LOGINวันต่อมา ในช่วงบ่าย ฟ้าใสขอแอนดริวออกไปนั่งทำงานข้างนอกบริษัท เพราะฟ้าใสมั่นใจว่า กวินต้องมาก่อกวนเธออีกแน่ๆ
"ฟ้าใสไปไหน กูเดินผ่านไม่เห็นที่โต๊ะทำงาน"
เป็นอย่างที่ฟ้าใสบอกไม่มีผิด บ่ายโมงตรงกวินเข้าไปที่บริษัทของแอนดริวเพื่อถามหาฟ้าใส
"ไปข้างนอก"
"แล้วมึงก็อนุญาต"
"เอ้า ก็เขาทำเพื่อบริษัทกู อะไรที่เป็นประโยชน์ กูก็ไม่เห็นต้องขัด"
"จะกลับเข้ามาตอนไหน"
"วันนี้ไม่น่าจะเข้ามาแล้ว เพราะเห็นว่ามีนัดทานข้าวต่อ"
"กับใคร"
"กูจะไปรู้มั้ย กูเป็นแค่เจ้านาย ไม่ใช่พ่อทูลหัว"
"มึงนี่เป็นเจ้านายที่ไม่ได้เรื่องเลย"
"เอ้าโทษกูเฉย"
"ถามคุณวิให้กูหน่อย"
"มึงก็ลองโทรหาฟ้าใสสิ"
"กูโทรไม่ติด มึงเรียกคุณวิให้หน่อย"
แอนดริวก็ทำตามความปรารถนาของเพื่อน สักพักวิภาดาก็เดินเข้ามา
"เฮีย เรียกวิมามีอะไรคะ วิเคลียร์งานอยู่ รีบๆ พูดเลย"
"เฮียไม่มี แต่ไอ้วินมี"
"ว่าไงคะคุณวิน"
"ฟ้าใสไปไหนครับ"
"วันนี้วิยุ่งๆ ก็เลยไม่ได้ถามค่ะ เห็นฟ้าใสรีบๆ เลยไม่อยากเรียกไว้ คุณวินลองโทรไปหรือยังคะ"
"ติดต่อไม่ได้ครับ"
"ปกติที่ที่ฟ้าไปก็มีไม่เยอะหรอกค่ะ"
"ที่ไหนบ้างครับ"
"ร้านกาแฟคุณสลิลลา ร้านหนังสือในเมือง คอนโด และบ้านที่ต่างจังหวัดค่ะ วิคิดว่าพรุ่งนี้วันหยุด วันนี้ก็น่าจะกลับบ้านนะคะ แต่ตอนนี้น่าจะนั่งเขียนแบบอยู่ที่ร้านคุณสลิลลา"
ตามที่วิภาดาบอก ปกติฟ้าใสไม่ค่อยชอบไปไหน เวลาส่วนใหญ่จะหมดไปกับการทำงานและกลับบ้าน เธอเลยมีที่ที่ชอบไปไม่กี่ที่ วันนี้ก็เช่นกัน ฟ้าใสเลือกที่จะไปนั่งทำงานในร้านของสลิลลา
"อ้าวฟ้าใสหอบอะไรพะรุงพะรังมาเชียว มาพี่ช่วย"
"ฟ้าขอใช้ร้านพี่เป็นที่ทำงานหน่อยนะคะ"
"ได้เลย จะใช้ทุกวันก็ได้ ร้านพี่ต้อนรับฟ้าใสเสมอ"
"ขอบคุณค่ะ"
ฟ้าใสเดินไปเลือกโต๊ะที่เป็นส่วนตัว เพื่อจะได้มีสมาธิในการนั่งทำงาน แต่ตอนเดินผ่านโต๊ะๆ นึง สายตาก็ไปเห็นใครคนนึงที่นั่งดื่มกาแฟอยู่
"สวัสดีค่ะ" ฟ้าใสเลือกที่จะเข้าไปทักก่อน
"ไม่เจอกันหลายวันเป็นไงบ้าง"
"ก็ดีค่ะ พี่เจมส์ล่ะ"
"ก็เรื่อยๆ มานั่งด้วยกันสิ"
"ไม่ดีกว่าค่ะ พอดีฟ้าหอบงานมาทำด้วย เดี๋ยวจะแกะกะพี่เปล่าๆ งั้นฟ้าไม่รบกวนแล้วนะคะ"
ฟ้าใสวางของที่เตรียมมาให้เข้าที่เข้าทางก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างจริงจัง
"กาแฟรสโปรดของคุณฟ้าใสมาเสริฟแล้วค่ะ"
"พี่เค้กทำไมมาเสริฟเองละคะ"
"วันนี้คนไม่ค่อยเยอะ พี่ว่างน่ะ"
"ฟ้าถามอะไรหน่อยสิ"
"อะไรเหรอ"
"พี่เจมส์น่ะ มาคนเดียวเหรอ"
"อืม มาคนเดียวทุกครั้ง"
"ทุกครั้ง แสดงว่ามาหลายครั้งแล้ว" ฟ้าใสหรี่ตามองพี่สาวคนสนิท เพราะเธอคิดว่ามันต้องมีอะไรพิเศษแน่ๆ
"ก็ตั้งแต่วันนั้น ที่มาพร้อมฟ้าใส เขาก็มาทุกวัน มานั่งดื่มสักพักก็ลุกขึ้นไป วันนี้เขาก็มาก่อนฟ้าใสแค่แปบเดียวเอง"
"มาทุกวันเลยเหรอ" เธอถามย้ำ
"ใช่ๆ มีอะไรเหรอ"
หลายวันก่อนเจษฎาโทรมาเล่าให้ฟ้าใสฟังว่า จอมพลน่ะ ชอบซื้อเค้กไปฝากบ่อยๆ ไม่รู้ว่าจากร้านไหน ทำให้เจษฎาสันนิษฐานว่าจอมพลต้องไปจีบสาวที่ไหนที่เขาไม่รู้แน่ๆ
"เปล่าหรอกค่ะ แล้วเวลาที่มาได้คุยกับพี่เค้กบ้างมั้ย"
"ก็มีทักทายกันบ้างเป็นธรรมดาอยู่แล้ว"
"อ๋อๆ คงจะมานั่งดูอาหารใจ"
ฟ้าใสคิดว่าจอมพลต้องรู้สึกชอบใจสลิลลาแน่นอน เพราะจากที่เจษฎาเคยเล่าให้ฟัง จอมพลเป็นคนเก็บตัวไม่ค่อยไปยุ่งกับใครมากนัก ยิ่งที่สาธารณะจะไม่ค่อยชอบไปเท่าไหร่
"อะไรนะ"
"เปล่าค่ะ"
"ทำงานเถอะพี่ไม่รบกวนแล้ว"
"ค่ะ"
ฟ้าใสนั่งไปได้ไม่ถึงชั่วโมง เธอก็นึกได้ว่าตอนนี้ปิดเครื่องอยู่ จึงลองเปิดเครื่องโทรศัพท์ ก็ต้องตกใจ เพราะที่บ้านโทรมาหลายสายมาก ฟ้าใสจึงรีบโทรกลับ จึงได้รู้ว่าน้องชายเข้าโรงพยาบาล ฟ้าใสจึงรีบเก็บของ แล้วเดินไปบอกสลิลลา ก่อนจะขับรถออกไป
ด้านกวินเมื่อออกมาจากบริษัทของแอนดริวก็มุ่งหน้าไปยังร้านของสลิลลาทันที
"สวัสดีครับ เชิญด้านในครับ"
"พาผมไปพบคุณสลิลลาหน่อย" กวินบอกกับพนักงาน
"เชิญด้านนี้ครับ"
กวินเมื่อเห็นสลิลลาเขาก็รีบเดินเข้าไปหา แต่ก็ต้องแปลกใจ เมื่อเห็นเพื่อนสนิทของเขาก็อยู่ที่นี่
"ไอ้เจมส์"
"อ้าว ไอ้วิน มาดื่มกาแฟเหรอ"
"เปล่ากูมาหาฟ้าใส"
"ฟ้าใสเหรอ กูเห็นเพิ่งออกไปเมื่อกี้นี่เอง เห็นดูรีบๆ ใช่มั้ยครับคุณเค้ก"
กวินคิดในใจว่าทำไมเขาถึงคลาดกับฟ้าใสอีกแล้ว หรือเป็นความตั้งใจของฟ้าใสที่ต้องการจะหลบหน้าของเขา
"อ๋อ ใช่ค่ะ พอดีที่บ้านโทรมานะค่ะ เลยรีบออกไป"
เมื่อได้ฟังสลิลลาบอกกวินก็ใจชื้นขึ้นอย่างน้อยก็ไม่ได้เป็นเพราะเขา
"แล้วมึงมาทำไมไอ้เจมส์"
"กูก็มาดื่มกาแฟ"
ถึงจะเป็นคำตอบที่มันธรรมดาแต่กวินก็ยังรู้สึกแปลกๆ เพราะเพื่อนของเขาคนนี้ไม่ค่อยจะออกไปนั่งดื่มกาแฟที่ไหน ถ้าไม่มีพวกเขาไปด้วย แต่นี่แอบมานั่งดื่มคนเดียว แสดงว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ
หลังออกจากร้านกวินลองโทรหาฟ้าใสอีกครั้ง คราวนี้โทรติดแต่ไม่มีคนรับสาย เมื่อฟ้าใสเห็นก็ไม่ได้โทรกลับ
เมื่อถึงเวลานัดทานข้าวเจษฎาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรหาฟ้าใส เพราะกลัวว่าฟ้าใสจะลืมนัดของเขา ปรากฏว่าหน้าจอ มีสายไม่ได้รับจากฟ้าใส น่าจะโทรมาตอนที่เขาทำงานอยู่ และมีข้อความฝากไว้ว่า
'เจษเราต้องรีบกลับบ้านด่วน น้องไม่สบาย ขอโทษด้วยเดี๋ยวจะชดเชยให้นะ'
ด้านฟ้าใสเมื่อถึงโรงพยาบาลที่น้องชายรักษาตัวอยู่เป็นประจำ ก็ตรงเข้าไปยังห้องพักฟื้นของน้องชายเพื่อดูอาการทันที
"สวัสดีค่ะแม่ สกายเป็นไงบ้างคะ"
"ดีขึ้นแล้วครับ"
สกายเป็นคนตอบ ฟ้าใสคิดว่าสกายหลับ แต่จริงๆ แล้วไม่ได้หลับ
"หลอกให้พี่กลับมาป่าวเนี่ย" ฟ้าใสพูดแหย่
"สงสัยจะเป็นแบบนั้น พอแม่บอกว่าพี่กำลังจะมา อาการดีขึ้นทันตาเลย
"5555 คิดถึงพี่ละสิ"
"คิดถึงมากเลยครับ"
ทั้งสองคนสวมกอดกัน ส่วนคนเป็นแม่ได้แต่นั่งมองภาพสวยงามข้างหน้าที่เธอมักจะเห็นอยู่บ่อยๆ
"แล้วหมอว่าไงบ้างคะ"
"หมอว่า ถึงเวลาที่ต้องผ่าตัดได้แล้ว ยิ่งผ่าตัดเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี แต่ปัญหาคือที่นี่มีเครื่องมือไม่พร้อม หมอแนะนำว่าถ้าย้ายไปโรงพยาบาลเอกชนจะดีกว่า แต่ค่าใช้จ่ายจะสูงมาก"
"ไม่เป็นไรค่ะ เรื่องค่าใช้จ่าย เดี๋ยวฟ้าจัดการเอง แค่สกายยอมให้รักษาก็พอ"
ก่อนหน้านี้ที่สกายไม่ยอมย้ายโรงพยาบาล เพราะเขาสงสารฟ้าใส กลัวว่าค่ารักษาพยาบาลจะเป็นสาเหตุให้ฟ้าใสต้องเหนื่อยเป็นเท่าตัว เพราะตั้งแต่ฟ้าใสให้แม่ออกจากงานเพื่อมาดูแลสกาย ฟ้าใสก็รับภาระทุกอย่างมาตลอด
"แต่สกาย"
"ไม่มีแต่นะสกาย แค่สกายยอมตกลง พี่จะย้ายโรงพยาบาลให้สกายทันที หากย้ายไปโรงบาลเอกชนที่กรุงเทพ ก็คงไม่ไกลจากที่ทำงานของพี่เท่าไหร่ พี่จะได้ไปหาสกายทุกๆ วันไง"
"ผมขอเวลาตัดสินใจนะครับ"
"ได้ๆ แต่อย่าช้านะ"
ฟ้าใสรู้ว่าน้องชายของเธอคิดอะไรอยู่ สกายพยายามยื้อเวลา เพื่อให้เขาไม่ต้องลำบาก ไม่ต้องมารับผิดชอบค่าใช้จ่ายมหาศาลที่กำลังจะตามมา หากสกายตัดสินใจย้ายโรงพยาบาล...
ด้วยความโกรธกวินขับรถด้วยความเร็ว มุ่งไปยังโรงแรมใหม่ที่จะเปิดตัวในอีกสองสัปดาห์ จริงๆ แล้วกวินต้องมาตรวจความเรียบร้อยตั้งแต่สามวันก่อน เพราะเขามัวแต่ตามตัวฟ้าใส เลยเลื่อนมาตลอด ทั้งสองไม่มีประโยคสนทนาใดๆ ส่วนกวินก็พยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองให้เป็นปกติ เขารู้ตัวเองดีว่าไม่มีสิทธิ์ไปโกรธเธอ"คุณพาฉันมาที่นี่ทำไมอีก"เมื่อรถมาจอดฟ้าใสก็เอ่ยปากถามทันที"ผมต้องมาดูความเรียบร้อยของงาน ก่อนเปิดตัวในอีกสองสัปดาห์""แล้วฉันล่ะ?""คุณช่วยผมดูหน่อย เรื่องการออกแบบตกแต่งภายใน ผมว่าคุณน่ามีความรู้เรื่องนี้อยู่บ้าง""แต่...""คุณไม่ขัดผมสักเรื่องได้มั้ย"กวินพูดแย้งขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นว่าฟ้าใสจะปฏิเสธเขา"ก็ได้ค่ะ""ไป เราเข้าไปข้างในกัน"จู่ๆ กวินก็จับมือฟ้าใสแล้วพาเดินเข้าไปยังโรงแรมหรู ยี่สิบชั้น ที่ก่อสร้างและตกแต่งเรียบร้อยพร้อมเปิดตัว หลายๆ คนที่ทั้งสอวเดินผ่านต่างหันมองทั้งสองคน เพราะทุกครั้งที่มากวินไม่เคยพาใครมา นี่เป็นครั้งที่สองที่พวกเขาเห็นฟ้าใสเป็นครั้งแรกที่ฟ้าใสเห็นกวินดูจริงจังในการทำงาน เพราะที่ผ่านมาฟ้าใสเห็นแต่กวินที่คอยตามเธออยู่ตลอด"เมื่อไหร่จะเลิกจ้องผมสักที""ห๊ะ!! เอ่อ ฉันเ
หลังจากวันนั้นฟ้าใสก็หลบหน้ากวินมาตลอด พอถึงวันที่ต้องไปที่บริษัทกวิน ฟ้าใสก็หาข้ออ้างเพื่อไม่ต้องไปได้ตลอด ถึงกวินจะไปรอเจอที่คอนโดก็ไม่เจอ จนกวินเริ่มไม่พอใจ ตามฟ้าใสไปถึงบริษัท"ไอ้ดริวฟ้าใสไปไหน""ไปคุยงานกับลูกค้า""ใคร?"แอนดริวละสายตามาจากเอกสารตรงหน้า เพื่อมองหน้าของเพื่อนสนิท ที่มาป่วนบริษัทของเขา มาตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา"คุณอัมพวัน"เมื่อได้ยินชื่อนี้ทำให้กวินยิ่งโกรธ เพราะเขามั่นใจว่าอัมพวันต้องพาลูกชายไปด้วยแน่นอน"ที่ไหน!""กูไม่รู้""มึงเป็นเจ้านายภาษาอะไร"กวินใช้มือสองข้างค้ำโต๊ะของแอนดริว"มึงก็เป็นเจ้านายภาษาอะไร งานการไม่ทำ มายุ่งวุ่นวายกับลูกน้องกู" แอนดริวย้อน"กูไม่เจอฟ้าใสมาอาทิตย์นึงแล้วนะ""แล้วไง?""ก็กู...""คิดถึง?""กูยังไม่พูด ใครจะคิดถึงเด็กบ้านั่น""เออ ไม่คิดถึงเลย เช้าถึงเย็นถึง""มึงโทรให้กูหน่อย""เออๆ รอแปบ"แอนดริวยกโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดโทรหาฟ้าใส รอสักครู่ เธอก็รับสายแอนดริวก็เลยเปิดสปีกเกอร์โฟน เพื่อให้กวินได้ฟังด้วย'ค่ะ คุณแอนดริว'"ตอนนี้อยู่ไหนครับ"'คุยงานอยู่กับคุณอัมพวันค่ะ'"จะกลับตอนไหน"'น่าจะหลังทานข้าวเสร็จค่ะ'"คุณอัมพวันมาคนเดีย
ฟ้าใสรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เมื่อลืมตาสิ่งแรกที่เธอสัมผัสได้ไม่ใช่หมอนข้างที่นอนกอดอยู่ทุกวัน แต่เป็นใครคนหนึ่ง ที่กำลังกอดเธอไว้ เมื่อเงยหน้ามองกลับเป็น ผู้ชายที่ตามปั่นป่วนชีวิตเธอมาตลอดเกือบๆ 3 เดือน ฟ้าใสได้แต่แปลกใจว่าเธอมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง เพราะเมื่อมองไปรอบๆ นี่ก็ไม่ใช่คอนโดของเธอ เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่!!"นี่คุณ ตื่นสิ"ฟ้าใสที่พยายามขยับตัวเพื่อลุกจากที่นอน แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะคนข้างๆ กอดเธอไว้แน่นเหลือเกิน"เป็นอะไร ตื่นมาทำไมแต่เช้า"กวินที่ยังคงไม่ยอมลืมตา เขากอดกระชับฟ้าใสเข้าไปอีก แถมหอมหัวไปทีนึง ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าคนที่เขากอดอยู่คือฟ้าใส เพราะเขาเป็นคนพากลับมาที่คอนโดของเขาเอง แต่กวินอยากนอนกอดฟ้าใสต่อ เขาเลยทำเป็นไม่สนใจที่ฟ้าใสพูด"คุณทำอะไรเนี่ย ปล่อยฉันนะ"".....""คุณกวินตื่นสิ ฉันต้องไปทำงานนะ""ก็ลาสิ""ไม่ ฉันไม่มีทางลามานอนเล่นหรอก"พรึ่บ!!กวินพลิกตัวขึ้นมาคร่อมฟ้าใสทันที ทำให้เธอต้องตกใจจนตาโต กวินมองหน้าเธออย่างเอ็นดู จนต้องหอมหัวไปอีกหนึ่งที"ใครว่านอนเล่น นอนทำอย่างอื่นก็ได้นะ""คุณกวิน สองครั้งแล้วนะ คุณจะทำอะไรเนี่ย"ฟ้าใสเริ่มไม่พอใจ ชัก
เวลาก็ล่วงเลยมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ฟ้าใสยังไม่ยอมหลับ คุยงุ้งงิ้งๆ จนสลิลลากับวิภาดาหลงไม่ไหว อยากจะเข้าไปกัดแก้มสักทีสองที เพื่อนๆ คุณแบบนางแบบของเจษฎาต่างก็มองมาที่ทั้งคู่ด้วยความสงสัยเช่นกัน"ฟ้าใสลงมาเถอะ พี่ว่าคุณวินเหนื่อยแล้วนะ""ไม่เอานะพี่วิ พี่วินให้ฟ้านั่ง ฟ้าขอพี่วินแล้ว"ฟ้าใสงอแงทุกครั้งที่มีคนเรียกให้ลงจากตักของกวิน ตอนนี้ทุกคนต่างมองกวินด้วยความสงสาร โดยเฉพาะแอนดริวกับเจมส์เพราะทั้งคู่รู้ว่ากวินคิดยังไงกับฟ้าใส ขนาดพวกเขายังมองว่าฟ้าใสน่าเอ็นดู แล้วกวินล่ะ ต้องอดทนแค่ไหนเวลา 23.30 น.ตอนนี้ฟ้าใสหลับไปแล้ว แต่เป็นกวินซะเองที่ไม่ยอมปล่อยให้ฟ้าใสลงจากตัก เจษฎาด้วยความหวงเพื่อนก็พยายามบอกกับกวินหลายครั้งว่าจะพาฟ้าใสไปนอนที่ชั้นบน แต่กวินก็ไม่ยอม บอกจะพาฟ้าใสไปส่งเอง เพราะเป็นคนรับมา"ฉันขอไปห้องน้ำนะคะ" สลิลลาเอ่ยขึ้น"ให้ฉันไปเป็นเพื่อนมั้ยคะคุณเค้ก" วิภาดาอาสา"ไม่เป็นไรคะ ขอบคุณคุณวิมากเลยค่ะ"สลิลลาลุกขึ้นเดินออกไป ผ่านโต๊ะของผู้ชายกลุ่มหนึ่ง หนึ่งในนั้นเป็นรุ่นพี่ที่สลิลลารู้จัก "เค้ก มาด้วยเหรอ" ชายหนุ่มเมื่อเห็นสลิลลาก็เอ่ยทัก แม้เธอไม่อยากจะคุยกับเขาเท่าไหร่น
"คืนนี้มีงานวันเกิดน้องกูที่ผับ มึงจะไปมั้ยวะ""ไม่ไป คืนนี้กูไม่ว่าง""อย่าไปถามมัน ช่วงนี้มันไม่ไปไหนหรอก มึงก็เห็นไอ้เจมส์""แล้วมึง ไปมั้ย""จะเหลือเหรอ ขอเมียแล้วด้วย""เดี๋ยวนี้เมียมึงใจกว้างนะ""เปล่าหรอก เห็นว่าจะไปด้วย""ฮ่าๆๆ กูว่าแล้ว""เห็นบอกกูว่าฟ้าใสไปด้วยไง เลยจะไปนั่งเป็นเพื่อนฟ้าใส"กวินที่นั่งฟังอยู่เมื่อได้ยินชื่อฟ้าใสก็รีบหันไปมองเพื่อนทั้งสอง ส่วนจอมพลกับแอนดริวที่เหลือบมองปฏิกิริยาของเพื่อนอยู่แล้ว แต่ทำเป็นไม่สนใจ พูดคุยกันต่อ"เห็นไอ้น้องชายตัวดีไม่บอกกูว่าเบบี๋จะไปด้วย""วิเล่าให้ฟังว่าเจษชวนทุกปี แต่ฟ้าใสปฏิเสธ ปีนี้เลยจะลองไปสักครั้ง""กูกลับก่อนละกัน เจอกันคืนนี้สองทุ่มนะไอ้ดริว กูไปละนะไอ้วิน" เจมส์ลุกขึ้นเดินไปใกล้ๆ กวิน แล้วตบไหล่เบาๆ ก่อนจะเดินออกไป...ณ.ผับจอมพล ตอนนี้เป็นเวลานัดหมาย เหล่านางแบบคุณแบบหลายคนที่สนิทก็ต่างมาร่วมแฮปปี้เบิร์ธเดย์กับเจ้าของวันเกิด แต่เจษฎากลับนั่งมองแค่ประตูร้าน เขาลุ้นว่าฟ้าใสจะมาตามที่รับปากไว้หรือเปล่าเมื่อประตูถูกเปิดออก เจษฎากลับยิ้มกว้าง ลุกจากที่นั่งทันทีเพื่อวิ่งไปหาฟ้าใส"เบบี๋ ดีใจจังที่บี๋มา""อื้ออ ปล่อยเราก่อน
รถสปอร์ตเลี้ยวเข้ามาจอดยังบริษัทของแอนดริว เมื่อจอดรถเสร็จเจ้าของรถหนุ่มหล่อก็เดินตรงไปยังห้องทำงานของเพื่อนสนิททันที"มึงมาทำไมแต่เช้า" แอนดริวถามขึ้นเมื่อกวินเดินเข้ามาในห้อง"กูมาหาฟ้าใส""ไม่อยู่" แอนดริวตอบสั่นๆ ก่อนจะก้มไปอ่านเอกสารต่อ"ไปไหน กูโทรไปก็ไม่รับ""โทรมาลาเมื่อเช้า บอกว่ามีธุระสำคัญที่บ้าน" คราวนี้เขาไม่ได้ละสายตาจากเอกสาร"ลากี่วัน"เมื่อกวินยังไม่หยุดถามแอนดริวจึงวางปากกาลงแล้วเงยหน้ามามองหน้าของกวิน"ไม่รู้ บอกเสร็จธุระจะกลับมา""ถ้าลาเป็นเดือนล่ะ""ก็ให้ลา"ด้วยความเอือมระอาแอนดริวจึงตอบประชดไปแบบนั้น ถ้าลาเป็นเดือนก็ต้องลาออกแล้วแหละ ถามมาได้"มึงบ้าไปแล้ว""มึงก็บ้าไปแล้ว งานการไม่ทำ มาตามหาแต่ฟ้าใส""ก็กูมีธุระ""ธุระ หรือมึงคิดถึงกันแน่""กู...มี...ธุ...ระ""แล้วแต่มึง แต่กูบอกอะไรให้อย่างนึงนะ ว่าไม่มีใครชอบคนใจร้ายหรอก""กูใจร้ายตรงไหน ให้ทำงานในห้อง พาไปกินข้าว แถมไปรับไปส่ง ดูแลดียิ่งกว่าคู่หมั้นกูอีก""ใช้งานเขาหนักขนาดนั้น แถมยังบังคับอีกไม่เรียกใจร้าย เรียกว่าอะไรวะ แล้วที่สำคัญตัวมึงเองก็มีคู่หมั้น แต่ทำตัวเหมือนจีบพนักงานกู ไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอวะ""ใ







