Masukหลังจากที่หวังเจียเหอ ฮ่องเต้ ประสบความเจ็บป่วยอย่างหนัก องค์ฮองเฮาหลี่หวงซินได้ตัดสินใจทุบกำแพงที่แยกตำหนักส่วนตัวของนางกับจวนของแม่ทัพฉินเย่เหวิน และสร้างพื้นที่ร่วมกันใหม่ ด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัย นางได้แปลงตำหนักของนางให้กลายเป็นสถานที่ที่คล้ายหลุดออกจากโลกภายนอก
พื้นที่ในตำหนักของนางถูกปกคลุมด้วยความลับและความเย้ายวนใจ ไม่มีข้อบังคับทางศีลธรรมมาขวางกั้น ความหลงใหลและความปรารถนาของนางกับแม่ทัพหนุ่มจึงถูกปลดปล่อยอย่างเต็มที่ ทุกวัน แม่ทัพฉินเย่เหวินจะมอบความเร่าร้อนและความพึงพอใจให้แก่องค์ฮองเฮาอย่างดุเดือด นางร้องครวญครางด้วยความสุขจนเต็มอิ่ม
เสียงครางจากองค์ฮองเฮาดังขึ้น "ท่านแม่ทัพ แรงอีก แรงอีก ข้าเสียวจนข้าจะไม่ไหวอยู่แล้ว" นางร้องออกมาด้วยความรู้สึกอันร้อนแรงและเต็มไปด้วยความพอใจ
ในขณะที่ภาพความรักอันร้อนแรงเผยออกมา ภายในตำหนักที่เปล่าเปลือยแห่งนี้ นางสนมจากตำหนักผีเสื้อยืนอยู่ด้วยความหลงใหลและชื่นชม การมองดูฉากนี้ราวกับเป็นการแสดงถึงความงดงามและอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน
นางสนมราวกับถูกดึงดูดด้วยเสน่ห์อันล้ำลึกของฉากที่พวกนางเฝ้าดู ร่างกายของพวกนางทั้งหมดรวม 100 ชีวิต นุ่งน้อยห่มน้อยในสภาพที่สะท้อนความเปลือยเปล่าและความเย้ายวนใจ แต่ละคนมีเรือนร่างที่สวยงามและดึงดูดสายตา ราวกับว่าพวกนางตั้งใจที่จะรอคอยการตอบสนองจากแม่ทัพด้วยความคาดหวังอย่างเต็มที่
ความรู้สึกของพวกนางเป็นไปตามแรงดึงดูดและเสน่ห์ที่เกิดขึ้นในฉากนี้ โดยทุกการเคลื่อนไหวและความรู้สึกของพวกนางสะท้อนถึงความร้อนแรงและความหลงใหล
ในยามที่องค์ฮองเฮาหลี่หวงซินประสบกับความหิวกระหายและต้องการปลดปล่อยความรู้สึกอย่างเต็มที่ นางได้ลากลิ้นเลียเรือนร่างของท่านแม่ทัพฉินเย่เหวินด้วยความกระตือรือร้น การกระทำของนางสร้างแรงดึงดูดที่แรงกล้าและกระตุ้นอารมณ์ของเหล่าบรรดานางสนมให้มีความรู้สึกอันร้อนแรงอย่างชัดเจน
นางสนมบางคนไม่สามารถทนรอได้อีกต่อไปและเข้าร่วมกับองค์ฮองเฮาในการดูแลเรือนร่างของแม่ทัพ การร่วมมือของพวกนางในยามนี้แสดงให้เห็นถึงความหลงใหลและความกระหายที่เข้มข้นของพวกนาง ตัวของท่านแม่ทัพฉินเย่เหวินตกอยู่ในห้อมล้อมของสาวงาม โดยที่เขาได้ตอบสนองความต้องการของพวกนางด้วยความตั้งใจ
เมื่อแม่ทัพได้เสพสุขกับเรือนร่างขององฮองเฮาหลี่หวงซิน อย่างเต็มอิ่มแล้ว เขาจึงค่อยๆจัดการกับเรือนร่างของเหล่าบรรดานางสนมทีละคน พวกนางแต่ละคนนั้นช่างมีความหื่นกระหายนัก เขาดูดเลียเรือนร่างของนางอย่างหิวกระหายและกระแทรกเรือนร่างของพวกนางอย่างเร่าร้อนเสียงร้องครวญครางของพวกนางนั้นดังลั่นทั่วทั้งตำหนัก
อื้อ...อื้อ....ฮ่องเต้ที่ถูกองฮองเฮาหลี่หวงซิน พามานั่งสูดบรรยากาศภายนอก เขาเห็นภาพที่สุดแสนจะเย้ายวนของท่านแม่ทัพที่กระทำกับเรือนร่างของนางสนมของตนด้วยความหื่นกระหายเขาพยายามพูดอะไรออกมาแต่ก็ไม่มีใครเข้าใจ ดูเหมือนว่าตัวของเขาในยามนี้นั้นกำลังแอบอิจฉาแม่ทัพผู้นี้อยู่ ตนเองทำได้แต่นั่งแข็งโด่ตั้งชูชันเท่านั้น แต่แม่ทัพหนุ่มกับได้เสพสุขเรือนร่างของสาวงามอย่างหื่นกระหาย อื้อ...อื้อ...
“ท่านพี่ท่านเป็นอะไรเจ้าค่ะ?” องฮองเฮาหลี่หวงซินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความแปลกใจและความกังวล นางได้ยินเสียงฮ่องเต้ร้องครางออกมาจากลำคอของเขาอย่างแผ่วเบา และสายตาของนางก็ได้สะดุดไปที่สิ่งที่อยู่ตรงกลางระหว่างขาของฮ่องเต้มันกำลังตั้งชูชันอย่างเด่นชัด
องฮองเฮาหลี่หวงซินรู้ได้ทันทีว่าฮ่องเต้กำลังเผชิญกับอารมณ์ทางเพศที่รุนแรง แม้ว่าตัวเขาจะไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ นางมองเห็นความอึดอัดที่แสดงออกมาทางร่างกายของฮ่องเต้ และการที่เขาไม่สามารถควบคุมหรือปลดปล่อยความรู้สึกนี้ได้
“เดี๋ยวให้น้องช่วยท่านพี่นะเจ้าค่ะ” น้ำเสียงของนางอ่อนโยนแต่ซ่อนเร้นความหื่นกระหายที่ยากจะปกปิด “ท่านพี่จะได้รู้สึกสบายตัว”
คำพูดของนางเต็มไปด้วยความเอาใจใส่และความต้องการที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ การกระทำของนางแสดงถึงความตั้งใจที่จะตอบสนองต่อความต้องการของฮ่องเต้ แม้ว่าในความอ่อนโยนจะมีแฝงความร้อนแรงที่นางไม่สามารถซ่อนเร้นได้
นางนั่งคร่อมร่างของฮ่องเต้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หวังเจียเหอ ฮ่องเต้ เบิกตากว้างด้วยความเสียวสะท้านเมื่อรู้สึกถึงการสัมผัสที่รุนแรงและไม่คาดคิด ท่อนขาของนางที่อวบใหญ่และเนื้อแน่นทำให้เขารู้สึกถึงความเต็มอิ่มอย่างยากจะปฏิเสธ น้ำราคะของนางหลั่งไหลออกมาเป็นจำนวนมาก เติมเต็มบรรยากาศรอบตัวด้วยความร้อนแรง
ในขณะเดียวกัน นางก็ขย่มร่างของเขาอย่างบางเบา แต่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความเร้าใจ น้ำเสียงร้องครางของนางเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย เสียงที่สื่อถึงความรู้สึกและความต้องการที่ไม่สามารถเก็บซ่อนไว้ได้
“อื้อ...อื้อ...” หวังเจียเหอ ฮ่องเต้พยายามที่จะเปล่งเสียงออกมา แต่คำพูดของเขากลับถูกกลืนหายไปในลำคอ ไม่มีใครสามารถเข้าใจความรู้สึกหรือความคิดที่เขาพยายามจะสื่อได้ ราวกับว่าฮ่องเต้ต้องการจะบอกกับองฮองเฮาหลี่หวงซินว่า "ข้าเสียวเหลือเกิน เจ้าทำได้ดีมาก" แต่คำพูดเหล่านั้นไม่อาจหลุดออกมาได้
ภายในใจของฮ่องเต้ เขารู้สึกถึงความปิติและความเสียวซ่านที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในใจของเขา “ข้าช่างมือมืดบอดนัก ที่มีสมบัติลับที่ล้ำค่าเช่นนี้กับไม่เคยเห็นค่ามาก่อน”
ในขณะที่ร่างกายของเขาถูกปกคลุมด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความเสียวซ่านและความอิ่มเอมใจ ฮ่องเต้รู้สึกถึงความรักและความภาคภูมิใจในตัวองฮองเฮาหลี่หวงซินที่ได้แสดงความรักต่อเขาในลักษณะที่ไม่เหมือนใคร แม้ว่าตัวของเขาจะอยู่ในสภาพที่เหมือนผัก ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แต่นางยังคงทุ่มเทและบำบัดความใคร่ให้เขาด้วยเรือนร่างที่เย้ายวนและเต็มไปด้วยความรักที่มีต่อเขา
หวังเจียเหอ ฮ่องเต้ รู้สึกถึงความเสียวซ่านที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย เมื่อเขาไม่สามารถต้านทานความรู้สึกนั้นได้อีกต่อไป ร่างกายของเขาตอบสนองอย่างอัตโนมัติด้วยการอัดฉีดน้ำกามออกมาอย่างเต็มที่ ความรู้สึกเสียวซ่านนั้นทำให้เขารู้สึกโล่งใจในชั่วขณะหนึ่ง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมากลับสร้างความรู้สึกที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
“ท่านพี่ ท่านรู้สึกสบายตัวบ้างขึ้นแล้วใช่ไหมเจ้าคะ?” องฮองเฮาหลี่หวงซินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมรอยยิ้มที่แต่งแต้มด้วยความพึงพอใจ “น้องจะอยู่คอยปฏิบัติดูแลรับใช้ท่านพี่ตลอดไป แต่น้องขอเสพสุขกับเรือนร่างของผู้ชายคนอื่นบ้างนะเจ้าคะ ความหื่นกระหายที่ร้อนแรงมันกำลังเล่นงานน้อง”
คำพูดของนางเต็มไปด้วยความตรงไปตรงมา และในขณะเดียวกันก็สะท้อนถึงความต้องการที่นางไม่สามารถซ่อนเร้นได้ หวังเจียเหอ ฮ่องเต้ มองนางด้วยความเข้าใจ แม้จะรู้สึกถึงความเจ็บปวดลึก ๆ อยู่ในใจ แต่เขาก็พยักหน้าเพื่อแสดงถึงความยอมรับและเข้าใจในความปรารถนาของนาง
สายตาของฮ่องเต้ติดตามองฮองเฮาหลี่หวงซินขณะที่นางเดินเคียงคู่ไปกับแม่ทัพหนุ่ม ราวกับว่าสตรีนางนี้ไม่เคยรู้สึกถึงความพึงพอใจอย่างเต็มที่ แม้กระทั่งในช่วงเวลาที่นางอยู่กับเขา สายตาของเขาจับจ้องที่ภาพของนางและแม่ทัพที่โอบกอดกันอย่างเร่าร้อน ความรู้สึกของฮ่องเต้ถูกแบ่งออกเป็นสองด้าน ระหว่างความรักที่มีต่อนางและความเข้าใจในความต้องการของนาง
“องฮองเฮาหลี่หวงซิน ของข้า วันนี้ตัวของท่านช่างเร่าร้อนนัก” แม่ทัพฉินเย่เหวินเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหลงใหล ขณะที่เขาโอบกอดนางแนบชิด ราวกับจะปกป้องและดูแลนางไปตลอดกาล สายลมพัดเบา ๆ ท่ามกลางทิวทัศน์ของทะเลสาบที่งดงาม สะท้อนแสงระยิบระยับบนผิวน้ำ
นางมองตาเขาด้วยความปรารถนา ก่อนจะดึงเขามาใกล้และดูดริมฝีปากของแม่ทัพหนุ่มอย่างดูดดื่ม ความหิวกระหายที่ไม่อาจปกปิดได้แสดงออกผ่านการกระทำที่ร้อนแรงของนาง ทั้งเขาและนางต่างรู้สึกถึงความเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งนี้ ความรู้สึกที่ทั้งคู่มีต่อกันเติมเต็มความว่างเปล่าภายในจิตใจ และสัญญาว่าจะเคียงข้างกันตลอดไป
ริมฝีปากของทั้งสองยังคงประทับอยู่บนกันและกัน เสียงหัวใจเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน ราวกับว่าโลกทั้งใบหายไป เหลือเพียงพวกเขาสองคนที่อยู่ในช่วงเวลานี้ ท่ามกลางความงดงามของธรรมชาติ ความรักและความปรารถนาของพวกเขาคือสิ่งเดียวที่สำคัญ
หลังจากที่หวังเจียเหอ ฮ่องเต้ ประสบความเจ็บป่วยอย่างหนัก องค์ฮองเฮาหลี่หวงซินได้ตัดสินใจทุบกำแพงที่แยกตำหนักส่วนตัวของนางกับจวนของแม่ทัพฉินเย่เหวิน และสร้างพื้นที่ร่วมกันใหม่ ด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัย นางได้แปลงตำหนักของนางให้กลายเป็นสถานที่ที่คล้ายหลุดออกจากโลกภายนอกพื้นที่ในตำหนักของนางถูกปกคลุมด้วยความลับและความเย้ายวนใจ ไม่มีข้อบังคับทางศีลธรรมมาขวางกั้น ความหลงใหลและความปรารถนาของนางกับแม่ทัพหนุ่มจึงถูกปลดปล่อยอย่างเต็มที่ ทุกวัน แม่ทัพฉินเย่เหวินจะมอบความเร่าร้อนและความพึงพอใจให้แก่องค์ฮองเฮาอย่างดุเดือด นางร้องครวญครางด้วยความสุขจนเต็มอิ่มเสียงครางจากองค์ฮองเฮาดังขึ้น "ท่านแม่ทัพ แรงอีก แรงอีก ข้าเสียวจนข้าจะไม่ไหวอยู่แล้ว" นางร้องออกมาด้วยความรู้สึกอันร้อนแรงและเต็มไปด้วยความพอใจในขณะที่ภาพความรักอันร้อนแรงเผยออกมา ภายในตำหนักที่เปล่าเปลือยแห่งนี้ นางสนมจากตำหนักผีเสื้อยืนอยู่ด้วยความหลงใหลและชื่นชม การมองดูฉากนี้ราวกับเป็นการแสดงถึงความงดงามและอารมณ์ที่พลุ่งพล่านนางสนมราวกับถูกดึงดูดด้วยเสน่ห์อันล้ำลึกของฉากที่พวกนางเฝ้าดู ร่างกายของพวกนางทั้งหมดรวม 100 ชีวิต นุ่งน้อยห่
หลังจากที่หวังเจียเหอ ฮ่องเต้ล้มป่วยและไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ตำหนักผีเสื้อซึ่งเคยเป็นสวนสวรรค์ของพระองค์ก็ขาดคนดูแล สถานที่นี้เต็มไปด้วยนางสนมร้อยกว่าคนที่มีลีลาในการร่วมรักที่สุดแสนจะร้อนแรงพวกนางถูกรวบรวมมาจากทั่วทั้งแผ่นดินไม่ว่าจะผิวพรรณหน้าตารวมไปถึงความหื่นกระหายของพวกนางนั้นนับว่าเป็นหนึ่งแม่ทัพฉินเย่เหวินได้เชิญนางสนมทั้งหมดให้ย้ายมาอยู่กับตนชายหนุ่มผู้มีพลังอำนาจมากที่สุดภายในเมืองหลวงแห่งนี้นั้นเป็นเขามีหรือที่พวกนางนั้นจะตอบปฏิเสธจวนของท่านแม่ทัพในยามนี้นั้นเปรียบเสมือนสวรรค์บนดินที่ไม่ว่าผู้ใดต่างก็อยากที่จะมาเยือนสักครั้งในกลุ่มนางสนมมีซูเหม่ยฉิงซึ่งเป็นอดีตภรรยาคนรักของแม่ทัพ ฉินเย่เหวิน นางได้กลับมาด้วยความเต็มใจเพื่อรับหน้าที่ในการดูแลแม่ทัพและรับผิดชอบในการให้ความสุขทางกายแก่เขา ซูเหม่ยฉิงมีลีลาที่เร่าร้อนและประสบการณ์อันลึกซึ้งจากอดีตที่ผ่านมา ความรักและราคะที่เคยมีต่อกันทำให้เธอเต็มใจและพร้อมที่จะรับภาระหนักในการรองรับความต้องการของชายผู้เป็นอดีตสามีของเธอคืนนี้ ซูเหม่ยฉิงได้เตรียมตัวอย่างดีด้วยการสวมใส่ชุดนอนบางเบาที่เผยให้เห็นรูปร่างอันเย้ายวนใจของเธออย่า
แม่ทัพฉินเย่เหวินได้สร้างผลงานที่น่าจดจำอีกครั้งด้วยการปราบจอมโจรที่มีชื่อเสียง จึงได้รับการเลื่อนขั้นจากตำแหน่งแม่ทัพเป็น "แม่ทัพใหญ่แห่งเมืองหลวง" การเลื่อนขั้นนี้เกิดขึ้นด้วยการสนับสนุนจากองฮองเฮาหลี่หวงซิน ซึ่งไม่เพียงแค่ให้การสนับสนุนด้านตำแหน่ง แต่ยังมอบจวนแม่ทัพหลังใหม่ที่มีขนาดใหญ่โตและกว้างขวางยิ่งกว่าเดิมจวนใหม่ของแม่ทัพฉินเย่เหวินตั้งอยู่ใกล้กับตำหนักขององฮองเฮาหลี่หวงซิน นางให้เหตุผลว่าการมีเขาใกล้ชิดจะทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจมากขึ้น เพราะเขาสามารถคอยปกป้องเธอและลูกได้ตลอดเวลา ความใกล้ชิดนี้ยังแสดงถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งฮ่องเต้เองก็ไม่ได้แสดงความไม่พอใจใด ๆ ต่อการเลื่อนขั้นและการมอบจวนใหม่ของแม่ทัพฉินเย่เหวิน เนื่องจากเขาตระหนักถึงความสำคัญและความสามารถของแม่ทัพหนุ่มในการรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของราชสำนักในช่วงกลางดึกของคืนหนึ่ง องฮองเฮาหลี่หวงซินได้แอบลอบเข้ามาภายในจวนหลังใหม่ของแม่ทัพฉินเย่เหวิน ความรู้สึกของนางที่ไม่อาจต้านทานความต้องการในใจ ทำให้นางตัดสินใจเดินทางจากตำหนักของตนไปยังจวนใหม่ของแม่ทัพหนุ่ม ซึ่งอยู่ห่างจากตำหนักของนางเพียงไม่กี่ก้าวค่ำคืนนี้ช
แม่ทัพฉินเย่เหวินจ้องมองเรือนร่างของนางโจรสาวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหลงใหล ร่างกายของเขาตอบสนองอย่างรวดเร็ว ท่อนเนื้อแข็งผงาดขึ้นมาด้วยความปรารถนา เขารู้สึกถึงความร้อนรุ่มที่กำลังแผ่กระจายไปทั่วร่างกาย หัวใจของเขาเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น ความคิดในใจเต็มไปด้วยภาพของนางที่ชัดเจนทุกอณู เนื้อหนังของนางที่อ่อนนุ่มและโค้งเว้าอย่างน่าหลงใหลทำให้เขาแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้บรรยากาศรอบกายเริ่มเปลี่ยนแปลง กลิ่นอายแห่งราคะค่อยๆ ลอยปกคลุมทั่วบริเวณ ความต้องการในใจของแม่ทัพหนุ่มผู้นี้ทวีความรุนแรงขึ้น เขารู้ดีว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้คือความพึงพอใจอย่างสุดขีดในเรือนร่างของนาง และไม่อาจหลบหนีจากเสน่ห์ที่นางมีต่อเขาได้เลยร่างกายของจอมโจรสาวเริ่มสั่นเทาด้วยความรู้สึกที่เธอไม่อาจควบคุมได้ เปลวไฟแห่งราคะกำลังลุกไหม้ไปทั่วร่างของเธอ หลังจากที่ดื่มชาที่มีส่วนผสมปลุกอารมณ์เข้าไป ความร้อนรุ่มก็เริ่มแผ่กระจายไปทั่วทุกส่วนของร่างกาย สายตาของเธอพร่ามัวด้วยแรงปรารถนา หัวใจเต้นระรัวราวกับจะหลุดออกจากอก ความคิดที่เคยเข้มแข็งและมุ่งมั่นของเธอถูกแทนที่ด้วยความต้องการที่รุนแรง เธอรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในตั
ในช่วงนี้ ทางตอนใต้ของเมืองหลวงต้องเผชิญกับภัยคุกคามจากจอมโจรภูเขาที่กำลังระบาดหนัก พวกมันปล้นฆ่าไม่เลือกหน้า สร้างความหวาดกลัวและความเดือดร้อนไปทั่วทั้งแถบ ชาวบ้านต่างต้องใช้ชีวิตอย่างหวาดผวาและไม่มีความสงบสุข แม่ทัพฉินเย่เหวิน ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะนักรบผู้เก่งกาจและกล้าหาญ จึงขออาสาออกไปปราบปรามโจรร้ายเหล่านี้ เพื่อสร้างผลงานและคืนความสงบสุขให้กับบ้านเมืองจอมโจรภูเขาเลือกตั้งฐานที่มั่นในพื้นที่ถิ่นทุรกันดาร เป็นดินแดนที่เข้าถึงได้ยากและเต็มไปด้วยภูมิประเทศที่ท้าทาย การเดินทางไปยังถิ่นของพวกมันจึงเต็มไปด้วยความยากลำบาก ทั้งเส้นทางที่คดเคี้ยวและอันตราย รวมถึงการต้องระมัดระวังการซุ่มโจมตีจากพวกโจรที่ชำนาญพื้นที่แม่ทัพฉินเย่เหวินไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขานำกำลังพลติดตามไปเพียง 100 คน เป็นทหารที่เชี่ยวชาญและไว้วางใจได้ ความมุ่งมั่นในสายตาของแม่ทัพหนุ่มฉายชัด เขารู้ดีว่านี่เป็นโอกาสที่จะสร้างผลงานและแสดงให้เห็นถึงความสามารถของเขาอีกครั้งเมื่อออกเดินทางเข้าสู่พื้นที่อันทุรกันดาร กองกำลังของแม่ทัพฉินเย่เหวินต้องเผชิญกับเส้นทางที่ยากลำบาก ฝ่าดงพงไพรและข้ามภูเขาที่สูงชัน แม้ความเหน็ดเหนื่อยจ
ในวังหลวงที่ถูกปิดบังด้วยกำแพงสูงตระหง่านและเงาของราชบัลลังก์ ความลับที่ซุกซ่อนอยู่ใต้ความสง่างามขององฮองเฮาหลี่หวงซินนั้นกลายเป็นสิ่งที่ไม่มีใครล่วงรู้ แม่ทัพฉินเย่เหวิน ผู้เป็นดั่งยอดฝีมือในสนามรบ กลับพ่ายแพ้ต่อเสน่ห์ของนางผู้เลอโฉม ทั้งสองแอบมีสัมพันธ์ลับอันเร่าร้อนซึ่งถูกปิดซ่อนไว้ในม่านความลับในช่วงที่แม่ทัพฉินเย่เหวินทำหน้าที่สอนวิชาเชิงดาบให้กับองค์ชายหวังอี้เฟิง เขาไม่อาจหักห้ามใจจากการพบปะกับนางได้ ทุกครั้งที่หยุดพัก ทั้งสองจะพากันหายลับไปยังมุมอันเงียบสงบของพระราชวัง ดวงตาของพวกเขามักเต็มไปด้วยความปรารถนา มันแผดเผาใจทำให้พวกเขาไม่อาจละสายตาจากกันได้นับวันผิวพรรณของหลี่หวงซินยิ่งงดงามขึ้น ดวงตาเป็นประกายสดใส ผิวเนียนนุ่มดั่งผลท้ออ่อน นางดูเปล่งปลั่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ความลับของความงามนี้อยู่ที่ไฟราคะอันร้อนแรงของแม่ทัพหนุ่มผู้ไม่เคยพ่ายแพ้ต่อศึกใด ไม่เว้นแม้แต่ศึกรักก็เช่นกันเขามักจะอัดฉีดน้ำกามของตนเข้าไปภายในเรือนร่างของนางทุกครั้งเพื่อที่จะแสดงความเป็นเจ้าของ“อ๊า...ข้าเสียวเหรอเกิน” องฮองเฮาหลี่หวงซิน กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความพึงพอใจยามที่น้ำกามของชู้รั







