เงือกสาวดำผุดดำว่ายไปมาต่อหน้าต่อตาชายหนุ่ม ผมดำเป็นลอนคลื่นตามธรรมชาติสยายเต็มแผ่นหลัง เนื้อเนียนขาวผ่องโผล่ขึ้นเหนือน้ำแค่เนินอกอิ่ม ช่างเป็นภาพที่งดงามเสียจนอีธานแทบจะหยุดหายใจ
มีนาแปลงร่างเป็นเงือกสาวที่สวยที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาในชีวิต ยามโผล่ขึ้นเหนือน้ำเผยความงามของอกอิ่ม ยิ่งว่ายวนมาใกล้ๆ ก็ยิ่งทำให้หัวใจของอีธานเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ
"พอได้แล้ว เดี๋ยวจะไม่สบาย" เขาพยายามจะห้าม แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล เพราะตอนนี้
เงือกสาวโผเข้ามาใกล้ใช้สองมือจับบ่าหนาไว้เป็นที่มั่น มีนาเริ่มหมดแรงในการต่อสู้กับฤทธิ์ยาในร่างกาย สาวน้อยขยับตัวเข้ามาหาแนบอกอิ่มที่มีเพียงบราเซียร์สีหวานชิดกับอกกำยำของอีธาน
"มีนา" อีธานเองก็ต้องพยายามหักห้ามใจเช่นกัน เพราะรู้ว่าตอนนี้ร่างกายของมีนาไม่ปกติ สุภาพบุรุษไม่ควรฉวยโอกาสในเวลาเช่นนี้
แต่เนื้อแนบเนื้อ สัมผัสที่จับต้องได้ สาวใจกล้ายกมือแกร่งที่อยู่เฉยมาสัมผัสเนื้อตัวที่แสนหวงแหน ธรรมชาติสอนให้รู้จังหวะหนักเบาเพื่อระบายความปรารถนาของร่างกายในเวลานี้ เสียงครางหวานที่ข้างหูกำลังกระชากจิตสำนึกของอีธานให้หลุดลอยออกจากร่างเช่นกัน
น้ำทะเลเย็นเฉียบยามดึกยิ่งทำให้กายสาวสั่นสะท้าน อีธานตัดสินใจโอบอุ้มร่างกึ่งเปลือยของมีนาขึ้นมาที่ริมหาด เพียงแค่เขาขยับเสมือนรับตัวเธอเข้ามากอดไว้ สาวน้อยก็ผวาเข้าหาที่พึ่ง หวังปลดเปลื้องปรารถนาอันแรงกล้าที่มีอำนาจเหนือสติสัมปชัญญะในเวลานี้
"ได้โปรด" มีนาขอร้องเสียงพร่า เว้าวอนขอราวกับใกล้หมดลมหายใจ
แรงสะท้านเพราะความหนาว ไฟราคะที่โหมกระพือเพราะฤทธิ์ยา ทำลายความเป็นมีนาจนหมดสิ้น มีเพียงเสียงเรียกร้องจากปรารถนาที่ร้อนแรงจนทนไม่ไหว
"ใจเย็นๆ นะ ผมจะหาทางช่วยคุณเอง" อีธานถอดเสื้อเชิ้ตมาคลุมกายของหญิงสาวไว้
"ยะ อย่า" เธอรั้งไม่ยอมให้เขาทิ้งไปไหน
ร่างเล็กฉวยโอกาสที่อีธานไม่ทั้งตั้งตัวพลิกขึ้นมาคร่อมไว้ ประกายวาววับจากนัยน์ตาคู่สวยเผยปรารถนาอย่างชัดเจน ใบหน้าคมขำโน้มลงต่ำมาคลอเคลียอยู่ที่ริมฝีปากคนใต้ร่าง ไม่ประสาว่าต้องทำอย่างไรรู้เพียงแค่ว่าต้องการสัมผัสที่แนบแน่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
"มีนา" อีธานข่มความรู้สึกไว้เต็มที่
เขาไม่ใช่คนฉวยโอกาสและที่ผ่านมาไม่เคยต้องสอนใคร สุภาพสตรีทั้งหลายที่พร้อมใจแนบแน่น ล้วนมีประสบการณ์กันมาจนแทบไม่ต้องเอื้อนเอ่ยอะไรมาก เรียกว่าแค่เปิดทางปุ๊ปทุกอย่างก็ดำเนินต่อไปได้ทันที
ร่างนิ่มบดเบียดไร้ซึ่งความเขินอาย สองมือเล็กลูบไล้สัมผัสไปทั่วกายแกร่ง เสื้อกล้ามสีขาวถูกรั้งขึ้นเผยความสมบูรณ์ของอกแกร่งที่ได้รับการดูแลมาเป็นอย่างดี เรียวปากสวยพยายามบดบี้ที่ริมฝีปากของอีธานซ้ำแล้วซ้ำเล่า หวังได้รับการตอบรับไมตรีที่ต้องการ ตอนนี้เนื้อตัวของมีนาไร้ซึ่งอาภรณ์ใดๆ ปกคลุมทั้งสิ้น ความงดงามของร่างกายที่แท้จริงปรากฎให้เห็นท่ามกลางเสียงคลื่นที่ซัดซาดไม่ขาดสาย
"ได้โปรด" เสียงร่ำร้องขออีกครา
อีธานเข้าใจดีว่าตอนนี้มีนารู้สึกเช่นไร และรู้ว่านี่ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเธอ แต่เขาก็มีเลือดเนื้อความรู้สึก และมีสติพร้อมจะรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเพียงแต่ว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปจากนี้ เจ้าตัวต่างหากที่จะรับได้หรือไม่
แวบหนึ่งในความรู้สึกของชายหนุ่ม คือเมื่อมีนาคืนสติสัมปชัญญะทุกอย่างครบแล้ว หญิงสาวจะมองหน้าเขาอย่างไร ชั่วชีวิตนี้ระหว่างอีธานกับมีนาจะมีคำว่าญาติดีกันได้อีกหรือไม่
"มีนา อย่า" อีธานร้องลั่นเมื่อสองมือน้อยลูบไล้ลงมาที่หน้าขา พยายามซอกซอนเข้าไปใต้ร่มผ้าเพื่อกอบกุมของรักที่สุด
"มะ มะ มี นา" ให้ตายเถอะ เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะต้องมาเสียเชิงชายให้กับผู้หญิงที่ไม่ประสาเช่นนี้
มีนาทำให้เลือดในร่างกายของอีธานพลุ่งพล่าน ความต้องการตามธรรมชาติเริ่มมีอำนาจนำหน้าเหนือความถูกต้อง ในที่สุดชนวนที่พยายามยับยั้งก็ถูกจุดขึ้น โหมไฟเร่าร้อนให้ลุกขึ้นโชติช่วงชัชวาลอย่างห้ามไม่ได้
อีธานพลิกตัวมาเป็นผู้นำ มอบจูบแรกให้กับเรียวปากงามที่พยายามมานาน เพียงแต่แตะสัมผัสใช้ปลายลิ้นนำทาง อีกฝ่ายก็ยินดีเปิดทางให้การรุกไล่เป็นไปโดยความสะดวกและเร่าร้อนตามเพลิงปรารถนา สองมือแกร่งจัดการสิ่งกีดขวางของร่างกายตนเองออก
ผืนทรายเสมือนเตียงนอนใหญ่ที่นุ่มนิ่มและอ่อนโยนตามแรงเคลื่อนไหวของร่างกาย เสียงคลื่นซัดเข้าฝั่งคล้ายจะกล่อมให้คืนนี้ความสุขสมของทั้งคู่เต็มไปด้วยความสุข ลมทะเลที่พัดโชยเข้าสัมผัสผิวกายราวกับช่วยกระพือโหมไฟเสน่หาที่เริ่มก่อตัวให้ลุกโชนเร็วขึ้น
มีนาครางเบาๆ อย่างมีความสุขเมื่อร่างกายได้รับในสิ่งที่ปรารถนา สองมือของอีธานเคล้าคลึงเนื้อตัวอย่างอ่อนโยนทว่าแฝงความเข้มแข็งอย่างรู้จังหวะ ทรวงอิ่มที่ไม่เคยต้องมือใครถูกกอบกุมไว้ด้วยความหวงแหน
อีธานพรมจูบไปทั่วใบหน้าคมขำ ซุกไซ้ดอมดมเรื่อยลงมาจนถึงอกงามที่เคล้าคลึงไว้รอท่า แตะด้วยปลายลิ้นที่ปลายยอด มีนาก็ถึงกับสะท้านกรีดร้องอย่างมีความสุข แอ่นอกรับด้วยสัญชาตญาณเร่งเร้าให้เขามอบความรู้สึกแสนดีนี้อีกคราด้วยการกอดรัดฝังใบหน้าคมไว้ที่กลางอก
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา "ฉันจะกลับไปที่เกาะนั่น เจ้าของรีสอร์ทสนใจที่จะลงทุนด้วย" อีธานแวะมาบอกเจ้าของบ้านที่กำลังหงุดหงิดเพราะคู่หมั้นหายไปตั้งแต่เช้า เห็นเพื่อนรักท่าทางอารมณ์ดีเป็นพิเศษทำให้ธามคิดว่าอีธานคงดีใจที่จะได้ไปในสถานที่ชอบอีกครั้ง ทะเลกับปลาไหลคงเป็นของคู่กันไปแล้ว แต่เปล่าเลย ที่อีธานดีใจไม่ใช่เพราะชลาลัยตัดสินใจเชิญเขาไปฟังเงื่อนไขบางอย่างที่เกาะหวน แต่เป็นเพราะชายหนุ่มจะมีโอกาสได้จัดการกับข้อกังขาที่อยู่ในใจมาตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่กลับมา ภายหลังจากที่กลับมาจากเกาะหวน อีธานมีเวลาทบทวนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับมีนา สิ่งหนึ่งที่เป็นกังวลมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ มีนาท้อง เพราะคืนนั้นเขาไม่ได้ป้องกัน ดังนั้นถึงตกลงกับเจ้าตัวไม่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ถ้ามีเด็กเกิดขึ้นอีธานก็ไม่มีวันปล่อยให้เลือดเนื้อเชื้อไขตัวเ
คำแนะนำของอีธานเป็นวิธีที่ดีไม่ใช่น้อย แต่ปัญหาของจันทร์เจ้ารีสอร์ทไม่ใช่แค่หนี้สิ้นที่พอกเป็นหางหมูเท่านั้น แต่ยังติดปัญหาอื่นซึ่งไม่รู้ว่าจะหาทางแก้ไขอย่างไรด้วยต่างหาก "ใครจะกล้ามาลงทุนกับรีสอร์ทเล็กๆ อย่างเรา" ชลาลัยพูดอย่างหมดหวัง ความงดงามของทิวทัศน์ที่ตนเองเป็นเจ้าของแต่กลับไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งหรือให้ความช่วยเหลือ ไม่ใช่ไม่มีมิตรภาพหรือความสนใจ หากแต่อิทธิพลของคนที่อยากครอบครองพื้นที่ต่างหาก ที่ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งเกี่ยวพร้อมทั้งบีบให้จันทร์เจ้ารีสอร์ทค่อยๆ ตายลงทีละน้อย เพื่อหวังให้ในที่สุดชลาลัยจะยอมขายที่ดินอันเป็นมรดกตกทอดให้กับนายทุนเจ้าเล่ห์ที่รออยู่ทุกขณะ "แต่เราก็จะดิ้นให้ถึงที่สุดใช่ไหม พี่ลัย" มีนากุมมือปลอบใจพี่สาว "ใช่ เราจะสู้ไปด้วยกัน" พี่สาวคนสวยฝืนยิ้มออกมาได้อีกครั้ง&nb
อีธานไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับที่นี่ แต่ในเวลานี้สายตาเขาจับจ้องไปskแม่สาวที่กำลังกอดชลาลัยอยู่ ท่าทางของมีนาเข้มแข็งมากตอนนี้ไม่ได้สนใจที่จะมองใครนอกจากปลอบประโลมพี่สาวคนสวยเพียงอย่างเดียว "ไม่เป็นไรแล้วพี่ลัย สงสัยต้องนิมนต์ท่านมาปัดเสนียดจัญไรพวกหน้าเลือดหน่อยแล้ว" มีนาพนมมือไหว้พระพุทธรูปก่อนจะอุ้มอัญเชิญเข้าไปในห้องทำงานตามเดิม เธอเพิ่งรู้ว่าพี่สาวไม่ได้อยู่กับคุณนายสร้อยทองเพียงลำพัง หากแต่มีใครบางคนที่หญิงสาวไม่อยากเจออยู่ด้วย มาทำอะไรที่นี่ แล้วมาตั้งแต่เมื่อไร "ทำไมไม่กลับไปอีก" มีนาเอ่ยขึ้นลอยๆ จงใจให้ใครบางคนได้ยิน แต่ไม่เจาะจงชื่อว่าเป็นใครเพราะไม่ต้องการพูดด้วย และเข้าใจว่าอีกไม่กี่นาทีคนที่ไม่อยากเจอตลอดชีวิตก็จะไม่อยู่ให้เห็นหน้าแล้ว หลังจากที่กลับ
เรือพร้อมจะไปส่งนักท่องเที่ยวขึ้นฝั่งในอีกครึ่งชั่วโมง ธามเตรียมตัวพร้อมจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในขณะที่อีธานเอาแต่ครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรกับสิ่งที่ค้างคาใจในเวลานี้ ชายหนุ่มพยายามหาทางพบมีนาตั้งแต่ที่หญิงสาววิ่งหนีหายไป แต่ไร้เงาราวกับว่าไม่ได้อยู่ในจันทร์เจ้ารีสอร์ทนี้ ทางเดียวที่อีธานจะรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน ก็คงต้องถามชลาลัยเท่านั้น เขาจึงให้ธามรออยู่ที่ล็อบบี้แล้วกลับไปที่ออฟฟิศทันที อีธานเดินมาเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าออฟฟิศของจันทร์เจ้ารีสอร์ท ก็ได้พบกับชลาลัยอีกครั้ง แต่วันนี้สีหน้าเธอดูเคร่งเครียดจนไม่เหลือรอยยิ้มหวานๆ บนใบหน้าอีกเลย "สวัสดีค่ะ จะกลับวันนี้แล้วใช่ไหมคะ" ชลาลัยพยายามจะยิ้มหวานๆ ให้ลูกค้า แต่ตอนนี้เรื่องที่กำลังปวดหัวทำให้ยิ้มไม่ออกสักเท่าไร "ครับ เอ่อ คุณ เอ่อ คือ" อีธานไม่รู้จะเริ่มต้นถามถึงมีนาอย่างไร
สายของวันถัดมามีนาลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง ร่างกายเมื่อยล้าและปวดร้าวอย่างบอกไม่ถูก สงสัยว่าอาจจะเป็นเพราะเมื่อคืนลงเล่นน้ำทะเลดึกมากไปหน่อยเช้านี้ก็เลยพาลจะไม่สบายเอาหญิงสาวขยับตัวลุกขึ้นจะเข้าห้องน้ำไปทำธุระ มีนาชะงักเมื่อเตียงที่กำลังนอนและห้องที่อยู่ในเวลานี้ไม่ใช้ห้องนอนของตน แต่มันเป็นห้องพักห้องใดห้องหนึ่งในรีสอร์ทและตอนนี้มีเสียงใครบางคนกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ไม่ไกล"ครับ วิกกี้ ขอบคุณมากที่นึกถึงผม เดินทางโดยสวัสดิภาพนะครับ" อีธานอวยพรอดีตคู่ขาที่วันนี้โทรศัพท์มาร่ำลาว่าจะกลับประเทศของตนแล้ว"ถ้าปีหน้าคุณมางานทอมอีก เราก็อาจจะได้เจอกันอีกแต่ถึงตอนนั้นคุณคงจำผมไม่ได้แล้ว เพราะผู้หญิงสวยอย่างคุณคงมีคนมารายล้อมมากมายจนลืมผู้ชายกระจอกๆ อย่างผมไปเลยน่ะซิครับ" อีธานเหลือบมาเห็นมีนารู้สึกตัวแล้ว เพียงแค่เห็นสีหน้าก็รู้ว่านาทีต่อจากนี้ไปอะไรจะเกิดขึ้น"บายครับ วิกกี้ ผมจะคิดถึงคุณนะ""อุ๊บ..."หมอนใบใหญ่เขวี้ยงมาที่หน้าแม่นยำราวกับมืออาชีพ อีธานกำลังจะอ้าปากพูดแต่เปลี่ยนใจวิ่งหาที่หลบภัยจากข้าวของที
มีนาเปิดประตูห้องน้ำออกมาแล้วรีบเดินออกไปจากห้องโดยไม่สนใจว่าจะมีใครรออยู่ อีธานรีบวิ่งตามออกมาแล้วคว้าแขนหญิงสาวไว้ "ปล่อยนะ" เจ้าตัวสะบัดไม่ยอมให้จับ "เรายังไม่ได้คุยกันเลย" อีธานไม่ยอมปล่อย "ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก ปล่อย" มีนาออกแรงสะบัดแขนอีกครั้ง แต่ชายหนุ่มยึดเอาไว้แน่นซ้ำยังรวบสองมือไว้ ดึงเข้ามาหาไม่ยอมปล่อยไปไหนอีกด้วย "ถ้าไม่คุยกันดีๆ เราไปคุยต่อหน้าพี่สาวคุณก็ได้ เอาไหม" ท่าทางอีธานเอาจริงแน่ "ขู่ฉันเหรอ" หญิงสาวเม้มปากแน่นด้วยความโกรธ "ไม่ได้ขู่แต่ผมทำจริง หรือจะไปตอนนี้เลยก็ได้ เมื่อเช้าคุณลัยเพิ่งถามว่าไปเที่ยวเมื่อคืนสนุกไหม คุณอยากให้ผมตอบไหมล่ะว่าสนุกจนเกือบโต้รุ่ง แต่คนที่สนุกคือคุณไม