บทที่ 2 พรนั้นสัมฤทธิ์ผล
ธันวาเกาศีรษะแกรก ๆ แล้วยื่นมือไปตบบ่าเพื่อนเบา ๆ เป็นการขอโทษเพื่อน ปกป้องคงคิดว่าเขากำลังแกล้งหรือล้อเลียนเรื่องแฟนเก่าอยู่แน่เลย "กูขอโทษนะ กูคงจะตาฝาดไปจริง ๆ นั่นแหละ"
"ตลกตายแหละ"
"แฮ่ ๆ"
"ไปแล้ว"
"เออ ๆ เดี๋ยวกูไปส่ง" ว่าจบธันวาก็ดันตัวเพื่อนรักขึ้นรถแล้วขับไปส่งเขายังจุดที่ผู้ใหญ่นวยมารับ พอมาถึงธันวาก็รีบเข้าไปสวมกอดผู้ใหญ่ไว้ด้วยความคิดถึง
"สวัสดีครับพ่อ"
"คุณธันวาไม่ได้จะขึ้นดอยกับคุณป้องเหรอครับ"
"ครั้งนี้พักก่อนครับพ่อ แล้วนี่พ่อมารอปกป้องนานแล้วเหรอครับ"
"อ๋อ ไม่นานเลยครับ พอดีพาครูอาสาคนใหม่มาซื้อของด้วยน่ะ"
"อ๋อ.."
"งั้นผมเอาของพวกนี้ขึ้นรถรอเลยนะครับ" ปกป้องยิ้มให้เพื่อนแล้วเชิดหน้าไปที่กองสิ่งของที่อยู่ท้ายรถ ธันวาเดินกระฟัดกระเฟียดมายกของขึ้นรถช่วยเพื่อนจนเสร็จ เวลาผ่านไปยี่สิบกว่านาทีที่ทุกคนยืนรอครูอาสาคนใหม่
"เลยเวลาแล้ว กูต้องไปแล้วนะ" ธันวาสวมกอดเพื่อนรักแล้วหันมายกมือไหว้ลาผู้ใหญ่นวย ก่อนจะขับรถออกไปแต่เขากลับเห็นภาพหลอนอีก ธันวาหันขวับไปมองผู้หญิงคนหนึ่งที่หน้าคล้ายญาณินที่กำลังถือของพะรุงพะรังเดินสวนทางมาแต่ก็ไม่ได้จอดรถดูให้แน่ใจเพราะมีรถชาวบ้านขับตามหลังมา "ผีหลอกกูไหมเนี่ย อาถรรพ์อะไรไหมวะ.."
"อ้าวครูนินมาพอดีเลย" ปกป้องที่กำลังจัดระเบียบของอยู่ท้ายรถละมือแล้วหันกลับมามองต้นทางของเสียง เขานิ่งงันไปขณะหนึ่ง เหมือนทุกอย่างหยุดเคลื่อนไหวและมีเพียงเขาและเธอ ญาณินยืนนิ่งเหมือนกัน เธอสะดุดลมหายใจตัวเองจนเผลอปล่อยของในมือลงพื้น
"…" หัวใจแกร่งเต้นแรงระส่ำ
'ก็ถ้ามีมันก็ดีสิ ถ้าบนดอยมีเธอกูจะไม่ลงมาเลย'
'กูยังลืมนินไม่ได้ว่ะ…หากขอพรได้กูอยากกลับไปรักนินอีก กูสัญญาจะรักษานินไว้ด้วยชีวิต'
จู่ ๆ คำพูดเขาก็ดังก้องขึ้นมาอย่างหาสาเหตุไม่ได้
"ครูป้องครับ ครู.." ผู้ใหญ่นวยยื่นมือมาสะกิดแขนปกป้องเพื่อเรียกสติเขา
"ครับ" ชายหนุ่มกะพริบตาแล้วหันเหความสนใจมาที่ผู้ใหญ่บ้าน "เรียกผมเหรอครับ"
"ครับ ผมเห็นครูป้องนิ่งไปเลยเรียก อ๋อ.. นี่ครับ นี่ครูญาณิน" ผู้ใหญ่นวยถือโอกาสแนะนำครูสาวคนใหม่ให้ปกป้องรู้จักทันที แต่เขาจะรู้ไหมว่าปกป้องรู้จักเธอดีกว่าใคร
"อ๋อ.. สวัสดี ผมปกป้อง" ปกป้องแนะนำตัวเองแล้วกระโดดลงจากท้ายกระบะ ญาณินยังยืนนิ่งเพราะทำอะไรไม่ถูก มือไม้สั่นเทาเพราะคำพูดตัวเองกำลังฉายวนอยู่ซ้ำ ๆ ในหัว จนกระทั่งปกป้องเดินเข้ามายืนตรงหน้า "ไม่เจอกันนานเลยนะ"
"อะ.. อืม"
"ไม่ยักรู้ว่าอยากมาทำงานจิตอาสาแบบนี้ด้วย เห็นแต่.. เดินห้างกับเที่ยว"
"แล้วนายยุ่งอะไรด้วยล่ะ" ญาณินมองเขาตาขวางแล้วหอบของพะรุงพะรังไปขึ้นรถ
"อ่า… ปากหนอปาก ปากหมาอีกแล้วกู" เมื่อรู้ตัวว่าพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกไปจึงตีปากตัวเองเบา ๆ เป็นการลงโทษแล้ววิ่งไปหาญาณินเพื่อช่วยเธอขนของขึ้นรถจนเสร็จเรียบร้อย
"มานั่งด้วยกันเถอะครับ วันนี้แดดร้อนมาก ครูนินตัวเล็ก ๆ ครูป้องน่าจะนั่งด้วยกันได้นะครับ"
"ครับผู้ใหญ่"
ญาณินก้มมองเบาะที่นั่งก่อนจะหันกลับมามองปกป้องซึ่งเขากำลังเชิดหน้าไปที่เบาะรถเป็นการบอกเธอว่าให้เข้าไปนั่งได้แล้ว
"นินจะนั่งหลังกระบะเองค่ะ" ญาณินทำท่าจะเดินไปท้ายกระเป๋าแต่กลับถูกปกป้องรั้งแขนเอาไว้ เธอรีบสะบัดมือเขาออกแล้วหันมาเผชิญหน้าตรง ๆ
"เข้าไปนั่งในรถเถอะ เดี๋ยวฉันนั่งท้ายกระบะเอง" ว่าจบปกป้องก็กระโดดขึ้นท้ายกระบะเพราะจะได้ดูแลของด้วย คนตัวเล็กเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่นแล้วก้าวเข้ามานั่งในรถ หัวใจดวงน้อยกระหน่ำเต้นไม่เป็นจังหวะจนต้องยกมือขึ้นมากุมหน้าอกข้างซ้ายไว้
'หากการเจอกันครั้งนี้เป็นโอกาสที่ฟ้าประทานมา งั้นผมจะเก็บรักษาโอกาสนี้ไว้เป็นอย่างดี'
ปกป้องเอี้ยวหน้ากลับไปมองญาณินอย่างยิ้ม ๆ แต่ในนาทีต่อมาญาณินก็เอี้ยวหน้ากลับไปมองเขาเหมือนกัน เธอสะดุ้งเล็กน้อยที่เห็นปกป้องกำลังมองอยู่จึงรีบหันกลับ
'ให้ตายสิ การเจอกันมันก็ดีอยู่หรอก แต่ทำไมต้องเจอกันในที่แบบนี้…'
เกือบสองชั่วโมงที่ผู้ใหญ่นวยพาสองหนุ่มสาวขึ้นมายังหมู่บ้าน แต่จู่ ๆ รถก็ดับอยู่กลางหุบเขาทั้งที่ไม่กี่กิโลเมตรก็ถึงหมู่บ้านแล้ว ด้วยความเป็นช่างอยู่แล้วปกป้องจึงลงไปเปิดฝากระโปรงรถดู เขาพอจะรู้สาเหตุแล้วว่าทำไมรถถึงดับ เพราะงั้นจึงเดินอ้อมมาหาญาณินแล้ววางมือค้ำประตูรถไว้พร้อมก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่อจะถามเธอ
"คิดว่าเดินไหวไหม" เขาเอ่ยถามหญิงสาวเสียงเรียบ
"ทำไมเหรอ รถเป็นอะไร" แต่แทนที่จะตอบกลับญาณินกลับถามเขาแทน ปกป้องพ่นลมหายใจออกแล้วถามเธออีก
"เดินไหวไหม"
"…" เธอมองทางข้างหน้าอย่างพิจารณาก่อนจะพยักหน้าให้คำตอบปกป้อง "ก็ไหว.." ทันทีที่ได้คำตอบปกป้องก็เปิดประตูรถให้เธอเลย ญาณินทำหน้ามึนงงแต่ก็ก้าวลงจากรถ
"รถหม้อน้ำรั่ว ถ้าซ่อมก็คงเป็นพรุ่งนี้ถึงจะขับได้ ผู้ใหญ่โอเคใช่ไหมครับ เดินไหวนะ" ญาณินกำลังจะพูดแต่เขากลับหันไปสนใจผู้ใหญ่นวยเสียก่อน เธอจึงปิดปากเงียบ
"โอเคมากเลยครูป้อง ว่าแต่สองคนนี้รู้จักกันมาก่อนเหรอครับ ทำไมเหมือนสนิทกันจัง?" ชายหนุ่มหรี่ตามองคนตัวเล็กแล้วยกยิ้มมุมปาก
"รู้จะ.."
"ไม่รู้ค่ะ" ญาณินแย่งตอบแล้วเดินกระแทกไหล่เขาไป เธอสะพายกระเป๋าคู่กายเดินไปเรื่อย ๆ
"ครับ ตามนั้น" ปกป้องยิ้มให้ผู้ใหญ่นวยแล้วเดินตามหลังญาณินไปติด ๆ "จากนี้ไปถึงหมู่บ้านก็สามกิโลเมตรได้ ไหวแน่นะ"
"ไหวดิ ฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น" ญาณินตอบกลับแบบไม่หันมามองหน้าปกป้อง
"อืม แบบนั้นก็ดี" ว่าจบชายหนุ่มก็เดินนำไปก่อนเลยไม่เห็นว่าอีกฝ่ายเบ้ปากใส่
หลายนาทีที่สามคนเดินมาทั้งแดดก็ร้อนขึ้นเรื่อย ๆ แม้ลมก็ยังไม่พัดมาเลย ปกป้องเปิดขวดน้ำดื่มดับกระหายแล้วหยุดเดินกะทันหันจนคนที่ตั้งหน้าเดินตามหลังมายั้งเท้าไม่ทัน ญาณินกระแทกหลังปกป้องจนเซไปด้านหลังแต่ด้วยความไวปกป้องจึงคว้าเอวคอดไว้ได้ทัน
"มองทางข้างหน้าบ้าง หรือกำลังเหม่อลอยอยู่"
"ใครเหม่อ" มือเรียวบางปัดมือหนาออกจากเอวแล้วขยับออกห่างจากเขา
"นี่น้ำ" เขายื่นขวดน้ำให้ญาณินแต่เธอกลับปฏิเสธด้วยการเดินต่อ "ฮึ.." ปกป้องหัวเราะในลำคอกับความอวดดีของอีกฝ่ายแล้วเก็บขวดน้ำไว้ที่เดิม
'แม้ไม่ได้เจอกันหลายปี นิสัยใจคอเธอก็ยังเหมือนเดิม… ทำให้ภาพเหตุการณ์ในวันวานฉายเข้ามาในหัวเขาซ้ำ ๆ ทั้งภาพที่ไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นและภาพบางภาพที่สมองเขายังจดจำ'
"มาปวดอะไรตอนนี้เนี่ย.." ญาณินหยุดยืนแล้วบิดซ้ายบิดขวา ปกป้องเลิกคิ้วถามเธอแต่กลับได้เพียงความเงียบกลับมา
"ไปไหน เดี๋ยวตกเขา" มือหนาคว้าเรียวแขนเล็กไว้
"ปวดฉี่.."
"… อืม" เขาไม่ยอมปล่อยมือเธอขณะที่กวาดสายตามองไปรอบ ๆ "ตรงนั้น ระวังด้วย" ญาณินสะบัดมือเขาออกแล้วเดินไปทำธุระส่วนตัวตรงที่ปกป้องชี้ให้มา ทั้งอายทั้งปวดฉี่ เธอเลือกไม่ได้จริง ๆ ปกป้องหันหลังให้เธอและยืนรออยู่พักหนึ่งในขณะที่ผู้ใหญ่นวยล่วงหน้าไปก่อนแล้ว "เสร็จหรือยัง"
"เสร็จแล้ว" ญาณินเดินออกมาพลางเกาหางคิ้วเบา ๆ เพราะความเขิน
"กางเกง" ปกป้องพูดขึ้นโดยไม่หันมาสบตากับตัวเล็ก
"ทำไม"
"ลืมรูดซิป"
"โอ๊ะ!"
"ยังขี้ลืมเหมือนเดิมสินะ"
"ยุ่ง!"
"ฮึ.."
ตอนพิเศษ 2หลังจากประกวดกระทงสวยกันไปแล้วทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้านก่อน เพราะมีนัดกันอีกทีตอนหนึ่งทุ่มที่บ้านบดินทร์ ปกป้องอุ้มลูกชายตัวน้อยเดินเข้ามาในห้องนอนใหญ่โดยที่เป็นหนึ่งยังตาใสแป๋วไม่ได้มีทีท่าว่าจะง่วงนอนง่าย ๆ“ลูกครับผม เราจะได้ไปลอยกระทงกับพวกป๊า ๆ ไหมเนี่ย ไม่ใช่หนูไปงอแงที่วัดนะครับ” พวกเขานัดกันไว้ว่าจะไปลอยกระทงที่งานวัดใกล้ ๆ บ้านนี้เพราะที่นั่นจัดงานค่อนข้างใหญ่โตและหมายจะพากันเดินหาของกินด้วย “หนูคงไปกับป่าป๊าไม่ได้นะครับผม หนูต้องอยู่กับยายไปก่อนโอเคไหมครับหนุ่มน้อย” ปกป้องนั่งทำสัญญากับลูกน้องอยู่บนเตียงในขณะที่ญาณินกำลังเตรียมชุดที่จะสวมใส่ไปงานลอยกระทงคืนนี้“ติดสินบนอะไรลูกหรือเปล่าคะเนี่ย” เธอเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มสดใสที่เห็นเป็นหนึ่งและพ่อของเขานั่งคุยกันราวกับรู้เรื่องว่าพ่อขออะไร“ลูกบอกว่าจะยอมให้เราสองคนไปเที่ยวครับ”“ถามจริง ลูกยังพูดไม่ได้เลยนะป้อง คิดเองเออเองไปเรื่อย” ปกป้องทำตาโตแล้วชี้ไปที่มือลูกชายซึ่งเป็นหนึ่งกำลังกำนิ้วชี้เขาอยู่“ดูนี้ก่อน ป้องถามลูกว่าถ้าอยากให้พ่อกับแม่ไปให้หนูจับมือพ่อนะครับ” ญาณินหรี่ตามองคนรักแล้วยื่นหน้าไปหอมแก้มเป็นหนึ่งฟอดให
ตอนพิเศษ1หลายเดือนต่อมา"ไอ้เชี่ยป้องมึงตัดดี ๆ ดิวะเดี๋ยวแม่ป่านก็มาเฉ่งกูอีก" ปรินที่กำลังประคองต้นกล้วยอยู่ด้านข้างปกป้องซึ่งเขารับบทเป็นคนตัดต้นกล้วยเอง สืบเรื่องมาจากศรีภรรยาพวกเขาอยากจะทำกระทงกันเองเลยลำบากต้องมาตัดต้นกล้วยหลังบ้านบดินทร์ไปให้ทำกระทงกัน"เออน่า! อย่าบ่นได้ไหมเล่า กูก็ตั้งใจเล็งอยู่เนี่ย" ปกป้องตอบกลับหน้าเครียดก่อนที่จะยิ้มแล้วเล็งมีดไปที่โคนต้นแล้วตักฉับครั้งเดียวขาด ปรินแหกปากร้องลั่นเพราะต้นกล้วยพาเขาล้มลงไปด้วยน่ะสิ ปกป้องระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่นจนบดินทร์กับโอโซนต้องวิ่งมาดู"เอ้า! ฮ่า ๆ" สองหนุ่มก็หัวเราะดังลั่นเหมือนกัน เมื่อหัวเราะเป็นที่พอใจแล้วค่อยไปพยุงตัวเพื่อนลุกขึ้น "ไอ้ห่า ร้องเหมือนคนกำลังจะตายนะมึง""ก็กูไม่ทันตั้งตัวนี่หว่า ใครจะไปรู้ว่าไอ้ป้องแรงดีฉิบหาย ตัดรอบเดียวขาดเลย" ยิ่งปรินบอกแบบนั้นบดินทร์กับโอโซนก็ยิ่งขำกันใหญ่"เอ้อ… ไปเร็ว เดี๋ยวได้เอาต้นกล้วยไปหั่นอีก" ปรินทำหน้าบึ้งแล้วลากต้นกล้วยออกมา พวกเขาจัดการหั่นต้นกล้วยให้เป็นแว่น ๆ พอดีกับที่จะเอาไปเป็นฐานกระทง ส่วนธันวากับขุนเขาช่วยกันกรีดใบตองอย่างละเมียดละไมด้วยกลัวมันจะแตกแล้วเสียหาย
บทที่ 71 ตอนจบเช้าวันต่อมาปกป้องยืนทำอาหารเช้าอยู่ในห้องครัวของทางบ้านพักซึ่งเขาได้ออกไปซื้อของมาทำอาหารตั้งแต่เช้ามืดกะเอาไว้เซอร์ไพรส์คนที่ยังนอนหมดแรงอยู่บนเตียง เขาใช้เวลาที่แสนมีความสุขนี้ทำอะไรดี ๆ ให้คนรักพร้อมกับสร้างความทรงจำดี ๆ ให้ญาณินด้วย"กลิ่นหอมเข้าไปในห้องนอนเลย ไม่ทราบว่าคุณพ่อบ้านทำอะไรกินเหรอคะ" เธอเดินเข้าไปยืนตรงหน้าเคาน์เตอร์แล้วเท้าคางมองหน้าคนรักซึ่งกำลังทำอาหารอย่างคล่องมือเลย ปกป้องหันมาส่งยิ้มให้"ทำข้าวต้มทะเลครับ ของโปรดใครนะ..""ของโปรดป้องนั่นแหละ" ญาณินยิ้มกรุ้มกริ่มแล้วเดินอ้อมเคาน์เตอร์ไปหาเขา มือเรียวบางยกขึ้นไปลูบแก้มขาวเนียนไร้ไรขนอ่อนเบา ๆ "พรุ่งนี้เราก็ต้องกลับไปแล้วเหรอคะ""ครับ เอาไว้จะพามาเที่ยวอีกนะ""สัญญาก่อนสิ" เธอยกนิ้วก้อยขึ้นมาเกี่ยวกับแฟนหนุ่ม ปกป้องรั้งร่างบางมากอดไว้แนบแน่นพร้อมกับหอมศีรษะญาณินฟอดใหญ่"สัญญาครับคนสวย" เขาคลี่ยิ้มหวานส่งให้เธอแล้วทำข้าวต้มต่อจนเสร็จ ญาณินถูกดันตัวออกมาจากห้องครัวให้ไปนั่งรอที่โต๊ะอาหาร ไม่นานข้าวต้มทะเลหอม ๆ ก็มาเสิร์ฟพร้อมกับเครื่องเคียงสองอย่าง"ทานให้อร่อยนะครับคนสวย ให้สมกับที่เสียพลังงานไปเยอะ
บทที่ 70 ฮันนีมูนหลังจากจบงานเลี้ยงเล็ก ๆ ภายในครอบครัวแล้วทั้งญาณินกับปกป้องก็วางแผนกันไว้ว่าจะไปฮันนีมูนที่ทะเลทางภาคใต้มีผู้สนับสนุนหลักคือพี่ปลาผู้ใจดีจองที่พักไว้ให้สำหรับการฮันนีมูนครั้งนี้"คิดถึงอ้วนนะคะ ถ้าอ้วนมาด้วยคงดี" ญาณินย่นหัวคิ้วเข้าหากันแล้วหยิบผ้าอ้อมลูกชายที่เธอแอบพับใส่กระเป๋าขึ้นมาดมกลิ่นลูกพอให้หายคิดถึงบ้าง ปกป้องยกยิ้มแล้วเดินมาโอบไหล่ภรรยาคนสวยไว้"ไม่ต้องห่วงอ้วนหรอกครับ คยเลี้ยงเยอะแยะเลย… เราสองคนจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันไง""แต่ถ้ามีลูกมาด้วยก็คงดี""เอาไว้ครั้งหน้านะครับ ป้องจะพามาเที่ยวเองเลย" ปกป้องเลื่อนใบหน้าเข้าไปหอมแก้มญาณินแล้วเดินไปเปิดม่านรับแสงในยามเย็น เสียงคลื่นทะเลซัดชายฝั่งและกลิ่นหอมของน้ำทะเลทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายมาก ๆ"เย็นนี้เราไปกินข้าวที่ไหนดีคะ" เธอสวมกอดเอวสอบไว้หลวม ๆ แล้วเกยคางไว้ที่สีข้างปกป้อง ออดอ้อนเขาและฝ่ามือเรียวบางก็ไม่อยู่นิ่ง ลูบไล้ซิกแพคเขาวนไปมาเบา ๆ จนปกป้องต้องรีบห้ามปรามไว้"อย่าเล่น เดี๋ยวจะได้กินอย่างอื่นก่อนข้าวนะคะคนสวย""ค่ะ…" ญาณินยิ้มกรุ้มกริ่มแล้วเดินออกไปรับลมที่ชายหาด เธออ้าแขนออกกว้างและหลับตารับสัมผัสของลม
บทที่ 69 ความสุขมันเป็นวันที่เขารอคอยมานานแสนนาน ในที่สุดเขาก็ได้ทำในสิ่งที่ลูกผู้ชายคนหนึ่งควรทำ ปกป้องมองแหวนแต่งงานที่สวมอยู่บนนิ้วนางข้างซ้ายของญาณินด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขจนเอ่อล้นออกมาเป็นหยาดน้ำตาใส ๆ หยดลงอาบแก้มเขา“ไม่เอาไม่ร้องไห้นะคะ” ญาณินรีบเช็ดน้ำตาให้ปกป้องทันที “นินว่าเรามาคุยเรื่องแต่งงานกันดีกว่าค่ะ”“นินอยากได้แบบไหนป้องตามใจนินเลยครับ”“นินไม่อยากจัดงานเอิกเกริกค่ะ เชิญแค่ญาติที่สนิทและเพื่อนของป้องก็พอ แลกแหวนกันก็พอค่ะเพราะจัดงานไปมันก็สิ้นเปลืองเปล่า ๆ อีกอย่าง... จะหาว่านินงกก็ได้นะ เพราะนินห่วงอนาคตของอ้วนมากกว่า ยุคนี้อะไรก็ไม่แน่นอน” ปกป้องฟังแล้วอมยิ้มจนตาหยีก่อนที่จะรั้งตัวแฟนสาวเข้ามาหอมแก้มฟอดใหญ่“เอาตามที่นินสะดวกเลยครับ แล้วดี๋ยวเราไปเชิญแขกด้วยกันนะ”“ค่ะ” เธอคลี่ยิ้มหวานพลางกอดช่อดอกไม้ไว้แนบแน่นด้วยความดีใจ “ไม่คิดเลยว่าจะได้ถูกขอแต่งงานแบบนี้ จริง ๆ นินว่าจะคุยเรื่องนี้กับป้องอยู่เหมือนกัน แต่เพราะยุ่งกับลูกเลยไม่ได้มีโอกาสคุยกันสักที“ป้องเข้าใจ เราสองคนเลี้ยงอ้วนด้วยตัวเอง เหนื่อยมาด้วยกัน ป้องเองก็อยากทำอะไรให้มันถูกต้องสักที"“จดทะเบียนสมรสด
บทที่ 68 แต่งงานกันนะสองเดือนต่อมาปกป้องนั่งทำหน้าเครียดอยู่กับเพื่อนในกลุ่มขณะที่ปรินกำลังเล่นเกมอยู่ก็พูดขึ้นมาว่า “มึงก็ทำใจกล้าหน่อยดิวะเพื่อน กูว่าผู้หญิงเขาก็อยากถูกขอแต่งงานนั่นแหละ”“กูไม่ได้ไม่กล้าที่จะขอนินแต่งงานนะเว้ย แต่กูกำลังคิดว่าจะขอยังไงให้โรแมนติกดี” โอโซนยิ้มมุมปากแล้วเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ“ดูอย่างกูกับเนสสิ โรแมนติกไหมมึงว่า”“สุด ๆ อะมึงกับกาเนสขอแต่งงานกันได้โรแมนติกสุดแล้ว” ปกป้องตอบกลับทันทีแล้วหันไปมองหน้าธันวาที่ทำเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง “มีไอเดียไรแนะนำไหมครับประธานคนหล่อ”“เอาจริงไหม กูไม่มีไอเดียไรเลยตอนนี้ ในสมองกูมีแต่งานเต็มไปหมด เหนื่อยฉิบหายเลย”“เอ้อ.. ค่อย ๆ คิดก็ได้มึง แต่กูว่าจะพานินไปกินข้าวแล้วขอเธอแต่งงาน แบบนี้ดีไหมวะ” ปกป้องเอ่ยถามเพื่อน“แบบไหนก็ดีหมดนั่นแหละ ขอแค่เราทำมันออกมาด้วยใจจริงก็พอแล้ว กับผู้หญิงบางคนเขาอาจไม่ได้ต้องการความใหญ่โตเอิกเกริกก็ได้นะ แบบเรียบง่ายแต่อบอวลไปด้วยความรักแบบนี้” บดินทร์ที่นั่งฟังมานานก็เอ่ยขึ้น คำพูดเขาสามารถเรียกความสนใจจากเพื่อนทุกคนให้หันมาจ้องเขาได้แล้วปรินก็ปรบมือเสียงดัง“MVP ไปเลยครับพี่ดินคนหล่อ มาเห