Share

10 คืนนั้นจนวันนี้

Author: Nook Nick
last update Last Updated: 2025-12-14 00:13:16

คืนนั้น....

ภายในรถตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นเหล้าฉุนๆ กับคนเมาสองคนที่เมาจนขาดสติ จำได้ขึ้นใจว่าเป็นช่วงเวลาที่บัดซบที่สุดในชีวิต อกหักไม่พอยังต้องมาเจอกับไอ้คนที่เกลียดขี้หน้าอีก 

แต่เราต่างเคว้ง... 

และเมื่อคนเคว้งมาเจอกันด้วยอาการเมาจนขาดสตินั้น แรงดึงดูดทางอารมณ์ก็ก่อตัวขึ้น กลิ่นเหล้าฉุนๆลอยอยู่ในอากาศ สมองมึนๆเบลอๆกับใจเหงาๆมอมเมาเราสองคน โจนั่งฝั่งคนขับ ส่วนผมนั่งอีกฝั่ง

คุยอ้อแอ้อะไรกันอยู่สักพักหนึ่งซึ่งก็จำไม่ค่อยได้ รู้แค่ว่าสายตาคมคู่นั้นหวานเยิ้มจนลืมความเกลียดชังไปชั่วขณะ เราโถมตัวเข้าหากันโดยไม่ได้นัดหมาย และสัมผัสรสชาติในปากของกันและกัน ให้เรียวลิ้นนุ่มชื้นตวัดกันในโพรงปากร้อนระอุ อย่างดูดดื่ม 

สัมผัสความขมฝาดของน้ำเมา

กระทั่งมือใหญ่ของเขาเข้ามาสัมผัสช่วงท้องและปลดกระดุมเสื้ออย่างช่ำชองโดยที่ไม่มองและยังไม่ถอนจูบออกด้วยซ้ำ

จนท่อนบนผมเปลือยเปล่า โชว์เรือนร่างที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเรียงสวย มือนั้นยื่นมาลูบไล้ก่อนถอนจูบออกพร้อมกับเอ่ยพูดเสียงกระเส่า"ต้องงี้ดิวะ"

สัมผัสหยาบของฝ่ามือนั้นทำให้ร่างกายผมร้อนวูบวาบ กระตุ้นอารมณ์ให้ลุกโชน แก่นกายที่แน่นิ่งเริ่มขยายอยู่ภายใต้กางเกงสแล็คดำยาวของตัวเอง

ดวงตาเยิ้มๆและลมหายใจติดขัดรวมถึงใบหน้าคมแดงระเรื่อของเขาทำให้ผมคลั่งไคล้ และกระโจนเข้าหาอย่างไม่รู้ตัว

"คนแรกเลยนะที่ตัวหนักขนาดนี้" เขาพูดขณะที่ผมขึ้นไปนั่งทับบนหน้าตักและโน้มหน้าไปใกล้จนใบหน้าของเราห่างกันไม่ถึงคืบ สัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนที่กำลังเป่ารดของกัน

"ครั้งแรกของกูเหมือนกัน" ไม่รู้ทำไมสายตาคมคายนั้นถึงได้ดึงดูดให้ผมโน้มเข้าไปบดเบียดจูบอย่างห้ามไม่ได้ 

เราสอดลิ้นประสาทกันอย่างดูดดื่มเร่าร้อนเกิดเสียงเฉะแฉะเหมือนคนอดอยาก เอียงใบหน้าไปมาให้ได้องศาที่ถนัด ปลายจมูกโด่งๆถูแก้มนิ่มของเขาไปมาและเมื่อพอใจก็ถอนจูบออกแล้วหอบหายใจกอบโกยเอาอากาศเข้าปอด

"ว่ากันว่ารูหลังของผู้ชายเวลาโดนสอดใส่มันจะรู้สึกดีมาก" เขาเอ่ยพูดเสียงกระเส่าพร้อมดวงตาหวานเยิ้ม

"งั้นมาลองกัน วันนี้ก็ขอโทษด้วยแล้วกันที่ทำของมึงสกปรก" 

"ไม่เลย กูเต็มใจ"

เรารู้ความหมายของคำพูดนั้น สิ้นเสียงมือหยาบกร้านก็สอดเข้ามาในกางเกงสแล็คแล้วบีบเค้นก้นผมอย่างเมามัน ก่อนจะถอนมือออกแล้วมาปลดกระดุมรูดซิปข้างหน้าลงอย่างช่ำชองโดยไม่มองด้วยซ้ำ

"ลุกขึ้นหน่อย" 

ผมจับเบาะยกสะโพกขึ้นตามที่บอกก่อนถูกดึงกางเกงลงอย่างรวดเร็วทั้งตัวนอกและตัวใน เผยให้เห็นแก่นกายลำใหญ่และก้นกลม

"ค่อยๆนั่งลงมา" น้ำเสียงเขาดูจริงจัง

ถอดกางเกงตัวเองออกตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

ผมตกใจเมื่อเห็นแก่นกายลำใหญ่สีคล้ำของอีกฝ่ายชูชันขึ้นมาอย่างแข็งขันมองเห็นเส้นเลือดปูดโปนชัดเจน ไม่รู้เลยว่ารูแคบของตัวเองจะสามารถกลืนกินได้ทั้งหมดไหม แต่ว่าผมก็เลือกที่จะจับแก้มก้นแยกออกแล้วค่อยๆนั่งลงช้าๆ ไม่อาจหักห้ามใจกับความอยากรู้อยากลองของตัวเอง ให้เอ็นอุ่นๆนั้นเสียดแทงเข้ามาในร่องช้าๆ

สัมผัสแรกที่ได้รับคือความเจ็บปวด แต่ยังคงหลับหูหลับตาสอดมันเข้ามาเรื่อยๆจนสุดลำ รู้สึกจุกและคับแน่นจนขยับไม่ได้ โดยที่เขาไม่ได้พูดอะไรต่อจากนี้ ลืมตาขึ้นมาก็เห็นใบหน้าคมขมวดคิ้ว หลับตาพลางกัดริมฝีปากตัวเองด้วยสีหน้าที่ยากเกินจะอธิบาย ไม่ได้เจ็บปวดไม่ได้ตึงเครียด แต่เป็นการขมวดคิ้วเหมือนคนกำลังอดกลั้นเพราะรู้สึกดีเกินไปต่างหาก

ไม่นานก็รู้สึกถึงของเหลวอุ่นๆไหลเข้ามาในร่องลึกพร้อมๆกับเปลือกตาของคนตรงหน้าที่ค่อยๆเปิดขึ้นช้าๆก่อนสบถคำหยาบ "แม่งเอ๊ย!!"

อย่าบอกนะว่า...

"เสร็จแล้วเหรอ?" ผมถามเพราะสงสัย และดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นจริงๆเพราะเขาหลบตา หน้าแดงจนถึงหู

ไม่ทันได้ขยับเลยด้วยซ้ำมั้ง ไม่ทันได้รู้ได้ลองเลยว่าความรู้สึกดีที่เขาบอกมันเป็นยังไง สัมผัสได้แค่ความเจ็บปวด อึดอัดและคับแน่น ความรู้สึกนี้ทำให้สติผมกลับมา จากนั้นก็เริ่มขยับสะโพกขึ้นช้าๆ 

ถอนแก่นกายลำใหญ่ออก ของเหลวภายในก็ไหลตามออกมาด้วย เป็นน้ำขาวขุ่นกลิ่นคาวที่รู้กันดีในหมู่ชาย เห็นแล้วใบหน้าผมก็เห่อร้อนขึ้นมา

ทำบ้าอะไรลงไปวะเนี่ย!! 

รีบดึงกางเกงขึ้นแล้วออกมาจากรถทั้งอย่างนั้น จำได้แค่ว่าเหตุการณ์ในตอนนั้นมันทำให้ผมเกิดความรู้สึกแปลกๆ เพราะถึงจะเจ็บจุกแน่นแต่มีอยู่แวบหนึ่งที่ผมรู้สึกซาบซ่า

.

.

.

.

กลับมาปัจจุบัน...

โจริญยังคงนั่งอิงเบาะหลังอย่างเหม่อลอย ไม่แปลกใจเท่าไหร่ ก็วันนี้เห็นมันโดนพ่อตบไม่พอยังโดนสาวตบอีก 

"เจ็บมากเลยดิมึง สันดารเหี้ยก็งี้แหละอดทนหน่อยอีกไม่นานก็หาย" ผมตบบ่าปลอบใจ ทั้งสมน้ำหน้าทั้งสงสาร 

เจ้าตัวเริ่มมีสติหันมามองผมนิ่ง

"ขอบคุณที่ทำให้วันที่เศร้า หดหู่ลงนะไอ้ที"

รอยฟกช้ำบนหน้าเริ่มเห็นชัดขึ้น จู่ๆก็รู้สึกเห็นใจและนึกสงสัยขึ้นมาว่าทำไมเขาถึงโดนกระทำแบบนั้น นึกๆแล้วก็อยากถาม แต่พอคิดอีกทีก็ไม่ใช่กงการอะไรของตัวเองเลยเงียบปากไว้ดีกว่า

กระทั่งเจ้าตัวเป็นฝ่ายเล่าเอง

จะเรียกว่าเล่าสู่กันฟังก็ยังไงอยู่ เพราะท่าทางการพูดนั้นล่องลอยเหมือนบ่นพึมพำเสียมากกว่า 

"ผิดมากเหรอที่คนเราจะเหงาเลยอยากหาที่ระบายโดยไม่คิดจริงจังกับใคร ทั้งๆที่ตกลงกันก่อนแล้วแท้ๆว่าแค่คืนเดียว แต่ทำไมต้องโดนตบด้วยวะ...กูผิดขนาดนั้นเลยเหรอไอ้ที"

บ่นเสร็จก็หันมามองหน้าผมด้วยสีหน้ารู้สึกผิด

ที่บ่นคงหมายถึงเรื่องโดนสาดน้ำเมื่อกี้แน่ๆ  

พอลองปะติดปะต่อเรื่องเหตุการณ์ที่เห็นที่บ้านและเหตุการณ์เมื่อครู่เข้าด้วยกันผมเข้าใจว่า...

เขาเป็นคนรวยที่ครอบครัวไม่สมบูรณ์แบบ ไม่ลงรอยกับพ่อตัวเอง ไม่มีเพื่อนคบ ด้วยนิสัยอย่างนี้คงไม่มีแฟน สั้นๆที่มันเหงาเพราะขาดความรักเลยทำตัวเหี้ยเพื่อเรียกร้องความสนใจ

"ขนาดนั้นมาซบไหล่กูเลยมั้ยล่ะ" ผมพูดประชดแกมหยอก

พ้นประโยคไม่ถึงสามวิไม่คิดว่าเขาจะเอนหัวมาซบไหล่ผมจริงๆแถมยังพึมพำ"เหงาว่ะ"

ไม่รู้เพราะอะไรเสียงหงอยๆกับหน้าเศร้าๆถึงทำให้ผมคิดถึงสัมผัสในคืนนั้นขึ้นมา และพลั้งปากโดยไม่รู้ตัว "ถ้าเหงาขนาดนั้นกูเป็นให้ก็ได้"

เราต่างหันมาสบตากันโดยไม่ได้นัดหมาย

"คู่นอนน่ะ"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • โจริญที รักกันดีตีกันตาย   10 คืนนั้นจนวันนี้

    คืนนั้น....ภายในรถตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นเหล้าฉุนๆ กับคนเมาสองคนที่เมาจนขาดสติ จำได้ขึ้นใจว่าเป็นช่วงเวลาที่บัดซบที่สุดในชีวิต อกหักไม่พอยังต้องมาเจอกับไอ้คนที่เกลียดขี้หน้าอีก แต่เราต่างเคว้ง... และเมื่อคนเคว้งมาเจอกันด้วยอาการเมาจนขาดสตินั้น แรงดึงดูดทางอารมณ์ก็ก่อตัวขึ้น กลิ่นเหล้าฉุนๆลอยอยู่ในอากาศ สมองมึนๆเบลอๆกับใจเหงาๆมอมเมาเราสองคน โจนั่งฝั่งคนขับ ส่วนผมนั่งอีกฝั่งคุยอ้อแอ้อะไรกันอยู่สักพักหนึ่งซึ่งก็จำไม่ค่อยได้ รู้แค่ว่าสายตาคมคู่นั้นหวานเยิ้มจนลืมความเกลียดชังไปชั่วขณะ เราโถมตัวเข้าหากันโดยไม่ได้นัดหมาย และสัมผัสรสชาติในปากของกันและกัน ให้เรียวลิ้นนุ่มชื้นตวัดกันในโพรงปากร้อนระอุ อย่างดูดดื่ม สัมผัสความขมฝาดของน้ำเมากระทั่งมือใหญ่ของเขาเข้ามาสัมผัสช่วงท้องและปลดกระดุมเสื้ออย่างช่ำชองโดยที่ไม่มองและยังไม่ถอนจูบออกด้วยซ้ำจนท่อนบนผมเปลือยเปล่า โชว์เรือนร่างที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเรียงสวย มือนั้นยื่นมาลูบไล้ก่อนถอนจูบออกพร้อมกับเอ่ยพูดเสียงกระเส่า"ต้องงี้ดิวะ"สัมผัสหยาบของฝ่ามือนั้นทำให้ร่างกายผมร้อนวูบวาบ กระตุ้นอารมณ์ให้ลุกโชน แก่นกายที่แน่นิ่งเริ่มขยายอยู่ภายใต้กางเกงสแล

  • โจริญที รักกันดีตีกันตาย   9 เอาก็เอาว่ะ

    หลังค่ายจริยธรรมจบลง ไม่รู้คิดผิดคิดถูกถึงได้เดินทางมาบ้านโจริญตามสัญญา 'ห้าน้ำ' ที่ให้ไว้ ช่วงเย็นพระอาทิตย์ใกล้ตกดินท้องฟ้าเริ่มอึมครึม ผมยืนอยู่หน้ารั้วบ้านหลังใหญ่โอ่อ่า มองจากกำแพงเข้าไปเห็นรถหลายคันจอดนิ่งอยู่ ดูก็รู้ว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านของมหาเศรษฐี ผมชะโชกหน้ารออีกฝ่ายข้างนอกก่อนจะเห็นร่างสูงใหญ่คุ้นตาเดินออกมาจากบ้านหลังใหญ่ด้วยสีหน้าหงุดหงิดหัวคิ้วขมวดมุ่น เป็นอะไรของมันวะตามมาด้วยชายหนุ่มร่างสูงวัยผู้ใหญ่สวมสูทผูกไทดูภูมิฐาน ใบหน้าของเขาดูหงุดหงิดไม่ต่างกัน นั่นประธานนี่ เหมือนพ่อลูกคู่นี้กำลังทะเลาะอะไรกันอยู่และคนนิสัยไม่ดีแบบผมก็แอบมองนอกกำแพงเงียบๆ เหมือนโจรดักซุ่มขโมยของไม่มีผิด"เลิกสร้างปัญหาสักที!! ฉันขายขี้หน้าจนไม่รู้จะเอาหน้าไว้ที่ไหนแล้ว!!" ประธานตะคอกใส่หน้าลูกชายตัวเองอย่างหัวเสีย เสียงดังจนแว่วเข้ามาในหูผม"เพราะใครกันล่ะครับที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้" โจริญเถียงพ่อตัวเองกลับ น้ำเสียงของเขาดูไม่พอใจอย่างมาก"แกจะเอาอะไรจากฉันอีก!! รถก็ซื้อให้แล้ว เงินก็ให้ใช้ไม่ขาดมือ!! แล้วทำไมถึงยังทำตัวแบบนี้!!" คนเป็นพ่อเริ่มทนไม่ไหว"เลิกยุ่งกับผู้หญิงชั้นต่ำแล้วเอาแม่กล

  • โจริญที รักกันดีตีกันตาย   8 อะไรๆก็ห้าน้ำ

    ค่ายจริยธรรมกินเวลาไปสองวัน โดยช่วงเช้าถึงช่วงสายทำกิจกรรมปลูกป่าและช่วงบ่ายถึงหัวค่ำคือการแสดงละครคุณธรรม"ฉันเกลียดคุณ!! คนสารเลว!!" หญิงสาวตัวเล็กคนหนึ่งกำลังร้องไห้บีบน้ำตาบนเวที ก่อนจะง้างมือตบชายร่างสูงตรงหน้าเสียงดังฟังชัดเพียะ!!"อะเฮือก!!" คนโดนกระทำถึงกลับล้มคว่ำนอนกลิ้งบนพื้น หันมาอีกทีมีเลือดซึมจมูก"เธอจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะซาร่า~~ พี่ทำผิดอะไร แค่กๆ!" เขายกมือขึ้นหมายจะเอื้อมไปดึงชายกระโปรงหญิงสาว แต่กลับถูกเหยียบย้ำอย่างไม่มีชิ้นดี "เพราะคนอย่างพี่สมควรได้รับในสิ่งที่ทำ ไอ้คนส่ำส่อน ชิ" เธอเชิดหน้าสะบัดตูดหมุนตัวแล้วเดินจากไปอย่างไม่ใยดี"ฮือออ สุดท้ายแล้วคนสำส่อนอย่างฉันก็ไม่เหลือใครเลย" ชายหนุ่มนอนร้องไห้โฮอยู่บนเวทีพร้อมเสียงดนตรีโศกเศร้าแปะๆๆๆ!!ก่อนเสียงตบมือจะดังก้องขึ้นทั่วห้อง หลังการแสดงละครคุณธรรมจบลงเป็นที่เรียบร้อย กลุ่มนี้แสดงได้ดีมากจนผมเกิดไม่มั่นใจในตัวเองขึ้นมา เพราะหลังจากการแสดงของกลุ่มนี้จบ ก็ถึงตาพวกเราสามคน โจ ไทม์ และผม"กรี๊ดดด>วิดวิ่วว~~""กลุ่มนี้ฉันจองงง!!"ขณะที่ก้าวขาขึ้นเวทีก็ได้ยินเสียงกรี๊ดมากมายจากชายและหญิงดังไปทั่วห้อง เหมือ

  • โจริญที รักกันดีตีกันตาย   7ข่าวลือ

    วันนี้ผมบอกให้ไทม์มารับเพราะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นที่โรงเรียนย้อนกลับไปช่วงแรกที่ผมเข้าเรียนผมปิดแมสและสวมแว่นเป็นปกติ วันแรกทุกคนไม่เอะใจอะไรก็เข้าใจว่าผมไม่สบายและชวนผมคุยปกติพอนานวันเข้าหลายคนเริ่มเอะใจว่าทำไมผมไม่ยอมถอดแมสและสำคัญคือไม่ยอมไปกินข้าวด้วย เสียงซุบซิบนินทาต่างๆเริ่มหนาหูมากขึ้นๆว่าผมเป็นไอ่คนมืดมน อมทุกข์ หยิ่งหรือแม้กระทั่งบางคนถึงกับบอกว่าผมอัปลักษณ์ ในห้องเลยแบ่งออกเป็น2ฝ่ายคือเชื่อและไม่เชื่อ คนที่ไม่เชื่อก็พยายามจะเข้ามาเพื่อตีซี้แต่ผมเองที่ปิดกลั้นจนสุดท้ายเลยหาข้ออ้างว่าตัวเองเป็นวัณโรค วันต่อมาเสียงซุบซิบนินมาไม่ได้มีแค่ในห้องแต่กระจายไปทั่วโรงเรียน ทุกคนเลยไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ กันต์ม.6ห้อง3 ผมเลยมีฉายาไอ่กันต์วัณโรคตั้งแต่นั้นมา ผมรู้สึกแย่ในวันแรกแต่ถ้าเทียบกับสิ่งที่เจอมาถือว่าจิ๊บๆดีเสียอีกที่ไม่มีใครอยากเห็นหน้าตาไม่น่ามองนี้ เผลอๆถ้าถอดแมสออกอาจจะโดนหนักกว่าเดิมเหมือนที่ผ่านมาก็ได้ผมเลยคิดว่าดีแล้วที่เป็นแบบนั้นเพราะงั้นผมถึงกลัวว่าวันนี้ไทม์จะโดนอะไรที่ เหมือนๆกันแล้วต้องรู้สึกแย่หรือเปล่าบรื้นน บรื้นนน บิ๊กไบค์คันใหญ่ขับซิ่งมาแต่ไกลก่อนจะมาจอดตรงหน้า

  • โจริญที รักกันดีตีกันตาย   5 หอมะคะ หอม้ะ

    "รวยหนิมึงอ่ะ ช่วยพี่เขาหน่อยดิ" "หึ" โจหัวเราะเสียงต่ำในลำคอเมื่อได้ยินผมพูดก่อนกวักมือเรียกสาวสวยนักศึกษาคนนั้น เอาแล้ว เพลย์บอยตัวพ่อเริ่มแล้ว!พอถูกเรียกเธอคนนั้นก็รีบเดินมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มดีใจ ผิวของเธอส่องสว่างขาวนวลท่ามกลางแสงจันทร์ยามกลางคืน ใบหน้าผุดผ่องมองเห็นแก้มอมชมพูเป็นธรรมชาติมาถึงเธอก็ถาม "หอมะคะ หอม้ะ" เป็นสำเนียงแปร่งๆ ลูกครึ่งมั้ยนะ?"ไม่เอาหอ จะเอาหอย" แต่ไอ้โจแม่งช็อตฟีลจัด เธอหลบตาเขินใบหน้าขาวเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อ"ไอ้โจมึงก็ปล่อยๆบ้างก็ได้" ผมกระซิบกระซาบข้างหูคนขับเบาๆ "เหมาหมดนั่นแหละ เท่าไหร่?" โจถาม เธอหันมามองอย่างดีใจก่อนยื่นถุงหอยสี่ถุงมาตรงหน้าคนถามพร้อมบอกราคาเสียงสดใส"สี่ล้อ" ชูสี่นิ้ว"พี่เค้าบอกสี่ร้อย" ผมกระซิบบอกไอ้โจ กลัวมันช็อตฟีลทำเขาอายอีกแต่มันกลับตอบผมว่า "กูรู้แล้ว" ตามด้วยการหยิบถุงหอยมาให้ผมถือแล้วบอกผมว่า"มึงจ่าย""อ่าวเห้ย!" ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หว่า แต่ไม่มีเวลาให้คิดมาก ผมรีบควักเงินแบงก์ม่วงในกระเป๋าออกมาจ่ายให้ทันที "ไม่ต้องทอนครับ" เจ็บใจฉิบหาย ถึงไม่ซื้อผมก็จะซื้ออยู่แล้ว!! จะทำเก๊กบอกเหมาทำเหี้ยไร ก่อนถึงสัญญาณไฟเข

  • โจริญที รักกันดีตีกันตาย   4 เรื่องมันชักจะแข็งไปกันใหญ่แล้ว

    "ดูดปาก?" ตลกกันใหญ่ "งั้นมาแข่งกันสิ?"ไม่ยอมให้จูบง่ายๆหรอก คิดจะใช้ข้ออ้างให้ตัวเองเลิกบุหรี่ แถมยังไม่ยอมบอกว่าจะลบคลิปให้ ข้อเสนอหรือข้ออ้าง ผมไม่โง่นะครับ"อะไรของมึง" โจริญขมวดคิ้วมุ่นมองผมด้วยสีหน้าแปลกใจ"ถ้าชนะก็ตามใจมึงเลย แต่ถ้าแพ้มึงต้องลบคลิป" นี่สิมันถึงจะเป็นข้อเสนอที่แฟร์ๆ"คำไหนคำนั้น"เขาตอบอย่างไม่ลังเลทั้งยังไม่ได้ถามรายละเอียดของข้อเสนอที่ผมยื่นให้เลยด้วยซ้ำ ดีเลย ดีมาก เพราะผมมั่นใจว่าข้อเสนอที่ผมยื่นให้นี้มันแฟร์กับเราทั้งคู่ หลังตกลงกันเรียบร้อยเราสองคนเดินทางมายังจุดหมายที่ผมคิดไว้นั่นก็คือ...'หนูจ๊ะมาม้ะร้องเกะ'ร้านคาราโอเกะที่เคยมากับกันต์และไทม์ช่วงก่อน เป็นความทรงจำที่ดีจนลืมไม่ลงเลยล่ะ"มึงพากูมานี่ทำไม?" โจบ่นแต่ถึงอย่างนั้นก็ก้าวขาลงจากรถตามผมมาแต่โดยดี"ร้องเพลง" ผมตอบ"ร้องเพลง?" เขาดูแปลกใจแต่ก็ยอมเดินตามจนถึงหน้าเคาน์เตอร์ยังคงเห็นพี่สาวพนักงานคนเดิม"อ้าว! พ่อหนุ่มเบ้าหน้าฟ้าประทาน ไม่เจอกันนานเลย" เธอเอ่ยทักผมก่อนจะเหลือบตามองอีกคนข้างๆแล้วยิ้มกริ่ม "โรงเรียนนี้มีแต่คนน่ากินโว้ย!"พูดเสร็จก็ถามโจว่า "มีแฟนยังอ่ะเรา" พร้อมดวงตาแพรวพราวกระพริบ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status