Share

8. เล่มพิเศษ (1)

last update Last Updated: 2025-12-09 19:27:45

ร่างระหงของคุณหนูสกุลหลิวรีบร้อนวิ่งไปยังต้นเสียง แม้จะไม่รู้ว่าแท้จริงเกิดสิ่งใดขึ้น แต่ดูจากที่สาวใช้และเด็กน้อยทั้งสองนั่งคุณเข่าคำนับก็พอจะเดาออกว่ามิใช่เรื่องดีเท่าใดนัก

นี่มันเกิดอะไรขึ้น ในนิยายแม้หลิวฟ่านซีจะเคยพบหน้าจวิ้นอ๋องบ้าง แต่มิเคยมีเหตุการณ์ใดที่ทำให้ทั้งสองเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันเร็วถึงเพียงนี้ จำได้ว่ากว่าทั้งสองจะได้สนทนากันก็ตอนที่ฟ่านซีหมั้นหมายกับโจวเทียนฉีและขุนนางหนุ่มก็พยายามจะขอถอนหมั้น จวิ้นอ๋องจึงโผล่เข้ามายื่นข้อเสนอกำจัดนางเอกของเรื่องให้หลิวฟ่านซี

แล้วเหตุใดวันนี้จางกงเต๋อหัวจึงโผล่มาที่นี่ได้

“ทำไมถึงได้เจอเขาที่นี่กัน” ฟ่านซีพึมพำกับตัวเอง

“หลิวฟ่านซีคารวะจวิ้นอ๋องเพคะ”

“คุณหนูหลิวหรอกหรือ เช่นนั้นเด็กของคนก็คงเป็นบุตรของรองแม่ทัพหลิวกับใต้เท้าหลิวกระมัง” อ๋องหนุ่มในอาภรณ์เนื้อดีปักลายด้วยดิ้นทองบ่งบอกสถานะของตนเองชัดเจน เลิกคิ้วถามด้วยใบหน้าเรียบเฉย

“เพคะ เด็กทั้งสองเป็นหลานของหม่อมฉันเอง พวกเขาทำสิ่งใดให้จวิ้นอ๋องไม่พอใจหรือไม่เพคะ”

“พวกเขาวิ่งชนข้า” น้ำเสียงราบเรียบทำให้ฟ่านซีนึกหมั่นไส้ เพียงแค่เด็กวิ่งชนถึงขึ้นต้องทำหน้าดุใช้อำนาจขู่บังคับให้เด็กน้อยและสาวใช้ต้องนั่งคุกเข่าขออภัยเลยหรือ

สมแล้วที่เป็นตัวร้ายของเรื่อง สมแล้วที่ถูกคนทั้งเมืองมองว่าเป็นอ๋องอำมหิต แต่ถึงอย่างนั้นก็มีขุนนางหลายฝ่ายที่สนับสนุนให้ฝ่าบาทแต่งตั้งเขาเป็นรัชทายาท

“อ่อ เฟยหยา ซิงอี รีบขอประทานอภัยจากจวิ้นอ๋องเร็วเข้า”

“ขอพระทานอภัยเพคะจวิ้นอ๋อง” / “ขอประทานอภัยพ่ะย่ะค่ะ”

“เด็กดีๆ จวิ้นอ๋องเป็นผู้มีเมตตา ท่านมิได้ใส่ใจเรื่องเล็กน้อยเพียงนี้หรอก พวกเจ้าลูกขึ้นเถิด คราวหลังอย่างได้วิ่งเล่นจนทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนอีกเข้าใจหรือไม่” ทันทีที่หลานทั้งสองเอ่ยขอโทษผู้สูงศักดิ์ ฟ่านซีก็ไม่คิดจะรอให้อีกฝ่ายพูดสิ่งใด เอ่ยเยินยอบุรุษตรงหน้าพร้อมตักเตือนหลานๆ ทันที

“เข้าใจเจ้าค่ะ” / “เข้าใจขอรับ”

“หม่อมฉันต้องขอประทานอภัยจวิ้นอ๋องอีกครานะเพคะ เด็กน้อยก็เป็นเช่นนี้ ดีที่จวิ้นอ๋องทรงเมตตาไม่ถือสาเอาความ”

“หึ” เสียงหัวเราะในลำคอดังขึ้นพร้อมกับดวงตาเป็นประกาย สตรีตรงหน้าสมแล้วที่เป็นบุตรของอดีตราชครู คำพูดเมื่อครู่ไม่ต่างอันใดกับการบังคับเขาทางอ้อม เห็นทีข่าวที่ว่าคุณหนูสกุลหลิวเป็นสตรีโง่เขลา ไม่รู้ความ ตามหึงหวงว่าที่คู่หมั้นไปวันๆ คงไม่จริงเสียแล้ว

“แหะๆ เฟยหยา ซิงอี ทูลลาท่านอ๋องเร็วเข้า”

“ประเดี๋ยว เมื่อครู่ข้าทำหลานๆ เจ้าตกใจ จึงคิดจะพาไปทานขนมปลอบใจเสียหน่อย-” จวิ้นอ๋องของแคว้นยังไม่ทันได้พูดจบประโยค ก็มีคนเข้ามาขัดเสียก่อน

“โจวเทียนฉี คารวะจวิ้นอ๋อง”

“...” บิดามันเถิด! ให้มันได้อย่างนี้ นี่มันบ้าอะไรกันวะเนี่ย วันนี้นางก้าวขาผิดข้างออกจากเรือนหรือยังไงกัน ทำไมเจอแต่เรื่อง!

“ใต้เท้าโจวเองหรือ” ไม่แปลกที่จวิ้นอ๋องจะจดจำขุนนางผู้น้อยคนนี้ได้ เพราะโจวเทียนฉีเป็นหนึ่งในคนของสำนักตรวจการ ทำงานร่วมกับหลิวจ้งเหลียนที่ลากไส้ขุนนางโฉดออกมาประจานนักต่อนัก

“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมนัดแนะคุณหนูหลิวเอาไว้ เห็นว่าอยู่กับท่านอ๋องเลยเข้ามาคารวะพ่ะย่ะค่ะ...พวกเจ้าทูลลาท่านอ๋องเถิด เราต้องไปทำธุระต่อ” ประโยคท้ายขุนนางหนุ่มหันมาพูดคุยกับสามน้าหลาน ทำเอาสาวงามที่ยืนตรงกลางมึนงงไปเลยทีเดียว

“ห๊ะ!!?” นี่นางมีธุระกับเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

“ในเมื่อคุณหนูมีธุระอื่น เอาไว้วันหลังข้าค่อยไถ่โทษแล้วกัน กลับ!” น้ำเสียงนิ่งเรียบเอ่ยปากสั่งลูกน้องคนสนิท ก่อนจะหันหลังเดินกลับออกไป

หลิวฟ่านซีเห็นว่าผู้สูงศักดิ์เดินไปไกลแล้วจึงยืดตัวยืนตรง ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้จูหลิงพาเด็กออกไปก่อน ส่วนตนเองนั้นยืนเชิดหน้ากอดอกมองพ่อพระเอกของเรื่อง

“ข้ามีธุระกับท่านอย่างนั้นหรือ หึ จะโป้ปดก็ควรทำให้แนบเนียนเสียบ้าง ดีที่จวิ้นอ๋องมิซักไซ้เอาความ มิเช่นนั้นท่านคงต้องโทษหลอกลวงเบื้องสูงไปแล้ว”

“ข้าช่วยเจ้าไว้ ยังจะกล้าพูดแบบนี้กับข้าอีกหรือ มิรู้หรือว่าจวิ้นอ๋องผู้นี้นิสัยใจคอโหดร้าย ทั้งยังเจ้าเล่ห์เป็นที่สุด”

“เหตุใดจะไม่รู้ ข้ารู้ดีเลยล่ะ”

“แล้วเหตุใดยังเข้าไปยุ่งเกี่ยว ข้าเตือนด้วยความหวังดี หากเจ้ายังไปยุ่งเกี่ยวกับเขา เจ้าจะทำให้สกุลหลิวต้องวุ่นวายเป็นแน่” โจวเทียนฉีไม่ชื่นชอบหลิวฟ่านซีในฐานะคนรักก็จริง แต่สกุลหลิวก็มีสัมพันธ์อันดีกับสกุลเขามาตลอด ท่านปู่ของฟ่านซีช่วยเหลือท่านปู่ของเขาไว้มาก ทั้งยังคบหาเป็นสหายสนิททั้งที่ท่านปู่ของเขาเป็นเพียงพ่อค้า มิได้เป็นขุนนางใหญ่โตใดๆ

“ข้ารู้หรอกน่า ข้าก็พยายามทำอยู่นี่อย่างไร แต่เจ้านั่นแหละที่กำลังจะทำให้ข้าเดือดร้อน ข้าไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับพวกเจ้าแล้ว ช่วยไปไกลๆ ข้าทีเถิด” ว่าแล้วฟ่านซีก็เชิดหน้าเดินหนีออกมา ก่อนจะพาเด็กๆ กลับเรือน

เป็นเช่นนี้อีกแล้ว! ต้องเป็นนางที่หนีกลับบ้านทุกที น่าโมโหจริงๆ เลย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เหตุใดนางร้ายจึงกลายเป็นที่หมายปอง   17. ตัวแทน (4)

    คนถูกตกเป็นเป้าสายตามิได้สนใจเลยสักนิด ยามนี้ฟ่านซีเห็นเพียงเป้าที่อยู่เบื้องหน้า ปากเล็กเป่าลมออกจนสุดก่อนจะสุดลมหายใจเข้าเต็มปลอดและ...ปล่อยศรออกไปฟิ้ว~ปัก!“...” เสียงรอบข้างเงียบสนิท ก่อนที่จะได้ยินเสียงเฮดังลั่น เมื่อศรธนูปักลงบนกลางเป้าอย่างน่าเหลือเชื่อ ผู้แข่งขันที่อยู่เบื้องหน้าของฟ่านซี บัดนี้แตกกระจายกันไปทั่วทุกทิศทางเพื่อล่าสัตว์ใหญ่มาใช้ในการสักการะเทพเจ้าคนทั้งลานพิธีต่างปรบมือให้กับความสามารถของคุณหนูสกุลหลิว น้อยคนนักที่จะสามารถยิงลงกลางเป้าได้ ยิ่งเป็นสตรียิ่งไม่มีผู้ใดเคยทำได้ ขนาดจวิ้นอ๋องของแคว้นยังยอมปรบมือให้ สายตาที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ดุร้าย ฉายชัดว่าสนใจในตัวหลิวฟ่านซีมากขึ้นกว่าเดิม แน่นอนว่าการกระทำนั้นตกอยู่ในสายตาของจางกงเหลียนป๋อ เป้ยเล่อของแคว้น ที่มีฐานะเป็นน้องชายต่างมารดา สายตาของจางกงเหลียนป๋อเต็มไปด้วยความเวทนาต่อหลิวฟ่านซี ดูท่าชีวิตของคุณหนูหลิวคงหนีไม่พ้นตกไปเป็นอนุในจวนอ๋องเสียแล้ว“เฮ้อ~ นึกว่าจะถูกโบยซะแล้ว” ร่างเล็กทรุดลงบนแท่นยิงด้วยอาการแข้งขาอ่อนแรง พี่ชายทั้งสองจึงรีบวิ่งเข้ามาดูอาการของน้องสาว แต่บุคคลที่ไม่คาดคิดว่าจะวิ่งออกมาด้ว

  • เหตุใดนางร้ายจึงกลายเป็นที่หมายปอง   16. ตัวแทน (3)

    หลิวฟ่านซีเดินวนไปเวียนมาอยู่หลังลานพิธี เพื่อรอเวลา ยอมรับว่านางค่อนข้างตื่นเต้นและกังวล จริงอยู่ว่านางเคยยืนอยู่บนการแข่งขันระดับโลก ตอนนั้นถ้าพลาดก็แค่เสียใจ แต่ครั้งนี้ถ้าพลาดอาจถึงขั้นเสียชีวิต ฮื้อ~ “มองเป้าให้ดี อย่าให้ว่อกแว่ก อย่าให้พลาดเด็ดขาด เจ้าเคยซ้อมอยู่ที่เรือนทุกเช้า”“จริงอย่างพี่ใหญ่ว่า ถึงจะไม่อยากยอมรับ แต่เจ้าก็ทำได้ดียิ่งนัก” ทั้งไห่คุนและจ้งเหลียนต่างก็มาให้กำลังใจน้องสาวอยู่หลังลานพิธี“มันจะเหมือนกันได้อย่างไรเล่า ถะ ถ้าข้ายิงพลาด ฝ่าบาทจะไม่สั่งตัดหัวข้าหรือ”“ไม่หรอก องครักษ์ที่เคยยิงพลาดก็เพียงแค่ถูกโบยและโดนปลด”“พี่รอง! ข้าใจเสียยิ่งกว่าเดิม” ฟ่านซีโอดครวญ นึกอยากตบปากตนเองนักที่พูดออกไปว่าช่วงนี้กำลังฝึกยิงธนู“เอาล่ะๆ ไม่ต้องกังวลไป ฝ่าบาทมิใช่คนใจไม้ไส้ระกำถึงเพียงนั้น ตอนนี้ประกาศผู้ชนะการบรรเลงดนตรีแล้ว เจ้าต้องออกไปแล้ว” เสียงประกาศว่าผู้ชนะในการแข่งบรรเลงดนตรีวันนี้เป็นเถียนลี่มี่ แต่ฟ่านซีไม่ได้สนใจเลยสักนิด ก้อนเนื้อเท่ากำปั้นเต้นรัวเพราะกลัวว่าจะทำพลาดไม่ต่างกับเหล่าขุนนางและผู้คนในลานพิธี บัดนี้ไม่มีผู้ใดสนใจผู้ชนะในการแข่งขันบรรเลงดนตรีแม้แ

  • เหตุใดนางร้ายจึงกลายเป็นที่หมายปอง   15. ตัวแทน (2)

    “ผู้ชนะมาแล้วสินะ” หลิวฟ่านซีพึมพำอย่างหน่ายๆ เพราะรู้อยู่แล้วว่าอย่างไรบทนางเอกก็ต้องเด่น ยังไงการแข่งขันครั้งนี้เถียนลี่มี่ก็ต้องเป็นผู้ชนะ ขณะที่ฟังการเป่าตี้จื่อ (ขลุ่ยผิว) ของแม่นางเอก ก็อดที่จะหันไปมองโจวเทียนฉีไม่ได้ ทว่าสิ่งที่น่าแปลกคืออีกฝ่ายมองนางอยู่ก่อนแล้วช่วงที่ผ่านมา แม้ฟ่านซีจะเอ่ยว่าไม่ได้เข้าไปข้องเกี่ยวกับตัวละครหลักของเรื่อง แต่กลับมีหลายครั้งที่พบกันโดยบังเอิญ และโจวเทียนฉีก็ยังพูดกระทบนางเรื่องเดิมว่านางกำลังจะทำให้สกุลหลิวเดือดร้อน ครั้งหนึ่งเขายังเคยเดินตามมาส่งนางกับจูหลิงกลับเรือน นับวันชักทำตัวแปลกขึ้นทุกที“มองทำไม เดี๋ยวก็จิ้มตาบอด” หลิวฟ่านซีอดเบะปากรำคาญมิได้ สุดท้ายนางต้องเป็นฝ่ายละสายตาออกมา เพราะอีกคนจ้องหน้านางไม่เลิก อะไรปล่อยได้ก็ปล่อยไป ไม่อยากสร้างปัญหาให้ตัวเอง“การแข่งขันสิ้นสุดลง-” ขุนนางหนุ่มกำลังจะประกาศสิ้นสุดการแข่งขันชะงักนิ่ง เมื่อไท่กงกง ขันทีคนสนิทของฝ่าบาทเดินมากระซิบข้างหู“เอ่อ ฝ่าบาททรงตรัสถามถึงคุณหนูสกุลหลิว ปีก่อนคุณหนูหลิวเป็นผู้ชนะการบรรเลงผีผา ปีนี้จะเข้าร่วมการแข่งหรือไม่”“ห๊ะ!” หลิวฟ่านซีที่กำลังอ้าปากกินขนมถึงกับค้างเมื

  • เหตุใดนางร้ายจึงกลายเป็นที่หมายปอง   14. ตัวแทน (1)

    เสียงบรรเลงดนตรีดังขับกล่อมผู้คนในลานพิธี ท่ามกลางต้นไม้สูงลิ่วบนเนินเขาเหยี่ยนเฟิง ในช่วงสารทฤดูเช่นนี้ ราชสำนักแคว้นต้าเฉวียนมีพิธีการสำคัญคือการสักการะเทพเจ้าตามความเชื่อของเหล่าบรรพบุรุษผู้ล่วงลับเชื่อกันว่าทั้งผืนดิน ผืนป่า ผืนน้ำ และผืนฟ้า ล้วนมีองค์เทพคอยปกปักดูแล ในทุกปีจึงมีการจัดพิธีสักการะ เซ่นไหว้ ขอให้แคว้นต้าเฉวียนสุขสงบร่มเย็น ไร้ซึ่งภัยพิบัติต่างๆ ประชาชนอยู่ดีมีสุข“พี่ใหญ่ พี่เค่อไม่มาด้วยหรือ”“อะฮึ่ม! มะ ไม่มา” ไห่คุนกระแอมกลบเกลื่อน สายตาเฉียบคมวันนั้นเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าเจ้าตัวมิอยากเปิดเผยตัวตน แม้จะสงสัยว่าเหตุใดซีซีจดจำอีกฝ่ายไม่ได้ แต่ก็จำต้องเก็บความสงสัยนั่นไว้ มิเช่นนั้นอาจทำให้ความแตกได้“แย่จริง ช่วงนี้ข้าไปที่ค่ายก็ไม่ค่อยเจอเขา หรือเขาไปทำงานที่อื่นแล้ว”“ท่านน้าเปลี่ยนเป้าหมายแล้วหรือเจ้าคะ” เสียงเล็กของซิงอีดังแทรกบทสนทนาของผู้ใหญ่ ทำเอาคนทั้งกระโจมตกใจกับคำพูดคำจาของเด็กอายุเพียงสี่หนาว ดีที่เป็นกระโจมของสกุลหลิวเอง จึงมีเพียงครอบครัวของพี่ใหญ่ พี่รอง และหลิวฟ่านซีเท่านั้น“ซิงเอ๋อร์ พูดเช่นนั้นกับท่านน้ามิได้นะ”“เปลี่ยนเป้าหมาย คำนี้เป็นบิดาเจ้าท

  • เหตุใดนางร้ายจึงกลายเป็นที่หมายปอง   13. เรื่องน่าสงสัย (2)

    “แปลกใจอันใดเจ้าคะ” เสียงหวานว่าพลางยื่นมือไปรับจอกสุราที่อีกฝ่ายยื่นมาให้“เจ้าปฏิบัติตัวไม่เหมือนคุณหนูในห้องหอ พยายามหนีห่างจากโจวเทียนฉี และที่สำคัญที่สุด เจ้าทำเหมือนว่าไม่รู้จักข้า เหมือนเราไม่เคยพบกันมาก่อน”“...อึก ทะ ท่านสงสัยมากมายนัก” ฟังคำพูดของบุรุษตรงหน้าแล้วได้แต่ยกสุราขึ้นดื่ม เฉตาไปมองทางอื่น แม้ดวงหน้างามจะเรียบเฉยแต่ในหัวคิดให้วุ่นว่าควรตอบกลับไปเช่นไรดี แกล้งบ้าไปเลยดีหรือไม่“ว่าอย่างไร หืม”“ก็...ข้าฝันเจ้าค่ะ”“ฝันหรือ”“ใช่เจ้าค่ะ! ข้าฝันถึงท่านปู่ ในฝันท่านปู่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ มาบอกกับข้าว่าทะเลาะกับท่านปู่ของโจวเทียนฉี เรื่องที่ท่านปู่โจวดันไปเกี้ยวเทพเซียนคนงามที่ท่านปู่ของข้าหมายตาไว้ เลยเข้าฝัน มาบอกให้ข้าเลิกยุ่งกับโจวเทียนฉี สัญญาหมั้นอะไรพวกนั้นยกเลิกให้หมด”“...” บุรุษตรงหน้าถึงกับอ้าปากค้าง ไม่คิดว่านางจะยกเรื่องพวกนี้มาเป็นเหตุผลได้“จริงๆ นะพี่เค่อ หลังจากข้าตื่นมาก็บอกท่านพ่อให้เลิกพูดเรื่องที่จะให้ข้าหมั้นหมายกับโจวเทียนฉี พอไม่ต้องหมั้น ข้าเลยใช้ชีวิตอย่างที่ข้าต้องการไง”“หึ พูดจาฉลาดนักนะ แล้วเรื่องที่เจ้าไม่รู้จักข้าเล่า จะว่าอย่างไร”“เอ่อ เร

  • เหตุใดนางร้ายจึงกลายเป็นที่หมายปอง   12. เรื่องน่าสงสัย (1)

    เหตุการณ์เผชิญหน้ากันของสองบุรุษ แม้โจวเทียนฉีจะเป็นเพียงมดตัวเล็กๆ เมื่อเทียบกับจวิ้นอ๋อง แต่อีกฝ่ายก็ยกสายตาของชาวบ้านมาอ้าง เอาแต่พูดว่าหากจวิ้นอ๋องพาหลิวฟ่านซีไปด้วยอาจมีคำครหาว่าไม่ให้เกียรติชายาที่มาด้วยกันซึ่งจางกงเต๋อหัวถือเรื่องนี้เป็นที่สุด แคว้นต้าเฉวียนปกครองโดยราชวงศ์จางกง บัดนี้กำลังอยู่ในสถานการณ์ค่อนข้างตึงเครียดเรื่องการสืบทายาท แม้ว่าองค์ฮ่องเต้จางกงหลัวเค่อจะยังมีพระชนม์มายุเพียงยี่สิบแปดหนาว กระนั้นเหล่าขุนนางและราชวงศ์ก็ยังกังวล เนื่องด้วยองค์กษัตริย์ยังมิมีพระโอรสธิดาแม้เพียงองค์เดียวนั่นหมายความว่าพระเชษฐาอีกสองพระองค์ยังคงมีสิทธิ ในการครองราชสมบัติต่อจากองค์ฮ่องเต้อยู่ คนแรกคงหนีไม่พ้นจางกงเต๋อหัว จวิ้นอ๋องที่มีกำลังทหารและอำนาจอยู่ไม่น้อย ส่วนคนที่สองคือจางกงเหลียนป๋อ ที่บัดนี้ดำรงตำแหน่งเป้ยเล่อ ซึ่งมีบทบาทในการช่วยบริหารงานราชการหลายส่วน แต่ดีที่เป้ยเล่อผู้นี้เป็นเพียงโอรสจากสนมขั้นผิน จึงไม่มีขุนนางหรือสกุลเดิมคอยสนับสนุนดังนั้นจึงไม่แปลกที่จวิ้นอ๋องจะเกรงสายตาชาวบ้าน เพราะลำพังชื่อเสียงในตอนนี้ก็เป็นคนโฉดอำมหิตอยู่แล้ว“เอ่อ โอ๊ยๆ อยู่ๆ ก็ปวดหนัก อยากเข

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status