Share

บทที่ 15

Author: เฉิงกวงโฮ่วถู่
ในที่สุด ตามคำร้องขออย่างจริงใจของเถ้าแก่ เย่ซิวก็ยอมรับซองสีแดงมูลค่าสองพันหยวนมา

ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการได้กินอาหารฟรี แถมยังได้เงินสองพันหยวน

เย่ซิวยืนขึ้น เขากินจนเกือบจะอิ่มแล้ว และก็พร้อมที่จะไปทักทายลู่เสวี่ยเอ๋อร์แล้ว

แต่ทันทีที่เขาลุกขึ้น เขาเห็นหวังเฟยผลักประตูเข้าไปในห้องส่วนตัวที่ลู่เสวี่ยเอ๋อร์และเพื่อนอยู่

ในห้องส่วนตัว หลี่เยี่ยนคีบอาหารให้ลู่เสวี่ยเอ๋อร์อย่างกระตือรือร้น ในตอนที่เธอไม่ได้สนใจ เธอจึงโยนยาเม็ดเล็ก ๆ ลงในชาม และยาก็ละลายทันที

“เสวี่ยเอ๋อร์ ลองนี่ดูสิ อร่อยนะ”

ลู่เสวี่ยเอ๋อร์กินเข้าไปพลางสงสัยเล็กน้อย “ทำไมฉันรู้สึกว่าวันนี้เธอแปลก ๆ?”

“ไม่หรอก เธอคิดมากไปแล้ว รีบกินเร็วเข้า อร่อยนะ”

ลู่เสวี่ยเอ๋อร์สับสนและรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

แต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นสิ่งใด

เธอหยิบชามและตะเกียบขึ้นมาแล้วอยากจะกินเนื้ออีกชิ้น

แต่ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกอ่อนแรงจนตะเกียบตกจากนิ้ว

ปึง! ปึง!

ในขณะเดียวกันนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

หลี่เยี่ยนลุกขึ้นไปเปิดประตู และพาหวังเฟยเข้ามา

ลู่เสวี่ยเอ๋อร์รู้สึกถึงบางสิ่งที่ไม่ดีในใจ แต่เธอก็ยังคงสามารถรักษาสติของเธอเอาไว้ได้ “เพื่อนนักเรียนหวังเฟย นายมาที่นี่ได้ยังไง?”

“ผ่านมาน่ะ” หวังเฟยมองลู่เสวี่ยเอ๋อร์ด้วยสายตาที่ไร้ยางอาย

เธอมีรูปร่างที่ยอดเยี่ยม ขนาดที่แม้แต่ผู้หญิงด้วยกันยังอดอ้าปากค้างไม่ได้

หวังเฟยอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย

ไม่ใช่แค่วันสองวันที่เขาโลภอยากได้ลู่เสวี่ยเอ๋อร์เช่นนี้

เมื่อก่อนไม่กล้า เพราะมีปรมาจารย์คอยปกป้องลู่เสวี่ยเอ๋อร์อย่างลับ ๆ มาเสมอ

แต่เมื่อไม่นานมานี้เขาได้รับข่าวว่าคนคนนั้นจากไปด้วยเหตุบางอย่าง

นี่ทำให้เขามีโอกาสที่จะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้

ลู่เสวี่ยเอ๋อร์เป็นผู้หญิงหัวโบราณ

ตราบใดที่เขาได้ครอบครองเรือนร่างของเธอ แม้ว่าเธอจะไม่ต้องการ เธอก็ทำได้เพียงกลั้นใจแต่งงานกับเขาเพียงเท่านั้น

ไม่เพียงได้ตอบสนองความต้องการของตัวเอง แต่เขายังจะได้แต่งงานเชื่อมความสัมพันธ์กับตระกูลลู่อีก เมื่อถึงเวลา ความแข็งแกร่งและสถานะของตระกูลหวังก็จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากอย่างไม่ต้องสงสัย

ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ตื่นตระหนกเล็กน้อย เธอพบว่าหวังเฟยแตกต่างไปจากปกติอย่างสิ้นเชิง ราวกับหมาป่าที่ถอดชุดแกะออก

ในที่สุดเธอก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ พลางมองไปที่หลี่เยี่ยน

“เธอวางยาในอาหารของฉันเหรอ?”

เธอยอมรับตรง ๆ “ใช่ นายน้อยหวังเป็นคนดีมากและเขาก็หลงรักเธอ เธอสองคนเป็นคู่ที่ลงตัวกันมาก ฉันแค่จะช่วยเธอเท่านั้น”

ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ทั้งกังวลและโกรธ น้ำเสียงสะอื้น “เธอทำแบบนี้ได้ยังไง? ฉันคิดว่าเราเป็นเหมือนพี่น้องกันด้วยซ้ำ ทำไมเธอถึงต้องทำร้ายฉันด้วย?”

หลี่เยี่ยนยิ้มอย่างเย็นชาและไม่ได้ตอบ แต่มองไปที่หวังเฟย “นายน้อยหวัง มาจัดการเรื่องนี้ที่นี่กันดีกว่า ฉันจะช่วยเฝ้าหน้าประตูไว้ให้ คุณตกลงไหม?”

หวังเฟยหัวเราะเสียงดัง “ฉันยินดี”

หลังจากพูดจบ เขาก็รอที่จะถอดเสื้อคลุมแล้วเดินไปหาลู่เสวี่ยเอ๋อร์แทบไม่ไหว

“อย่าเข้ามานะ...ไปให้พ้น...ฉะ...ฉันจะร้องให้คนช่วย...”

เสียงของลู่เสวี่ยเอ๋อร์อ่อนแรงมาก ในร่างกายเธอไม่มีกำลังเหลือแล้ว เสียงเล็ก ๆ เช่นนี้ไม่อาจไปถึงหูคนภายนอกได้เลย

หวังเฟยดูตะกละตะกลาม “ร้องเลยสิ! ยิ่งเธอร้อง ฉันก็ยิ่งตื่นเต้น ฮ่าฮ่าฮ่า!”

หวังเฟยดึงเสื้อคลุมของลู่เสวี่ยเอ๋อร์ออกด้วยแรงมหาศาล

เธอทรุดตัวลงบนเก้าอี้

ดวงตาเป็นสีแดงก่ำ กอปรกับความกลัวจับขั้วหัวใจ

“อย่า...ได้โปรดอย่าทำแบบนี้”

ยิ่งลู่เสวี่ยเอ๋อร์อ้อนวอนมากเท่าไร หวังเฟยก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น

“ที่รัก ฉันตามจีบเธอมานานแล้ว แต่เธอก็ไม่เคยแยแส แต่ในที่สุดเธอก็ตกมาอยู่ในเงื้อมือของฉันแล้ว มาดูกันว่าฉันจะจัดการกับเธอยังไง!”

ทันใดนั้นเขาก็ยื่นมือจะไปจับหน้าอกของลู่เสวี่ยเอ๋อร์

ลู่เสวี่ยเอ๋อร์หลับตาด้วยความสิ้นหวัง

เธอรู้ว่าวันนี้มันจบแล้วและเธอคงจะถูกขืนใจจนมีมลทินติดตัวอย่างแน่นอน

ปึง!

ในช่วงเวลาวิกฤติ ประตูก็ถูกเปิดออก

หลี่เยี่ยนที่ยืนอยู่หลังประตูล้มคว่ำหน้าลงไปกับพื้นอย่างแรง

หลังจากเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างชัดเจนแล้ว เย่ซิวก็ปิดประตู และดีดนิ้วออกไป

เข็มเงินเล่มหนึ่งพุ่งออกไปเจาะจุดฝังเข็มของหวังเฟย

มือของหวังเฟยหยุดอยู่ห่างจากหน้าอกของลู่เสวี่ยเอ๋อร์เพียงไม่กี่เซนติเมตร จากนั้นทั้งร่างของเขาก็ล้มลงไปกับพื้น

เย่ซิวรีบสาวเท้าเข้าหาลู่เสวี่ยเอ๋อร์ พลางจับมือเธอและตรวจชีพจรทันที

ร่างกายที่บอบบางของลู่เสวี่ยเอ๋อร์สั่นเทา เธอลืมตาขึ้น หลังจากได้ยินการเคลื่อนไหว

เมื่อเห็นภาพตรงหน้า ก็เกิดตกตะลึงทันที

เดิมที ความหวังของเธอมลายหายไปแล้ว

แต่ไม่คาดคิดว่าชายหนุ่มรูปงามจะปรากฏตัวต่อหน้าในช่วงเวลาวิกฤติ และช่วยเธอเอาไว้ได้ทัน

เป็นการยากที่จะแสดงความรู้สึกของเธอออกมาเป็นคำพูดในขณะนี้

เย่ซิวคือดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงให้เธอท่ามกลางความมืดมิด

“ขอบคุณที่ช่วยฉันไว้”

“อย่าเพิ่งพูดเลย เดี๋ยวผมจะช่วยให้คุณดีขึ้นก่อน”

หลังจากพูดจบ เย่ซิวก็หยิบเข็มเงินและยาฆ่าเชื้อที่เขาพกติดตัวออกมา

เขาฆ่าเชื้อเข็มเงินทั้งหมดแล้วฝังเข็มให้ลู่เสวี่ยเอ๋อร์

ในไม่ช้าร่างกายของเธอก็ฟื้นกลับมาแข็งแรง เธอมองไปยังเย่ซิวด้วยดวงตาเป็นประกาย

“ขอบคุณนะ! นายรู้เรื่องการแพทย์ด้วยเหรอ? นี่เป็นการแพทย์แผนจีนหรือเปล่า? น่าทึ่งมากเลย”

ในตอนนี้ เธอเริ่มสนใจเย่ซิวมากขึ้น

เย่ซิวพยักหน้า “ใช่ นี่คือการแพทย์แผนจีน”

พลันเสียงของเขาก็เปลี่ยนไป “คุณจะทำยังไงกับสองคนนี้?”

ท่าทางของลู่เสวี่ยเอ๋อร์ดูสับสน

เธอจ้องมองไปที่หลี่เยี่ยน และยังคงรู้สึกไม่อยากจะเชื่อมาจนถึงตอนนี้

เพื่อนสนิททำกันแบบนี้ได้ลงคอ

“ช่างเถอะ บางทีเธออาจจะมีเหตุผลอะไรบางอย่าง เราไปกันเถอะ”

เธอจิตใจดีและทำร้ายหลี่เยี่ยนไม่ลง

“ไอ้เวรเอ๊ย แกทำอะไรฉัน?!” หวังเฟยพยายามดิ้นรนต่อสู้หลายครั้งแต่ก็ล้มเหลว

เขาตกใจมากเมื่อพบว่าร่างกายครึ่งท่อนล่างของตัวเองไร้ความรู้สึก

เย่ซิวคุกเข่าลงและตบหน้าเขา “แกต้องชดใช้ที่ทำเรื่องชั่ว ๆ ไงล่ะ”

เขาหยิบเข็มเงินออกมาเจาะจุดฝังเข็มของหวังเฟยหลายจุดโดยไม่ฆ่าเชื้อก่อน

จากนั้นจึงดึงเข็มออก

หวังเฟยพบว่าเขาพอจะสามารถยืนขึ้นได้ แต่เขากลับรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับร่างกายของตัวเอง

“แกทำอะไรฉันอีกแล้ว?”

“แกชอบคั่วกับพวกสาว ๆ ไม่ใช่เหรอ? ฉันก็เลยทำลายความสามารถนั้นไปไงล่ะ ชาตินี้ทั้งชาติแกก็อย่าได้คิดจะได้ผงาดขึ้นมาอีกเลย!”

“อะไรนะ?!” หวังเฟยตกใจมาก “เป็นไปไม่ได้ ฉันไม่เชื่อว่าแกจะมีความสามารถอย่างที่พูดหรอก!”

เย่ซิวยิ้มเยาะและไม่สนใจที่จะอธิบาย เขาจับมือลู่เสวี่ยเอ๋อร์แล้วเดินออกไปข้างนอก

ใบหน้าที่งดงามของลู่เสวี่ยเอ๋อร์เปลี่ยนเป็นสีแดง

นอกจากพ่อแล้ว นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอถูกเพศตรงข้ามแตะเนื้อต้องตัว หัวใจเธอจึงเริ่มเต้นเร็วขึ้น

เธอถูกเย่ซิ่วพาออกจากร้าอาหารหม้อไฟหม่าล่าในขณะที่กำลังสับสนมึนงง

……

ที่ห้องส่วนตัว หวังเฟยกำลังจินตนาการถึงบรรยากาศเย้ายวนต่าง ๆ

แต่ไม่นานเขาก็หมดหวัง

มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย

ในอดีตเขาเพีงแค่จินตนาการถึงลู่เสวี่ยเอ๋อร์ก็ได้ผลในทันทีแล้ว

มีออร่าเย็นที่มองไม่เห็นห่อหุ้มเขาไว้

หวังเฟยตื่นตระหนก

ทันใดนั้น เขาที่เห็นหลี่เยี่ยนนอนอยู่บนพื้น เขาก็เดินเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว

เขาคว้าผมของหลี่เยี่ยนแล้วสั่งอย่างดุดัน “อ้าปากให้ฉันหน่อย!”

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (4)
goodnovel comment avatar
Piriyapong Paansuuntea
สนุกมาก ลุ้นตลอด
goodnovel comment avatar
เสือน้อย อินเตอร์
เติมเงินแล้วไม่เข้า
goodnovel comment avatar
ม่าม่า รถดี
ขันทีหวัง555
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1266

    วันรุ่งขึ้นมีคนยืนอยู่ด้านนอกถ้ำของเย่ซิวเป็นจำนวนมากทั้งหลัวเวยเวย รั่วอวิ๋น เฉินเยียนจือ จางเสี่ยวอวี๋ ต่างก็มาส่งเย่ซิว“พอไปถึงสำนักโอสถแล้ว อย่าลืมทำตัวให้เรียบร้อยนะ”“คนที่นั่นแต่ละคนต่างก็มีนิสัยที่ดุร้ายมาก อย่าได้ไปมีเรื่องกับพวกเขาเชียว”“เจอเรื่องอะไรก็อดทนไว้หน่อยนะ”……เย่ซิวยิ้มพลางพยักหน้า ฟังพวกเธอพูดบ่นอยู่นานกว่าจะได้ไปการเดินทางไปสำนักโอสถครั้งนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือนก่อนจากไป เย่ซิวได้ไปพบกับผู้หญิงบนเตียงน้ำแข็ง เพื่อบอกว่าในหนึ่งเดือนนี้จะให้หุ่นเชิดมาจุดธูปบูชาแทนเขาแต่ผู้หญิงคนนั้นกลับส่งกระแสจิตที่ไม่เห็นด้วยออกมาในที่สุด เมื่อไม่มีทางเลือก เย่ซิวก็ใช้เลือดของตัวเองสร้างร่างแยกที่มีพลังแข็งแกร่งขึ้นมา เพื่อจุดธูปบูชาแทนตัวเองทุกวันส่วนเหตุผลที่เป็นเช่นนี้ เย่ซิวก็ไม่ได้ค้นหาคำตอบอะไรมากเย่ซิวได้ออกจากสำนักอวิ้นหลิงไปภายใต้สายตาที่อาลัยอาวรณ์ของหญิงสาวหลายคน ……ที่สำนักเงาอาฆาตเจ้าสำนักให้การต้อนรับทูตของสำนักโอสถอย่างอบอุ่น พร้อมหัวเราะเสียงดังว่า “ท่านทูตเดินทางมาไกลคงเหน็ดเหนื่อยแล้ว ผมได้เตรียมห้องพักชั้นเยี่ยมไว้ให้แล้ว

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1265

    “นาย?!!”หลัวเวยเวยมองศีรษะมังกรขนาดมหึมาที่อยู่ตรงหน้า สมองว่างเปล่าไปหมด“นายเป็นเผ่ามังกรเหรอ?!”เย่ซิวไม่ได้ตอบคำถามนั้น เขาออกแรงเล็กน้อย กระดูกทั่วร่างของหลัวเวยเวยก็ส่งเสียงแกร๊กเบา ๆ ทันที “ยอมหรือยัง”หลัวเวยเวยได้สติกลับมา ก่อนจะหัวเราะคิกคัก “เจ้าหมอนี่ เล่ห์กลของนายช่างคาดเดายากจริง ๆ ทำให้ฉันยิ่งสงสัยในตัวนายมากขึ้นไปอีกแต่ว่า… ฉันไม่ยอมแพ้หรอก!”พลังวิญญาณอันมหาศาลพวยพุ่งออกมาจากรูขุมขนทั่วร่าง เธอยังคงต้องการต่อสู้กับเย่ซิวจนถึงที่สุดเย่ซิวเพิ่มแรงอีกครั้ง ก่อนจะได้ยินเสียงราวกับไข่แตกละเอียด การป้องกันที่หลัวเวยเวยยืนหยัดไว้ก็ถูกทำลายลงในไม่กี่วินาที“ยังไม่ยอมแพ้อีกเหรอ?”หลัวเวยเวยกัดริมฝีปากสีชมพู ไม่ตอบคำถามใดเธอเพิ่งก้าวเข้าสู่ระดับปฐมญาณ เป็นช่วงที่กำลังทะนงตัว จะยอมแพ้ง่าย ๆ ได้ยังไง?เย่ซิวชอบคนปากแข็งแบบนี้ที่สุดเขาเพิ่มแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งเสื้อผ้าของหลัวเวยเวยเสียหายหลังจากถูกบีบอัดอย่างรุนแรงผิวของเธอขาวเนียนละเอียดราวกับเยลลี่ มองแล้วชวนให้ลุ่มหลงจนถอนตัวไม่ขึ้นใบหน้าของหลัวเวยเวยแดงก่ำไปหมดถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น เธอก็ยังคงกั

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1264

    “กรี๊ด นี่นาย!! ปล่อยฉันนะ!”หลัวเวยเวยทั้งอายทั้งโมโห ไม่คิดเลยว่าเย่ซิวจะกล้าขนาดนี้เย่ซิวนอกจากจะไม่หยุดมือแล้ว แต่ยังเพิ่มแรงไปอีกสองสามเท่า“ต่อไปต้องเชื่อฟังนะ ไม่งั้นจะโดนลงโทษอีก”หลัวเวยเวยไม่ใช่ผู้หญิงประเภทที่เอาแต่จะยอมแพ้พลังระดับปฐมญาณปะทุออกมา ต้องการดีดเย่ซิวออกไปแต่ตอนนี้ร่างกายของเย่ซิวได้ไปถึงจุดที่หลัวเวยเวยไม่สามารถตามได้ทันแล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ที่หลัวเวยเวยยังถูกเย่ซิวจับอยู่ไม่ว่าจะดิ้นรนแค่ไหน ออกแรงเท่าไหร่ก็ไร้ประโยชน์สิ่งนี้ทำให้หลัวเวยเวยทั้งอายทั้งโมโห ขณะเดียวกันก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย “ทำไมร่างกายนายถึงแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้?!”เย่ซิวไม่ได้ตอบคำถามนั้น ก่อนจะตบอีกฉาดใหญ่ “ยอมไหม”“ไม่ยอม ถ้าแน่จริงปล่อยฉันสิ พวกเรามาประลองกันจริงจังสักตั้ง!”เย่ซิวปล่อยเธอ “ได้”ผู้หญิงคนนี้คิดว่าการทะลวงผ่านระดับปฐมญาณแล้วจะสามารถแข็งข้อกับเขาได้ นั่นมันไร้เดียงสาเกินไปแล้วหลัวเวยเวยลูบตำแหน่งที่โดนเย่ซิวตีไปเมื่อครู่ ยังรู้สึกเจ็บแปลบอยู่ไม่หายเธอสามารถใช้อาคมรักษาให้หายได้ในพริบตาแต่ก็ไม่ได้ทำความเจ็บแปลบ ๆ นี้ทำให้เธอรู้สึกประหลาดในใจ เหม

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1263

    แววตาเย็นชาของเย่ซิวทำให้หลัวเวยเวยใจเต้นรัวไม่เคยเห็นเย่ซิวมีสีหน้าแบบนี้มาก่อนเลยเย่ซิวเหลือบมองหลัวเวยเวยอย่างเย็นชา ไม่ได้ทำให้เธอต้องอับอายต่อหน้าสาธารณชน ก่อนจะเอ่ยถาม “เรียกผมมามีเรื่องอะไร?”หลัวเวยเวยเม้มปาก รู้สึกน้อยใจอย่างมากเธอก็ไม่อยากจะเสียสละศิษย์หญิงหรอกนะแต่โลกของผู้ฝึกตนก็เป็นแบบนี้ ปลาใหญ่กินปลาเล็ก จะให้เธอไปปรนนิบัติชายคนนั้นด้วยตัวเองหรือยังไงเล่า?หลัวเวยเวยลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าเย่ซิว ก่อนจะยื่นม้วนคัมภีร์ในมือให้ “ดูเอาเถอะ”เย่ซิวรับมาแล้วกวาดตาดูอย่างรวดเร็วในม้วนคัมภีร์นั้นมีจดหมายเชิญแนบมาด้วยความหมายโดยรวมคือสำนักโอสถจะจัดงานชุมนุมปรุงยาครั้งยิ่งใหญ่ในอีกครึ่งเดือนข้างหน้า เพื่อเชิญนักปรุงยาจากทั่วทุกสารทิศเข้าร่วมงานชุมนุมปรุงยานี้จำกัดเฉพาะนักปรุงยารุ่นเยาว์ที่มีอายุต่ำกว่าห้าสิบปีเท่านั้นระบุไว้ว่าผู้ที่สามารถคว้าอันดับหนึ่งในงานชุมนุมได้จะได้รับรางวัลมากมายเห็นเย่ซิวนิ่งเงียบ หลัวเวยเวยก็เอ่ยว่า “นี่เป็นกลวิธีเก่าแก่ของสำนักโอสถที่จัดขึ้นทุกสิบปีบอกว่าเป็นการฝึกฝนนักปรุงยารุ่นเยาว์ แต่แท้จริงแล้วคือการสร้างชื่อเสียงให้กับศิษย์ของพ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1262

    “ภรรยา…”ยังไม่ทันพูดจบก็ถูกขัดจังหวะเสียก่อนผู้อาวุโสคนหนึ่งที่อยู่เวรข้างนอกรีบวิ่งเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบหลัวเวยเวยไม่พอใจเล็กน้อย “ทำไมถึงได้รีบร้อนขนาดนี้”“เรียนภรรยาเจ้าสำนัก สำนักโอสถส่งคนมาแล้วครับ”หลัวเวยเวยสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นทันที ผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ก็พลันจริงจังขึ้นมาเช่นกันหลัวเวยเวยตอบสนองอย่างรวดเร็ว “ไปเชิญเขามาที่ห้องประชุม”ไม่นานนัก ชายหนุ่มท่าทางโอหังคนหนึ่งก็เชิดหน้าเดินมาถึงห้องประชุมเมื่อเห็นหลัวเวยเวยก็ไม่โค้งคำนับอะไรสักนิด กลับนั่งลงบนที่นั่งอย่างไม่เกรงใจหลัวเวยเวยนั่งอยู่บนที่สูง สองฝั่งเป็นผู้อาวุโสมากมายเมื่อเห็นภาพแบบนี้เธอก็ไม่ได้โกรธอะไร และไม่กล้าโกรธด้วยความแข็งแกร่งของสำนักโอสถไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะเทียบได้ แม้จะมีผู้บำเพ็ญตนระดับปฐมญาณอีกร้อยคน พวกเขาก็ไม่กล้าทำอะไรสำนักโอสถอยู่ดีหลัวเวยเวยมีรอยยิ้มที่อ่อนโยนเหมือนสายลมในฤดูใบไม้ผลิบนใบหน้า “น้องชายเดินทางมาถึงนี่ ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรจะชี้แนะเหรอ”ชายหนุ่มผู้นั้นกวาดสายตามองหลัวเวยเวยด้วยสายตาโลภหากหลัวเวยเวยมีสถานะต่ำกว่านี้ ด้วยชื่อเสียงของการเป็นทูตของสำนักโอสถ เขาก็สามารถ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1261

    เห็นเพียงหานเฟิงหยิบคริสตัลขนาดเท่าฝ่ามือออกมาจากแหวนผนึกของ แล้ววางลงตรงหน้าเย่ซิว“นี่มันอะไร?” เย่ซิวรู้สึกงุนงงเล็กน้อยคริสตัลเป็นรูปหญิงสาว พื้นผิวเต็มไปด้วยรอยร้าวมากมายหญิงสาวในคริสตัลกอดกระบี่ยาวไว้ในอ้อมแขน ผมยาวสยายดวงตาคมกริบ ดูเหมือนงานแกะสลักวิจิตรบรรจงมาก เหมือนมีชีวิตจริง ๆหานเฟิงเอ่ย “นี่คือผู้พิทักษ์กระบี่ เป็นการดำรงอยู่ที่พิเศษมาก มีตำนานเกี่ยวกับเธอมากมายแต่ที่น่าเชื่อถือที่สุดคือเซียนกระบี่ที่แข็งแกร่งคนหนึ่งได้ผนึกปฐมญาณและเจตจำนงแห่งกระบี่ของตนเองด้วยวิชาลับ ก่อนที่จะเสียชีวิตลงผ่านไปหลายพันปี จนกระทั่งหลายหมื่นปี ก็ได้กลายเป็นรูปปั้นที่เราเห็นอยู่นี้หากสามารถฟักตัวมันออกมาได้ มันจะจงรักภักดีต่อเจ้านายตลอดไป ไม่มีวันทรยศ และยังมีพลังมหาศาล”เย่ซิวสนใจขึ้นมาทันที “แล้วจะฟักตัวมันออกมาได้ยังไง?”“ต้องใช้เลือดของตัวเอง และต้องใช้ในปริมาณที่มหาศาลนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมหลายคนถึงไม่แตะต้องมันเลยแม้จะได้มาก็ตาม เพราะปริมาณที่ต้องการมันมากเกินไปมีคนประเมินไว้ว่าแม้จะรดเลือดร้อยกรัมลงไปทุกวัน ก็ยังต้องทำต่อเนื่องถึงสิบปีมีผู้แข็งแกร่งสักกี่คนที่จะทนไ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status