คู่รักข้าวใหม่ปลามันลงมาจากชั้นสองของคฤหาสน์พร้อมกัน จอมใจสวมชุดเดรสสั้นทรงตรงสีขาวแขนกุดมีใบหน้าที่อิดโรยอย่างเห็นได้ชัด ชายหญิงตื่นมาทานอาหารเช้ากับมารดาทั้งสองคน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะได้นอนไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงแต่หนุ่มสาวก็ไม่อยากให้ผู้ใหญ่ต้องมานั่งรอพวกเขาเพื่อทานอาหารเช้า
“ตื่นเช้ากันจังเลยละลูก” เสียงของณิชาเอ่ยทักทายคู่สามีภรรยาที่เดินเข้ามาในห้องอาหารพร้อมกัน
“หนูกลัวว่าคนอื่นจะรอกินข้าวค่ะ” จอมใจตอบกลับไปอย่างนอบน้อม
“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นเลย พวกแม่เข้าใจดี” ณิชาหันไปยิ้มกรุ้มกริ่มกับจารวีที่นั่งอยู่ข้างเธอ
“มาๆ กินข้าวกันลูก” จารวีพูดขึ้นมา นักรบกับจอมใจจึงเดินไปนั่งลงประจำที่ของตัวเอง ชายหนุ่มนั่งลงตรงหัวโต๊ะและจอมใจเดินไปย่อตัวนั่งลงบนเก้าอี้ด้านขวามือของนักรบ พวกเขาทั้งสี่คนลงมือทานอาหารเช้าด้วยกันอย่างช้าๆ บรรยากาศภายในบ้านดูอบอุ่นแตกต่างจากเมื่อก่อนไปเยอะมาก
“จ๋า เธอก็ย้ายมาอยู่ที่นี่ด้วยกันเลยสิ” มารดาของนักรบเอ่ยขึ้นมาในขณะที่ทุกคนกำลังทานอาหารกันอยู่
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันเกรงใจ” จารวีตอบกลับ แค่นี้เธอก็เกรงใจครอบครัวของณิชามากๆ แล้ว
“จะเกรงใจทำไม คนกันเองทั้งนั้น อีกอย่างเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้วด้วย”
“เดี๋ยวฉันไปๆ มาๆ แบบนี้แหละณิชา ให้มาอยู่บ้านคนอื่นฉันไม่ชินหรอก”
“งั้นก็ได้ แต่ถ้าเปลี่ยนใจก็บอกนะ” สิ้นเสียงณิชา จารวีจึงพยักหน้าให้เพื่อนรักเบาๆ
“เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้วนักรบกับจอมใจไปที่ห้องรับแขกกับแม่สักแป๊บนะลูก” ณิชาหันมาเอ่ยกับหนุ่มสาวทั้งสองคนต่อ
“ไปทำไมครับ” เสียงทุ้มเงยหน้าขึ้นมามองมารดา
“จดทะเบียนสมรสไงจ๊ะลูกชาย ทนายเขามารออยู่ในห้องรับแขกแล้ว”
หลังจากที่พวกเขาทานมื้อเช้าด้วยกันจนเสร็จเรียบร้อย ทุกคนก็เดินตรงมาที่ห้องรับแขกที่มีทนายประจำตระกูลนั่งรอพวกเขาอยู่แล้ว
ทะเบียนสมรสถูกวางอยู่ตรงหน้าของนักรบและจอมใจ นักรบเปิดเอกสารแล้วเซ็นชื่อลงไปบนกระดาษทันทีโดยที่เขาไม่ได้ลังเลอะไรเลยสักนิด ต่างกับจอมใจที่นั่งมองทะเบียนสมรสอยู่สักพัก หญิงสาวตกอยู่ในภวังค์ชั่วขณะเพราะจนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดมันคือความจริง
“เป็นอะไร ไม่อยากจดทะเบียนกับฉันหรือไง” ชายหนุ่มหันไปมองหญิงสาวพลางขมวดคิ้วเอ่ยถามจอมใจ
“ปะ..เปล่าค่ะ” จอมใจได้สติตอบกลับไปอย่างตะกุกตะกัก
“แล้วคิดอะไรอยู่”
“แค่คิดว่าต่อไปฉันจะต้องใช้นามสกุลของคุณแล้ว…มันไม่น่าเชื่อเลยนะคะ”
“ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เซ็นได้แล้ว”
“ค่ะ” พูดจบ จอมใจหยิบปากกาขึ้นมาและค่อยๆ บรรจงเซ็นชื่อลงไปบนกระดาษอย่างช้าๆ
“ยินดีต้อนรับสู่ตระกูลเทวาศิริโชติอย่างเป็นทางการนะจ๊ะหนูจอมใจ” ณิชาเอ่ยขึ้นทันทีที่จอมใจเซ็นเอกสารจนเสร็จเรียบร้อย ซึ่งจอมใจก็หันกลับไปส่งยิ้มอ่อนๆ ให้แม่สามี
“ช่วงเที่ยงฉันจะไปโกดัง อยากไปด้วยกันไหมหรืออยากอยู่บ้าน” นักรบเอ่ยถามหญิงสาว
“ค่ะ ฉันอยากไปด้วยค่ะ” หญิงสาวตอบกลับไป
ซึ่งเมื่อเวลาผ่านพ้นไปจวบจนถึงเที่ยงวัน ชายหญิงทั้งสองคนพากันออกมาจากคฤหาสน์และตรงไปที่โกดังทันทีโดยมีภูผาทำหน้าที่ขับรถให้เหมือนเช่นเคย จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง ชายหนุ่มและหญิงสาวมาถึงโกดังของบริษัทในเวลาต่อมา
“สวัสดีค่ะท่านประธาน สวัสดีครับคุณจอมใจ” ผู้จัดการเดินปรี่เข้ามาหานักรบและจอมใจในขณะที่พวกเขากำลังเดินเข้ามาในโกดัง ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนในบริษัทตอนนี้รู้สถานะของจอมใจเป็นอย่างดี
เหล่าพนักงานและเลขาของผู้จัดการยืนอยู่ด้านหลังผู้จัดการ ทุกคนก้มหัวให้ท่านประธานของบริษัทกับภรรยาของเขาด้วยท่าทางนอบน้อม
“เชิญที่ห้องรับรองก่อนนะครับ” เสียงของผู้จัดการเอ่ยพลางผายมือไปทางห้องรับรอง
นักรบโอบไหล่แบบบางของภรรยาคนสวยก้าวเดินตรงไปยังห้องรับรองอย่างไม่อายสายตาใคร เหล่าพนักงานต่างพากันมองและอมยิ้มให้กับท่านประธานกับภรรยา นานๆ ทีพวกเขาจะได้เห็นท่านประธานหน้านิ่งจอมเย็นชามีมุมที่คลั่งรักภรรยาแบบนี้บ้าง
“เดี๋ยวฉันไปคุยกับแผนกจัดซื้อก่อนนะ นั่งรออยู่ในห้องนี้ก่อน” นักรบบอกกล่าวกับจอมใจทันทีที่ทั้งสองคนเดินเข้ามาในห้องรับรองแล้ว
“ได้ค่ะ” ใบหน้าหวานส่งยิ้มอ่อนๆ ให้สามี
“ดูแลเมียฉันดีๆ ด้วย” ชายหนุ่มหันไปกำชับกับเลขาของผู้จัดการด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบแตกต่างจากที่เขาคุยกับจอมใจเมื่อสักครู่นี้โดยสิ้นเชิง
“ค่ะท่านประธาน” เลขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
นักรบเดินออกไปจากห้องรับรองอย่างช้าๆ ผู้จัดการรีบเดินตามเจ้านายไปติดๆ จอมใจมองตามชายหนุ่มชั่วครู่ก่อนที่เธอจะย่างกรายมานั่งลงตรงโซฟากลางห้อง
“รับเครื่องดื่มอะไรดีคะคุณจะ..เอ่ออ คุณหญิง” เลขาเอ่ยถามจอมใจอย่างตะกุกตะกัก เธอไม่รู้จะวางตัวยังไงดี
“เรียกจอมใจเหมือนเดิมเถอะค่ะ” จอมใจส่งยิ้มให้เลขาสาวเมื่อเห็นว่าเธอมีอาการประหม่าอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่ายังไงจอมใจก็ยังเป็นคนเดิมเธอจะไม่สูญเสียตัวตนของตัวเองเด็ดขาด เธอจะยังคงเป็นคนที่มีเมตตาและช่วยเหลือผู้ที่ด้อยกว่าเธอเหมือนอย่างที่เธอเคยทำ
“คะ..ค่ะ” เลขาสาวตอบกลับ
“เอาน้ำส้มก็ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ”
“รอสักครู่นะคะ” พูดจบ เลขาสาวสวยก้มหัวให้จอมใจหนึ่งครั้งก่อนที่เธอจะหันหลังเดินออกจากห้องไปทันที
ซึ่งรอไม่นานสักเท่าไหร่ เลขาสาวเอาน้ำส้ม ของทานเล่นและนิตยสารเข้ามาให้จอมใจอ่านแก้เบื่อไปก่อน
เวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมง หญิงสาวนั่งกดโทรศัพท์เลื่อนดูข่าวสารไปเรื่อยๆ อย่างไม่รีบร้อน เธอเข้าใจสามีของตัวเองดีว่าเขาต้องทำงานหนักขนาดไหน เรื่องพวกนี้เธอเองก็ผ่านมันมาหมดแล้วแค่นั่งรอแค่นี้มันเป็นเรื่องที่สบายมากสำหรับเธอ
ผู้จัดการเปิดประตูเข้ามาในห้องรับรองให้เวลาต่อมา ชายหนุ่มสองมือล้วงกระเป๋าเดินเข้ามาในห้องอย่างช้าๆ จอมใจเงยหน้าขึ้นมามองนักรบพลางเอ่ยถามขึ้นมา
“เป็นไงบ้างคะ”
“ทุกอย่างเรียบร้อยดี” เสียงทุ้มของนักรบตอบกลับไป
“หิวหรือยัง” ชายหนุ่มเอ่ยถามต่อเมื่อเขาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของหญิงสาว
“นิดหน่อยค่ะ”
“ไปหาอะไรกินกัน วันนี้อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม” เสียงทุ้มเอ่ยถามอย่างอ่อนโยน
“อะไรก็ได้ค่ะ”
“ไปกันเถอะ” ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับเอื้อมมือไปโอบไหล่แบบบาง
“ผมไปส่งครับท่านประธาน” ผู้จัดการกุลีกุจอรีบไปเปิดประตูห้องให้ท่านประธานกับภรรยาอย่างรวดเร็ว นักรบโอบไหล่หญิงสาวเดินออกจากห้องรับรองไปทันที
ริมฝีปากหนาของนักรบฉกจูบลงบนเรียวปากสีชมพูระเรื่ออย่างจาบจ้วง ลิ้นสากร้อนส่งเข้าไปทักทายกับลิ้นเรียวเล็กพร้อมกับขบเม้มริมฝีปากล่างของหญิงสาวเบาๆ มือหนาเลื่อนต่ำลงมาโอบรอบเอวคอดกิ่งพลางดึงรั้งหญิงสาวให้แนบชิดกับแผงอกแกร่งเปลือยเปล่า มือบางยกขึ้นมาลูบไล้หน้าอกกำยำอย่างแผ่วเบาด้วยความเสน่หา นิ้วเรียวเล็กซุกซนสะกิดยอดจุกของชายหนุ่มพลางจูบตอบสามีจนเสียงทุ้มครางต่ำในลำคอด้วยความพึงพอใจชายหนุ่มเคลื่อนมือสากล้วงเข้าไปในเสื้อสีขาวสะอาดตาของจอมใจก่อนที่มือหนาจะหยุดลงตรงเต้าอวบอิ่ม เขาบีบเคล้นก้อนเนื้อนุ่มนิ่มอย่างเมามัน ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ยังคงจูบกันเกี่ยวพันลิ้นร้อนอย่างดูดดื่มนักรบคว้ามือบางให้ล้วงเข้าไปในกางเกงผ้าเบาสบายของเขา จอมใจรู้หน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างดี มือเล็กล้วงเข้าไปสัมผัสหยอกล้อกับแก่นกายใหญ่ที่มีเส้นเลือดปูดโปนกำลังแข็งขันชูชันสู้มือ หญิงสาวถลกหนังหุ้มปลายหัวหยักแดงก่ำลงพลางใช้นิ้วเล็กลูบวนบนปลายหัวจนเริ่มมีน้ำใสๆ ไหลปริ่มออกมาจากรูเล็กตรงกลางหัวมันเงาชายหนุ่มไม่รอช้า มือหนาเริ่มปลดกระดุมชุดนอนสีขาวสะอาดตาของหญิงสาวออกอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากหนาค่อยๆ เคลื่อนไปตรงซอกคอขาวเนี
หนึ่งปีผ่านไปร่างอรชรของจอมใจนั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่กำลังพูดคุยกับณิชาไปเรื่อยเปื่อยบนโซฟากลางห้อง ตรงพื้นห้องมีเหล่าบรรดาสาวใช้ประมาณสองคนที่กำลังเก็บข้าวของที่เกลื่อนกลาดตรงพื้นห้องอยู่ ถัดไปก็มีแม่บ้านที่อาวุโสที่สุดในคฤหาสน์กำลังนั่งมองเด็กทารกวัยหนึ่งขวบหลับอยู่ในเปลนอนสีน้ำตาลสุดหรูด้วยสายตาเอ็นดูและหลงใหลในความน่ารักน่าชังของเด็กน้อยตั้งแต่มีเด็กชายตัวน้อยๆ เข้ามาในคฤหาสน์ ทุกคนในบ้านก็ดูจะมีชีวิตชีวาขึ้นมากกว่าเดิม อีกทั้งทุกคนยังเลี้ยงดูเด็กชายช่วยกันเป็นอย่างดีจนแทบจะเรียกได้ว่าแย่งกันเลี้ยงเลยทีเดียวเหนือสมุทรเดินเข้ามาในห้องโถงพลางกวาดสายตามองทุกคนที่อยู่ในห้อง เมื่อชายแก่เห็นว่าเด็กชายหลับอยู่เขาจึงค่อยๆ เดินย่องให้เบาที่สุด ถึงแม้ว่าโดยปกติแล้วเด็กน้อยจะตื่นยากแต่เหนือสมุทรก็ไม่อยากรบกวนการนอนหลับของเด็กชายตัวน้อยสักเท่าไหร่“สวัสดีค่ะคุณพ่อ สวัสดีค่ะคุณปู่” ณิชากับจอมใจกล่าวทักทายชายแก่พร้อมกัน “นักรบละ” เหนือสมุทรเอ่ยถาม“อยู่ในห้องทำงานค่ะ” จอมใจตอบกลับพลางส่งยิ้มหวานไปให้“ฉันซื้อเสื้อผ้ากับของเล่นมาให้เหลนฉัน”“จอมทัพเพิ่งหลับไปสักพักเองค่ะ” จอมใจบอกกล่าวเหนือสมุท
สี่เดือนต่อมาเสียงเอ๊ะอ๊ะโวยวายภายในคฤหาสน์ของตระกูลเทวาศิริโชติดังขึ้นมา ร่างกำยำของนักรบกำลังอุ้มจอมใจที่ท้องโตในท่าเจ้าสาวกำลังก้าวตรงมายังลานจอดรถด้วยใบหน้าที่ตื่นตกใจและวิตกกังวล เพราะเมื่อสักครู่นี้จอมใจเดินลงบันไดมาอยู่ดีๆ เธอก็บอกกับเขาว่าเธอเจ็บท้องมากๆ ซึ่งในเวลาต่อมาน้ำคร่ำของเธอก็แตกไหลเปียกลงมาระหว่างเรียวขาสวย นักรบรู้ได้ทันทีว่าหญิงสาวจะคลอดลูกชายตัวน้อย เขาจึงรีบช้อนร่างอวบอิ่มอุ้มตรงมาที่รถอย่างรวดเร็ว เหล่าสาวใช้รีบวิ่งไปตามมารดาของนักรบทันที“จอมใจ! อดทนหน่อยนะ!” เสียงทุ้มทรงพลังเอ่ยกับร่างเล็กในอ้อมแขนด้วยน้ำเสียงสั่นเทา“ฮึก! คะ..ค่ะ อืออ” จอมใจหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความเจ็บปวดที่ท้องและอาการมดลูกหดเกร็งที่บีบรัดอยู่เป็นระยะ“ไหวไหม” นักรบเอ่ยถามหญิงสาวไม่หยุดปาก“วะ..ไหวค่ะ ฉันไหวค่ะ” หญิงสาวพยายามข่มความเจ็บปวดเอาไว้“ไอ้ภูผา! ไอ้ภูผา! ไปไหนของมันวะ” ชายหนุ่มตะโกนเสียงดังลั่นเมื่อเขาอุ้มภรรยามาถึงลานจอดรถของคฤหาสน์ ทว่าเขากลับไม่เห็นคนสนิทของเขา“นักรบ ใจเย็นๆ นะลูก ให้คนอื่นขับพาไปก็ได้นะลูก” ณิชาที่รีบวิ่งหน้าตาตื่นมาบอกกล่าวกับลูกชายทันที“ไม่ได้แม่…ต้องให้มัน
สองเดือนผ่านไปหญิงสาวร่างอวบอิ่มหน้าท้องนูนเด่นขึ้นมาเล็กน้อยกำลังนอนอยู่บนเตียงตรวจโดยมีคุณหมอคนสวยสวมเสื้อกาวน์สีขาวยืนอยู่ข้างเตียงกับชายหนุ่มร่างกำยำที่นั่งอยู่ใกล้ชิดกับจอมใจด้วยใบหน้าที่ดูตื่นเต้นเล็กน้อย นักรบกับจอมใจมาที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายของจอมใจและเพื่อตรวจเพศของทารกในครรภ์“ตอนนี้เรากำลังจะมาดูเพศน้องกันนะคะ” เสียงเครื่องอัลตราซาวน์ดังขึ้นเป็นระยะในขณะที่คุณหมอคนสวยดูท่าทางใจดีและอบอุ่นกำลังใช้หัวตรวจวนไปวนมาอยู่ตรงเจลที่ทาไว้ก่อนหน้านี้ตรงหน้าท้องของจอมใจ“เดี๋ยวรอน้องอยู่ในท่าที่เห็นได้ชัดก่อน หมอจะแจ้งให้ทราบนะคะ” หมอสาวค่อยๆ ขยับหัวตรวจอย่างแผ่วเบาอยู่สักพัก นักรบมองท้องของหญิงสาวสลับกับหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างใจจดใจจ่อ“เห็นชัดแล้วค่ะ..น้องเป็นผู้ชายนะคะ” สิ้นเสียงคุณหมอคนสวย จอมใจหันหน้าไปมองชายหนุ่มพลางฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีอกดีใจให้เขาทันที แน่นอนว่านักรบเองก็ดีใจมากๆ เช่นกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นเพศไหนเขาก็รักลูกของเขาอยู่ดีทว่าได้ลูกชายก็ดีเลยเพราะเขาก็อยากจะสอนถ่ายทอดวิชาและการใช้ชีวิตต่างๆ ให้กับลูกชายของเขา“ดีใจด้วยนะคะคุณพ่อคุณแม่”“ขอบคุณนะคะคุณหมอ” เสียงหวา
หลังจากที่นักรบพาภรรยาคนสวยไปทานมื้อค่ำกันจนเสร็จเรียบร้อย คู่สามีภรรยาก็พากันกลับมายังคฤหาสน์ในช่วงพลบค่ำของวัน ชายหนุ่มร่างกำยำโอบไหล่แบบบางของภรรยาเดินตรงเข้ามาในคฤหาสน์ ในขณะเดียวกันสาวใช้ก็เดินตรงมาหาพวกเขาพอดี“นายท่านคะ..ท่านปู่มาค่ะ” สาวใช้ชุดดำเอ่ยขึ้นทันที“อือ” นักรบพยักหน้าให้เธอ สาวใช้ก้มหัวให้เจ้านายหนึ่งครั้งก่อนที่เธอจะหันหลังเดินกลับเข้าไปในคฤหาสน์“มีอะไรหรือเปล่าคะ” จอมใจเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย วันแต่งงานพวกเธอก็ไม่ได้คุยอะไรกับปู่ของนักรบเลยสักนิดเพราะยุ่งกับงานแต่งอยู่ ซึ่งท่านเองก็เงียบขรึมไม่พูดไม่จาอะไร เธอจึงไม่รู้ว่าชายแก่คิดอะไรอยู่“ไม่มีอะไรหรอก เข้าไปในบ้านกันเถอะ” พูดจบ ชายหนุ่มก็พาหญิงสาวเดินเข้ามาในคฤหาสน์และตรงไปยังห้องรับแขกทันทีชายแก่ที่มีใบหน้าเหี่ยวย่นดูดุดันน่าเกรงขามนั่งอยู่บนโซฟากลางห้องรับแขกด้วยใบหน้านิ่งเรียบไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมา นักรบเดินเข้ามาในห้องรับแขกพร้อมกับจอมใจที่เดินเคียงข้างชายหนุ่มเข้ามา“มาทำไม” เสียงทุ้มของนักรบเอ่ยถามชายแก่ทันที “สวัสดีค่ะ” หญิงสาวยกมือขึ้นมาพนมกลางอกพลางกล่าวทักทายชายแก่อย่างนอบน้อม“ฉันซื้อผลไม้
คู่รักข้าวใหม่ปลามันลงมาจากชั้นสองของคฤหาสน์พร้อมกัน จอมใจสวมชุดเดรสสั้นทรงตรงสีขาวแขนกุดมีใบหน้าที่อิดโรยอย่างเห็นได้ชัด ชายหญิงตื่นมาทานอาหารเช้ากับมารดาทั้งสองคน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะได้นอนไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงแต่หนุ่มสาวก็ไม่อยากให้ผู้ใหญ่ต้องมานั่งรอพวกเขาเพื่อทานอาหารเช้า“ตื่นเช้ากันจังเลยละลูก” เสียงของณิชาเอ่ยทักทายคู่สามีภรรยาที่เดินเข้ามาในห้องอาหารพร้อมกัน“หนูกลัวว่าคนอื่นจะรอกินข้าวค่ะ” จอมใจตอบกลับไปอย่างนอบน้อม“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นเลย พวกแม่เข้าใจดี” ณิชาหันไปยิ้มกรุ้มกริ่มกับจารวีที่นั่งอยู่ข้างเธอ“มาๆ กินข้าวกันลูก” จารวีพูดขึ้นมา นักรบกับจอมใจจึงเดินไปนั่งลงประจำที่ของตัวเอง ชายหนุ่มนั่งลงตรงหัวโต๊ะและจอมใจเดินไปย่อตัวนั่งลงบนเก้าอี้ด้านขวามือของนักรบ พวกเขาทั้งสี่คนลงมือทานอาหารเช้าด้วยกันอย่างช้าๆ บรรยากาศภายในบ้านดูอบอุ่นแตกต่างจากเมื่อก่อนไปเยอะมาก“จ๋า เธอก็ย้ายมาอยู่ที่นี่ด้วยกันเลยสิ” มารดาของนักรบเอ่ยขึ้นมาในขณะที่ทุกคนกำลังทานอาหารกันอยู่“ไม่เป็นไรหรอก ฉันเกรงใจ” จารวีตอบกลับ แค่นี้เธอก็เกรงใจครอบครัวของณิชามากๆ แล้ว“จะเกรงใจทำไม คนกันเองทั้งนั้น อีกอย่างเราก