“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะลูติน หรือว่าวันนี้ม้าที่เจ้าลงเดิมพันมันวิ่งได้ห่วยรึไง”
ซีโมนเอ่ยถามพร้อมกับปรายสายตาลงไปมองที่สนามแข่งม้า “นี่ซีโมน..ปกติแล้วหลังจากที่เจ้ากระทำเรื่องเช่นนั้น เมื่อตื่นขึ้นมาก่อนที่เจ้าจะแยกทางกัน เจ้าทำอย่างไร..” นั่นมันคำถามอะไรวะนั่น ซีโมนวางฝ่ามือของเขาลงบนหน้าผากของลูติน “เจ้าไม่สบายรึเปล่าลูติน ถามคำถามแบบนั้นทำไมกัน ปกติเราต่างหากที่เป็นฝ่ายลุกออกจากเตียงก่อน เพราะไม่อยากอยู่รอจนถึงช่วงเช้าเพื่อให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดว่าเรามีใจน่ะ” ใช่ไหมล่ะ ปกติเขาก็เป็นเช่นนั้น เมื่อถึงรุ่งเช้าเป็นเขาที่ต้องลุกขึ้นก่อนแล้ววางของมีค่าเอาไว้ให้สตรีที่นอนอยู่บนเตียง นั่นก็เพื่อให้เราเข้าใจตรงกันว่าเขาไม่ต้องการสานต่อความสัมพันธ์ในครั้งนี้ “..แล้วสมมุติว่าสตรีผู้นั้นลุกออกไปก่อนเจ้าล่ะ” ซีโมนยกมือขึ้นมาลูบคางเบาๆ “เรื่องนั้นไม่เคยเกิดขึ้นกับข้ามาก่อนเลย แต่หากให้เดานะที่สตรีผู้นั้นลุกขึ้นไปก่อนอาจจะเป็นเพราะว่าลีลาและท่าทางของเจ้ามันห่วยจนเกินจะรับไหวอะไรแบบนั้นรึเปล่า” คำตอบนั้นทำให้ลูตินหน้าชาไปหมด เขายกแก้วสุราขึ้นมาดื่มเพื่อเรียกสติของตัวเองกลับมา อันที่จริงเขาก็แอบๆ คิดถึงตรงนี้เหมือนกัน แบบว่าเอโลอีสไม่ชอบการทำรักของเขาเพราะอย่างนั้นนางจึงจากไปในกลางดึกเช่นนั้น..แต่เมื่อคืนมันก็ดีแล้วเขาเองก็ทำมันสุดฝีมือแล้วนะ จะไม่ถูกใจเธอได้อย่างไรกันวะ เข้าไม่เข้าใจเลยจริงๆ “ลูติน หรือว่าที่เจ้าถามเช่นนั้นเพราะสตรีคนเมื่อคืนที่เจ้าใช้เวลาด้วยนางหนีไปกลางดึกอย่างนั้นหรือ?” คำถามของซีโมนทำให้ลูตินถึงกับเสียอาการ แต่ทว่าคนอย่าง ลูตินมีหรือที่จะเผยพิรุธของตัวเองออกมาน่ะ “ใช่ที่ไหนกัน อย่างข้าเนี่ยนะจะทำรักไม่ได้เรื่อง ข้าแค่ถามเอาไว้ก็เท่านั้นว่าเจ้าเคยมีประสบการณ์เรื่องเช่นนั้นหรือไม่เพราะดูเหมือนเจ้าจะเป็นพวกไก่อ่อนอะไรแบบนั้น” ซีโมนหรี่ตาลงเพื่อจับผิดเพื่อนของเขา ไม่ใช่ก็บอกว่าไม่ใช่สิ ทำไมจะต้องร้อนตัวอะไรขนาดนั้นกันนะ..นี่มันมีพิรุธนะเนี่ย “ว่าไง..” เคาน์มาเอลเอ่ยทักทายสหายทั้งสองคนด้วยรอยยิ้ม เขานั่งลงพร้อมกับปรายสายตาไปมองในสนามแข่งม้าที่กำลังดุเดือด..แต่ทว่าสายตาของมาเอลกลับมองเลยไปนิดหน่อย เขาไม่ได้ให้ความสนใจกับม้าที่กำลังวิ่งแข่งแต่เขากำลังมองไปที่สตรีสองนางที่กำลังนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามต่างหาก เลดี้เบนัวในวันนี้นางก็ยังคงเจิดจ้าเหมือนอย่างเคยและที่สำคัญที่ข้างกายของเลดี้เบนัวนั้นคือเลดี้อแลงที่กำลังยิ้มอย่างตื่นเต้นเมื่อนางมองเห็นม้าที่กำลังวิ่งแข่ง “อา..ตรงนี้วิวดีชะมัด” เมื่อลูตินมองตามสายตาของมาเอลไป เขาก็เห็นเอโลอีสที่กำลังยืนส่งเสียงเป็นกองเชียร์ให้กับม้า และเมื่อม้าตัวที่นางลงเดิมพันเอาไว้วิ่งเข้าเส้นชัยก่อน นางก็ถึงกับกอดคอของเลดี้เบนัวด้วยความดีใจ.. รอยยิ้มนั้นผลิบานราวกับกลีบดอกไม้ ช่วงเวลาที่นางแย้มยิ้มออกมาทำให้ผู้พบเห็นถึงกับตาค้างด้วยความตกตะลึงเลยทีเดียว เอโลอีสสวมชุดเดรสสีแดงที่แสนโดดเด่นออกมาในวันนี้ ผมยาวสลวยสีทองถูกรวบเอาไว้ครึ่งศีรษะ แล้วปล่อยออกมาพร้อมกับม้วนปลายผมอย่างพิถีพิถัน เหมือนว่าวันนี้นางจะตั้งใจแต่งกายมาเป็นอย่างดีเพราะมาที่สนามแข่งม้าในวันนี้..และนั่นทำให้ลูตินแค่นหัวเราะออกมาเบาๆ หรือว่านางเห็นเขาเป็นของเล่นจริงๆ ถึงได้ลืมกันง่ายดายเช่นนั้น เขาไม่ใช่บุรุษที่นางจะมาทอดทิ้งได้หรอกนะ!!” ซีโมนขมวดคิ้วมองหน้าของลูติน หากมองไม่ผิดเขาเห็นว่าสหายของเขานั้นกำลังกัดกรามแน่นราวกับว่ากำลังสะกดกลั้นอารมณ์อยู่ “ลูติน..ใครทำให้เจ้าอารมณ์ไม่ดีอย่างนั้นหรือ? ทั้งๆ ที่ม้าของเจ้าก็วิ่งเข้าเส้นชัยไปก่อน รอบนี้เจ้าชนะเดิมพันนะเว้ย!!” ลูตินใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มอย่างใช้ความคิด “ไม่มีอะไร ข้าก็แค่อยากทำความรู้จักกับเลดี้อแลงบ้างก็เท่านั้น” เมื่อลูตินกล่าวเช่นนั้นเคาน์มาเอลก็ดีดตัวขึ้นมาจากเก้าอี้ในทันที “ให้ตายสิ..ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเจ้าไม่สนใจนางด้วยซ้ำ แต่ขอบอกเอาไว้เลยว่าการทำความรู้จักกับเลดี้อแลงนั้นไม่ยากเท่าไหร่ นางดูเป็นสตรีที่น่ารักและอ่อนหวาน ทว่าคงต้องรอให้นางอยู่ผู้เดียว ที่ไม่มีเลดี้ เบนัวอยู่ด้วยน่ะนะ..ไม่อย่างนั้นเลดี้เบนัวคงขัดขวางบรรยากาศแสนหวานของเจ้าแน่ๆ” ลูตินยักไหล่ “ดูเหมือนว่าเจ้าจะรู้จักเลดี้เบนัวดีเลยนะมาเอล..หากรู้จักดีเช่นนั้นก็ไปกันสตรีผู้นั้นออกมาให้ข้าหน่อยสิ” ซีโมนหลุดขำออกมาในทันที “ขอร้องเลยลูติน หากเจ้าไม่อยากให้เกิดสงครามที่สนามม้าแห่งนี้ อย่าใช้ให้มาเอลไปยุ่งเกี่ยวกับเลดี้เบนัวเลย คราวที่แล้วมาเอลถูกเลดี้เบนัวราดสุราใส่ศีรษะของเขาด้วยซ้ำ” เรื่องนั้นลูตินรู้อยู่แล้ว และเขาสมน้ำหน้ามาเอลมากทีเดียวที่ถูกเลดี้เบนัวกระทำเช่นนั้นใส่น่ะ เพราะหมอนี่บังอาจไปยุ่งเกี่ยวกับเอโลอีสนะสิ บางทีเพื่อนของเขาก็ควรโดนซะบ้างไม่งั้นไม่ดีขึ้นเลย “เรื่องนั้นข้าเห็นว่าเลดี้เบนัวทำถูกต้องแล้ว มาเอลกับสตรีผู้อื่นข้าไม่เห็นว่าเจ้าจะกล่าวคำดูถูกพวกนางเช่นนั้นเลยแต่พอเป็นเลดี้เบนัว.. เจ้ามักจะทำให้นางเสียใจกับคำกล่าวของเจ้าอยู่เสมอ ข้าอยากรู้เหลือเกินว่าเจ้ามีเหตุผลอันใดที่ต้องทำเช่นนั้น” ลูตินเอ่ยถามสหายรักด้วยความอยากรู้ และแน่นอนว่ามาเอลไม่คิดตอบคำถามนั้นด้วยซ้ำ “ข้ามองเห็นเป้าหมายแล้วเพราะอย่างนั้นข้าจะไปเข้าหาสตรีที่ข้าหมายตาเอาไว้..ส่วนเรื่องของเลดี้อแลง..ข้าคิดว่าเราต้องดูที่ความ สามารถนะลูติน” ลูตินหัวเราะออกมาเบาๆ “เอาเลย หากเจ้าไม่เข็ดน่ะ..ครั้งนี้ข้าเอาใจช่วยเลดี้เบนัวนะ ขอให้น้ำที่ราดศีรษะเจ้าเป็นน้ำกรดอย่างที่นางเคยกล่าวเอาไว้ก็แล้วกัน” ซีโมนมองเพื่อนทั้งสองสลับกับไปมา “นี่พวกเจ้าจะเถียงกันไปทำไม..เราไม่เคยมีปัญหาในเรื่องของสตรีนะ มาเอลเจ้าเองก็อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับเลดี้อแลงเลย ข้าไม่ได้เข้าข้างลูตินแต่ข้าไม่อยากให้เจ้ามีปัญหากับเลดี้เบนัว..สตรีอื่นมีเยอะแยะเจ้าค่อยๆ มองไปก่อนก็ได้” เขาไม่อยากไปยุติสงครามระหว่างมาเอลก็เลดี้เบนัวแล้วจริงๆ ซีโมนหวังอย่างยิ่งว่ามาเอลจะเชื่อคำเขาบ้าง มาเอลถอนหายใจออกมายาวเหยียด “ก็ได้..วันนี้ข้าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับทั้งเลดี้เบนัวและเลดี้อแลง แต่วันหน้าข้าไม่รับปากนะเพราะว่าเลดี้อแลงนั้นดันเป็นสตรีที่น่ารักในแบบที่ข้าชอบเนี่ยนะสิ”ถ้อยคำที่เคาน์มาเอลทิ้งท้ายเอาไว้ ทำให้ซีโมนสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เยือกเย็นอย่างบอกไม่ถูก“ซีโมน..เท่าที่ข้ารู้ครอบครัวของมาเอลล้มหายตายจากไปแล้วใช่หรือไม่ ทั้งมารดา บิดาและญาติพี่น้องล้วนแล้วแต่เสียชีวิตไปหมดแล้วทั้งสิ้น..”ลูตินเอ่ยถามด้วยแววตาเย็นยะเยือก และนั่นทำให้ซีโมนยกมือขึ้นมาปาดเหงื่อเบาๆ“เรื่องนั้นมันก็ใช่..”“เช่นนั้นหากหมอนั่นตายไปอีกคนเขาก็จะได้พบเจอกับครอบครัวใช่หรือไม่ ข้าควร..ทำให้เพื่อนรักได้พบเจอครอบครัวในเร็ววันอย่างนั้นสินะ”ซีโมนส่งยิ้มแห้งๆ ให้กับลูติน เขาอยากจะบอกกล่าวออกไปเหลือเกินว่านั่นเพื่อนนะโว้ย แค่สตรีนางเดียวถึงกับจะฆ่าจะแกงกันเลยงั้นเรอะ!!“ลูติน..มาเอลก็แค่ล้อเล่น เจ้าอย่าไปถือสาเขาเลยน่า..ตอนนี้หากเจ้าอยากจะเข้าหาเลดี้อแลงจริงๆ คนที่เจ้าควรกังวลคือเซอร์ลาเบนผู้นั้นต่างหาก”เมื่อลูตินได้ยินเช่นนั้นเขาก็ปรายสายตาไปมองที่เอโลอีส สิ่งที่เขาพบเห็นคือเธอกำลังแย้มยิ้ม..เป็นรอยยิ้มละมุนละไมชวนให้หัวใจรู้สึกอบอุ่น และบุรุษที่กำลังยืนอยู่ข้างๆ เธอคือเซอร์ลาเบน..เพื่อนวัยเด็กนี่มันช่างน่ารำคาญชะมัดเลยโว้ย!!หรือว่าเซอร์ลาเบนคือสามีในอนาคตของเอโลอีส ส่วนเขา..เ
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะลูติน หรือว่าวันนี้ม้าที่เจ้าลงเดิมพันมันวิ่งได้ห่วยรึไง”ซีโมนเอ่ยถามพร้อมกับปรายสายตาลงไปมองที่สนามแข่งม้า“นี่ซีโมน..ปกติแล้วหลังจากที่เจ้ากระทำเรื่องเช่นนั้น เมื่อตื่นขึ้นมาก่อนที่เจ้าจะแยกทางกัน เจ้าทำอย่างไร..”นั่นมันคำถามอะไรวะนั่น ซีโมนวางฝ่ามือของเขาลงบนหน้าผากของลูติน“เจ้าไม่สบายรึเปล่าลูติน ถามคำถามแบบนั้นทำไมกัน ปกติเราต่างหากที่เป็นฝ่ายลุกออกจากเตียงก่อน เพราะไม่อยากอยู่รอจนถึงช่วงเช้าเพื่อให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดว่าเรามีใจน่ะ”ใช่ไหมล่ะ ปกติเขาก็เป็นเช่นนั้น เมื่อถึงรุ่งเช้าเป็นเขาที่ต้องลุกขึ้นก่อนแล้ววางของมีค่าเอาไว้ให้สตรีที่นอนอยู่บนเตียง นั่นก็เพื่อให้เราเข้าใจตรงกันว่าเขาไม่ต้องการสานต่อความสัมพันธ์ในครั้งนี้“..แล้วสมมุติว่าสตรีผู้นั้นลุกออกไปก่อนเจ้าล่ะ”ซีโมนยกมือขึ้นมาลูบคางเบาๆ“เรื่องนั้นไม่เคยเกิดขึ้นกับข้ามาก่อนเลย แต่หากให้เดานะที่สตรีผู้นั้นลุกขึ้นไปก่อนอาจจะเป็นเพราะว่าลีลาและท่าทางของเจ้ามันห่วยจนเกินจะรับไหวอะไรแบบนั้นรึเปล่า”คำตอบนั้นทำให้ลูตินหน้าชาไปหมด เขายกแก้วสุราขึ้นมาดื่มเพื่อเรียกสติของตัวเองกลับมา อันที่จริงเขาก็แอบๆ คิดถึ
เอโลอีสลืมตาขึ้นมาในกลางดึก เธอผล็อยหลับไปเพราะความเหนื่อยล้า และเมื่อตื่นขึ้นมาอีกทีก็ไม่เห็นท่านลูเซียนนอนอยู่ข้างกายเสียแล้ว..ในใจเกิดเป็นความรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาพร้อมกับคำถามที่อัดแน่นอยู่ในนั้น..หรือว่าที่เขาจากไปมันเป็นเพราะว่าเขาต้องการบอกกล่าวเป็นนัยๆ ถึงจุดจบของความสัมพันธ์เธอและเขาเมื่อได้บทสรุปเช่นนั้นอยู่ๆ น้ำตาที่พึ่งจะแห้งเหือดไปมันก็รินไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เธอลุกขึ้นพร้อมกับเดินไปหยิบชุดเดรสที่แขวนอยู่มาสวม เอโลอีสใช้หลังมือในการเช็ดน้ำตาเป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว..ในเมื่อเขาไม่ได้คิดอะไรกับเธอเช่นนั้นให้มันจบลงเร็วๆ ก็ดีแล้วล่ะเธอจัดการยืนสงบสติอารมณ์อีกพักหนึ่งก่อนจะเดินออกไปจากที่นี่..เธอไม่ควรกลับไปที่คฤหาสน์ในยามนี้ เพราะอย่างนั้นเอโลอีสจึงเลือกที่จะไปหาเฟมที่คฤหาสน์ ความเจ็บปวดจากตรงส่วนนั้นส่งผลให้การเดินนั้นยากลำบากมากพอสมควร..เธอกัดฟันแน่นพร้อมกับดึงสติของตัวเองกลับมา..ไม่เป็นไร..เธอจะผ่านความเจ็บปวดนี้ได้ และเธอจะกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งในเร็ววัน..“ดูสภาพเจ้าสิ..ให้ตายเถอะไม่บอกก็รู้ว่าเจ้าคงจะพบเจอกับความสัมพันธ์ที่มันไม่สวยหรูเท่าไหร่ใช่ไหม..เอโลอีสไม่ต้อ
เอโลอีสปรือตามองหน้าเขา..มันน่าตกใจที่เขาจับจูงมือเธอเดินมาจนถึงขั้นนี้ แต่ทว่าเมื่อได้ลองคิดดูดีๆ เป็นเธอที่เรียกร้องให้เขากระทำเช่นนี้เอง เธอเป็นคนเริ่มมันมาเองเพราะอย่างนั้นในยามนี้สิ่งที่เอโลอีสกำลังทำคือการรับผิดชอบคำพูดของตัวเองขาทั้งคู่ถูกแยกออกจากกัน มือใหญ่ช้อนใต้เข่าเพื่อรั้งเรียวขายกขึ้นจนถึงไหล่ แรงปรารถนาซัดสาดไปทุกหนทุกแห่งจนร่างกายสะท้านไหว จริงอยู่ที่ในครั้งแรกนั้นมันมีเพียงความเจ็บปวดเท่านั้นที่ฉายชัดเข้ามาในร่างกาย แต่ทว่าในช่วงเวลาถัดมา เมื่อความเจ็บปวดเริ่มจางหายความรู้สึกสั่นไหวก็เข้ามาแทนที่ ทุกครั้งที่ช่องทางนุ่มๆ ถูกเสียบด้วยความแข็งตึงนั้นความสุขสมอย่างรุนแรงก็แล่นริ้วไปทั่วทั้งร่างดวงตาของลูตินไม่ละไปจากใบหน้าของเอโออีสเลย เขาจ้องมองเธอตลอดเวลา คอยมองดูใบหน้าที่งดงามนั้นอย่างไม่คาดสายตาว่าเธอจะแสดงสีหน้าออกมาแบบไหน“อา..ลึกไปแล้วค่ะ”เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนจะพรมจูบไปที่ใบหน้าของเธอ“แล้วไม่ชอบรึไง..แบบนี้เสียวกว่าเยอะเลยไม่ใช่เหรอ”ต้นขาด้านในสั่นสะท้าน เอโลอีสได้แต่บิดตัวเร่าเมื่อการสอดแทรกทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ..จะกล่าวออกไปว่าชอบมากมันก็ช่างน่า
นิ้วที่สามซึ่งมันไม่น่าเข้ามาได้ตั้งแต่แรกกำลังขยับเข้าออกในร่างกายของเธอ เอโลอีสส่งเสียงร้องครางออกมาอย่างห้ามไม่ได้ แพรขนตางอนงามเปียกชื้นไปด้วยน้ำตา เธอพยายามร้องขอเพื่อให้เขาหยุด อย่างน้อยก็ช่วยหยุดพักให้เธอหายใจสักหน่อยก็ยังดี แต่ทว่าท่านลูเซียนนอกจากไม่หยุดพัก เขายังทำมันรุนแรงขึ้นอีกต่างหาก“อะ..อ๊า! ได้โปรดหยุดเถอะค่ะ ท่านลูเซียนได้โปรด..ยะ..หยุดก่อน!”สะโพกบางบิดเกร็งทุกครั้งที่มือของเขาเคลื่อนไหว นิ้วเปียกลื่นค่อยๆ ดันเข้ามาทีละน้อย เธอขบเม้มริมฝีปากพร้อมกับพยายามดันสะโพกหนี แต่การประท้วงเล็กๆ น้อยๆ ของเอโลอีสมันไม่เป็นผลเลย เมื่อลูตินใช้มืออีกข้างของเขากอดสะโพกของเธอเอาไว้“อยากให้หยุดอย่างนั้นหรือเอโลอีส”เธอพยักหน้าทั้งน้ำตา พร้อมกับช้อนสายตามองหน้าเขาอย่างน่าสงสาร ลูตินแสยะยิ้มที่มุมปากก่อนที่เขาจะขยับใบหน้าไปกระซิบที่ข้างหูอย่างแผ่วเบา“โกหก..เจ้าจะอยากหยุดได้อย่างไรกันในเมื่อด้านในมันบีบรัดนิ้วข้าแน่นขนาดนั้น..เอโลอีสไม่ต้องเป็นห่วงเพราะเดี๋ยวข้าจะทำให้เจ้ารู้สึกดีมากกว่าการใช้นิ้วเอง”สิ้นเสียงนั้นเขาก็ยกเรียวขาทั้งสองข้างของเธอพาดเอาไว้บนบ่า รอยยิ้มของท่านลูเซียนมันแ
เอโลอีสรู้สึกได้เลยว่าเธอกำลังจะยืนไม่อยู่ ขาแข้งสั่นเทาไปหมด และคาดว่าอีกไม่นานเธอจะต้องล้มลงอย่างแน่นอน ลูตินหรี่ตาลงเล็กน้อยก่อนที่เขาจะอุ้มเธอขึ้นไปบนเตียง “พอไม่ได้สิ..ตรงนี้จะเจ็บมากแน่ๆ หากว่าข้าใส่เข้าไปน่ะ เอโลอีสเพราะว่านี่คือครั้งแรกของเจ้า..ฉะนั้นแล้วจงรับรู้เอาไว้เลยว่าในวันนี้ข้ากำลังพยายามหักห้ามใจของตัวเองอย่างถึงที่สุด” ไม่อย่างนั้นเขาคงจะกางขาเธอออกแล้วกดแทรกมันเข้าไปด้วยความต้องการทั้งหมดที่มีไปแล้วล่ะ “หากไม่อยากเจ็บก็อย่าบอกให้ข้าพอเลยเอโลอีส” เธอหน้าชาวาบเมื่อเขาใช้ปลายนิ้วอ้ากลีบดอกไม้ของเธอออก..เขาจูบตรงปากทางเข้าก่อนที่ปลายลิ้นร้อนผ่าวจะแทรกเข้ามา “อ๊า!!” ของเหลวสีใสไหลทะลักออกมาตามจังหวะของการขยับปลายลิ้น ลูตินละใบหน้าออกจากตรงนั้น เขาใช้ปลายนิ้วลูบไล้ปากทางเข้าอยู่พักหนึ่งก่อนจะกดแทรกมันเข้าไปตรงส่วนที่เปียกชื้นและอ่อนนุ่ม สะโพกของเธอลอยขึ้นในทันทีที่ได้รับสัมผัสอันแสนแปลกใหม่ “อื้อ!..ทะ..ท่านลูเซียนคะ ข้าขอพัก..ขอพักก่อน” ปลายนิ้วของเขาขยับเป็นวงกลมจากนั้นจึงเพิ่มจำนวนนิ้วแล้วเสียดสีตรงจุดเดิมย้ำๆ ราวกับเสียงอ้อนวอนแสนหวานของเอโลอีสเป็นเพีย