่หา นิ้วเรียวเล็กซุกซนสะกิดยอดจุกของชายหนุ่มพลางจูบตอบสามีจนเสียงทุ้มครางต่ำในลำคอด้วยความพึงพอใจชายหนุ่มเคลื่อนมือสากล้วงเข้าไปในเสื้อสีขาวสะอาดตาของจอมใจก่อนที่มือหนาจะหยุดลงตรงเต้าอวบอิ่ม เขาบีบเคล้นก้อนเนื้อนุ่มนิ่มอย่างเมามัน ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ยังคงจูบกันเกี่ยวพันลิ้นร้อนอย่างดูดดื่มนักรบคว้ามือบางให้ล้วงเข้าไปในกางเกงผ้าเบาสบายของเขา จอมใจรู้หน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างดี มือเล็กล้วงเข้าไปสัมผัสหยอกล้อกับแก่นกายใหญ่ที่มีเส้นเลือดปูดโปนกำลังแข็งขันชูชันสู้มือ หญิงสาวถลกหนังหุ้มปลายหัวหยักแดงก่ำลงพลางใช้นิ้วเล็กลูบวนบนปลายหัวจนเริ่มมีน้ำใสๆ ไหลปริ่มออกมาจากรูเล็กตรงกลางหัวมันเงาชายหนุ่มไม่รอช้า มือหนาเริ่มปลดกระดุมชุดนอนสีขาวสะอาดตาของหญิงสาวออกอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากหนาค่อยๆ เคลื่อนไปตรงซอกคอขาวเนี
หนึ่งปีผ่านไปร่างอรชรของจอมใจนั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่กำลังพูดคุยกับณิชาไปเรื่อยเปื่อยบนโซฟากลางห้อง ตรงพื้นห้องมีเหล่าบรรดาสาวใช้ประมาณสองคนที่กำลังเก็บข้าวของที่เกลื่อนกลาดตรงพื้นห้องอยู่ ถัดไปก็มีแม่บ้านที่อาวุโสที่สุดในคฤหาสน์กำลังนั่งมองเด็กทารกวัยหนึ่งขวบหลับอยู่ในเปลนอนสีน้ำตาลสุดหรูด้วยสายตาเอ็นดูและหลงใหลในความน่ารักน่าชังของเด็กน้อยตั้งแต่มีเด็กชายตัวน้อยๆ เข้ามาในคฤหาสน์ ทุกคนในบ้านก็ดูจะมีชีวิตชีวาขึ้นมากกว่าเดิม อีกทั้งทุกคนยังเลี้ยงดูเด็กชายช่วยกันเป็นอย่างดีจนแทบจะเรียกได้ว่าแย่งกันเลี้ยงเลยทีเดียวเหนือสมุทรเดินเข้ามาในห้องโถงพลางกวาดสายตามองทุกคนที่อยู่ในห้อง เมื่อชายแก่เห็นว่าเด็กชายหลับอยู่เขาจึงค่อยๆ เดินย่องให้เบาที่สุด ถึงแม้ว่าโดยปกติแล้วเด็กน้อยจะตื่นยากแต่เหนือสมุทรก็ไม่อยากรบกวนการนอนหลับของเด็กชายตัวน้อยสักเท่าไหร่“สวัสดีค่ะคุณพ่อ สวัสดีค่ะคุณปู่” ณิชากับจอมใจกล่าวทักทายชายแก่พร้อมกัน “นักรบละ” เหนือสมุทรเอ่ยถาม“อยู่ในห้องทำงานค่ะ” จอมใจตอบกลับพลางส่งยิ้มหวานไปให้“ฉันซื้อเสื้อผ้ากับของเล่นมาให้เหลนฉัน”“จอมทัพเพิ่งหลับไปสักพักเองค่ะ” จอมใจบอกกล่าวเหนือสมุท
สี่เดือนต่อมาเสียงเอ๊ะอ๊ะโวยวายภายในคฤหาสน์ของตระกูลเทวาศิริโชติดังขึ้นมา ร่างกำยำของนักรบกำลังอุ้มจอมใจที่ท้องโตในท่าเจ้าสาวกำลังก้าวตรงมายังลานจอดรถด้วยใบหน้าที่ตื่นตกใจและวิตกกังวล เพราะเมื่อสักครู่นี้จอมใจเดินลงบันไดมาอยู่ดีๆ เธอก็บอกกับเขาว่าเธอเจ็บท้องมากๆ ซึ่งในเวลาต่อมาน้ำคร่ำของเธอก็แตกไหลเปียกลงมาระหว่างเรียวขาสวย นักรบรู้ได้ทันทีว่าหญิงสาวจะคลอดลูกชายตัวน้อย เขาจึงรีบช้อนร่างอวบอิ่มอุ้มตรงมาที่รถอย่างรวดเร็ว เหล่าสาวใช้รีบวิ่งไปตามมารดาของนักรบทันที“จอมใจ! อดทนหน่อยนะ!” เสียงทุ้มทรงพลังเอ่ยกับร่างเล็กในอ้อมแขนด้วยน้ำเสียงสั่นเทา“ฮึก! คะ..ค่ะ อืออ” จอมใจหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความเจ็บปวดที่ท้องและอาการมดลูกหดเกร็งที่บีบรัดอยู่เป็นระยะ“ไหวไหม” นักรบเอ่ยถามหญิงสาวไม่หยุดปาก“วะ..ไหวค่ะ ฉันไหวค่ะ” หญิงสาวพยายามข่มความเจ็บปวดเอาไว้“ไอ้ภูผา! ไอ้ภูผา! ไปไหนของมันวะ” ชายหนุ่มตะโกนเสียงดังลั่นเมื่อเขาอุ้มภรรยามาถึงลานจอดรถของคฤหาสน์ ทว่าเขากลับไม่เห็นคนสนิทของเขา“นักรบ ใจเย็นๆ นะลูก ให้คนอื่นขับพาไปก็ได้นะลูก” ณิชาที่รีบวิ่งหน้าตาตื่นมาบอกกล่าวกับลูกชายทันที“ไม่ได้แม่…ต้องให้มัน
สองเดือนผ่านไปหญิงสาวร่างอวบอิ่มหน้าท้องนูนเด่นขึ้นมาเล็กน้อยกำลังนอนอยู่บนเตียงตรวจโดยมีคุณหมอคนสวยสวมเสื้อกาวน์สีขาวยืนอยู่ข้างเตียงกับชายหนุ่มร่างกำยำที่นั่งอยู่ใกล้ชิดกับจอมใจด้วยใบหน้าที่ดูตื่นเต้นเล็กน้อย นักรบกับจอมใจมาที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายของจอมใจและเพื่อตรวจเพศของทารกในครรภ์“ตอนนี้เรากำลังจะมาดูเพศน้องกันนะคะ” เสียงเครื่องอัลตราซาวน์ดังขึ้นเป็นระยะในขณะที่คุณหมอคนสวยดูท่าทางใจดีและอบอุ่นกำลังใช้หัวตรวจวนไปวนมาอยู่ตรงเจลที่ทาไว้ก่อนหน้านี้ตรงหน้าท้องของจอมใจ“เดี๋ยวรอน้องอยู่ในท่าที่เห็นได้ชัดก่อน หมอจะแจ้งให้ทราบนะคะ” หมอสาวค่อยๆ ขยับหัวตรวจอย่างแผ่วเบาอยู่สักพัก นักรบมองท้องของหญิงสาวสลับกับหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างใจจดใจจ่อ“เห็นชัดแล้วค่ะ..น้องเป็นผู้ชายนะคะ” สิ้นเสียงคุณหมอคนสวย จอมใจหันหน้าไปมองชายหนุ่มพลางฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีอกดีใจให้เขาทันที แน่นอนว่านักรบเองก็ดีใจมากๆ เช่นกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นเพศไหนเขาก็รักลูกของเขาอยู่ดีทว่าได้ลูกชายก็ดีเลยเพราะเขาก็อยากจะสอนถ่ายทอดวิชาและการใช้ชีวิตต่างๆ ให้กับลูกชายของเขา“ดีใจด้วยนะคะคุณพ่อคุณแม่”“ขอบคุณนะคะคุณหมอ” เสียงหวา
หลังจากที่นักรบพาภรรยาคนสวยไปทานมื้อค่ำกันจนเสร็จเรียบร้อย คู่สามีภรรยาก็พากันกลับมายังคฤหาสน์ในช่วงพลบค่ำของวัน ชายหนุ่มร่างกำยำโอบไหล่แบบบางของภรรยาเดินตรงเข้ามาในคฤหาสน์ ในขณะเดียวกันสาวใช้ก็เดินตรงมาหาพวกเขาพอดี“นายท่านคะ..ท่านปู่มาค่ะ” สาวใช้ชุดดำเอ่ยขึ้นทันที“อือ” นักรบพยักหน้าให้เธอ สาวใช้ก้มหัวให้เจ้านายหนึ่งครั้งก่อนที่เธอจะหันหลังเดินกลับเข้าไปในคฤหาสน์“มีอะไรหรือเปล่าคะ” จอมใจเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย วันแต่งงานพวกเธอก็ไม่ได้คุยอะไรกับปู่ของนักรบเลยสักนิดเพราะยุ่งกับงานแต่งอยู่ ซึ่งท่านเองก็เงียบขรึมไม่พูดไม่จาอะไร เธอจึงไม่รู้ว่าชายแก่คิดอะไรอยู่“ไม่มีอะไรหรอก เข้าไปในบ้านกันเถอะ” พูดจบ ชายหนุ่มก็พาหญิงสาวเดินเข้ามาในคฤหาสน์และตรงไปยังห้องรับแขกทันทีชายแก่ที่มีใบหน้าเหี่ยวย่นดูดุดันน่าเกรงขามนั่งอยู่บนโซฟากลางห้องรับแขกด้วยใบหน้านิ่งเรียบไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมา นักรบเดินเข้ามาในห้องรับแขกพร้อมกับจอมใจที่เดินเคียงข้างชายหนุ่มเข้ามา“มาทำไม” เสียงทุ้มของนักรบเอ่ยถามชายแก่ทันที “สวัสดีค่ะ” หญิงสาวยกมือขึ้นมาพนมกลางอกพลางกล่าวทักทายชายแก่อย่างนอบน้อม“ฉันซื้อผลไม้
คู่รักข้าวใหม่ปลามันลงมาจากชั้นสองของคฤหาสน์พร้อมกัน จอมใจสวมชุดเดรสสั้นทรงตรงสีขาวแขนกุดมีใบหน้าที่อิดโรยอย่างเห็นได้ชัด ชายหญิงตื่นมาทานอาหารเช้ากับมารดาทั้งสองคน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะได้นอนไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงแต่หนุ่มสาวก็ไม่อยากให้ผู้ใหญ่ต้องมานั่งรอพวกเขาเพื่อทานอาหารเช้า“ตื่นเช้ากันจังเลยละลูก” เสียงของณิชาเอ่ยทักทายคู่สามีภรรยาที่เดินเข้ามาในห้องอาหารพร้อมกัน“หนูกลัวว่าคนอื่นจะรอกินข้าวค่ะ” จอมใจตอบกลับไปอย่างนอบน้อม“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นเลย พวกแม่เข้าใจดี” ณิชาหันไปยิ้มกรุ้มกริ่มกับจารวีที่นั่งอยู่ข้างเธอ“มาๆ กินข้าวกันลูก” จารวีพูดขึ้นมา นักรบกับจอมใจจึงเดินไปนั่งลงประจำที่ของตัวเอง ชายหนุ่มนั่งลงตรงหัวโต๊ะและจอมใจเดินไปย่อตัวนั่งลงบนเก้าอี้ด้านขวามือของนักรบ พวกเขาทั้งสี่คนลงมือทานอาหารเช้าด้วยกันอย่างช้าๆ บรรยากาศภายในบ้านดูอบอุ่นแตกต่างจากเมื่อก่อนไปเยอะมาก“จ๋า เธอก็ย้ายมาอยู่ที่นี่ด้วยกันเลยสิ” มารดาของนักรบเอ่ยขึ้นมาในขณะที่ทุกคนกำลังทานอาหารกันอยู่“ไม่เป็นไรหรอก ฉันเกรงใจ” จารวีตอบกลับ แค่นี้เธอก็เกรงใจครอบครัวของณิชามากๆ แล้ว“จะเกรงใจทำไม คนกันเองทั้งนั้น อีกอย่างเราก