เอโลอีสเชิดรั้นใบหน้าขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้เธอได้มองหน้าของท่านลูเซียนชัดเจนมากกว่าเดิม ถ้อยคำที่กล่าวออกไปนั้น เธอไม่ได้ล้อเล่นแม้แต่น้อย..เธอต้องการเขาและในใจก็พร้อมที่จะรับผลที่ตามมาเช่นกัน
แน่นอนว่าหากเขาไม่ได้มีความจริงใจให้แก่เธอ หากว่าเขาต้องการเพียงร่างกายนี้เช่นนั้นการทำให้เขาสมความปรารถนาก็ทำให้เธอไม่ต้องมานั่งเสียเวลาทุ่มเทความชอบให้เขา.. “นั่นเลดี้พูดจริงอย่างนั้นหรือครับ?” เธอพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปหาเขา “ข้าพูดจริงทุกคำค่ะ..ไม่ได้โกหกแม้แต่ครึ่งคำ ในวันนี้ท่านทำให้ข้ารู้ว่าต่อให้มีบุรุษเข้าหาข้ามากมายเพียงใด แต่ก็ไม่มีใครที่จะหยุดสายตาของข้าเอาไว้ที่เขาได้เช่นเดียวกันกับที่ท่านลูเซียนกระทำ ฉะนั้นแล้วความต้องการนี้จึงไม่ได้มาจากความรู้สึกที่ฉาบฉวยแต่มันมาจากความต้องการของข้าจริงๆ” ลูตินไม่ชอบความวุ่นวาย เขาไม่ชอบเท่าไหร่นักที่มีสตรีมาแสดงความเป็นเจ้าของเขา..แต่ทว่าคงเป็นเพราะตอนนี้เขาไม่ใช่ลูตินแต่กำลังเป็นลูเซียน ด้วยเหตุนั้นเขาจึงรู้สึกชอบใจแปลกๆ ที่ได้ยินว่าเธอไม่ชายตามองใครหน้าไหนทั้งนั้น..นอกจากเขาเพียงผู้เดียว “เช่นนั้นวันนี้..ข้าจะขอทำตามความต้องการของเลดี้ก็แล้วกันนะครับ” ครั้งนี้เขาไม่ได้จับมือเพื่อพาเธอเดินไปข้างหน้าอีกแล้วแต่ทว่าท่านลูเซียนกลับเดินเข้ามาแล้วช้อนตัวเธอขึ้นเพื่ออุ้มเธอ.. ขณะที่เอโลอีสปรายสายตามองใบหน้านั้น เธอก็มองเห็นรอยยิ้มที่มุมปากของเขาได้อย่างชัดเจน เขากำลังยิ้มอย่างอารมณ์ดีในระหว่างที่กำลังอุ้มเธอเดินไปที่ไหนสักแห่งในพระราชวัง น่าแปลกที่เขาดูคุ้นเคยกับทางของพระราชวังเป็นอย่างดี “ที่นี่จะไม่มีใครมาหรอกครับ เพราะฉะนั้นเราค้างคืนที่นี่ด้วยกันได้” เขาเดินเข้าไปในคฤหาสน์หลังย่อมๆ ที่ตั้งอยู่เบื้องหน้าก่อนจะส่งเหรียญทองให้กับข้ารับใช้ที่ยืนรออยู่ และเมื่อลูตินมองเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของเอโลอีสเขาก็หัวเราะออกมา “จะเรียกว่าข้าคุ้นเคยก็ไม่แปลกหรอกครับ เพราะข้าเคยทำงานในพระราชวังมาก่อน..ข้าอยู่ที่นี่มาหลายปีทีเดียวจนท่านแม่ป่วย..ข้าจึงเลือกที่จะออกไปจากที่นี่” อา..เป็นเช่นนั้นเองสินะ เอโลอีสยกแก้วน้ำชาขึ้นมาดื่มด้วยความรู้สึกประหม่า เราเคยอยู่ด้วยกันตามลำพังมาสองครั้งแล้ว แต่ทว่าที่ผ่านมาเราอยู่กันในตามลำพังในร้านอาหาร..ไม่ได้อยู่ด้วยกันในห้องนอนที่มีบรรยากาศน่าตื่นเต้นเช่นนี้ ทั้งๆ ที่เธอเป็นฝ่ายเอ่ยปากชวนเขาเองแท้ๆ แต่เธอกลับมานั่งเขินเองเนี่ยนะ ลูตินคุกเข่าลงที่พื้นเขาเริ่มต้นจากการถอดรองเท้าของเอโลอีสออกอย่างเชื่องช้า.. “ไม่มีอะไรต้องหวาดกลัวหรอกนะครับ..เพราะว่าข้าจะอ่อนโยนอย่างถึงที่สุดเลย” เธอไม่ได้กลัวแต่กำลังเขินอายอยู่ต่างหาก “หันหลังมาสิครับ ข้าจะถอดชุดออกให้..เราคงกระทำเรื่องต่อจากนี้ไม่ได้หากว่าเจ้าไม่ยินยอมถอดชุดเดรสนี่ออก” เอโลอีสสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่เธอจะขยับร่างกายเล็กน้อยเพื่อหันหลังให้เขา ถึงแม้ว่าจะมองไม่เห็นแต่เธอสัมผัสได้ถึงปลายนิ้วที่แสนคล่องแคล่วของเขา ซึ่งกำลังถอดชุดเดรสของเธอออกมาอย่างรวดเร็ว.. เขาโน้มใบหน้าลงมาแล้วจุมพิตลงไปที่แผ่นหลังของเธอเบาๆ “ลุกขึ้นหน่อยสิครับ” เขาใช้ปลายนิ้วลากผ่านผิวเนียนนุ่มของเธอเบาๆ สร้างความรู้สึกวูบวาบในทุกสัมผัส เอโลอีสยืนขึ้นตามคำร้องขอของท่านลูติน ชุดเดรสที่เธอสวมหล่นร่วงลงมากองที่ข้อเท้า ดวงตาของเขากำลังกวาดสายตามองไปทั่วเรือนร่างก่อนที่เขาจะลุกขึ้นแล้วเริ่มถอดเสื้อซับในของเธอ ริมฝีปากเขาสัมผัสเบาๆ ที่ติ่งหู กระซิบแผ่วเบาพร้อมกับพ่นลมหายใจอุ่น “สวย..จังเลยนะครับ” ผิวกายที่ขาวเนียนราวกับนมแพะ และเมื่อถอดชุดซับในออก เขามองเห็นหน้าอกกลมกลึงขนาดใหญ่ที่มือของเขาคงไม่สามารถกอบกุมมันเอาไว้ได้มิด ที่ส่วนปลายของยอดอกเป็นสีแดงระเรื่อดูราวกับกลีบดอกกุหลาบที่หล่นร่วงลงไปแต้มบนหิมะ ช่างสวยงามและน่าสัมผัสมากเหลือเกิน เขาสัมผัสที่ไหล่เบาๆ ก่อนเลื่อนลงมาที่เนินอก ลูตินใช้มือของเขากอบกุมมันเบาๆ สัมผัสที่นุ่มนวลราวกับฟองครีมนั้นทำให้เขากระชับฝ่ามือให้แน่นมากยิ่งขึ้นเพื่อสัมผัสมัน “อา..” เสียงครางหลุดรอดออกมาจากลำคอของเธออย่างห้ามไม่อยู่ เอโลอีสรีบหันหน้าหนีพร้อมกับยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองเอาไว้.. “เอโลอีสนั่นไม่ใช่เรื่องน่าอายเลย เสียงครางของเจ้านั้นมันคือความชมเชยต่างหาก..ในทุกการกระทำหากได้รับคำชมเชย ผู้กระทำย่อมรู้สึกดีมากกว่าเดิม..ฉะนั้นแล้วไม่ต้องอายแล้วร้องครางออกมาเถิดหากว่าเจ้ารู้สึกดี” เขากระซิบเบาๆที่ข้างหู ก่อนจะกดจูบลงที่ติ่งหูราวกับจะปลุกเร้าให้เธอตื่นเต้นมากกว่านี้ “...เพราะข้าไม่เคยกระทำเรื่องเช่นนี้มาก่อนด้วยเหตุนั้น..ข้าอาจจะทำให้ท่านไม่พอใจในความไม่รู้เรื่องของข้า” มืออีกข้างของเขาลูบไล้ข้างลำตัวของเธออย่างอ่อนโยน ก่อนจะหยุดที่สะโพก ลูตินกำลังปล่อยให้ความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นมาในร่างกายของเอโลอีส “ตรงกันข้ามเลย..เจ้าไม่รู้ไม่ใช่เรื่องผิดเพราะว่าข้าสอนเจ้าได้ และ..ข้าจะเป็นครูที่ดีของเจ้าก็แล้วกันนะเอโลอีส” ปลายนิ้วของเขาจมหายเข้าไปในกางเกงซับในของเธอก่อนที่เขาจะถอดมันออกมาทางปลายเท้า ลูตินนั่งลงที่พื้นแล้วจ้องมองไปยังผิวเนื้อที่อ่อนโยนและนุ่มนวลเหมือนกับแอปริคอตที่สุกเต็มที่ ความชุ่มฉ่ำที่หลั่งไหลออกมาดูคล้ายกับสายน้ำที่พุ่งออกมาจากน้ำพุในสวน.. เธอเปียกชุ่มไปหมดเพียงแค่เขาสัมผัสที่เนินอกและจ้องมองเธอด้วยแววตาลึกซึ้ง ดูเหมือนว่าเอโลอีสจะมีความรู้สึกที่ค่อนข้างไวมาพอสมควร..เขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยก่อนจะซุกใบหน้าเข้าหาช่องทางรักสีชมพู กลีบเนื้อที่แสนอ่อนนุ่มนั้นเหมือนดอกบัวที่เพิ่งแย้มบานรับแสงแรกของวัน..ปลายลิ้นของเขาลากไล้ผ่านอย่างแผ่วเบา ความรู้สึกนั้นทำให้เธอแทบหยุดหายใจ อันที่จริงเอโลอีสคิดว่าเธอควรจะผลักใบหน้าของเขาออกไป แต่ทว่าความคิดของเธอมันกลับช้ามากเกินไปเพราะรู้สึกตัวอีกทีเขาก็กดริมฝีปากลงไปตรงส่วนนั้นแล้ว ลมหายใจอุ่นๆ ของเขากำลังเป่ารดเบาๆ ที่จุดอ่อนไหว สัมผัสแสนแปลกที่เธอไม่เคยได้รับมาก่อนมันราวกับเธอกำลังถูกแผดเผาทั้งเป็น “อื้อ!!” เขาลิ้มรสอย่างช้าๆ ปลุกเร้าความปรารถนาที่ซ่อนอยู่ภายใน เขาโลมเลียมันอย่างไม่คิดลดละ ปลายลิ้นตวัดเลียติ่งไตที่นูนแข็งขึ้นมาจนมันเปียกชุ่มไปหมด เสียงเฉอะแฉะดังขึ้นมาจากด้านล่างจนกลายเป็นเสียงดังบาดหู “พะ..พอ พอแล้วค่ะ”ถ้อยคำที่เคาน์มาเอลทิ้งท้ายเอาไว้ ทำให้ซีโมนสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เยือกเย็นอย่างบอกไม่ถูก“ซีโมน..เท่าที่ข้ารู้ครอบครัวของมาเอลล้มหายตายจากไปแล้วใช่หรือไม่ ทั้งมารดา บิดาและญาติพี่น้องล้วนแล้วแต่เสียชีวิตไปหมดแล้วทั้งสิ้น..”ลูตินเอ่ยถามด้วยแววตาเย็นยะเยือก และนั่นทำให้ซีโมนยกมือขึ้นมาปาดเหงื่อเบาๆ“เรื่องนั้นมันก็ใช่..”“เช่นนั้นหากหมอนั่นตายไปอีกคนเขาก็จะได้พบเจอกับครอบครัวใช่หรือไม่ ข้าควร..ทำให้เพื่อนรักได้พบเจอครอบครัวในเร็ววันอย่างนั้นสินะ”ซีโมนส่งยิ้มแห้งๆ ให้กับลูติน เขาอยากจะบอกกล่าวออกไปเหลือเกินว่านั่นเพื่อนนะโว้ย แค่สตรีนางเดียวถึงกับจะฆ่าจะแกงกันเลยงั้นเรอะ!!“ลูติน..มาเอลก็แค่ล้อเล่น เจ้าอย่าไปถือสาเขาเลยน่า..ตอนนี้หากเจ้าอยากจะเข้าหาเลดี้อแลงจริงๆ คนที่เจ้าควรกังวลคือเซอร์ลาเบนผู้นั้นต่างหาก”เมื่อลูตินได้ยินเช่นนั้นเขาก็ปรายสายตาไปมองที่เอโลอีส สิ่งที่เขาพบเห็นคือเธอกำลังแย้มยิ้ม..เป็นรอยยิ้มละมุนละไมชวนให้หัวใจรู้สึกอบอุ่น และบุรุษที่กำลังยืนอยู่ข้างๆ เธอคือเซอร์ลาเบน..เพื่อนวัยเด็กนี่มันช่างน่ารำคาญชะมัดเลยโว้ย!!หรือว่าเซอร์ลาเบนคือสามีในอนาคตของเอโลอีส ส่วนเขา..เ
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะลูติน หรือว่าวันนี้ม้าที่เจ้าลงเดิมพันมันวิ่งได้ห่วยรึไง”ซีโมนเอ่ยถามพร้อมกับปรายสายตาลงไปมองที่สนามแข่งม้า“นี่ซีโมน..ปกติแล้วหลังจากที่เจ้ากระทำเรื่องเช่นนั้น เมื่อตื่นขึ้นมาก่อนที่เจ้าจะแยกทางกัน เจ้าทำอย่างไร..”นั่นมันคำถามอะไรวะนั่น ซีโมนวางฝ่ามือของเขาลงบนหน้าผากของลูติน“เจ้าไม่สบายรึเปล่าลูติน ถามคำถามแบบนั้นทำไมกัน ปกติเราต่างหากที่เป็นฝ่ายลุกออกจากเตียงก่อน เพราะไม่อยากอยู่รอจนถึงช่วงเช้าเพื่อให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดว่าเรามีใจน่ะ”ใช่ไหมล่ะ ปกติเขาก็เป็นเช่นนั้น เมื่อถึงรุ่งเช้าเป็นเขาที่ต้องลุกขึ้นก่อนแล้ววางของมีค่าเอาไว้ให้สตรีที่นอนอยู่บนเตียง นั่นก็เพื่อให้เราเข้าใจตรงกันว่าเขาไม่ต้องการสานต่อความสัมพันธ์ในครั้งนี้“..แล้วสมมุติว่าสตรีผู้นั้นลุกออกไปก่อนเจ้าล่ะ”ซีโมนยกมือขึ้นมาลูบคางเบาๆ“เรื่องนั้นไม่เคยเกิดขึ้นกับข้ามาก่อนเลย แต่หากให้เดานะที่สตรีผู้นั้นลุกขึ้นไปก่อนอาจจะเป็นเพราะว่าลีลาและท่าทางของเจ้ามันห่วยจนเกินจะรับไหวอะไรแบบนั้นรึเปล่า”คำตอบนั้นทำให้ลูตินหน้าชาไปหมด เขายกแก้วสุราขึ้นมาดื่มเพื่อเรียกสติของตัวเองกลับมา อันที่จริงเขาก็แอบๆ คิดถึ
เอโลอีสลืมตาขึ้นมาในกลางดึก เธอผล็อยหลับไปเพราะความเหนื่อยล้า และเมื่อตื่นขึ้นมาอีกทีก็ไม่เห็นท่านลูเซียนนอนอยู่ข้างกายเสียแล้ว..ในใจเกิดเป็นความรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาพร้อมกับคำถามที่อัดแน่นอยู่ในนั้น..หรือว่าที่เขาจากไปมันเป็นเพราะว่าเขาต้องการบอกกล่าวเป็นนัยๆ ถึงจุดจบของความสัมพันธ์เธอและเขาเมื่อได้บทสรุปเช่นนั้นอยู่ๆ น้ำตาที่พึ่งจะแห้งเหือดไปมันก็รินไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เธอลุกขึ้นพร้อมกับเดินไปหยิบชุดเดรสที่แขวนอยู่มาสวม เอโลอีสใช้หลังมือในการเช็ดน้ำตาเป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว..ในเมื่อเขาไม่ได้คิดอะไรกับเธอเช่นนั้นให้มันจบลงเร็วๆ ก็ดีแล้วล่ะเธอจัดการยืนสงบสติอารมณ์อีกพักหนึ่งก่อนจะเดินออกไปจากที่นี่..เธอไม่ควรกลับไปที่คฤหาสน์ในยามนี้ เพราะอย่างนั้นเอโลอีสจึงเลือกที่จะไปหาเฟมที่คฤหาสน์ ความเจ็บปวดจากตรงส่วนนั้นส่งผลให้การเดินนั้นยากลำบากมากพอสมควร..เธอกัดฟันแน่นพร้อมกับดึงสติของตัวเองกลับมา..ไม่เป็นไร..เธอจะผ่านความเจ็บปวดนี้ได้ และเธอจะกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งในเร็ววัน..“ดูสภาพเจ้าสิ..ให้ตายเถอะไม่บอกก็รู้ว่าเจ้าคงจะพบเจอกับความสัมพันธ์ที่มันไม่สวยหรูเท่าไหร่ใช่ไหม..เอโลอีสไม่ต้อ
เอโลอีสปรือตามองหน้าเขา..มันน่าตกใจที่เขาจับจูงมือเธอเดินมาจนถึงขั้นนี้ แต่ทว่าเมื่อได้ลองคิดดูดีๆ เป็นเธอที่เรียกร้องให้เขากระทำเช่นนี้เอง เธอเป็นคนเริ่มมันมาเองเพราะอย่างนั้นในยามนี้สิ่งที่เอโลอีสกำลังทำคือการรับผิดชอบคำพูดของตัวเองขาทั้งคู่ถูกแยกออกจากกัน มือใหญ่ช้อนใต้เข่าเพื่อรั้งเรียวขายกขึ้นจนถึงไหล่ แรงปรารถนาซัดสาดไปทุกหนทุกแห่งจนร่างกายสะท้านไหว จริงอยู่ที่ในครั้งแรกนั้นมันมีเพียงความเจ็บปวดเท่านั้นที่ฉายชัดเข้ามาในร่างกาย แต่ทว่าในช่วงเวลาถัดมา เมื่อความเจ็บปวดเริ่มจางหายความรู้สึกสั่นไหวก็เข้ามาแทนที่ ทุกครั้งที่ช่องทางนุ่มๆ ถูกเสียบด้วยความแข็งตึงนั้นความสุขสมอย่างรุนแรงก็แล่นริ้วไปทั่วทั้งร่างดวงตาของลูตินไม่ละไปจากใบหน้าของเอโออีสเลย เขาจ้องมองเธอตลอดเวลา คอยมองดูใบหน้าที่งดงามนั้นอย่างไม่คาดสายตาว่าเธอจะแสดงสีหน้าออกมาแบบไหน“อา..ลึกไปแล้วค่ะ”เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนจะพรมจูบไปที่ใบหน้าของเธอ“แล้วไม่ชอบรึไง..แบบนี้เสียวกว่าเยอะเลยไม่ใช่เหรอ”ต้นขาด้านในสั่นสะท้าน เอโลอีสได้แต่บิดตัวเร่าเมื่อการสอดแทรกทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ..จะกล่าวออกไปว่าชอบมากมันก็ช่างน่า
นิ้วที่สามซึ่งมันไม่น่าเข้ามาได้ตั้งแต่แรกกำลังขยับเข้าออกในร่างกายของเธอ เอโลอีสส่งเสียงร้องครางออกมาอย่างห้ามไม่ได้ แพรขนตางอนงามเปียกชื้นไปด้วยน้ำตา เธอพยายามร้องขอเพื่อให้เขาหยุด อย่างน้อยก็ช่วยหยุดพักให้เธอหายใจสักหน่อยก็ยังดี แต่ทว่าท่านลูเซียนนอกจากไม่หยุดพัก เขายังทำมันรุนแรงขึ้นอีกต่างหาก“อะ..อ๊า! ได้โปรดหยุดเถอะค่ะ ท่านลูเซียนได้โปรด..ยะ..หยุดก่อน!”สะโพกบางบิดเกร็งทุกครั้งที่มือของเขาเคลื่อนไหว นิ้วเปียกลื่นค่อยๆ ดันเข้ามาทีละน้อย เธอขบเม้มริมฝีปากพร้อมกับพยายามดันสะโพกหนี แต่การประท้วงเล็กๆ น้อยๆ ของเอโลอีสมันไม่เป็นผลเลย เมื่อลูตินใช้มืออีกข้างของเขากอดสะโพกของเธอเอาไว้“อยากให้หยุดอย่างนั้นหรือเอโลอีส”เธอพยักหน้าทั้งน้ำตา พร้อมกับช้อนสายตามองหน้าเขาอย่างน่าสงสาร ลูตินแสยะยิ้มที่มุมปากก่อนที่เขาจะขยับใบหน้าไปกระซิบที่ข้างหูอย่างแผ่วเบา“โกหก..เจ้าจะอยากหยุดได้อย่างไรกันในเมื่อด้านในมันบีบรัดนิ้วข้าแน่นขนาดนั้น..เอโลอีสไม่ต้องเป็นห่วงเพราะเดี๋ยวข้าจะทำให้เจ้ารู้สึกดีมากกว่าการใช้นิ้วเอง”สิ้นเสียงนั้นเขาก็ยกเรียวขาทั้งสองข้างของเธอพาดเอาไว้บนบ่า รอยยิ้มของท่านลูเซียนมันแ
เอโลอีสรู้สึกได้เลยว่าเธอกำลังจะยืนไม่อยู่ ขาแข้งสั่นเทาไปหมด และคาดว่าอีกไม่นานเธอจะต้องล้มลงอย่างแน่นอน ลูตินหรี่ตาลงเล็กน้อยก่อนที่เขาจะอุ้มเธอขึ้นไปบนเตียง “พอไม่ได้สิ..ตรงนี้จะเจ็บมากแน่ๆ หากว่าข้าใส่เข้าไปน่ะ เอโลอีสเพราะว่านี่คือครั้งแรกของเจ้า..ฉะนั้นแล้วจงรับรู้เอาไว้เลยว่าในวันนี้ข้ากำลังพยายามหักห้ามใจของตัวเองอย่างถึงที่สุด” ไม่อย่างนั้นเขาคงจะกางขาเธอออกแล้วกดแทรกมันเข้าไปด้วยความต้องการทั้งหมดที่มีไปแล้วล่ะ “หากไม่อยากเจ็บก็อย่าบอกให้ข้าพอเลยเอโลอีส” เธอหน้าชาวาบเมื่อเขาใช้ปลายนิ้วอ้ากลีบดอกไม้ของเธอออก..เขาจูบตรงปากทางเข้าก่อนที่ปลายลิ้นร้อนผ่าวจะแทรกเข้ามา “อ๊า!!” ของเหลวสีใสไหลทะลักออกมาตามจังหวะของการขยับปลายลิ้น ลูตินละใบหน้าออกจากตรงนั้น เขาใช้ปลายนิ้วลูบไล้ปากทางเข้าอยู่พักหนึ่งก่อนจะกดแทรกมันเข้าไปตรงส่วนที่เปียกชื้นและอ่อนนุ่ม สะโพกของเธอลอยขึ้นในทันทีที่ได้รับสัมผัสอันแสนแปลกใหม่ “อื้อ!..ทะ..ท่านลูเซียนคะ ข้าขอพัก..ขอพักก่อน” ปลายนิ้วของเขาขยับเป็นวงกลมจากนั้นจึงเพิ่มจำนวนนิ้วแล้วเสียดสีตรงจุดเดิมย้ำๆ ราวกับเสียงอ้อนวอนแสนหวานของเอโลอีสเป็นเพีย