Beranda / วาย / เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde / บทที่ 17 ความชั่วร้ายเป็นฝ่ายชนะ

Share

บทที่ 17 ความชั่วร้ายเป็นฝ่ายชนะ

last update Terakhir Diperbarui: 2025-07-06 13:00:20

เสียงฝีเท้าอันน่าเกรงขามของมาร์คัสดังก้องภายในโกดังร้างพร้อมด้วยเสียงหัวเราะเย้ยหยัน ใบหน้าของมาร์คัสเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจที่เขาไม่อาจเก็บซ่อน

“แกสองคนไม่รู้เลยใช่ไหมว่ากำลังอยู่ในกับดักของฉัน” มาร์คัสเอ่ยขึ้น ขณะเดินออกมาจากเงามืด เขาโบกมือให้กลุ่มลูกน้องที่ติดอาวุธหนักเข้ามาล้อมวงไอเดนและพ่อของเคลอย่างไม่เปิดโอกาสให้หลบหนี

ไอเดนที่ยังคงบาดเจ็บจากการปะทะกับพ่อของเคลมองมาร์คัสด้วยสายตาเต็มไปด้วยความสงสัยและโกรธ “นี่นายกำลังทำอะไร มาร์คัส?”

มาร์คัสหัวเราะลั่น “ฉันกำลังทำในสิ่งที่ควรทำตั้งนานแล้ว ฉันจะกำจัดแก ไอ้เด็กกำพร้าจอมแสแสร้ง และแก อัศวินเฒ่าจอมอวดดี พวกแกไม่มีทางรอดไปจากที่นี่แน่!”

มาร์คัสยืนเด่นเป็นสง่า ราวกับนักแสดงหลักบนเวทีที่มีแสงสปอร์ตไลต์ส่องลงมา เขายกมือขึ้นเบา ๆ ราวกับเชิญชวนให้ทุกสายตาในโกดังนี้จับจ้องมาที่เขา ขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้า เสียงรองเท้าบูตกระทบพื้นซีเมนต์อย่างจงใจ ท่วงท่าของเขาราวกับราชาผู้กำลังกล่าวสุนทรพจน์ในวาระสำคัญ

“คืนนี้…” มาร์คัสเริ่มพูด เสียงของเขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ “เป็นค่ำคืนที่ยอดเยี่ยม! พวกแกรู้หรือไม่ว่าฉันได้ทำอะไรลงไปบ้าง?”

เขาหยุดเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะเยาะ ราวกับความคิดที่เพิ่งพูดออกมานั้นเป็นเรื่องตลกขบขันที่สุดในชีวิต “วิกเตอร์…ท่านพ่อที่ฉันรักสุดหัวใจ! ตอนนี้เขาไปอยู่ในที่ที่สงบสุขแล้ว ฉันช่วยส่งเขาไปด้วยมือของฉันเองเชียวนะ!”

เขาเว้นจังหวะให้คำพูดสะท้อนไปทั่วโกดัง ใบหน้าเต็มไปด้วยความสะใจ ก่อนจะมองตรงไปยังไอเดนและพูดต่อ “และแน่นอน พวกคนสนิทของแกด้วย ไอ้พวกมดปลวกที่คอยล้อมรอบแก…โดยเฉพาะเคียแรน พี่ชายที่แสนดีของแก! ฉันจัดการพวกมันหมดแล้ว ตอนนี้แน่ใจแล้วว่าไม่มีใครเหลือรอดมาขวางทางฉันได้อีก!”

ไอเดนเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดจากคำพูดเมื่อครู่

“นาย…นายกำจัดพวกเขา?!” เสียงไอเดนสั่นเครือ ราวกับไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เพิ่งได้ยิน

มาร์คัสยักไหล่ ราวกับสิ่งที่เขาทำเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย “ใช่ ฉันกำจัดพวกมันหมดแล้ว ไอ้พวกมดปลวกที่กล้าขัดขวางเส้นทางของฉัน ไม่ควรมีชีวิตรอด และแกรู้ไหม ฉันก็คิดว่า…ควรทำเรื่องนี้มาตั้งนานแล้วด้วยซ้ำ! รู้แบบนี้ไม่รอจนถึงตอนนี้แน่!”

เขาก้าวเข้ามาใกล้ไอเดน ใบหน้าเต็มไปด้วยความสะใจ “และตอนนี้…ถึงตาแกแล้ว ไอเดน ฮ่า ๆ อย่าห่วงไป ฉันจะส่งแกไปสมทบกับไอ้พวกนั้นในนรกเร็ว ๆ นี้ แกไม่ต้องรอนานแน่นอน!”

มาร์คัสเดินวนไปรอบ ๆ เหล่าลูกน้องของเขามองมาด้วยความหวาดหวั่น เขายกมือขึ้นราวกับเป็นนักมายากลที่กำลังเริ่มทำการแสดง

“พวกแกรู้ไหม ฉันอยากบอกพวกมันสักคำก่อนที่ฉันจะส่งพวกมันลงนรก…” เขาหยุดและหันไปมองที่ว่างราวกับกำลังพูดกับวิญญาณที่มองไม่เห็น “เตรียมพรมแดงไว้ต้อนรับไอเดนให้ดีนะ! เพราะเขากำลังจะตามไปสมทบกับพวกแก!”

เสียงหัวเราะสะใจของมาร์คัสดังลั่น เสียงสะท้อนของมันราวกับเป็นเสียงหัวเราะของปีศาจในนรกที่ส่งมายังโลกมนุษย์เพื่อฉลองการทำลายล้าง “ตอนนี้ไม่มีใครหยุดฉันได้อีกต่อไปแล้ว! ไม่ใช่พ่อ ไม่ใช่เคียแรน และแน่นอน ไม่ใช่แก ไอ้เด็กกำพร้าจอมแสแสร้ง!”

เขาชี้นิ้วไปที่ไอเดน ราวกับกำลังตัดสินโทษครั้งสุดท้าย “แกคือมดปลวกตัวสุดท้ายในแผนการของฉัน และฉันจะบี้แกให้แหลกด้วยมือคู่นี้เอง!”

มาร์คัสหัวเราะอีกครั้ง คราวนี้ราวกับเสียงสะท้อนของมันจะไม่หยุดลงง่าย ๆ เขาหันกลับไปยังลูกน้องและสั่งการเสียงดัง

“จัดการซะ! ทำให้มันจบ!” เสียงคำสั่งของมาร์คัสดังก้อง “ฆ่ามันให้หมด!”

เสียงนั้นเหมือนสายฟ้าฟาดกลางโกดังร้างที่มืดมิด เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ดังก้อง กลิ่นควันจากคบไฟอวลในอากาศ บรรยากาศภายในโกดังเต็มไปด้วยรังสีของการฆ่าฟันและเอาตัวรอด

เคร้ง!

ดาบแรกที่ฟาดลงมาสร้างเสียงโลหะกระทบกันดัง ไอเดนยกดาบขึ้นป้องกันโดยสัญชาตญาณ แขนของเขาสั่นสะท้านจากแรงกระแทก ความเจ็บปวดจากบาดแผลก่อนหน้านี้ย้ำเตือนให้รู้ว่าตัวเขาไม่มีเวลาพักหายใจ

กลิ่นเหล็กในอากาศเริ่มอบอวล เลือดหยดลงพื้นเป็นจุด ๆ พร้อมเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด เสียงโลหะเสียดสีกันดังไปทั่ว เสียงร้องตะโกนของผู้คนที่ต่อสู้กันดังระงม ปะปนไปกับเสียงของการฟาดฟัน

ไอเดนสะบัดดาบไปด้านข้างอย่างแรง ดาบของเขาฟันเฉียดใบหน้าของชายคนหนึ่งจนเกิดรอยเลือดซึม ขณะที่เขาหมุนตัวกลับเพื่อตั้งรับการโจมตีที่มาจากอีกทิศหนึ่ง เสียงหายใจหอบหนักผสมกับเสียงหัวใจเต้นดังตุบ ๆ ในหูเหมือนกลองรบ เขารู้ดีว่ายามนี้ไม่สามารถพลาดได้แม้แต่ครั้งเดียว

“ฉันไม่ยอมแพ้หรอก!” ไอเดนคำราม ขณะฟาดดาบใส่ศัตรูตรงหน้า แรงปะทะทำให้ดาบของอีกฝ่ายกระเด็นหลุดจากมือ เขาไม่รอช้า หมุนตัวและกระแทกดาบลงบนดาบของอีกคน เสียงโลหะดังสะเทือนพื้นใต้ฝ่าเท้า

พ่อของเคลถูกวงล้อม ใบหน้าของเขาเปื้อนไปด้วยหยาดเหงื่อ เลือดและฝุ่นจากการต่อสู้ แต่ดวงตายังคงเปี่ยมด้วยความตั้งใจ แม้ร่างกายจะเหนื่อยล้า มือที่จับดาบของเขายังคงมั่นคงเหมือนหินผา เขาปัดป้องการโจมตีจากศัตรูที่เข้ามาใกล้อย่างชำนาญ

ปัง!

เสียงดาบฟาดลงบนโล่ของศัตรูดังสนั่น สะเทือนจนมือของคู่ต่อสู้ชาดิก

“แกไม่มีวันชนะ! ฉันยังไม่หมดแรงง่าย ๆ หรอกโว้ย!” เขาตะโกน ทั้งที่ใจเริ่มรู้ว่าพลังของตนกำลังถดถอย

มาร์คัสยืนอยู่เหนือการต่อสู้ เหมือนผู้บัญชาการบนบัลลังก์แห่งความวุ่นวาย รอยยิ้มเยาะปรากฏบนใบหน้า เสียงหัวเราะลอดผ่านเสียงคำสั่ง

“พวกแกมันไร้ค่าจริง ๆ ไอเดน แกคงคิดว่าตัวเองจะเอาชนะฉันได้งั้นสิ? จะบอกอะไรให้นะ คืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายของแก!”

“จัดการมันซะ!” เขาชี้ไปที่ไอเดนพร้อมตะโกนสั่งลูกน้อง

ลูกน้องหลายคนพุ่งหาไอเดนพร้อมอาวุธในมือ เสียงโห่ร้องและเสียงคำรามดังขึ้นเหมือนสัตว์ป่าที่ล่าเหยื่อ

ไอเดนและพ่อของเคลต้องต่อสู้เคียงข้างกัน แม้ว่าความเข้าใจผิดระหว่างพวกเขาจะยังไม่ได้รับการคลี่คลาย แต่ในสถานการณ์เช่นนี้พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น การป้องกันจากทุกทิศทางทำให้เสียงดาบกระแทกดังต่อเนื่องกัน

ความเจ็บปวดแล่นไปทั่วแขนของไอเดนเมื่อรับการโจมตีจากศัตรูอีกคนหนึ่ง เขากัดฟันไว้ ขณะที่เสียงร้องเจ็บปวดจากลูกน้องเขาดังแว่วมาในอากาศ ความสิ้นหวังพยายามเกาะกินหัวใจ แต่เขาปลุกตัวเองให้ลุกขึ้นสู้

“ฉันต้องรอด!”

พ่อของเคลที่ฟาดฟันศัตรูหลายคนเริ่มแสดงอาการเหนื่อยล้าชัดเจน เขาถูกดาบฟันเข้าที่แขน แต่ยังคงฝืนตัวเองลุกขึ้นสู้ เสียงโลหะที่กระแทกกันดังสะท้อนไปทั่ว เขากัดฟันแน่นขณะที่สายตาจับจ้องไปยังมาร์คัสที่ยืนหัวเราะอยู่ไกล ๆ

“แกคือความชั่วร้ายที่ฉันต้องกำจัด!” พ่อของเคลตะโกนด้วยเสียงที่แหบพร่า

“ข้าแค่ใช้ประโยชน์จากความมืดในใจแก และมันสนุกกว่าที่ข้าคิดไว้ซะอีก!” มาร์คัสเพียงหัวเราะและยักไหล่

การต่อสู้ในโกดังร้างยังคงดำเนินต่อไป ไอเดนเริ่มรู้สึกถึงขีดจำกัดของร่างกาย แต่เขายังคงกวัดแกว่งดาบ ขณะที่พ่อของเคลเองก็เริ่มหมดแรง และศัตรูของพวกเขาดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด

ในขณะที่ความหวังเริ่มเลือนราง เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ดังมาจากนอกโกดัง ใครบางคนกำลังมา และนั่นอาจเป็นความหวังเดียวที่เหลืออยู่สำหรับพวกเขา...

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 20 พร้อมจะทำตามใจตัวเองหรือยัง

    ในยามเช้าของสวนรัตติกาล แสงอาทิตย์แรกแย้มอาบไล้ไปตามพื้นดิน เคลยืนอยู่เงียบ ๆ หน้าหลุมศพสองหลุม หลุมหนึ่งคือหลุมของราชินีโรซาลี และอีกหลุมคือพ่อของเขา อัศวินผู้ยิ่งใหญ่ที่เคยเป็นทั้งผู้นำและผู้เสียสละชีวิตเพื่อหน้าที่เขาก้มมองแผ่นจารึกของราชินีโรซาลี แผ่นจารึกที่บันทึกความรัก ความเสียสละ และความเจ็บปวดที่ไม่มีวันลืมเลือน สายตาของเคลเต็มไปด้วยความเศร้า“ฝ่าบาท...” เขากระซิบเสียงเบา ราวกับไม่ต้องการให้เสียงนั้นรบกวนความสงบของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ “ผมทำทุกอย่างเพื่อสวน เพื่อเจ้าชาย แต่ตอนนี้...ผมไม่แน่ใจแล้วว่าผมทำถูกไหม”เขาหันไปมองหลุมศพของพ่อ ราวกับจะขอคำตอบจากใครสักคน “พ่อ...ท่านเคยบอกผมว่า ความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการเสียสละ แต่ตอนนี้ผมสงสัย...ว่ามันคือการเสียสละทุกอย่างจริงหรือ? แล้วผมจะเสียสละหัวใจตัวเองเพื่อหน้าที่นี้ได้จริงหรือ?”เคลเงยหน้าขึ้น มองท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนสีจากฟ้าสางเป็นทองแดง ความทรงจำในวัยเด็กหมุนวนในหัว ราวกับคลื่นทะเลซัดเข้าหา

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 19 การเริ่มต้นใหม่

    รุ่งเช้าวันใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม รินตื่นขึ้นมาในห้องนอนที่รายล้อมไปด้วยบรรยากาศของดอกไม้และต้นไม้ภายในสวนรัตติกาล ดอกไม้หลากสีแบ่งบานอยู่รอบ ๆ ส่งกลิ่นหอมอบอวล อากาศที่สดชื่นจากสายลมอ่อน ๆ ที่พัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างเปิดกว้าง เขานอนอยู่บนเตียงอันแสนอบอุ่น สัมผัสนุ่มของผ้าห่มโอบล้อมร่างกาย เหมือนปกป้องเขาจากความหนาวเหน็บในอดีตจินเจอร์ แมวตัวโปรดขนฟูที่เหมือนเมฆสีส้ม นอนขดตัวอยู่ที่ปลายเตียง มันเงยหน้ามองเขาพร้อมส่งเสียง “เมี้ยว” เบา ๆ ราวกับทักทาย เขายิ้มให้มันก่อนจะทอดสายตามองเพดาน ดวงตาอ่อนล้ากับความทรงจำที่พุ่งเข้ามา“ทุกอย่างเหมือนฝันร้าย” รินพึมพำเสียงแหบพร่ากับตัวเองเขาปิดตาลง ความเงียบในห้องกลับกลายเป็นเสียงสะท้อนของอดีตที่ไหลเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง ภาพเหตุการณ์ตอนที่เขาวิ่งหนีออกจากสวนในวัยเด็กปรากฏขึ้นในหัว เสียงฝีเท้าของเขาที่สะท้อนในความเงียบยามค่ำคืน เสียงลมหายใจกระชั้นถี่ ใบไม้ที่ปลิวตามแรงลมเย็นยะเยือก ทุกอย่างกลับมาหลอกหลอนเขาอีกครั้ง ความสิ้นหวังที่กัดกินหัวใจในตอนนั้นยังคงฝังแน่นใน

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 18 วันแห่งการสูญเสีย

    เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ที่ดังมาจากนอกโกดัง ทำให้ทุกคนที่อยู่ในนั้นชะงักไปชั่วครู่ แต่แทนที่จะเป็นความช่วยเหลือ กลับเป็นสัญญาณของบางสิ่งที่เลวร้ายกว่าเดิม มาร์คัสยืนอยู่บนที่สูง มือขวายกขึ้นส่งสัญญาณ ลูกน้องของเขาที่เหลือถอยฉากอย่างรวดเร็ว ไอเดนมองความเคลื่อนไหวนั้นอย่างสับสน‘จะทำอะไรอีก?’ เขาคิดด้วยความระแวดระวังความเงียบที่เกิดขึ้นทันทีหลังจากนั้น กลิ่นไหม้ของดินระเบิดลอยมาในอากาศ สัญชาตญาณเตือนภัยดังขึ้นในใจของไอเดน“ระเบิด! ทุกคนถอยออกไปเดี๋ยวนี้!” ไอเดนตะโกนสุดเสียง เสียงสะท้อนนั้นดังไปทั่วโกดังพ่อของเคลเงยหน้าขึ้น เสียงของดินระเบิดที่ถูกจุดทำให้หัวใจของเขาเต้นแรง“พวกมันกำลังวางระเบิด! หนีไป ริน! ท่านไม่มีเวลามากนัก!” เขาตะโกนออกมาพร้อมผลักไอเดนไปทางประตูที่ยังเปิดอยู่เล็กน้อย แต่ก่อนที่ทั้งคู่จะทันได้ขยับ ร่างของพ่อเคลก็พุ่งเข้ามาปกป้องไอเดน ขณะที่แรงระเบิดระเบิดขึ้นพร้อมเสียงดังสนั่นแรงระเบิดกระแทกเข้ามา

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 17 ความชั่วร้ายเป็นฝ่ายชนะ

    เสียงฝีเท้าอันน่าเกรงขามของมาร์คัสดังก้องภายในโกดังร้างพร้อมด้วยเสียงหัวเราะเย้ยหยัน ใบหน้าของมาร์คัสเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจที่เขาไม่อาจเก็บซ่อน“แกสองคนไม่รู้เลยใช่ไหมว่ากำลังอยู่ในกับดักของฉัน” มาร์คัสเอ่ยขึ้น ขณะเดินออกมาจากเงามืด เขาโบกมือให้กลุ่มลูกน้องที่ติดอาวุธหนักเข้ามาล้อมวงไอเดนและพ่อของเคลอย่างไม่เปิดโอกาสให้หลบหนีไอเดนที่ยังคงบาดเจ็บจากการปะทะกับพ่อของเคลมองมาร์คัสด้วยสายตาเต็มไปด้วยความสงสัยและโกรธ “นี่นายกำลังทำอะไร มาร์คัส?”มาร์คัสหัวเราะลั่น “ฉันกำลังทำในสิ่งที่ควรทำตั้งนานแล้ว ฉันจะกำจัดแก ไอ้เด็กกำพร้าจอมแสแสร้ง และแก อัศวินเฒ่าจอมอวดดี พวกแกไม่มีทางรอดไปจากที่นี่แน่!”มาร์คัสยืนเด่นเป็นสง่า ราวกับนักแสดงหลักบนเวทีที่มีแสงสปอร์ตไลต์ส่องลงมา เขายกมือขึ้นเบา ๆ ราวกับเชิญชวนให้ทุกสายตาในโกดังนี้จับจ้องมาที่เขา ขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้า เสียงรองเท้าบูตกระทบพื้นซีเมนต์อย่างจงใจ ท่วงท่าของเขาราวกับราชาผู้กำลังกล่าวสุนทรพจน์ในวาระสำคัญ

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 16 เสียงสะท้อนของความเศร้า

    ในช่วงเวลาเดียวกันที่มาร์คัสเริ่มวางยาพิษวิกเตอร์ การเคลื่อนไหวในเงามืดก็เริ่มต้นขึ้น เขาปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับสวนรัตติกาลและซินดิเคทผ่านสายลับที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มอัศวิน โดยเป้าหมายคือสร้างสถานการณ์ให้ทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้มาร์คัสนั่งอยู่ในห้องประชุมลับ ไฟในห้องถูกปรับให้มืดลงสร้างบรรยากาศที่กดดัน ลูกน้องของเขารายล้อมโต๊ะยาวสีเข้ม ดวงตาทุกคู่จับจ้องมาร์คัสที่กำลังอธิบายแผนการ“ฉันปล่อยข่าวลือออกไปแล้ว” มาร์คัสเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ขณะที่เลื่อนสายตาไปมองลูกน้องทีละคน “อัศวินแห่งสวนจะได้ยินว่าซินดิเคทกำลังเตรียมการโจมตีสวน ส่วนไอเดน...เจ้าหนูผู้ทะเยอทะยานนั่น มันจะถูกล่อให้ไปที่โกดังร้างนอกเมืองด้วยคำบอกเล่าลวงๆ เกี่ยวกับเบาะแสของสวน”“แต่ถ้าท่านไอเดนเอาชนะสถานการณ์นี้ได้ล่ะครับ เขาอาจพลิกกลับมาเป็นผู้ชนะ” หนึ่งในลูกน้องยกมืออย่างระมัดระวังมาร์คัสหัวเราะในลำคอ “ไม่มีใครรอดกลับมาได้ ไม่ว่าอัศวินหรือไอเดน ฉันมีคนเตรียมพร้อมที่

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 15 การปลดปล่อยความชั่วร้าย

    แสงไฟริบหรี่สะท้อนภาพเงาบิดเบี้ยวของมาร์คัสบนกำแพงห้อง เหมือนปีศาจที่คอยล่าเหยื่อ ความเงียบในห้องมีเพียงเสียงลมหายใจแผ่วเบาของวิกเตอร์ที่แทบจะสิ้นแรง มาร์คัสเดินเข้าไปอย่างเงียบเชียบ ดวงตาเยือกเย็นแต่เปล่งประกายด้วยความกระหายอำนาจเขาหยุดยืนข้างเตียง มองวิกเตอร์อย่างเย้ยหยัน ก่อนจะเริ่มพูดเสียงแผ่ว “ท่าน...ท่านไม่เคยคิดเลยสินะ ว่าวันนี้จะมาถึง วันที่ข้าคือคนที่อยู่เหนือกว่า วันที่ข้าคือคนที่ควบคุมทุกอย่าง”ดวงตาที่อ่อนแรงของวิกเตอร์พยายามลืมขึ้นมาสบตากับลูกชาย ความตกใจและความโกรธเกรี้ยวฉายชัด “มาร์คัส...หมายความว่าอย่างไร?”มาร์คัสหัวเราะเบา ๆ แต่เสียงนั้นเยียบเย็นพอที่จะทำให้เลือดของใครก็ตามที่ได้ยินแข็งตัว เขาทิ้งตัวลงนั่งข้างเตียง ก่อนจะโน้มตัวลงมากระซิบที่หูของวิกเตอร์ “พ่ออยากรู้ไหมว่าทำไมถึงอ่อนแอลงทุกวัน? มันไม่ใช่ชะตากรรม มันไม่ใช่โรคภัย...มันคือฝีมือผมเอง ผมแค่วางยาพิษในอาหารทุกมื้อของพ่อ ทุกสิ่งที่พ่อดื่มเข้าไปล้วนแต่เป็นสิ่งที่ผมเลือกเฟ้นอย่างดีให้มันกัดกร่อนร่างกายพ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status