ฐาปกรณ์ กำลังพึงพอใจในเรือนล่างชายหนุ่ม ซึ่งไม่รู้ค่าหน้าตาหลังกำแพง เขายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ หัวใจเต้นระรัวตื่นเต้นมาก เมื่อได้เริ่มทำการแหย่ปลายนิ้วเข้าปากทวาร และอีกมือกำองคชาติของชายหลังกำแพงไว้ในมือ
เขานอนคว่ำ พลางกางขาเพื่อรอถูกสอดใส่องคชาติอย่างยินยอม ยามเมื่อชายหนุ่มคลานเข่า เพื่อแหวกเรือนขาของผู้ถูกเลือกให้กว้างขึ้น เขาจับความเป็นชายของตัวเอง ยื่นปลายหัวชนกับปากทวาร ถูไถเลื่อนไหลไปมาให้กระสันซ่าน
เบื้องล่างกำแพงแทบไม่สะทบสะท้านกับการถูกละเมิดประตูหลัง ฐาปกรณ์คงไม่รอช้าสำหรับการสอดองคชาติ เปิดปากทวาร แหกซิงก้นที่สวยงาม ซึ่งนอนคว่ำอยู่บนเตียง และอีกครึ่งตัวท่อนบนหลบอยู่ฉากหลังกำแพงเหมือนกับคนอื่นๆ
เสียงครวญครางของหญิงสาวสองสามคน ภายในห้องเดียวกัน ดังกันระงมสลับครวญคราง ยามเมื่อถูกกระทำสอดใส่เปิดซิง ทำให้ฐาปกรณ์ไม่รอช้าจะแหกปากทวารครั้งแรกของชายหนุ่มนิรนามหลังกำแพงนี้เช่นนี้
ฐาปกรณ์เริ่มตบแก้มก้น เรียกอารมณ์เข็ดเขี้ยวให้ตน เพื่อมองช่วงล่างอย่างเร้าใจ ปากทวารเริ่มเปิดกว้าง และมือเขาเริ่มเอื้อมไปเบื้องหน้า เพื่อจับองคชาติใหญ่พองขยายของเบอร์สามเอาไว้ในมือ มันเรียกอารมณ์เขาได้อย่างตื่นเต้นเสียกระไร
ความเป็นชายของผู้บุกรุก เริ่มตื่นตัวพร้อมแทงดาบทื่อเข้าประตูหลัง เปิดซิงทวารใสสะอาดนี้ เพื่อเขาจะได้เป็นยอดชาย มันช่างเป็นอารมณ์ที่ยอดเยี่ยม เมื่อเขากำลังจ่อปลายองคชาติอยู่ปากทางเข้า
สร้างอารมณ์หวาดหวั่นให้กับอยู่ผู้เบื้องหลังกำแพง เกร็งก้นและค่อยๆ เคลื่อนก้นหนีอย่างเจ็บปวด แต่ฐาปกรณ์กดสะโพกชายเอาไว้ ดึงองคชาติไว้ในมือดันหน้าท้องให้ถอยหลัง ปะทะกับหน้าท้องมีซิกแพ็คสวยๆ
ช่างเป็นอารมณ์ที่แสนเจ็บปวดทรมาน แต่มันก็ทำให้องคชาติของเบอร์สาม เคยอวบใหญ่ต้องหดเกร็ง และเล็กลงแม้มันจะเจ็บปนเสียวมาก สำหรับการถูกเปิดซิงทางทวารในครั้งแรก
******
กายหนุ่มซึ่งกำลังเขย่าสะโพกรัวๆ เข้ากับเรือนก้นของเบอร์สาม พร้อมองคชาติกวัดแกว่งตามแรงกระแทก สีหน้าของฐาปกรณ์ กระสันสุขถึงอารมณ์ดิบ ได้สวนทวารซอยรัวเสียวกระสันสุดๆ ยามเมื่อความเป็นชายของเขา กำลังอัดแรงๆ เข้าไปภายในประตูหลัง
เรือนสะโพกในท่าด๊อกกี้ สั่นไหวยามเมื่อองคชาติแทงลึกทะลวงหนักๆ หลายคราที่เขาแทบจะส่งเสียงตอบกลั้น แต่กลับงอนิ้วเท้าแทนการร้องด้วยความเจ็บปวด ยอมรับว่ามันแสบก้นสุดๆ กับการผ่านเข้ามาในคราแรก
แต่เมื่อปลายองคชาติแทงมาจนลึกสุดๆ ยามเมื่อโคนหนาอุ่นกระทบกับเรือนก้นชายหนุ่มเบอร์สาม เขารู้สึกสบายและผ่อนคลายความเจ็บปวดทั้งปวง
ฐาปกรณ์คิดว่าทวารของเบอร์สามคงจะปรับเข้ากับองคชาติอวบอิ่มของเขาได้อีกแล้ว ชายหนุ่มจับเอวบางเบอร์สาม รูปร่างดีผอมแกร่งให้กระชับมือ พลางกระเซ้าองคชาติลื่นๆ ในทวาร
รัวซอยเร็วถี่ๆ ลึกๆ และกระหน่ำแรงๆ พลางใช้สองมือจับเรือนกายเบื้องล่าง ดึงเข้าหากายฐาปกรณ์รับกับการกระแทกสวนทวารทุกๆ ครั้ง
เสียงชายหนุ่มเบื้องหลังกำแพง เล็ดลอดออกมาเพียงนิด แต่กลับได้ยินเสียงหอบหายใจ และแรงกระแทกกลับจากเรือนสะโพกหนุ่ม รับกับการเสพทวารประตูหลัง เขากำลังกระสันซ่านเสียวสุดๆ
องคชาติที่หดเล็ก เริ่มอวบใหญ่ บวมพองขยายอีกครั้ง ยามเมื่อแกว่งไปมาตอนถูกเขย่ากระแทกทวารแรงๆ สายน้ำขุ่นหยดเป็นระยะ พร้อมจะพวยพุ่งน้ำขุ่นออกมาในยามนี้
ฐาปกรณ์เห็นช่วงล่างว่า เบอร์สามกำลังจะเสร็จน้ำแตก เขาจึงเอื้อมมือไปบีบจับ พร้อมอัดองคชาติตนเข้าไปภายในทวารของเบอร์สามแรงหนักๆ ยิ่งสร้างความอึดอัดและแรงดันภายในชายหนุ่ม อยากจะกระสันพวยพุ่งน้ำขุ่นแตกกระจายในยามนี้ พร้อมๆ กับร่องทวารภายใน เปิดปากปรับสภาพรับกับองคชาติของฐาปกรณ์ได้อย่างเสียวซ่านสุดๆ
สายน้ำขุ่นชายหนุ่ม แตกพุ่งกระจัดกระจายหลั่งเป็นน้ำก๊อกเปิดแรง สาดกระเซ็นมากมายจนแทบจะหมดแรง แอ่นก้นรับแรงกระแทกจากฐาปกรณ์ซึ่งกำลังจะแตกกิจกามภายในทวารก็ครั้งนี้...
และเมื่อเขาดันความเป็นชายแทงดาบเนื้อเข้าไปลึกๆ กระแทกแรงๆ จนสุดโคน ความร้อนบางอย่าง กำลังกระจัดกระจายอยู่ในลำไส้ใหญ่ของเบอร์สาม ซึ่งแอ่นก้นรับอย่างเต็มใจ
เบอร์สามเสร็จสมทั้งความเป็นชายพวยพุ่งออกมา และร่องทวารรับน้ำแตกจากฐาปกรณ์ หลั่งอยู่ภายในมากมายเสียทะลักออกมารับกับองคชาติที่เหน็ดเหนื่อย หนุ่มเบอร์สามอยากจะถูกเสียบอย่างต่อเนื่อง...
******
หลังจากนางสร้อยเงินเดินทางกลับมาถึงบ้าน พบเห็นว่าลูกสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า นั่งเย็บปักถักร้อยอยู่ภายในห้องขอตัวเอง โดยไม่ออกมาด้านนอกตามที่ตนสั่ง นางสร้อยเงินแวะไปเยี่ยมนายปวรุตม์เสียหน่อยว่ากำลังทำงานอยู่หรือเปล่าพบเห็นว่าชายหนุ่มดังกล่าว กำลังนั่งปอกเปลือกมะพร้าว และกำลังผ่าฟืนตามสั่ง เพื่อเป็นเชื้อเพลิงให้นางสร้อยเงิน ทำอาหารมื้อเย็นและเช้าวันถัดไป“ทำงานอยู่รึ ระวังมีดบาดนะ”“ครับ ผมทำงานใกล้จะเสร็จแล้วครับ” ปวรุตม์ยิ้มแย้มก่อนจะตั้งใจทำงานต่อไป แววตาของนางสร้อยเงินมองชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ ระหว่างที่ไม่อยู่นางน่าจะพากลิ่นจันทร์ไปด้วย แต่อยากให้ลูกสาวประหลาดใจ เมื่ออีกไม่กี่วันบิดาของเธอจะกลับมาวันเวลาผ่านไปราวอาทิตย์หนึ่ง ปรากฏร่างของชายหนุ่มสูงวัย เดินทางมาถึงบ้านของนางสร้องเงิน ปวรุตม์กำลังขุดดินปลูกต้นไม้อยู่ข้างบ่อน้ำ เขาถอดเสื้อสวมผ้าถุงสีทึบเพียงชิ้นเดียว ปวรุตม์พบเห็นร่างของชายดูดีมีภูมิฐาน เขารู้สึกกลัวขึ้นมาในทันใด หน้าตาก็คล้ายๆ กับกลิ่นจันทร์“ไอ้หนุ่ม... เอ็งเป็นใครมาจากไหน มาอยู่บ้านข้าวะ?” แววตาที่ดุดันมองมายังชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ“สวัสดีครับ ผมชื่อ ปวรุตม์ คุณส
หลังจากนั้นเป็นต้นมา... ปวรุตม์จึงเปลี่ยนเสื้อผ้า ทำตัวกลมกลืนกับคนที่บ้านของกลิ่นจันทร์ ช่วยเหลืองานบ้าน และงานสวน ทำให้สร้อยเงินรู้สึกพอใจว่า ชายแปลกหน้าจากกรุงเทพฯ ซึ่งหาบ้านยายแสงดาวไม่เจอ กลายเป็นคนงานคนสวนไปโดยปริยายชายหนุ่มอาศัยอยู่ในเรือนรับรองเล็กๆ อีกแห่งของเขตบ้าน เพราะนางสร้อยเงินไม่ยอมให้อยู่ในบ้านเดียวกับลูกสาว หวังว่าจะไหว้วานผู้ใหญ่บ้าน ช่วยเขียนจดหมายไปบอกสามีในเมืองว่า ช่วยแวะกลับมาบ้าน เรื่องไอ้หนุ่มกรุงเทพฯ มาอาศัยอยู่ในบ้าน“แม่เดินทางปลอดภัย โชคดีนะจ๊ะ” หลังจากที่แอบลักลอบได้เสียกับปวรุตม์ เธอระมัดระวังตัวมิให้มารดารู้ว่า ลูกเสียสาวไปแล้วกับชายแปลกหน้า แต่เขาทำให้กลิ่นจันทร์มีความสุขยามเมื่อได้สวมกอด และบางสิ่งที่ทำให้เธอหลงใหล“แม่จะรีบไปรีบกลับนะ อยู่ดูแลบ้านดีๆ ล่ะ” นางสร้อยเงิน ใช้แรงงานทาสขับเกวียนไปส่งนางที่บ้านผู้ใหญ่ หวังจะขอให้ผู้มีความรู้เขียนจดหมายส่งไปให้สามีทราบเรื่องที่บ้านทีหลังจากนั้นเมื่อไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน กลิ่นจันทร์จึงเดินไปที่เรือนรับรองของปวรุตม์ เพื่อขอมีอะไรด้วยกันเพราะความคิดถึงมากมาย...ชายหนุ่มกำลังรอเวลานี้ที่จะได้อยู่กับกลิ่นจันท
เรือนกายหญิงสาวยืนพิงหลังต้นไม้ใหญ่ บดบังเรือนร่าของเธอและปวรุตม์ให้พ้นสายตาใครอื่น สองแขนหญิงสาวซึ่งกันเอาไว้ระหว่างอกเขาและกายบางได้ลดลง แขนบางทั้งสองโอบกอดตอบรับชายหนุ่มเบื้องหน้าทำให้ปวรุตม์ดีใจเหลือเกินเมื่อเธอยินยอมเขาแล้ว มือของชายหนุ่มทั้งสองจึงทำงานปลดตะขอกางเกง ทำให้แววตาหญิงสาวตกใจว่า นี่เขาจะแก้ผ้าทำไมกันนะ...“ปวรุตม์ คุณจะทำอะไรรึ?” เธอไม่เข้าใจว่า เขากำลังทำอะไรแปลกๆ ออกมา หลังจากบอกรักเธอ ต้องแก้ผ้าด้วยรึ?“ผมอยากได้คุณ ปลดผ้าถุงสิ” เขาบอกให้เธอทำบ้าง หญิงสาวยังรู้สึกสับสนว่า ทำไม แต่ถ้าลองดูก็อาจจะคลายความสงสัยได้บ้างเพียงช่วงล่างเปล่าเปลือยปวรุตม์ไม่เห็นมีที่ร่วมรักใดได้ คิดเสียว่าคงต้องเลือกท่ายืนนอกสถานที่ในป่าลับเช่นนี้เขาโอบอุ้มเธอเอาไว้ใต้สองแขน ทำให้กายบางหญิงสาวลอยสูง ปลายเท้าไม่แตะพื้นและช่วงต้นขาของเธอต้องกางออก เพราะเขาดึงร่างบางเข้าหาชายหนุ่ม เรือนหน้าหญิงสาวตกใจและหน้าแดงก่ำ เธอรู้สึกอายจริงๆ“อย่าตกใจนะ กลิ่นจันทร์... ผมจะทำให้คุณรู้สึกดีเอง” ชายหนุ่มพยายามกระซิบข้างหู มิให้เธอตกใจดิ้นหลุดจากแขนเขา เธอกลัวจนตัวสั่น ระหว่างถูกดึงเข้าหาร่างชายหนุ่ม ต้นข
หลังจากเขาแนะนำตัวเองกับแม่ของกลิ่นจันทร์ เธอชื่อสร้อยเงิน กำลังทำอาหารกับทาสสองคน สีหน้าของเธอไม่ค่อยไว้ใจที่มีผู้ชายแปลกหน้ามาคุยกับลูกสาว“แม่ อย่าไปว่าเขาสิ เขาคงหลงทางมาถึงบ้าน ถามหายายแสงดาว แม่พอจะรู้จักคุณยายแสงดาวไหม” กลิ่นจันทร์ถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม คิดว่าหากช่วยเหลือเขาไปแล้ว เธอกับแม่จะได้บุญ และเขาคงจะไปทำธุระเรื่องครอบครัวได้เสียที“โอ๊ย...อยู่มาตั้งนาน ไม่เคยได้ยินยายชื่อแสงดาวอะไรนั้นเลยนะ พ่อหนุ่มมาจากกรุงเทพฯ ลองไปถามญาติตัวเองใหม่เถอะ... กลับไปได้แล้ว ลูกสาวฉันจะเสียชื่อหมด” นางสร้อยเงินตอบปัด จึงอยากให้ทาสพาเขาออกจากเรือน“ไม่เป็นไรจ้าแม่... ให้ทาสช่วยแม่ทำอาหารเถอะ ฉันจะไปส่งเขาเองจ๊ะ” กลิ่นจันทร์รับอาสาเอง เพราะคิดว่าตนคงเป็นเหตุนำพาเรื่องวุ่นวายเข้าบ้าน คิดเสียว่าแนะนำให้เขาไปคุยกับผู้ใหญ่บ้าน เผื่อจะได้รับความช่วยเหลือที่ดีกว่านี้“ขอโทษนะครับ คุณแม่สร้อยเงิน ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” ปวรุตม์รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้พบญาติหรือแม่ ทุกคนหายไปไหนหมด อีกทั้งทุกๆ คนที่นี่ใส่ชุดสมัยร.๕ทั้งนั้น เขามาหลงอยู่บ้านใครกันเนี่ย... ชายหนุ่มแอบคิด******กลิ่นจันทร์พาเขาเดินออกจากบร
รุ่งเช้าท่ามกลางเสียงโวกเวกโวยวาย ผู้คนเดินไปมา สลับวิ่งจนพื้นไม้ภายในบ้านสั่นสะเทือน ปวรุตม์รู้สึกว่าถูกรบกวนจากการนอนแสนสบาย จึงลืมตาปรือตื่น หันมองว่าร่างของแม่ข้างๆ หายไป คงจะสมทบกับญาติ ซึ่งกำลังทำอะไรสักอย่าง“เร็วๆ เข้า!!! อุ้มคุณแม่ขึ้นรถ!!!” เสียงของผู้หลักผู้ใหญ่กำลังวุ่นวาย กับการนำร่างของคุณยายซึ่งเริ่มหายใจช้าลง หลับตาโดยไม่มีการตอบสนอง ครอบครัวญาติฝ่ายแม่ตกใจมากพวกเขาพาร่างของคุณยายขึ้นรถ ออกตัวจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงญาติทุกๆ ต่างคนกลับไปที่รถของตัวเอง ต่างขับรถแห่ไปทีละคันจนหมดบ้าน...เหลือไว้เพียงเขายังยืนงงอยู่ภายในบ้านคนเดียว“ไปกันหมดเลย” ปวรุตม์ไม่อาจจะพูดถามใคร ในช่วงเวลาอันฉุกละหุกได้เลย ว่าเขาควรทำตัวอย่างไร พ่อแม่เขาค่อนข้างวุ่นวายกับการพาร่างของคุณยายขึ้นรถ และรีบพาไปร.พ. ในขณะที่ญาติๆ คนอื่นๆ ต่างแยกย้ายขับรถตามไป“กลิ่นจันทร์ไปกับเขาด้วยหรือเปล่านะ?” ปวรุตม์ยังคงนึกถึงสาวเมื่อคืนนี้ หากไม่อยู่ในพุ่มไม้มืด เขาอาจจะจำหน้าเธอได้ชัดกว่านี้ ตะวันในเช้านี้ทอแสงนวลแผ่วเบา แต่ท้องเขานี่สิ ร้องออกมาอย่างหิวโหย ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเหลืออะไรใหเขากินได้บ้าง******ช
ในความเงียบภายในรถยนต์ ระหว่างเดินทางออกมาตจว. นอกเขตเมือง สู่ชนบทในท้องนา ภาพบรรยากาศของตึกราบ้านช่องหายไปจากสายตาของชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนหนุ่มสมัยใหม่ อาศัยอยู่ในเมืองเขาจำใจต้องเดินทางมากับพ่อแม่ เพื่อไปบ้านของยายแสงดาวซึ่งอยู่ตจว. เขาเบื่อมากกับการไปอยู่บ้านนอก โบราณ คนแก่หัวเก่าๆ ซึ่งมันไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับเขาเลยปวรุตม์ (ปะ-วะ-รุด) หยิบมือถือสมาร์ทโฟนขึ้นมาเพื่อแชทกับเพื่อน และนัดกันว่ากลับบ้านจากญาติแล้ว จะไปดื่มเหล้าเที่ยวผับ ควงสาวมาฟันให้สนุกแก้เบื่อเสียเลย เขายิ้มเงียบๆ โดยมิให้พ่อซึ่งกำลังขับรถหันมาดุได้อีกแม่ของเขานั่งอยู่หน้ารถ กำลังชี้ทางบอกไปทางคุณยาย คือคุณแม่ของเธอค่อนข้างมีอายุมากแล้ว พวกเขาทั้งครอบครัวถูกเรียกให้มาบ้านญาติตจว. เพื่อให้มารับทราบว่า คุณยายใกล้จะไปสบายดีแล้ว ญาติคนอื่นๆ เรียกพ่อแม่และปวรุตม์ ให้มาดูใจกันครั้งท้าย ก่อนคุณยายจะเสีย“ทำตัวดีๆ นะแกไอ้รุตม์ เดี๋ยวจะไม่ได้รับมรดกกันพอดี” คุณพ่อของเขา เป็นลูกเขยของญาติข้างแม่ ชายหนุ่มอายุราวยี่สิบสองปี ทำตัวสงบเสงี่ยมเจียมตัวเรียบร้อย อย่างน้อยเขาอยากจะกลับเมือง มากกว่านอนค้างอยู่บ้านนอกตจว.แบบนี้