Masukกริชเดินวนเวียนบริเวณหน้าทาวน์เฮาส์ของเมลานีเหมือนหนูติดจั่น เขานึกคำพูดต่าง ๆ มากมายเพื่อเตรียมมาขอโทษ ขอโอกาส หรือง่าย ๆ คือขอคืนดี นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่เคยตื่นเต้นแบบนี้ ดีใจที่ตนเองได้รับรู้ว่ามีลูกเมียที่น่ารัก แต่ก็หวาดกลัวที่จะไม่มีแม้แต่โอกาสได้ครอบครองหรือใกล้ชิดอีกครั้ง
ป้าละไมเดินออกมาเจอเขาเพียงลำพัง กริชกวาดตามองหาลูกเมียที่เขาอยากพบจนถึงกับชะเง้อ ใจร้อนจนจะก้าวเข้าเขตบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต
“เดี๋ยวตากริช หนูเมลกับเจ้าพายไม่อยู่หรอก”
“ไปไหนครับ” เสียงกริชโหยละห้อยขึ้นมาทันที เขารับรู้เรื่องราวทุกอย่างโดยละเอียดเกี่ยวกับหญิงสาว ทั้งความลำบากที่ต้องออกจากมหาวิทยาลัยเพราะไม่มีเงิน อุ้มท้องระหกระเหินมาคลอดลูกที่บ้านเก่า อดทนทำงานเล็กงานน้อยขอเพียงมีเงินเพิ่มเข้ามาเป็นค่าอาหารค่านมให้ลูก แม้กระทั่งมาทำงานที่บริษัทของเขาเธอก็ยังพยายามทำขนมขายเพิ่มเติม ทั้งหมดเพียงเพราะอยากมีเงินสำรองไว้รักษาลูก
ลูกที่เขาไม่เคยได้อุ้มชูดูแล...
เมลานีเคยพูดถึงเงินหลักล้านกับเขาหลายต่อหลายครั้ง กลืนความหยิ่งทระนงลงขอร้องเสียด้วยซ้ำ แต่เขากลับทำเป็นล้อเล่นจนถึงขั้นแกล้งให้อับอายเหมือนเป็นเรื่องสนุก ไม่แปลกเลยที่วันนี้เมลานีจะไม่ยอมรับหรือให้โอกาสเขาได้เป็นแม้แต่พ่อของลูก
“ให้เวลาหนูเมลหน่อย ป้าเองก็ยังตกใจเลยว่าทำไมกลายเป็นกริชที่ทำร้ายน้องแล้วก็ไร้ความรับผิดชอบแบบนี้” ป้าละไมเป็นคนในชุมชนเดิมของหนุ่มสาว สาเหตุที่เธอปกปิดไม่บอกกริชว่าแม่ของหนูพายคือเมลานีเพราะหญิงสาวเป็นน้องของเมฆาที่ป้ายสีจนเขาเข้าคุก และสาเหตุที่ไม่บอกเมลานีถึงการทำงานให้กริชก็เพราะกลัวว่าเมลานีจะยิ่งเศร้าและรู้สึกผิดกับความหลังครั้งเก่าอีก หารู้ไม่ว่าหนุ่มสาวคู่นี้มีความหลังและฟาดฟันกันจนมีแผลเหวอะหวะมาก่อน
หญิงชราได้แต่ทอดถอนใจ โมโหเด็กหนุ่มที่คิดว่าใจดีมาตลอด ที่แท้ก็ร้ายแสนร้ายกับหญิงสาวที่ไร้ทางสู้ แต่ก็ด้วยเพราะเขาเจ็บจนแค้นนั่นแหละ
“ผมรู้ครับ แต่ผมอยากแก้ไข อย่างน้อยก็เรื่องลูก หนูพายควรได้รับการรักษาให้เร็วที่สุด”
“ป้าพูดกับเมลไปบ้างแล้ว ถ้าเป็นเรื่องหนูพาย ยายเมลคงจะพอฟังอยู่บ้าง รายนั้นทั้งรักทั้งห่วงลูกมาก”
“ผมยอมทุกอย่างครับป้า เรื่องหมอของหนูพายผมก็ติดต่อไว้แล้วด้วย”
“ป้าจะบอกให้ กริชกลับไปก่อนนะ หนูเมลพาเจ้าหมูอ้วนไปเดินเล่นน่ะ ให้เขาได้มีเวลาตั้งตัวหายอกหายใจก่อน เรื่องมันปุ๊บปั๊บไปหมด นะ เชื่อป้า กลับไปก่อน”
กริชพยักหน้ารับทั้งที่ผิดหวังจาง ๆ ตัดใจเดินย้อนกลับไปยังคอนโดของตนเอง เตร็ดเตร่ใจลอยจนถึงกลางซอยที่เป็นสวนสาธารณะเล็ก ๆ ท่ามกลางต้นไม้สีเขียวสลับขาวที่เหมือนดูปล่อยปละ ไร้การตกแต่งดูแล
หญิงสาวที่เขาตามหาก็ปรากฏกายเหมือนภาพฝัน เธอประคองโอบอุ้มเด็กน้อยตัวกลมใบหน้าจิ้มลิ้มที่สะดุดตาเขาเป็นพิเศษโดยเฉพาะดวงตาใสแจ๋วดั่งเม็ดลำไยเหมือนแม่ของเธอไม่มีผิด เสียงหัวเราะน่าฟังตามประสาของหนึ่งเด็ก หนึ่งผู้ใหญ่ทำให้สวนสาธารณะทรุดโทรมกลายเป็นเหมือนสรวงสวรรค์
“เอ๊ะ” หญิงสาวหันมาเพราะได้ยินเสียงกรอบแกรบของการเหยียบใบไม้แห้ง
“เมลอยู่นี่เองเราแวะไปที่บ้าน เจอป้าละไมบอกว่าเมลออกมาที่สวนสาธารณะนี่” ธนนท์รี่เข้ามาหาหญิงสาวที่ตนเองหมายตาอยู่ถึงแม้เมลานีจะตัดรอนเขาไปแล้ว แต่เขาไม่เชื่อหรอกว่าแม่หม้ายลูกติดอย่างเธอจะมีผู้ชายหน้าโง่ที่ไหนให้เงินได้ถึงหลักล้าน หากมีคนอยากเลี้ยงดูจริงจัง ทำไมเมลานียังต้องมาอาศัยอยู่บ้านเช่าเก่าซอมซ่อ ไม่ว่ามองจากมุมไหนเขาก็เชื่อคำพูดเธอไม่ลง นี่คงเป็นแผนการโก่งค่าตัวราคาแพงของเธอกระมัง
“มีอะไรกับเราอีกธนนท์”
“เราอยากพาเมลกับหนูพายไปกินข้าวข้างนอกด้วยกันน่ะ”
“คงไม่สะดวกจ้ะ”
“ทำไมล่ะ เราอยากพาหนูพายไปเที่ยวด้วย ไปไหมคะหนูพาย ไปเที่ยวกับนูนไง”
“ม่าย แมะ ไม่ปาย” เมลานีอมยิ้ม หนูพายช่างรู้ใจแม่เสียเหลือเกิน
“ค่ะ ไม่ไปเนอะ”
“หรือว่าเมลอยากจะไปกับคนอื่น เลยปฏิเสธเรา” ธนนท์เริ่มเสียงแข็งเพราะความรำคาญทั้งแม่และลูก อุตส่าห์สงสารเห็นว่าเป็นม่ายลอยคออยู่กลางทะเล ลดตัวลงมาเป็นขอนไม้ให้เกาะแล้วยังจะหยิ่งคอตั้ง
“เราไม่อยากไป ส่วนจะไปกับคนอื่นหรือเปล่าอันนั้นนนท์ไม่ต้องคิดแทนเราให้เปลืองพื้นที่สมองหรอก” สำหรับธนนท์เธอพยายามทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับสิ่งที่เขาทำในอดีต รวมถึงสายตาที่เขาเผลอมองเธออย่างดูถูกในวันนี้ ไม่ใช่ไม่รู้ว่าชายหนุ่มต้องการอะไร แต่เพราะเธอไม่อยากมีปัญหากับใครจึงเลือกที่จะประนีประนอมมาโดยตลอด หากมันทำให้ธนนท์ตีความไปเองว่าเธอจะมองเขาเป็นอย่างอื่นมากกว่าคนรู้จักและเข้ามาพัวพันกับเธอให้ยิ่งวุ่นวายเข้าไปอีก เมลานีก็ขอเลือกตัดสัมพันธ์และพูดตรง ๆ ดีกว่า เธอยังต้องเอาเวลาและแรงกายแรงใจไปสู้เพื่อลูกสาวอีกมาก
“นี่คงพยายามตะกายหาที่เกาะที่ดีกว่าเราสินะถึงได้พูดกับเราแบบนี้ แม่หม้ายลูกติดอย่างเธออย่าคิดหวังว่าใครเขาจะจริงจังเลย อย่างมากก็หวังฟันเล่นทั้งนั้นแหละ”
“ที่ว่าหวังฟันเล่นก็หมายถึงนายด้วยใช่ไหม ธนนท์”
“เราหวังดีกับเมลนะ ไม่อยากให้เธอถูกหลอก แต่ถ้าเมลมองเราแบบนั้นก็ช่วยไม่ได้ อย่าให้ถูกฟันแล้วท้องไม่มีพ่อขึ้นมาอีกล่ะ”
“อ้าว ไอ้นี่” กริชเกือบจะตะบันหน้าไอ้ผู้ชายสารเลวที่กล้ามาดูถูกผู้หญิงของเขา แต่ถูกเรียกเอาไว้เสียก่อน
“หยุด คุณกริช”
“มึง!” ธนนท์หันมองชายหนุ่มร่างสูงหน้าคมคาย เสื้อผ้า นาฬิกาหรือแม้แต่รองเท้ายังดูแพงระยับ แต่ที่เดือดดาลและร้อนรุ่มจนแทบคลั่งเพราะเขาจำมันได้ชัดเจน “เมลกลับไปหาผัวเก่าเหรอ”
“กูเป็นผัวเฉย ๆ ไม่เคยเป็นผัวเก่า”
“เมล นี่มันอะไรกัน” ธนนท์มองหน้าหญิงสาวเหมือนขอคำอธิบาย แต่กลับถูกชายหนุ่มที่อยากมีเรื่องเต็มที่เข้ามาขวางแล้วผลักอกออกห่าง พอธนนท์ผลักกลับ กริชก็สวนด้วยกำปั้นทันทีเหมือนอยากลงมือวิวาทอยู่เต็มกำลัง
“ไอ้กุ๊ย” ธนนท์ที่โดนหมัดไปจนได้เลือด ลนลานลุกขึ้นเตรียมหนี แต่ก็ยังเปล่งคำพูดร้ายกาจออกมาไม่ขาด
“เออ ถ้ามึงยังสำรอกคำเลว ๆ กับลูกเมียกูอีก กูไม่เอามึงไว้แน่”
“ไอ้ชายโฉด หญิงชั่ว” ขาถอย แต่ปากก็ยังส่งเสียงด่าไม่เลิก ทำเอาคนเลือดร้อนอย่างกริชผวาจะตามไปเอาเรื่องให้รู้ดำรู้แดงอีกครั้ง
“คุณกริช หยุดค่ะ”
“แต่มันดูถูกหนูเมลนะ”
“ปากคนอื่น ไม่สำคัญอะไร”
กริชมองหญิงสาวที่อุ้มลูกน้อยอยู่กับอก เธอดูเป็นอีกมิติหนึ่งแตกต่างจากสาวน้อยที่ยืนร้องไห้พิงซอกตึกคนนั้นอย่างสิ้นเชิง หรือเพราะมีลูกสาวอยู่ในอ้อมแขนจึงดูแข็งแกร่ง นิ่งสงบเพื่อที่จะปกป้องคนอื่น แต่เขาก็แอบเห็นความเปราะบางและริ้วรอยเสียใจพาดผ่านดวงตาเธอ
“คุยกันหน่อยได้ไหมหนูเมล” พอเห็นหญิงสาวนิ่ง กริชก็คอตกลง “อย่างน้อยก็ให้พี่จัดการเรื่องโรงพยาบาลลูก”
Special Talk : พี่กริชถ้าช่วงชีวิตของคนเราจะมีเพลงประจำของมันอยู่ ชีวิตผมก็คงเริ่มด้วยเพลงบลูส์อันแสนเศร้าสร้อย...ผมจึงใช้มันเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดในใจ และทุกครั้งที่ผมขึ้นไปร้องเพลงบนเวที ผมจะเห็นเด็กสาวแสนสวยคนหนึ่งที่นั่งมองผมอยู่เงียบ ๆ ท่ามกลางผู้คนที่แต่งตัวมาประชันกันในบาร์ราคาแพงสายตาของผมกลับกวาดไปตกลงที่เธอเท่านั้นผมจำเธอได้ดี แม้วันนี้เธอจะไม่ใช่เด็กน้อยผมเปียแต่เติบโตเป็นหญิงสาวสวยสะพรั่ง ผมรอให้เธอเข้ามาหาเพื่อขอโทษกับสิ่งที่ทำร้ายผมในอดีต แต่เธอก็ไม่ได้ทำแบบนั้น นานวันเข้าจากที่เคยชินก็กลายเป็นผมที่เฝ้ารอให้เธอมานั่งฟังเพลงที่นี่ทุกคืน...และผมก็เลือกที่จะลงมือจัดการเธอผมเริ่มเกมด้วยความแค้นในจุดเริ่มต้น และเข้าสู่เส้นชัยด้วยความว่างเปล่าสามปีในมาเก๊า ผมอยู่กับความถวิลหาที่ไม่อาจเติมเต็ม แล้วกลับเมืองไทยอย่างคนไร้ชีวิตจิตใจ อุทิศพลังทั้งหมดเพื่อทำงาน ซมซานกลับไปโดดเดี่ยวในคอนโดหรูที่แสนเวิ้งว้างจนกระทั่งวันที่ผมได้ยินเสียงรับโทรศัพท์ของโอเปอเรเตอร์คนใหม่ ผมจึงเข้าใจว่าทำไมผมถึงเฝ้ามองหาเงาใครบางคนท่ามกลางฝูงชนอยู่ตลอดเวลาผมหันหลังไปยืมกีตาร์จากนักดนตรีในงานไมเนอร์
โซ่รักตอนพิเศษ โซ่รักวันเกิดของกริชเวียนกลับมาครบรอบอีกครั้งหนึ่ง ทุกคนต่างโหวตเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากไปทะเลอีกครั้งเพราะติดใจวิลลาริมทะเลที่เคยไปในอดีต ป้าละไมขออยู่เฝ้าบ้านเพราะกำลังติดซีรีส์อินเดียอย่างหนักหน่วง เจ้าของวันเกิดผู้เป็นทาสเมียและทาสลูกสาวโดยสมบูรณ์จึงไม่อิดออดที่จะเอาใจสองสาวต่างวัย เพียงแต่ระหว่างทางเขาพาทั้งเมลานี และหนูพายแวะที่วัดแห่งหนึ่งก่อน“แวะที่นี่ก่อนนะคะหนูเมล” จังหวัดเดิมที่เคยอาศัยเป็นทางผ่านก่อนไปทะเล และกริชตั้งใจพาลูกสาวกับเมลานีมาที่นี่อยู่แล้ว จึงถือโอกาสพิเศษนี้แวะเสียเลย“ไหว้พระเหรอคะ”“ค่ะ พี่เตรียมสังฆทานใส่รถมาแล้วด้วย ความจริงตั้งใจจะมาที่นี่ในวันเกิดนั่นแหละ อยากมาทำบุญ”“ทำไมไม่บอกล่ะคะ เมลจะได้ช่วยเตรียมของ” เมื่อเปิดท้ายรถก็พบว่าชายหนุ่มเตรียมเครื่องสังฆทานกล่องใหญ่มาแล้ว เขาเลือกของด้วยตัวเองแล้วนำมาใส่กล่องใส ไม่ใช่สังฆทานสำเร็จรูปที่มักจะใส่กระป๋องสีเหลืองตามแบบที่ร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์มักจะทำกัน“ครั้งหน้านะคะ เมื่อคืนวานพี่เห็นเมลเหนื่อย หมดเรี่ยวหมดแรงก็เลยสงสารไม่อยากกวน” เขาว่านัยน์ตาเยิ้ม สื่อความนัยที่เขาและเมลานีเท่านั้นถึง
ซ่อน 2“งั้นมีรางวัลให้ผัวที่น่ารักคนนี้ไหมล่ะคะ” เสียงห้าวแหบพร่าแต่แววตาของเขากลับเปิดเปลือยความต้องการอันร้อนแรงขึ้นมาทันที ฝ่ามือร้อนผ่าวอีกข้างถลกกระโปรงทรงเอสั้นแค่เข่าของหญิงสาวขึ้นมาแล้วประกบมือลงไปบนเนินเนื้อสามเหลี่ยมอวบอิ่ม บีบเคล้นเบา ๆ แบบจาบจ้วงแต่ก็เร้าใจ“พี่กริช เดี๋ยว” เมลานีเสียงสั่นเมื่อเขาบีบเคล้นที่ความเป็นหญิงของเธออย่างเอาแต่ใจ แต่แล้วก็ต้องซบหน้าลงกับอกและใช้มือจิกไหล่กว้างไว้เป็นหลักยึดเมื่อถูกนิ้วเรียวยาวกรีดลงไปในร่องเนื้ออันไวต่อสัมผัส เมื่อพบติ่งเนื้อนิ้วสากระคายก็กดคลึงหมุนวนจนเรียกน้ำชุ่มฉ่ำออกมาได้สำเร็จ“ดื้อกับพี่นัก คนดื้อต้องถูกลงโทษให้หนัก”“อ๊ะ” ความเสียวแปลบเกิดขึ้นทันทีที่ชายหนุ่มสอดนิ้วเข้ามาในช่องทางที่ชุ่มฉ่ำ เขาหงายมือและงอนิ้วขึ้นด้านบน ควงคว้านจนเจอกับจุดที่ทำหญิงสาวครางกระเส่า จากนั้นจึงเพิ่มจำนวนนิ้วสอดเข้าไปเพื่อจัดการกับคนดื้อ ช่องทางของเธอแม้จะชุ่มฉ่ำแต่ก็ยังคับแน่นจนอึดอัด ชวนให้อยากจะเอาตัวตนของเขาสอดใส่เข้าไปแทนที่ในตอนนี้ให้รู้แล้วรู้รอดเมลานีเสียวซ่านไปทั้งสรรพางค์กาย เลื่อนมือข้างหนึ่งมารั้งข้อมือที่รังแกเธอไม่หยุดหย่อนไว้ แต
ซ่อน 1ตั้งแต่ย้ายไปบ้านหลังที่เตรียมไว้ ข้าวของต่าง ๆ ของเมลานีและหนูพายรวมถึงป้าละไมเพิ่งย้ายเสร็จเรียบร้อย ส่วนกริชที่ข้าวของส่วนตัวของเขาน้อยมาก กลายเป็นเมลานีต้องคอยดูคอยซื้อหาเสื้อผ้าใหม่ ๆ ให้กับเขาอยู่เสมอ พอเธอถามเขาก็บอกว่าขี้เกียจเก็บของจากคอนโดเก่า แต่จริง ๆ หญิงสาวเคยแวะไปที่คอนโดของเขาก็ไม่ได้มีเสื้อผ้าเครื่องใช้เหลืออยู่เท่าไรนัก และด้วยความที่มัวแต่วุ่นวายกับการตกแต่งบ้านหลังใหม่ เมลานีจึงเพิ่งมีโอกาสที่จะเข้าไปเก็บของให้หมดเสียที เพราะรู้ว่ากริชเองก็มัวแต่ยุ่งกับการขยายสาขาหญิงสาวหยิบคีย์การ์ดของคอนโดจากลิ้นชักที่โต๊ะเครื่องแป้งเพื่อเตรียมไปเก็บของให้เขา คอนโดของกริชทำเลดี และราคาแพงลิบลิ่ว เมลานีเคยเสนอให้เขาปล่อยเช่าหากไม่ต้องการอยู่ด้วยตนเอง แต่ชายหนุ่มอ้างว่ากลัวคนเช่าจะทำให้คอนโดของเขาเละเทะ และกริชก็ตั้งใจจะเก็บไว้เป็นสมบัติของลูกเสียมากกว่า“พี่กริชคะเมลกำลังออกไปเก็บของที่เหลือในคอนโดให้นะคะ” หลังจากสตาร์ตรถและขับมาได้ครู่หนึ่งหญิงสาวก็โทรแจ้งเจ้าของสินทรัพย์ให้ทราบ“ฮะ ไม่ เมลไม่ต้องไป” ปลายสายดูร้อนรนขึ้นมาทันทีจนหญิงสาวแปลกใจ“ทำไมคะ ก็ในเมื่อพี่กริชยุ่ง
ผมเปียตั้งแต่ฝึกฝนถักเปียกับสายไฟอยู่พักใหญ่จนมั่นใจว่าถูกต้อง กริชก็เริ่มลองถักผมยาวเหมือนแพรไหมของเมลานี ครั้งแรก ๆ เขาเกร็งมากเพราะกะน้ำหนักมือไม่ถูก กลัวจะทำให้หนังศีรษะของภรรยาหลุดติดมือมาด้วย แต่เมลานีก็คอยสอนคอยบอกจังหวะ ไม่นานเขาก็ถักเปียได้สวยและเป็นระเบียบจนอยากจะลองถักให้ลูกสาวดูบ้างพอได้ทำ ก็กลายเป็นกิจวัตรที่ทุกวันมานี้กริชจะต้องถักผมเปียให้หนูพายทุกเช้าก่อนไปโรงเรียน เวลาลูกและเมียชมว่าทำได้สวย เขาภูมิใจกับมันมากกว่าการได้รับรางวัลนักบริหารดีเด่นของวงการยานยนต์เสียอีก“สวยสุด ๆ ไปเลยลูกสาวพ่อ”“พ่อกิด ไม่ใช่แบบนี้ โน โน” หนูพายเอียงศีรษะข้างซ้ายที ข้างขวาที แล้วไปเขย่าแขนคนเป็นพ่อให้จัดการแก้ไข“อะไรคะ”“ไม่สวย จะเอาแบบที่คุณแม่ทำให้ค่ะ”“แต่ปกติพ่อก็ถักเปียแบบนี้ให้นี่คะลูก” กริชบอกอย่างเอาใจลูกสาวตัวน้อยในชุดนักเรียน“หนูชอบแบบใหม่มากกว่าค่ะ” หนูพายทำปากยื่น “พ่อกิด ทำใหม่ค่ะ”“ทำ...ทำแบบไหนดี” คนเป็นพ่อเริ่มเลิ่กลั่ก กว่าเขาจะสำเร็จวิชาถักเปียก็เสียสายไฟไปหลายขด หนูพายกลับเบื่อเปียของเขาเสียง่าย ๆ กลัวเหลือเกินว่าไอ้แบบใหม่ที่ลูกสาวว่ามันจะทำให้เขาต้องกุมขมับและซื้อ
บ้านใหม่ 1กลิ่นดอกโมกหอมอ่อน ๆ โชยกรุ่นทำให้อากาศยามเช้ายิ่งสดชื่น สนามหญ้าเขียวสบายตาที่ถูกดูแลอย่างดีมีละอองน้ำจากหยาดฝนที่เพิ่งทิ้งช่วงไปตอนเช้ามืดพร่างพรมไปทั่วครั้งหนึ่งกริชไม่ชอบบ้านเพราะพื้นที่กว้างขวางทำให้คนตัวคนเดียวอย่างเขายิ่งโดดเดี่ยว แต่พอรู้ว่ามีความรักและมีลูกสาว เขาก็ซื้อบ้าน ซื้อไว้รอตั้งแต่เมลานีบอกให้เขาตัดใจใต้ต้นสนริมทะเลเขาซื้อบ้านที่มีสนามหญ้ากว้างไว้ให้ลูกวิ่งเล่น และปลูกต้นโมกที่ลูกสาวเคยมอบให้ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันไว้รอบรั้ว ตกแต่งบ้านตามความชอบที่เมลานีเคยเพ้อฝันให้ฟังในสมัยเธอยังเป็นนักศึกษา ถ้าหลังกลับมาจากมาเก๊า เขาทุ่มเททุกอย่างเพื่อสร้างไพน์กรุ๊ป หลังกลับมาจากทะเลอย่างเจ็บปวดแสนสาหัสวันนั้น เขาก็อุทิศความหวังทั้งหมดลงมาที่บ้านหลังนี้ สร้างมันทีละส่วนอย่างตั้งใจ เหมือนกับที่เขารอคอยเมลานีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คล้ายหวังอยู่ลึก ๆ ว่าเขาจะได้มีโอกาสเปลี่ยนบ้านที่เป็นแค่โครงสร้างให้กลายเป็นบ้านที่หมายถึงครอบครัวอย่างแท้จริงและเมื่อวันนั้นมาถึง หญ้าก็เขียวขจี ดอกโมกก็ส่งกลิ่นหอมขจรขจาย…กริชจรดศีรษะลงหอมแก้มนุ่มของลูกสาวตัวน้อยที่ขอแยกห้องนอนไปแล้ว เมื่อ






![คีรินทร์ วาเลนซิโอ [ ใต้ปีกมาเฟีย ]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)
