เข้าสู่ระบบ
'ร้านขายยานนนที'
เป็นร้านขายยาโดยเภสัชกรที่ลูกค้าแห่แหนกันมาซื้อยาแน่นร้านทุกวัน แม้ไม่เจ็บแต่ก็ต้องเก็บเงินมาซื้อยาดมวันละร้อยรอบ เพราะลูกชายเจ้าของร้านโคตรพ่อโคตรแม่หล่อ
ทุกคนต่างขนานนามว่าเขาคือชายหนุ่มที่พระเจ้าสร้างขึ้น ด้วยรูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาหล่อเหลามาพร้อมกับใฝเสน่ห์เม็ดเล็กใต้ตาซ้ายและผิวสีน้ำผึ้งสุขภาพดีชวนให้คนหลงใหล
เขาคนนั้นกำลังเหม่อลอยอยู่หน้าเคาน์เตอร์ยาเหมือนคิดอะไรอยู่ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองกำลังถูกเพ่งมองด้วยสายตาหวานเยิ้มจากเหล่าลูกค้าในร้าน
'มันไม่แข็งกับคนอื่นก็เพราะมึง'
เสียงนั้นคอยรังควานผมอยู่ตลอดเวลา
"เกี่ยวไรกับกูวะ!!"
"เกี่ยวสิครับ ผมปวดฟัน มาซื้อยาแก้ปวดฟัน"
ผมสะดุ้งหลังพลั้งปากโดยไม่รู้ตัวแล้วมีเสียงอู้อี้ตอบกลับมา
"อ่ะ ขอโทษครับ"
รีบก้มหัวทันทีด้วยความรู้สึกผิด เมื่อเห็นชายวัยกลางคนยืนจ้องอยู่ตรงหน้าพร้อมแก้มซ้ายที่ดูบวมตุยเหมือนพึ่งไปถอนฟันคุดมาใหม่ๆ
"เมื่อกี้ไม่ได้ว่าลูกค้านะครับ พอดีคิดอะไรไปเรื่อยเลยหลุดปาก ขอโทษด้วยนะครับ...ฝ่าฟันคุดมาสินะครับ^^" ก้มหัวสำนึกผิดเสร็จผมยิ้มทักทาย เรื่องในหัวพลันหายวับไปทันที อารมณ์ที่หงุดหงิดเมื่อครู่ก็เช่นกัน ก่อนรีบจัดแจงยาให้ลูกค้าตรงหน้าโดยเร็ว
"นี่ครับ" แล้วยื่นยาให้ลูกค้า
รับเสร็จเขาก็จ่ายเงิน แล้วเดินออกจากร้านไปเงียบๆ
เห้ออ... ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย ทั้งๆที่ช่วงปิดเทอมเป็นเวลาส่วนตัว กะจะเรียนรู้งานในร้านเพิ่มเติมสักหน่อย
ร้านนี้เป็นธุรกิจครอบครัวของป๊ากับม้า
ทั้งสองคนเป็นเภสัชกร ป๊าทำงานประจำที่โรงพยาบาลเอกชน ส่วนใหญ่ยุ่งจนไม่ค่อยได้กลับบ้านเพราะมักต่อเวรแทนคนอื่นเป็นประจำ
ส่วนม้าประจำอยู่ที่ร้าน คอยจัดแจงยาให้ลูกค้า นับสต๊อกของ สั่งของและงานอื่นๆอีกมากมาย ปิดร้านเสร็จก็สลบคาร้าน นานๆทีจะเห็นโผล่มาที่บ้าน
"เพราะหมอนั่นคนเดียว"
หลังลูกค้ากลับความคิดเดิมก็แวบเข้ามาในหัวอีกครั้ง พอคิดว่าใกล้เปิดเทอมใจก็ห่อเหี่ยวขึ้นมา
เรื่องเรียนไม่เท่าไหร่ แต่เรื่องคนนี่สิ
คิดแล้วท้อใจ ใกล้จบอยู่รอมร่อดันมีอุปสรรคมาเสียได้ แถมยังเป็นอุปสรรคอันใหญ่อันหลวงที่แก้ยากอีกด้วย ผมรีบสลัดความคิดในหัวทิ้งแล้วหันมาสนใจกระปุกยาในตู้ต่อ ก่อนเริ่มบันทึกรายละเอียดยาลงสมุดโน๊ตขนาดพกพาง่ายของตัวเองอีกครั้ง
จดเสร็จก็เหลือบมองม้า เห็นเธอกำลังแนะนำยาให้ลูกค้าอยู่อีกฝั่งของเคาน์เตอร์ กวาดตามองรอบๆก็ เห็นว่าลูกค้าเริ่มเบาบางลงบ้างจึงขอปลีกตัวกลับ
"ไปก่อนนะครับ"
ม้าหันมาพยักหน้ารับรู้ จากนั้นผมจึงเดินออกมาขณะเดียวกันมอเตอร์ไซค์ท่อดังคันหนึ่งก็แว๊นเข้ามาจอดหน้าเคาน์เตอน์ราวกับสายฟ้า ทำให้คนในร้านตกใจพากันแตกตื่น
บื้นน!! บื้นนน!!
เขาบิดไมค์ทำเซียนเหมือนเรียนมาก่อนดับรถมันทำให้ผมนึกสงสัย ไอ้เวรนี่ใครวะ? แล้วเดินเข้าไปอย่างหงุดหงิด ถ้าบ้านไม่เคร่งเรื่องมารยาทเดี๋ยวนทีสอนเอง
"นี่คุณ!!" เคาะหมวกกันน็อคสองครั้ง
ทำมาเป็นสวมหมวกกันนงกันน็อค ไอ้ห่า ขับมาขนาดนี้ไม่ผ่านหัวกูไปเลยล่ะ
เจ้าของรถท่อดังถอดหมวกกันน็อคออก เผยให้เห็นใบหน้าคมเข้มทรงผมหยิกหยองเป็นเอกลักษณ์ เขาสะบัดหัวไปมาให้ผมเข้าทรงราวกับภาพสโลโมชั่นที่สะกดสายตาทุกคู่
ผมอึ้ง อ้าปากพะงาบๆ ไม่คิดว่าเขาจะกล้ามาหยามถึงถิ่น เจ้าตัวมองผมด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์มุมปากยกยิ้มก่อนพูดว่า "ซื้อยาจู๋แข็ง"
ผมขบกรามแน่นข่มอารมณ์ตัวเองไว้ หยามเกียรติกันเกินไปแล้ว เขานี้แหละตัวการเจ้าของเสียงทุ้มที่วนเวียนในหัวตลอดวันหยุด
ลูกชายประธานโรงเรียนที่กวนตีนไม่มีใครเกิน
โจริญ เห็นแล้วอยากยัดบุหรี่ใส่รูจมูก แต่เพราะไม่มีบุหรี่ในมือ เลยได้แต่กระซิบกระซาบกวนโอ้ยข้างๆหูแทน
"คน ไร้ น้ำ ยา"
พูดเสร็จก็ยกยิ้มสะใจพลางหมุนตัวออกจากร้านโดยไม่หันกลับไปมองอีกเลย แข็ง ไม่แข็ง เกี่ยวไรกับผมล่ะครับ ไปจัดการเอาเองสิ
ออกจากร้านได้ไม่นาน มอเตอร์ไซค์ท่อดังก็ขับตามหลังมาติดๆพร้อมคำพูดแสนหยาบคายเหมือนกลัวใครไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอันธพาล
"มึงว่าใครไร้น้ำยา!!"
หนวกหู ผมยกนิ้วแหย่หูตัวเองขณะเดินหนีอย่างไม่แยแส
"รับผิดชอบมาดิวะ!!"
แม้เขาจะโวยวายแหกปากน่ารำคาญจนคนที่เดินผ่านไปมาต่างพากันเหลียวมอง ผมก็ยังเลือกที่จะเมินเฉยและยิ้มหวานขอโทษให้กับคนเหล่านั้น
"เออ! เมินไปเลย กูจะแฉให้หมดว่าไอ้หล่อที่พวกแม่งชอบกรี๊ดกันสันดารเป็นไง"
ความเบื่อหน่ายมาพร้อมกับอากาศอบอ้าวและเสียงแว้ดๆชวนให้หงุดหงิด ครับ แฉไปเลย แฉไปเถอะ
"คลิป"
ผมไม่รู้สึกเกรงกลัวคำขู่นั้นเลย กระทั่งเขาพูดประโยคนี้ขึ้นมา...
ประโยคสั้นๆที่ทำให้ใจหล่นวูบ ก่อนหยุดเดินกระทันหันพลันหันขวับมองคนข้างๆ อย่าบอกนะว่า...
ผมอึ้งตาค้างขณะที่อีกฝ่ายยิ้มชอบใจ
"ลืมไปแล้วเหรอวันนั้นมึงอยู่บนรถใคร หืม?"
เวรแล้ว...
ความรู้สึกตึงเครียดเริ่มเข้าครอบงำพร้อมๆกับหัวคิ้วเริ่มขมวดเป็นปม เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดขึ้นกลางหน้าผาก
"มึงต้องการไรจากสังคมโจ" ผมถามอย่างหมดหนทาง ทั้งๆที่คิดว่าจะทำเมินจนกระทั่งเรียนจบ แต่ดูทรงแล้วไม่น่ารอด
"กูไม่ได้ต้องการไรจากสังคม แต่ต้องการจากมึงแหละครับ!!"
"อะไร?"
ความหวั่นในใจเริ่มก่อตัวขึ้น สิ่งที่เขาต้องการจากผมคืออะไรกันแน่ ผมเกลียดข้อเสนอที่มักหยิบยี่นให้โดยไม่ต้องการ โดยเฉพาะการพยักหน้าบ่งบอกให้ผมซ้อนรถโดยไม่พูดอะไรสักคำ
เพราะมันทำให้ผมไม่สามารถเดาได้เลยว่าเขาจะมาไม้ไหน แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังทำตามโดยการขึ้นไปซ้อนท้ายรถ
จากนั้นเจ้าของรถก็บิดคันเร่งสุดไมค์แล้วขับออกไปด้วยความเร็วเต็มพิกัด
แบ๊นน!! แบ๋นนนน!!
เสียงท่อดังก้องไปทั่วถนน ผู้คนที่เดินไปมาต่างหันมามองด้วยสีหน้าไม่ชอบใจ บางคนถึงกับโวยวายให้ได้ยิน "แต่งท่อหาพ่อมึงอ่ะ!!"
ขายหน้าฉิบหาย
ผมปิดหน้าตัวเอง ไอ้คนขับแม่งรอดไปเพราะมันสวมหมวกกันน็อคแถมไม่สนใจห่าไรเลย
สักพักก็มาถึงเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย สองข้างทางเต็มไปด้วยป่าไม้ใหญ่เขียวขจี ไร้ผู้คน ได้ยินแต่เสียงแมลงดังวี่ๆตลอดทาง แถมตอนนี้ตะวันเริ่มลับขอบฟ้ารู้สึกวังเวงใจชอบกล
"จะพากูไปไหน!!" ผมยื่นหน้าตะโกนถามใกล้ๆ เพราะเขาขับแรงชนิดที่ว่าต้องตะโกนเสียงดังจนน้ำลายกระเด็นถึงจะได้ยิน
"ไปเรื่อยๆเหนื่อยก็พัก" อีกฝ่ายเปิดหมวกตะโกนกลับ นึกว่าหยดฝนกระเด็นเข้าหน้า ไอ้สัตว์เอ๊ย!!
ผมรีบเช็ดหน้า ตอนแรกก็คิดว่ามันกวนตีนไปงั้น เลยทนอีกสักหน่อย แต่พอเห็นว่ามันขับไปเรื่อยๆไม่มีทีท่าจะหยุดก็เริ่มรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี
อย่าบอกนะว่า 'ไปเรื่อยๆเหนื่อยก็พัก' จะทำตามที่พูดจริงๆ
"ไอ้โจ!! จะพากูไปไหน!!" เริ่มแหกปากโวยวาย
"เดี๋ยวก็รู้!!"
"ไม่บอกกูโดด!!" พูดจริงแต่ยังไม่ทำ
"ถึงแล้วๆ"
ผมนิ่ง เมื่อเห็นว่าเราอยู่กลางป่ากลางเขาที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ พามาที่นี่ทำไม?
ลงจากรถเขาก็เดินแหวกโพรงหญ้านำเข้าไปด้านใน
ระหว่างทางผมไล่ตบยุงตามแข้งขาอย่างหงุดหงิด ส่วนคนนำเหมือนเดินอยู่ในทุ่งดอกลาเวนเดอร์ ไม่นานเขาก็หันกลับมาบอกว่า "ถึงแล้ว"
ในตอนที่ผมยืนเกาไม้เกามือยิกๆ กว่าจะถึงค่ำมืดพอดี แต่เมื่อทอดมองวิวเบื้องหน้าความรู้สึกหงุดหงิดหายไปฉับพลัน แสงระยิบระยับเหลืองนวลบนตึกสูงตระหง่านและบ้านเรือนทั่วเมือง สวยงามจนหัวใจพองโต ไม่กล้าแม้แต่กระพริบตา
จนลืมเหตุผลที่แท้จริงไปเสียสนิทเลยว่า...
"พากูมาที่นี่ทำไม?" ผมหันไปมองคนยืนข้างๆ คิดได้หัวคิ้วก็เริ่มขมวดด้วยความสงสัย "อย่าบอกนะว่าตกหลุมรักกูเพราะเรื่องคืนนั้น"
"ฮ่าๆๆๆๆ หลงตัวเองฉิบหาย หน้าอย่างกูเนี่ยนะชอบมึง ก็แค่..."
เหมือนเสียงหัวเราะกลบเกลื่อน เสร็จก็หยุดนิ่งไป เขามองผมด้วยสายตาลังเลเหมือน
คิดอะไรบางอย่าง
"แค่?" ผมย้ำ
"ไม่มีเพื่อน"
นั่นคงเป็นสาเหตุของโจริญที่คนในโรงเรียนส่วนใหญ่เหม็นขี้หน้า ได้ฉายาสารพัด
อันธพาล เสเพล เกเร เพลย์บอย
วันนี้ผมบอกให้ไทม์มารับเพราะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นที่โรงเรียนย้อนกลับไปช่วงแรกที่ผมเข้าเรียนผมปิดแมสและสวมแว่นเป็นปกติ วันแรกทุกคนไม่เอะใจอะไรก็เข้าใจว่าผมไม่สบายและชวนผมคุยปกติพอนานวันเข้าหลายคนเริ่มเอะใจว่าทำไมผมไม่ยอมถอดแมสและสำคัญคือไม่ยอมไปกินข้าวด้วย เสียงซุบซิบนินทาต่างๆเริ่มหนาหูมากขึ้นๆว่าผมเป็นไอ่คนมืดมน อมทุกข์ หยิ่งหรือแม้กระทั่งบางคนถึงกับบอกว่าผมอัปลักษณ์ ในห้องเลยแบ่งออกเป็น2ฝ่ายคือเชื่อและไม่เชื่อ คนที่ไม่เชื่อก็พยายามจะเข้ามาเพื่อตีซี้แต่ผมเองที่ปิดกลั้นจนสุดท้ายเลยหาข้ออ้างว่าตัวเองเป็นวัณโรค วันต่อมาเสียงซุบซิบนินมาไม่ได้มีแค่ในห้องแต่กระจายไปทั่วโรงเรียน ทุกคนเลยไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ กันต์ม.6ห้อง3 ผมเลยมีฉายาไอ่กันต์วัณโรคตั้งแต่นั้นมา ผมรู้สึกแย่ในวันแรกแต่ถ้าเทียบกับสิ่งที่เจอมาถือว่าจิ๊บๆดีเสียอีกที่ไม่มีใครอยากเห็นหน้าตาไม่น่ามองนี้ เผลอๆถ้าถอดแมสออกอาจจะโดนหนักกว่าเดิมเหมือนที่ผ่านมาก็ได้ผมเลยคิดว่าดีแล้วที่เป็นแบบนั้นเพราะงั้นผมถึงกลัวว่าวันนี้ไทม์จะโดนอะไรที่ เหมือนๆกันแล้วต้องรู้สึกแย่หรือเปล่าบรื้นน บรื้นนน บิ๊กไบค์คันใหญ่ขับซิ่งมาแต่ไกลก่อนจะมาจอดตรงหน้า
"รวยหนิมึงอ่ะ ช่วยพี่เขาหน่อยดิ" "หึ" โจหัวเราะเสียงต่ำในลำคอเมื่อได้ยินผมพูดก่อนกวักมือเรียกสาวสวยนักศึกษาคนนั้น เอาแล้ว เพลย์บอยตัวพ่อเริ่มแล้ว!พอถูกเรียกเธอคนนั้นก็รีบเดินมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มดีใจ ผิวของเธอส่องสว่างขาวนวลท่ามกลางแสงจันทร์ยามกลางคืน ใบหน้าผุดผ่องมองเห็นแก้มอมชมพูเป็นธรรมชาติมาถึงเธอก็ถาม "หอมะคะ หอม้ะ" เป็นสำเนียงแปร่งๆ ลูกครึ่งมั้ยนะ?"ไม่เอาหอ จะเอาหอย" แต่ไอ้โจแม่งช็อตฟีลจัด เธอหลบตาเขินใบหน้าขาวเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อ"ไอ้โจมึงก็ปล่อยๆบ้างก็ได้" ผมกระซิบกระซาบข้างหูคนขับเบาๆ "เหมาหมดนั่นแหละ เท่าไหร่?" โจถาม เธอหันมามองอย่างดีใจก่อนยื่นถุงหอยสี่ถุงมาตรงหน้าคนถามพร้อมบอกราคาเสียงสดใส"สี่ล้อ" ชูสี่นิ้ว"พี่เค้าบอกสี่ร้อย" ผมกระซิบบอกไอ้โจ กลัวมันช็อตฟีลทำเขาอายอีกแต่มันกลับตอบผมว่า "กูรู้แล้ว" ตามด้วยการหยิบถุงหอยมาให้ผมถือแล้วบอกผมว่า"มึงจ่าย""อ่าวเห้ย!" ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หว่า แต่ไม่มีเวลาให้คิดมาก ผมรีบควักเงินแบงก์ม่วงในกระเป๋าออกมาจ่ายให้ทันที "ไม่ต้องทอนครับ" เจ็บใจฉิบหาย ถึงไม่ซื้อผมก็จะซื้ออยู่แล้ว!! จะทำเก๊กบอกเหมาทำเหี้ยไร ก่อนถึงสัญญาณไฟเข
"ดูดปาก?" ตลกกันใหญ่ "งั้นมาแข่งกันสิ?"ไม่ยอมให้จูบง่ายๆหรอก คิดจะใช้ข้ออ้างให้ตัวเองเลิกบุหรี่ แถมยังไม่ยอมบอกว่าจะลบคลิปให้ ข้อเสนอหรือข้ออ้าง ผมไม่โง่นะครับ"อะไรของมึง" โจริญขมวดคิ้วมุ่นมองผมด้วยสีหน้าแปลกใจ"ถ้าชนะก็ตามใจมึงเลย แต่ถ้าแพ้มึงต้องลบคลิป" นี่สิมันถึงจะเป็นข้อเสนอที่แฟร์ๆ"คำไหนคำนั้น"เขาตอบอย่างไม่ลังเลทั้งยังไม่ได้ถามรายละเอียดของข้อเสนอที่ผมยื่นให้เลยด้วยซ้ำ ดีเลย ดีมาก เพราะผมมั่นใจว่าข้อเสนอที่ผมยื่นให้นี้มันแฟร์กับเราทั้งคู่ หลังตกลงกันเรียบร้อยเราสองคนเดินทางมายังจุดหมายที่ผมคิดไว้นั่นก็คือ...'หนูจ๊ะมาม้ะร้องเกะ'ร้านคาราโอเกะที่เคยมากับกันต์และไทม์ช่วงก่อน เป็นความทรงจำที่ดีจนลืมไม่ลงเลยล่ะ"มึงพากูมานี่ทำไม?" โจบ่นแต่ถึงอย่างนั้นก็ก้าวขาลงจากรถตามผมมาแต่โดยดี"ร้องเพลง" ผมตอบ"ร้องเพลง?" เขาดูแปลกใจแต่ก็ยอมเดินตามจนถึงหน้าเคาน์เตอร์ยังคงเห็นพี่สาวพนักงานคนเดิม"อ้าว! พ่อหนุ่มเบ้าหน้าฟ้าประทาน ไม่เจอกันนานเลย" เธอเอ่ยทักผมก่อนจะเหลือบตามองอีกคนข้างๆแล้วยิ้มกริ่ม "โรงเรียนนี้มีแต่คนน่ากินโว้ย!"พูดเสร็จก็ถามโจว่า "มีแฟนยังอ่ะเรา" พร้อมดวงตาแพรวพราวกระพริบ
หลังจากคืนนั้นโจริญไม่เข้าใจว่าทำไมของตัวเองถึงไม่แข็ง หดแล้ว หดอีก หดต่อ ขนาดนัดเจอกับสาวอกดูม หรือหนุ่มน้อยหน้ามนตามสเปคที่ชอบก็ไม่มีทีท่าว่าจะผงาดขึ้นมาแต่อย่างใดมันนิ่งสนิท...เหมือนมะเขือเผา เหี่ยวเฉาเหมือนชิเมโจใด๋🎶ชิโมโจใด ชิเมโจใด๋ เอาหัวใจเธอมา🎶ใครมาเปิดเพลงแถวนี้วะ!!เหนือสิ่งอื่นใด เขาคิดและปักใจเชื่อว่ามันเป็นเพราะคืนนั้นที่ทำให้ชีวิตเขาต้องรันทดขนาดนี้ ยิ่งคิดยิ่งพาลให้หงุดหงิดใจ เขาปฏิญาณกับตนเองว่า 'ต้องลากไอ้หล่อนั่นมารับผิดชอบให้ได้'ช่วงนี้ปาร์ตี้ในคลับวงในเลยเกิดข่าวซุบซิบกันใหญ่ว่าเพลย์บอยตัวพ่ออย่างโจริญนกเขาไม่ขันเลยอำลาวงการหนุ่มช่างสำราญไปแล้ว"ได้ข่าวว่ามังกรไม่ตื่นเหรอเพื่อน?" ชายหนุ่มหน้าหล่อร้ายคนหนึ่งถามขึ้น ขณะที่โจริญกำลังล้างมือหน้าอ่างล้างมือในห้องน้ำของคลับ"..." ใครเพื่อนมันวะ? โจริญคิดและถึงเขาจะรู้สึกไม่พอใจกับคำพูดนั้นแต่ก็เลือกที่จะเมินเฉย ไม่โต้ตอบ"แนะนำสาวให้เอาเปล่า แถวรัตแม่งอย่างแจ่ม เบิ้มๆ ดูมๆ" ชายคนนั้นยังคงไม่ยอมแพ้ เขาพูดนำเสนอพร้อมทำไม้ทำมือประกอบหึ พวกนายหน้าสินะ...คิดได้โจก็หันกลับไปตอบตามมารยาท "โทษทีว่ะ หน้าอย่างกูไม่จำเป
ทำตัวเหี้ยขนาดนั้นคงจะมีเพื่อนอยู่หรอก"..." เขายื่นซองบุหรี่ให้ไม่พูดไม่จา สายตาทอดมองวิวตรงหน้าอย่างเหม่อลอยแน่นอนว่าผมปฏิเสธ "ไม่สูบ"จากนั้นเจ้าตัวก็ดึงซองบุหรี่กลับ ก่อนหยิบขึ้นมาหนึ่งมวนคาบไว้ในปาก มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบไฟแช็กขึ้นมาจุดสูบและพ่นควันออกมาทางปากกับจมูกด้วยสีหน้าผ่อนคลาย มีแวบหนึ่งที่ผมนึกสงสัยในรสชาติแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่คิดจะลองเพราะเท่าที่รู้ บุหรี่มี ทาร์ เป็นสารเหนียวที่ก่อมะเร็ง นิโคตินที่สูบแล้วติด คาร์บอนมอนอกไซด์ที่เป็นก๊าซพิษขัดขวางการทำงานของออกซิเจน ข้างซองก็ระบุไว้ชัดเจนว่าสูบแล้วเป็นมะเร็ง จะมีกลิ่นปาก ถุงลมปอดพอง แล้วแม่งยังจะสูบอีก"เข้าประเด็นเลยดีกว่า พากูมานี่ทำไม?" ถึงวิวจะงดงามแค่ไหนแต่พอไม่รู้จุดประสงค์ก็คับข้องใจอยู่ดี"เงียบๆใช้สมาธิอยู่" ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเลี่ยงที่จะไม่ตอบคำถามหรือใช้สมาธิจริงๆอยู่กันแน่ ไร้การสนทนา ความเงียบได้กลืนกินเราสองคนเหลือไว้เพียงเสียงลมพัดหวิวๆเท่านั้นท้องฟ้าค่อยๆมืดขึ้นเรื่อยๆจนมองเห็นดวงจันทร์ เต็มดวงและดาวระยิบระยับเต็มท้องฟ้าแสงสีเหลืองนวลจากตึกเองก็เริ่มเด่นชัดขึ้น ผมปล่อยให้เวลาไหลผ่านอย่างใจเย็
'ร้านขายยานนนที'เป็นร้านขายยาโดยเภสัชกรที่ลูกค้าแห่แหนกันมาซื้อยาแน่นร้านทุกวัน แม้ไม่เจ็บแต่ก็ต้องเก็บเงินมาซื้อยาดมวันละร้อยรอบ เพราะลูกชายเจ้าของร้านโคตรพ่อโคตรแม่หล่อทุกคนต่างขนานนามว่าเขาคือชายหนุ่มที่พระเจ้าสร้างขึ้น ด้วยรูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาหล่อเหลามาพร้อมกับใฝเสน่ห์เม็ดเล็กใต้ตาซ้ายและผิวสีน้ำผึ้งสุขภาพดีชวนให้คนหลงใหล เขาคนนั้นกำลังเหม่อลอยอยู่หน้าเคาน์เตอร์ยาเหมือนคิดอะไรอยู่ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองกำลังถูกเพ่งมองด้วยสายตาหวานเยิ้มจากเหล่าลูกค้าในร้าน'มันไม่แข็งกับคนอื่นก็เพราะมึง' เสียงนั้นคอยรังควานผมอยู่ตลอดเวลา"เกี่ยวไรกับกูวะ!!" "เกี่ยวสิครับ ผมปวดฟัน มาซื้อยาแก้ปวดฟัน"ผมสะดุ้งหลังพลั้งปากโดยไม่รู้ตัวแล้วมีเสียงอู้อี้ตอบกลับมา"อ่ะ ขอโทษครับ"รีบก้มหัวทันทีด้วยความรู้สึกผิด เมื่อเห็นชายวัยกลางคนยืนจ้องอยู่ตรงหน้าพร้อมแก้มซ้ายที่ดูบวมตุยเหมือนพึ่งไปถอนฟันคุดมาใหม่ๆ"เมื่อกี้ไม่ได้ว่าลูกค้านะครับ พอดีคิดอะไรไปเรื่อยเลยหลุดปาก ขอโทษด้วยนะครับ...ฝ่าฟันคุดมาสินะครับ^^" ก้มหัวสำนึกผิดเสร็จผมยิ้มทักทาย เรื่องในหัวพลันหายวับไปทันที อารมณ์ที่หงุดหงิดเมื่อครู่ก็เช่นกั





![สถานะลับ(รับ)สถานะรัก [เมะxเมะ]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)

![อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)