Share

EP:26

Author: sanvittayam
last update Last Updated: 2025-05-03 13:56:14

“ครับ ราคานี้ และไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดปัญหา เวลานี้นายหญิงคิดเรื่องขอใบอนุญาตการค้า เพียงแค่ต้องรอเวลาอีกหน่อย ส่วนเรื่องราคาอาจจะขยับขึ้นไปเล็กน้อย เพราะต้องจ่ายภาษีให้กับรัฐ หวังว่าผู้จัดการหวูคงจะเข้าใจ”

นี่เป็นการเจรจาธุรกิจในแบบฉบับของตานเต๋อคงเพื่อกดดันให้อีกฝ่ายทำสัญญาหลายปี ส่วนเรื่องราคาเท่าที่คุยกับนายหญิงอาจจะขยับเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพื่อนำไปจ่ายภาษีให้กับภาครัฐ แต่ถามว่าทุกอย่างไหมที่จะขึ้นทะเบียนการค้า ตอบเลยว่า

คงไม่ เพราะมีบางส่วนที่ค้าขายในตลาดมืด และนั่นไม่ต้องจ่ายภาษีนอกจากค่าเช่าร้านและค่าจ้างคนงาน เรื่องนี้เขาได้ปรึกษานายหญิงเรียบร้อยแล้วเรื่องการต่อรองและเจรจาการค้าครั้งนี้

“แล้วทางคุณตานและนายหญิงของคุณมองไว้หรือไม่ว่าสัญญาแต่ละฉบับจะทำเป็นรายเดือนหรือรายปี”

“เรื่องซื้อขายผ้าจะไม่มีสัญญารายเดือนครับ นายหญิงต้องการทำสัญญารายปี รายสามปี และรายห้าปีครับ แต่นายหญิงมีข้อเสนออีกอย่างมาให้ คือการส่งวัตถุดิบเข้าโรงครัวของโรงงาน ทางร้านเพ่ยเพ่ยสามารถจัดหาวัตถุดิบให้ได้ตามที่ต้องการเช่นกัน”

“รวมถึงเนื้อและธัญพืชใช่ไหม”

“ครับ นี่คือรายการที่ทางร้านสามารถจัดหาได้”

 ตานเต๋อคงตอบรับและส่งรายการอีกฉบับพร้อมกับราคาไปให้ เท่าที่มองเขาเชื่อว่าการเจรจาผ่านแล้วแปดส่วน เหลืออีกสองส่วนคงขึ้นอยู่กับสัญญาว่าจะทำแบบไหน

“เรื่องการซื้อขายผมสามารถตอบรับได้ทันที แต่จะติดปัญหาเรื่องสัญญาเวลาว่าจะทำกี่ปี ผมเป็นเพียงผู้จัดการ ต้องส่งเรื่องให้ผู้บริหารประชุมกันอีกครั้ง แล้วผมจะรีบให้คำตอบ”

ผู้จัดการหวูตัดสินใจเอ่ยบอกออกมาตามตรง

เวลานี้แม้ว่าเขาจะตัดสินใจสั่งซื้อสินค้าจากร้านเพ่ยเพ่ย แต่เขาไม่อาจตัดสินใจเรื่องทำสัญญาระยะยาวได้ ต้องให้เจ้าของและผู้บริหารประชุมเพื่อลงมติอีกครั้ง

“ได้ครับ หวังว่าจะได้ทำการค้าครั้งนี้ด้วยกัน วันนี้ผมต้องขอตัวก่อน ต้องกลับไปรายงานเรื่องนี้ให้นายหญิงทราบ”

“อยู่กินของว่างกันก่อนไหมคะคุณตาน”

พอเห็นว่าการเจรจาสิ้นสุดลง เจียหมิ่นจึงเอ่ยชวนให้กินอะไรก่อนกลับ

“ไม่ดีกว่าครับ ขอบคุณสำหรับคำชวน ขอตัวครับ”

ตานเต๋อคงยังมีงานต้องทำอีก เรื่องการค้าครั้งนี้เขามั่นใจว่าจะสำเร็จ ถึงแม้ว่าเขาเป็นเพียงชาวบ้าน แต่เคยคบค้าสมาคมกับเหล่าคนสนิทพ่อค้า คนพวกนี้มักจะมาคุยโตโอ้อวดและบอกเทคนิคการเจรจาการค้าของตนเองให้กลุ่มสหายฟัง

ซึ่งเขาคือหนึ่งในนั้นที่เคยได้ยิน และวันเวลาสั่งสมประสบการณ์ ให้เขาเข้าใจเรื่องนี้ เพียงแต่เมื่อแม่ป่วยหนัก เขาจึงตัดสินใจลาออกจากงานและกลับไปดูแลแม่และน้องชาย จนแม่เสียชีวิต

แต่ยังมีน้องชายที่ต้องเลี้ยงดู และมีหนี้สินที่ต้องจ่ายมากมาย ไม่คิดว่าตนเองจะเจอแสงสว่างโดยนายหญิงเพ่ยเพ่ยที่ มอบโอกาสและมอบชีวิตใหม่ให้เขาและน้องชายอีกครั้ง ดังนั้นตานเต๋อคงจึงจะยึดมั่นสัจจะว่าจะไม่หักหลังและจะช่วยงานนายหญิงเพ่ยเพ่ยจวบจนวันสุดท้ายของชีวิต หลังจากเดินออกมาจากบ้านหวู ชายหนุ่มจึงรีบกลับมายังร้านเพ่ยเพ่ยเพื่อช่วยทุกคนค้าขายต่อ

หลังจากโจวเพ่ยชิงส่งของแล้ว วันนี้เธอไม่คิดจะเข้าตลาดมืด และเชื่อว่าเมื่อไหร่ที่มีข่าวของซินหง ตานเต๋อคงน่าจะฝากข้อความมากับอาโมว่ วันนี้โจวเพ่ยชิงจึงรีบกลับบ้าน

“กลับมาแล้วเหรอลูก วันนี้กลับเร็วนะ”

“ค่ะแม่ วันนี้ส่งของไม่กี่รายและไม่ได้เข้าตลาดมืด ”

นางซูหนานเห็นแววตาและสีหน้าของลูกคล้ายกับครุ่นคิดเรื่องบางอย่าง และดูหนักใจไม่น้อย เลยอดที่จะถามด้วยความเป็นห่วงไม่ได้ “มีอะไรหรือเปล่า ดูเหมือนจะคิดหนัก ไม่สบายใจเรื่องอะไรบอกแม่ได้นะลูก ดีกว่าเก็บไว้คนเดียว”

“ความจริงแล้วมันไม่ใช่เรื่องของฉันหรอกแม่ มันเป็นเรื่องของเหวินเสียนน้องสามีฉัน”

“เกิดอะไรขึ้นกับเหวินเสียนเหรอ หากไม่เหลือบ่ากว่าแรง ช่วยได้ก็ช่วย เวลานี้เพ่ยชิงยังอยู่ในฐานะของสะใภ้บ้านหลี่อยู่นะ”

หากเกี่ยวกับบ้านหลี่ นางซูหนานคิดว่าถ้าช่วยได้ควรจะช่วย ยังไงสองบ้านก็เกี่ยวดองกัน อีกทั้งอาอี้กับอาปิงก็สนิทสนมกับลูกชายบ้านหลี่ไม่น้อย

“คือเรื่องมันมีอยู่ว่า... เมื่อวานตอนที่ฉันค้าขายในตลาดมืดกลับเจอเข้ากับซินหง เธอมากับผู้ชายคนหนึ่ง ดูสนิทสนมกันไม่น้อย ด้วยสายตาอันแหลมคมของฉัน ทั้งสองน่าจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา นี่แหละคือปัญหาที่ฉันคิดไม่ตกตั้งแต่เมื่อวาน เพราะกลัวสิ่งที่ฉันคิดไม่ใช่เรื่องจริง”

“ตายแล้ว! นี่ไม่เท่ากับสะใภ้สามมีชู้เหรอเพ่ยชิง”

นางซูหนานเอามือทาบอกด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าสะใภ้สามบ้านหลี่จะกล้าคบชู้ ทั้ง ๆ ที่ลูกยังเล็กนัก

“ฉันตอบไม่ได้หรอกแม่ ว่าเธอจะคบชู้หรือไม่ ฉันทำได้เพียงจ้างคนในตลาดมืดตามสืบเรื่องนี้ให้ และคิดว่าอีกไม่นานน่าจะรู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร แต่ความเป็นไปได้นี่แปดส่วนเลยละแม่ ท่าทางและความสนิทสนมของทั้งสองคนทำให้ฉันคิดดีไม่ได้เลย อีกทั้งซินหงไม่กลับบ้านมาสองเดือนแล้วนี่”

โจวเพ่ยชิงบอกเพียงแค่จ้างคนในตลาดมืดเท่านั้น แต่ไม่บอกว่าคนของเธอไปจัดการให้อีกทอดหนึ่ง

“แล้วซินหงเห็นลูกไหม” นางซูหนานถามอย่างเป็นกังวล

“ไม่เห็นแม่คะ ฉันหลบทัน เธอไปซื้อของร้านหนึ่งซึ่งฉันไปรับสินค้าจากร้านนั้นพอดี เลยขอแอบหลังร้าน”

“ดีแล้วที่ลูกแอบทันเพ่ยชิง ไม่งั้นป่านนี้สะใภ้สามคงกลับบ้านแล้วล่ะ เพื่อดูว่าลูกมาบอกเรื่องนี้กับบ้านหลี่หรือเปล่า แล้วลูกจะบอกเรื่องนี้กับคนบ้านหลี่หรือเปล่า”

ดีแค่ไหนแล้วที่สะใภ้สามไม่ประจันหน้ากับเพ่ยชิงของเธอ ไม่อย่างนั้นเรื่องคงไม่เงียบแบบนี้ส่วนเรื่องที่จะบอกกับบ้านหลี่หรือไม่นั้น คงจะต้องปรึกษากับกันก่อนคงจะดี

“นั่นสิคะแม่ แล้วเราจะทำยังไงกันดี เราควรจะบอกบ้านหลี่ยังไงดี หากเธอคบชู้จริง ๆ ก็น่าสงสารน้องสามีนะคะ ดูสิทำงานจนหลังขดหลังแข็ง เลิกงานยังต้องเลี้ยงดูเสี่ยวหลาน แถมต้องพาเข้านอนอีก ชะตาชีวิตของลูกชายบ้านหลี่นี่น่าสงสารนะคะ แต่ละคนนั้นเป็นคนดีทั้งนั้น แล้วดูเมียแต่ละคนสิ หาดีไม่ได้เลย น่ากลุ้มใจแทน เห้อ..” โจวเพ่ยชิงบ่นออกมาอย่างเหนื่อยใจแทน จนลืมไปว่าตนเองก็อยู่ในสถานะลูกสะใภ้คนรองบ้านหลี่เหมือนกัน

“ฮ่า ๆ ลูกลืมอะไรไปหรือเปล่า ว่าตัวเองก็เป็นสะใภ้บ้านหลี่คนหนึ่ง” นางซูหนานหัวเราะร่า ที่ลูกสาวจะพูดกระทบตัวเองก็เป็น

“โธ่ แม่ ฉันรู้หรอกว่าตัวเองยังเป็นสะใภ้บ้านหลี่ เมื่อก่อนฉันอาจจะร้ายกาจจนทุกคนถอยหนี แต่เวลานี้ฉันกลับตัวกลับใจแล้ว ไม่เหมือนสะใภ้ใหญ่ที่คอยจ้องแต่อิจฉาและหาเรื่องฉันหรอก แม่พูดแบบนี้ฉันน้อยใจนะคะ” โจวเพ่ยชิงแกล้งงอนแม่เลี้ยง

“ไม่งอนนะ มีลูกโตขนาดนี้แล้วยังงอนแม่เป็นเด็ก ๆ ไปได้ แม่คิดว่าเย็นนี้รอพี่ชายและพ่อของลูกกลับมาจากแปลงนาก่อนไหมแล้วลองปรึกษาดู พ่อและพี่ชายของลูก อาจจะให้คำปรึกษาและมีแนวทางที่ดีกว่านี้”

นางซูหนานคิดว่าคนที่จัดการเรื่องนี้ได้น่าจะเป็นสามีและลูกชายอีกสองคน มากกว่าที่จะเป็นเธอหรือโจวเพ่ยชิง

“ค่ะแม่”

โจวเพ่ยชิงพยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับความคิดนี้เหมือนกัน การปรึกษาหารือกับพ่อและพี่ชายคงวจะได้คำตอบที่ดี

“ว่าแต่ซื้อตำราและสมุดมาให้สองแฝดหรือไม่ วันนี้อาซาเริ่มสอนให้ทั้งสองหัดท่องแล้วนะ” นางซูหนานถามไปถึงเรื่องอื่น

“ซื้อมาแล้วค่ะ ว่าแต่พี่ใหญ่หลุนเริ่มสอนวันนี้เลยใช่ไหม แม่ คิดว่าฉันควรตอบแทนเขายังไงดี ให้เป็นอาหารหรือว่าเงิน”

“เพ่ยชิงตั้งใจไว้จะให้ยังไงล่ะ ความคิดแม่ แม่คิดว่าค่าเรียนของอาเฉินให้เป็นเงิน ส่วนของซานซานให้เป็นอาหารดีไหม แต่ก็ขึ้นอยู่กับลูกนั่นแหละว่าจะให้ยังไง” นางซูหนานตอบกลับไป

เรื่องนี้เป็นเรื่องของบ้านของลูกสาว เงินของครอบครัวลูกสาว เธอจึงไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวมากนัก เพราะกลัวคนอื่นมองว่าบ้านเดิมเข้าไปก้าวก่ายบ้านของลูกสาวที่แต่งงานออกไปแล้ว เรื่องเงินทองไม่เข้าใครออกใคร เรื่องนี้เธอรู้ดี

“แบบนี้ก็ดีนะคะ อย่างนั้นเราให้ทั้งอาหารและเงินดีที่สุด เย็นนี้ค่อยไปคุยกับพี่ใหญ่หลุนและป้าสะใภ้หลุนนะคะแม่”

“ตกลงจ้ะ แล้วนี่หิวหรือยัง แม่ทำอาหารไว้แล้ว”

“งั้นเราไปกินข้าวกันดีกว่าค่ะ แล้วนี่สองแฝดไปไหนคะ แล้วแม่เอาข้าวไปส่งให้พ่อกับพี่ใหญ่หรือยังคะ” โจวเพ่ยชิงถามขึ้นอีกเมื่อมองไม่เห็นลูกๆ ทั้งสองคน

“ส่งแล้ว ส่วนสองแฝดน่าจะเล่นจนเหนื่อยเข้าไปนอนแล้ว เราไปกินข้าวกันเถอะนะ”

จากนั้นสองแม่ลูกจึงเดินเข้าครัวเพื่อกินอาหารร่วมกัน

เย็นวันนี้โจวเพ่ยชิงเดินมาบ้านโจวเพราะต้องพาลูกทั้งสองคนไปเริ่มเรียนกับพี่ชายใหญ่หลุนที่บ้านหลุน ที่อยู่ข้างๆ บ้านโจว

“พี่ใหญ่หลุน อยู่บ้านไหมคะ” โจวเพ่ยชิงตะโกนถามออกไป

“มากันแล้วเหรอ เข้ามาก่อนสิน้าสะใภ้โจว เพ่ยชิง”

หลุนหมิงซาเดินยิ้มออกมาและชักชวนคนเข้าบ้านเข้าบ้าน

เมื่อมาถึงข้างในบ้าน โจวเพ่ยชิงจึงพูดเรื่องค่าใช้จ่ายของลูกทั้งสองคน“จริงสิ พี่ใหญ่หลุนยังไม่แจ้งเรื่องค่าใช้จ่ายเลยนะ”

“ไม่เป็นไรหรอก แค่นี้เอง อีกอย่างพี่เอาเวลาเลิกงานและเวลาว่างมาสอนทั้งสองคน” นี่เป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับหลุนหมิงซา เขาแค่เอาเวลาว่างมาสอนเด็ก ๆ เท่านั้น

“ถ้าฉันต้องการให้สอนอาเฉินและซานซานเต็มเวลาล่ะคะ คล้ายกับโรงเรียนทั่วไป พี่จะตกลงไหม โดยฉันให้ค่าจ้างเดือนละสิบหยวน พร้อมกับอาหารในทุก ๆ เดือน”

โจวเพ่ยชิงคิดว่าเดือนละสิบหยวนมันอาจจะน้อยไปสำหรับการศึกษาของลูก แต่ถ้าหากเธอให้มากกว่านั้นจะเป็นที่น่าสงสัยของคนทั่วไป อีกทั้งเธอยังไม่พร้อมที่จะบอกพูดกับใครเรื่องเธอทำการค้าขายในตลาดมืด แม้จะเป็นคนที่สนิทคุ้นเคยอย่างบ้านหลุนก็ตาม

“พี่สอนอาเฉินกับซานซานให้ได้นะ พี่แค่แจ้งทางคอมมูน เพราะยังไงเงินที่คอมมูนให้แต่ละเดือนก็แค่หนึ่งถึงสองหยวนเท่านั้น แต่สิบหยวนพร้อมอาหารพี่ว่ามันเยอะไป”

เขารับไม่ได้จริง ๆ แม้จะรู้ว่าหลี่ฮั่นตงจะส่งเงินมาให้ครอบครัวยี่สิบหยวนต่อเดือนก็ตาม แต่จะมาจ่ายให้เขาเดือนละสิบหยวน ยังไงก็ไม่สมเหตุสมผลเลย สองหยวนเขายังคิดว่ามันมากไปด้วยซ้ำ

“อย่างนั้นเดือนละห้าหยวนพร้อมอาหารและห้ามปฏิเสธ ไม่อย่างนั้นฉันจะไปหาครูคนอื่นมาสอนเด็ก ๆ” โจวเพ่ยชิงตัดสินใจลดลงเหลือครึ่งหนึ่ง

จากที่ฟังพี่ใหญ่หลุนตอบกลับมา เธอคิดว่าเขาน่าจะรับเงินหนึ่งถึงสองหยวนเท่านั้น เธอจึงตัดสินใจว่าจ่ายห้าหยวนพร้อมอาหาร ส่วนเธอจะให้พิเศษเท่าไรนั้น มันเรื่องของเธอ

หลุนหมิงซาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงตัดสินใจพยักหน้า

“ตกลง แต่ไม่ต้องให้อาหารนะ แค่นี้ก็มากพอแล้ว อีกอย่างสอนเด็ก ๆ ก็ไม่เหนื่อยอะไรเลย เดือนละห้าหยวนมันยังมากไป

ด้วยซ้ำ”

“เอาเถอะ เพ่ยชิงตั้งใจให้ อาซาก็อย่าปฏิเสธเลย ยังไงลองสอนไปก่อนนะ เดี๋ยวน้ากับเพ่ยชิงต้องขอตัวกลับไปทำอาหารมื้อเย็นก่อน” นางซูหนานที่ยืนฟังอยู่นานก็พูดตัดบทขึ้น

 “ครับน้าสะใภ้โจว มาเถอะอาเฉิน ซานซาน ลุงจะสอนให้เริ่มอ่านและรู้จักตัวอักษร”

หลุนหมิงซาพยักหน้าและชักชวนหลี่รุ่ยเฉินและหลี่ซานซานมาเพื่อเริ่มเรียนกัน ทั้งสองคนก็เดินตามไปและตั้งใจเรียนอย่างมาก

โจวเพ่ยชิงและนางซูหนานยืนมองเด็กทั้งสองคนเรียนหนังสือสักพัก จากนั้นก็พากันกลับบ้านโจว เพื่อเตรียมอาหารรอทุกคน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • โจวเพ่ยชิง มารดาผู้กลับใจ 70   EP:90 ตอนพิเศษ 7 โจวเม่ยเม่ย - ตานเต๋อคง

    ตอนพิเศษ 7 โจวเม่ยเม่ย - ตานเต๋อคงหนึ่งเดือนต่อมางานมงคลสีแดงถูกจัดขึ้นอย่างประณีต ในบ้านเกิดของ โจวเม่ยเม่ยและตานเต๋อคง แม้บ้านเจ้าสาวจะไม่ได้ใช้ทำพิธีสำคัญแต่คนตระกูลโจวมีเงินทองมากมาย พวกเขาไม่ได้ประดับตกแต่งของสวยงาม หรือจัดงานใหญ่โตเพื่อโอ้อวด แต่ที่ทำเช่นนี้ ก็เพื่อน้องสาวคนเล็กสุดที่รักดอกไม้สดสีแดงถูกสั่งมาจากทั่วทุกสารทิศ มีทั้งที่ตัดออกมาจากต้น และปลูกไว้เป็นต้น ประดับไปตามเส้นทางจากบ้านเจ้าสาวไปบ้านเจ้าบ่าวในส่วนของถนนสาธารณะ ก็ได้มีการติดต่อกับทางการเพื่อบริจาคพืชเหล่านี้หลังใช้งาน แล้วยังมีงบการดูแลพืชให้ทุกปีต่อเนื่องไปอีกสิบปี นั่นทำให้ทางการยินดีให้บ้านโจวจัดงานได้เต็มที่พืชพรรณที่ออกดอกสีแดงสด ถูกซื้อและถอนมาจากทั่วประเทศ เพื่อปลูกไว้ประดับตกแต่งในวันงานแต่งงานของโจวเม่ยเม่ย น้องสาวคนสุดท้าย ตลอดทั้งเส้นทางที่ต้องส่งตัวเจ้าสาวส่วนบ้านเจ้าบ่าวนั้นก็ไม่ได้น้อยหน้า แม้จะไม่ได้ร่ำรวยเท่าตระกูลโจว แต่นายหญิงเพ่ยเพ่ยก็ไม่ได้เอาเปรียบพวกเขาพี่น้อง ตานเต๋อคงยังมีหุ้นส่วนในหลาย ๆ ร้านค้าที่ให้กำไรดี แล้วยังทำการเก็งกำไรร้านค้าในพื้นที่หลากหลาย ตามนายหญิงกล่าวได้ว่าเขาเอ

  • โจวเพ่ยชิง มารดาผู้กลับใจ 70   EP:89 ตอนพิเศษ 6 โจวเม่ยเม่ย - ตานเต๋อคง

    ตอนพิเศษ 6 โจวเม่ยเม่ย - ตานเต๋อคงกิจการร้านทั้งสามของโจวเม่ยเม่ย เมื่อมีตานเต๋อคงช่วยดูแลอีกแรงหนึ่ง ก็ทำให้เธอสามารถพัฒนาไปในลู่ทางของตัวเองได้มากขึ้น แตกต่างจากก่อนหน้านี้ ที่ปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปภายใต้แผนการค้าเดิม เช่นเดียวกับร้านค้าอื่น ๆ ของนายหญิงเพ่ยเพ่ยความสามารถในการบริหารของหญิงสาว ทำให้ตานเต๋อคงรู้สึกทึ่งและภาคภูมิใจ ที่คนรักของเขามีความสามารถไม่เป็นรองนายหญิงเพ่ยเพ่ยผู้เป็นพี่สาวเลยสถานการณ์ด้านโรงงานของโจวเพ่ยชิงที่ขยายสาขามาในเมืองปักกิ่งกลับไม่ได้ดีนัก แต่ไม่ได้เป็นเพราะฝีมือการจัดการของตานเต๋อคงแย่ลง เพียงแต่เป็นเพราะมังกรต่างถิ่น ไม่อาจสู้งูดินเจ้าถิ่นได้ ทำให้เขาต้องทุ่มแรงอย่างหนัก เพื่อเอาชนะเจ้าถิ่นที่ครองตลาดเอาไว้หากเป็นการเปิดโรงงาน เปิดร้านค้าธรรมดา ก็แล้วไปเถอะ แต่ในช่วงสามเดือนระหว่างที่ตานเต๋อคงก่อตั้งร้านค้าในเครือเพ่ยเพ่ยในเมืองหลวง ทางโจวเพ่ยชิงเองก็พัฒนาขึ้น จนสามารถสร้างห้างสรรพสินค้าในเมืองหลักใกล้เคียงกับบ้านเกิดได้สำเร็จนั่นทำให้หญิงสาวตัดสินใจสร้างห้างสรรพสินค้าใหม่ในปักกิ่ง ซึ่งแน่นอนว่ามันจะเป็นการขัดผลประโยชน์กับเจ้าถิ่นอย่างไม่สามารถห

  • โจวเพ่ยชิง มารดาผู้กลับใจ 70   EP:88 ตอนพิเศษ 5 โจวเม่ยเม่ย - ตานเต๋อคง

    ตอนพิเศษ 5 โจวเม่ยเม่ย - ตานเต๋อคง“เม่ยเม่ย ไปไหน”เสียงเข้มเอ่ยถามน้องชายทันที เมื่อพบว่ามีเพียงตานโมว่ เดินเข้ามาในบ้าน วันนี้เป็นวันปิดภาคเรียน นักศึกษาเข้าไปส่งงานหรือไม่ก็สอบเป็นวันสุดท้าย ซึ่งโจวเม่ยเม่ยก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการไปมหาวิทยาลัยในวันนี้ได้“วันนี้ปิดภาคเรียน เด็ก ๆ ปีหนึ่งต้องไปกินดื่มกับพวกรุ่นพี่ในคณะสิครับ” ตานโมว่บอกกับพี่ชายถึงธรรมเนียมปฏิบัติ“แล้วนายไม่ได้ไป?”“ผมทำงาน อีกอย่างก็ไม่ได้มีสหายเยอะเหมือนเม่ยเม่ย รายนั้นเรียกได้ว่าเจ้ใหญ่ของสาขาวิชาก็ว่าได้”“...” ตานเต๋อคงไม่ประหลาดใจ เมื่อได้ยินอย่างนั้น จากความถี่ในการออกเที่ยวของโจวเม่ยเม่ย สามารถรู้ได้ว่าหญิงสาวมีสหายเยอะ หรือบางทีอาจจำกัดความได้ว่า ‘มีสหายกินดื่มเยอะ’ จะถูกกว่า“แต่เม่ยเม่ยดื่มไม่เก่ง” ตานเต๋อคงพูดขึ้นอย่างเป็นห่วง“หวงนักก็ตามไปเฝ้าสิครับ งานเลี้ยงวันนี้ไม่ได้เคร่งเหมือนในมหาวิทยาลัย คนนอกไปกันเยอะแยะ”“ห่วง ไม่ได้หวง” ในความเป็นจริงคือไม่มีสิทธิ์อะไรไปหวงมากกว่า“อย่าปากแข็งไปหน่อยเลย เอาเถอะ ผมก็จนปัญญากับ พวกพี่แล้ว วันนี้พี่ก็ไปรับเม่ยเม่ยเองแล้วกัน ให้ผมไปสืบเรื่องงานมาให้จนเกือบตาย ผ

  • โจวเพ่ยชิง มารดาผู้กลับใจ 70   EP:87 ตอนพิเศษ 4 โจวเม่ยเม่ย - ตานเต๋อคง

    ตอนพิเศษ 4 โจวเม่ยเม่ย - ตานเต๋อคงทิวทัศน์ของปักกิ่งนั้นช่างแปลกตา แตกต่างจากบ้านเกิดของตนเองอย่างชัดเจน ทำให้สองหนุ่มผู้เพิ่งเข้ากรุงตื่นเต้นอยู่ชั่วขณะหนึ่ง แต่เมื่อรถพาแล่นมาถึงคฤหาสน์หลังหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางบ้านแบบใหม่หลายหลัง พวกเขาก็เปลี่ยนความตื่นเต้นเป็นกังวลใจทันทีที่รถจอดและพบหน้ากัน โจวเม่ยเม่ยไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไร ท่าทางของเธอเฉยชาอย่างประหลาด นั่นทำให้ตานเต๋อคงประหม่าจนพูดไม่ออกคงมีแค่ตานโมว่ ที่คุยกับสหายอย่างกระตือรือร้น“นี่เป็นของฝากจากนายหญิงและทุกคน ลองดูสิเม่ยเม่ย”“ขอบใจนะ อาโมว่”โจวเม่ยเม่ยเหลือบมองของขวัญ แต่บังคับสายตาไม่ให้หันไปมองคนใจร้าย หลังรับของ เธอก็หันไปพาทั้งสองคนไปด้านใน“พี่และอาโมว่เลือกห้องได้เลยนะ ที่นี่หลังใหญ่จนเกินที่ฉันจะอยู่คนเดียว นายนั่นแหละอาโมว่ ที่ไม่ยอมมากับฉันตั้งแต่แรก”โจวเม่ยเม่ยเอ่ยขึ้น ก่อนจะหันมาบ่นสหายของตนเอง“จะดีเหรอ พวกเราออกไปเช่าห้องอยู่ หรือไปอยู่ที่หลังร้านก็ได้”ตานเต๋อคงเอ่ยแทรกขึ้น อย่างที่เขาได้ตัดสินใจก่อนจะมาที่นี่แต่… โอกาสของเขาดูเหมือนถูกตัดขาดอย่างรวดเร็ว เมื่อโจวเม่ยเม่ยตอบกลับและหันไปพูดกับตานโมว่สหา

  • โจวเพ่ยชิง มารดาผู้กลับใจ 70   EP:86 ตอนพิเศษ 3 โจวเม่ยเม่ย - ตานเต๋อคง

    ตอนพิเศษ 3 โจวเม่ยเม่ย - ตานเต๋อคง“นี่มัน…” ตานโมว่รู้สึกพูดไม่ออก หลังจากได้ฟังคำถามของเจ้านาย ไม่ใช่ว่าตอบไม่ได้เพราะปัญหาความซื่อสัตย์ แต่ไม่รู้ว่าควรพูดออกไปหรือไม่“นายอย่าปิดบังฉันเลย นายคงเห็นแล้ว ว่าพี่เต๋อคงแปลกไปจริง ๆ เขาชอบเหม่อเวลาทำงาน ตอนอยู่ที่บ้านด้วยกัน ก็คงจะเหม่อยิ่งกว่านี้อีกใช่ไหม”เมื่อคิดตามคำพูดของพี่สาวเพ่ยเพ่ยแล้ว ตานโมว่ก็รู้สึกว่ามันสมเหตุสมผล แต่ปัญหาก็ คือแม้เขาจะรู้ความจริงว่าทำไมพี่ชายถึงเป็นอย่างในตอนนี้ ก็ไม่กล้าพูดออกไปอยู่ดี“ฉันแค่เป็นห่วง และสงสัยว่าพี่เต๋อคงเป็นอะไรเท่านั้น ถ้ารู้ต้นเหตุ ไม่แน่ว่าเราอาจหาทางทำอะไรแก้ไขได้ ก่อนที่จะเกิดเรื่อง”“นี่… มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกครับ” ตานโมว่มองเจ้านายด้วยความรู้สึกหลากหลาย ยิ่งทำให้เจ้าตัวสงสัยมากขึ้น แต่ไม่ใช่ความสงสัยที่ว่าตานเต๋อคงมีปัญหา แต่อาจเป็นผลมาจากเรื่องของโจวเม่ยเม่ย น้องสาวของเธอเอง“หรือเป็นเพราะเม่ยเม่ยไปปักกิ่ง” โจวเพ่ยชิงพูดออกไป“นายหญิงรู้ได้ยังไง!”ไม่ต้องรอให้เขาตอบ เพียงท่าทีของตานโมว่ ก็บอกได้ทุกอย่าง โจวเพ่ยชิงได้ยินอย่างนั้นก็ถอนหายใจโล่งอกที่ไม่ใช่เรื่องอื่น“ก็ไม่เชิงรู

  • โจวเพ่ยชิง มารดาผู้กลับใจ 70   EP:85 ตอนพิเศษ 2 โจวเม่ยเม่ย - ตานเต๋อคง

    ตอนพิเศษ 2 โจวเม่ยเม่ย - ตานเต๋อคงกลับมาทางด้านตานเต๋อคงเวลานี้ชายหนุ่มเข้าใจความรู้สึกของตัวเองอย่างชัดเจนแล้ว แต่เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย ใจหนึ่งก็อยากติดตามไปดูแลใครบางคนที่อยู่ในเมืองหลวง หรือไม่ ก็ติดต่อเธอไปสักเล็กน้อยแต่ทุกวันนี้เขามักจะมองเหม่อไปทางโทรศัพท์ เมื่อมันดังขึ้นก็เฝ้าหวังว่าจะเป็นสายจากคนที่คิดถึง กระนั้นชายหนุ่มกลับต้องผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะแม้ว่าโจวเม่ยเม่ยจะติดต่อกลับมาก็เพื่อพูดคุยกับครอบครัว หรือไม่ก็สหายอย่างตานโมว่เท่านั้น ไม่ได้สนใจพี่ชายของสหายที่พ่วงด้วยฐานะผู้ช่วยคนสนิทของนายหญิงเพ่ยเพ่ยอย่างเขา ตานเต๋อคงเองก็ไม่มีหน้าพอที่จะไปขอคุยโทรศัพท์กับหญิงสาวทั้งที่ไม่มีธุระอะไรจนกระทั่งนายหญิงเพ่ยเพ่ยเรียกให้เขาเข้าพบ แล้วยื่นโทรศัพท์ให้ พร้อมกับบอกว่ามีคนจะปรึกษาเรื่องงาน“สวัสดีครับ”เขารับโทรศัพท์มา และกลอกเสียงที่ถูกทำให้นุ่มทุ้มลดระดับหนึ่งลงไปโดยไม่ได้ตั้งใจ“พี่เต๋อคง ช่วยสอนงานเล็กน้อยให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ พอดีฉันกำลังจัดการปัญหาที่เจอในสาขาหนึ่งของร้านค้าในเมืองปักกิ่งอยู่ ถ้าได้ผู้เชี่ยวชาญอย่างพี่มาช่วยคงจะดีมาก”ตานเต๋อคงหัวใจกระตุกวูบ รู้ส

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status