Masukเสียงเบียดพื้นของล้อรถยนต์กำลังม้าสูงดังเอี๊ยดอ๊าดตามอารมณ์เหวี่ยงหมุนของพวงมาลัย แล้วคืนล้อเข้าในช่องจอด เพียงแต่อารมณ์แกว่งไหวของกริชไม่คืนกลับมาง่าย ๆ
นิ้วแข็งแรงบีบลงไปที่วงของพวงมาลัยแน่น ก่อนจะทิ้งตัวลงไปด้านหลังแนบกับเบาะหนังชั้นดีอย่างหมดแรง เพียงครู่ของดวงตากะพริบขายาว ๆ ก็ก้าวออกจากตัวรถ ปิดประตูเสียงดังสนั่นเพื่อค้นหาความจริงในประตูอีกบานหนึ่ง
เมลานีมองชายหนุ่มที่อยู่ ๆ ก็ก้าวพรวดมาถึงตัว เขาดุดันและดูคุกคามคาดคั้นจนเมลานีต้องลุกหนีโดยสัญชาตญาณ
“เรามีเรื่องต้องคุยกันหลายอย่างเลยหนูเมล”
“เป็นบ้าอะไรของคุณ” เมลานีหวีดร้องขึ้นมาเมื่อแขนเรียวถูกกริชดึงรั้งและเหวี่ยงเธอเข้ามากอดแนบแน่น ผลักไสเท่าไรก็ไม่สามารถแยกร่างหนาออกจากตัวเธอได้
“พี่จะเป็นบ้าอยู่แล้ว พี่กำลังจะเป็นบ้า เมลเข้าใจไหม”
“ปล่อยนะ อะไรของคุณเนี่ย”
“ทำไมไม่บอกพี่เรื่องย่าแก้ว” สายตาของเขารวดร้าว ทั้งรู้สึกผิดแต่มันก็เต็มไปด้วยความตื้นตันเช่นเดียวกัน เด็กผมเปียคนนั้นพยายามรับผิดและไถ่โทษเท่าที่จะทำได้ ตลอดเวลาสามปีก่อนย่าเขาจะสิ้นลมหายใจ เด็กหญิงเมลานีคอยวนเวียนเป็นความสุขเล็ก ๆ ให้ย่าของเขาได้คลายเหงาแทนหลานชายในไส้ แต่เขากลับออกมาวางแผนทำร้ายเธอจนไม่มีชิ้นดี
“เมล ทำไมไม่บอกพี่”
“ทำไมคุณถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีก”
“ป้าละไมมาทำความสะอาดให้พี่ที่คอนโด” แค่กริชอ้างชื่อของหญิงชรา เมลานีก็พอเดาเหตุการณ์ได้ นี่เองคนที่ป้าละไมบอกว่าจะไปทำงานด้วย
เมลานีพบกับป้าละไมครั้งแรกในตอนที่เธอเป็นเด็กหญิงอายุสิบสามที่แบกความผิดบาปไว้เต็มบ่า หลังจากนอนร้องไห้อยู่สามสี่วันหลังให้การเท็จ เธอก็ปั่นจักรยานตรงไปบ้านชั้นเดียวหลังนั้นอีกครั้ง
เมลานีพบหญิงชราหน้าตาใจดีที่เป็นผู้ป่วยนอนติดเตียง เด็กหญิงถึงกับสะอื้น เธอคลานเข่าเข้าไปใกล้ ๆ ตอนที่น้ำตาของเธอร่วงหล่นใส่หลังมือเหี่ยวย่น ดวงตาฝ้าฟางเล็กน้อยของหญิงชราก็ลืมขึ้นและยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
“หนูมาจากไหนลูก น่ารักจิ้มลิ้มดีเหลือเกิน แล้วร้องไห้ทำไมเล่า ไม่ต้องร้อง”
หลังจากนั้นเธอก็หมั่นแวะมาที่บ้านหลังนี้ทุกวันก่อนไปโรงเรียน หลังเลิกเรียนก็มาป้วนเปี้ยน ดูละคร ทำการบ้าน และฟังย่าแก้วเล่านิทานปรัมปราสนุกสนาน บางเรื่องฝังใจจนเก็บมาเล่าต่อให้ลูกสาวในวันที่เธอกลายเป็น
แม่คน“ทำไมเมลไม่เคยบอกพี่”
“บอกแล้วยังไง คุณจะเลิกแค้นพวกเราพี่น้องงั้นเหรอ” หญิงสาวมองเขาด้วยดวงตาที่แสนเจ็บช้ำ
“ตอนนั้นเมลยังเด็ก”
“ไม่ค่ะ ฉันรู้และเข้าใจทุกอย่าง การที่ฉันเลือกปกป้องพี่ชาย นั่นก็หมายความว่าฉันได้เลือกทำร้ายคุณแล้ว ถึงแม้จะยังเด็กแต่ฉันก็รู้ ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นกับคุณหลังจากนั้น”
กริชหลับตาลงอย่างอ่อนล้า เธอกับเขายืนอยู่คนละฝั่ง เส้นทางที่เธอเลือกก็เพื่อปกป้องคนที่เธอรัก แต่เขาทำร้ายเธอไปเพื่ออะไรทั้งที่เขาก็ไม่เหลือใครและไม่เคยมีความสุขเลย
“พาย หนูพาย”
คราวนี้ฝ่ามือบอบบางที่ผลักไสกลับชะงักงัน ทั้งร่างแข็งทื่อเหมือนถูกสาปให้กลายเป็นหิน ชายหนุ่มที่วาดฝ่ามือของตนเองประคองแก้มนิ่มไว้ สบดวงตาดำขลับที่เหมือนกันไม่มีผิดกับหนูน้อยคนนั้น
“หนูพายเป็นลูกพี่ใช่ไหม”
“มะ...”
“คิดดี ๆ ก่อนตอบนะ อย่าใช้อารมณ์ให้มาทำร้ายไปถึงลูก” พอหญิงสาวขยับจะปฏิเสธเขาก็ขยับปากเตือนเสียงขรึม
“ใช่ ลูกคุณ ลูกคุณแน่ ๆ แค่ดูหน้าก็รู้แล้ว”
Special Talk : พี่กริชถ้าช่วงชีวิตของคนเราจะมีเพลงประจำของมันอยู่ ชีวิตผมก็คงเริ่มด้วยเพลงบลูส์อันแสนเศร้าสร้อย...ผมจึงใช้มันเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดในใจ และทุกครั้งที่ผมขึ้นไปร้องเพลงบนเวที ผมจะเห็นเด็กสาวแสนสวยคนหนึ่งที่นั่งมองผมอยู่เงียบ ๆ ท่ามกลางผู้คนที่แต่งตัวมาประชันกันในบาร์ราคาแพงสายตาของผมกลับกวาดไปตกลงที่เธอเท่านั้นผมจำเธอได้ดี แม้วันนี้เธอจะไม่ใช่เด็กน้อยผมเปียแต่เติบโตเป็นหญิงสาวสวยสะพรั่ง ผมรอให้เธอเข้ามาหาเพื่อขอโทษกับสิ่งที่ทำร้ายผมในอดีต แต่เธอก็ไม่ได้ทำแบบนั้น นานวันเข้าจากที่เคยชินก็กลายเป็นผมที่เฝ้ารอให้เธอมานั่งฟังเพลงที่นี่ทุกคืน...และผมก็เลือกที่จะลงมือจัดการเธอผมเริ่มเกมด้วยความแค้นในจุดเริ่มต้น และเข้าสู่เส้นชัยด้วยความว่างเปล่าสามปีในมาเก๊า ผมอยู่กับความถวิลหาที่ไม่อาจเติมเต็ม แล้วกลับเมืองไทยอย่างคนไร้ชีวิตจิตใจ อุทิศพลังทั้งหมดเพื่อทำงาน ซมซานกลับไปโดดเดี่ยวในคอนโดหรูที่แสนเวิ้งว้างจนกระทั่งวันที่ผมได้ยินเสียงรับโทรศัพท์ของโอเปอเรเตอร์คนใหม่ ผมจึงเข้าใจว่าทำไมผมถึงเฝ้ามองหาเงาใครบางคนท่ามกลางฝูงชนอยู่ตลอดเวลาผมหันหลังไปยืมกีตาร์จากนักดนตรีในงานไมเนอร์
โซ่รักตอนพิเศษ โซ่รักวันเกิดของกริชเวียนกลับมาครบรอบอีกครั้งหนึ่ง ทุกคนต่างโหวตเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากไปทะเลอีกครั้งเพราะติดใจวิลลาริมทะเลที่เคยไปในอดีต ป้าละไมขออยู่เฝ้าบ้านเพราะกำลังติดซีรีส์อินเดียอย่างหนักหน่วง เจ้าของวันเกิดผู้เป็นทาสเมียและทาสลูกสาวโดยสมบูรณ์จึงไม่อิดออดที่จะเอาใจสองสาวต่างวัย เพียงแต่ระหว่างทางเขาพาทั้งเมลานี และหนูพายแวะที่วัดแห่งหนึ่งก่อน“แวะที่นี่ก่อนนะคะหนูเมล” จังหวัดเดิมที่เคยอาศัยเป็นทางผ่านก่อนไปทะเล และกริชตั้งใจพาลูกสาวกับเมลานีมาที่นี่อยู่แล้ว จึงถือโอกาสพิเศษนี้แวะเสียเลย“ไหว้พระเหรอคะ”“ค่ะ พี่เตรียมสังฆทานใส่รถมาแล้วด้วย ความจริงตั้งใจจะมาที่นี่ในวันเกิดนั่นแหละ อยากมาทำบุญ”“ทำไมไม่บอกล่ะคะ เมลจะได้ช่วยเตรียมของ” เมื่อเปิดท้ายรถก็พบว่าชายหนุ่มเตรียมเครื่องสังฆทานกล่องใหญ่มาแล้ว เขาเลือกของด้วยตัวเองแล้วนำมาใส่กล่องใส ไม่ใช่สังฆทานสำเร็จรูปที่มักจะใส่กระป๋องสีเหลืองตามแบบที่ร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์มักจะทำกัน“ครั้งหน้านะคะ เมื่อคืนวานพี่เห็นเมลเหนื่อย หมดเรี่ยวหมดแรงก็เลยสงสารไม่อยากกวน” เขาว่านัยน์ตาเยิ้ม สื่อความนัยที่เขาและเมลานีเท่านั้นถึง
ซ่อน 2“งั้นมีรางวัลให้ผัวที่น่ารักคนนี้ไหมล่ะคะ” เสียงห้าวแหบพร่าแต่แววตาของเขากลับเปิดเปลือยความต้องการอันร้อนแรงขึ้นมาทันที ฝ่ามือร้อนผ่าวอีกข้างถลกกระโปรงทรงเอสั้นแค่เข่าของหญิงสาวขึ้นมาแล้วประกบมือลงไปบนเนินเนื้อสามเหลี่ยมอวบอิ่ม บีบเคล้นเบา ๆ แบบจาบจ้วงแต่ก็เร้าใจ“พี่กริช เดี๋ยว” เมลานีเสียงสั่นเมื่อเขาบีบเคล้นที่ความเป็นหญิงของเธออย่างเอาแต่ใจ แต่แล้วก็ต้องซบหน้าลงกับอกและใช้มือจิกไหล่กว้างไว้เป็นหลักยึดเมื่อถูกนิ้วเรียวยาวกรีดลงไปในร่องเนื้ออันไวต่อสัมผัส เมื่อพบติ่งเนื้อนิ้วสากระคายก็กดคลึงหมุนวนจนเรียกน้ำชุ่มฉ่ำออกมาได้สำเร็จ“ดื้อกับพี่นัก คนดื้อต้องถูกลงโทษให้หนัก”“อ๊ะ” ความเสียวแปลบเกิดขึ้นทันทีที่ชายหนุ่มสอดนิ้วเข้ามาในช่องทางที่ชุ่มฉ่ำ เขาหงายมือและงอนิ้วขึ้นด้านบน ควงคว้านจนเจอกับจุดที่ทำหญิงสาวครางกระเส่า จากนั้นจึงเพิ่มจำนวนนิ้วสอดเข้าไปเพื่อจัดการกับคนดื้อ ช่องทางของเธอแม้จะชุ่มฉ่ำแต่ก็ยังคับแน่นจนอึดอัด ชวนให้อยากจะเอาตัวตนของเขาสอดใส่เข้าไปแทนที่ในตอนนี้ให้รู้แล้วรู้รอดเมลานีเสียวซ่านไปทั้งสรรพางค์กาย เลื่อนมือข้างหนึ่งมารั้งข้อมือที่รังแกเธอไม่หยุดหย่อนไว้ แต
ซ่อน 1ตั้งแต่ย้ายไปบ้านหลังที่เตรียมไว้ ข้าวของต่าง ๆ ของเมลานีและหนูพายรวมถึงป้าละไมเพิ่งย้ายเสร็จเรียบร้อย ส่วนกริชที่ข้าวของส่วนตัวของเขาน้อยมาก กลายเป็นเมลานีต้องคอยดูคอยซื้อหาเสื้อผ้าใหม่ ๆ ให้กับเขาอยู่เสมอ พอเธอถามเขาก็บอกว่าขี้เกียจเก็บของจากคอนโดเก่า แต่จริง ๆ หญิงสาวเคยแวะไปที่คอนโดของเขาก็ไม่ได้มีเสื้อผ้าเครื่องใช้เหลืออยู่เท่าไรนัก และด้วยความที่มัวแต่วุ่นวายกับการตกแต่งบ้านหลังใหม่ เมลานีจึงเพิ่งมีโอกาสที่จะเข้าไปเก็บของให้หมดเสียที เพราะรู้ว่ากริชเองก็มัวแต่ยุ่งกับการขยายสาขาหญิงสาวหยิบคีย์การ์ดของคอนโดจากลิ้นชักที่โต๊ะเครื่องแป้งเพื่อเตรียมไปเก็บของให้เขา คอนโดของกริชทำเลดี และราคาแพงลิบลิ่ว เมลานีเคยเสนอให้เขาปล่อยเช่าหากไม่ต้องการอยู่ด้วยตนเอง แต่ชายหนุ่มอ้างว่ากลัวคนเช่าจะทำให้คอนโดของเขาเละเทะ และกริชก็ตั้งใจจะเก็บไว้เป็นสมบัติของลูกเสียมากกว่า“พี่กริชคะเมลกำลังออกไปเก็บของที่เหลือในคอนโดให้นะคะ” หลังจากสตาร์ตรถและขับมาได้ครู่หนึ่งหญิงสาวก็โทรแจ้งเจ้าของสินทรัพย์ให้ทราบ“ฮะ ไม่ เมลไม่ต้องไป” ปลายสายดูร้อนรนขึ้นมาทันทีจนหญิงสาวแปลกใจ“ทำไมคะ ก็ในเมื่อพี่กริชยุ่ง
ผมเปียตั้งแต่ฝึกฝนถักเปียกับสายไฟอยู่พักใหญ่จนมั่นใจว่าถูกต้อง กริชก็เริ่มลองถักผมยาวเหมือนแพรไหมของเมลานี ครั้งแรก ๆ เขาเกร็งมากเพราะกะน้ำหนักมือไม่ถูก กลัวจะทำให้หนังศีรษะของภรรยาหลุดติดมือมาด้วย แต่เมลานีก็คอยสอนคอยบอกจังหวะ ไม่นานเขาก็ถักเปียได้สวยและเป็นระเบียบจนอยากจะลองถักให้ลูกสาวดูบ้างพอได้ทำ ก็กลายเป็นกิจวัตรที่ทุกวันมานี้กริชจะต้องถักผมเปียให้หนูพายทุกเช้าก่อนไปโรงเรียน เวลาลูกและเมียชมว่าทำได้สวย เขาภูมิใจกับมันมากกว่าการได้รับรางวัลนักบริหารดีเด่นของวงการยานยนต์เสียอีก“สวยสุด ๆ ไปเลยลูกสาวพ่อ”“พ่อกิด ไม่ใช่แบบนี้ โน โน” หนูพายเอียงศีรษะข้างซ้ายที ข้างขวาที แล้วไปเขย่าแขนคนเป็นพ่อให้จัดการแก้ไข“อะไรคะ”“ไม่สวย จะเอาแบบที่คุณแม่ทำให้ค่ะ”“แต่ปกติพ่อก็ถักเปียแบบนี้ให้นี่คะลูก” กริชบอกอย่างเอาใจลูกสาวตัวน้อยในชุดนักเรียน“หนูชอบแบบใหม่มากกว่าค่ะ” หนูพายทำปากยื่น “พ่อกิด ทำใหม่ค่ะ”“ทำ...ทำแบบไหนดี” คนเป็นพ่อเริ่มเลิ่กลั่ก กว่าเขาจะสำเร็จวิชาถักเปียก็เสียสายไฟไปหลายขด หนูพายกลับเบื่อเปียของเขาเสียง่าย ๆ กลัวเหลือเกินว่าไอ้แบบใหม่ที่ลูกสาวว่ามันจะทำให้เขาต้องกุมขมับและซื้อ
บ้านใหม่ 1กลิ่นดอกโมกหอมอ่อน ๆ โชยกรุ่นทำให้อากาศยามเช้ายิ่งสดชื่น สนามหญ้าเขียวสบายตาที่ถูกดูแลอย่างดีมีละอองน้ำจากหยาดฝนที่เพิ่งทิ้งช่วงไปตอนเช้ามืดพร่างพรมไปทั่วครั้งหนึ่งกริชไม่ชอบบ้านเพราะพื้นที่กว้างขวางทำให้คนตัวคนเดียวอย่างเขายิ่งโดดเดี่ยว แต่พอรู้ว่ามีความรักและมีลูกสาว เขาก็ซื้อบ้าน ซื้อไว้รอตั้งแต่เมลานีบอกให้เขาตัดใจใต้ต้นสนริมทะเลเขาซื้อบ้านที่มีสนามหญ้ากว้างไว้ให้ลูกวิ่งเล่น และปลูกต้นโมกที่ลูกสาวเคยมอบให้ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันไว้รอบรั้ว ตกแต่งบ้านตามความชอบที่เมลานีเคยเพ้อฝันให้ฟังในสมัยเธอยังเป็นนักศึกษา ถ้าหลังกลับมาจากมาเก๊า เขาทุ่มเททุกอย่างเพื่อสร้างไพน์กรุ๊ป หลังกลับมาจากทะเลอย่างเจ็บปวดแสนสาหัสวันนั้น เขาก็อุทิศความหวังทั้งหมดลงมาที่บ้านหลังนี้ สร้างมันทีละส่วนอย่างตั้งใจ เหมือนกับที่เขารอคอยเมลานีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คล้ายหวังอยู่ลึก ๆ ว่าเขาจะได้มีโอกาสเปลี่ยนบ้านที่เป็นแค่โครงสร้างให้กลายเป็นบ้านที่หมายถึงครอบครัวอย่างแท้จริงและเมื่อวันนั้นมาถึง หญ้าก็เขียวขจี ดอกโมกก็ส่งกลิ่นหอมขจรขจาย…กริชจรดศีรษะลงหอมแก้มนุ่มของลูกสาวตัวน้อยที่ขอแยกห้องนอนไปแล้ว เมื่อ







