“คุณพอร์ช มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ” หนึ่งในผู้ถือหุ้นเอ่ยขึ้นอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าคนที่มาเป็นใคร
“พึ่งถึงเมื่อเช้านี้เลยครับ ประชุมบอร์ดผู้ถือหุ้นใหญ่ทั้งทีผมจะไม่มาได้อย่างไรจริงไหมครับ” พอร์ชเอ่ยขึ้นเสียงเรียบพร้อมกับยิ้มให้แต่แววตาเขากับดุดันขัดกับรอยยิ้มโดยสิ้นเชิง "นี้คือผลงานของผมในการบริหารงานที่บริษัทในเครือของเราที่ต่างประเทศตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา" พอร์ชเอ่ยขณะให้เลขาของเขาเดินแจกเอกสารให้กับผู้ถือหุ้นทุกคนที่อยู่ในห้อง "บริษัทกำไรเพิ่มขึ้น200%" หนึ่งในที่ประชุมเอ่ยขึ้นอย่างตกใจที่ได้เห็นแฟ้มเอกสารที่บริษัทสาขาต่างประเทศมีกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเพียงแค่ระยะเวลา 2 ปี "ก็แค่โชคช่วยรึป่าว ใช้การโปรโมทกับบริหารงานตามกระแสนิยมมันจะไปยั่งยืนได้ยังไง" นายพิศุเอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์พร้อมกับหันไปหาผู้ถือหุ้นอาวุโสอีกคนที่ชื่อสาธิตให้เสริมทัพ “นั้นน่ะสิครับ แผนงานของคนรุ่นใหม่จะมาสู้กับแผนงานคนที่มีประสบการณ์ได้อย่างไง” นายสาธิตรีบเอ่ยขึ้นทันที "งั้นพวกคุณก็ควรยิ่งให้คนรุ่นใหมอย่างพวกผมลองบริหารดูยังไงละครับว่าสู้ได้ไหม" แอสตันเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าแน่วแน่ “มีใครจะคัดค้านอะไรอีกไหมครับ ถ้าไม่มีผมขอปิดการประชุม” พอร์ชเอ่ยพร้อมกวาดสายตามองทุกคนในห้องที่ตอนนี้แต่ละคนก้มหน้าอ่านเอกสารส่วนคนที่ไม่เห็นด้วยก็ทำหน้าไม่สบอารมณ์หันหน้าไปทางอื่นแต่ก็ไม่สามารถขัดอะไรได้ ณ ห้องทำงานประธานบริษัท "พี่มาได้ไงไหนอาปกณ์บอกพี่มาอาทิตย์หน้า" ทันทีที่เข้ามาในห้องแอสตันก็เอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย "ฉันได้ข่าวมาว่าวันนี้จะมีประชุมผู้ถือหุ้นด่วนก็คิดไว้อยู่แล้วว่าตาแก่พวกนั้นต้องจ้องเล่นงานแกแน่ที่แกยังเรียนไม่จบก็เลยรีบมา" พอร์ชเอ่ยพร้อมกับดึงเนคไทลงเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปนั่งยังเกาอี้ประธานบริษัท "แต่ไทยกับอเมริกาเลยนะ พี่มาทันได้ไง" แอสตันที่เดินตามมานั่งไขว้ห้างบนโต๊ะของประธานบริษัทเอ่ยถามอย่างสงสัยเพราะถึงจะมาไฟร์ไวสุดก็อย่างน้อย 16 ชม. เพราะต้องต่อเครื่องอีกแล้วเขาเองก็พึ่งรู้เมื่อเช้านี้เองตอนกำลังจะกลับคอนโดว่าตอนเช้ามีประชุมผู้ถือหุ้นด่วน "ฉันก็นั่งไพรเวทเจ็ทมาน่ะสิไอน้องโง่ ลงบิลเบิกค่าเดินทางหักจากแกบอกพ่อไว้แล้ว" พอร์ชเอ่ยตอบ "โถ่พี่รวยกว่าผมตั้งเยอะยังจะมารีดเลือดปูอีก" แอสตันที่ได้ยินที่พี่ตัวเองเอ่ยก็หน้ามุ้ยขึ้นมาทันทีแต่เขาก็ดีใจมากที่พี่เขามาเพราะพี่เขามักจะจัดการกับปัญหาได้ทุกเรื่อง "เหอะอย่างแกนี้นะ เลือดปูอย่าคิดว่าพี่ชายคนนี้ไม่รู้นะว่าวันๆ แกใช้เงินไปเท่าไหร่เลี้ยงผู้หญิงไว้กี่คนไหนจะคนที่ชื่อว่าสายน้ำนั้นอีก" พอร์ชเค้นหัวเราะในลำคอเอ่ยขึ้นอย่างเหนื่อยใจกับการใช้เงินไม่คิดของน้องชาย "พี่รู้ได้ไง" "หูตาฉันมีไปทั่วไม่มีอะไรที่ฉันไม่รู้หรอกแล้วอีกอย่างฉันเป็นคนเลี้ยงแกเองตั้งแต่เล็กจะไม่รู้นิสัยแกได้ยังไง" พอร์ชเอ่ยพร้อมส่ายหัวให้น้องชายของเขาอย่างเอือมระอา ตั้งแต่เล็กที่พ่อกับแม่เขาเอาแต่ทำงานเพราะกำลังเริ่มสร้างบริษัทแห่งนี้พร้อมทั้งบริหารโรมเเรมเก่าแก่ของตระกูลแม่อีกถึงแม้จะมีพี่เลี้ยงและแม่บ้านมากมายแต่พอร์ชซึ่งเป็นพี่ชายคนโตเลยต้องเป็นคนดูแลทั้งเอลิสและแอสตันเอง ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรพอร์ชก็จะต้องไปคอยตามแก้ให้ตลอดยิ่งสมัยแอสตันอยู่มัธยมเขาเดินเข้าห้องปกครองจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนอยู่แล้ว "นี่ถ้าพี่มาช้าอีกนิดเดียวผมได้ชกหน้าไอแก่นั้นแน่" แอสตันเอ่ยอย่างนึกหัวเสียกับเหล่าผู้อาวุโสพวกนั้น “เฮ้ออ หัดใจเย็นบ้างแอสตันถ้าวันไหนฉันไม่อยู่จะทำยังไง” พอร์ชถอนหายใจพร้อมส่ายหน้าให้กับน้องชายของตัวเองอีกครั้ง “พี่อย่าพูดอะไรแบบนั้นมันไม่ดี” แอสตันรีบขัดพี่ชายของเขาทันทีอย่างไม่ชอบให้พี่ของตนเอ่ยอะไรแบบนี้ “แล้วนี้ยังไม่มีใครบอกเอลิสกับแม่ใช่ไหมเรื่องพ่อ” “ยัง พ่อบอกรอพี่เอลิสเรียนจบโทก่อนอีกเทอมเดียวส่วนแม่ก็รอใกล้ๆ วันผ่าก่อน” “อืม แล้วมีอะไรจะเล่าให้ฉันฟังไหม” พอร์ชเอ่ยขึ้นพร้อมมเลิกคิวถามน้องชาย “เอาเรื่องไหนก่อนดีล่ะ…” แอสตันกับพี่พอร์ชพูดคุยเล่าเรื่องราวกันตามประสาพี่น้องที่สนิทกันและไม่ได้พบเจอกันนานหลายปีรวมไปถึงเรื่องการโกงเงินของนายพิศุที่แอสตันกำลังรวบรวมหลักฐานด้วย ณ คอนโดแอสตัน แกร็ก~ (เสียงแอสตันเปิดประตูเข้ามาภายในคอนโดหรู) "ยังไม่นอนอีกหรอ" สายน้ำที่นั่งดูซีรีาย์อยู่ที่โซฟาห้องรับแขกเห็นแอสตันเปิดประตูเข้ามาก็เอ่ยขึ้น "ยัง นี่พึ่งจะ 4 ทุ่มเองไหนบอกว่าจะกลับดึกไงไม่ไปกินเหล้าแล้วหรอ" “อืม พึ่งไปกินข้าวกับที่บ้านมา” แอสตันเอ่ยขึ้นพร้อมทิ้งตัวนอนบนตักของสายน้ำอย่างเหนื่อยล้า "สนุกหรอ" "ก็เฉยๆ แต่พระเอกหล่อมากกก" สายน้ำพูดพลางทำท่ากรี๊ดกร๊าด “หึ อยู่กับผัวแท้ๆ ยังร่านชมผู้ชายอื่นอีก” “บอกกี่ครั้งว่านายไม่ให้ผัวฉัน” สายน้ำเอ่ยพูดกับเขาแต่สายตายังคงจับจ้องไปที่ซีรี่ย์อย่างไม่หละสายตา วันนี้ทั้งวันเธอเองเอาแต่นั่งดูซีรี่ย์ตั้งแต่เช้ายันเย็น นานๆ ทีเธอจะได้มีวันหยุดแบบนี้ นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เธอได้ดูซีรี่ย์เกาหลีเมื่อก่อนเห็นเพื่อนเธอกรี๊ดกร๊าดกันเธอก็ไม่เข้าใจจนได้มาดูเอง ปกติเธอทำแต่งานแทบไม่มีเวลาว่างมานั่งดูอะไรแบบนี้เลย “ไอหน้าตี๋นั้นมันหล่อมากเลยรึไง ฉันกับมันใครหล่อกว่ากัน” แอสตันเอ่ยถามขึ้นอย่างหงุดหงิดเมื่อเห็นสายน้ำจ้องมองแต่โทรศัพท์อย่างไม่ละสายตา “มากกก มากกว่านายเป็นร้อยเท่าพันเท่า” “งั้นหรอ ปากเก่งแบบนี้คงจะหายดีแล้วสินะ” หมับ ปัก!! ทันทีที่เขาเอ่ยจบเเอสตันก็ลุกจากตักสายน้ำและจับแขนเธอลากลงจากโซฟาให้ไปนั่งกับพื้นแล้วหันหน้าเข้ามาทางเขาแทน “ว้ายยยย นายจะทำอะไรของนาย!!” “จะทำให้ปากร่านๆ ของเธอไม่ว่างชมผู้ชายอื่นต่อหน้าผัวตัวเองไงล่ะ!!” แอสตันเอ่ยเสียงดังก่อนจะเริ่มปลดกางเกงของตัวเองลงเผลอให้เห็นแกร่นกายแกร่งที่ตอนนี้เเข็งชูชันแล้ว “นี่นายปล่อยนะ….อุ๊บบ”ยังไม่ทันที่ร่างบางจะเอ่ยจบแอสตันก็บีบแก้มของเธออย่างแรงให้เธออ้าปากออกก่อนจะยัดแก่นกายแข็งทื่อที่ใหญ่ยาวเข้าไปกระแทกยังโพรงปากอุ่นของร่างบางทันที“ถ้าปากดีมากชมผู้ชายคนอื่นต่อหน้าผัว งั้นก็ใช้ปากให้เป็นประโยชน์สะ” แอสตันพูดพลางกดหัวของสายน้ำเข้าออกกระแทกกับแก่นกายของเขาให้ลึกสุดจนปลายหัวเห็ดของเขากระแทกเขากับข้างในลำคอของเธอปับๆๆๆ“อัก..อะ..” สายน้ำพยายามดันหน้าเธอให้หลุดจากแก่นกายของเขา แต่แอสตันก็กดหัวเธอไว้แน่นและกระแทกเข้าออกใส่ปากเธออย่างทารุณอ๊อกๆๆปับๆๆๆ“ปากร่านๆ นี้ใช่ไหมที่มันชมผู้ชายอื่นที่ไม่ใช่ผัวตัวเอง”มือหนาของแอสตันยังคงบีบปากของสายน้ำไว้แน่นและอัดกระแทกแก่นกายอย่างไม่ยั้งในปากของร่างบางเพื่อต้องการจะระบายความหงุดหงิดและทำโทษที่เธอเอ่ยชมคนอื่นต่อหน้าเขา เขายังคงกดหัวเธอไว้แน่นและอัดกระแทกแก่นกายเข้าออกให้เร็วและแรงขึ้นจนร่างบางแทบจะสำลักออกมา“ออ่อย อันน ไอ อ้า (ปล่อยฉันไอบ้า) ”อ๊อกๆๆปับๆๆๆ“ดูดแรงๆ สายน้ำ!!” แอสตันตวาดใส่ร่างบางให้เธอก่อนจะก้มดูช่วงล่างของเขา“อ่าาส์ เธอนี้มัน ซี๊ดด~” แอสตันกดเสียงต่ำลงก่อนจะเอ่ยเสียงกระเส่าอย่างเสียวซ่านก่อนจะก้มดูช่วงล่างของเข
ณ บริษัท HIGH CAR“รายงานการประชุมของวันนี้” สายน้ำเอ่ยขึ้นพร้อมเดินเอาแฟ้มเอกสารที่เธอจดสรุปการประชุมของวันนี้มาวางไว้ให้ที่โต๊ะของแอสตัน“อืมขอบใจมาก”ก๊อกๆ“เข้ามา” แอสตันเอ่ยก่อนจะเงยหน้ามองยังคนที่เปิดประตูเข้ามาภายในห้อง“อ้าวพี่มีอะไร”“พูดกับพี่ให้มันมีหางเสียงหน่อยสิวะ โปรเจ็คไปถึงไหนแล้วทันการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่จะเข้าไทยที่เราจะไปจัดในงานมอเตอร์โชว์ที่จะถึงนี้ไหม”“ผมว่าทันนะผมดำเนินงานไปจะหมดแล้วดาราก็เชิญแล้วเหลือติดต่อพวกอินฟลูเอนเซอร์”“ดีแล้วอย่าให้พลาดถ้าพลาดไอพิศุมันซ้ำเราแน่”“แล้วทางพี่ไปดูที่ ที่จะขยายสาขารึยัง”“ไปดูมาแล้วกำลังต่อลองราคาอยู่ทำเลใช่ได้เลย นี้พี่หาผู้ช่วยคนใหม่มาให้เราด้วยนะเดียวพรุ่งนี้คงจะมาละ จะได้มาทำแทนสายน้ำเดียวอาทิตย์หน้าก็เปิดเทอมแล้วใช่ไหม” พอร์ชเอ่ยหันไปถามสายน้ำอย่างเป็นมิตร“ใช่ค่ะ” สายน้ำยิ้มเอ่ยตอบพอร์ชถึงแม้ว่าพอร์ชจะอายุมากกว่ามากและเป็นพี่ของแอสตันแต่เธอกับไม่รู้กดดันเมื่อเวลาอยู่กับเขาน่าจะเป็นเพราะว่าพอร์ชเอ็นดูแล้วปฏิบัติกับเธอเหมือนน้องสาว“ไม่เห็นจำเป็นเลยยัยนี่ทำก็ดีอยู่แล้ว”“เอ๊ะ ไอนี่แกใช้งานน้องเขาจนผอมไปหมดแล้วทั้งทำบัญ
บรื้นนนนน~แอสตันเหยียบแป้นคันเร่งจะมิดไมล์อย่างใจร้อนหลังรับสายของโรมที่โทรมาบอกว่าคนที่ค่ายมวยบอกว่าดีเดย์โดนเอาพวกมารุมตีที่ค่าย“นี้แอสตันนายขับช้ากว่านี้หน่อยได้ไหม” สายน้ำเอ่ยพร้อมกำสายเข็มขัดนิรภัยไว้แน่นด้วยความกลัวเพราะตอนนี้แอสตันเหยียบแซงรถทุกคันมาพร้อมกับบีบแตรสนั่นท่องถนนเพื่อให้รถคันอื่นหลบทางให้เขา“หุบปาก! ใครใช้ให้เธอตามมาด้วย” แอสตันเอ่ยตวาดใส่สายน้ำอย่างหัวเสียที่เจ้าหล่อนวิ่งกระโดนขึ้นรถมาด้วยทั้งที่เข้าบอกไม่ให้มาณ ค่ายมวย ROME BOXINGไม่นานรถยนต์คันหรูของแอสตันก็มาจอดที่ค่ายมวยของโรมและตามมาด้วยรถของธาม โรม และคลาร์กที่ตามมาจอดในเวลาไล่เลี่ยกัน“ห้ามลงจาดรถเด็ดขาดล็อครถด้วย” แอสตันเอ่ยก่อนจะรีบลงจากรถไป“คุณโรมมาแล้วหรอครับ คุณดีเดย์โดนรุมอยู่ข้างใน” ชายสูงวัยรีบวิ่งหน้าตาตื่นมาทักโรมทั้งที่เอามือกุมหัวที่มีเลือดไหลอยู่“นี้พวกเวรนั้นทำลุงแดงใช่ไหม” โรมเอ่ยขึ้นอย่างเดือดจัดที่เห็นชายสูงวัยที่เฝ้าที่นี้โดนทำร้ายถ้าในเวลาปกติที่นี้จะมีนักมวยและลูกค้ามากมายมาใช่บริการแต่เพราะว่าอาทิตย์นี้โรมให้ปิดค่ายมวยไปก่อนเพื่อให้ผู้จัดการค่ายและครูฝึกพาพวกนักมวยไปพักผ่อนที่ทะ
สายน้ำที่เห็นชายผมแดงเล็งปืนมาทางแอสตันจึงตกใจรีบผลักชายหนุ่มให้พ้นจากวิถีกระสุนแต่ตัวเธอกับโดนลูกหลงของกระสุนปืนยิงเข้าที่แขนแทนสะเองร่างบางที่ตื่นตกใจค่อยๆ ทรุดลงกับพื้น ก่อนที่สติจะดับวูบลง สิ่งสุดท้ายที่ได้เห็นคือ ร่างสูงของแอสตันที่รีบวิ่งเข้ามารับเธอด้วยสีหน้าตื่นตระหนก"สายน้ำ!!" แอสตันตะโกนเรียกสายน้ำดังลั่นก่อนที่จะรีบเข้าไปรับร่างบางที่ตอนนี้หมดสติไปแล้วร่างสูงก้มมองร่างบางในอ้อมกอดที่ตอนนี้ที่ใบหน้าซี๊ดเซียวและเลือดที่แขนของเธอไหลรินออกมาไม่หยุดจนเปื้อนเสื้อเชิตสีขาวของเขา แอสตันมองชายผมแดงตรงหน้าด้วยความโกรธแค้นจนเส้นเลือดมือที่เขากำหมัดอยู่ขึ้นชัดเจน"กูไม่ได้ตั้งใจจะยิงยัยนี้นะ มันโง่เข้ามารับกระสุนเอง" ชายผมแดงเอ่ยพร้อมถือปืนในมือชี้มาด้วยความสั่นเทาพลัก!!คลาร์กที่ได้จังหวะตอนชายผมแดงเผลอเดินอ้อมไปด้านหลังแล้วล็อคตัวเขาเอาไว้จากข้างหลังพร้อมทั้งกดชายผมแดงลงไปนอนแนบกับพื้นและใช้เท้าเตะปืนออกจากมือ"โอ้ย กูยอมแล้วปล่อยกูไปเถอะ" ชายผมแดงยกมือยอมแพ้และร้องโอดครววญให้คลาร์กปล่อยเขาไปวี๊วอวี๊วออ“เชี้ย ตำรวจมา” หนึ่งในชายชกรรจ์ที่นอนกองกับพื้นที่ยังพอมีสติเอ่ยขึ้น และพยา
“ตื่นแล้วหรอ” แอสตันเอ่ยถามร่างบางทันทีที่เห็นเธอขยับตัวตื่น“เจ็บแขน นี่ฉันยังไม่ตายใช่ไหม” สายน้ำเอ่ยขึ้นพลางมองไปทั่วห้องที่ตอนนี้เห็นเพียงแค่แอสตันที่นั่งเฝ้าเธออยู่ข้างเตียง“แค่เฉียดแขนอย่าสำอ่อย”“แล้วคนอื่นล่ะเป็นไงบ้าง”“เหอะตื่นมาก็ถามหาคนอื่นไม่ถามผัวตัวเองบางรึไงว่าเป็นไงบ้าง” แอสตันเอ่ยออกมาอย่างหงุดหงิดที่คนตัวเล็กตื่นมาก็ถามถึงคนอื่นไม่เอ่ยถามถึงเขาก่อน“ก็เห็นนายนั่งอยู่นี่ยังไม่ตายสักหน่อยจะให้ถามอะไร”“ปากดีแบบนี้คงจะหายดีแล้วสินะคืนนี้อย่าลืมสัญญาล่ะ” แอสตันเอ่ยอย่างยิ้มเจ้าเล่ห์“สัญญาอะไร? ”“ที่เธอบอกว่าถ้าฉันขอโทษไอเด็กแสบนั้นจะขึ้นให้ฉันทั้งคืน”“ไอบ้าไอโรคจิตเวลาแบบนี้ยังคิดอะไรแบบนี้อยู่อีก”“สัญญาแล้วก็ต้องทำตามสัญญา” แอสตันเอ่ยออกมาพร้อมกับมองหน้าสายน้ำ“แต่ฉันเจ็บแขนอยู่” สายน้ำเอ่ยพร้อมทั้งยกแขนข้างที่โดนพันแผลไว้ให้แอสตันดู“ฉันให้เธอใช้ช่วงล่างไม่ได้ให้เธอใช้แขนสักหน่อย” แอสตันเอ่ยพร้อมทั้งใช้สายตามองไล่ตั้งแต่หน้าอกเลื่อนลงไปที่จุดสงวนของร่างบาง“เจ็บขนาดนี้ นายช่วยคิดเรื่องอะไรที่มันพ้นใต้สะดือมาหน่อยได้ไหม” สายน้ำเอ่ยพร้อมทั้งมองไปยังหน้าและลำตัวของแ
- เช้าวันต่อมา - "เดียวทำแผลเสร็จก็กลับบ้านได้แล้วครับ แต่ต้องมาทำแผลที่โรงพยาบาลทุกวันจนกว่าแผลจะแห้งสนิท" คุณหมอเอ่ยบอกขณะที่เปิดดูแฟ้มการรักษาของสายน้ำอยู่ "ขอบคุณค่ะ" "คุณแอสตันจะทำแผลใหม่เลยไหมคะ" พยาบาลสาวเอ่ยถามแอสตันเสียงหวาน "ไม่ต้องเดียวฉันกลับไปทำเอง" "แต่ว่าแผลคุณ" "ฉันบอกว่าไม่ไง" "ค่ะ" พยาบาลสาวเอ่ยอย่างหน้าเสียงเล็กน้อยก่อนจะเดินหน้าบึ้งตึงออกจากห้องไป ณ คอนโดหรูของแอสตัน “จะทำอะไร” แอสตันเอ่ยถามเมื่อสายน้ำดึงข้อมือของเขาให้นั่งลงบนโซฟาก่อนที่มือบางจะมาจับที่ผ้าก๊อซปิดแผลบริเวณที่หางคิ้วของเขา “ก็ทำแผลให้นายใหม่ไง จะปล่อยให้เลือดซึมจนทะลักออกมาเลยไหม” สายน้ำเอ่ยพร้อมมองไปยังใบหน้าของแอสตันที่มีผ้าก๊อซปิดแผลอยู่หลายที่และเริ่มมีเลือดซึมออกมาแล้ว ใบหน้าหล่อเหลาของแอสตันที่ตอนนี้มีแต่ลอยฟกช้ำเต็มไปหมดแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรความหล่อของเขาได้เลยแล้วยิ่งใบหน้าหล่อของเขาที่ตอนนี้มีรอยแผลมันกับทำให้เขาดูเท่ขึ้นมาก SAYNAM PART “โอ๊ยย ซี๊ดด” เสียงร้องโอดครวญของแอสตันดังขึ้นเมื่อฉันเริ่มค่อยๆ แตะสำลีที่ใส่แอลกอฮอลล้างแผลไปยังบาดแผลของเขา “นี่นายจะร้องอะไรนั
- เปิดเทอมวันแรก -“มึงแม่กูจะให้กูหมั้นกับพี่ธาม” ยัยเมลเบิร์นเอ่ยขึ้นมาคำแรกหลังเดินลงจากรถคันหรูแล้วเดินมาหาฉันกับเอลลี่ที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะหินอ่อนล่างตึกเรียน“หะ!!” ฉันและยัยเอลลี่เอ่ยขึ้นมาด้วยความตกใจพร้อมกันเปิดเทอมวันแรกมายัยเมลเบิร์นก็เริ่มประโยคแรกให้พวกฉันเซอร์ไพร์เลย“กูจะทำยังไงดีกูไม่อยากหมั้นกับพี่ธาม”“เกิดอะไรขึ้นวะ”“ก็วันนั้นที่กูรถชนแล้วพี่ธามช่วยไว้แม่กูจากรักพี่ธามมากกว่าลูกในไส้อยู่เเล้วตอนนี้ซาบซึงพี่ธามจัดเลย และบอกว่าพี่ธามนี้แหละที่จะเป็นคนดูแลกูได้”“เอ่ยถ้าเรื่องนั้นกูก็เข้าใจแม่มึงวันที่มึงรถชนกูรู้สึกผิดมากเลยที่ไม่ได้ไปส่ง”“โอ้ยยย มึงอย่าคิดมากอีเอลลี่ดวงคนมันจะชน”“แล้วพี่ธามว่าไง”“ก็ทำตัวเป็นคนดีตอบตกลงแม่กูน่ะสิตอนนี้เลื่อนสถานะจากหลานรักมาเป็นว่าที่ลูกเขยสุดที่รักละ”“แล้วมีกำหนดการยัง”“วันที่ 1 เดือนหน้า”“หะ!!” ฉันกับยันเอลลี่อุทานขึ้นมาพร้อมกันอีกครั้งอย่างตกใจเพราะนี้ก็กลางเดือนแล้ว“ทำไมมันเร็วจังวะนี้ก็วันที่ 16 แล้วนะมึง”“กูก็ไม่รู้เลยมาให้พวกมึงช่วยคิดนี่ไง”“ระดับแม่มึงใครจะกล้าขัดใจ” ยัยเอลลี่เอ่ยขึ้นอย่ารู้กันดีว่าแม่ของยัยเมลเบิร์นเ
“เลวชิปหายทำไมมึงไม่บอกพวกกู” ยัยเอลลี่เอ่ยขึ้นอย่างโมโหแทนฉันฉันที่ไม่อยากจะเสียเพื่อนรักไปเลยไม่มีทางเลือกเลยจำใจเล่าเรื่องทั้งหมดให้ยัยเพื่อนรักทั้งสองฟัง“ก็กูไม่กล้า ขนาดกูจะไปแจ้งความแอสตันยังบอกว่าตำรวจก็ทำอะไรเขาไม่ได้”“กูก็พอรู้ว่าพี่แอสตันเลวแต่กูไม่คิดว่าจะเลวขนาดอัดคลิปแบล็คเมล์มึงขนาดนี้”“มึงจะเอายังไงกูช่วยไหมเดียวกูให้แม่กูไปคุยกะพ่อแม่พี่แอสตันให้” เมลเบิร์นเอ่ยขึ้นอย่างพยายามหาทางช่วยฉัน“ไม่ต้องหรอกเดียวหมดเทอมนี้กูก็เป็นอิสระแล้วคิดสะว่ามีเสี่ยเลี้ยง”“กูขอโทษนะที่ช่วยอะไรมึงไม่ได้” ยังเอลลี่เอ่ยขึ้นน้ำตาคลอแล้วเอื้อมมือมาโอบกอดฉันอย่างรู้สึกผิดถ้าพูดถึงเรื่องความเซนซิทีฟยัยเอลลี่เซนซิทีฟและบ่อน้ำตาตื้นและขี้น้อยใจที่สุดในกลุ่มแล้วตอนนี้คงรู้สึกผิดทั้งเรื่องที่ยัยเมลเบิร์นรถชนและเรื่องฉันอยู่แน่ๆ ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นความผิดของยัยนี่เลย“กูด้วยขอโทษนะ” ยัยเมลเบิร์นเเบะปากทำหน้าจะร้องไห้เพราะสงสารฉันเข้ามาสวมกอดฉันด้วยอีกคน“พวกมึงกูไม่เป็นอะไรอยู่กับแอสตันก็สบายดีกูไม่ต้องไปวิ่งทำงานหนักด้วยมึงไม่ดีใจหรอ”“จริงนะ” ยัยเอลลี่เอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง“ก็จริงนะสิกูมีเงินพอ
หลายวันผ่านไป"เสร็จสักที" แอสตันเอ่ยขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นออกจากหน้าจอโน๊ตบุ๊คของของพร้อมกับบิดขี้เกียจ"โปรเจ็คเสร็จแล้วหรอ" สายน้ำที่พึ่งเดินลงมาจากห้องนอนด้วยชุดนักศึกษาพอดีเอ่ยถามขึ้น"อืม มีเรียน 9 โมงไม่ใช่หรอทำไมรีบ""รีบอะไรนี้ 8 โมงจะครึ่งแล้ว" เธอเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินผ่านแอสตันไปยังตู้รองเท้าเพื่อเตรียมตัวจะออกไปมหาวิทยาลัย"อ้ะ แอสตัน" สายน้ำเอ่ยขึ้นมาเมื่อแอสตันเดินมาสวมกอดเธอจากด้านหลังก่อนจะเอาหน้ามาคลอเคลียซอกคอของเธอ"ฉันบอกให้เรียกพี่ คิดถึงจัง" ร่างสูงของแอสตันเอ่ยพร้อมกับสายน้ำก่อนจะเลื่อนมือหนาไปขยำหน้าอกของเธอ"อารมณ์ไหนมาบอกคิดถึง" สายน้ำเอ่ยถามแอสตันกลับไปด้วยหัวใจที่เต้นแรงจากคำว่าคิดถึงจากปากคนใจร้ายอย่างเขา"ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างอยู่กับเธอเลยหนิ" เขาเอ่ยพร้อมทั้งเลื่อนมือหนาของเอาสอดเข้าไปใต้กระโปรงทรงเอของร่างบางก่อนจะเกี่ยวแพตตี้ตัวบางของเธอให้หลุดออกมาไปอยู่ที่ข้อเท้า"ฉันมีเรียน" เธอเอ่ยขึ้นบอกเขาเสียงสั่นเมื่ออารมณ์เสียวซ่านที่เขามอบให้เริ่มปะทุขึ้น"แปบเดียวน่า" แอสตันเอ่ยพร้อมกับถลกกระโปรงของร่างบางถึงไปเหนือเอวก่อนจะเริ่มถอดกางเกงของเขาจนเผลอให้เห็นแก่นกายมหึ
หลายวันผ่านไปเวลา 08.00 น."วันนี้วันหยุดไปไหนแต่เช้าหรอ" ร่างบางของสายน้ำที่พึ่งงัวเงียตื่นขึ้นมาเอ่ยถามร่างสูงของแอสตันอย่างที่เดินออกมาจากห้องแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่จะดูเต็มยศกว่าทุกวันอย่างแปลกใจ"ธุระ" แอสตันเอ่ยตอบสายน้ำสั้นๆ ก่อนจะยืนเช็คความเรียบร้อยของตัวเองอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ภายในห้องนอน"ให้ฉันไปเป็นเพื่อนไหม" ร่างบางลองเอ่ยถามแอสตันเพราะถ้าเป็นเมื่อก่อนเขามักจะพาเธอไปด้วยทุกที่"ไม่ต้อง" แอสตันเอ่ยตอบสายน้ำด้วยเสียงเรียบ"แล้วจะกลับมากี่โมง""ไม่แน่ใจ เธอมีอะไรรึป่าว""ป่าว แค่เห็นช่วงนี้นายไม่ค่อยอยู่ห้องเลย""ทำไมวันนี้เธอถามเยอะจัง""...." ทันทีที่แอสตันเอ่ยจบร่างบางของสายน้ำก็เงียบไปทันทีด้วยความน้อยใจในสิ่งที่เขาพูดออกมา"ฉันทำบัตรเครดิตเสริมให้เธอวางไว้ให้บนโต๊ะอยากได้อะไรก็รูดเอาไม่ต้องขอ" แอสตันยังคงเอ่ยขึ้นอย่างไม่ได้หันไปมองคนตัวเล็กว่าตอนนี้มีคนนอยเขาอยู่"...." สายน้ำไม่ได้เอ่ยตอบอะไรก่อนจะหันไปมองยังโต๊ะข้างหัวเตียงที่ตอนนี้มีบัตรเคดิตสีดำวางไว้อยู่"อยู่ห้องเป็นเด็กดีเดียวฉันก็กลับ จุ๊บ" แอสตันเอ่ยก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ข้างเตียงพร้อมกับค่อยๆ โน้มตัวลงไปจุ๊บหน้
ทางด้านของแอสตันณ บ้านอัครกิจภูริสกุลพอแอสตันมาถึงบ้านของเขาที่ตอนนี้บรรยากาศเงียบสนิทเขาก็เดินตรงไปยังห้องทำงานของผู้เป็นพ่อทันที ภายในห้องทำงานของนายไกรวิชญ์พ่อของพอร์ชและแอสตันที่ตอนนี้ก็มีบรรยากาศค่อนข้างที่จะไม่สู้ดีเพราะในห้องตอนนี้นอกจากเขาและพี่ชายก็ยังมีพ่อและแม่ของเขานั่งกดดันพวกเขาอยู่ด้วย"แน่ใจแล้วหรอว่าจะหมั้นกับหนูซีเรียลูกไออธิวัฒน์อะไรนั้น" ชายวัยกลางคนที่ท่าทางสุขุมเอ่ยถามลูกชายของตน"นั้นสิลูกพึ่งจะรู้จักกันเองนะ" หญิงสาววัยกลางคนที่ดูสง่าเอ่ยถามแอสตันด้วยใบหน้าวิตกกังวล"แน่ใจครับ" แอสตันเอ่ยตอบพ่อกับแม่ของเขาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น"แกรู้ใช่ไหมว่างานหมั้นมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้วยิ่งเป็นคนระดับไออธิวัฒน์ด้วยแล้วถ้าขืนแกไปทำเล่นๆ มันเอาแกตายแน่" นายไกรวิชญ์เอ่ยบอกลูกชายของตน"รู้ครับ ผมถึงมาบอกพ่อแม่ก่อน""อะไรที่เรียกว่าบอกก่อน พวกแกไปตกลงกับไออธิวัฒน์กันก่อนแล้วถึงมาบอกพ่อแบบนี้เขาเรียกว่าบอกทีหลัง""ผมขอโทษแทนน้องด้วยครับเป็นเพราะผมเองที่ตกปากรับคำไป" พอร์ชเอ่ยแทรกขึ้นมาเมื่อเห็นว่าผู้เป็นพ่อของตนเริ่มที่จะอารมณ์เสียแล้ว"เงียบไปเลยนะพอร์ชจบเรื่องนี้พ่อค่อยมาค
ทางด้านแอสตัน"ไว้เจอกันใหม่เสาร์หน้านะครับ" แอสตันเอ่ยบอกสาวสวยที่เขาขับรถมาส่งที่บ้านของเธอหลังจากไปทานข้าวเย็นด้วยกันมา"วันเสาร์เลยหรอคะซีเรียคิดถึงแอสตันแย่เลย คืนนี้ซีเรียว่างนะคะ" เธอเอ่ยพร้อมกับค่อยๆ เอาหน้ามาซบอกแอสตันที่นั่งอยู่ฝั่งคนขับและเริ่มเลื่อนมือของลูบวนยังกล้ามหน้าอกของแอสตัน"ช่วงนี้ผมงานเยอะมากเลยครับ เดียวต้องกลับไปเคลียร์งานที่คลับต่ออีกแล้วก็โปรเจคจบด้วย" แอสตันเอ่ยตอบสาวสวยพร้อมทั้งเอามือมาจับมือเธอที่ลูบไล้หน้าอกเขาอยู่ออกอย่างสุภาพช่วงนี้ของเขาแทบจะไม่มีเวลาเลยจริงๆ อย่างที่เขาได้เอ่ยบอกซีเรียไปเพราะมัววุ่นอยู่กับงานที่บริษัท งานที่คลับ และไหนจะการหาหลักฐานเอาผิดพ่อของเธออีก"ก็ได้ค่ะ งั้นวันเสาร์เจอกันนะคะ" เธอเอ่ยอย่างขัดใจก่อนจะผละหัวออกจากอกแกร่งของแอสตันมานั่งยังข้างคนขับตามเดิม"งั้นไว้เจอกันนะครับ""ค่ะ งั้นซีเรียเข้าบ้านก่อนนะคะ" เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดที่ไม่ได้เป็นดังใจคิดก่อนจะเปิดประตูลงจากรถของแอสตันไปแอสตันนั่งดูร่างอรชรของสาวสวยเดินเข้าบ้านไปพร้อมกับผุดยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ที่เธอติดกับดักเข้าเต็มๆ ก่อนจะกดโทรศัพท์โทรหาพี่ชายของตน"วันเส
ตับ ตับ ตับ!!แอสตันอันกระแทกแก่นกายมหึมาเข้าออกรูสวาทของร่างบางจากทางด้านหลังอย่างหนักหน่วง"อ้ะๆ อื้มม~ อะ...อ่า" สายน้ำกัดฟันแน่นและมือทั้งสองข้างของเธอก็กำไว้แน่นเช่นกันเพราะว่ามันทั้งจุกทั้งเสียวตับ ตับ ตับฝ่ามือหนาของแอสตันเลื่อนลงมาบีบขยำหน้าอกของเธอที่กระเพื่อมไปมาตามแรงกระแทกของเขาอย่างมันมือ ส่วนสะโพกของเขาก็ยังคงซอยอย่างถี่ยิบตามแรงอารมณ์ของเขาที่มันพลุ่งพล่านอย่างหยุดไม่อยู่"ซี๊ดดสายน้ำ" แอสตันครางออกมาเสียงกระเส่าพร้อมทั้งใช้นิ้วเรียวหยิกหัวลูกเกดของเธออย่างระบายความเสียวของตัวเขาเอง"อ้ะ แอสตันเจ็บ" เธอเอ่ยร้องออกมาเมื่อร่างแกร่งหยิกเม็ดลูกเกดเธอแรงเกินไปจนทำให้เธอรู้สึกเจ็บ"ฉันบอกให้เรียกว่าอะไร? ซี๊ด" ร่างสูงแอสตันเอ่ยถามสายน้ำเสียงแข็งก่อนจะกัดเข้าไปที่หูข้างซ้ายของเธออย่างแรงเพื่อเป็นการทำโทษและเร่งจังหวะการกระแทกให้แรงกว่าเดิมงับ!ตับ ตับ ตับ!!!!!!"พะ พี่แอสตัน อ่าเจ็บ"มือหนาของแอสตันค่อยๆ เลื่อนมาโอบกอดเอวเธอเอาไว้แน่นและออกแรงกระแทกกระทั้นเข้าไปให้ลึกขึ้นตับ ตับ ตับ!!!!!!"อื้มม อ้ะๆ เบาๆ" สายน้ำครางออกมาเสียงกระเส่าที่ท่อนล่างของเธอถูกเขาทารุณอย่างหนักด้ว
"พวกมึงก็พูดไปเลื่อยไปกลับกันเถอะเย็นแล้ว" สายน้ำเอ่ยขึ้นก่อนจะหยิบกระเป๋าผ้าใบโปรดขึ้นมาสะพาย"เออๆ จะ 5 โมงแล้วนี่หว่าวันนี้กูมีนัดกับแม่ด้วย" เอลลี่เอ่ยขึ้นเมื่อดูนาฬิกาในโทรศัพท์ของเธอ"กลับพร้อมกูไหมอีน้ำเดียวกูไปส่งคอนโดพี่ธามไปทางนั้นพอดี" เมลเบิร์นเอ่ยถามสายน้ำพร้อมกับหยิบกุญแจรถออกมา"อืมไปสิ" สายน้ำเอ่ยพร้อมลุกตามเมลเบิร์นไปณ คอนโดหรูของแอสตันแกร็ก~"กลับมาแล้วหรอ" แอสตันที่นั่งดูทีวีอยู่ที่โซฟากลางห้องเอ่ยถามเมื่อได้ยินเสียงของคนตัวเล็กเปิดประตูเข้ามา"อืม ทำไมวันนี้กลับมาเร็วล่ะ" เธอเอ่ยถามอย่างนึกแปลกใจเมื่อเห็นแอสตันนั่งอยู่ภายในห้อง"ว่าจะนั่งปั่นโปรเจ็คให้เสร็จ มานั่งนี่สิ" แอสตันเอ่ยพลางตบที่หน้าขาของตัวเองเบาๆ"ทำไมรีบจัง มีเวลาอีกตั้ง 2 เดือนกว่า" สายน้ำเอ่ยพร้อมทั้งเดินมานั่งบนตักของแอสตันอย่างรู้งาน"ฉันตั้งใจจะทำให้เสร็จเดือนนี้จะได้มีเวลาไปช่วยพี่" แอสตันเอ่ยก่อนใช้นิ้วเรียวค่อยๆ แกะกระดุมเสื้อนักศึกษาของร่างบางเผลอให้เห็นบราลายลูกไม้สีดำที่เขาเป็นคนเลือกให้เองกับมือแอสตันซุกหน้าเข้าที่กลางล่องอกของสายน้ำพร้อมทั้งสูบหายใจดมกลิ่นอันคุ้นเคยของร่างบางเข้าลึกๆ พร
"พี่พอร์ชสวัสดีครับ" ดีเดย์ โรม ธาม เอ่ยขึ้นพร้อมกันเมื่อเห็นว่าพอร์ชเดินเข้ามาด้วยพร้อมแอสตัน"ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ" พอร์ชรับไหว้เพื่อนๆ ของแอสตันพร้อมทั้งเอ่ยทักทายอย่างสนิทสนมก่อนจะเดินมานั่งยังโซฟาหรูตัวยาวภายในห้องพอร์ชรู้จักเพื่อนของแอสตันทุกคนมาตั้งแต่สมัยพวกนั้นยังเด็กแล้วเพราะพวกเขารู้จักกันมานานจนเหมือนเป็นพี่น้องกัน พอโตขึ้นก็มักจะเจอตามสถานีตำรวจเวลาแอสตันไปก่อเรื่องแล้วเขาที่เป็นทั้งพี่และผู้ปกครองต้องตามไปสะสางให้"แล้วเป็นไงบ้างปลาติดเบ็ดไหม" ธามเอ่ยถามแอสตันอย่างอยากรู้"ระดับนี้จะเหลือหรอ แล้วเรื่องที่ให้มึงไปถามพ่อล่ะว่าไงบาง" แอสตันตอบก่อนจะเอ่ยถามธามกลับไป"พ่อกูบอกว่าเมื่อก่อนไออธิวัฒน์ก็สนิทกับพวกพ่อกูกับพ่อมึงนี้แหละแต่เป็นคนคบไม่ค่อยได้แต่จะสนิทกับพ่อมึงมากกว่าแล้วพอรู้ว่าพ่อมึงจะเปิดบริษัทเลยของร่วมหุ้นด้วยแต่ให้พ่อมึงลงทุนไปก่อน" ธามเอ่ยเล่าให้ฟังในสิ่งที่พ่อของเขาเล่ามาโดยมีเพื่อนๆ และพอร์ชนั่งตั้งใจฟัง"แบบนั้นมันเรียกว่าหุ้นด้วยยังไงวะ" โรมเอ่ยถามแทรกขึ้นมาอย่างสงสัย"แล้วไงต่อ" แอสตันเอ่ยถามต่อ"เหมือนจะเป็นการให้พ่อมึงลงทุนแล้วก็หาคอนเนคชั่นเพราะพ่อและแ
"ใช่ครับ ช่วงนี้บริษัทกำลังวุ่นๆ พ่อเลยให้ผมมาช่วยก่อน" แอสตันเอ่ยตอบพร้อมกับยิ้มให้กับหญิงสาว"เก่งจังเลยนะคะซีเรียยังไม่ค่อยรู้อะไรเลย""ถ้าคุณซีเรียไม่รังเกียจว่างๆ ผมสอนให้ก็ได้นะครับ""ใครจะไปรังเกียจคนเก่งๆ แบบคุณแอสตันล่ะคะ" ซีเรียตอบกลับชายหนุ่มด้วยเสียงหวานทางด้านพอร์ช"เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าคุณต้องการอะไร" นายอธิวัฒน์เอ่ยถามพอร์ชด้วยน้ำเสียงจริงจังเพราะเขาเองก็อยู่ในวงการนี้มานานส่วนมากถ้าไม่ใช่เรื่องธุรกิจหรือมีเรื่องของให้ช่วยเหลือก็คงจะไม่มีใครมาทักทายกัน"สมแล้วที่คุณอธิวัฒน์เป็นนักธุรกิจใหญ่ที่เขาล่ำลือกัน" พอร์ชเอ่ยตอบกลับชายสูงวัยด้วยน้ำเสียงชื่นชม"พอดีว่าผมไม่ชอบอ้อมค้อมสักเท่าไหร่มันเสียเวลา" นายอธิวัฒน์เอ่ยขึ้นพร้อมกับยกมือเรียกบริกรที่กำลังเดินมาให้หยุดทางเขาก่อนจะหยิบแก้วแชมเปญมาสองแก้วก่อนจะยื่นให้พอร์ชไปแก้วหนึ่งตามมารยาท"ขอบคุณครับ ผมติดตามผลงานและชื่อชมการบริหารงานของคุณอธิวัฒน์มานานและที่ทำให้บริษัทXXX ที่พึ่งเปิดมาได้ไม่นานนักก็สามารถทำกำไรได้อย่างมหาศาลทำให้บริษัทXXX มียอดขายที่โตขึ้นไวจนสูสีกับบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เปิดมานานรวมถึงบริษัทของพ่อผมด้วย" พ
"ออกไป!!"ร่างสูงของแอสตันเอ่ยไล่สาวสวยที่เขาจ้างมาก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงพร้อมกับดึงกางเกงของตนมาใส่ให้เรียบร้อย"ทำไมล่ะคะ แตงโมทำอะไรให้พี่แอสตันไม่พอใจรึป่าว" สาวสวยเอ่ยออกมาก่อนจะลุกขึ้นมาเกาะแขนแอสตันด้วยท่าทางออดอ้อน"ฉันหมดอารมณ์" เขาเอ่ยพร้อมสะบัดแขนที่ถูกเกาะกุมด้วยสาวสวยออกอย่างไม่ใยดี"แต่เรายังไม่ได้เริ่มเลยนะคะ" เธอเอ่ยขึ้นพร้อมจับมือแอสตันมาวางไว้ที่หน้าอกของเธอ"ฉันไม่มีอารมณ์กับใครทั้งนั้นแหละปล่อย" เขาเอ่ยเสียงดังลั่นจนทำให้เธอต้องปล่อยมือออกจากข้อมือเขาที่เธอจับเขาไว้อยู่ร่างสูงของแอสตันล้วงไปหยิบกระเป๋าตังที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของเขาก่อนจะหยิบเงินขึ้นมาปึกนึงแล้วยัดใส่มือของเธอ"นี้เงินแล้วก็รีบไสหัวไปสะก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน!! " เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงตวาดลั่นจนทำให้สาวสวยที่เขาเรียกว่ากลัวจนตัวสั่นก็จะรีบหยิบเสื้อผ้าของเธอที่กระจัดกระจายอยู่ที่พื้นมาใส่โดยไว"ถ้าพี่แอสตันมีอา...""ฉันบอกให้ออกไปไงหรือเธออยากตาย!!!" ยังไม่ทันที่สาวสวยจะเอ่ยจบแอสตันก็ตวาดขึ้นเสียงดังลั่นก่อนจะชี้ไปที่ประตู"ค่ะๆๆ แตงโมงไปแล้วค่ะ" สาวสวยเอ่ยขึ้นก่อนจะรีบวิ่งออกจากห้องไปด้วยความกลัว"เป็