แชร์

บทที่ 1132

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
หลังจากที่เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้ความจริงเรื่องที่เซียวอวี้รับนางกลับมา เป็นเพราะกลัวว่านางจะไปแคว้นซีหนี่ว์แล้วไม่กลับมาอีก ก็นิ่งเงียบอยู่นาน

ขณะที่เซียวอวี้กำลังครุ่นคิดว่าจะยอมรับผิดอย่างไร จู่ ๆ นางก็จุมพิตเบา ๆ ที่ริมฝีปากเขา

เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

เฟิ่งจิ่วเหยียนก้มลงจุมพิตเขาอีกครั้ง การกระทำดูนุ่มนวล เต็มไปด้วยความรู้สึกปลอบโยน

“เรื่องนี้ไม่อาจตำหนิท่านได้ ท่านไม่เชื่อ เป็นเพราะหม่อมฉันให้ความเชื่อมั่นกับท่านไม่มากพอ

“ถานไถเหยี่ยนมีทักษะในการพูด และมักจะทำให้คนหลงเชื่อได้ง่าย

“ทว่า ฝ่าบาท หม่อมฉันจะบอกท่านให้ชัดเจนว่า ในใจของหม่อมฉัน ที่ที่มีคนในครอบครัวอยู่ ที่นั่นถึงจะเป็นบ้าน

“ท่านเป็นสามีของหม่อมฉัน แม้จะไม่ใช่เครือญาติที่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด แต่ท่านเป็นคนสำคัญที่สุดในชีวิตที่เหลืออยู่ต่อจากนี้ของหม่อมฉัน

“ต่อให้แคว้นซีหนี่ว์จะดีเพียงใด ก็ยังไม่สำคัญเท่ากับท่าน”

เซียวอวี้นิ้วมือสั่นเทา

“จริงหรือ?”

ในแววตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่แน่ใจ จึงถามอีกครั้ง: “เราเป็นคนสำคัญที่สุดในชีวิตเจ้าจริง ๆ หรือ?”

เฟิ่งจิ่วเหยียนถามกลับ: “ไม่ใช่ท่าน แล้วจะเป็นใครได้เพคะ?”

เรื่
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Orawin
ซับซ้อนดีแท้ สนุกมาก แต่งเก่งจริง ๆ
goodnovel comment avatar
T
พูดคำพวกนี้บ้างแบบนี้แหละ เต้ใจฟูทะลุจักรวาลแล้ว
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1133

    ก่อนหน้านี้เฟิ่งจิ่วเหยียนเคยสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับบันทึกบรรพบุรุษของตระกูลมู่หรง จึงเคยเห็นภาพวาดนี้มาก่อน ตามบันทึกกล่าวไว้ว่า ปฐมจักรพรรดิทรงขยายดินแดนรวบรวมแผ่นดิน โดยได้รับการสนับสนุนจากมู่หรงจ่างจี๋ที่ยอมสละยุทธสัมภาระ มู่หรงจ่างจี๋ในวัยเพียงสี่สิบ ดำรงตำแหน่งอัครเสนาบดีได้ไม่ถึงสามปี ก็จากโลกนี้ไปตลอดกาล ภาพบุคคลที่อยู่เบื้องหลังที่ตงฟางซื่อวาดขึ้นมาในตอนนี้ ใบหน้าคล้ายคลึงกับมู่หรงจ่างจี๋อย่างมาก เซียวอวี้ก็นำภาพวาดมาเทียบกัน เขามองภาพวาดในมือ แล้วก็มองภาพวาดที่บันทึกไว้ ถึงจะไม่เหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว แต่ก็มีความคล้ายถึงเก้าส่วนจากสิบ! เขาสบตากับเฟิ่งจิ่วเหยียน “อาจเป็นเพียงคนหน้าคล้ายกัน หรือไม่ก็อาจเป็นบุตรนอกสมรสของตระกูลมู่หรงที่ถูกทอดทิ้งไว้ข้างนอก”อย่างไรก็ตาม เขาไม่เชื่อว่ามู่หรงจ่างจี๋จะยังมีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนเดินทางท่องยุทธภพมานาน เคยพบเจอเรื่องราวประหลาดมามากมาย ที่แคว้นฉู่มีชายชราท่านหนึ่ง อายุมากถึงสามร้อยกว่าปี นักพรตอาวุโสของสำนักเทพยุทธ์ มีอายุยืนยาวถึงสองร้อยสิบเจ็ดปี แคว้นหนานฉีสถาปนาราชวงศ์มายาวนานกว่าสองร้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1134

    เซียวอวี้ตามความคิดของเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ทัน เมื่อครู่ยังพูดถึงมู่หรงจ่างจี๋อยู่แท้ ๆ ทำไมตอนนี้ถึงวกไปพูดถึงปฐมจักรพรรดิได้? ทว่าเขาก็ยังตอบนาง “ไท่จู่ฝังที่สุสานตะวันออก” เพื่อป้องกันการถูกปล้นสุสาน สุสานปฐมจักรพรรดิมีทั้งหมดสิบสามแห่ง ล้วนมีเวรยามคอยเฝ้าปกป้องแน่นหนา ความจริง ทั้งสิบสามแห่งนั้นล้วนเป็นของปลอม สถานที่ฝังพระศพที่แท้จริง มีเพียงจักรพรรดิในแต่ละยุคเท่านั้นที่ล่วงรู้ เฟิ่งจิ่วเหยียนนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ฝ่าบาท ทรงเปิดสุสานได้หรือไม่เพคะ?” เซียวอวี้ขมวดคิ้วทันที“ไม่ได้” ปฐมจักรพรรดิเสด็จสวรรคตไปนานแล้ว เขาจะทำลายความสงบของท่านได้อย่างไร เฟิ่งจิ่วเหยียนก็เข้าใจ คำขอนี้ทำให้เขาลำบากใจ ทว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความจริงของคดีมนุษย์โอสถ นางพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ผู้ที่ต้องการมีชีวิตอมตะที่แท้จริง อาจไม่ใช่มู่หรงจ่างจี๋ แต่เป็นปฐมจักรพรรดิ” เซียวอวี้ตกตะลึงอย่างมาก อ้าปากเล็กน้อย “จิ่วเหยียน เจ้าพูดจาเลอะเลือน “เจ้าหมายความว่า คนที่อยู่เบื้องหลังคดีมนุษย์โอสถ คือปฐมจักรพรรดิอย่างนั้นหรือ?” เรื่องนี

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1135

    ปลายเดือนสี่ คดีมนุษย์โอสถจบลงในที่สุด ผู้บงการตัวจริงคือมู่หรงสวี้ ส่วนคนอื่น ๆ ในตระกูลมู่หรงล้วนพ้นผิด เหล่าสมาชิกของขบวนการมนุษย์โอสถ ล้วนถูกตัดสินโทษประหาร รอการลงดาบในฤดูใบไม้ร่วง เมื่อข่าวแพร่ออกไป ชาวบ้านต่างพากันพูดถึงเรื่องนี้ไม่ขาดปาก “ในที่สุด เรื่องนี้ก็จบลงสักที!”“ศาลต้าหลี่ทำคดีเก่งกาจยิ่งนัก!” “เรื่องฉาวโฉ่ของตระกูลมู่หรงช่างมีมากมายจริง ๆ หากพูดว่าคนอื่น ๆ ในตระกูลไม่เกี่ยวข้อง ข้าไม่เชื่อเด็ดขาด” “ข้าก็คิดเช่นนี้ ไม่แน่มู่หรงสวี้อาจเป็นแค่แพะรับบาป!” อย่างไรเสีย เมื่อความจริงถูกเปิดเผย ทุกคนก็กลับมาใช้ชีวิตปกติอีกครั้ง ไม่ต้องหวาดกลัวว่าจะถูกลักพาตัวไปทำมนุษย์โอสถอีกต่อไป ภายใต้แสงตะวัน ทุกสิ่งยังคงดำเนินไป ต้นเดือนห้า เมืองหลวงเกิดข่าวลือใหม่ ตามโรงน้ำชาและโรงสุรา ผู้คนต่างพากันพูดคุยถึงเรื่องที่กำลังเป็นที่สนใจ “พวกเจ้ารู้หรือไม่ เมื่อหลายวันก่อนมีนักพรตผู้หนึ่งเดินทางมาถึงเมืองหลวง บอกว่ามีวิชาทำให้มีชีวิตเป็นอมตะ ผู้คนพากันไปกราบไหว้จนธรณีประตูของเขาแทบพัง!” “ล้วนเป็นเรื่องเหลวไหล ในใต้หล้าจะมีชีวิตเป็นอมตะได้อย่างไรกัน” “ข้ายัง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1136

    นักพรตอาวุโสคนนั้น เป็นนักพรตปลอมที่เฟิ่งจิ่วเหยียนจัดหามา เขาเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาจากแคว้นฉู่ ทว่ามีอายุยืนยาวสามร้อยกว่าปีเป็นเรื่องจริง ใช้แผนการนี้ เพียงเพื่อล่อตัวการของคดีมนุษย์โอสถ เพราะนางสันนิษฐานว่า เป้าหมายสูงสุดของคนผู้นั้น คือการมีชีวิตเป็นอมตะ ดังนั้น คราวนี้จะต้องประสบความสำเร็จให้จงได้ เฟิ่งจิ่วเหยียนใจเต้นระส่ำ กระสับกระส่ายไม่เป็นสุข เซียวอวี้พูดเตือนนาง “ยาเย็นหมดแล้ว ดื่มยาเสียก่อน” ……ค่ำคืนล่วงเลยไป มีข่าวจากข้างนอกวังมารายงาน...ตามหานักพรตอาวุโสคนนั้นเจอแล้ว เมื่อเซียวอวี้กับเฟิ่งจิ่วเหยียนได้ยินข่าวนี้ ต่างก็รู้ว่าต้องมีอีกข่าวหนึ่งตามมาด้วย “ฝ่าบาท พวกหยิ่นเอ้อร์ได้จับตัวคนร้ายไว้แล้วพ่ะย่ะค่ะ บัดนี้กำลังนำตัวไปยังคุกเทียนเหลาเพื่อสอบสวนพ่ะย่ะค่ะ!” อารมณ์เซียวอวี้กระวนกระวาย เขาร้อนรุ่มใจ อยากรู้ความจริงเป็นอย่างไรกันแน่ ไม่อาจทนรอจนถึงรุ่งสาง เขากับเฟิ่งจิ่วเหยียนรีบมุ่งหน้าไปยังคุกเทียนเหลาทันที ครึ่งชั่วยามต่อมา ภายในคุกเทียนเหลา พวกเขาได้เจอคนที่ลักพาตัวนักพรตอาวุโสเฒ่าไป และเป็นไปได้สูงว่านี่คือผู้อยู่เบื้องหลัง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1137

    เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดต่อไป “ความผิดข้อที่สอง ลอบปลงพระชนม์เชื้อพระวงศ์” มู่หรงจ่างจี๋ปฏิเสธเสียงแข็ง “ฮ่าๆ... เจ้าเด็กโง่เขลา พูดจาเหลวไหล! ฝ่าบาท แม้นต้องการให้ข้าตาย ก็ไม่เห็นต้องใส่ร้ายกันถึงเพียงนี้กระมัง!” สีหน้าของเขาดูแน่วแน่ไม่หวาดหวั่น ทว่า เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดตามตรง “คนที่เจ้าลอบสังหารคือ ผู้ใกล้ชิดปฐมจักรพรรดิในตอนนั้น” คำพูดนี้ แม้นแต่เซียวอวี้ยังต้องตกตะลึง มู่หรงจ่างจี๋เคยสังหารผู้ใดกัน? จิ่วเหยียนรู้เรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร? เวลานี้ มู่หรงจ่างจี๋กลับเงียบสงบผิดปกติ สายตาจับจ้องเฟิ่งจิ่วเหยียน “ฝ่าบาทเคยตรัสถึงหายนะจากศิลาทิพย์ นับจากสถาปนาแคว้นหนานฉี เหล่าผู้ใกล้ชิดปฐมจักรพรรดิต่างล้มตายอย่างลึกลับ ในเวลานั้นทุกคนเชื่อว่า เป็นเพราะคำสาปของศิลาทิพย์ แต่แท้จริงแล้ว คนเหล่านั้นถูกเจ้ามู่หรงจ่างจี๋ทำร้ายต่างหาก!” เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดออกมา นัยน์ตามู่หรงจ่างจี๋หดลงทันที น้ำเสียงของนางราบเรียบ ผู้คนรอบข้างกลับตื่นตระหนกร้อนรน “หากข้าคาดเดาไม่ผิด ตอนนั้นปฐมจักรพรรดิทรงประชวรนัก เจ้ามัวแต่แสวงหาวิธีเป็นอมตะ หลงมัวเมาในศาสตร์มาร ใช้เลือดของผู้ใกล้ชิดไท

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1138

    คำพูดของเฟิ่งจิ่วเหยียน กระตุ้นให้มู่หรงจ่างจี๋เผยธาตุแท้ออกมาอย่างหมดเปลือก เขาจับกรงประตูคุก ราวกับอยากฉีกคนที่ยืนอยู่ข้างนอกออกเป็นสองท่อน “เจ้าคนต่ำช้า! กล้าสาปแช่งไท่จู่อย่างนั้นรึ!” “หากไม่ใช่เพราะปฐมจักรพรรดิต่อสู้ก่อตั้งแผ่นดินนี้ขึ้นมา พวกเจ้ายังจะมีวันนี้ได้หรือ? “โดยเฉพาะเจ้า! เจ้าเด็กสกุลเซียว! หากเจ้ายังอยากให้ไท่จู่มีชีวิตอยู่ ก็รีบปล่อยข้าไปเสีย!” สีหน้าเซียวอวี้เยือกเย็น แววตาสงบนิ่ง “ปฐมจักรพรรดิ ตอนนี้อยู่ที่ใด” มู่หรงจ่างจี๋ไม่เชื่อใจเขา “ปล่อยข้าออกไป! มิฉะนั้น เจ้าจะกลายเป็นคนทรยศต่อแผ่นดิน!” น้ำเสียงเซียวอวี้สงบใจเย็น อดกลั้นอารมณ์ขุ่นเคืองไว้“หากไท่จู่ยังมีชีวิตอยู่ ย่อมเป็นเรื่องดี ทว่า เจ้าต้องบอกเรา พระองค์อยู่ที่ใดกันแน่!” มู่หรงจ่างจี๋จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเซียวอวี้ เขาครุ่นคิดอยู่นาน ก่อนจะเอ่ยสถานที่ออกมาในที่สุด...ภูเขาลิ่วจื่อ ภูเขาลิ่วจื่อแห่งนี้ ตั้งอยู่ในเมืองหลวง เซียวอวี้รีบนำคนเดินทางไปด้วยตนเองทันที เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่วางใจ เกรงว่ามู่หรงจ่างจี๋จะวางกับดักหรือซ่อนกลไกไว้ในภูเขาลิ่วจื่อ ดังนั้น นางจึงตัดสินใจต

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1139

    หลังจากหมอเทวดาเหยียนตรวจชีพจรให้มู่หรงจ่างจี๋ ก็พบว่าคนผู้นี้สุขภาพแข็งแรงกว่าคนแก่ทั่วไปมาก ไม่ได้มีป่วยร้ายแรงอะไร“ทูลฝ่าบาท ที่คนผู้นี้พูดเหลวไหลไปทั่ว น่าจะเพราะเป็นโรคความจำเสื่อม...”“ข้าไม่ได้บ้านะ! เจ้าต่างหากที่บ้า!” มู่หรงจ่างจี๋เถียงหมอเทวดาเหยียนกลับจากนั้นก็มุ่งไปหาเซียวอวี้“ไล่พวกเขาออกไปเร็วเข้า ข้าจะทำให้ปฐมจักรพรรดิฟื้นคืนชีพ! หากพลาดเวลาไป พวกเจ้าจะต้องถูกตัดหัว!”เซียวอวี้ไม่ได้สนใจมู่หรงจ่างจี๋ เพียงให้คนควบคุมตัวเขาเอาไว้ เขาจะได้ไม่วิ่งไปไหนมั่วซั่วหมอเทวดาเหยียนไม่ถือสาคนป่วยเขาพูดต่อ“โรคความจำเสื่อม เป็นโรคทางใจ“อาการป่วยประเภทนี้ ปกติแล้วสิ่งที่คิดจะส่งผลกระทบต่อสิ่งที่เห็นและได้ยิน อย่างเช่นเห็นภาพเพ้อฝันที่ไม่มีอยู่จริง หรือได้ยินเสียงที่ไม่มีอยู่จริง“สิ่งที่คนปกติเห็นคือกระดูกสีขาว เขากลับเห็นเป็นคนที่ยังมีชีวิตอยู่ แสดงให้เห็นว่าเขาถูกครอบงำด้วยความหมกมุ่นในใจของเขา อาการหนักจนรักษาไม่ได้แล้ว กระหม่อมจนปัญญา”หมอสามารถรักษาอาการบาดเจ็บภายนอกและภายในได้ ทว่าไม่อาจรักษาใจคนได้โดยเฉพาะความยึดติดที่มองไม่เห็น จับต้องไม่ได้เซียวอวี้มองไปย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1140

    ไทฮองไทเฮาอยากจะไปพบบรรพบุรุษที่คุกเทียนเหลา ทว่าฮ่องเต้ทรงมีคำสั่งว่า หากไม่ได้รับอนุญาตจากฮ่องเต้ ไม่ว่าใครก็เข้าเยี่ยมไม่ได้ด้วยเหตุนี้ ไทฮองไทเฮาจึงได้แต่ส่งคนเข้าไปรายงานในวังก่อนทว่าต่อให้ฮ่องเต้อนุญาต มู่หรงจ่างจี๋ผู้นั้นก็ไม่ยินดีจะพบคนอื่นเขาดึงดันที่จะเชื่อว่ายังมีหนทางช่วยปฐมจักรพรรดิได้ยามนี้ตนถูกขังไว้ที่คุกเทียนเหลา จึงร้อนใจยิ่ง“ฮ่องเต้น้อยอยู่ที่ไหน รีบเรียกเขามาพบข้า!”มู่หรงจ่างจี๋ไม่เห็นหัวเหล่าคนรุ่นหลังแม้แต่น้อยในสายตาของเขา แผ่นดินแคว้นหนานฉีนี้ เป็นเขาที่ช่วยปฐมจักรพรรดิรบชนะมา วีรบุรุษในใต้หล้านี้ เขายอมรับเพียงปฐมจักรพรรดิพระองค์เดียวเท่านั้นเด็กตระกูลเซียวนั่นนับเป็นตัวอะไร ถึงกับกล้าห้ามไม่ให้เขาช่วยปฐมจักรพรรดิ!มู่หรงจ่างจี๋ร้อนใจอยากรีบออกไป ทุกวันตะโกนว่าต้องการพบฝ่าบาทหารู้ไม่ว่าเพื่อที่จะให้มู่หรงจ่างจี๋ยอมรับความผิด เซียวอวี้จึงตั้งใจเมินเขาจนถึงวันที่ห้า ผู้คุมก็บอกมู่หรงจ่างจี๋ “ฝ่าบาทมีคำสั่ง หากเจ้าไม่สารภาพความผิดทั้งหมดออกมาพร้อมลงนาม เจ้าจะต้องอยู่ที่นี่ไปจนวันตาย!”มู่หรงจ่างจี๋โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ“เหิมเหริม! เหลวไหล! เขารู

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1214

    เฉินจี๋ได้รับการช่วยเหลือจากนายพรานผู้หนึ่ง ด้วยอาการบาดเจ็บรุนแรง กระทั่งตอนนี้ก็ยังหมดสติอยู่นี่จึงไม่น่าแปลกใจที่เขายังไม่ปรากฏตัว ที่แท้เป็นเพราะร่างกายไม่อาจเคลื่อนไหวได้นายพรานรู้ว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนกับคณะรู้จักกับเฉินจี๋ จึงรู้สึกโล่งใจ“ข้าลำบากใจจริง ๆ เพราะคิดว่านี่คือชีวิตคนคนหนึ่ง จึงไม่อาจทอดทิ้งได้ ทว่าจะรักษาอาการบาดเจ็บของเขา ข้าก็ต้องใช้เงิน...”ไม่รอให้นายพรานพูดจบ เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ส่งสัญญาณให้อู๋ไป๋นำเงินให้อู๋ไป๋ถนัดการจัดการเรื่องต่าง ๆ สักพักก็เริ่มคุ้นเคยกับนายพราน และเอ่ยขอบคุณอย่างสนิทสนม“พี่ชาย ขอบคุณจริง ๆ ที่เจ้าช่วยสหายข้าไว้! เงินเล็กน้อยนี้ไม่พอจะทดแทนคำขอบคุณได้! ใช่แล้ว เจ้ายังจำได้หรือไม่ว่า เจอสหายข้าที่ใด แล้วเขาได้รับบาดเจ็บอย่างไร? และเจอคนที่น่าสงสัยคนอื่นหรือไม่?“เจ้าอย่าเพิ่งเข้าใจผิด ข้าเพียงแค่อยากรู้ให้ชัดเจน ว่าผู้ใดทำร้ายสหายข้า บาปมีคนก่อหนี้ย่อมมีเจ้าหนี้”คำพูดของอู๋ไป๋ ล้วนเป็นความรู้สึกตามธรรมชาติของคนนายพรานลองคิดทบทวนอย่างละเอียดรอบหนึ่ง“ข้าช่วยเขาตรงริมแม่น้ำ ตอนนั้นไม่พบผู้อื่น ขอโทษจริง ๆ ที่ข้าช่วยพวกท่านไม่ได้”“

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1213

    ปลายเดือนสิบสอง ปีใหม่ใกล้เข้ามาเส้นทางมุ่งหน้าไปทางเหนือเต็มไปด้วยน้ำแข็ง การเดินทางนั้นยากลำบากเฟิ่งจิ่วเหยียนในช่วงอยู่ไฟมิได้พักฟื้นอย่างเต็มที่ ตอนนี้ยังต้องเดินทางท่ามกลางพายุหิมะอีก จึงมักจะปวดเมื่อยเอว และเหงื่อออกมากอยู่บ่อย ๆในช่วงกลางคืนเข้านอน ก็มักรู้สึกเย็นที่ไหล่ และหนาวอย่างรุนแรงอู๋ไป๋เห็นสีหน้าของนางไม่สู้ดีนัก จึงเตือนนาง“นายท่าน ไม่สู้ให้หมอมาตรวจดูบ้าง?”เฟิ่งจิ่วเหยียนรีบร้อนจะตามหาคน จึงไม่อยากล่าช้าครั้งนี้อู๋ไป๋ยืนหยัดอย่างเต็มที่“นายท่าน ต่อให้ท่านไม่คำนึงถึงตนเอง ก็ควรนึกถึงฝ่าบาท หากท่านเจ็บป่วย จะยิ่งไม่ล่าช้ามากกว่าหรอกหรือ?”เขาเอ่ยเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเริ่มลังเลก็จริงหากนางเจ็บป่วยจนลุกไม่ขึ้น ก็จะไม่คุ้มกับสิ่งที่เสียไปตรงชายแดนหนานฉี เฟิ่งจิ่วเหยียนได้ไปที่สำนักการแพทย์แห่งหนึ่งหลังจากหมอจับชีพจรของนาง ก็เอาแต่ส่ายหัว“ฮูหยินท่านนี้ ท่านมีภาวะร่างกายไม่สมดุลหลังคลอด จึงเป็นต้นเหตุเกิดโรคเรื้อรัง“อาการปวดตามข้อเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะในระยะนี้ที่ฝนหิมะรุนแรง แน่นอนว่าย่อมไม่สบายตัว“ในยามปกติรู้สึกว่าไม่เป็นไร ทนหน่อยก็ผ่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1212

    บนบัลลังก์มังกร เซียวถงเต็มเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณของจักรพรรดิ “เรารับพระราชโองการจากเสด็จอา มาทำหน้าที่รักษาการแทนตำแหน่งฮ่องเต้ชั่วคราว ทุกท่านมีเรื่องใดก็เสนอได้”เหล่าขุนนางในราชสำนักมองไปรอบ ๆ ด้วยความงุนงงบางคนถึงกับสงสัยว่าเซียวถงแย่งชิงบัลลังก์ทว่าคิดดูอีกที ฮองเฮาทรงมีทักษะเพียงนั้น ผู้ใดจะกล้าแย่งชิงบัลลังก์?ณ วังหลังเฟิ่งจิ่วเหยียนรู้สึกอาวรณ์อย่างยิ่งที่จะกล่าวอำลาต่อบุตรทั้งสองพวกเขายังคงนอนหลับอยู่ ใบหน้าขณะหลับดูสงบนิ่งเป็นพิเศษ นางจุมพิตบนหน้าผากของพวกเขา หัวใจราวกับถูกบีบเข้าหากันสาวใช้หว่านชิวรู้สึกเศร้าใจ “ฮองเฮา จักต้องเสด็จไปให้ได้หรือเพคะ?”ฮองเฮาทรงตัดใจจากเลือดเนื้อเชื้อไขของตนได้อย่างไร?เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าอย่างหนักแน่นการไปของนางครั้งนี้ จะมีชีวิตอยู่หรือตายยังไม่แน่นอนการพาบุตรทั้งสองคนไปด้วย หนึ่งจะเป็นภาระให้กับนาง สองอาจจะนำภัยอันตรายถึงแก่ชีวิตมาให้พวกเขาการแยกจากบุตร ย่อมต้องทุกข์ใจอยู่แล้ว ทว่าหากให้นางกับลูกรออยู่ในวัง และทนทรมานกับการรอฟังข่าว นางยิ่งไม่ยินยอม“ฮองเฮา หนิงเฟยมาถึงแล้วเพคะ” เฟิ่งจิ่วเหยียนรีบปรับอารมณ์ทันที และเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1211

    ที่ดินที่โซ่วอ๋องได้รับมอบไม่ถือว่าไกลจากเมืองหลวงมากนัก หลังจากได้รับคำสั่งจากฮองเฮา ซื่อจื่อเซียวถงก็ออกเดินทางภายในวันเดียวกันห้าวันต่อมา เซียวถงก็มาถึงพระราชวัง และตรงไปยังห้องทรงพระอักษรเพื่อเข้าเฝ้าครั้งล่าสุดที่เขามาเมืองหลวง ก็คือเมื่อสามปีก่อน ช่วงที่เกิดความวุ่นวายในวิหารบรรพบุรุษ เขาได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญจากฮ่องเต้ ให้ขึ้นครองบัลลังก์ชั่วคราว เพื่อหลอกลวงพรรคเทียนหลงกับกองทัพศัตรูให้สับสนในตอนนั้นเขารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก พระราชโองการพินัยกรรมของฝ่าบาท ได้แต่งตั้งให้เขาเป็นว่าที่จักรพรรดิครั้งนี้ฮองเฮาทรงเรียกเขามา ไม่รู้ว่ามาเพราะเรื่องใดทว่าก็รู้สึกอยู่ลึก ๆ ว่า น่าจะเกี่ยวข้องกับพระราชโองการพินัยกรรมก่อนที่เขาจะมาเมืองหลวง ท่านพ่อก็ยังเตือนเขาว่า ตอนนี้ฮองเฮาทรงประสูติองค์ชายแล้ว เช่นนั้นเขาที่เคยเป็นคนที่อ้างถึงในพระราชโองการพินัยกรรม ก็เท่ากับเป็นตัวขัดขวางขององค์ชายดังนั้น การมาเมืองหลวงครั้งนี้ ก็เสี่ยงอันตรายอย่างมากในใจของเซียวถงเต็มไปด้วยความสงสัยมากมาย ทว่าสีหน้ายังคงสงบนิ่ง ไม่ถือตัวไม่ถ่อมตนเกินพอดีแต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยสนใจตำแหน่งฮ่องเต้ แล

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1210

    วันต่อมา องค์หญิงเซี่ยนอี๋เสด็จมาพบองค์ชายสี่ด้วยพระองค์เององค์ชายสี่ทรงยิ้มแย้ม ทำเหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น“แขนของน้องหญิงเป็นอย่างไรบ้าง?”องค์หญิงเซี่ยนอี๋โมโหจนเก็บอารมณ์ไม่อยู่“เหตุใดเสด็จพี่ต้องขัดขวางข้า!”รอยยิ้มขององค์ชายสี่เลือนหายไป และตอบอย่างมีเหตุมีผล“เซี่ยนอี๋ ข้าคิดว่าเจ้าแค่พาลไร้เหตุผล นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะโง่เขลาเพียงนี้ เจ้าคิดได้อย่างไรที่จะวางยาผู้อื่น แล้วบังคับขืนใจเขา?“หากเจ้าพลีกายให้กับฮ่องเต้ฉี แล้วจะให้ข้าทูลเสด็จพ่ออย่างไร?“คืนก่อนเจ้าเกือบจะแขนหักไปข้างหนึ่ง ก็น่าจะจำเป็นบทเรียนได้แล้วกระมัง”เซี่ยนอี๋รู้ตัวว่าทำผิดทว่าเรื่องที่นางยังทำไม่เสร็จสิ้น จะไม่ยอมแพ้และเลิกล้มเช่นนี้“หากข้าได้เป็นฮองเฮาของหนานฉี หนานฉีก็จะไม่เล่นงานเป่ยเยี่ยนอีก นี่ไม่ดีหรอกหรือ?”องค์ชายสี่แย้มพระสรวล“เซี่ยนอี๋ หากเสด็จพ่อได้ยินคำพูดนี้ของเจ้า เกรงว่าจะต้องถูกลงโทษสถานหนัก“การเกี่ยวดองของสองแคว้น เดิมทีไม่อาจหยุดยั้งความโหดเหี้ยมของหนานฉีได้“เจ้าจะทำให้ตนเองเสียหายโดยเปล่าประโยชน์ และถูกผู้อื่นหัวเราะเยาะ“บุรุษดี ๆ ในเป่ยเยี่ยนของเรามีมากมาย เหตุใดเจ้าต

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1209

    ช่วงหลายวันที่เซียวอวี้ถูกขังอยู่ในคุกลับ หาได้นั่งนิ่งรอความตายไม่ จากการสังเกตของเขา องค์ชายสี่แห่งเป่ยเยี่ยนมิได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้เยี่ยน แต่กลับเป็นหินที่ไว้ปูทางเดิน เพื่อผลักดันความทะเยอะทะยานให้องค์ชายเจ็ด หากสามารถโน้มน้าวใจองค์ชายสี่ได้ เขาก็จะหนีออกจากที่นี่ได้ กระนั้น องค์ชายสี่ของเป่ยเยี่ยนไม่โง่ ทันทีที่เขาได้ยินคำพูดของเซียวอวี้ ก็รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการชนะใจตน เพื่อยุแยงเขากับเจ้าเจ็ด รวมถึงตัวเขาและเสด็จพ่อด้วย “ฮ่องเต้ฉี ยิ่งพูดยิ่งพลาด ท่านตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ควรพูดให้น้อยลงจะดีกว่า” องค์ชายสี่พูดจบก็คิดจะเดินจากไป จู่ ๆ เซียวอวี้หัวเราะเยือกเย็นขึ้นมา “ในเวลาหนึ่งเดือน ฮ่องเต้เยี่ยนจะแต่งตั้งองค์ชายเจ็ดเป็นองค์รัชทายาท” องค์ชายสี่หยุดชะงัก ฮ่องเต้ฉีมั่นใจขนาดนั้นเชียวหรือ? ตำแหน่งองค์รัชทายาทนั้นเย้ายวนใจนัก องค์ชายสี่ต้องหันกลับมา พิจารณาเซียวอวี้อีกครั้ง เขาหาได้รุกถามใด ๆ ไม่ เพียงรอให้เซียวอวี้พูดต่ออย่างเงียบ ๆ เซียวอวี้ไม่ทำให้ผิดหวัง เอ่ยอย่างไม่รีบร้อน “กองทัพเยี่ยนเดินทัพลงใต้ เพื่อพิชิตแ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1208

    ในคุกลับ เซียวอวี้กินอาหารตามปกติ ไม่นานก็รู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกาย เขาตระหนักได้ทันที มันเป็นฤทธิ์ยาปลุกกำหนัด! ดวงตาเย็นชาของเขามืดลง ความโกรธพลุ่งพล่านขึ้นมา ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า เป็นฝีมือของผู้ใด จริงตามคาด เพียงไม่นาน องค์หญิงเซี่ยนอี๋ก็มาที่คุกลับ คืนนี้นางแต่งกายอย่างพิถีพิถัน สวมอาภรณ์สีสันสดใส ประทินโฉมประณีตงดงาม สายตาเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและความต้องการครอบครอง นางมองใบหน้าที่แดงเพราะฤทธิ์ยาของเซียวอวี้ รู้สึกปรีดาบนความทุกข์ของผู้อื่น “สิ่งใดที่ข้าอยากได้ ไม่มีคำว่าไม่ได้!” เซียวอวี้พยายามสงบจิตใจอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ถูกควบคุมโดยฤทธิ์ยา เขาไม่กล้าคิด หากสัมผัสผู้หญิงคนอื่นแล้ว เขาจะเผชิญหน้ากับจิ่วเหยียยอย่างไรในอนาคต ให้ตาย! เขาอยากจะฆ่าคน ทว่ากลับสูญเสียกำลังภายในทั้งหมด แม้คุกลับจะคุมขังผู้คนไว้มากมาย แต่ห้องขังของเซียวอวี้อยู่ในจุดที่ลับตาคน และเป็นเอกเทศ องค์หญิงเซี่ยนอี๋จึงไม่กลัวที่จะมีคนมารบกวน นางปลดอาภรณ์ชั้นนอกของตนออก หัวเราะอย่างหยาบคาย “ฮ่องเต้ฉี ข้ารอให้เจ้าขอร้องข้าอยู่” ถูกฤ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1207

    ตำหนักหย่งเหอ เมื่อไทเฮาและหนิงเฟยมาถึง กลับไม่เห็นฮองเฮา เด็กทารกน้อยร้องไห้ระงมราวกับหัวใจจะแตก แม้พวกนางได้ยินแล้วยังรู้สึกปวดใจนัก หมอหลวงกำลังถวายโอสถให้องค์ชายน้อย ปริมาณยาทำให้คนเห็นแล้วอกสั่นขวัญแขวน หนิงเฟยขมวดคิ้ว อดไม่ได้ที่จะเตือน “พวกเจ้าระวังหน่อย! อย่าทำให้เด็กสำลัก!” ไทเฮาอดไม่ได้ที่จะตำหนิ “ฮองเฮาอยู่ที่ใด? นี่คือลูกชายแท้ ๆ ของนาง กลับทิ้งไว้แบบนี้รึ?” สาวใช้หว่านชิวตอบ “มีรายงานด่วนจากชายแดนเพคะ ฮองเฮาประทับที่ห้องทรงพระอักษร เพื่อหารือกับเหล่าแม่ทัพ...” ไทเฮาทนไม่ไหวอีกแล้ว น้ำเสียงจริงจังขึ้น “หารือตลอดทั้งวัน นางคิดถึงลูกชายทั้งสองบ้างหรือไม่? “คนหนึ่งถูกนางใช้เป็นเครื่องมือว่าราชการหลังม่าน อีกคนถูกนางทิ้งให้โดดเดี่ยวในวังหลัง นางทนได้อย่างไร!” ไทเฮาทราบดีว่าฮองเอามีราชกิจรัดตัว ทว่าเห็นเด็กน้อยที่น่าสงสารเช่นนี้ ก็อดจะทุกข์ใจมิได้ หว่านชิวไม่กล้าโต้แย้ง หนิงเฟยเกลี้ยกล่อม “ท่านป้าเพคะ ฮองเฮาต้องเห็นราชกิจสำคัญที่สุด ส่วนองค์ชายมีหมอหลวงถวายการดูแล เขาจะปลอดภัยแน่นอนเพคะ” ไทเฮามองทารกด้วยค

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1206

    หลังจากที่ฮ่องเต้เยี่ยนได้ฟังคำขอของพระธิดา ก็หาได้ปฏิเสธทันทีไม่ ฮองเฮาของเซียวอวี้——เฟิ่งจิ่วเหยียน มิใช่สตรีธรรมดา สาเหตุที่เป่ยเยี่ยนพ่ายแพ้ต่อหนานฉีหลายครั้ง ล้วนมีฝีมือของสตรีคนนี้อยู่ในนั้น ถึงแม้เซี่ยนอี๋ไม่เอ่ย เขาก็ต้องการกำจัดเฟิ่งจิ่วเหยียนอยู่แล้ว “ได้ พ่อรับปากเจ้า” องค์หญิงเซี่ยนอี๋รู้สึกพอใจมาก “ขอบพระทัยเสด็จพ่อ!” สิ่งใดที่นางไม่ได้ครอบครอง คนอื่นก็อย่าหวังจะได้ ทว่า ฮ่องเต้เยี่ยนยังไม่หายแคลงใจ เขาถาม “เรื่องในคุกลับนั้น ผู้ใดบอกเจ้า” องค์หญิงเซี่ยนอี๋ยังมีจิตสำนึกอยู่ หาได้ทรยศองค์ชายสี่ไม่ “เป็น...เสด็จพี่เจ็ดเพคะ” สีหน้าของฮ่องเต้เยี่ยนพลันมืดลง เจ้าเจ็ดนี่ เลอะเลือนเกินไปแล้ว! องค์หญิงเซี่ยนอี๋ขอร้อง “เสด็จพ่อ เสด็จพี่เจ็ดก็ถูกหม่อมฉันบังคับ ท่านอย่าตำหนิเขาเลย และอย่าบอกเขาด้วยว่า หม่อมฉันพูด มิฉะนั้นต่อจากนี้เขาคงไม่รักเอ็นดูหม่อมฉันอีกเพคะ” ใบหน้าของฮ่องเต้เยี่ยนแสดงความอดกลั้นไม่ใส่ใจ “ได้ เราเข้าใจแล้ว”…… เมื่อองค์หญิงเซี่ยนอี๋ออกจากวังหลวง ก็ตรงไปที่คุกลับอีกครั้ง ครั้

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status