Share

บทที่ 16 กำแพง

last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-05 22:06:47

เช้าวันรุ่งขึ้นพิมพิศาตื่นนอนมาพร้อมกับอาการปวดหัว รู้สึกครั้นเนื้อครั้นตัว สมองเบลอและตาพร่า หญิงสาวพบว่าตนเองมีไข้ ร่างกายร้อนระอุเหมือนมีเปลวไฟแผดเผา ใบหน้าขาวซีดหันมองคนข้างๆ ที่ยังนอนหลับอุตุด้วยความเป็นห่วง

"คุณอิฐ ตื่นหรือยังคะ" พิมพิศาขมวดคิ้วมุ่นกระซิบถาม ปกติอิษวัติจะตื่นเช้ากว่าเธอ แต่วันนี้เขากลับไม่มีการเคลื่อนไหว ฝ่ามือเรียวบางยื่นไปแตะหน้าผากอีกฝ่ายก่อนร้องอุทานออกมา

"ตัวร้อนขนาดนี้เลยเหรอ" 

ร่างบางชักมือกลับพลางค่อนขอดสามีในใจ แค่คืนแรกเขาก็จับไข้เสียแล้วแย่จริงๆ อาการป่วยของเธอย่อมมีเหตุผลและสามารถเข้าใจได้ แต่การที่เขาเจ็บป่วยไปพร้อมกันคืออะไร 

พิมพิศาส่ายศีรษะด้วยความระอาก่อนกัดฟันลุกขึ้นแม้ว่าจะเวียนหัวแทบยืนไม่ไหว เธอเดินโซซัดโซเซไปหยิบผ้าขนหนูมาชุบน้ำแล้วบิดหมาดๆ ก่อนจะกลับมานั่งข้างเตียงแล้วเช็ดหน้าให้อิษวัติเพื่อลดไข้ 

ความจริงเธออยากเรียกป้าแม่บ้านให้มาช่วยดูแล แต่สภาพห้องมันเละเทะเกินกว่าจะรับไหว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเมื่อคืนเธอกับสามีทำอะไรกัน ดังนั้นคนหน้าบางอย่างเธอจึงต้องช่วยเหลือตัวเองต่อไป

"อือ" อิษวัติครางเบาๆ เมื่อความเย็นสัมผัสกับใบหน้า

"นอนนิ่งๆ สิคะ คุณอิฐมีไข้สูงพิมพ์กำลังเช็ดตัวให้ เสร็จแล้วจะได้เรียกป้าแม่บ้านขึ้นมา ทานข้าวทานยาก่อนแล้วค่อยพักผ่อนต่อนะคะ" ร่างบางสาธยายกำหนดการคร่าวๆ ให้คนตัวโตฟัง ขณะที่มืออีกข้างยังคงบรรจงเช็ดตัวให้เขาต่อไป อิษวัติที่ครึ่งหลับครึ่งตื่นค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นมองเธอด้วยความอิดโรยและเป็นห่วงไม่แพ้กัน

"อือ แล้วคุณล่ะ ป่วยอยู่แท้ๆ ยังจะมาลำบากดูแลผมอีก"

"ก็คุณอาการหนักกว่าพิมพ์นี่คะ" พิมพิศากลอกตามองบนพลางกลั้นขำจนไหล่สั่น หลังเสร็จภารกิจเข้าหอสามีเธอก็หมดแรงจนจับไข้ ช่างเป็นผู้ชายไร้เดียงสาเสียจริง ให้ตายสิ รู้ถึงไหนอายถึงนั่น

อิษวัติขัดเขินจนต้องก้มหน้า เขาคงถูกภรรยาล้อเลียนเรื่องนี้ไปอีกนาน แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อเขาไร้ประสบการณ์และเป็นฝ่ายหักโหมบรรเลงเพลงรักจนถึงเช้า ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งห่อเหี่ยวใจ ร่างสูงพยายามยันตัวลุกขึ้นก่อนจะดึงผ้าขนหนูออกจากมืออีกฝ่ายแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

"คุณก็ป่วยเหมือนกัน ไม่ต้องเล่นบทพยาบาลสาวเลย กลับไปนอนได้แล้วครับ" 

"แต่ว่า" พิมพิศาลังเลชั่วครู่ ยังไม่ทันพูดจบร่างสูงก็ใช้มือกดไหล่เธอให้นอนลงข้างๆ 

"อย่าขัดขืนสิครับ คุณเองก็ป่วยอยู่ยังจะมาดูแลผมอีก " สามีตัวโตกำชับด้วยความห่วงใย เขาคว้าโทรศัพท์มือถือมาต่อสายหาป้าเพ็ญเพื่อสั่งงาน เสร็จแล้วจึงหันมาชี้แจงรายละเอียดให้เธอฟังเพื่อความสบายใจ 

“น้องดาทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว กำลังขึ้นรถไปโรงเรียน เดี๋ยวอีกสักครู่แม่บ้านจะยกข้าวต้มกับยาขึ้นมาให้ คุณไม่ต้องกังวลทุกอย่างในบ้านเรียบร้อยดี”

“ขอบคุณค่ะ” พิมพิศาจุ๊บแก้มสามีเพื่อให้รางวัล

"อ๊ะ คุณอิฐกอดพิมพ์ทำไมคะ" ลูกแมวขนฟูที่ถูกจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัวร้องเสียงหลง

"กลัวเด็กดื้อลุกไปหาอะไรทำให้วุ่นวายอีก" คนตัวโตตีมึนกอดภรรยาไว้แนบอก ส่วนพิมพิศาก็ตกใจจนอ้าปากค้างอยากจะดันตัวเขาออกห่างแต่เรี่ยวแรงกลับน้อยนิด แถมไออุ่นจากร่างสูงยังทำให้เธอรู้สึกดีจนหัวใจเต้นโครมคราม

หลังจากทั้งคู่ทานข้าวทานยาเสร็จก็ผล็อยหลับด้วยความอ่อนเพลียจากพิษไข้ กระทั่งสามวันผ่านไปอาการป่วยก็หายดีเป็นปลิดทิ้ง

พิมพิศานั่งกอดเข่าอยู่บนโซฟา ดวงตาคู่งามหลุบต่ำลงขณะรออิษวัติอาบน้ำเพื่อเข้านอนพร้อมกัน ไม่รู้ตัวเลยว่าเขาเองก็กำลังยืนกอดอกพิงกรอบประตูมองเธอด้วยท่าทางสบายๆ 

ดวงตาคมทอดมองไปยังร่างบางที่นั่งเหม่อลอยด้วยความสับสน บางสิ่งในอกกำลังร้องเตือนว่าเขาควรพูดความจริงออกไปเสียที

“คุณเคยสงสัยหรือเปล่าว่าทำไมผมถึงเย็นชา”

พิมพิศาชะงักเล็กน้อยก่อนเงยหน้าขึ้นมองเขา ดวงตาสวยฉายแววประหลาดระคนตกใจ ทำไมอยู่ดีๆ อิษวัติถึงพูดเรื่องบุคลิกของตัวเองออกมา

“พิมพ์เห็นคุณเป็นแบบนี้มาตั้งแต่แรก เลยคิดว่าไม่ได้มีเหตุผลอะไรค่ะ”

“มีเหตุผลสิครับ เพียงแต่ ผมไม่เคยบอกใคร” ชายหนุ่มแค่นหัวเราะออกมาราวกับว่ากำลังสมเพชตัวเองอยู่ในใจ เขานั่งลงข้างกายพิมพ์พิศาก่อนเอนหลังพิงพนักโซฟาเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด 

“ในโลกธุรกิจ การแสดงสีหน้าและอารมณ์เป็นสิ่งอันตราย” ร่างบางขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะที่อิษวัติยังคงพูดต่อไป

“สีหน้า อารมณ์ ความลังเล ทั้งหมดนี้จะทำให้คู่แข่ง หุ้นส่วน หรือแม้แต่ศัตรูรู้ว่าผมกำลังคิดอะไร รู้ว่าผมมีจุดอ่อนตรงไหน และผมเลือกที่จะไม่ให้มันเกิดขึ้น ผมสร้างกำแพงปิดกั้นตัวเองออกจากความรู้สึกทั้งหลาย เพราะรู้ดีว่าเมื่อไหร่ที่ผมอ่อนแอ ผมจะถูกพวกเขากัดกินจนไม่เหลือแม้แต่กระดูก” น้ำเสียงฟังดูราบเรียบแต่กลับแฝงไปด้วยความเจ็บปวดบางอย่าง 

“มันคุ้มค่าแล้วหรือคะ กับการที่คุณต้องใช้ชีวิตแบบคนไร้หัวใจ” พิมพิศามองเขาด้วยสายตาเอื้ออาทร 

“บางครั้ง ผมก็สับสนเหมือนกันครับ” บรรยากาศเงียบงันไปชั่วขณะ ก่อนที่ร่างสูงจะถอนหายใจออกมาแล้วพูดทุกสิ่งที่เขาเก็บงำเอาไว้

“คุณเองก็น่าจะรู้ว่าครอบครัวของผมเป็นยังไง ก่อนมาอยู่ภายใต้การเลี้ยงดูของคุณตาผมเคยมีครอบครัวที่อบอุ่น แต่แล้ววันหนึ่งมันก็พังลงเพราะการกระทำของพ่อผมและผู้หญิงคนนั้น ผมเห็นแม่วิ่งออกจากบ้าน เห็นท่านถูกรถชนกับตา ตอนนั้นผมเจ็บปวดแทบบ้าแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ 

พอโตขึ้นถึงรู้ว่าคุณพ่อเคยมีครอบครัวมาก่อน ท่านใช้ความรักที่แม่ของผมมอบให้เพื่อไขว่คว้าเงินทองและอำนาจ ทรยศต่อความรักและเป็นต้นเหตุให้เธอต้องจากไป ถึงจะบอกว่าไม่ตั้งใจแต่สุดท้ายพ่อผมก็เป็นชู้กับผู้หญิงคนนั้น ผมพยายามลืมความเจ็บปวดด้วยการทำงานอย่างหนักจะได้ไม่คิดฟุ้งซ่าน 

แต่ที่โชคร้ายกว่านั้นคือคุณตาจากผมไปตั้งแต่ผมยังเด็ก แม้ท่านจะยกทรัพย์สินทุกอย่างให้ผม แต่ทรัพย์สินพวกนั้นก็ต้องตกไปอยู่ในมือของคนอื่นชั่วคราวเพราะผมยังไม่บรรลุนิติภาวะ ผมต้องพยายามอย่างหนักเพื่อกอบกู้มันคืนมา ต้องแสร้งหน้าตาย ไร้อารมณ์ เงียบสงบ ไร้หัวใจ เพื่อไม่ให้คนพวกนั้นจับทางได้ และสุดท้ายสิ่งเหล่านี้ก็กลายเป็นบุคลิกที่ติดตัวผม” 

หลังระบายความเจ็บปวดให้ใครสักคนฟัง อาการแน่นหน้าอกก็ตีตื้นขึ้นมาเสียแต่ว่าเขาไม่ได้ร้องไห้ ร่างสูงมองภรรยาที่คอยบีบบ่าให้กำลังใจอยู่ข้างๆ ก่อนตัดสินใจพูดความจริงทั้งหมดออกมาอีกครั้ง

“ผมพยายามรักษาระยะห่างกับคุณ เพราะรู้ว่าคุณไม่เคยมีใจให้ผม” 

พิมพิศาเบิกตากว้างเมื่อได้ยินคำนั้น สัญชาตญาณร้องเตือนว่าพายุกำลังจะมา เธอทำได้เพียงกวาดตามองคนตรงหน้าอย่างระแวดระวัง

“ผมรู้ว่าคุณเข้าหาผมเพราะต้องการแก้แค้นเอกราช” คำพูดของอิษวัติทำเธอสะดุ้งโหยงหน้าซีดเผือดแทบไร้สี สติหลุดลอยอย่างควบคุมไม่ได้

“คะ คุณรู้เรื่องนี้ ตะ ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” พิมพิศาแทบหยุดหายใจ เธอทำเรื่องน่าละอายต่อเขา ทำให้เขาเจ็บปวดไม่ต่างจากคนอื่น ๆ เลยสักนิด อิษวัติเป็นคนดีมาก เขาไม่ควรถูกทำร้ายจากใครทั้งนั้น

ร่างสูงแสร้งหัวเราะเบาๆ แต่น้ำเสียงของเขากลับไม่มีความขบขันแฝงอยู่เลยสักนิด

“ตั้งแต่วันแต่งงานของเอกราชครับ ผมเห็นสายตาของคุณกับหมอนั่นมีบางอย่างแปลก ๆ เลยให้คนไปสืบ แล้วก็ได้รู้ว่าที่คุณอยากแต่งงานกับผม เพราะต้องการใช้ผมเป็นเครื่องมือในการแก้แค้น” พิมพิศาเม้มปากแน่น ไม่คิดเลยว่าเขาจะสังเกตเห็นความผิดปกติได้เร็วขนาดนี้

“คะ คือ คือว่า” คำแก้ตัวทั้งหมดถูกกลืนหายไปเมื่อปลายนิ้วเรียวยาวแตะลงบนริมฝีปากอ่อนนุ่ม น้ำเสียงทุ้มต่ำกระซิบสั่งแหบพร่า

"อย่าเพิ่งพูดครับ" พิมพิศาตัวแข็งทื่อสงบนิ่งกลางอากาศ

“คุณยังมีเยื่อใยให้เอกราชหรือเปล่า” อิษวัติจ้องลึกเข้ามาในดวงตาเธอเหมือนกำลังค้นหาความจริงบางอย่าง

“ปะ เปล่าค่ะ” พิมพิศาลมหายใจติดขัดขณะสบตาเขา

“ก่อนหน้านี้ผมพยายามเตือนตัวเองมาตลอดว่าอย่าเข้าใกล้ อย่าคาดหวัง อย่าแสดงความเป็นเจ้าของ และอย่าหลงรักคุณ”

“ละ แล้วตอนนี้ล่ะคะ” ร่างบางเผลอกลืนน้ำลายลงคอด้วยความประหม่า คนเห็นแก่ตัวอย่างเธอได้แต่ภาวนาให้เขาคิดเหมือนกัน ยินดีละทิ้งความสัมพันธ์จอมปลอมในอดีตแล้วเริ่มต้นใหม่

อิษวัติเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆ เอื้อมมือมาแตะแก้มเธอเบาๆ สัมผัสนั้นทำให้หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ผละหนี

“ตอนนี้ ผมอยากลองมีความรักดูสักครั้ง” พิมพิศาเบิกตากว้างหัวใจเต้นแรงแทบไม่เป็นจังหวะ

“คะ คุณไม่โกรธหรือคะ ที่พิมพ์โกหกคุณ” 

“ตอนแรกก็โกรธครับ แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อผมรู้จุดประสงค์ของคุณ แต่ก็ยังเต็มใจพาตัวเองเข้าไป เรียกว่าเต็มใจให้หลอกได้หรือเปล่าครับ” อิษวัติจ้องภรรยาด้วยสายตากรุ้มกริ่ม รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นมาตรงมุมปาก

“เฮอะ สรุปว่าพิมพ์กลายเป็นคนถูกหลอกเสียเองใช่ไหมคะ” ร่างบางปัดมือหนาออกจากแก้มทันที จากที่คิดว่าตัวเองฉลาดกลับกลายเป็นคนโง่ต่อหน้าอิษวัติอยู่ร่ำไป ให้ตายเถอะ เธอเอาชนะผู้ชายคนนี้ไม่ได้จริงๆ

“โอ๋ๆ ไม่งอนนะครับ คุณยังไม่ตอบผมเลยว่าจะให้ความร่วมมือไหม”

“คนบ้า พิมพ์ยอมถวายให้คุณทั้งตัวแล้ว ยังจะถามอะไรอีกคะ” พิมพิศาก้มหน้างุดด้วยความเขินอาย 

ร่างสูงมองภรรยาที่แก้มแดงปลั่งราวกับมะเขือเทศสุกด้วยความเอ็นดู ไม่รู้ว่ากำลังเขินหรือโกรธกันแน่ แค่เธอไม่ปฏิเสธความรู้สึกของเขาก็เพียงพอแล้ว เรื่องอื่นค่อยว่ากันใหม่ 

 บรรยากาศระหว่างสามีภรรยาอบอวลไปด้วยความสุข อิษวัติค่อยๆ โน้มตัวเข้าไปใกล้จนปลายจมูกของทั้งคู่สัมผัสกัน เพียงไม่นานไฟแห่งความปรารถนาก็ลุกโชนขึ้นและค่ำคืนนี้ก็เป็นค่ำคืนแรกที่กำแพงในหัวใจของพวกเขาเริ่มพังทลาย

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • แผนร้ายพ่ายบ่วงรัก   บทที่ 32 ครอบครัวหรรษา

    กาลเวลาผันผ่านตามวัฏจักรชีวิตแต่สวนหลังบ้านของตระกูลธาราวรวงศ์บัดนี้กลับเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเจื้อยแจ้วของเด็กๆ ที่วิ่งไล่กันอย่างสนุกสนาน กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกคาเมเลียลอยมาตามลมชวนให้รู้สึกผ่อนคลาย ใต้ต้นไม้ใหญ่กลางสนามหญ้าอิษวัติและพิมพิศานั่งเคียงข้างกัน ดวงตาสองคู่ทอดมองไปยังเด็ก ๆ ทั้งห้าคนที่กำลังวิ่งเล่นอย่างสนุกสนาน น้องดากลายเป็นเด็กหญิงวัย 12 ขวบ ที่ชอบยืนกอดอกทำหน้าตาขึงขัง แสดงบทบาทของพี่สาวคนโตที่ต้องดูแลน้องชายตัวแสบทั้งสี่คน"พวกตัวแสบ" คือชื่อที่พิมพิศาใช้เรียกเหล่าลูกชาย แม้หน้าตาพวกเขาจะละม้ายคล้ายคลึงกับอิษวัติราวกับถอดแบบมา แต่ลักษณะนิสัยนั้นกลับแตกต่างกันอย่างชัดเจน พี่ชายคนโตของบ้านอย่าง อิงฟ้าหรือ (อิงค์) ตัวสูงใหญ่ มีความสุขุมและใจเย็นกว่าใครเพื่อน มักรับบทเป็นหัวหน้าทีมคอยควบคุมสถานการณ์ เมื่อการละเล่นระหว่างฝาแฝดทั้งสี่เริ่มเกินขอบเขต เขาจะเป็นคนตะโกนว่า “พอได้แล้ว” เสมอ และที่สำคัญคือเขาชอบอ่านนิทานก่อนนอน โดยเฉพาะเรื่องราวเกี่ยวกับซูเปอร์ฮีโร่หรืออัศวินผู้กล้าส่วนลูกชายคนที่สองอย่าง อัศวินหรือ (อัช) นั้นเป็นเด็กจอมแก่น พลังงานล้นเหลือและมีความกล้าบ้าบ

  • แผนร้ายพ่ายบ่วงรัก   บทที่ 31 ติดกลิ่น

    พิมพิศาซบศีรษะลงบนไหล่ของอิษวัติ ดวงตาคู่งามทอดมองออกไปนอกหน้าต่าง มือบางค่อยๆ หมุนแหวนแต่งงานบนนิ้วนางข้างซ้ายเล่นอย่างเพลิดเพลิน“คุณอิฐคะ” ร่างบางสบตาเขาอย่างออดอ้อน“หืม ว่าไงครับ” อิษวัติแตะปลายจมูกภรรยาด้วยความมันเขี้ยว ทั้งที่เขาเองยังพะเน้าพะนอเธอไม่ห่าง แถมยังยอมวางเอกสารในมือลงเพื่อพูดคุยกับเธอโดยเฉพาะ“อยากได้ลูกสาวหรือลูกชายคะ” พิมพิศาถามเสียงใสพลางซุกหน้าเขาไปในอกกว้างจนเขาเกิดอาการจั๊กจี้ ร่างสูงหัวเราะหึในลำคอด้วยความเอ็นดูก่อนจะพยักหน้าตอบช้าๆ“ลูกสาวหรือลูกชายก็ได้ครับ ขอแค่มีเจ้าตัวเล็กที่หน้าตาเหมือนเราสองคนมาเดินเตาะแตะอยู่ในบ้าน”“แหม พูดซะเห็นภาพเลยนะคะ ว่าแต่ทำไมพิมพ์ยังไม่ท้องอีกล่ะ ปล่อยมาตั้งนานแล้ว” ร่างบางตัดพ้ออย่างแง่งอน น้ำเสียงเต็มไปด้วยความผิดหวัง เธอยู่ปากเข้าหากันเล็กน้อยเพื่อให้ดูน่ารักน่าชังในสายตาของสามี“รออีกหน่อยสิครับ เดี๋ยวลูกก็มา” อิษวัติปลอบโยนภรรยาเสียงเรียบ แต่ดูเหมือนว่าคำตอบนั้นจะไม่เป็นที่น่าพอใจ พิมพิศาแกล้งทำหน้าครุ่นคิดแล้วหันไปมองเขาอย่างล้อเลียน “อืม ถ้าปัญหาไม่ได้อยู่ที่พิมพ์ งั้นปัญหาก็คงอยู่ที่คุณอิฐแล้วล่ะค่ะ”“เมื่อกี้คุณว่า

  • แผนร้ายพ่ายบ่วงรัก   บทที่ 30 เส้นทางชีวิต

    เอกราชนั่งนิ่งหลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ ดวงตาคมทอดมองเอกสารในมืออย่างเหม่อลอย ข้อความกว่าร้อยบรรทัดมีรายละเอียดเกี่ยวกับหลักสูตรการไปเรียนต่อต่างประเทศ ซึ่งเป็นหลักสูตรที่เขาจัดการให้กับแพรลดา หญิงสาวผู้เคยเป็นภรรยาอย่างถูกต้องตามกฎหมายและเป็นผู้หญิงที่เขาเคยคิดว่ารัก แต่สุดท้ายความสัมพันธ์กลับพังทลายลงเหลือเพียงเศษซากความขมขื่นชายหนุ่มถอนหายใจยาวเพราะความรู้สึกผิดก่อตัวขึ้นมาในอก ไม่ว่าแพรลดาจะเคยทำอะไรกับเขาหรือครอบครัว แต่ความจริงที่เธอเคยมีใจให้เขาและยอมทุ่มเททำสิ่งต่างๆ เพื่อเขาก็ยังคงอยู่ การส่งเธอไปเรียนต่อต่างประเทศพร้อมกับเงินทุนสำหรับการเริ่มต้นชีวิตใหม่คือสิ่งสุดท้ายที่เขาจะทำเพื่อเธอได้สนามบินเต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่าน แต่บรรยากาศระหว่างเอกราชและแพรลดากลับดูเงียบเหงา หญิงสาวสวมเสื้อโค้ตตัวยาวสีเบจยืนกอดกระเป๋าสะพายแน่น จ้องมองไปยังอดีตสามีด้วยความรู้สึกเจ็บปวด เสียดาย และต้องการตัดใจ"ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะคะ" แพรลดาเอ่ยเสียงสั่น"ขอให้พบกับผู้ชายที่รักคุณจริง ๆ และขอให้คุณมีชีวิตที่ดีนะครับ" น้ำเสียงเอกราชราบเรียบแต่ในใจกลับรู้สึกหนักอึ้งเมื่อเครื่องบินทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ชาย

  • แผนร้ายพ่ายบ่วงรัก   บทที่ 29 การกระทำที่ขาดความยับยั้งชั่งใจ สร้างรอยแผลลึกให้อีกหลายคน

    แสงอาทิตย์ยามเย็นทอประกายสีทองอ่อนไล้ไปตามยอดไม้ สาดกระทบลงมาในสวนหลังบ้านที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีสันแห่งมวลบุปผชาติ กลีบดอกคาเมเลียสีขาวนวลและสีชมพูอ่อนบานสะพรั่ง หยาดน้ำค้างที่เกาะตามกลีบดอกสะท้อนแสงเป็นประกายพราวระยับราวกับอัญมณีที่ธรรมชาติบรรจงรังสรรค์เสียงฝีเท้าแผ่วเบาดังขึ้นบนทางเดินก้อนกรวด ดวงตากลมโตเบิกบานสดใส พิมพิศาเดินนำหน้าชายหนุ่มผู้เป็นสามีอย่างกระตือรือร้น เมื่อเห็นว่าคนข้างหลังมัวแต่โอ้เอ้ก็เอ่ยเร่ง “คุณอิฐ เดินเร็วๆ สิคะ”อิษวัติที่สวมเสื้อเชิ้ตสบาย ๆ ก้าวไปข้างหน้าตามคำสั่ง สายตาคมทอดมองไปยังทุ่งดอกคาเมเลียที่บานสะพรั่งอยู่เต็มสวน กลีบดอกสีขาวนวลพลิ้วไหวตามแรงลมราวกับเต้นระบำ กลิ่นหอมจาง ๆ ลอยมา กระทบจมูกชวนให้รู้สึกสงบอย่างน่าประหลาดใจ“สวยมากครับ” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยชม นัยน์ตาสะท้อนภาพความงดงามของทุ่งดอกคาเมเลียที่บานสะพรั่ง แต่เมื่อเหลือบมองไปยังคนข้างกาย เขาก็พบว่าสิ่งที่สวยที่สุดในตอนนี้คือเธอพิมพิศาโอ้อวดฝีมือของตัวเองท่ามกลางหมู่มวลดอกไม้ สายลมเอื่อยพัดปลายผมของเธอจนปลิวสยายไปด้านหลัง แก้มขาวเนียนเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อจากแสงอาทิตย์ยามอัสดง องค์ประกอบทั้งหมดส่งเส

  • แผนร้ายพ่ายบ่วงรัก   บทที่ 28 ต่างคนต่างอยู่

    แพรลดานั่งอยู่หน้ากระจกเงาในห้องนอน ดวงตาเรียวสวยจ้องมองภาพเงาสะท้อนของตัวเองที่ดูอิดโรยและเหนื่อยล้า เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าชีวิตแต่งงานของเธอจะมาถึงจุดนี้ได้ จุดที่เธอต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้และยอมปล่อยมือหลายเดือนที่ผ่านมาเต็มไปด้วยความอึดอัดและเจ็บปวด เธอพยายามแล้ว พยายามอย่างที่สุดเพื่อจะรักษาสถานะภรรยาเอาไว้ แต่สุดท้ายความพยายามของเธอมันไร้ค่าในสายตาเอกราช เขาไม่ได้รักเธอมาตั้งแต่ต้น ไม่ว่าเธอจะดิ้นรนแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์อีกต่อไป เธอควรยอมรับมันได้แล้ว การเดินออกจากชีวิตของเอกราชอย่างสง่างาม คงจะดีกว่าการถูกเขาไล่เหมือนหมูเหมือนหมานิ้วมือเรียวยาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแม้จะลังเลอยู่ชั่วครู่ แต่สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจกดโทรออกหาปลายสาย รอเพียงไม่นานชายหนุ่มก็ตอบรับแล้วเอ่ยว่า"มีอะไร" เสียงของเอกราชยังคงเย็นชาและห่างเหิน ไม่มีวี่แววความอ่อนโยนเหมือนดังเก่าก่อนผสมมาแม้แต่น้อย"พวกเราเจอกันหน่อยได้ไหมคะ แพรมีเรื่องจะคุยด้วย" ร่างบางสูดหายใจเข้าลึกพยายามบังคับเสียงให้ราบเรียบ ทั้งที่ความจริงแล้วก้อนสะอื้นกำลังจุกอยู่ในคอ"คุณอยากเจอผมที่ไหน" ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับมาเสียงห้วน"ร้า

  • แผนร้ายพ่ายบ่วงรัก   บทที่ 27 โกหก

    ตั้งแต่วันที่เอกราชหลุดปากขอหย่า ทุกอย่างรอบตัวก็เปลี่ยนแปลงไป บ้านที่เคยมีเสียงพูดคุยแว่วดังเป็นระยะ บัดนี้กลับเงียบสงัดราวกับป่าช้าตลอดสามเดือนที่ผ่านมา เขากับแพรลดาแยกกันอยู่คนละห้อง ประตูที่เคยเปิดรับกันและกันถูกปิดตาย ไม่มีการทักทาย ไม่มีการสบตา และไม่มีแม้แต่คำพูดสั้น ๆ ที่คู่สามีภรรยาพึงมีให้กันมื้ออาหารกลายเป็นช่วงเวลาที่น่าอึดอัดที่สุด ทั้งคู่นั่งอยู่คนละฝั่งของโต๊ะอาหารขนาดใหญ่ ทว่ากลับให้ความรู้สึกเหมือนอยู่กันคนละโลก เอกราชตักอาหารเข้าปากเงียบ ๆ สายตาจับจ้องเพียงจานข้าวตรงหน้า ไม่แม้แต่จะเหลือบมองผู้หญิงที่เคยนั่งเคียงข้าง ส่วนแพรลดาเองก็ไม่ต่างกัน เธอใช้ช้อนส้อมเขี่ยอาหารไปมาอย่างไร้จุดหมาย ความเงียบกลายเป็นเพื่อนที่อยู่กับพวกเขาในทุกช่วงเวลาบางครั้งโชคชะตาก็เล่นตลกให้ทั้งคู่เดินสวนกัน เอกราชหยุดยืนเพื่อหลีกทางให้ แต่ไม่คิดจะพูดอะไรออกมา แพรลดาเพียงปรายตามองเขา ก่อนจะสะบัดหน้าหนีแล้วเดินผ่านไปอย่างเย่อหยิ่ง ทว่าหากสังเกตดี ๆ แววตาที่ฟาดฟันกันนั้น กลับแฝงไปด้วยความเหนื่อยล้าและเจ็บปวดที่ไม่อาจเอ่ยออกมาได้ความเงียบงันอันยาวนานคล้ายกับเป็นบทลงโทษของพวกเขาทั้งคู่ ทุกคืนต้

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status