LOGINหลังจากที่หวังเจียเหอ ฮ่องเต้ล้มป่วยและไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ตำหนักผีเสื้อซึ่งเคยเป็นสวนสวรรค์ของพระองค์ก็ขาดคนดูแล สถานที่นี้เต็มไปด้วยนางสนมร้อยกว่าคนที่มีลีลาในการร่วมรักที่สุดแสนจะร้อนแรงพวกนางถูกรวบรวมมาจากทั่วทั้งแผ่นดินไม่ว่าจะผิวพรรณหน้าตารวมไปถึงความหื่นกระหายของพวกนางนั้นนับว่าเป็นหนึ่ง
แม่ทัพฉินเย่เหวินได้เชิญนางสนมทั้งหมดให้ย้ายมาอยู่กับตนชายหนุ่มผู้มีพลังอำนาจมากที่สุดภายในเมืองหลวงแห่งนี้นั้นเป็นเขามีหรือที่พวกนางนั้นจะตอบปฏิเสธจวนของท่านแม่ทัพในยามนี้นั้นเปรียบเสมือนสวรรค์บนดินที่ไม่ว่าผู้ใดต่างก็อยากที่จะมาเยือนสักครั้ง
ในกลุ่มนางสนมมีซูเหม่ยฉิงซึ่งเป็นอดีตภรรยาคนรักของแม่ทัพ ฉินเย่เหวิน นางได้กลับมาด้วยความเต็มใจเพื่อรับหน้าที่ในการดูแลแม่ทัพและรับผิดชอบในการให้ความสุขทางกายแก่เขา ซูเหม่ยฉิงมีลีลาที่เร่าร้อนและประสบการณ์อันลึกซึ้งจากอดีตที่ผ่านมา ความรักและราคะที่เคยมีต่อกันทำให้เธอเต็มใจและพร้อมที่จะรับภาระหนักในการรองรับความต้องการของชายผู้เป็นอดีตสามีของเธอ
คืนนี้ ซูเหม่ยฉิงได้เตรียมตัวอย่างดีด้วยการสวมใส่ชุดนอนบางเบาที่เผยให้เห็นรูปร่างอันเย้ายวนใจของเธออย่างชัดเจน เมื่อเธอเข้าไปในห้องนอนของแม่ทัพ ฉินเย่เหวิน การประสานกันของพวกเขาเป็นสิ่งที่สมบูรณ์แบบด้วยการแสดงออกถึงความรักและความต้องการที่ไม่เคยลดน้อยลง
ซูเหม่ยฉิงใช้ท่าทางและลีลาที่เธอฝึกฝนมาอย่างดีในการตอบสนองความต้องการของแม่ทัพฉินเย่เหวิน พร้อมกับสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความหลงใหลและอารมณ์ที่ยากจะอธิบาย ความเร่าร้อนในคืนนี้เป็นสิ่งที่พิสูจน์ถึงความรักและความสัมพันธ์ที่ไม่สิ้นสุดระหว่างทั้งสอง แม้ว่าอดีตจะเคยทำให้พวกเขาแยกจากกัน แต่ตอนนี้พวกเขากลับมารวมกันอย่างเต็มที่ในคืนที่อัดแน่นไปด้วยความร้อนแรงและความรักที่ยังคงหลอมรวมกันอย่างลึกซึ้ง
“ท่านแม่ทัพ ข้ารักท่าน....”
ซูเหม่ยฉิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความครวญคราง ความรู้สึกที่เธอมีต่อแม่ทัพฉินเย่เหวินนั้นแทบจะสะท้อนออกมาเป็นแรงดึงดูดและความหลงใหลที่เธอไม่สามารถซ่อนเร้นได้
แม่ทัพฉินเย่เหวินมองดูซูเหม่ยฉิงด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาและคาดหวัง เขาพูดขึ้นด้วยเสียงที่หนักแน่นและเต็มไปด้วยอำนาจ
“งั้นเจ้าก็จงพิสูจน์ความรักของเจ้าด้วยการทำให้ข้าผู้นี้รู้สึกพึงพอใจมากที่สุด ข้าต้องการให้เจ้าปลดปล่อยความรู้และทักษะที่เจ้ามีลงที่เรือนร่างของข้า”
คำพูดของเขากระตุ้นความรู้สึกของซูเหม่ยฉิงอย่างมาก นางรู้ว่าภาระนี้เป็นสิ่งที่ท้าทายและสำคัญอย่างยิ่ง ด้วยความรู้สึกอันร้อนแรงและความรักที่ไม่อาจห้ามปรามได้ ซูเหม่ยฉิงจึงเริ่มทำตามคำสั่งของเขาอย่างเต็มที่
เธอค่อยๆ เข้าหาแม่ทัพฉินเย่เหวินด้วยท่าทางอันอ่อนโยนและเร่าร้อน มือของเธอสัมผัสกับผิวของเขาด้วยความระมัดระวังและเต็มไปด้วยความรัก ท่าทางของนางมีความชำนาญและละเอียดลออ ขณะที่เธอปลดปล่อยทักษะที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี เพื่อมอบประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจให้กับแม่ทัพฉินเย่เหวิน
เสียงร้องครวญครางของซูเหม่ยฉิงนั้นเต็มไปด้วยความอ่อนไหวและความเร่าร้อนที่สะท้อนถึงความรักที่ลึกซึ้ง เธอไม่ได้สามารถเก็บอารมณ์ของตัวเองไว้ได้อีกต่อไป เสียงนั้นกลายเป็นเสียงที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นและความพอใจ ซึ่งทำให้แม่ทัพฉินเย่เหวินหลงใหลอย่างลึกซึ้ง
รูปร่างที่เปลือยเปล่าของซูเหม่ยฉิงนั้นเต็มไปด้วยความเย้ายวนใจและความงดงาม ซึ่งทำให้แม่ทัพฉินเย่เหวินไม่สามารถหักห้ามตัวเองได้ เขาเริ่มละเลียดและดูดดื่มกับเรือนร่างของเธอราวกับมันเป็นขนมหวานอันแสนอร่อย การสัมผัสของเขาเต็มไปด้วยความรักและความปรารถนา ทำให้ซูเหม่ยฉิงรู้สึกถึงความอบอุ่นและความสุขที่ลึกซึ้ง
ทุกการสัมผัสและการกระทำของแม่ทัพฉินเย่เหวินทำให้สติของซูเหม่ยฉิงเกือบจะหลุดลอยไปในดินแดนสวรรค์ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นนั้นเต็มไปด้วยความสุขและความร้อนแรงที่ยากจะบรรยาย
แม่ทัพฉินเย่เหวินแสดงถึงความร้อนแรงและความกระตือรือร้นในทุกการเคลื่อนไหวของเขา ขณะที่เขาเข้ามาสัมผัสกับซูเหม่ยฉิง การสอดใส่ของเขาทำให้ร่างกายของนางสั่นสะท้านด้วยความรู้สึกที่ท่วมท้นและเข้มข้น ซูเหม่ยฉิงรู้สึกถึงความรุนแรงและหนักหน่วงที่มาจากแม่ทัพราวกับว่าเขามีความต้องการที่ไม่ได้รับการตอบสนองมานาน
แม้ว่าจะมีความรู้สึกที่มากมายและหลากหลาย ซูเหม่ยฉิงก็รับรู้ถึงความรักและความพอใจที่แม่ทัพฉินเย่เหวินมอบให้ด้วยความเต็มใจ ท่ามกลางความเร่าร้อนและความหลงใหลที่พวกเขามีต่อกัน ทุกการเคลื่อนไหวของแม่ทัพฉินเย่เหวินสะท้อนถึงความกระหายที่เขามีต่อนาง
พร๊วดดด ร่างกายของนางนั้นถึงกับสั่นกระตุกตามน้ำราคะของท่านแม่ทัพที่ปลดปล่อยออกมา นางเสียวสะท้านจนจิตวิญญาณของนางนั้นแทบที่จะออกจากร่างไฟราคะที่อัดอั้นมานานถูกระบายออกมาอย่างช้าๆหลงเหลือแต่เพียงความรักความอบอุ่น
แม่ทัพฉินเย่เหวินโอบกอดเรือนร่างของซูเหม่ยฉิงอย่างอบอุ่นและเต็มไปด้วยความรัก คำพูดของเขาแฝงไปด้วยความรู้สึกที่ลึกซึ้ง:
"ต่อไปนี้เจ้าห้ามทิ้งข้าไปไหนนะ"
ซูเหม่ยฉิงซุกตัวแนบกับหน้าอกของเขา มือของนางค่อยๆ ลูบไล้ไปตามเรือนร่างของแม่ทัพอย่างอ่อนโยนและเต็มไปด้วยความรัก นางตอบกลับด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความหมายและความเย้ายวน
"ต่อไปนี้ทั้งตัวและหัวใจของข้าจะเป็นของท่านแม่ทัพแต่เพียงผู้เดียว"
นางกระกบริมฝีปากกับเขาอย่างเร่าร้อน ราวกับว่านี่คือคำมั่นสัญญาที่แสดงถึงความรักและความภักดีที่มีต่อกัน ทั้งคู่สื่อสารความรู้สึกที่ลึกซึ้งผ่านการสัมผัสและการแลกเปลี่ยนความรัก ทำให้ช่วงเวลานี้เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความพึงพอใจ
อดีตนางสนมที่อาศัยอยู่ในตำหนักผีเสื้อทุกคนล้วนมีราคะที่ร้อนแรงและเย้ายวนใจเป็นพิเศษ ความร้อนแรงและท่าทางที่เต็มไปด้วยความปรารถนาของพวกนางทำให้แม่ทัพฉินเย่เหวินไม่เคยรู้สึกเบื่อหน่ายหรือเหนื่อยหน่าย ความพึงพอใจที่เขาได้รับจากการอยู่ใกล้ชิดกับพวกนางนั้นเป็นสิ่งที่เติมเต็มความต้องการและความหลงใหลของเขา
ท่ามกลางความร้อนแรงและความเร่าร้อนนี้ แม่ทัพฉินเย่เหวินรู้สึกว่าความรู้สึกที่ได้รับเป็นเหมือนสิ่งตอบแทนที่เขาได้รับจากหวังเจียเหอ ฮ่องเต้ หลังจากที่ฮ่องเต้คนนี้กล้าแย่งชิงคนรักของเขาไป
หลังจากที่หวังเจียเหอ ฮ่องเต้ ประสบความเจ็บป่วยอย่างหนัก องค์ฮองเฮาหลี่หวงซินได้ตัดสินใจทุบกำแพงที่แยกตำหนักส่วนตัวของนางกับจวนของแม่ทัพฉินเย่เหวิน และสร้างพื้นที่ร่วมกันใหม่ ด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัย นางได้แปลงตำหนักของนางให้กลายเป็นสถานที่ที่คล้ายหลุดออกจากโลกภายนอกพื้นที่ในตำหนักของนางถูกปกคลุมด้วยความลับและความเย้ายวนใจ ไม่มีข้อบังคับทางศีลธรรมมาขวางกั้น ความหลงใหลและความปรารถนาของนางกับแม่ทัพหนุ่มจึงถูกปลดปล่อยอย่างเต็มที่ ทุกวัน แม่ทัพฉินเย่เหวินจะมอบความเร่าร้อนและความพึงพอใจให้แก่องค์ฮองเฮาอย่างดุเดือด นางร้องครวญครางด้วยความสุขจนเต็มอิ่มเสียงครางจากองค์ฮองเฮาดังขึ้น "ท่านแม่ทัพ แรงอีก แรงอีก ข้าเสียวจนข้าจะไม่ไหวอยู่แล้ว" นางร้องออกมาด้วยความรู้สึกอันร้อนแรงและเต็มไปด้วยความพอใจในขณะที่ภาพความรักอันร้อนแรงเผยออกมา ภายในตำหนักที่เปล่าเปลือยแห่งนี้ นางสนมจากตำหนักผีเสื้อยืนอยู่ด้วยความหลงใหลและชื่นชม การมองดูฉากนี้ราวกับเป็นการแสดงถึงความงดงามและอารมณ์ที่พลุ่งพล่านนางสนมราวกับถูกดึงดูดด้วยเสน่ห์อันล้ำลึกของฉากที่พวกนางเฝ้าดู ร่างกายของพวกนางทั้งหมดรวม 100 ชีวิต นุ่งน้อยห่
หลังจากที่หวังเจียเหอ ฮ่องเต้ล้มป่วยและไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ตำหนักผีเสื้อซึ่งเคยเป็นสวนสวรรค์ของพระองค์ก็ขาดคนดูแล สถานที่นี้เต็มไปด้วยนางสนมร้อยกว่าคนที่มีลีลาในการร่วมรักที่สุดแสนจะร้อนแรงพวกนางถูกรวบรวมมาจากทั่วทั้งแผ่นดินไม่ว่าจะผิวพรรณหน้าตารวมไปถึงความหื่นกระหายของพวกนางนั้นนับว่าเป็นหนึ่งแม่ทัพฉินเย่เหวินได้เชิญนางสนมทั้งหมดให้ย้ายมาอยู่กับตนชายหนุ่มผู้มีพลังอำนาจมากที่สุดภายในเมืองหลวงแห่งนี้นั้นเป็นเขามีหรือที่พวกนางนั้นจะตอบปฏิเสธจวนของท่านแม่ทัพในยามนี้นั้นเปรียบเสมือนสวรรค์บนดินที่ไม่ว่าผู้ใดต่างก็อยากที่จะมาเยือนสักครั้งในกลุ่มนางสนมมีซูเหม่ยฉิงซึ่งเป็นอดีตภรรยาคนรักของแม่ทัพ ฉินเย่เหวิน นางได้กลับมาด้วยความเต็มใจเพื่อรับหน้าที่ในการดูแลแม่ทัพและรับผิดชอบในการให้ความสุขทางกายแก่เขา ซูเหม่ยฉิงมีลีลาที่เร่าร้อนและประสบการณ์อันลึกซึ้งจากอดีตที่ผ่านมา ความรักและราคะที่เคยมีต่อกันทำให้เธอเต็มใจและพร้อมที่จะรับภาระหนักในการรองรับความต้องการของชายผู้เป็นอดีตสามีของเธอคืนนี้ ซูเหม่ยฉิงได้เตรียมตัวอย่างดีด้วยการสวมใส่ชุดนอนบางเบาที่เผยให้เห็นรูปร่างอันเย้ายวนใจของเธออย่า
แม่ทัพฉินเย่เหวินได้สร้างผลงานที่น่าจดจำอีกครั้งด้วยการปราบจอมโจรที่มีชื่อเสียง จึงได้รับการเลื่อนขั้นจากตำแหน่งแม่ทัพเป็น "แม่ทัพใหญ่แห่งเมืองหลวง" การเลื่อนขั้นนี้เกิดขึ้นด้วยการสนับสนุนจากองฮองเฮาหลี่หวงซิน ซึ่งไม่เพียงแค่ให้การสนับสนุนด้านตำแหน่ง แต่ยังมอบจวนแม่ทัพหลังใหม่ที่มีขนาดใหญ่โตและกว้างขวางยิ่งกว่าเดิมจวนใหม่ของแม่ทัพฉินเย่เหวินตั้งอยู่ใกล้กับตำหนักขององฮองเฮาหลี่หวงซิน นางให้เหตุผลว่าการมีเขาใกล้ชิดจะทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจมากขึ้น เพราะเขาสามารถคอยปกป้องเธอและลูกได้ตลอดเวลา ความใกล้ชิดนี้ยังแสดงถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งฮ่องเต้เองก็ไม่ได้แสดงความไม่พอใจใด ๆ ต่อการเลื่อนขั้นและการมอบจวนใหม่ของแม่ทัพฉินเย่เหวิน เนื่องจากเขาตระหนักถึงความสำคัญและความสามารถของแม่ทัพหนุ่มในการรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของราชสำนักในช่วงกลางดึกของคืนหนึ่ง องฮองเฮาหลี่หวงซินได้แอบลอบเข้ามาภายในจวนหลังใหม่ของแม่ทัพฉินเย่เหวิน ความรู้สึกของนางที่ไม่อาจต้านทานความต้องการในใจ ทำให้นางตัดสินใจเดินทางจากตำหนักของตนไปยังจวนใหม่ของแม่ทัพหนุ่ม ซึ่งอยู่ห่างจากตำหนักของนางเพียงไม่กี่ก้าวค่ำคืนนี้ช
แม่ทัพฉินเย่เหวินจ้องมองเรือนร่างของนางโจรสาวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหลงใหล ร่างกายของเขาตอบสนองอย่างรวดเร็ว ท่อนเนื้อแข็งผงาดขึ้นมาด้วยความปรารถนา เขารู้สึกถึงความร้อนรุ่มที่กำลังแผ่กระจายไปทั่วร่างกาย หัวใจของเขาเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น ความคิดในใจเต็มไปด้วยภาพของนางที่ชัดเจนทุกอณู เนื้อหนังของนางที่อ่อนนุ่มและโค้งเว้าอย่างน่าหลงใหลทำให้เขาแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้บรรยากาศรอบกายเริ่มเปลี่ยนแปลง กลิ่นอายแห่งราคะค่อยๆ ลอยปกคลุมทั่วบริเวณ ความต้องการในใจของแม่ทัพหนุ่มผู้นี้ทวีความรุนแรงขึ้น เขารู้ดีว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้คือความพึงพอใจอย่างสุดขีดในเรือนร่างของนาง และไม่อาจหลบหนีจากเสน่ห์ที่นางมีต่อเขาได้เลยร่างกายของจอมโจรสาวเริ่มสั่นเทาด้วยความรู้สึกที่เธอไม่อาจควบคุมได้ เปลวไฟแห่งราคะกำลังลุกไหม้ไปทั่วร่างของเธอ หลังจากที่ดื่มชาที่มีส่วนผสมปลุกอารมณ์เข้าไป ความร้อนรุ่มก็เริ่มแผ่กระจายไปทั่วทุกส่วนของร่างกาย สายตาของเธอพร่ามัวด้วยแรงปรารถนา หัวใจเต้นระรัวราวกับจะหลุดออกจากอก ความคิดที่เคยเข้มแข็งและมุ่งมั่นของเธอถูกแทนที่ด้วยความต้องการที่รุนแรง เธอรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในตั
ในช่วงนี้ ทางตอนใต้ของเมืองหลวงต้องเผชิญกับภัยคุกคามจากจอมโจรภูเขาที่กำลังระบาดหนัก พวกมันปล้นฆ่าไม่เลือกหน้า สร้างความหวาดกลัวและความเดือดร้อนไปทั่วทั้งแถบ ชาวบ้านต่างต้องใช้ชีวิตอย่างหวาดผวาและไม่มีความสงบสุข แม่ทัพฉินเย่เหวิน ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะนักรบผู้เก่งกาจและกล้าหาญ จึงขออาสาออกไปปราบปรามโจรร้ายเหล่านี้ เพื่อสร้างผลงานและคืนความสงบสุขให้กับบ้านเมืองจอมโจรภูเขาเลือกตั้งฐานที่มั่นในพื้นที่ถิ่นทุรกันดาร เป็นดินแดนที่เข้าถึงได้ยากและเต็มไปด้วยภูมิประเทศที่ท้าทาย การเดินทางไปยังถิ่นของพวกมันจึงเต็มไปด้วยความยากลำบาก ทั้งเส้นทางที่คดเคี้ยวและอันตราย รวมถึงการต้องระมัดระวังการซุ่มโจมตีจากพวกโจรที่ชำนาญพื้นที่แม่ทัพฉินเย่เหวินไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขานำกำลังพลติดตามไปเพียง 100 คน เป็นทหารที่เชี่ยวชาญและไว้วางใจได้ ความมุ่งมั่นในสายตาของแม่ทัพหนุ่มฉายชัด เขารู้ดีว่านี่เป็นโอกาสที่จะสร้างผลงานและแสดงให้เห็นถึงความสามารถของเขาอีกครั้งเมื่อออกเดินทางเข้าสู่พื้นที่อันทุรกันดาร กองกำลังของแม่ทัพฉินเย่เหวินต้องเผชิญกับเส้นทางที่ยากลำบาก ฝ่าดงพงไพรและข้ามภูเขาที่สูงชัน แม้ความเหน็ดเหนื่อยจ
ในวังหลวงที่ถูกปิดบังด้วยกำแพงสูงตระหง่านและเงาของราชบัลลังก์ ความลับที่ซุกซ่อนอยู่ใต้ความสง่างามขององฮองเฮาหลี่หวงซินนั้นกลายเป็นสิ่งที่ไม่มีใครล่วงรู้ แม่ทัพฉินเย่เหวิน ผู้เป็นดั่งยอดฝีมือในสนามรบ กลับพ่ายแพ้ต่อเสน่ห์ของนางผู้เลอโฉม ทั้งสองแอบมีสัมพันธ์ลับอันเร่าร้อนซึ่งถูกปิดซ่อนไว้ในม่านความลับในช่วงที่แม่ทัพฉินเย่เหวินทำหน้าที่สอนวิชาเชิงดาบให้กับองค์ชายหวังอี้เฟิง เขาไม่อาจหักห้ามใจจากการพบปะกับนางได้ ทุกครั้งที่หยุดพัก ทั้งสองจะพากันหายลับไปยังมุมอันเงียบสงบของพระราชวัง ดวงตาของพวกเขามักเต็มไปด้วยความปรารถนา มันแผดเผาใจทำให้พวกเขาไม่อาจละสายตาจากกันได้นับวันผิวพรรณของหลี่หวงซินยิ่งงดงามขึ้น ดวงตาเป็นประกายสดใส ผิวเนียนนุ่มดั่งผลท้ออ่อน นางดูเปล่งปลั่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ความลับของความงามนี้อยู่ที่ไฟราคะอันร้อนแรงของแม่ทัพหนุ่มผู้ไม่เคยพ่ายแพ้ต่อศึกใด ไม่เว้นแม้แต่ศึกรักก็เช่นกันเขามักจะอัดฉีดน้ำกามของตนเข้าไปภายในเรือนร่างของนางทุกครั้งเพื่อที่จะแสดงความเป็นเจ้าของ“อ๊า...ข้าเสียวเหรอเกิน” องฮองเฮาหลี่หวงซิน กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความพึงพอใจยามที่น้ำกามของชู้รั







