ตอนที่ 2 อุปการะ
รถเก๋งคันใหญ่สีดำเงาวับ ถูกยุทธการขับเข้ามาจอดสนิทที่ลานจอดรถของบ้านตรงที่เดิม ซึ่งตอนนี้เจ้านายคนใหม่แกกำลังหลับปุ๋ยอยู่ที่เบาะด้านหลังกับคุณธานินทร์เจ้าของบ้าน
"น้ำหนึ่ง ตื่น...ถึงแล้ว" เสียงคุณอาหนุ่มปลุกหลานสาวตัวเล็กด้วยการจับแขนเขย่าเบาๆ ซึ่งตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว เขาไม่อยากให้หลับยาว อาบน้ำอาบท่าทานข้าวเย็นให้เรียบร้อยก่อนเดี๋ยวค่อยนอนใหม่ก็ได้
"ถึงบ้านคุณอาแล้วเหรอคะ" เสียงเล็กๆเอ่ยถามในขณะที่น้ำหนึ่งค่อยๆลืมตาขึ้นท่าทางงัวเงีย
"อือ ลงจากรถได้แล้ว ยุทธ...เดี๋ยวนายยกของที่ท้ายรถเอาขึ้นไปให้คุณหนูด้านบนห้องด้วยนะ"
"ครับบอส" คุณอาหนุ่มเดินนำน้ำหนึ่งเข้าไปด้านในบ้าน ส่วนน้ำหนึ่งเธอก็เดินตามหลังคุณอาไปติดๆ
"ชบา...ไปเรียกทุกคนในบ้านมารวมกันที่ห้องนั่งเล่นตอนนี้เลย" เสียงทุ้มของเจ้าของบ้านเอ่ยบอกชบา ชบาเป็นแม่บ้าน อีกทั้งยังเป็นภรรยาของยุทธ
"ค่ะคุณนิน" ทุกคนในบ้านหลังนี้จะเรียกคุณธานินทร์ว่าคุณนิน ยกเว้นยุทธที่เรียกบอสอยู่คนเดียว เนื่องจากยุทธทำงานที่บริษัทจำเป็นต้องเรียกให้เหมือนกับคนในบริษัทที่เขาเรียกกัน
ไม่นานทุกคนในบ้านก็มารวมตัวกันที่ห้องนั่งเล่นตามคำสั่งของเจ้าของบ้าน บ้านหลังนี้มีธานินทร์เป็นเจ้าของบ้านแต่เพียงผู้เดียว ไม่มีใครอื่น ซึ่งต่อจากนี้เป็นต้นไป บ้านหลังนี้จะมีเจ้านายเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน ในฐานะหลานสาว
"เอาล่ะ ที่ผมเรียกทุกคนมารวมกันวันนี้อยากจะแนะนำน้ำหนึ่งให้ทุกคนรู้จัก ต่อจากนี้ไปน้ำหนึ่งจะเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ในฐานะหลานสาวของผม ขอให้ทุกคนช่วยดูแลเธอแทนผมด้วย"
"ครับ/ค่ะ"
"คนนี้ชื่อป้าแก้ว คนนี้ชื่อชบา คนนั้นชื่อ..." ธานินทร์แนะนำคนในบ้านให้น้ำหนึ่งรู้จักทีละคน ซึ่งเธอก็ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทุกคนอย่างนอบน้อม ทำให้ทุกคนเอ็นดูเธอ และสงสารเธอ เนื่องจากทุกคนพอจะรู้มาบ้างแล้วว่าที่น้ำหนึ่งต้องย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้เพราะอะไร
"เรียกแกว่า คุณหนูหนึ่งก็แล้วกัน" ประโยคนี้ธานินทร์เอ่ยบอกคนในบ้านของเขา เนื่องจากคนที่บ้านของเธอเรียกเธอว่าคุณหนูกันทุกคน เขาไม่อยากให้เธอต้องปรับตัวมาก เรียกเหมือนเดิมก็แล้วกัน คนถูกเรียกจะได้รู้สึกชินหูด้วย
"หนึ่ง...ถ้าขาดเหลืออะไรก็ไปบอกพี่ชบากับป้าแก้วได้เลยนะ" ป้าแก้วคือแม่บ้านเก่าแก่ ท่านอยู่มาตั้งแต่ธานินทร์เป็นเด็กหรือจะเรียกว่าเลี้ยงมาก็ย่อมได้ ธานินทร์จะให้ความเคารพป้าแก้วมากเป็นพิเศษ ธานินทร์มองป้าแก้วเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งของบ้าน ถึงแม้ว่าท่านจะเป็นแค่แม่บ้านก็ตาม
"ค่ะ คุณอา..."
"บ้านหลังนี้อยู่กันหลายคน เพราะฉะนั้นก็ต้องมีกฎของการอยู่ร่วมกัน" ประโยคนี้ธานินทร์หันมาพูดกับน้ำหนึ่ง
"ข้อแรกเรื่องการรับประทานอาหาร มื้อเช้าเจ็ดโมงตรง มื้อเย็นหกโมงตรง ถ้าวันไหนเป็นวันหยุดมื้อเที่ยงก็คือเที่ยงตรง...เข้าใจมั้ย"
"ค่ะ" น้ำหนึ่งขานรับเสียงแผ่ว
"หนึ่งต้องย้ายโรงเรียน อาจะให้ลูกน้องของอาทำเรื่องย้ายโรงเรียนให้" เนื่องจากโรงเรียนที่เก่าของน้ำหนึ่งอยู่ไกล ส่วนโรงเรียนที่คุณอาหนุ่มอยากให้เรียน เป็นโรงเรียนนานาชาติ น่าจะดีต่อเด็ก ซึ่งทั้งหมดนี้ธานินทร์คิดเอาเอง เขาหวังดีจึงเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้
"ค่ะ" น้ำหนึ่งขานรับเสียงแผ่วอีกครั้ง คุณอาหนุ่มหันไปมองสภาพของเด็กหญิงตรงหน้า อาการเสียใจของแกคงต้องใช้เวลารักษา ซึ่งอีกไม่นานก็คงดีขึ้น
"สี่โมงเย็นถึงห้าโมงเย็นของทุกวัน เจอกันที่ห้องฟิตเนส" ประโยคนี้คุณอาหนุ่มพูดกับหลานสาว เขาแค่ต้องการอยากหากิจกรรมให้เธอทำจะได้ไม่ต้องคิดมาก แต่น้ำเสียงของเขาที่พูดออกไปฟังดูเหมือนคำสั่ง
"ทำอะไรคะ"
"ออกกำลังกายไง"
"คือหนึ่ง..." น้ำหนึ่งกำลังเศร้าโศกเสียใจ คงไม่มีกะจิตกะใจไปเล่นเครื่องเล่นออกกำลังกาย น้ำหนึ่งกำลังจะปฏิเสธ แต่...
"ห้ามปฏิเสธ ไม่ออกกำลังกายแล้วจะมีสุขภาพที่แข็งแรงได้ยังไง" คนไม่เคยมีลูก ไม่เคยมีหลาน ไม่เคยเลี้ยงเด็ก ไม่รู้วิธีพูดดีๆ เขาเลือกใช้เป็นคำสั่งตามนิสัยที่เคยใช้กับลูกน้อง ในเมื่อมันเป็นคำสั่งน้ำหนึ่งจึงต้องยอมจำใจทำตามคำสั่งของคุณอาเจ้าของบ้าน
"ค่ะ" เด็กอย่างเธอจะไปกล้าขัดผู้ใหญ่อย่างเขาได้ยังไง แค่เขาเมตตาให้ที่อยู่ที่กินก็ดีมากแล้ว
"ทุกคนแยกย้ายกันไปทำงานได้ ชบา...พาคุณหนูหนึ่งไปพักที่ห้องด้วย อาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อยหกโมงตรงลงมาทานข้าวพร้อมอา" ประโยคหลังคุณอาหนุ่มพูดกับหลานสาว
"ค่ะ ไปค่ะคุณหนู" น้ำหนึ่งเดินตามหลังชบาขึ้นชั้นบนของบ้านไป
"ห้องของคุณหนู ห้องนี้นะคะ ส่วนห้องนั้นเป็นห้องของคุณนินค่ะ" ห้องของน้ำหนึ่งถึงก่อน ถัดไปทางตะวันออกห้องใหญ่ที่อยู่ติดกันเป็นห้องของธานินทร์
เมื่อเดินเข้ามาถึงด้านในห้อง ภายในห้องเป็นโทนสีฟ้าอ่อนค่อนข้างกว้างขวางเตียงหกฟุตพร้อมกับชุดเครื่องนอนสีชมพูลายการ์ตูนเอาใจเด็กผู้หญิง เฟอร์นิเจอร์ครบชุด โต๊ะเขียนหนังสือลายน่ารัก สายตาของน้ำหนึ่งกวาดมองไปรอบๆห้องด้วยความพอใจ แล้วเอ่ยถามพี่ชบาว่า...
"พี่ชบาคะ...คุณอาใจดีมั้ยคะ" คุณอาใจดีหรือเปล่าน้ำหนึ่งไม่แน่ใจ แต่พี่ชบาคนนี้ใจดีแน่นอน ดูได้จากรอยยิ้ม น้ำหนึ่งรู้สึกแบบนั้น
"คำถามนี้ตอบยากค่ะ...แต่ถ้าถามพี่ พี่จะขอตอบในแบบของพี่นะคะ"
".........." น้ำหนึ่งรอฟัง
"ไม่ค่ะ..." น้ำหนึ่งกำลังคลี่ยิ้มออกมาอย่างมีความหวัง ต้องหุบยิ้มลงทันทีที่ได้ยินคำตอบของพี่ชบา
"คุณอาเป็นคนยังไงเหรอคะ ดุมากมั้ย" หลายวันที่ผ่านมา น้ำหนึ่งมองไม่ออกเลย ไม่ค่อยได้คุยกัน ส่วนมากคุณอาจะยุ่งอยู่กับงานศพของคุณพ่อมากกว่า
"อยู่ๆไปเดี๋ยวก็รู้ค่ะ ถึงคุณนินจะไม่ใช่คนใจดี แต่เขาเป็นคนดีแน่นอนค่ะ เขาเป็นคนเห็นอกเห็นใจคนอื่น ทุกคนเท่าเทียม ไม่ได้แย่อย่างที่คุณหนูกลัวหรอกค่ะ คุณหนูทำใจให้สบายๆเถอะนะคะ" เป็นจังหวะที่ยุทธยกกระเป๋าขึ้นมาให้น้ำหนึ่งถึงบนห้องพอดี ชบาหันไปช่วยสามีของเธอขนเข้ามาในห้องจนหมด
"พี่ยุทธ หมดหรือยังจ๊ะ"
"หมดแล้วมีแค่นี้แหละ"
"คุณหนู...อาบน้ำอาบท่าเถอะค่ะ เดี๋ยวพี่ชบาจะช่วยคุณหนูจัดของเก็บให้เอง หกโมงตรงคุณหนูต้องลงไปทานข้าวให้ตรงเวลาที่ห้องอาหารนะคะ"
"ค่ะ"
ตอนที่ 45 ตอนพิเศษ/4ช่วงเย็น ธานินทร์และน้ำหนึ่ง กลับจากบริษัทก็มาแวะรับลูกๆกลับจากโรงเรียน และได้พากันไปเดินซื้อของใช้ที่ห้างสรรพสินค้าก่อนกลับบ้าน...โซนของเล่นเด็ก ซึ่งแน่นอนว่าเจ้าสองคนไม่พลาดโซนนี้อย่างแน่นอน"หม่ามี๊ครับ เหนืออยากซื้อของเล่นครับ""น้ำขิงก็ด้วยค่ะ" เสียงเล็กๆของลูกสาวและลูกชายฝาแฝด ร้องขอเสียงหวาน"ให้ซื้อได้คนละหนึ่งชิ้นค่ะ" น้ำหนึ่งอนุญาตให้ซื้อได้คนละหนึ่งชิ้นเท่านั้น เนื่องจากว่าที่บ้านมีเยอะจนไม่มีที่จะเก็บแล้ว แต่ทุกครั้งที่ได้มาที่นี่ เจ้าแฝดก็มักจะขอซื้ออีกแบบนี้เป็นประจำ"ขอบคุณครับ/ขอบคุณค่ะ" น้ำเหนือและน้ำขิงรีบวิ่งไปเลือกของเล่นชิ้นที่ตัวเองได้เล็งเอาไว้ด้วยสายตา น้ำเหนือวิ่งไปที่ไดโนเสาร์ตัวใหญ่ ส่วนน้ำขิงเลือกวิ่งไปที่ตุ๊กตาหมีตัวใหญ่มีเสียงเพลง เด็กๆทั้งสองกำลังตั้งหน้าตั้งตาเลือก เนื่องจากว่ามันมีหลายแบบหลายสีมากจนเลือกไม่ถูกสักที เวลาผ่านไปเกือบสิบนาที ลูกๆของเธอก็ยังตัดสินใจไม่ได้"ตัวนี้ก็สวย ตัวนี้ก็ชอบ" เสียงน้ำเหนือบ่นกับตัวเอง ส่วนน้ำหนึ่งเธอเริ่มยืนเท้าเอวมองลูกๆของเธอแล้ว..."ว้าว...สวยๆทั้งนั้นเลย เลือกไม่ถูกทำยังไงดี" น้ำขิงก็ด้วย..."
ตอนที่ 44 ตอนพิเศษ/3เมื่อเวลาผ่านไป...น้ำหนึ่งครบกำหนดคลอด เธอเลือกวิธีผ่าตัดคลอด เนื่องจากเด็กในท้องมีสองคน คุณหมอจึงแนะนำวิธีนี้เพื่อความปลอดภัยสามวันหลังจากวันคลอด ธานินทร์ก็ได้พาภรรยาและลูกๆของเขากลับบ้าน เจ้าฝาแฝดร้องไห้งอแงน่าจะหิวนม ส่วนน้ำหนึ่งเธอยังคงเจ็บแผลผ่าตัดอยู่ ขยับตัวได้ยังไม่ค่อยสะดวกมากนัก"ป๊าอุ้มน้ำเหนือมาให้หนึ่งก่อนค่ะ" เจ้าแฝดร้องไห้หิวนมไม่ยอมหยุด คนเป็นพ่อจึงค่อยๆช้อนตัวลูกชายอุ้มขึ้นมาให้ผู้เป็นแม่ให้นมก่อน เพราะว่าร้องเสียงดังกว่าทันใดนั้นเสียงของน้ำเหนือก็เงียบกริบลงทันที แกนอนดูดนมแม่นิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่น้ำขิงยังคงร้องไห้งอแงอยู่อย่างนั้น ธานินทร์จึงเลือกที่จะอุ้มลูกสาวขึ้นมาปลอบโยน ครั้นจะให้ดูดพร้อมกัน น้ำหนึ่งก็ยังคงเจ็บแผลอยู่มาก"อดทนหน่อยนะหนึ่ง" ธานินทร์มองไปที่ภรรยาเด็กของเขาก็นึกสงสาร อายุของเธอนิดเดียวแต่กลับต้องมานั่งเลี้ยงลูกถึงสองคน แถมยังทรมานเจ็บทั้งแผลผ่าคลอด ปวดเต้านมที่กำลังคัดอยู่ตอนนี้ส่วนช่วงกลางคืนเธอได้นอนเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น เพราะเจ้าแฝดสองคนผลัดกันหิวนมไม่ได้หยุด".........." น้ำหนึ่งไม่ได้ตอบหรือพูดอะไรกลั
ตอนที่ 43 ตอนพิเศษ/2@โรงพยาบาลเอกชนธานินทร์พาน้ำหนึ่งมาพบคุณหมอตามนัด วันนี้คุณหมอนัดอัลตร้าซาวด์ดูเรื่องเพศและการเจริญเติบโตของเจ้าแฝดในท้องตามอายุครรภ์"คุณหมอครับ ลูกผมผู้หญิงหรือผู้ชายครับ" คุณหมอกำลังอัลตร้าซาวด์อยู่ ธานินทร์ทนความอยากรู้ของตัวเองไม่ไหวจึงเอ่ยถามคุณหมอ ทันใดนั้นคุณหมอก็หันมายิ้มให้แล้วพูดว่า..."ยินดีด้วยนะครับ เด็กในท้องเป็นแฝดชายหญิงครับ การเจริญเติบโตเป็นไปตามอายุครรภ์ เด็กๆแข็งแรงดีครับ" คุณหมอเก็บอุปกรณ์ สิ่งที่คุณหมอบอก ทำให้คนเป็นพ่อและแม่หันมาส่งยิ้มให้กัน ทั้งสองดีใจมากที่ได้ลูกฝาแฝดชายหญิง คุณปู่อยากได้หลานชาย ส่วนคุณย่าอยากได้หลานสาว คงสมใจพวกท่านทั้งสองคน"ได้สองเพศเลยเหรอครับคุณหมอ" ธานินทร์ดีใจมาก เขาตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้รู้ใหม่ ไม่รู้จะพูดอะไร จึงถามคุณหมออีกครั้งเพื่อความแน่ใจ"ครับ...ยินดีด้วยอีกครั้งนะครับ" ตรวจครรภ์เสร็จรอรับยาบำรุง จากนั้นทั้งสองก็พากันกลับบ้าน...@บ้าน ธานินทร์เดินจูงมือน้ำหนึ่งเข้ามาในบ้านตามปกติ เห็นคุณพ่อกับคุณแม่นั่งรออย่างใจจดใจจ่อ พวกท่านทั้งสองกำลังรอคำตอบว่าหลานในท้องของพวกท่านเป็นหญิงหรือชาย"ยัยหนูหนึ่ง...หลานแม่
ตอนที่ 42 ตอนพิเศษ/1หลังจากที่น้ำหนึ่งเรียนจบ เธอก็แต่งงานและได้ตั้งท้องฝาแฝด เรื่องงานที่เธอจะต้องทำจึงต้องเลื่อนออกไปก่อน เพราะสามีของเธอยังไม่ยอมให้เธอเข้าบริษัทไปทำงานจนกว่าลูกจะมีอายุหนึ่งขวบเต็มในทุกๆวันคนว่างงานก็เริ่มเบื่อ เธอจึงชอบไปเซอร์ไพรส์คุณอาของเธอที่บริษัทอยู่เป็นประจำ ไปเที่ยวเล่นจนคนในบริษัทจำเธอได้หมดแล้ว"คุณหนูมาได้ยังไงครับ" ยุทธยังคงครองตำแหน่งเลขาเหมือนเดิม เอ่ยถามคุณหนูหนึ่งตามหน้าที่"พี่ยุทธ ถามอะไรคะเนี่ย หนึ่งก็ต้องนั่งรถมาสิ คุณอาล่ะคะ" ใบหน้าสวยยิ้มหวานอย่างเคย เอ่ยถามหาสามีของเธอทันที"ประชุมเพิ่งเสร็จครับ แต่บอสยังไม่ได้เดินออกมา น่าจะยังอยู่ด้านในเข้าไปได้ครับ" ยุทธผายมือไปทางห้องประชุมที่ยุทธเพิ่งเดินออกมา"ขอบคุณค่ะ" น้ำหนึ่งท้องห้าเดือน เธอเดินเร็วๆเข้าไปหาผู้เป็นสามีของเธอ ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มสดใสเหมือนอย่างเคย เข้าไปถึงไม่ได้มองซ้ายมองขวาเห็นคุณอานั่งอยู่คนเดียว เธอเดินเข้าไปทางด้านหลังแล้วลักหอมแก้มเขาฟอดใหญ่"ฟอด!""อุ้ย!" ธานินทร์ตกใจรีบหันมามอง เห็นเป็นภรรยาสุดที่รักของเขานั่นเอง รีบส่งยิ้มให้ทันที แต่ในห้องนี้ไม่ได้มีเขาคนเดียวยังมีคนอื่นอยู
ตอนที่ 41 คืนวิวาห์ ห้องหอในคืนแต่งงานถูกจัดขึ้นที่บ้านเพื่อความสะดวกสบาย หลังจากที่ผู้ใหญ่เข้ามาอวยพรตามประเพณีเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกท่านก็ขอตัวแยกย้ายกันออกไปพักผ่อน เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวในค่ำคืนนี้ก็เช่นกัน เหนื่อยล้ามาหลายวัน ในที่สุดทั้งสองก็ได้มีวันนี้"เหนื่อยมั้ย" ธานินทร์เอ่ยถามภรรยาของเขาด้วยความเป็นห่วง เนื่องจากตอนนี้เธอกำลังตั้งท้องอ่อนๆอยู่ด้วย"นิดหน่อยค่ะ" น้ำหนึ่งขี้อ้อน เธอขยับตัวเข้าไปเอาหน้าซบอยู่ที่หน้าอกของเขา เธอกอดคุณอาเอาไว้หลวมๆ ธานินทร์นั่งให้เธอกอดอยู่สักครู่ ซึ่งเขาก็กอดตอบเธอเช่นกัน"มีความสุขจังค่ะ" น้ำหนึ่งเป็นผู้หญิงขี้อ้อน ธานินทร์มองว่าเธอน่ารักมาก แต่ในเมื่อเธอตั้งท้องแล้ว เขาจึงจำเป็นต้องหักห้ามใจไว้บ้าง"คุณอาเป็นของหนึ่งแล้วนะคะ" เธอดูภูมิใจจนเขานึกขำ เขาต่างหากต้องภูมิใจที่ได้เธอเป็นภรรยา ซึ่งแน่นอนว่าเขาต้องมีความรู้สึกนั้นอยู่แล้ว"ฮึ...อาเป็นของหนึ่งตั้งนานแล้วนะ" เป็นตั้งแต่วันนั้นที่เขากับเธอตกลงปลงใจเป็นของกันและกัน ตั้งแต่วันนั้นเขาก็ไม่คิดอยากออกไปเที่ยวนอกบ้านอีกเลย"หนึ่งรักคุณอานะคะ""อาก็รักหนึ่งนะครับ""ขอบคุณนะคะ""ขอบคุณอาเรื่องอะไร
ตอนที่ 40 งานวิวาห์@งานแต่งณ โรงแรมหรูติดชายทะเลบรรยากาศดี ภายในงานช่วงเช้าถูกจัดขึ้นตามแบบประเพณีไทย แขกเหรื่อที่มาร่วมงานมีเฉพาะเพื่อนสนิทและผู้ใหญ่ทางฝ่ายเจ้าบ่าวเท่านั้นบรรยากาศช่วงเช้าถูกจัดขึ้นในห้องจัดเลี้ยงของทางโรงแรม มีพิธีสงฆ์ พิธีหลั่งน้ำสังข์ ทั้งหมดถูกจัดขึ้นในแบบเรียบง่ายเจ้าสาวแต่งชุดไทยโบราณสีขาวทั้งชุด ใบหน้าและทรงผมถูกตกแต่งโดยช่างเสริมสวยมืออาชีพ ส่วนเจ้าบ่าวสวมชุดสูทสีครีม แต่ก็ยังคงสวมแว่นตาเหมือนเดิม ทรงผมถูกตกแต่งทรงหล่อเนี๊ยบ ทั้งสองนั่งเคียงคู่กันทำพิธีมงคลในช่วงเช้าแต่ก็แอบมีคนพูดลับหลังเรื่องอายุของเจ้าบ่าวกับเจ้าสาว ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีคนพูดอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ ถ้าไม่มีนี่สิคงแปลก แต่ทั้งสองเลือกที่จะไม่ให้ค่าคำพูดของคนพวกนั้นคำนินทาแว่วๆ ได้ยินไม่ค่อยชัดแต่ก็พอได้ยิน โดยคนส่วนมากจะพูดไปในทางเดียวกันคือว่าเจ้าบ่าวอย่างโน้นอย่างนี้ก็ชื่อเสียงของธานินทร์ในด้านไม่ดีโด่งดังมานาน แต่กลับสงสารเจ้าสาวอายุยังน้อย โน่นนี่นั่น...ก็พูดกันไปเรื่อยตามปากของคนชอบพูด"คุณอา..." น้ำหนึ่งสะกิดคุณอาของเธอด้วยน้ำเสียงและสายตา"ว่าไงคะ คนสวยของอา" ไม่ใช่แค่เธอที่ได้ยิน