“เจ้าคุณ?”
“ครับ ผมเอง..” “อย่ามาพูดเพราะได้มั้ย มันเลี่ยนจะอ้วก!!” ร่างเล็กเดินตรงไปหาชายหนุ่มร่างสูงราวร้อยแปดสิบแล้วกอดอกปรายตามองเพื่อนของเขาอีกสองคนที่ยืนสูบบุหรี่อยู่ สภาพแบบนี้คงจะเพิ่งกลับมาจากผับแหงเผลอๆ ที่มานี่ก็คงจะมาส่งสาว..โฉมงามคิดในใจก่อนจะหันมาจ้องหน้าชายหนุ่มที่ชื่อว่าเจ้าคุณ ที่เคยมีฐานะเป็นคนรักองเธอ..ย้ำว่า เคยมี! “หึ! ใครมาส่ง?” “ผัว!” “ถามจริง ผัวคนอื่นหรือเปล่า!? น้องดลธีเด็กมอหกโรงเรียนใกล้ๆ นี่..แฟนของลูกหว้าที่เป็นอริกับคนแถวนี้” “รู้มากไป” ไม่ต้องสืบว่าเธอเลิกกับหมอนี่เพราะอะไร เพราะความรู้มากของมันไงที่ตามเธอทันเอาซะทุกเรื่อง..ไม่หรอก! ที่จริงเลิกกันเพราะมีอะไรหลายๆ อย่างแตกต่างกันมากเกินไปเลยตัดสินใจเลิกกันด้วยดีไม่ได้มีมือที่สามสี่ หรือทะเลาะอะไรกัน “มันมีแฟนแล้วมึงก็ยังไปยุ่งกับมันนะ สภาพยับเยินเดินขาถ่างมาขนาดนี้ไม่ต้องให้กูถามนะว่าได้กันยัง” “ที่จริงมึงก็ไม่ควรถามอยู่แล้วนี่ แล้วมายืนทำแอ๊คอะไรกันตรงนี้ไม่ทราบ!!?” “หาล่าเหยื่อ!” เพื่อนของเจ้าคุณตอบพลางยักคิ้วเจ้าเล่ห์ใส่โฉมงาม แต่ก็ต้องหน้าเจื่อนลงเมื่อถูกสายตาคมกริบของเจ้าคุณจ้องเข้าให้ “งั้นเหรอ? ถ้าไงขอตัวก่อนนะ!” “พวกมึงกลับไปก่อนเลย” เจ้าคุณหันไปบอกกับเพื่อนทั้งสองคนของเขาแล้วจึงวิ่งตามคนตัวเล็กไปขึ้นลิฟต์ “เข้ามาทำไม!?” “นอนด้วย ขับรถกลับไม่ไหว” “สภาพมึงก็ได้เมาอะไรขนาดนั้นเพื่อนก็มีกลับพร้อมพวกมันดิ ไม่เอาออกไปเลย!!” ว่าพลางกดเปิดลิฟต์ให้ แต่เขากับกดปิดตามเดิมแล้วก็หันไปส่งสายตาออดอ้อนให้โฉมงาม แน่นอนว่าทุกครั้งที่ทำแบบนี้ยัยตัวเล็กนี่ก็ใจอ่อนยอมเขาเสียซะทุกครั้งและครั้งนี้ก็เช่นกัน เมื่อเข้ามาในห้องโฉมงามก็ยืนกอดอกมองเจ้าคุณที่ตอนนี้วิ่งไปนอนบนที่นอนของเธอแล้ว “ไปอาบน้ำก่อนได้มั้ย เดี๋ยวที่นอนกูเหม็นกลิ่นเหล้าเพิ่งซักไป” “มึงไม่อาบเหรอ?” “อาบดิ” “งั้นอาบด้วยกัน” ไม่รีรอให้คนตัวเล็กได้เอื้อนเอ่ยตอบอะไร เขาก็รีบลุกขึ้นยืนแล้วช้อนร่างเล็กพาเดินเข้าไปในห้องน้ำ โฉมงามก็ได้แต่ส่งสายตาดุไปให้แล้วทำท่าจะเดินออกมาหลังจากเขาปล่อยให้เธอยืนแต่กลับถูกมือหนาคว้าเอวไว้ก่อน “คุณปล่อยดิ!! มึงจะอาบก็อาบไปก่อนเดี๋ยวกูไปรอข้างนอก” “อาบด้วยกันนะ” “ไม่!!” “น่านะที่รัก ที่รักครับอย่าใจร้ายสิแคอาบน้ำเองนะ” “หน้าตามึงบ่งบอกว่าไม่ได้อยากอาบน้ำอย่างเดียว” แววตาที่หื่นกระหายฉายชัดกับน้ำเสียงออดอ้อนและรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั้นมองจากดาวอังคารก็รู้ว่าหมอนี่กำลังคิดไม่ดี! โฉมงามจึงพยายามเบือนหน้าหลบสายตานั่นแล้วจับมือเขาให้ออกจากเอวของเธอ “เฮ้อ! คนหมดรักกันแม้แต่ความเป็นเพื่อนก็หมดไปด้วย..เป็นกูนี่แย่เนอะ” “ปล่อยกูสิ!!” “ไม่มีแรงจะอาบน้ำแล้ว แต่ทำไงได้เขาไม่สนใจ..ขนาดความเป็นเพื่อนเขาก็คงไม่อยากเป็น” น้ำเสียงที่น้อยอกน้อยใจของเจ้าคุณยังคงเอ่ยออกมาอย่างต่อเนื่อง มือหนาก็ค่อยๆ ปล่อยออกมาจากเอวคอดนั่น โฉมงามจึงหันกลับมามองเขาก่อนจะถอดเสื้อผ้าตัวเองออก “ที่กูให้ปล่อยกูจะถอดเสื้อผ้าไง มึงจะอาบทั้งเสื้อผ้าหรือไง” “อดีตที่รักนี่น่ารักจริงๆ” “อย่ามาใช้คำพูดบ้าๆ ไปเปิดน้ำใส่อ่างกูขี้เกียจยืนอาบอยากแช่ตัว” “ครับ” ตอบรับด้วยน้ำเสียงที่กระดี๊กระด๊าแล้วก็เดินไปเปิดน้ำใส่อ่างอาบน้ำพร้อมกับเทครีมอาบน้ำลงไปด้วย เสร็จก็ถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก สายตาแวววาวก็จ้องมองเรือนร่างที่ขาวโพลนที่ยืนมองเขาอยู่ด้วยเช่นกัน ต่างกันตรงสายตาที่เขามองเธอด้วยสายตาที่ออดอ้อนเจ้าเล่ห์แต่เธอมองเขาด้วยสายตาที่เหมือนอยากจะกระโดดเข้ามางับคอเขา “ทีคบกับกูแหละไม่ให้กูดูไม่ให้กูแตะ กับคนที่มีเมียแล้วยอมให้เขาเปิดซิง” “หุบปากไป!!” “ที่รักครับ! ขอเค้าจับมันหน่อยได้มั้ยอ่า..นิดเดียวขอจับนิดเดียวนะ!” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลพร้อมกับไล่สายตามองเรือนร่าของคนตัวเล็กไปทุกส่วน โฉมงามก็ส่ายหน้าให้ก่อนจะเดินไปลงอ่างอาบน้ำที่น้ำเกือบเต็มแล้ว “ยืนอาบไป!” “หุย! ใจร้ายอ่า..เธอค้าบ!! ขอไปนั่งซ้อนหลังหน่อยนะ” “ไม่! อย่าเรื่องมากกูง่วงจะแช่ตัวแล้วก็รีบอาบรีบขึ้น” “เธอค้าบ! เค้าขอลงไปด้วยนะ นะๆ ..ที่รัก” “แม่งอย่ามาทำน้ำเสียงแบบนั้นใส่กูดิ ลงมา!!” ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเวลามีคนมาอ้อนเธอแบบนี้เป็นต้องยอมเสียซะทุกครั้ง โดยเฉพาะหมอนี่ที่รู้ว่าเธอแพ้คนขี้อ้อนมันก็ช่างขี้อ้อนซะเหลือหลาย “ขอจับนมด้วยได้มั้ย!? มันใหญ่ดี..ขอจับนะ! จับแค่นิดเดียว” เมื่อลงมานั่งตรงหน้าของโฉมงามแล้วเจ้าคุณก็เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานส่งสายตาปริบๆ ให้เธอไม่หยุดไม่หย่อน หญิงสาวตัวเล็กก็ได้แต่กรอกตามองบนแล้วส่ายหน้าให้เขาเป็นคำตอบว่าไม่ได้ แน่นอนว่ามันก็ทำให้ชายหนุ่มถึงกับทำหน้าเง้างอทันที “เธอเค้าขอจับนิดเดียวเอง! จับนิดเดียว..นะครับ! ขอจับนะ” แต่ครั้งนี้เขาไม่รอคำอนุญาตจากเธอ มือหนาก็เอื้อมมาบีบขย้ำก้อนเนื้อหยุ่นตรงหน้าทันที ทำให้คนโฉมงามถึงกับต้องส่งเสียงครางออกมาเล็กน้อยแล้วปัดมือเขาออกแต่ชายหนุ่มกับบีบมันแรงขึ้นกว่าเดิม “อ๊า เจ้าคุณมึงอย่ามาทำแบบนี้” “กูออดอ้อนสุดฤทธิ์แล้วนะที่รัก!” “ถ้ายังไม่หยุดกูจะไล่มึงออกจากห้องกูแล้วนะ” น้ำเสียงที่ขึงขังเอ่ยบอกอย่างสั่นเครือเมื่อฝ่ามือกว้างลูบไล้ต่ำลงมาที่เนินสามเหลี่ยมของเธอที่พยายามนั่งหนีบมันไว้ “อย่าใจร้ายได้มั้ย เค้าขอเลียหอยหน่อยสิ” “ไม่ อ้ะ…อื๊ออออ! เจ้าคุณมัน!!” แต่ดูเหมือนว่าคำพูดของเธอจะไม่เป็นผลกับเขาแล้ว เจ้าคุณยกตัวของโฉมงามให้นั่งบนขอบอ่างแล้วก้มหน้าลงไปซุกที่เนินสามเหลี่ยมพร้อมกับตวัดลิ้นเลียที่ส่วนนั้นจนเธอต้องใช้มือขยุ้มลงบนเส้นผมของเขาเมื่อความเสียวว่านแล่นเข้ามา “เจ้าคุณ อึก! อ๊า..มันเสียว” “แผล่บๆ อื้มม..หอยหวานจังขนาดโดนมาใหม่ๆ นะ” “ปล่อยกูนะ ไม่อยากคุยกับมึงแล้ว!!” “ลงมาอาบน้ำกันดีก่า” เขาไม่สนใจในประโยคของโฉมงาม เพียงแต่อุ้มตัวเธอให้ลงมานั่งในอ่างตามเดิม ไม่ตามเดิมสิ..เพราะเขาให้เธอนั่งคร่อมตัวเขาจนส่วนล่างนั้นมันเสียดสีกันไปมา “คุณ อย่าทำแบบนี้ได้มั้ย!?” “โฉม อย่าใจร้ายได้มั้ย..มันแข็งแล้ว!” “ไม่เอา อึก..ไอ้บ้ามันเจ็บ” ไม่รู้ว่าทำไมผู้ชายกับเรื่องเซ็กส์นี่มันถึงได้ไวกันนัก โฉมงามไม่ทันที่จะว่าด่าหรือลุกออกจากตัวของเจ้าคุณดุ้นเอ็นอันใหญ่นั้นก็เข้ามาในร่องเธอจนเธอรู้สึกเสียวเจ็บจุกไปตามๆ กัน “โห! ของที่รักรัดเอ็นเค้าแน่นมากเลยครับ! เธอค้าบ..อย่าเกร็งนะนั่งลงมาเต็มๆ สิ” บอกพร้อมกับกดสะโผกของโฉมงามที่พยายามจะลุกออกจากตัวเขาให้นั่งลงจนดุ้นเอ็นยักษ์นั้นมันเข้ามาจนลึกทั้งเสียวแหละจุก!..ทั้งที่คิดว่าของเจ้าดลใหญ่แล้วมาเจอของเจ้าคุณนี่ยิ่งใหญ่เข้าไปอีก “กูเกลียดมึง!!” “เค้ารักเธอนะค้าบ! อยากรักแบบรุนแรงด้วย..ที่รักเสียวมั้ยเค้าเสียวจัง” “กูไม่รัก ไม่เสียว อ๊ะ..ไม่ชอบ อื๊อ!” “เค้าชอบเอาในน้ำ เวลากระแทกน้ำมันจะกระเพื่อมจนเสียงดังตับๆ เค้าชอบฟัง” แล้วเขาก็จับสะโพกผายให้ขย่มใส่แก่นกายของเขาจนมันเกิดเป็นเสียงดังแบบที่เขาว่า แน่นอนว่ารอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์มันก็ผุดขึ้นมาบนใบหน้าหล่อนั่น ความมึนนี่เธออยากจะยกให้เขาเป็นที่หนึ่งจริงๆ “เกลียดว่ะแม่ง!! อ๊ะ อื๊อ” “เค้าเสียวจัง! เธอช่วยเค้าขย่มใส่เอ็นเค้าด้วยสิ!!”ส่วนโฉมงามหลังจากออกมาจากมหาลัยเธอก็ขับรถตรงกลับไปยังบ้านของเธอที่เดี๋ยวนี้มาบ่อยกว่าปกติแล้ว เมื่อรถจอดและถูกดับขาเรียวก้าวลงจากรถทันที“คุณกงสุลดูสิ เดี๋ยวนี้ลูกคุณเข้าบ้านบ่อยกว่าปกตินะคะ” เสียงของคุณกิ่งฉัตรดังขึ้นเมื่อเห็นบุตรสาวในชุดนักศึกษาเดินเข้ามาในตัวบ้าน แต่ที่ทำให้เธอถึงกับต้องเปลี่ยนสีหน้าจากยิ้มแย้มเป็นตกใจก็คงเพราะแววตาที่เศร้าหมองกับแดงก่ำของบุตรสาวนี่แหละ“เป็นอะไรอีกล่ะ?”“เสียใจอ่ะ”“เสียใจเรื่องอะไร มานั่งนี่ดิ”“เจ้าคุณมันจะไปอยู่ต่างประเทศแล้วอ่ะ” โฉมงามบอกพลางเดินไปนั่งแทรกระหว่างพ่อกับแม่ของเธอ“อ้าว! ทำไมอ่ะ..” คุณกิ่งฉัตรถามด้วยด้วยความตกใจ โฉมงามจึงเล่าเรื่องของเธอที่เกี่ยวกับเจ้าคุณและดลธีให้พ่อและแม่ฟังจนระเอียดยิบ ระเอียดไปถึงแม้กระทังเรื่องแบบนั้น..“นี่แก! โอ้ยยย!..ฉันไม่รู้ด่าหรือสงสารแกดี!!” เสียงคุณกิ่งฉัตรดังขึ้นหลังจากฟังเรื่องความรักของโฉมงามจบ ทั้งสงสารและก็อยากจะด่าแต่ก็ทำได้แค่เงียบแล้วดึงโฉมงามเข้ามากอดปลอบใจ“หนูรักมันหนูไม่อยากให้มันไป แต่หนู..ก็ทิ้งดลไม่ได้”“แล้วทำไมไม่อยู่ด้วยกันล่ะ สมัยนี้โลกก็เปิดกว้างนะพ่อไม่ว่าหรอกถ้าจะอยู่ด้วยกันแล้
“รักกูก็ควรจะอยู่กับกูไม่ใช่เหรอ?”“ชีวิตคู่..คู่คือแค่สอง กูไม่อยากคุยเรื่องนี้แล้วเดี๋ยวจะกลายเป็นทะเลาะกัน” เจ้าคุณพูดแล้วก็เบือนหน้าหนีโฉมงามที่มองเข้าด้วยแววตาที่แดงก่ำแต่สักพักก็ร้องไห้ออกมาอย่างฝืนมันไว้ไม่ได้ มือบางจึงเอื้อมมาจับมือเขาไว้แล้วยกมันขึ้นมาให้เช็ดน้ำตาของตัวเธอเบาๆ“กู ฮรึก!..ยินดีเลิกยุ่งกับดลนะถ้ามึงบอกว่ามึงจะอยู่กับกู”“ไม่! กูไม่ได้ต้องการให้มึงทำแบบนั้นกูไม่อยากให้มึงทำร้ายความรู้สึกของน้องเพราะกูเองก็รักน้อง”“คุณกูไม่เข้าใจมึงว่าทำไมต้องให้มันเป็นเรื่องวุ่นวายอะไรแบบนี้ แค่มึงยอมรับคำนินทาได้พวกเราก็ได้อยู่ด้วยกันสามคนอย่างมีความสุขแล้วนะ”“เพราะกูยอมรับมันไม่ได้ไง..”“มึงไม่รักกูเหรอ?”“รักสิเพราะรักมากไงถึงต้องยอมขนาดนี้”“ถ้ารักมากมึงไม่ควรยอมให้กูคบกับคนอื่นทั้งที่มึงก็รักกูสิ คุณ..” โฉมงามบอกด้วยเสียงที่สะอื้น ทำไมไม่รู้ว่าเธอไม่อยากให้เขาจากเธอไปอยู่ที่อื่น ทำไมไม่รู้เธอรู้สึกว่าตัวเองคงไม่มีความสุขหากไม่มีเขา..“กูก็ไม่รู้ว่ากูคิดอะไร กูรู้แค่ว่ากูคิดมาดีแล้วว่า..กูอยากให้มึงมีความสุขกับเจ้าดลมากกว่า”“แต่กูต้องการมึงนะ!”“แต่มึงก็ต้องการเจ้าดล”“แม
หลายวันต่อมาหลังจากวันนั้นที่ดลธีเข้าไปดูแลโฉมงามที่บ้าน คุณกิ่งฉัตรก็ไม่ได้พูดจาแรงใส่เขาอีก แต่ก็ใช่ว่าจะพูดดีนะ..ก็แบบฉบับคุณกิ่งฉัตรเขาแหละ ส่วนตอนนี้โฉมงามนั่งอยู่ในมหาลัยที่บริเวณโต๊ะม้าหินอ่อนกับเพื่อนร่วมห้องของเธออีกหลายคน“หน้าบึ้งตึงแบบนี้มีอะไรพูดกับพวกกูได้นะ ถึงจะไม่สนิทเหมือนกับซีแต่ก็ไม่ปากโทรโข่งหรอก” หญิงสาวคนหนึ่งเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นใบหน้าของโฉมงามดูเคร่งเครียดเหมือนมีเรื่องไม่สบายใจอะไรสักอย่าง“ช่วงนี้เห็นเจ้าคุณบ้างมั้ย?” โฉมงามจึงเอ่ยถามหาชายหนุ่มที่เธอไม่ได้เจอมาหลายวันแล้ว ใช่! ตั้งแต่เธอไม่สบายวันนั้นเธอก็ไม่ได้เจอเจ้าคุณอีกเลยแถมทักไปโทรไปเจ้าตัวก็ไม่ตอบ นี่ขนาดไม่ได้รักเท่าเจ้าดลนะยังรู้สึกหวิวๆ รู้สึกคิดถึงยังไงไม่รู้..“ไม่ยักจะรู้ว่าเมียกูจะคิดถึงกูขนาดนี้นะเนี่ย!” และยังไม่ทันที่เพื่อนร่วมห้องของโฉมงามจะเอ่ยอะไรร่างสูงในชุดนักศึกษาก็เดินมานั่งข้างโฉมงาม จุ๊บ! แถมยังจุ๊บเข้าที่แก้มเนียนขาวของคนตัวเล็กอีกด้วย“วู้วว! มาถึงก็หวานเลยนะ..ว่าแต่คบกันตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอไม่เห็นรู้ข่าวเลย”“คบกันนานแล้ว ขอยืมตัวหน่อยนะ” เจ้าคุณตอบแล้วก็ดึงมือของโฉมงามให้ลุกกออกมา
บ้านคุณโฉมใช้เวลาไปชั่วโมงกว่าดลธีมาถึงบ้านโฉมงามและรีบถามแม่บ้านเพื่อหาห้องของโฉมงามจนได้ขึ้นมาหาหญิงสาวที่ตอนี้ยังคงนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงนอน ที่มาช้าเพราะไม่รู้จักไง..รู้แค่ว่าอยู่แถวไหนแต่ไม่รู้ว่าหลังไหนจึงถามคนแถวนั้นไปเรื่อยๆ กว่าจะมาถึงก็เลยใช้เวลานานไปหน่อยชายหนุ่มก็นั่งมองหญิงสาวตัวเล็กที่ยังคงมีใบหน้าที่แดงกับเหงื่อที่ยังคงผุดขึ้นมาอยู่นั้นด้วยความสงสาร มือหนาเอื้อมหยิบผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่แม่บ้านเพิ่งยกมาให้นั้นขึ้นมาเช็ดหน้าให้คนตัวเล็กอย่างเบามือเพราะกลัวเจ้าตัวจะตื่น“อืมมม..”แต่เมื่อผ้าที่ชุบน้ำจนเย็นนั้นมาโดนแก้ม ร่างเล็กก็ลืมตาตื่นทันที“พี่ครับ ปวดหัวมั้ย..ตัวร้อนมากเลย” ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงเมื่อคนตัวเล็กลืมตาขึ้นมาแล้ว เธอจึงส่ายหน้าให้เบาๆ แล้วก็พยายามจะหยัดกายลุกขึ้นนั่งแต่ดลธีกลับผลักให้นอนลงตามเดิม“อย่าเพิ่งลุกสิตัวยังร้อนอยู่เลยนะ”“คิดถึง..อยากกอดแต่กลัวนายติดไข้”“กอดได้ครับ” ดลธีว่าพลางโน้มตัวไปกอดเธอที่ยังคงนอนอยู่โฉมงามจึงกอดตอบไม่ถึงห้านาทีก็ผล่ะออกเพราะกลัวเจ้าดลน้อยจะมาติดไข้พลอยให้ไม่สบายไปด้วย“มาได้ไง?”“ก็แม่พี่ไปบอกผมไง”“หื
กลับมาที่มหาลัยหลังจากเรียนคาบแรกเสร็จก็มีเวลาพักอีกหนึ่งชั่วโมงพื่อรอเข้าเรียนในคาบสุดท้าย ดลธีก็แยกมานั่งพักบนโต๊ะมาหินอ่านใต้ต้นไม้หน้าตึกเรียนในรายวิชาต่อไป“ดล…”“พี่หว้า? ..” ชายหนุ่มเอ่ยเรียกหญิงสาวตรงหน้าด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา ขาเรียวก็ก้าวมานั่งลงตรงหน้าของดลธีทันทีที่เห็นว่าชายหนุ่มตรงหน้าเรียกชื่อตนเอง“ไม่ได้เจอกันนานพี่คิดว่าจะลืมชื่อพี่ไปแล้วซะอีก”“ผมไม่ลืมหรอกครับ..”“ทำไมพี่ถึงรู้สึกดีใจกับประโยคนี้ของนายนะ” ลูกหว้าพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูดีใจกับปีะโยคของ ดลธีปรายตามองเธออยู่ครู่เดียวก็เบือนหน้าหนีไปทางอื่น“พี่มีอะไรกับผมหรือเปล่า?”“นายยังไม่ลืมพี่จริงๆ เหรอ?”“ใช่ครับ”“แล้วเรา..”“ผมสมองไม่ได้เสื่อมที่จะจำไม่ได้ว่าคนตรงหน้าผมคือลูกหว้า ไม่ใช่แค่พี่ที่ผมจำได้เพื่อนพี่หรือคนอื่นๆ ที่ผมรู้จักผมก็จำได้” น้ำเสียงที่เรียบนิ่งเอ่ยบอกอย่างหน้าตาย สายตาคมกริบยังคองจ้องมองลูกหว้าอย่างสายตาจนเธอต้องเป็นฝ่ายหลบ เพราะมันไม่ใช่สายตาที่รักใคร่เหมือนเมื่อก่อนแต่มันเป็นสายตาที่ดูดุดันน่ากลัว“อ้อ นะ..นั่นสินะ”“แมทธิว ผู้ชายคนนั้นสินะที่เป็นพ่อของเด็กในท้อง..แต่จะว่าไปถ้าผมเป็นเขาผมก
หลายอาทิตย์ต่อมาวันแห่งการเริ่นต้นเรียนในรั้วมหาลัยอาทิตย์ที่สองนั้นช่างสดใสสำหรับหนุ่มมหาลัยปีหนึ่งอย่างเจ้าดลซะจริงๆ หลังจากแต่งตัวเสร็จชายหนุ่มก็วิ่งลงมาจากบนห้องนอนตรงไปยังในครัวที่มียายกระเช้ากำลังวุ่นอยู่กับการทำข้าวกล่องให้เขา“เอ็งนี่นะ! แม่เอ็งก็บอกแล้วว่าเดี๋ยวให้ค่าข้าวเอ็งจะห่อไปทำไมไม่อายเขาหรือไง?” เสียงยายกระเช้าบ่นขณะที่กำลังปิดฝากล่องข้าวหลังจากห่อเสร็จให้หลานชาย ที่บ่นไม่ใช่ว่าขี้เกียจทำแต่เธอกลัวว่าหลานชายจะอายเขาที่อยู่ถึงมหาลัยแล้วแต่ยังห่อข้าวไปกินนี่สิ“ถ้าผมอายผมจะให้ยายห่อให้เหรอครับ”“ยอกย้อนอีก เอ้าเสร็จแล้ว..แล้วก็มานั่งกินข้าวซะ”“ยายนี่เกรี้ยวกราดจริงๆ”“เอ็งแล้วก็หัดทำตัวให้มันดูโตให้มันดูเอาตัวรอดให้ยายได้เห็นบ้าง ยายจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง” ยังมิวายที่จะบ่นหลานชายที่เดินไปนั่งลงบนเก้าอี้แล้ว ดลธีก็ได้แต่ส่ายหน้าให้ความขี้บ่นของยายกระเช้า แล้วก็จัดการกับอาหารตรงหน้าไปเรื่อยๆ เพราะยังเหลือเวลาเข้าเรียนอีกเยอะ“ยายครับรู้แล้วใช่มั้ยที่ผมคบกับพี่โฉม”“รู้สิก็เอ็งบอกยาย”“อ่อครับ เธอน่ารักนะผมชอบเธอจริงๆ”“เฮ้อ!อ เรื่องความรักยายก็ไม่อยากจะไปยุ่งแต่เอ็งรักใคร