Share

บทที่ 1305

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
บุตรทั้งสองต่างง่วงงุนยิ่ง พิธีเลือกของจึงไม่สำเร็จ

เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่อยากจะทรมานพวกเขา จึงให้แม่นมอุ้มพวกเขาไปพักผ่อน

หนิงเฟยจึงช่วยพูดไกล่เกลี่ย

“องค์ชายทั้งสองพระองค์สนิทสนมกันยิ่งนัก”

เซียวอวี้ยังเชิญช่างวาดภาพมา เพื่อวาดภาพของพวกเขาในงานฉลองวันประสูติครบหนึ่งชันษาด้วย

สุดท้ายเมื่อช่างวาดภาพเข้ามา กลับวาดได้เพียงท่าทางตอนนอนของพวกเขา ที่บุตรชายคนเล็กกอดแขนของบุตรชายคนโตเอาไว้ ดูพึ่งพาอาศัยกันอย่างยิ่ง

หากมองข้ามสิ่งอื่นไป เพียงมองฉากนี้ ก็รู้สึกอบอุ่นอย่างยิ่ง

ใจเฟิ่งจิ่วเหยียนอ่อนยวบ นางพึงพอใจกับภาพวาดนี้มาก

ในท้องพระโรง

งานเลี้ยงจบลงแล้ว สองสามีภรรยาเมิ่งฉวีถูกเชิญไปที่ตำหนักหย่งเหอ

นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นเด็กทั้งสองอย่างใกล้ชิด พวกเขาตื่นเต้นอย่างยิ่ง

เฟิ่งจิ่วเหยียนสั่งให้ทุกคนถอยออกไป แล้วให้สองผู้เฒ่าดูเหล่าบุตรชายกันสองคน

ยามนั้นเด็กทั้งสองยังคงหลับฝันอยู่ ทว่ากลับไม่ได้รับผลกระทบจากการพูดคุยของพวกเขาเลย

“จมูกนี่เหมือนจิ่วเหยียน”

“ขายาว จะต้องตัวสูงเป็นแน่”

“ถึงจะบอกว่าเป็นฝาแฝดกัน ทว่าก็ไม่ได้เหมือนกันเสียทีเดียว หน้าผากขององค์ชายใหญ่เอิบอิ่มกว่า องค
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1306

    “ไม่กลับ!” เฟิ่งหมิงเซวียนพอใจกับชีวิตในตอนนี้มากแม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้ชีวิตหรูหราเหมือนตอนอยู่จวนตระกูลเฟิ่ง ทว่าเขาก็มีภรรยาและลูกอยู่เคียงข้าง และทุกมื้อก็ได้กินข้าวอย่างสบายใจ ไม่มีสิ่งใดให้ละอายที่จวนตระกูลเฟิ่ง เขามันก็แค่หนอนแมลง เป็นตัวไร้ค่าในครอบครัวเล็ก ๆ นี้ เขาคือเสาหลักที่คอยค้ำชูภรรยาและลูกหลังจากสร้างครอบครัว เขาถึงได้เข้าใจถึงการเป็นบุรุษที่แท้จริงหลังจากปฏิเสธนายท่านเฟิ่งแล้ว เฟิ่งหมิงเซวียนก็กลับบ้านเล่าเรื่องนี้ให้ภรรยาฟัง“ถ้ามีคนจากจวนตระกูลเฟิ่งมา ก็ไม่ต้องไปสนใจ ไม่ต้องไปเปิดประตูให้”อิงเอ๋อร์อุ้มบุตรชายแล้วนึกถึงความอับอายที่แม่สามีทำกับนางในวันนั้น นางก็ไม่เต็มใจไปที่ตระกูลเฟิ่งเช่นกันทว่าเพื่อบุตรชายแล้ว คงไม่อาจขายเต้าหู้ไปตลอดได้“ท่านพี่ อีกไม่กี่ปีบุตรชายของเราก็ต้องเข้าเรียนที่สำนักศึกษาเอกชนแล้ว เงินไม่เท่าไหร่จากการขายเต้าหู้นี่จะพอสำหรับให้เขาเข้าสอบขุนนางได้หรือไม่?”นางหมกมุ่นกับการสอบขุนนางมากนางเคยอยากให้สามีสอบขุนนาง ทว่าต่อมาถึงพบว่าเขาเป็นเพียงคนไม่เอาไหน เข็นไม่ขึ้น จึงได้แต่เลิกล้มความคิดนี้ตอนนี้นางมีบุตรชายแล้ว จึงคิดอยาก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1305

    บุตรทั้งสองต่างง่วงงุนยิ่ง พิธีเลือกของจึงไม่สำเร็จเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่อยากจะทรมานพวกเขา จึงให้แม่นมอุ้มพวกเขาไปพักผ่อนหนิงเฟยจึงช่วยพูดไกล่เกลี่ย“องค์ชายทั้งสองพระองค์สนิทสนมกันยิ่งนัก”เซียวอวี้ยังเชิญช่างวาดภาพมา เพื่อวาดภาพของพวกเขาในงานฉลองวันประสูติครบหนึ่งชันษาด้วยสุดท้ายเมื่อช่างวาดภาพเข้ามา กลับวาดได้เพียงท่าทางตอนนอนของพวกเขา ที่บุตรชายคนเล็กกอดแขนของบุตรชายคนโตเอาไว้ ดูพึ่งพาอาศัยกันอย่างยิ่งหากมองข้ามสิ่งอื่นไป เพียงมองฉากนี้ ก็รู้สึกอบอุ่นอย่างยิ่งใจเฟิ่งจิ่วเหยียนอ่อนยวบ นางพึงพอใจกับภาพวาดนี้มากในท้องพระโรงงานเลี้ยงจบลงแล้ว สองสามีภรรยาเมิ่งฉวีถูกเชิญไปที่ตำหนักหย่งเหอนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นเด็กทั้งสองอย่างใกล้ชิด พวกเขาตื่นเต้นอย่างยิ่งเฟิ่งจิ่วเหยียนสั่งให้ทุกคนถอยออกไป แล้วให้สองผู้เฒ่าดูเหล่าบุตรชายกันสองคนยามนั้นเด็กทั้งสองยังคงหลับฝันอยู่ ทว่ากลับไม่ได้รับผลกระทบจากการพูดคุยของพวกเขาเลย“จมูกนี่เหมือนจิ่วเหยียน”“ขายาว จะต้องตัวสูงเป็นแน่”“ถึงจะบอกว่าเป็นฝาแฝดกัน ทว่าก็ไม่ได้เหมือนกันเสียทีเดียว หน้าผากขององค์ชายใหญ่เอิบอิ่มกว่า องค

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1304

    เรื่องที่เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้สึกประหลาดใจมีอยู่สองเรื่องเรื่องแรกคือ การที่เวยเฉียงขึ้นครองบัลลังก์ได้อย่างรวดเร็วและราบรื่นอีกเรื่องหนึ่งคือ การมอบเมืองสองแห่งเป็นของขวัญแสดงความยินดีในงานฉลองวันประสูติครบหนึ่งชันษา มันล้ำค่าเกินไปทว่าเซียวอวี้กลับรับไว้โดยไม่รู้สึกว่าเป็นภาระแม้แต่น้อยสำหรับเขาแล้ว ยิ่งมากก็ยิ่งดียิ่งเป็นการมอบให้กับบุตรชายด้วยเฟิ่งเวยเฉียงในฐานะน้าสาว ทำได้ไม่เลวทีเดียว ไม่เสียแรงที่จิ่วเหยียนกำจัดอุปสรรคมากมาย เพื่อให้นางกับเฉียวเอ๋อร์ไปอยู่ที่แคว้นซีหนี่ว์ของขวัญชิ้นนี้ พวกเขาสมควรได้รับโดยไม่ต้องละอายใจเซียวอวี้ส่งสายตาไปทางหนึ่ง หลิวซื่อเหลียงก็รับมอบของขวัญชิ้นใหญ่จากแคว้นซีหนี่ว์ไว้นายท่านเฟิ่งยังไม่รู้ว่า ประมุของค์ใหม่ของแคว้นซีหนี่ว์คนปัจจุบัน คือเวยเฉียงบุตรสาวของเขาที่อ่อนโยนและว่านอนสอนง่ายมาตั้งแต่เด็กเขารู้สึกสงสัยจริง ๆ ว่า เหตุใดประมุของค์ใหม่ของแคว้นซีหนี่ว์ถึงได้โง่เขลาเพียงนี้ หรือว่าหวาดกลัวหนานฉี จึงมาแสดงไมตรี?ช่างไร้ศักดิ์ศรีเสียจริงดังนั้นอาจพูดได้ว่า สตรีนั้นย่อมไม่สามารถเป็นผู้นำได้ ยังห่างไกลจากอุดมการณ์แน่วแน่ที่มีใน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1303

    เซียวอี้ตัดสินใจแต่งตั้งรัชทายาท หาใช่เรื่องที่คิดขึ้นชั่วขณะอาจกล่าวได้ว่า ตั้งแต่เด็กทั้งสองยังไม่ถือกำเนิดมา เขาก็มีความคิดเช่นนี้แล้วในเวลานั้นยังถึงกับคิดว่า แม้ครรภ์นี้ของเฟิ่งจิ่วเหยียนจะเป็นบุตรสาว เขาก็จะเพิกเฉยคำคัดค้านของคนส่วนใหญ่ จะเลี้ยงดูเด็กหญิงผู้นี้ให้เป็นผู้สืบทอดบัลลังก์ฮ่องเต้ในตอนนั้นก็ไม่เคยคิดว่า ตนเองจะมีบุตรชายถึงสองคน และยังต้องมากลัดกลุ้มว่าจะเลือกคนใดเป็นรัชทายาทอีกเมื่อคิดทบทวนดูแล้ว ก็ยังคงเป็นบุตรชายคนโตที่ดูสงบนิ่งและน่าเชื่อถือยิ่งไปกว่านั้น การแต่งตั้งบุตรชายคนโตที่เกิดจากฮองเฮาเป็นรัชทายาท ก็เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของบรรพบุรุษตอนนี้ข่าวลือเกี่ยวกับเด็กฝาแฝดก็ผ่านไปแล้ว จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมในการแต่งตั้งรัชทายาทการที่ไม่ปรึกษากับเฟิ่งจิ่วเหยียน ก็เพราะต้องการให้นางประหลาดใจและดีใจหารู้ไม่ว่า เมื่อเทียบกับดีใจ เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้สึกประหลาดใจมากกว่าเรื่องใหญ่เพียงนี้ยังปกปิดนาง แล้วเรื่องอื่นที่ปกปิดนางจะมีน้อยหรือ?คืนนี้จะต้องซักถามให้ละเอียด!สำหรับเรื่องการแต่งตั้งรัชทายาท ขุนนางทั้งบุ๋นบู๊ไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆต่างรู้กันว่า หลายปีก่อ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1302

    ในตอนเช้าตรู่ องค์ชายทั้งสองถูกปลุกให้ตื่นมาล้างหน้าบ้วนปากแม่นมกับเหล่าข้าหลวงคอยปรนนิบัติรับใช้ และเปลี่ยนอาภรณ์ชุดใหม่ให้พวกเขาองค์ชายน้อยที่ปกติชอบเล่นซุกซนไม่ใส่ใจ วันนี้กลับดูแจ่มใสเป็นพิเศษสาวใช้คนหนึ่งกระซิบแหย่: “ก่อนหน้านี้รู้สึกว่าองค์ชายน้อยยังดูเหมือนเดิมเสมอ ในที่สุดวันนี้ก็เปลี่ยนเป็นคนใหม่แล้ว”แม่นมที่คอยอยู่เคียงข้างองค์ชายมาตลอด ถ้าจะกล่าวอย่างมิบังควรนัก ก็คือมององค์ชายเหมือนเป็นลูกของตนเองไปแล้ว“องค์ชายของพวกเรามีพื้นฐานดี อย่างไรก็ดูดี”ที่ห้องข้าง ๆ แม่นมขององค์ชายใหญ่เตรียมตัวพร้อมแล้ว ก็อุ้มองค์ชายใหญ่ออกมา พร้อมกับเอ่ยเหน็บแนม: “องค์ชายน้อยยังไม่พร้อมอีกหรือ? อยู่ในครรภ์มารดาก็วิ่งไม่ทันองค์ชายใหญ่ ต่อไปต้องแย่งชิงที่หนึ่งให้ได้บ้างนะ”แม่นมขององค์ชายน้อยพยายามปกป้อง รีบตอบโต้ทันที“เจ้าจะเข้าใจอะไร องค์ชายน้อยของพวกเรามีพี่ชายคอยปกป้อง ถือเป็นคนที่โชคดี”การเป็นพี่ชาย ย่อมต้องแบกรับภาระที่หนักกว่าอย่างเลี่ยงไม่ได้ดูจากช่วงหลายวันมานี้ ฝ่าบาททรงอุ้มองค์ชายใหญ่ไปที่ห้องทรงพระอักษรแทบจะทุกวัน ก็พอจะรู้แล้วไม่แปลกใจที่องค์ชายใหญ่ทรงบรรทมไม่เต็มอิ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1301

    หร่วนฝูอวี้ต้องการจะกลับไปยังหนานเจียง แต่รุ่ยอ๋องไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งถึงแม้เขาจะไปพร้อมกับนาง ก็ยังกลัวว่าจะพบเจออันตราย เพราะเขาไม่อาจปกป้องนางได้ตลอดเวลาสายตาของเขามีความจริงใจ พร้อมเอ่ยกับนางอย่างอดทน“หากเป็นก่อนหน้านี้ ข้าคงไม่คัดค้าน และคงกลับไปกับเจ้าทันที“ทว่า ตั้งแต่ฝ่าบาทถูกแคว้นเป่ยเยี่ยนเล่นงาน ข้าได้เรียนรู้หลักการข้อหนึ่งว่า แม้แต่ม้าก็ยังสะดุดล้มได้ ทุกเรื่องจะต้องระมัดระวังและรอบคอบ ไม่อาจประเมินศัตรูต่ำเกินไป“หากเจ้าเพียงเป็นห่วงอาจารย์ของเจ้า ข้าก็สามารถส่งคนไปช่วยเหลือที่หนานเจียงได้ ไม่จำเป็นต้องให้เจ้าไปเสี่ยงอันตรายด้วยตัวเอง”หร่วนฝูอวี้ไม่คาดคิดว่า คนผู้นี้จะพูดจาเป็นเหตุเป็นผลเชื่อมโยงกันเช่นนี้“สิ่งที่ท่านพูดก็มีเหตุผล“แต่หากไม่มีข้านำทาง ลูกน้องของท่านไม่มีทางได้พบอาจารย์ของข้า และยิ่งไม่มีทางฝ่าหมอกพิษที่อาจารย์ข้าสร้างไว้”รุ่ยอ๋องเสนอ: “นั่นไม่ยากเลย เจ้าสั่งเช่นไร พวกเขาก็จะทำเช่นนั้น อีกอย่าง พวกเรายังสามารถไปที่ชายแดนของสองแคว้นได้ ทำเช่นนี้ก็จะสามารถส่งสารถึงกันได้ทันท่วงที”หร่วนฝูอวี้ถูกเขาพูดโน้มน้าว ก็พยักหน้าเห็นด้วย“ตกลง ก็ทำตา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1300

    เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่คาดคิดว่า เซียวอวี้จะเข้าใจผิดนางกับหร่วนฝูอวี้หร่วนฝูอวี้ก็ยิ่งเป็นคนชอบหาเรื่องเสียด้วยนางไม่ชอบเซียวอวี้มาแต่แรกแล้ว ไม่เพียงเพราะเซียวอวี้แย่งเฟิ่งจิ่วเหยียนไป แต่ยิ่งเพราะบุรุษผู้นี้มักจะทำให้จิ่วเหยียนต้องลำบากอยู่เสมออย่างก่อนหน้านี้ที่เขาถูกแคว้นเป่ยเยี่ยนจับตัวไปนางสงสัยมาแต่แรกแล้วว่า ฮ่องเต้สุนัขแต่งงานกับจิ่วเหยียน ก็เพื่อจะใช้ประโยชน์ตอนนี้นางจึงฉวยโอกาส และเอ่ยเย้ยหยัน“ฮองเฮา ท่านอ๋องของจวนข้าใจกว้างอย่างแท้จริง แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยระแวงสงสัย“ดังนั้นว่าไปแล้ว บุรุษนี่นะ ควรจะเข้าอกเข้าใจ...”เฟิ่งจิ่วเหยียนกระแอมเบา ๆ สองครั้ง ส่งสัญญาณให้หร่วนฝูอวี้ปิดปากนางอธิบายกับเซียวอวี้โดยตรง“เมื่อครู่อาลี่ ‘ปัสสาวะพุ่ง’ ทำให้ชุดของพระชายารุ่ยอ๋องสกปรก หม่อมฉันจึงให้นางไปเปลี่ยนอาภรณ์เพคะ”เซียวอวี้ถึงได้คลายคิ้วลงเขาแอบชูนิ้วโป้งให้กับบุตรชายคนเล็กเจ้าตัวแสบ ปัสสาวะได้เยี่ยม!รู้จักแยกแยะรักชังได้จริง ๆ รู้ว่าใครเป็นคนไม่ดีทว่า เขาก็มิใช่คนที่จะยอมเสียเปรียบคำพูดของหร่วนฝูอวี้เมื่อครู่ ชัดเจนว่ากำลังยั่วยุเขากับจิ่วเหยียนทางด้านเซี

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1299

    ในวังหลวงเมื่อหร่วนฝูอวี้พบกับเฟิ่งจิ่วเหยียน ก็เล่าเรื่องที่เก๋อสือชีถูกพิษให้ฟังอย่างละเอียดตอนท้ายนางเอ่ยว่า: “พิษของมนุษย์โอสถนี้กระจายไปถึงหนานเจียงแล้ว ไม่อาจชะล่าใจได้”เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าเบา ๆ เห็นด้วยกับคำพูดของหร่วนฝูอวี้“ข้าเคยหารือกับฝ่าบาทมาก่อน มีความเป็นไปได้ว่าพิษกู่ถูกใช้เพื่อเพิ่มความรุนแรงของพิษมนุษย์โอสถ“ดังนั้น ควรส่งคนไปยังหนานเจียง เพื่อหาแผนการรับมือ”หร่วนฝูอวี้ไม่เคยนึกถึงเรื่องนี้เลยนางเผยให้เห็นสีหน้าเป็นกังวล“ท้ายที่สุดแล้ว ต้นเหตุก็ยังเป็นพิษมนุษย์โอสถนั่น“พวกเขาคิดจะทำอะไรกันแน่! ช่างไม่ยอมหยุดความคิดชั่วร้ายเสียที!”เฟิ่งจิ่วเหยียนเตือนนาง“ตอนนี้เจ้ากำลังตั้งครรภ์ ควรดูแลร่างกายตัวเองให้ดีก่อน พิษมนุษย์โอสถไม่เพียงเกี่ยวข้องกับหนานเจียง แต่ยังเกี่ยวพันถึงหนานฉีและแคว้นอื่นด้วย“ขอเพียงหนานเจียงอ๋องยืนหยัดที่จะต่อต้าน หนานฉีเองก็จะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่”อย่างไรก็เป็นสหายที่ดีต่อกันมาหลายปี หร่วนฝูอวี้ฟังออกถึงความหมายแฝงในคำพูดของเฟิ่งจิ่วเหยียน“เจ้าสงสัยว่าท่านอ๋องอาจรู้เรื่องภายใน แต่เพิกเฉยไม่สนใจรึ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1298

    จู่ ๆ ก็มีคนผู้หนึ่งพุ่งออกมา รุ่ยอ๋องรีบปกป้องหร่วนฝูอวี้ทันที เพื่อมิให้นางถูกกระแทก“เจ้าสือชี?” หร่วนฝูอวี้ผลักรุ่ยอ๋องที่อยู่ตรงหน้าออกไป และมองไปทางศิษย์น้องที่ล้มอยู่บนพื้นใบหน้าเก๋อสือชีเป็นสีม่วงคล้ำ ทั้งตัวคนสั่นเทา“ศิษย์พี่ ข้า...ข้าทรมานมาก...”หร่วนฝูอวี้รับรู้ถึงความผิดปกติทันที“ท่านอ๋อง...”รุ่ยอ๋องจึงสั่งการก่อน“หามเก๋อสือชีเข้าไปในจวน ให้หมอประจำจวนมารักษาเขา”หร่วนฝูอวี้คิดไปคิดมา ก็ยังรู้สึกไม่วางใจ“ให้ข้าตรวจดูเขาก่อน!”นางสงสัยว่า อาการเช่นนี้ของเก๋อสือชี มิใช่เป็นบาดแผลหรือพิษธรรมดาทั่วไป แต่อาจเป็นพิษกู่หนานเจียงหากเป็นพิษกู่ หมอธรรมดาไม่มีทางรักษาได้แน่รุ่ยอ๋องขมวดคิ้ว“พิษกู่ทำร้ายเจ้ากับลูกได้หรือไม่?”หร่วนฝูอวี้ไม่แน่ใจ“ต้องดูว่าเป็นพิษชนิดใด”นางไม่พูดมาก เดินตามคนที่หามเก๋อสือชีเข้าไปในห้องก่อนรุ่ยอ๋องลังเลไม่แน่ใจ ก็เดินตามเข้าไปเช่นกันหร่วนฝูอวี้ถ่ายเลือดเก๋อสือชีและทดสอบพิษอย่างเชี่ยวชาญไม่นาน นางก็เอ่ยกับรุ่ยอ๋องด้วยสีหน้าจริงจัง “เป็นพิษกู่จริง ๆ”รุ่ยอ๋องรู้สึกกังวลใจขึ้นมา ดึงนางออกห่างโดยมิรู้ตัว ไม่อยากให้นางเข้าใก

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status