ตอนที่ 3 แมวน้อยน่าสงสาร
ธานินทร์จัดการเรื่องโรงเรียนที่ใหม่ของน้ำหนึ่งเสร็จอย่างรวดเร็ว เช้าวันนี้น้ำหนึ่งเริ่มไปโรงเรียนที่ใหม่วันแรก บ้านใหม่ โรงเรียนใหม่ คุณครูใหม่ เพื่อนๆที่โรงเรียนก็ใหม่ ชีวิตของเธอพลิกผัน สภาพแวดล้อมรอบตัวของน้ำหนึ่งใหม่ทั้งหมด ทำให้เธอรู้สึกเหงา และโดดเดี่ยวมาก น้ำหนึ่งยังคงต้องใช้เวลาปรับตัวอีกสักพัก และแน่นอนว่าวันนี้เวลานี้เธอยังคงปรับตัวกับสิ่งที่รู้สึกอยู่ตอนนี้ไม่ได้อย่างแน่นอน
หลังเลิกเรียนน้ำหนึ่งลงจากรถรับส่งนักเรียน เธอกำลังเดินเข้าบ้านบังเอิญสายตาเหลือบไปเห็นลูกแมวตัวเล็กเดินอยู่ตัวเดียว เหมือนมีคนเอามันมาปล่อยทิ้งไว้ จะไม่สนใจก็เป็นห่วงมัน น่าจะโดนรถทับตายวันนี้แน่ น้ำหนึ่งจึงตัดสินใจอุ้มลูกแมวตัวนี้กลับเข้าไปในบ้านด้วย
"คุณหนู...แมวใครคะนั่น" เสียงพี่ชบาเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงคล้ายกับว่ากลัวใครจะมาได้ยินเข้า
"หนึ่งเจอมันที่ถนนทางเข้าหน้าบ้านเราค่ะ มันน่าสงสารเหมือนหนึ่งเลย" ลูกแมวตัวเล็กไม่มีทั้งพ่อและแม่ เดินเคว้งคว้างอยู่ตัวเดียว
"สงสารยังไงก็เอามาเลี้ยงที่บ้านหลังนี้ไม่ได้นะคะ คุณนินไม่ให้เลี้ยงสัตว์ทุกชนิดค่ะ" น้ำหนึ่งมีสีหน้าเจื่อนไปทันทีอย่างเห็นได้ชัด
"แต่หนึ่งสงสารมัน นะคะป้าแก้ว นะคะพี่ชบา หนึ่งอยากเลี้ยงมันค่ะ" ป้าแก้วกับชบามองหน้ากัน...
"ถ้าอย่างนั้นคุณหนูลองไปขออนุญาตคุณนินก่อนดีกว่ามั้ยคะ" พี่ชบาแนะนำ แต่น้ำหนึ่งกลับไม่กล้า ที่จะเข้าไปขออนุญาต
"หนึ่งขอเลี้ยงมันแค่สามวันก็ได้" น้ำหนึ่งต่อรอง...ขอเก็บลูกแมวตัวนี้ไว้คุยเล่นแก้เหงาสักสามวันก็ยังดี
"คุณหนู...จะดีเหรอคะ"
"นะคะป้า นะคะพี่ชบา" น้ำหนึ่งอ้อน สีหน้าน่าสงสาร
"สามวันแน่นะคะ" เป็นเสียงของป้าแก้ว ทุกคนที่ได้เห็นใบหน้าของน้ำหนึ่งตอนนี้เป็นใครก็ต้องสงสารกันทั้งนั้น ความสุขเล็กๆน้อยๆของเด็กที่เพิ่งจะเสียคุณพ่อไป ทุกคนจึงยอมช่วยคุณหนูปกปิด
"แน่ค่ะ"
"เอาแมวตัวนี้ส่งมาให้พี่ชบาก่อนค่ะ ใกล้จะได้เวลาเข้าห้องฟิตเนสแล้วนะคะ" มาถึงยังไม่ทันไร น้ำหนึ่งก็ต้องเข้าห้องฟิตเนสไปออกกำลังกายตามคำสั่งที่คุณอาได้บอกเอาไว้
"คุณอากลับมาแล้วเหรอคะ" พี่ชบาพยักหน้าให้เป็นคำตอบ ส่วนน้ำหนึ่งกลับคิดในใจว่า...ทำไมกลับมาเร็วจัง!
"เข้าไปออกกำลังกายได้สักพักแล้วค่ะ คุณหนูรีบไปเปลี่ยนชุดเถอะค่ะ"
"หนึ่งฝากเจ้า...เจ้า...เจ้าข้าวกล้องด้วยนะคะ" น้ำหนึ่งตั้งชื่อให้ลูกแมวตัวที่อุ้มอยู่ ก่อนที่จะส่งให้พี่ชบาเอาไปช่วยดูแลให้
"รีบไปค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงแมว" น้ำหนึ่งเดินคอตกขึ้นชั้นบนไปเปลี่ยนชุด เพื่อที่จะไปออกกำลังกายตามคำสั่งของคุณอา
"ป้าจ๊ะ...เจ้าลูกแมวตัวนี้กับคุณหนูหนึ่งจะรอดมั้ยจ๊ะ" ชบาหันไปถามป้าแก้ว
"ข้าก็ไม่รู้ เอาไปเลี้ยงหลังบ้านเลย ห้ามให้เสียงร้องของมันดังเข้าหูคุณนินเด็ดขาด" ชบารีบหาอาหารให้ลูกแมวกินให้อิ่ม อิ่มแล้วจะได้ไม่ส่งเสียงร้อง
@ห้องฟิตเนส
"ให้ไว...เลยเวลาไปห้านาทีแล้ว" เสียงเข้มๆของคุณอาพูดขึ้นทันทีที่น้ำหนึ่งเดินเข้าไปในห้องฟิตเนส ซึ่งตอนนี้คุณอาหนุ่มกำลังยกดัมเบลโชว์กล้ามอยู่ ณ ตอนนี้ เขาสวมเสื้อกล้ามเนื้อตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อ
"ทำไมต้องบังคับด้วย" น้ำหนึ่งบ่นมุบมิบเบาๆได้ยินคนเดียว
"อยากเล่นเครื่องไหนตามสบายเลยนะ" เครื่องออกกำลังกายในห้องนี้มีให้เลือกเยอะแยะมากมาย แต่ละเครื่องราคาคงไม่เบาอย่างแน่นอน แต่สำหรับน้ำหนึ่งเธอไม่ได้สนใจเลยสักนิด ที่บ้านของเธอก็มีเยอะแยะแบบนี้ คุณพ่อของเธอชอบออกกำลังกายเป็นประจำเหมือนคุณอาเลย เครื่องเล่นแต่ละชนิดเธอพอได้สัมผัสมันมาบ้าง วิธีเล่นเธอก็พอรู้มาบ้างแต่ไม่ได้ถึงกับเชี่ยวชาญหรอก แค่เคยนั่งดูคุณพ่อเล่น
"ไม่เห็นจะอยากเล่นเครื่องไหนสักอัน เฮ่อ..." ถอนหายใจดังเฮือกแล้วเดินไปที่ลู่วิ่งตัวใหญ่...น่าจะเบาแรงที่สุด เธอคิดเอาเอง
"ก่อนขึ้นเครื่องวอร์มร่างกายก่อนสักห้านาที" เสียงของคุณอาดังเข้าหู น้ำหนึ่งเคยถูกเลี้ยงมาแบบตามใจมาตลอดเริ่มรู้สึกอึดอัดและเบื่อ แต่เธอก็ยอมวอร์มร่างกายตามที่คุณอาบอก โดยไม่ได้หันหน้าไปมองเขาเลยสักนิด
"ขึ้นได้แล้ว" เสียงของคุณอาดังเข้าหูอีกครั้ง เธอเลือกเดินสบายๆ อยู่นานสองนาน จนคุณอาหนุ่มที่กำลังยกดัมเบลอยู่ส่ายหน้าเบาๆแล้วพูดขึ้นว่า...
"ปรับความเร็วอีกหน่อย" น้ำหนึ่งได้ยินดังนั้นก็ยอมปรับให้แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป คิดในใจว่าเมื่อไหร่จะหมดเวลาสักที
"หลังตรง สายตามองไปข้างหน้า" เสียงของคุณอาที่ดังอยู่ข้างหลังทำให้น้ำหนึ่งหน้าบึ้งตึงในแบบเซ็งๆ
หลังจากออกกำลังกายเสร็จ น้ำหนึ่งก็รีบวิ่งขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่แล้วลงมานั่งเล่นกับเจ้าข้าวกล้องที่ฝากให้พี่ชบาดูไว้ให้
"ข้าวกล้อง...แกปลอบใจฉันหน่อยสิ ไปเรียนก็เหนื่อยจะแย่ กลับมายังต้องมาออกกำลังกายอีก คอยดูเถอะเย็นนี้ฉันจะกินข้าวสามจานเลยคอยดู" น้ำหนึ่งนั่งลูบศีรษะข้าวกล้องพลางพูดกับมันไปเรื่อยๆคล้ายกับอยากหาเพื่อนคุย
"พี่ชบาเอาอะไรให้แกกินเนี่ย อิ่มแล้วหลับสบายเลยนะ" ในขณะที่น้ำหนึ่งกำลังนั่งคุยกับเจ้าข้าวกล้องไปเรื่อยๆเสียงพี่ชบาก็ดังขึ้น คล้ายกับส่งสัญญาณ
"คุณหนู...คุณนินมาแล้วค่ะ"
"มาเร็วจังยังไม่ถึงเวลามื้อเย็นเลย"
"ถ้าเขาเสร็จเร็วเขาจะมาก่อนเวลาค่ะ กินอิ่มแล้วป้าแก้วกับพี่จะได้พักผ่อนเร็ว แต่จะไม่มาช้ากว่าเวลาที่ตั้งไว้ค่ะ" สิ่งที่ธานินทร์ทำมันคือการเห็นอกเห็นใจ ถ้าเจ้านายอิ่มเร็ว คนงานในบ้านที่มีหน้าที่เก็บล้างก็จะได้พักผ่อนได้เร็ว ถ้าทิ้งจานชามไว้เก็บล้างตอนเช้า ในบ้านอาจจะมีสัตว์เข้ามาเช่น มด หนู แมลงสาบ ซึ่งธานินทร์ไม่ชอบเอามากๆ ลูกน้องในบ้านจึงต้องดูแลเรื่องความสะอาดในเรื่องนี้อย่างเคร่งครัด
"ไปทำอะไรในครัวมา" น้ำหนึ่งเดินออกมาจากประตูห้องครัวพอดี คำถามของคุณอาทำเอาทุกๆคนที่รู้เห็นเป็นใจหลบหน้าหลบตากันเป็นแถว
"เปล่าค่ะ" น้ำหนึ่งก้มหน้าตอบ
"นั่งลงสิ"
"ค่ะ" อาหารค่อยๆถูกยกทยอยเอาเข้ามาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ พร้อมกับตักข้าวสวยร้อนๆใส่จานให้ทั้งสองคนคุณอากับคุณหลาน ในขณะที่นั่งรับประทานอาหารกันไป คุณอาหนุ่มก็เริ่มชวนหลานสาวคุย
"วันนี้ไปโรงเรียนวันแรกเป็นยังไงบ้าง โอเคมั้ย"
"ไม่ค่อยโอเค...เท่าไหร่ค่ะ" ประโยคหลังน้ำเสียงแผ่วเบามากๆ เสียงที่เปล่งออกมาแทบจะถูกกลืนหายลงคอไป
"ค่อยๆปรับตัวไปก็แล้วกัน อาโอนเงินเข้าบัตรของโรงเรียนให้แล้วนะ ถ้าไม่พอก็มาขอเพิ่มได้ ส่วนเงินสดอาจะให้ต่างหาก" ทางโรงเรียนเวลาซื้อของจะใช้บัตรรูดเอา ส่วนเงินสดเอาไว้ใช้ด้านนอกโรงเรียน เผื่ออยากจะกินน้ำกินขนมหน้าโรงเรียนจะได้มีซื้อ
"ขอบคุณค่ะ" น้ำหนึ่งยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณคุณอา จากนั้นเธอก็นั่งทานข้าวต่อเงียบๆ ถามคำตอบคำ
ปกติแล้วน้ำหนึ่งเป็นเด็กพูดเก่ง คุยเก่ง ร่าเริง แจ่มใส แต่ตอนนี้เธอแค่ยังไม่ค่อยคุ้นชินกับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆก็เท่านั้น
ตอนที่ 45 ตอนพิเศษ/4ช่วงเย็น ธานินทร์และน้ำหนึ่ง กลับจากบริษัทก็มาแวะรับลูกๆกลับจากโรงเรียน และได้พากันไปเดินซื้อของใช้ที่ห้างสรรพสินค้าก่อนกลับบ้าน...โซนของเล่นเด็ก ซึ่งแน่นอนว่าเจ้าสองคนไม่พลาดโซนนี้อย่างแน่นอน"หม่ามี๊ครับ เหนืออยากซื้อของเล่นครับ""น้ำขิงก็ด้วยค่ะ" เสียงเล็กๆของลูกสาวและลูกชายฝาแฝด ร้องขอเสียงหวาน"ให้ซื้อได้คนละหนึ่งชิ้นค่ะ" น้ำหนึ่งอนุญาตให้ซื้อได้คนละหนึ่งชิ้นเท่านั้น เนื่องจากว่าที่บ้านมีเยอะจนไม่มีที่จะเก็บแล้ว แต่ทุกครั้งที่ได้มาที่นี่ เจ้าแฝดก็มักจะขอซื้ออีกแบบนี้เป็นประจำ"ขอบคุณครับ/ขอบคุณค่ะ" น้ำเหนือและน้ำขิงรีบวิ่งไปเลือกของเล่นชิ้นที่ตัวเองได้เล็งเอาไว้ด้วยสายตา น้ำเหนือวิ่งไปที่ไดโนเสาร์ตัวใหญ่ ส่วนน้ำขิงเลือกวิ่งไปที่ตุ๊กตาหมีตัวใหญ่มีเสียงเพลง เด็กๆทั้งสองกำลังตั้งหน้าตั้งตาเลือก เนื่องจากว่ามันมีหลายแบบหลายสีมากจนเลือกไม่ถูกสักที เวลาผ่านไปเกือบสิบนาที ลูกๆของเธอก็ยังตัดสินใจไม่ได้"ตัวนี้ก็สวย ตัวนี้ก็ชอบ" เสียงน้ำเหนือบ่นกับตัวเอง ส่วนน้ำหนึ่งเธอเริ่มยืนเท้าเอวมองลูกๆของเธอแล้ว..."ว้าว...สวยๆทั้งนั้นเลย เลือกไม่ถูกทำยังไงดี" น้ำขิงก็ด้วย..."
ตอนที่ 44 ตอนพิเศษ/3เมื่อเวลาผ่านไป...น้ำหนึ่งครบกำหนดคลอด เธอเลือกวิธีผ่าตัดคลอด เนื่องจากเด็กในท้องมีสองคน คุณหมอจึงแนะนำวิธีนี้เพื่อความปลอดภัยสามวันหลังจากวันคลอด ธานินทร์ก็ได้พาภรรยาและลูกๆของเขากลับบ้าน เจ้าฝาแฝดร้องไห้งอแงน่าจะหิวนม ส่วนน้ำหนึ่งเธอยังคงเจ็บแผลผ่าตัดอยู่ ขยับตัวได้ยังไม่ค่อยสะดวกมากนัก"ป๊าอุ้มน้ำเหนือมาให้หนึ่งก่อนค่ะ" เจ้าแฝดร้องไห้หิวนมไม่ยอมหยุด คนเป็นพ่อจึงค่อยๆช้อนตัวลูกชายอุ้มขึ้นมาให้ผู้เป็นแม่ให้นมก่อน เพราะว่าร้องเสียงดังกว่าทันใดนั้นเสียงของน้ำเหนือก็เงียบกริบลงทันที แกนอนดูดนมแม่นิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่น้ำขิงยังคงร้องไห้งอแงอยู่อย่างนั้น ธานินทร์จึงเลือกที่จะอุ้มลูกสาวขึ้นมาปลอบโยน ครั้นจะให้ดูดพร้อมกัน น้ำหนึ่งก็ยังคงเจ็บแผลอยู่มาก"อดทนหน่อยนะหนึ่ง" ธานินทร์มองไปที่ภรรยาเด็กของเขาก็นึกสงสาร อายุของเธอนิดเดียวแต่กลับต้องมานั่งเลี้ยงลูกถึงสองคน แถมยังทรมานเจ็บทั้งแผลผ่าคลอด ปวดเต้านมที่กำลังคัดอยู่ตอนนี้ส่วนช่วงกลางคืนเธอได้นอนเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น เพราะเจ้าแฝดสองคนผลัดกันหิวนมไม่ได้หยุด".........." น้ำหนึ่งไม่ได้ตอบหรือพูดอะไรกลั
ตอนที่ 43 ตอนพิเศษ/2@โรงพยาบาลเอกชนธานินทร์พาน้ำหนึ่งมาพบคุณหมอตามนัด วันนี้คุณหมอนัดอัลตร้าซาวด์ดูเรื่องเพศและการเจริญเติบโตของเจ้าแฝดในท้องตามอายุครรภ์"คุณหมอครับ ลูกผมผู้หญิงหรือผู้ชายครับ" คุณหมอกำลังอัลตร้าซาวด์อยู่ ธานินทร์ทนความอยากรู้ของตัวเองไม่ไหวจึงเอ่ยถามคุณหมอ ทันใดนั้นคุณหมอก็หันมายิ้มให้แล้วพูดว่า..."ยินดีด้วยนะครับ เด็กในท้องเป็นแฝดชายหญิงครับ การเจริญเติบโตเป็นไปตามอายุครรภ์ เด็กๆแข็งแรงดีครับ" คุณหมอเก็บอุปกรณ์ สิ่งที่คุณหมอบอก ทำให้คนเป็นพ่อและแม่หันมาส่งยิ้มให้กัน ทั้งสองดีใจมากที่ได้ลูกฝาแฝดชายหญิง คุณปู่อยากได้หลานชาย ส่วนคุณย่าอยากได้หลานสาว คงสมใจพวกท่านทั้งสองคน"ได้สองเพศเลยเหรอครับคุณหมอ" ธานินทร์ดีใจมาก เขาตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้รู้ใหม่ ไม่รู้จะพูดอะไร จึงถามคุณหมออีกครั้งเพื่อความแน่ใจ"ครับ...ยินดีด้วยอีกครั้งนะครับ" ตรวจครรภ์เสร็จรอรับยาบำรุง จากนั้นทั้งสองก็พากันกลับบ้าน...@บ้าน ธานินทร์เดินจูงมือน้ำหนึ่งเข้ามาในบ้านตามปกติ เห็นคุณพ่อกับคุณแม่นั่งรออย่างใจจดใจจ่อ พวกท่านทั้งสองกำลังรอคำตอบว่าหลานในท้องของพวกท่านเป็นหญิงหรือชาย"ยัยหนูหนึ่ง...หลานแม่
ตอนที่ 42 ตอนพิเศษ/1หลังจากที่น้ำหนึ่งเรียนจบ เธอก็แต่งงานและได้ตั้งท้องฝาแฝด เรื่องงานที่เธอจะต้องทำจึงต้องเลื่อนออกไปก่อน เพราะสามีของเธอยังไม่ยอมให้เธอเข้าบริษัทไปทำงานจนกว่าลูกจะมีอายุหนึ่งขวบเต็มในทุกๆวันคนว่างงานก็เริ่มเบื่อ เธอจึงชอบไปเซอร์ไพรส์คุณอาของเธอที่บริษัทอยู่เป็นประจำ ไปเที่ยวเล่นจนคนในบริษัทจำเธอได้หมดแล้ว"คุณหนูมาได้ยังไงครับ" ยุทธยังคงครองตำแหน่งเลขาเหมือนเดิม เอ่ยถามคุณหนูหนึ่งตามหน้าที่"พี่ยุทธ ถามอะไรคะเนี่ย หนึ่งก็ต้องนั่งรถมาสิ คุณอาล่ะคะ" ใบหน้าสวยยิ้มหวานอย่างเคย เอ่ยถามหาสามีของเธอทันที"ประชุมเพิ่งเสร็จครับ แต่บอสยังไม่ได้เดินออกมา น่าจะยังอยู่ด้านในเข้าไปได้ครับ" ยุทธผายมือไปทางห้องประชุมที่ยุทธเพิ่งเดินออกมา"ขอบคุณค่ะ" น้ำหนึ่งท้องห้าเดือน เธอเดินเร็วๆเข้าไปหาผู้เป็นสามีของเธอ ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มสดใสเหมือนอย่างเคย เข้าไปถึงไม่ได้มองซ้ายมองขวาเห็นคุณอานั่งอยู่คนเดียว เธอเดินเข้าไปทางด้านหลังแล้วลักหอมแก้มเขาฟอดใหญ่"ฟอด!""อุ้ย!" ธานินทร์ตกใจรีบหันมามอง เห็นเป็นภรรยาสุดที่รักของเขานั่นเอง รีบส่งยิ้มให้ทันที แต่ในห้องนี้ไม่ได้มีเขาคนเดียวยังมีคนอื่นอยู
ตอนที่ 41 คืนวิวาห์ ห้องหอในคืนแต่งงานถูกจัดขึ้นที่บ้านเพื่อความสะดวกสบาย หลังจากที่ผู้ใหญ่เข้ามาอวยพรตามประเพณีเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกท่านก็ขอตัวแยกย้ายกันออกไปพักผ่อน เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวในค่ำคืนนี้ก็เช่นกัน เหนื่อยล้ามาหลายวัน ในที่สุดทั้งสองก็ได้มีวันนี้"เหนื่อยมั้ย" ธานินทร์เอ่ยถามภรรยาของเขาด้วยความเป็นห่วง เนื่องจากตอนนี้เธอกำลังตั้งท้องอ่อนๆอยู่ด้วย"นิดหน่อยค่ะ" น้ำหนึ่งขี้อ้อน เธอขยับตัวเข้าไปเอาหน้าซบอยู่ที่หน้าอกของเขา เธอกอดคุณอาเอาไว้หลวมๆ ธานินทร์นั่งให้เธอกอดอยู่สักครู่ ซึ่งเขาก็กอดตอบเธอเช่นกัน"มีความสุขจังค่ะ" น้ำหนึ่งเป็นผู้หญิงขี้อ้อน ธานินทร์มองว่าเธอน่ารักมาก แต่ในเมื่อเธอตั้งท้องแล้ว เขาจึงจำเป็นต้องหักห้ามใจไว้บ้าง"คุณอาเป็นของหนึ่งแล้วนะคะ" เธอดูภูมิใจจนเขานึกขำ เขาต่างหากต้องภูมิใจที่ได้เธอเป็นภรรยา ซึ่งแน่นอนว่าเขาต้องมีความรู้สึกนั้นอยู่แล้ว"ฮึ...อาเป็นของหนึ่งตั้งนานแล้วนะ" เป็นตั้งแต่วันนั้นที่เขากับเธอตกลงปลงใจเป็นของกันและกัน ตั้งแต่วันนั้นเขาก็ไม่คิดอยากออกไปเที่ยวนอกบ้านอีกเลย"หนึ่งรักคุณอานะคะ""อาก็รักหนึ่งนะครับ""ขอบคุณนะคะ""ขอบคุณอาเรื่องอะไร
ตอนที่ 40 งานวิวาห์@งานแต่งณ โรงแรมหรูติดชายทะเลบรรยากาศดี ภายในงานช่วงเช้าถูกจัดขึ้นตามแบบประเพณีไทย แขกเหรื่อที่มาร่วมงานมีเฉพาะเพื่อนสนิทและผู้ใหญ่ทางฝ่ายเจ้าบ่าวเท่านั้นบรรยากาศช่วงเช้าถูกจัดขึ้นในห้องจัดเลี้ยงของทางโรงแรม มีพิธีสงฆ์ พิธีหลั่งน้ำสังข์ ทั้งหมดถูกจัดขึ้นในแบบเรียบง่ายเจ้าสาวแต่งชุดไทยโบราณสีขาวทั้งชุด ใบหน้าและทรงผมถูกตกแต่งโดยช่างเสริมสวยมืออาชีพ ส่วนเจ้าบ่าวสวมชุดสูทสีครีม แต่ก็ยังคงสวมแว่นตาเหมือนเดิม ทรงผมถูกตกแต่งทรงหล่อเนี๊ยบ ทั้งสองนั่งเคียงคู่กันทำพิธีมงคลในช่วงเช้าแต่ก็แอบมีคนพูดลับหลังเรื่องอายุของเจ้าบ่าวกับเจ้าสาว ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีคนพูดอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ ถ้าไม่มีนี่สิคงแปลก แต่ทั้งสองเลือกที่จะไม่ให้ค่าคำพูดของคนพวกนั้นคำนินทาแว่วๆ ได้ยินไม่ค่อยชัดแต่ก็พอได้ยิน โดยคนส่วนมากจะพูดไปในทางเดียวกันคือว่าเจ้าบ่าวอย่างโน้นอย่างนี้ก็ชื่อเสียงของธานินทร์ในด้านไม่ดีโด่งดังมานาน แต่กลับสงสารเจ้าสาวอายุยังน้อย โน่นนี่นั่น...ก็พูดกันไปเรื่อยตามปากของคนชอบพูด"คุณอา..." น้ำหนึ่งสะกิดคุณอาของเธอด้วยน้ำเสียงและสายตา"ว่าไงคะ คนสวยของอา" ไม่ใช่แค่เธอที่ได้ยิน