อีธานไม่ได้อยากแอบฟังโทรศัพท์ แต่ภาษาไทยแบบพอเข้าใจได้ทำให้จับใจความสำคัญในการติดต่อกลับบ้านที่กรุงเทพฯของเพื่อนรักทุกครั้ง ปากก็บอกว่าไม่สนใจแต่พอรู้ว่ารติรสไม่อยู่ออกนอกบ้านทุกวัน ก็ทำให้ธามแทบไม่เป็นสุขกับการมาพักผ่อนครั้งนี้
"นายไม่พูดก็ไม่มีใครว่าเป็นใบ้หรอกนะ ที่ฉันห่วงคือว่าแม่นั่นจะทำอะไรกับข้าวของในบ้านหรือเปล่า" ธามทำเป็นเสียงแข็งเพื่อกลบเกลื่อนอารมณ์ในตอนนี้
"คุณรสไม่ใช่ขโมยนะ เอ หรือว่าขโมยหัวใจแกไปแล้ว" คนรู้ทันหัวเราะเบาๆ อย่างมีความสุข
"ตลกแล้ว แกจะไปไหนก็ไปเถอะ ไปชวนคุณชลาลัยคนสวยเดทก่อนกลับดีไหม รู้สึกว่ารอบนี้สะพานที่แกพยายามทอดแล้วทอดเล่าจะไม่ได้ผลนะ ถ้าไงคืนนี้ก็อย่าให้พลาดอีกล่ะ เสียชื่อปลาไหลอย่างอีธานหมด" ธามได้ทีย้อนกลับไปบ้าง
"ระดับอีธานไม่มีคำว่าพลาด ตกลงไม่ไปใช่ไหม งั้นเชิญแกนอนคิดถึงคู่หมั้นคนสวยไปคนเดียวแล้วกัน ส่วนฉันขอไปเฮฮาตามประสาคนไม่มีพันธะก่อน"
ธามส่ายหน้าเบาๆ เมื่ออีธานออกไปหาแสงสีที่ชอบนอกรีสอร์ท ตามประสาคนรักสนุกที่ไม่คิดอะไรมาก ส่วนตนเองได้แต่คิดว่าเมื่อกลับไปกรุงเทพฯพรุ่งนี้ จะจัดการอย่างไรกับปัญหาเรื่องคู่หมั้นที่คาราคาซังอยู่ในเวลานี้
ชลาลัยตรวจเอกสารอยู่ในออฟฟิศ ถอนหายใจกับตัวเลขที่แสดงในสมุดเวลานี้ บัญชีตัวแดงติดลบมากว่าหกเดือนยอดค้างชำระที่ต้องจ่ายเวียนมาอีกครั้งในทุกสิ้นเดือน รายได้ที่มีเข้าหาหักลบกลบหนี้แล้ว พอแค่ประทังไปจนถึงช่วงท่องเที่ยวในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปเกรงว่าจันทร์เจ้ารีสอร์ทอาจจะเหลือเพียงแค่ชื่อในที่สุด
"ว่าไง ยัยมีน" ชลาลัยเงยหน้าเห็นน้องสาวสุดที่รักเปิดประตูเข้ามา
"นอกจากแขกสองคนนี้แล้ว ยาวจนถึงสิ้นเดือนเราไม่มีลูกค้าเลยเหรอคะ" มีนา สายชลวัยยี่สบเอ็ดปีเอ่ยถามด้วยความสงสัย
หญิงสาวเรียบจบจากกรุงเทพฯและเพิ่งกลับมาที่เกาะหวนเมื่อไม่กี่วันนี้ เมื่อกลับมามีนาถึงรู้ว่าสถานการณ์การเงินของรีสอร์ทกำลังมีปัญหาถึงขั้นที่เรียกว่าแย่ พนักงานที่อยู่มีเพียงแค่มนัสที่เป็นผู้จัดการคนเดียวเท่านั้น คนอื่นที่เหลือลาออกกันไปหมดแล้ว
"พี่กำลังรอแขกยืนยันจองห้องจ้ะ" ชลาลัยหวังว่ามันจะเป็นเช่นนั้น
"เมื่อกี้มีนเพิ่งเช็กเมล์ ยังไม่มีใครยืนยันมาเลย ถ้าขืนเป็นแบบนี้ต่อไปอีก..."
"ไม่ต้องห่วงนะ ยังไงพี่ก็จะพยายามหาทางแก้ปัญหา" หญิงสาวปลอบใจคนฟังและตนเองในคราวเดียวกัน
"ถ้ารู้ว่ารีสอร์ทมีปัญหาแบบนี้ มีนจะไม่..."
"มันไม่เกี่ยวกับมีนหรอก ปัญหามันเกิดจากอะไรมีนก็รู้อยู่ พี่ดีใจมากว่าที่อย่างน้อยน้องพี่ก็เรียนจบ และพี่เชื่อว่าเมื่อมีนกลับมาเราต้องดีขึ้น เห็นไหมพอมีนมาเราก็มีแขก"
ชลาลัยหมายถึงอีธานกับธาม แขกต่างชาติที่เจาะจงจองที่พักของจันทร์เจ้ารีสอร์ทพร้อมกับโปรแกรมท่องเที่ยวทั้งหมดในราคาที่ตั้งไว้ จะว่าไปรายได้หลักของเดือนนี้ก็คือการเข้าพักของสองหนุ่มนี่เอง
"ขอให้มันเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ เถอะค่ะ ว่าแต่ไอ้พวกค่าคุ้มครองบ้านั่นยังไม่เลิกกันอีกเหรอคะ มีนว่าถ้าทุกรีสอร์ทรวมตัวกันไม่จ่าย พวกทำนาบนหลังคนก็อยู่กันไม่ได้" มีนารู้ดีว่าปัญหาของจันทร์เจ้ารีสอร์ทคืออะไร
ไม่ใช่เรื่องสถานที่หรือบริการที่สู้ที่อื่นไม่ได้ ตรงกันข้ามจันทร์เจ้ารีสอร์ทมีจุดชมวิวที่สวยที่สุดบนเกาะหวน ซึ่งใครๆ ต่างก็อยากมาเห็นพระอาทิตย์ขึ้นจากน้ำทะเลสีเขียวมรกต หรือยามที่แสงทองของขอบฟ้าส่งอาทิตย์ลาลับในยามเย็น
"ผลประโยชน์ที่มีร่วมกันมันมากกว่าเสีย พี่เองก็เคยคิดนะ ถ้ายอมจ่ายบางทีเราอาจจะไม่ถูกกระทำแบบนี้ก็ได้" ชลาลัยถอนหายใจเบาๆ
"พี่ลัยทำถูกแล้วที่ไม่ให้พวกนั้นมาขูดรีด มีนเชื่อว่าคนที่อยากเห็นความสวยงามของทะเลและตั้งใจมาหาเรามีอีกมาก"
"แต่ผลกระทบมันก็เห็นชัดนะ พอเราไม่จ่ายค่าคุ้มครองนักท่องเที่ยวบางคนก็ถูกดึงไปที่รีสอร์ทอื่นทั้งที่จองมาหาเรา บางทีจู่ๆ ก็ปิดทางถนนไม่ให้รถของรีสอร์ทเราไปรับลูกค้า มนัสต้องแก้ไขด้วยการพานักท่องเที่ยวเดินลัดหาดมา ขืนเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่ช้าพี่ว่าเราต้องแย่กว่านี้แน่"
"แล้วเรื่องยัยคุณนายนั่นล่ะคะ พี่ลัยจัดการอย่างไร" มีนาถามถึงเจ้าหนี้รายใหญ่ที่เป็นอีกปัญหาหนึ่งของรีสอร์ท
"พี่สร้อยมาเอาเงินทุกเดือนโดยไม่หักเงินต้นอ้างว่าเป็นดอกเบี้ย มนัสกำลังขอให้เพื่อนที่เป็นทนายร่างสัญญาเงินกู้เพื่อจะได้ผ่อนจ่ายเป็นกิจลักษณะและชดใช้กันหมดซะที"
ชลาลัยถอนหายใจอีกครั้ง จันทร์เจ้ารีสอร์ทมีปัญหาหลักล้วนแต่เป็นเรื่องเงินทั้งนั้น รายรับไม่เท่ารายจ่ายก็ยิ่งทำให้ติดลบมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าภาระเรื่องเรียนของมีนาจะหมดไป แต่สิ่งที่สะสมมาก็ยังคงต้องแก้ไข และหวังว่าสักวันมันจะจบลงด้วยดี
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา "ฉันจะกลับไปที่เกาะนั่น เจ้าของรีสอร์ทสนใจที่จะลงทุนด้วย" อีธานแวะมาบอกเจ้าของบ้านที่กำลังหงุดหงิดเพราะคู่หมั้นหายไปตั้งแต่เช้า เห็นเพื่อนรักท่าทางอารมณ์ดีเป็นพิเศษทำให้ธามคิดว่าอีธานคงดีใจที่จะได้ไปในสถานที่ชอบอีกครั้ง ทะเลกับปลาไหลคงเป็นของคู่กันไปแล้ว แต่เปล่าเลย ที่อีธานดีใจไม่ใช่เพราะชลาลัยตัดสินใจเชิญเขาไปฟังเงื่อนไขบางอย่างที่เกาะหวน แต่เป็นเพราะชายหนุ่มจะมีโอกาสได้จัดการกับข้อกังขาที่อยู่ในใจมาตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่กลับมา ภายหลังจากที่กลับมาจากเกาะหวน อีธานมีเวลาทบทวนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับมีนา สิ่งหนึ่งที่เป็นกังวลมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ มีนาท้อง เพราะคืนนั้นเขาไม่ได้ป้องกัน ดังนั้นถึงตกลงกับเจ้าตัวไม่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ถ้ามีเด็กเกิดขึ้นอีธานก็ไม่มีวันปล่อยให้เลือดเนื้อเชื้อไขตัวเ
คำแนะนำของอีธานเป็นวิธีที่ดีไม่ใช่น้อย แต่ปัญหาของจันทร์เจ้ารีสอร์ทไม่ใช่แค่หนี้สิ้นที่พอกเป็นหางหมูเท่านั้น แต่ยังติดปัญหาอื่นซึ่งไม่รู้ว่าจะหาทางแก้ไขอย่างไรด้วยต่างหาก "ใครจะกล้ามาลงทุนกับรีสอร์ทเล็กๆ อย่างเรา" ชลาลัยพูดอย่างหมดหวัง ความงดงามของทิวทัศน์ที่ตนเองเป็นเจ้าของแต่กลับไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งหรือให้ความช่วยเหลือ ไม่ใช่ไม่มีมิตรภาพหรือความสนใจ หากแต่อิทธิพลของคนที่อยากครอบครองพื้นที่ต่างหาก ที่ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งเกี่ยวพร้อมทั้งบีบให้จันทร์เจ้ารีสอร์ทค่อยๆ ตายลงทีละน้อย เพื่อหวังให้ในที่สุดชลาลัยจะยอมขายที่ดินอันเป็นมรดกตกทอดให้กับนายทุนเจ้าเล่ห์ที่รออยู่ทุกขณะ "แต่เราก็จะดิ้นให้ถึงที่สุดใช่ไหม พี่ลัย" มีนากุมมือปลอบใจพี่สาว "ใช่ เราจะสู้ไปด้วยกัน" พี่สาวคนสวยฝืนยิ้มออกมาได้อีกครั้ง&nb
อีธานไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับที่นี่ แต่ในเวลานี้สายตาเขาจับจ้องไปskแม่สาวที่กำลังกอดชลาลัยอยู่ ท่าทางของมีนาเข้มแข็งมากตอนนี้ไม่ได้สนใจที่จะมองใครนอกจากปลอบประโลมพี่สาวคนสวยเพียงอย่างเดียว "ไม่เป็นไรแล้วพี่ลัย สงสัยต้องนิมนต์ท่านมาปัดเสนียดจัญไรพวกหน้าเลือดหน่อยแล้ว" มีนาพนมมือไหว้พระพุทธรูปก่อนจะอุ้มอัญเชิญเข้าไปในห้องทำงานตามเดิม เธอเพิ่งรู้ว่าพี่สาวไม่ได้อยู่กับคุณนายสร้อยทองเพียงลำพัง หากแต่มีใครบางคนที่หญิงสาวไม่อยากเจออยู่ด้วย มาทำอะไรที่นี่ แล้วมาตั้งแต่เมื่อไร "ทำไมไม่กลับไปอีก" มีนาเอ่ยขึ้นลอยๆ จงใจให้ใครบางคนได้ยิน แต่ไม่เจาะจงชื่อว่าเป็นใครเพราะไม่ต้องการพูดด้วย และเข้าใจว่าอีกไม่กี่นาทีคนที่ไม่อยากเจอตลอดชีวิตก็จะไม่อยู่ให้เห็นหน้าแล้ว หลังจากที่กลับ
เรือพร้อมจะไปส่งนักท่องเที่ยวขึ้นฝั่งในอีกครึ่งชั่วโมง ธามเตรียมตัวพร้อมจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในขณะที่อีธานเอาแต่ครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรกับสิ่งที่ค้างคาใจในเวลานี้ ชายหนุ่มพยายามหาทางพบมีนาตั้งแต่ที่หญิงสาววิ่งหนีหายไป แต่ไร้เงาราวกับว่าไม่ได้อยู่ในจันทร์เจ้ารีสอร์ทนี้ ทางเดียวที่อีธานจะรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน ก็คงต้องถามชลาลัยเท่านั้น เขาจึงให้ธามรออยู่ที่ล็อบบี้แล้วกลับไปที่ออฟฟิศทันที อีธานเดินมาเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าออฟฟิศของจันทร์เจ้ารีสอร์ท ก็ได้พบกับชลาลัยอีกครั้ง แต่วันนี้สีหน้าเธอดูเคร่งเครียดจนไม่เหลือรอยยิ้มหวานๆ บนใบหน้าอีกเลย "สวัสดีค่ะ จะกลับวันนี้แล้วใช่ไหมคะ" ชลาลัยพยายามจะยิ้มหวานๆ ให้ลูกค้า แต่ตอนนี้เรื่องที่กำลังปวดหัวทำให้ยิ้มไม่ออกสักเท่าไร "ครับ เอ่อ คุณ เอ่อ คือ" อีธานไม่รู้จะเริ่มต้นถามถึงมีนาอย่างไร
สายของวันถัดมามีนาลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง ร่างกายเมื่อยล้าและปวดร้าวอย่างบอกไม่ถูก สงสัยว่าอาจจะเป็นเพราะเมื่อคืนลงเล่นน้ำทะเลดึกมากไปหน่อยเช้านี้ก็เลยพาลจะไม่สบายเอาหญิงสาวขยับตัวลุกขึ้นจะเข้าห้องน้ำไปทำธุระ มีนาชะงักเมื่อเตียงที่กำลังนอนและห้องที่อยู่ในเวลานี้ไม่ใช้ห้องนอนของตน แต่มันเป็นห้องพักห้องใดห้องหนึ่งในรีสอร์ทและตอนนี้มีเสียงใครบางคนกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ไม่ไกล"ครับ วิกกี้ ขอบคุณมากที่นึกถึงผม เดินทางโดยสวัสดิภาพนะครับ" อีธานอวยพรอดีตคู่ขาที่วันนี้โทรศัพท์มาร่ำลาว่าจะกลับประเทศของตนแล้ว"ถ้าปีหน้าคุณมางานทอมอีก เราก็อาจจะได้เจอกันอีกแต่ถึงตอนนั้นคุณคงจำผมไม่ได้แล้ว เพราะผู้หญิงสวยอย่างคุณคงมีคนมารายล้อมมากมายจนลืมผู้ชายกระจอกๆ อย่างผมไปเลยน่ะซิครับ" อีธานเหลือบมาเห็นมีนารู้สึกตัวแล้ว เพียงแค่เห็นสีหน้าก็รู้ว่านาทีต่อจากนี้ไปอะไรจะเกิดขึ้น"บายครับ วิกกี้ ผมจะคิดถึงคุณนะ""อุ๊บ..."หมอนใบใหญ่เขวี้ยงมาที่หน้าแม่นยำราวกับมืออาชีพ อีธานกำลังจะอ้าปากพูดแต่เปลี่ยนใจวิ่งหาที่หลบภัยจากข้าวของที
มีนาเปิดประตูห้องน้ำออกมาแล้วรีบเดินออกไปจากห้องโดยไม่สนใจว่าจะมีใครรออยู่ อีธานรีบวิ่งตามออกมาแล้วคว้าแขนหญิงสาวไว้ "ปล่อยนะ" เจ้าตัวสะบัดไม่ยอมให้จับ "เรายังไม่ได้คุยกันเลย" อีธานไม่ยอมปล่อย "ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก ปล่อย" มีนาออกแรงสะบัดแขนอีกครั้ง แต่ชายหนุ่มยึดเอาไว้แน่นซ้ำยังรวบสองมือไว้ ดึงเข้ามาหาไม่ยอมปล่อยไปไหนอีกด้วย "ถ้าไม่คุยกันดีๆ เราไปคุยต่อหน้าพี่สาวคุณก็ได้ เอาไหม" ท่าทางอีธานเอาจริงแน่ "ขู่ฉันเหรอ" หญิงสาวเม้มปากแน่นด้วยความโกรธ "ไม่ได้ขู่แต่ผมทำจริง หรือจะไปตอนนี้เลยก็ได้ เมื่อเช้าคุณลัยเพิ่งถามว่าไปเที่ยวเมื่อคืนสนุกไหม คุณอยากให้ผมตอบไหมล่ะว่าสนุกจนเกือบโต้รุ่ง แต่คนที่สนุกคือคุณไม