“ทำไมคุณอยากจะให้ทุกอย่างระหว่างเราจบลงง่าย ๆ ล่ะ ในเมื่อนี่มันแค่เริ่มต้น!”
“คุณพูดเรื่องอะไร...เฮ็คเตอร์...ปล่อยนะคะ” เรียวปากอิ่มที่ยังเป็นรอยบวมเจ่อสั่นระริก ความกลัวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนแทรกซึมขึ้นมาและแผ่ไปทั่วร่างจนทำให้ณชนกเหมือนถูกยาชาจากมือแกร่งที่กำลังบีบแขนเธอไว้แน่น ลมหายใจร้อนผ่าวของเขาราดรดลงบนแก้มซีดขาว
“ผมกำลังพูดเรื่องระหว่างเรา...ฟังไว้นะลีแอน เรื่องระหว่างผมกับคุณมันจะไม่มีวันจบลงง่าย ๆ ผมมันเจ็บจำแล้วฝังใจ แต่ก็รอได้เสมอสำหรับการเอาคืน!”
“เฮ็คเตอร์...ฉันเจ็บนะคะ...”
“พรุ่งนี้คุณต้องกลับมา!” เขาผลักเธอออกห่างอีกครั้ง ดวงตาคู่นั้นจ้องมองหญิงสาวที่ยืนตัวสั่นขณะเอามือลูบที่แขนและนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ รอยปากหยักบนใบหน้าคร้ามเข้มเหยียดออก แววตาคู่นั้นหยามเยาะอย่างไม่คิดสงสารคนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย
“ห้ามลาออกจากบีช เบย์ คลับ...ถ้าคุณคิดจะทำ บอกได้เลยว่าคุณลำบากแน่!”
“เฮ็คเตอร์...ฉันไม่เข้าใจคุณเลย...มีอะไรตั้งหลายอย่างที่ฉันอยากจะถามคุณ คุณหายไปไหนเมื่อห้าปีก่อน...คุณหายไปไหน”
“ถ้าอยากรู้...พรุ่งนี้...คุณต้องกลับมา” ชายหนุ่มเอามือทั้งสองล้วงกระเป๋า แต่ท่าทีของเขาไม่ได้ลดทอนความร้ายกาจอย่างที่เธอไม่เคยเห็นลงเลยแม้แต่น้อย แม้เขาจะแสดงท่าทีหยามหมิ่นเธอมากแค่ไหน แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูดณชนกก็ใจชื้นขึ้นมา หญิงสาวฝืนพูดกับเขาอีกครั้ง
“พรุ่งนี้คุณจะบอกฉันใช่มั้ยคะ เฮ็คเตอร์...ว่าห้าปีที่แล้วที่คุณหายไป...คุณไปไหนมา” ไม่มีคำตอบใดหลุดลอดออกมาจากปากของเขา เฮ็คเตอร์หันหลังให้ก่อนจะเดินจากไปราวกับไม่แยแส ทิ้งไว้แต่ความฉงน แปลกประหลาดใจให้แก่หญิงสาวที่ยืนมองเบื้องหลังของเขากับความหวังที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด หากเธอรู้ว่าเขาไปไหนและทำอะไร บางที...เธออาจจะบอกเขาถึงสิ่งที่เขายังไม่รู้เกี่ยวกับตัวเธอ
“กลับมาแล้วเหรอคะคุณแนน” ป้าวิไลถามขึ้นทันทีที่ประตูห้องเปิดออกและร่างบอบบางของณชนกก้าวเข้ามาภายในห้องเช่า ของอพาร์ทเมนท์ตอนเวลาเกือบสี่ทุ่ม หญิงวัยกลางคนเดินเข้ามาและรับกระเป๋าสะพายจากหญิงสาวโดยไม่ทันสังเกตเห็นใบอันอิดโรยของอีกฝ่าย ณชนกชะเง้อมองเข้าไปในห้องของเธอก็เห็นว่าหนูน้อยคลีโอนอนหลับอยู่บนเตียง ภาพนั้นทำให้หัวใจที่แห้งโหยชุ่มฉ่ำขึ้นมาและจุดรอยยิ้มบนใบหน้าซีดยามเมื่อได้เห็น
“คลีโอหลับนานแล้วเหรอคะ”
“พึ่งหลับค่ะคุณแนน” ป้าวิไลกล่าวพลางเอากระเป๋าสะพายเข้าไปวางไว้บนโต๊ะเครื่องแป้งในห้องของณชนกซึ่งเป็นสิ่งที่นางทำให้หญิงสาวจนเคยชินตั้งแต่เป็นแม่บ้านรับใช้บิดามารดาของเธอมาเกือบสามสิบปี ร่างบอบบางเดินตามเข้าไปและอดที่จะมองร่างเล็ก ๆ ของลูกสาววัยกำลังซนที่นอนหลับปุ๋ยใต้ผ้าห่มไม่ได้ ยิ่งเห็นคลีโอในยามนี้ยิ่งทำให้เธอรู้สึกตีบตันเมื่อคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนหัวค่ำ
“วันนี้กลับดึกนะคะ งานยุ่งเหรอคะคุณแนน”
“ค่ะ...งานค่อนข้างจะยุ่ง ป้าวิไลรู้ไหมคะว่าวันนี้แนนได้เจอใคร”
“ใครเหรอคะคุณแนน”
“เฮ็คเตอร์ค่ะ...แนนเจอเฮ็คเตอร์” คำบอกเล่าทำให้หญิงวัยกลางคนชะงักไป ชื่อนั้นทำให้วิไลแทบไม่ต้องครุ่นคิดเพราะนางเองก็ยังจำชายหนุ่มผู้นั้นได้เสมอ
“จริงเหรอคะคุณแนน” เสียงของวิไลลดต่ำลงขณะจูงมือหญิงสาวออกมายังห้องรับแขกเพราะกลัวว่าเสียงพูดคุยจะรบกวนการหลับของแม่หนูน้อย
“คุณแนน...เจอเขาที่ไหนเหรอคะ”
“แนนเจอเขาที่โรงแรมค่ะ”
“เขาไปทำอะไรที่นั่นเหรอคะ...แล้ว...คุณแนนเจอเขาได้ยังไง”
บทที่ 4
ณชนกพยายามสกัดน้ำรื้นบนขอบตา ทุกครั้งที่พูดถึง เขา คนนั้นต่อหน้าแม่บ้านคนเก่าแก่เธอมักจะควบคุมความรู้สึกไม่ได้ทุกครั้ง
“บอกป้ามาสิคะว่าคุณแนนเจอเขาได้ยังไง” ป้าวิไลที่จับมือหญิงสาวไว้แน่นดึงข้อมือบางให้ร่างนั้นนั่งลงบนเก้าอี้ภายในห้องรับแขก
“เขาเป็นเจ้าของโรงแรมที่แนนทำอยู่ค่ะ”
“ห๊า!...อะไรนะคะ จริงเหรอคะคุณแนน” วิไลมีอาการตกใจซึ่งไม่ต่างไปจากหญิงสาวที่ตอนนี้เต็มไปด้วยความสับสน หวาดหวั่นแม้จะดีใจอย่างที่สุด
“แล้วเขา..เป็นยังไงบ้างคะคุณแนน” ณชนกเงียบไปกระทั่งแม่บ้านเห็นน้ำตาหยดไหลลงบนแก้มของหญิงสาวเป็นทาง แทบไม่มีเรื่องใดเกี่ยวกับณชนกที่วิไลไม่รู้ นางรู้ทุกอย่างแม้แต่เรื่องคนรักซึ่งเป็นอดีตอันเจ็บปวดของหญิงสาวที่มีความรักมั่นคงจวบจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีใครมาแทนที่ผู้ชายคนนั้นได้
“คุณแนนคุยอะไรกับเขาบ้างไหมคะ หรือไม่...เขาได้คุยอะไรกับคุณแนนบ้างไหม”
“เราคุยกันไม่มากค่ะป้าวิไล ตอนนี้เฮ็คเตอร์เป็นถึงเจ้าของโรงแรมใหญ่ระดับพันล้าน มันไม่น่าเชื่อใช่มั้ยคะป้า” น้ำเสียงนั้นไม่บ่งบอกความตื่นเต้น มันเลื่อนลอยเสมือนไม่อาจจับต้องได้
“ค่ะ...ไม่น่าเชื่อ ป้าเองก็คิดว่าคุณแนนคงไม่ได้เจอกับเขาอีกแล้ว”
“ป้าวิไลบอกผม” ชายหนุ่มเลือกที่จะไม่พูดถึงความผิดพลาดที่แม่บ้านของณชนกได้กระทำลงไป เขาอยากให้เธอรับรู้เพียงสิ่งดี ๆ ที่คนชิดใกล้ที่สุดมอบให้และสิ่งที่เขากำลังจะทำมันนับจากนี้ ลมหายใจอุ่นระบายออกมาจากใบหน้าคร้ามเข้ม เฮ็คเตอร์ก้มลงไปหาดวงหน้าหวานจนปลายจมูกชนปลายจมูกโด่งเล็ก“เกือบห้าปีแล้วสินะ...นั่นเป็นอายุของคลีโอพอดี ทำไมผมไม่เคยนึกถึง ผมยังจำได้ที่คุณบอกผมครั้งแรกว่า...พ่อของเด็กตายไปแล้ว ผมเชื่ออย่างนั้นจริง ๆ เชื่อในสิ่งที่คุณหลอกผม เชื่อตัวเองว่าคุณเคยรังเกียจผู้ชายต่ำต้อยอย่างที่ผมเป็นเมื่อก่อนนี้”“ถึงตอนนี้คุณก็ยังเชื่ออย่างนั้น”“ตอนนี้ผมได้ค้นพบอะไรหลาย ๆ อย่างที่เชื่อมโยงระหว่างเรื่องของเรา ผมได้พบป้าวิไลและได้พบโคลวิซ”ณชนกไม่กล้าพูดว่าเธอพบผู้ชายที่เคยขอเธอหมั้นหมายที่นี่เมื่อวานนี้กระทั่งชายหนุ่มพูดขึ้น“คุณได้พบเขาแล้วใช่มั้ย ลีแอน”“คะ...เอ้อ...เอ้อ...”“ผมเป็นคนชวนเขามาที่นี่เอง ก่อนเดินทางมาบาหลีผมคุยกับเขาหลายเรื่อง เขาเป็นคนบอกผมเองว่าเขารักคุณเสมอ”“คุณไม่โกรธเขาหรอกหรือคะ”“ผมน่าจะโกรธถ้าไม่รู้ว่าเขาเป็นคนช่วยคุณวันนั้น วันที่แจนทำร้ายคุณ” พอได้ยินชื่อนั้นความเจ็
“เฮ็คเตอร์...คุณหมายถึงอะไร” มุมปากหนาได้รูปเลิกขึ้น “คนที่คุณรักมากที่สุด มันสะท้อนอยู่ในนี้ ในดวงตาของผม คุณเห็นมันตลอดเวลา...แต่...พระเจ้า...คุณไม่เคยบอกอะไรผม” เท่านั้นเองณชนกถึงกับสะอื้นเบา ๆ เธอรู้ว่าเขากำลังหมายถึงอะไรแต่หัวใจของเธอต่างหากที่ยังขลาดกลัว หญิงสาวอ่อนยวบลงพร้อมกับทิฐิกล้าแข็งที่กำลังถูกหลอมละลาย เฮ็คเตอร์ก้มหน้าลงไปหาและแนบแก้มกับแก้มนวลของหญิงสาว ณชนกไม่ได้คิดไปเอง เธอรู้สึกถึงรอยเปียกชื้นบนใบหน้าของเขา“ลีแอน...ทำไมคุณไม่บอกอะไรผม...คุณปล่อยให้ผมเป็นคนบ้า ปล่อยให้ผมคลั่ง หลงอยู่กับความเจ็บปวดจนมันกลายเป็นเกลียดชังและผมก็ทำทุกอย่างที่ผมไม่คิดเลยว่าตัวเองจะเลวร้ายได้ขนาดนั้น”ณชนกสะอื้นไห้ “ฉันไม่สามารถบอกอะไรคุณได้หรอกค่ะ...เฮ็คเตอร์...ในเมื่อคุณเกลียดฉันมากขนาดนั้น คุณไม่รู้หรอกว่าฉันกลัวมากแค่ไหน เพราะถ้าหากฉันพูดอะไรผิดไป บางที...มันอาจหมายถึงชีวิตของคนที่ฉันรัก”หญิงสาวอ่อนยวบในอ้อมกอดของเฮ็คเตอร์ เขากอดเธอแน่นยิ่งกว่าครั้งไหน แนบแน่นจนได้ยินเสียงเต้นของหัวใจดวงนั้น “ถ้าฉันบอกคุณแล้วคุณ...ยังจะเชื่อในสิ่งที่ฉันพูดเหรอคะ ฉันแน่ใจว่าคุณไม่มีวันเชื่อคำพูดของโสเ
“เฮ็คเตอร์!” ณชนกอุทานออกมา ทั้งตกใจและหวาดหวั่นเมื่อรู้ว่าใครอยู่ในที่นั้นหากทว่าร่างสูงใหญ่ที่วิ่งตามลงมาอย่างกระชั้นชิดกลับช้อนร่างของเธอไว้ในอ้อมแขน“ลีแอน...เจ็บตรงไหนบ้าง”“คุณแม่ขา...คุณแม่ขา...คุณลุงเฮ็คเตอร์มาช่วยแล้วค่ะ...คุณลุงมาช่วยแล้ว” เสียงเล็ก ๆ ดังขึ้นใกล้ ๆ ณชนกอยากจะร้องไห้เมื่อรู้ว่าไม่สามารถหนีไปไหนได้อีก หนำซ้ำเฮ็คเตอร์ยังจับตัวเธอไว้ได้ ถึงแม้เขาจะอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนและถามด้วยน้ำเสียงเจือความห่วงใยแต่สำหรับหญิงสาวแล้วเธอก็ยังไม่เลิกแคลงใจในตัวเขาเลยสักที“คลีโอ...คลีโอ...” ณชนกร้องเรียกลูกสาวเบาแสนเบาขณะที่ร่างสูงใหญ่พาตัวเธอกลับไปยังวิลล่าพร้อมแม่หนูน้อยที่ยังกอดตุ๊กตาและดึงชายเสื้อของเฮ็คเตอร์ไว้ตลอดเวลาเหมือนกลัวจะหลงทาง เมื่อกลับไปถึงวิลล่าหญิงสาวถึงได้รู้ว่าเธอได้รับบาดเจ็บจากบาดแผลฉกรรจ์ที่ข้อเท้า แผลลึกและเนื้อฉีกขาดจนเลือดไหลออกมามากอย่างน่าตกใจ คลีโอร้องไห้ตลอดเวลากระทั่งหมอที่เฮ็คเตอร์โทรเรียกเดินทางมาถึงและทำแผลให้อย่างเร่งด่วนเพราะหญิงสาวปฏิเสธไม่ยอมให้เขาพาเธอไปโรงพยาบาล กว่าหมอจะทำแผลเสร็จและกลับไปก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืน คลีโอหลับไปแล้วขณะที่ณชนกท
“ผมไม่ได้คิดอย่างที่คุณคิด”“อย่ามาแตะต้องตัวฉัน!” หญิงสาวตวาดกลับทั้งน้ำตาเมื่อชายหนุ่มยื่นมือทำท่าเหมือนจะแตะแขนเรียว เธอก้าวออกห่างและมองเขาด้วยความเจ็บปวด“จริง ๆ แล้วคุณควรจะกลับไป...ขอร้องเถอะค่ะ ฉันไม่ต้องการอะไรอีกแล้วนอกจากได้อยู่กับลูก ส่วนคุณก็กลับไปอยู่ในโลกของคุณ อยู่กับผู้หญิงที่คุณรักและคู่ควรกับคุณ...ฉันรู้ว่าฉันทำผิดสัญญาแต่ฉันแค่ขอร้องคุณเท่านั้น”เฮ็คเตอร์ไม่กล่าวอะไร เขาได้แต่จ้องมองดวงตาคู่งามที่มีหยาดน้ำหลั่งไหล เธอจะรู้หรือไม่ว่าน้ำตาที่ไหลบนใบหน้านั้นกำลังหลั่งลงไปท่วมหัวใจของเขาด้วย ชายหนุ่มเงียบไปชั่วอึดใจก่อนจะพูดว่า“ผมพักอยู่ที่ในวิลล่าหลังที่อยู่ใกล้กันนี้...คืนนี้ผมจะไม่รบกวนคุณ...แต่พรุ่งนี้เช้าผมจะมารับคุณกับลูกออกไปข้างนอก บางทีคลีโออาจยังอยากเที่ยวให้รอบเกาะอีกหลาย ๆ รอบ”บทที่ 28 จริง ๆ แล้วเขาอยากพูดอะไรอีกหลายอย่างหากแต่ก็เลือกที่จะเดินออกไปจากที่นั้นปล่อยให้หญิงสาวยืนนิ่งอยู่กับความคิดอันสับสน พรุ่งนี้เขาจะมารับเธอกับลูกอย่างนั้นหรือ...เธอจะรอเขาอย่างนั้นหรือ ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงอีกบ้างหรือไม่ อาจเป็นอารมณ์ปรวนแปรข
“ผมให้คนของผมแกะรอยการเดินทางของคุณจากธุรกรรมธนาคาร...มันง่ายออกจะตายเพราะคุณยังเดินทางโดยไม่ได้หายไปไหน“ฉันรู้นะคะว่าคุณตั้งใจมาที่นี่...คุณตั้งใจ” ณชนกกัดฟันเสียงดังกรอดขณะพูดเสียงลอดไรฟัน แววตาของเธอเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นซึ่งบัดนี้มันเป็นเหมือนเข็มนับหมื่นเล่มทิ่มแทงลงบนหัวใจของชายหนุ่ม หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงสะใจที่เห็นเธออยู่ในสภาพของคนสิ้นไร้หนทางและหลังชนฝา หากทว่าทุกอย่างได้เปลี่ยนไปเป็นตรงข้ามเมื่อเขาได้พบเธออีกครั้งในวันที่หัวใจของเขาหลุดจากข้อโซ่แห่งความพยาบาทที่พันธนาการไว้แน่นหนา เขาอยากดึงร่างเล็กเข้ามากอด จูบและร่วมรักกับเธอเสียเดี๋ยวนั้นหากชายหนุ่มไม่ต้องการเก็บความปรารถนาบางอย่างไว้ อย่างน้อยที่สุดเขาก็ได้พบเธอแล้ว อย่างน้อยที่สุดเขาก็ได้เห็นหน้าคลีโออีกครั้ง ชายหนุ่มก้มหน้าลงไปหา“ใช่...ผมตั้งใจ...และคราวนี้ผมจะไม่ปล่อยคุณกับ...คลีโอ...ไปไหนอีกแล้ว” กล่าวจบก็เดินผ่านร่างเล็กออกไปด้านนอก ณชนกได้แต่ยืนนิ่งและประสานมือทั้งสองด้วยความรู้สึกตึงเครียดที่กำลังบีบคั้นเต็มที่ เธอจะทำอย่างไรดี...เธอคงต้องหาทางหนีเขาไปอีกครั้งและคราวนี้จะไปในที่ที่เขาไม่มีวันหาเจอ ณชนกต้องทำใจอ
“คลีโอ...คลีโอ...ลูกอยู่ไหน” ร่างบอบบางรีบเดินกลับไปยังวิลล่าของเธอซึ่งเป็นที่พักรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบบ้านชวาหลังคาทำด้วยไม้ไผ่หันออกด้านนอกอันเป็นเทคนิคเก่าแก่ในการสร้างบ้านที่หายากเต็มทีแล้ว ณชนกเริ่มยิ้มออกเมื่อได้ยินเสียงเล็ก ๆ น่ารักของเด็กดังอยู่ข้างใน เธอเดินเข้าไปแต่แล้วกลับต้องผงะงัน ริมฝีปากที่แย้มยิ้มเมื่อครู่คลายลงเป็นราบเรียบและหัวใจเต้นเร็วยิ่งกว่ากลองรัว คลีโออยู่ในห้องนั่งเล่นของวิลล่าแต่ไม่ได้อยู่คนเดียว“คุณแม่ขา...คุณแม่ขา...คุณลุงเฮ็คเตอร์...มาหาคลีโอค่ะ” เด็กน้อยยืนกระโดดโลดเต้นอยู่ในอ้อมแขนของคนตัวใหญ่ที่นั่งบนโซฟา ร่างสูงสง่าอยู่ในเสื้อโปโลและกางเกงยีนส์สีเข้ม ใบหน้าหล่อเหลาเอียงกลับมายังหญิงสาวที่ยืนนิ่งเหมือนรูปปั้นที่ประตู แม้จะเห็นแววตระหนกฉายเต็มหน้าหญิงสาวหากรอยยิ้มกลับจุดขึ้นบนใบหน้าของผู้ชายหล่อเหลาที่เขาสร้างทั้งความประหลาดใจและความหวั่นกลัวในหัวใจของณชนก“ลีแอน” เฮ็คเตอร์เรียกเธอหากแต่น้ำเสียงนั้นรื่นหู ณชนกมือเย็นเฉียบ ร่างกายของเธอราวกับถูกฝังทั้งเป็นลงในหุบเขาน้ำแข็งอีกครั้งและเธอไม่แน่ใจว่าครั้งนี้เธอจะรอดจากที่อันหนาวเหน็บนี้ไปได้หรืออาจจะตายอยู่ที