เนื้อสาวของมีนาแสนหอมหวานจนทำให้อีธานแทบคลั่ง ไม่อยากเชื่อว่าจะมีใครคนไหนทำให้เขาลืมผู้หญิงคนอื่นที่เคยเจอมาก่อนหน้า ชายหนุ่มฝังรอยจารึกความเป็นเจ้าของไว้เกือบทุกพื้นที่บนร่างกายนี้ ยิ่งเชยชมก็ยิ่งหวงแหน ยิ่งสัมผัสก็ยิ่งอยากได้ ยิ่งแนบแน่นก็ยิ่งไม่อยากปล่อยให้หลุดจากชีวิตไป
อีธานกลืนกินอกงามอย่างทะนุถนอม และใช้เวลาชื่มชมมันต่อไปเรื่อยๆ ร่างกายของมีนายินยอมพร้อมใจไม่มีขัดเขิน เสียงครางหวานหูเป็นระยะทำให้เขาฮึกเหิมและเรียกเรี่ยวแรงที่พร้อมจะทำให้อีกฝ่ายมีความสุขได้ตลอดเวลา
ใช้ริมฝีปากฉกชิมทรวงงามทั้งสองข้าง มือแกร่งที่ว่างข้างหนึ่งค่อยๆ ลูบไล้เลื่อนสัมผัสมาด้านล่าง เรียวขางามขยับไปมาเพื่อช่วยปลดปล่อยความเร่าร้อนที่มาพร้อมความซาบซ่านของแรกสาว ความงดงามที่ยังไม่ได้เห็นด้วยตามีเพียงสัมผัสจากฝ่ามือเท่านั้นทำให้มีนาถึงกับกลั้นความสุขสมนั้นไว้ไม่อยู่
ฝ่ามือร้อนเคล้าคลึงสะโพกด้านหน้าเรียกร้องให้อีธานค่อยๆ เคลื่อนตัวลงมาอย่างช้าๆ หยุดลงตรงที่กึ่งกลางร่างกาย เขาจูบเบาๆ คล้ายกับจะเตือนบอกก่อนว่ากำลังจะสำรวจพื้นที่โดยละเอียด ด้วยปลายลิ้นที่มอบความสุขให้กับกายสาวมาก่อนหน้า
มีนากรีดร้องอีกครั้งเมื่อดอกไม้งามประจำกายถูกภมรตัวแรกของชีวิตสาวเชยชม ยิ่งพิศยิ่งชมอีธานก็ยิ่งหยุดตัวเองไม่ได้ มอบความเร่าร้อนที่ไม่เคยกระทำกับผู้ใดมาก่อนในชีวิตให้กับหญิงสาวเพียงคนเดียว
ร่างสาววาบหวามและซาบซ่านสะโพกงามพลิ้วไหวไปกับจังหวะที่ชายหนุ่มเป็นผู้ควบคุม เธอปรารถนามากขึ้น มากขึ้นและในที่สุดอีธานก็มอบความสุขครั้งแรกให้ได้รู้จัก
แววตาที่เผยความต้องการที่มากขึ้น เนื้อสาวสั่นระริกและขยับเข้าหาอย่างไม่หวั่นเกรง อีธานขยับตัวขึ้นมาจูบอีกครั้งด้วยความเร่าร้อน ไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ร้อนมากกว่า หากแต่เป็นไฟร้อนที่ผวาเข้าหาเพื่อช่วยกันปลดปล่อยความรู้สึกที่อยู่ภายในของทั้งคู่
"มีนา" อีธานจูบด้วยความรู้สึกเป็นเจ้าของและหวงแหน ในขณะที่มีนาเผยอรับด้วยความยินยอมและเต็มใจที่พร้อมจะให้เขาเป็นผู้นำพาชีวิตต่อไป
มีนาสุขสมกับความสุขแรกสาวที่อีธานมอบให้ หากแต่มันยังไม่ใช่ที่สุดที่ร่างกายเรียกร้อง เธอไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วร่างกายเรียกร้องสิ่งใดกันแน่ ดังนั้นจึงหวังพึ่งให้ชายหนุ่มเป็นผู้มอบคำตอบนี้
เมื่อไม่อาจหยุดตนเองได้และยอมรับว่าร่างกายปรารถนา ปรารถนาแต่มีนาเพียงผู้เดียวในเวลานี้ เป็นความปรารถนาที่ไม่เคยเกิดกับใครมาก่อนในชีวิต อีธานยอมตายหากว่าค่ำคืนนี้ไม่ได้เชยชมความงดงามที่อยู่ภายในเรือนกายนี้
เพลิงพิศวาสดำเนินไปตามครรลองของธรรมชาติ อีธานพร้อมสำหรับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ร่างกายของมีนาเองก็รอคอยความสุขที่เขาจะเป็นผู้มอบให้ ดวงตาของหญิงสาวไม่พรั่นพรึงหวาดกลัวใดๆ ทั้งสิ้น เสียงกระซิบส่งสัญญาณที่ข้างหูได้รับคำตอบด้วยการพยักหน้า
"เราจะมีความสุขด้วยกันนะมีนา"
อะไรก็ตามที่จะเกิดจากนี้ไป เขาพร้อมรับผิดชอบและจะไม่มีวันยอมสูญเสียมันไปให้ใครเด็ดขาด หากทุกอย่างคลี่คลายลงวันพรุ่งนี้ชีวิตจะต้องเปลี่ยนไป และสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้จะไม่มีวันจบเด็ดขาด
อีธานจูบอย่างอ่อนโยนอีกครั้งก่อนจะค่อยๆ รุกล้ำเข้าสู่ร่างกายของมีนาอย่างช้าๆ เรียวขาขาวข้างหนึ่งถูกขยับให้แยกจาก ตั้งแต่เกิดมานี่เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มรู้สึกประหม่าเล็กน้อย แค่ส่งสัมผัสลึกซึ้งเข้าสู่ร่างกายหญิงสาว ความงดงามที่คงไว้โดยไม่มีใครมาแผ้วพานก็ทำให้เขาต้องทะนุถนอมให้มากที่สุด
เสียงกรีดร้องเบาๆ พร้อมกับร่างสาวที่ผวาเข้ากอดรัด น้ำตาแห่งความเจ็บปวดซึมออกให้เห็นจนอีธานต้องจูบซับรับขวัญเบาๆ และรอให้มีนาได้ผ่อนคลายจากการรวมเป็นหนึ่งที่มีคุณค่า
เขาแสนสุขกับการเป็นคนแรกในชีวิตมีนา รู้สึกหวงแหนเป็นเจ้าของและต้องการครอบครองเพียงผู้เดียวเกิดขึ้นพร้อมๆ กัน ให้ตายเถอะ นี่อีธานกำลังจะเริ่มผูกมัดตนเองและยอมหยุดอยู่ที่ผู้หญิงคนนี้จริงๆ หรือ ‘ใช่’ เขาต้องการแต่มีนาคนเดียวเท่านั้น
"มีนา มีนาจ๋า" เสียงเรียกหวานหูพร้อมกับการขับเคลื่อนที่เริ่มต้นอย่างช้าๆ
มีนาร้อน ร้อนราวกับถูกไฟเผา ทีแรกมันร้อนและโหยหาสัมผัสบางสิ่งที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน เมื่ออีธานมาเป็นผู้ช่วยดับร้อนนี้และให้ความสุขสมเข้ามาแทนที่ มันก็คล้ายจะคลายความทรมานลงได้บ้าง
แต่ตอนนี้เธอร้อน ร้อนเสน่หาที่กำลังแผดเผาให้เนื้อตัวทำในสิ่งที่ไม่เคยกระทำมาก่อน เพลิงพิศวาสที่เล่นงานอยู่ในเวลานี้ หญิงสาวยินดีสนองมันด้วยความเต็มใจ ทั้งเรือนร่างพร้อมขยับเคลื่อนไหวตามผู้นำที่แสนวิเศษ
มันอบอุ่น นุ่มนวล ซาบซ่าน วาบหวามและมีความสุขจนไม่สามารถอธิบายออกมาได้เป็นคำพูด ยิ่งรุนแรงยิ่งเร่าร้อน ยิ่งตอกย้ำยิ่งยอมรับ ไม่ว่าอีธานจะนำทางไปถึงดินแดนใด ร่างกายของมีนาก็ยินดีและยินยอมตลอดไป
เพลิงพิศวาสริมหาดทรายร้อนขึ้นเรื่อยๆ เสียงครวญที่เกิดขึ้นเป็นระยะ บอกได้เป็นอย่างดีว่าความสุขที่เกิดขึ้นมากแค่ไหน ความงดงามของสรีระที่ขับเคลื่อนตามจังหวะธรรมชาติ ท่ามกลางความงดงามของทะเลและเสียงคลื่น
วินาทีที่ความสุขมาเยือนในพิศวาสแรกของทั้งคู่ สายฝนก็โปรยปรายลงมาทันทีคล้ายจะเป็นพยานแห่งความสุขสมให้กับทั้งสอง วิมานพิศวาสได้สายน้ำธรรมชาติรดดับความเร่าร้อนที่เพิ่งจะทุเลาลง มีนาระทวยในอ้อมแขนที่อบอุ่นซบหน้าลงกับอกแกร่งอย่างมีความสุข อีธานจูบเบาๆ ที่หน้าผากรับขวัญก่อนจะอุ้มตัวเธอขึ้นไปหลบฝนที่บ้านพักซึ่งอยู่ใกล้ที่สุด
ฝนตกลงมาอย่างหนัก ฟ้าคำรามดังลั่นริมหาด คลื่นลมที่คล้ายจะสงบเริ่มมีก่อตัวขึ้นมาอีกครั้ง ทะเลมีคลื่นลมตามธรรมชาติ ในบ้านพักมีคลื่นพิศวาสที่เกิดขึ้นทั้งฤทธิ์ยาและฤทธิ์ของตนเอง
ทะเลสงบใกล้รุ่งคลื่นพิศวาสสงบลงตาม อรุณแรกกำลังจะมาเยือนวันใหม่อีกครา ชีวิตที่เปลี่ยนไปของทั้งคู่กำลังจะเริ่มต้น แต่จะออกหัวออกก้อยใครเล่าจะรู้ได้
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา "ฉันจะกลับไปที่เกาะนั่น เจ้าของรีสอร์ทสนใจที่จะลงทุนด้วย" อีธานแวะมาบอกเจ้าของบ้านที่กำลังหงุดหงิดเพราะคู่หมั้นหายไปตั้งแต่เช้า เห็นเพื่อนรักท่าทางอารมณ์ดีเป็นพิเศษทำให้ธามคิดว่าอีธานคงดีใจที่จะได้ไปในสถานที่ชอบอีกครั้ง ทะเลกับปลาไหลคงเป็นของคู่กันไปแล้ว แต่เปล่าเลย ที่อีธานดีใจไม่ใช่เพราะชลาลัยตัดสินใจเชิญเขาไปฟังเงื่อนไขบางอย่างที่เกาะหวน แต่เป็นเพราะชายหนุ่มจะมีโอกาสได้จัดการกับข้อกังขาที่อยู่ในใจมาตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่กลับมา ภายหลังจากที่กลับมาจากเกาะหวน อีธานมีเวลาทบทวนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับมีนา สิ่งหนึ่งที่เป็นกังวลมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ มีนาท้อง เพราะคืนนั้นเขาไม่ได้ป้องกัน ดังนั้นถึงตกลงกับเจ้าตัวไม่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ถ้ามีเด็กเกิดขึ้นอีธานก็ไม่มีวันปล่อยให้เลือดเนื้อเชื้อไขตัวเ
คำแนะนำของอีธานเป็นวิธีที่ดีไม่ใช่น้อย แต่ปัญหาของจันทร์เจ้ารีสอร์ทไม่ใช่แค่หนี้สิ้นที่พอกเป็นหางหมูเท่านั้น แต่ยังติดปัญหาอื่นซึ่งไม่รู้ว่าจะหาทางแก้ไขอย่างไรด้วยต่างหาก "ใครจะกล้ามาลงทุนกับรีสอร์ทเล็กๆ อย่างเรา" ชลาลัยพูดอย่างหมดหวัง ความงดงามของทิวทัศน์ที่ตนเองเป็นเจ้าของแต่กลับไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งหรือให้ความช่วยเหลือ ไม่ใช่ไม่มีมิตรภาพหรือความสนใจ หากแต่อิทธิพลของคนที่อยากครอบครองพื้นที่ต่างหาก ที่ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งเกี่ยวพร้อมทั้งบีบให้จันทร์เจ้ารีสอร์ทค่อยๆ ตายลงทีละน้อย เพื่อหวังให้ในที่สุดชลาลัยจะยอมขายที่ดินอันเป็นมรดกตกทอดให้กับนายทุนเจ้าเล่ห์ที่รออยู่ทุกขณะ "แต่เราก็จะดิ้นให้ถึงที่สุดใช่ไหม พี่ลัย" มีนากุมมือปลอบใจพี่สาว "ใช่ เราจะสู้ไปด้วยกัน" พี่สาวคนสวยฝืนยิ้มออกมาได้อีกครั้ง&nb
อีธานไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับที่นี่ แต่ในเวลานี้สายตาเขาจับจ้องไปskแม่สาวที่กำลังกอดชลาลัยอยู่ ท่าทางของมีนาเข้มแข็งมากตอนนี้ไม่ได้สนใจที่จะมองใครนอกจากปลอบประโลมพี่สาวคนสวยเพียงอย่างเดียว "ไม่เป็นไรแล้วพี่ลัย สงสัยต้องนิมนต์ท่านมาปัดเสนียดจัญไรพวกหน้าเลือดหน่อยแล้ว" มีนาพนมมือไหว้พระพุทธรูปก่อนจะอุ้มอัญเชิญเข้าไปในห้องทำงานตามเดิม เธอเพิ่งรู้ว่าพี่สาวไม่ได้อยู่กับคุณนายสร้อยทองเพียงลำพัง หากแต่มีใครบางคนที่หญิงสาวไม่อยากเจออยู่ด้วย มาทำอะไรที่นี่ แล้วมาตั้งแต่เมื่อไร "ทำไมไม่กลับไปอีก" มีนาเอ่ยขึ้นลอยๆ จงใจให้ใครบางคนได้ยิน แต่ไม่เจาะจงชื่อว่าเป็นใครเพราะไม่ต้องการพูดด้วย และเข้าใจว่าอีกไม่กี่นาทีคนที่ไม่อยากเจอตลอดชีวิตก็จะไม่อยู่ให้เห็นหน้าแล้ว หลังจากที่กลับ
เรือพร้อมจะไปส่งนักท่องเที่ยวขึ้นฝั่งในอีกครึ่งชั่วโมง ธามเตรียมตัวพร้อมจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในขณะที่อีธานเอาแต่ครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรกับสิ่งที่ค้างคาใจในเวลานี้ ชายหนุ่มพยายามหาทางพบมีนาตั้งแต่ที่หญิงสาววิ่งหนีหายไป แต่ไร้เงาราวกับว่าไม่ได้อยู่ในจันทร์เจ้ารีสอร์ทนี้ ทางเดียวที่อีธานจะรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน ก็คงต้องถามชลาลัยเท่านั้น เขาจึงให้ธามรออยู่ที่ล็อบบี้แล้วกลับไปที่ออฟฟิศทันที อีธานเดินมาเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าออฟฟิศของจันทร์เจ้ารีสอร์ท ก็ได้พบกับชลาลัยอีกครั้ง แต่วันนี้สีหน้าเธอดูเคร่งเครียดจนไม่เหลือรอยยิ้มหวานๆ บนใบหน้าอีกเลย "สวัสดีค่ะ จะกลับวันนี้แล้วใช่ไหมคะ" ชลาลัยพยายามจะยิ้มหวานๆ ให้ลูกค้า แต่ตอนนี้เรื่องที่กำลังปวดหัวทำให้ยิ้มไม่ออกสักเท่าไร "ครับ เอ่อ คุณ เอ่อ คือ" อีธานไม่รู้จะเริ่มต้นถามถึงมีนาอย่างไร
สายของวันถัดมามีนาลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง ร่างกายเมื่อยล้าและปวดร้าวอย่างบอกไม่ถูก สงสัยว่าอาจจะเป็นเพราะเมื่อคืนลงเล่นน้ำทะเลดึกมากไปหน่อยเช้านี้ก็เลยพาลจะไม่สบายเอาหญิงสาวขยับตัวลุกขึ้นจะเข้าห้องน้ำไปทำธุระ มีนาชะงักเมื่อเตียงที่กำลังนอนและห้องที่อยู่ในเวลานี้ไม่ใช้ห้องนอนของตน แต่มันเป็นห้องพักห้องใดห้องหนึ่งในรีสอร์ทและตอนนี้มีเสียงใครบางคนกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ไม่ไกล"ครับ วิกกี้ ขอบคุณมากที่นึกถึงผม เดินทางโดยสวัสดิภาพนะครับ" อีธานอวยพรอดีตคู่ขาที่วันนี้โทรศัพท์มาร่ำลาว่าจะกลับประเทศของตนแล้ว"ถ้าปีหน้าคุณมางานทอมอีก เราก็อาจจะได้เจอกันอีกแต่ถึงตอนนั้นคุณคงจำผมไม่ได้แล้ว เพราะผู้หญิงสวยอย่างคุณคงมีคนมารายล้อมมากมายจนลืมผู้ชายกระจอกๆ อย่างผมไปเลยน่ะซิครับ" อีธานเหลือบมาเห็นมีนารู้สึกตัวแล้ว เพียงแค่เห็นสีหน้าก็รู้ว่านาทีต่อจากนี้ไปอะไรจะเกิดขึ้น"บายครับ วิกกี้ ผมจะคิดถึงคุณนะ""อุ๊บ..."หมอนใบใหญ่เขวี้ยงมาที่หน้าแม่นยำราวกับมืออาชีพ อีธานกำลังจะอ้าปากพูดแต่เปลี่ยนใจวิ่งหาที่หลบภัยจากข้าวของที
มีนาเปิดประตูห้องน้ำออกมาแล้วรีบเดินออกไปจากห้องโดยไม่สนใจว่าจะมีใครรออยู่ อีธานรีบวิ่งตามออกมาแล้วคว้าแขนหญิงสาวไว้ "ปล่อยนะ" เจ้าตัวสะบัดไม่ยอมให้จับ "เรายังไม่ได้คุยกันเลย" อีธานไม่ยอมปล่อย "ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก ปล่อย" มีนาออกแรงสะบัดแขนอีกครั้ง แต่ชายหนุ่มยึดเอาไว้แน่นซ้ำยังรวบสองมือไว้ ดึงเข้ามาหาไม่ยอมปล่อยไปไหนอีกด้วย "ถ้าไม่คุยกันดีๆ เราไปคุยต่อหน้าพี่สาวคุณก็ได้ เอาไหม" ท่าทางอีธานเอาจริงแน่ "ขู่ฉันเหรอ" หญิงสาวเม้มปากแน่นด้วยความโกรธ "ไม่ได้ขู่แต่ผมทำจริง หรือจะไปตอนนี้เลยก็ได้ เมื่อเช้าคุณลัยเพิ่งถามว่าไปเที่ยวเมื่อคืนสนุกไหม คุณอยากให้ผมตอบไหมล่ะว่าสนุกจนเกือบโต้รุ่ง แต่คนที่สนุกคือคุณไม