Masukชายหนุ่มตัวสูงหน้าตาคมคายอุ้มเด็กหญิงขาวจั๊วะอวบอ้วนเหมือนซาลาเปาในชุดสีแดงเรียกสายตาคนให้หันมองมาอย่างชื่นชม ส่วนคนถูกจับจ้องเองก็ยืดอกยิ้มร่าด้วยความภาคภูมิใจแปลก ๆ
ที่ผ่านมาชีวิตเคยเป็นทั้งวัยรุ่นเกเร นักศึกษาหัวกะทิ ผู้ต้องโทษในเรือนจำ หรือแม้กระทั่งประธานบริษัทที่ประสบความสำเร็จ อยู่บนตึกสูงกลางกรุง เขาสัมผัสมาแล้วทุกรูปแบบทุกความรู้สึก แต่ไม่เคยมีครั้งใดที่รู้สึกว่าตนเองผงาดเข้มแข็งเพื่อพร้อมปกป้องผู้อื่นในขณะเดียวกันก็อ่อนโยนจนแทบจะหลอมละลาย เพื่อจะได้โอบกอดร่างน้อยที่เป็นชีวิตและดวงใจของเขา
ความรู้สึกของคนที่ได้เป็นพ่อมันซับซ้อนแต่ก็ชัดเจนดีเหลือเกิน...
วันนี้เขามีนัดสัมภาษณ์พนักงานที่ได้รับเสนอชื่อเข้ารับทุนการศึกษาไปเรียนต่อที่ฮ่องกง ความจริงตั้งใจจะมอบหมายภารกิจนี้ให้คนอื่นจัดการ แต่พอคิดขึ้นมาได้ว่าหนึ่งในผู้ที่ได้รับการคัดเลือกคือณัชชา เขาจึงต้องการมาพูดคุยกับเพื่อนของเมลานีด้วยตนเอง
“อยากมาทำงานกับพ่อไหมลูก ฮึ” กริชถามร่างจ้ำม่ำที่หันหน้าไปทางโน้นทีทางนี้ที มัวสงสัยในความแปลกใหม่ของสถานที่และความมากหน้าหลายตาของผู้คนที่หลากหลาย เด็กน้อยจึงไม่ได้สนใจสิ่งที่บิดาของตนเองตั้งคำถามเลยสักนิด ตรงข้ามกลับชี้โบ๊ชี้เบ๊ไปตรงจุดที่จัดวางอุปกรณ์สำนักงานประหลาดตาที่ไม่สามารถพบเจอได้ในทาวน์เฮาส์หลังเล็กที่หนูน้อยอาศัยอยู่
ออกจากโถงลิฟต์เจ้าตัวอ้วนก็ดิ้นยุกยิกเพื่อจะลงมาเดินเอง กริชจึงย่อตัวปล่อยลูกสาววางลงกับพื้น ใช้วิธีจับจูงให้หนูพายค่อย ๆ เดินเตาะแตะตามมาด้วยกัน
ชายหนุ่มเบนสายตาไปที่ห้องเล็ก ๆ ที่เขาสั่งให้กั้นฉากเป็นพิเศษก่อนหน้านี้ เมลานีคงกำลังเช็กสต็อกอะไหล่ โดยไม่สนใจว่ามีคนชะเง้อตาแลละห้อยอยู่อีกคน...
“คุณณัชชามารอในห้องแล้วค่ะบอส” เจ้านายหนุ่มพยักหน้ารับรู้ แต่กลับเห็นเลขาวัยกลางคนมองเด็กน้อยที่เขาเป็นผู้จับจูงมาด้วยความแปลกใจ
“ลูกสาวผมเองครับ” กริชรีบยืดอกบอก เขามีลูกสาวแล้ว น่ารักน่าชังจนอยากอวดให้คนทั้งโลกรู้ ส่วนเมีย...ก็น่ารักนะ เพียงแต่ยังอวดใครไม่ได้เพราะไม่ได้ถูกยอมรับ ต้องก้มหน้ารับบทสามีลับ ๆ ไปพลาง ๆ
“หน้าเหมือนพ่อเลยค่ะบอส แต่ตากลมโตกว่า” กริชเป็นหนุ่มตาคมสไตล์คนเจ้าชู้ ทว่าดวงตาของเขาอยู่ในลักษณะเรียวยาวเหมือนเมล็ดอัลมอนด์
“ตาหวานเหมือนแม่เขาแหละครับ” ชายหนุ่มบุ้ยปากไปทางห้องสต็อกอะไหล่กิตติมศักดิ์ซึ่งก็เป็นเลขาของเขานั่นแหละขันอาสาเป็นคนจัดสถานที่ให้เป็นการเร่งด่วน เชื่อว่าคนที่ทำงานมานานอย่างเลขาคนนี้ก็ย่อมรู้และเข้าใจอะไรได้ไม่ยาก
ชายหนุ่มทอดมองดวงหน้าของลูกน้อยอีกครั้ง คงเป็นเพราะดวงตาของหนูพายเหมือนโขกดวงตาของเมลานีออกมา นี่สินะ...ที่ทำให้เขาสะดุดใจจนรู้สึกหลงรักเด็กคนนี้ตั้งแต่แรกเห็น ไม่ใช่เพียงเพราะคิดว่าเป็นหลานป้าละไมจึงเผลอเอ็นดูสงสาร
ชายหนุ่มเปิดประตูออกกว้างและค่อย ๆ จับจูงลูกสาวเข้ามาภายในห้องทำงานส่วนตัว ณัชชายืนขึ้นเพราะคิดว่าผู้บริหารเข้ามาจึงเตรียมต้อนรับ แต่กลายเป็นร่างอ้วนกลมที่วิ่งตึก ๆ เข้ามากอดขา
“นัด หยา”
“ยายหมูอ้วน มาได้ไงเนี่ย”
“กิด มา” หนูพายชี้ไปที่ชายหนุ่มร่างภูมิฐานคนหนึ่ง แม้จะเลือนรางไปบ้างในครั้งแรกแต่ณัชชาก็ระลึกได้ขึ้นมาทันทีว่าเขาคือแฟนเก่าของเพื่อนรักอย่างเมลานี
“สวัสดีครับน้องณัช พี่ชื่อกริช เราเคยเจอกันมาก่อนตอนที่หนูเมล เรียนอยู่มหาลัย”
“พี่กริช เอ่อ คุณกริช” ณัชชาอ้าปากค้างตะลึงงันไปชั่วขณะ ทิ้งตัวลงบนเก้าอี้เหมือนจะหมดแรง เธออยู่ฝ่ายบุคคลแท้ ๆ ประธานบริษัทชื่อกริช เพียงแต่เธอไม่เคยเห็นหน้า และก็คาดไม่ถึงว่าผู้ชายใจร้ายของเมลานีที่เคยร้องเพลงในผับจะเป็นคนเดียวกับประธานบริษัทยานยนต์ผู้นำเทรนด์ของอนาคตแบบนี้ คิดแล้วก็โมโหตัวเอง มิน่าเมลานีถึงได้มีท่าทางแปลก ๆ บางทีก็เศร้าหมอง บางคราวก็เคร่งเครียด คงเป็นเพราะผู้ชายคนนี้นี่เอง
“คุณได้ทำอะไรเพื่อนณัชอีกหรือเปล่าคะ” ณัชชาคาดคั้นเอาเรื่องโดยไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมใด ๆ
“ผมใช้คุณบีบให้เขาทำงานที่นี่” ชายหนุ่มก็ยอมรับอย่างตรงไปตรงมา
“ฉันไม่ต้องการทุนของคุณแล้ว ลาออกเลยดีกว่า” คนรักเพื่อนเตรียมผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ด้วยความโมโห
“ผมขอโทษ แต่ให้โอกาสผมได้ดูแลเมลานีกับหนูพายได้ไหมครับ” กริชรีบเอ่ยขอร้องอย่างสุภาพเช่นกัน ณัชชามองร่างป้อมของหลานสาวตัวน้อยที่ผละจากเธอวิ่งเข้าไปหาชายหนุ่มที่ตีหน้าเครียดขึงผสมปนเปด้วยความเสียใจ จากนั้นก็โน้มตัวลงอุ้มหนูพายขึ้นมาโอบไว้บนตักอย่างอ่อนโยน
“ผมเจอกับหนูพายอยู่บ่อย ๆ เพราะแวะไปหาป้าละไมครับ” ประธานบริษัทอธิบายต่อ เมื่อเห็นสีหน้าแปลกใจในความสนิทสนมของเขากับเด็กหญิงตัวอ้วน
“พี่คงไม่รู้ว่ายายเมลต้องเจอกับอะไรมาบ้าง”
“ผมขอโทษจริง ๆ ผมจะพยายามหาทางไถ่โทษ แต่ณัชช่วยกรุณาเล่าให้ผมฟังบ้างได้ไหม”
ณัชชาแสยะยิ้มมุมปากด้วยความหมั่นไส้แทนเพื่อน แต่ก็ยอมเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้าให้ฟังทุกอย่าง ชายหนุ่มนั่งฟังเรื่องราวยาวนานสองนานด้วยสีหน้าสลดลง
“พี่ทำกับเพื่อนณัชแบบนี้ ณัชคงช่วยอะไรพี่ไม่ได้หรอกนะคะ”
“ณัชชาไม่ต้องช่วยอะไรผม แต่แค่คุณรับทุนการศึกษาตามความสามารถที่คุณควรได้รับแล้วไปเรียนต่อเถอะครับ อย่าเสียโอกาสเพียงเพราะผู้ชายแย่ ๆ แบบผมเลย ไม่อย่างนั้นเมลานีคงจะยิ่งเสียใจ”
“แต่ณัชก็เป็นห่วงหลาน” ณัชชาทอดตามองยายหมูอ้วนของเธอที่อาจจะต้องเตรียมตัวเข้ารับการรักษาในเร็ววันหากเป็นไปตามที่กริชเล่าและวางแผนไว้
“กำหนดการปรับพื้นฐานของมหาลัยคืออีกสองสัปดาห์ ไปเถอะครับไม่ต้องห่วง หลังจากนี้ผมจะดูแลทั้งเมลานีและหนูพายให้ดีที่สุดเท่าที่พ่อและผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้”
Special Talk : พี่กริชถ้าช่วงชีวิตของคนเราจะมีเพลงประจำของมันอยู่ ชีวิตผมก็คงเริ่มด้วยเพลงบลูส์อันแสนเศร้าสร้อย...ผมจึงใช้มันเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดในใจ และทุกครั้งที่ผมขึ้นไปร้องเพลงบนเวที ผมจะเห็นเด็กสาวแสนสวยคนหนึ่งที่นั่งมองผมอยู่เงียบ ๆ ท่ามกลางผู้คนที่แต่งตัวมาประชันกันในบาร์ราคาแพงสายตาของผมกลับกวาดไปตกลงที่เธอเท่านั้นผมจำเธอได้ดี แม้วันนี้เธอจะไม่ใช่เด็กน้อยผมเปียแต่เติบโตเป็นหญิงสาวสวยสะพรั่ง ผมรอให้เธอเข้ามาหาเพื่อขอโทษกับสิ่งที่ทำร้ายผมในอดีต แต่เธอก็ไม่ได้ทำแบบนั้น นานวันเข้าจากที่เคยชินก็กลายเป็นผมที่เฝ้ารอให้เธอมานั่งฟังเพลงที่นี่ทุกคืน...และผมก็เลือกที่จะลงมือจัดการเธอผมเริ่มเกมด้วยความแค้นในจุดเริ่มต้น และเข้าสู่เส้นชัยด้วยความว่างเปล่าสามปีในมาเก๊า ผมอยู่กับความถวิลหาที่ไม่อาจเติมเต็ม แล้วกลับเมืองไทยอย่างคนไร้ชีวิตจิตใจ อุทิศพลังทั้งหมดเพื่อทำงาน ซมซานกลับไปโดดเดี่ยวในคอนโดหรูที่แสนเวิ้งว้างจนกระทั่งวันที่ผมได้ยินเสียงรับโทรศัพท์ของโอเปอเรเตอร์คนใหม่ ผมจึงเข้าใจว่าทำไมผมถึงเฝ้ามองหาเงาใครบางคนท่ามกลางฝูงชนอยู่ตลอดเวลาผมหันหลังไปยืมกีตาร์จากนักดนตรีในงานไมเนอร์
โซ่รักตอนพิเศษ โซ่รักวันเกิดของกริชเวียนกลับมาครบรอบอีกครั้งหนึ่ง ทุกคนต่างโหวตเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากไปทะเลอีกครั้งเพราะติดใจวิลลาริมทะเลที่เคยไปในอดีต ป้าละไมขออยู่เฝ้าบ้านเพราะกำลังติดซีรีส์อินเดียอย่างหนักหน่วง เจ้าของวันเกิดผู้เป็นทาสเมียและทาสลูกสาวโดยสมบูรณ์จึงไม่อิดออดที่จะเอาใจสองสาวต่างวัย เพียงแต่ระหว่างทางเขาพาทั้งเมลานี และหนูพายแวะที่วัดแห่งหนึ่งก่อน“แวะที่นี่ก่อนนะคะหนูเมล” จังหวัดเดิมที่เคยอาศัยเป็นทางผ่านก่อนไปทะเล และกริชตั้งใจพาลูกสาวกับเมลานีมาที่นี่อยู่แล้ว จึงถือโอกาสพิเศษนี้แวะเสียเลย“ไหว้พระเหรอคะ”“ค่ะ พี่เตรียมสังฆทานใส่รถมาแล้วด้วย ความจริงตั้งใจจะมาที่นี่ในวันเกิดนั่นแหละ อยากมาทำบุญ”“ทำไมไม่บอกล่ะคะ เมลจะได้ช่วยเตรียมของ” เมื่อเปิดท้ายรถก็พบว่าชายหนุ่มเตรียมเครื่องสังฆทานกล่องใหญ่มาแล้ว เขาเลือกของด้วยตัวเองแล้วนำมาใส่กล่องใส ไม่ใช่สังฆทานสำเร็จรูปที่มักจะใส่กระป๋องสีเหลืองตามแบบที่ร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์มักจะทำกัน“ครั้งหน้านะคะ เมื่อคืนวานพี่เห็นเมลเหนื่อย หมดเรี่ยวหมดแรงก็เลยสงสารไม่อยากกวน” เขาว่านัยน์ตาเยิ้ม สื่อความนัยที่เขาและเมลานีเท่านั้นถึง
ซ่อน 2“งั้นมีรางวัลให้ผัวที่น่ารักคนนี้ไหมล่ะคะ” เสียงห้าวแหบพร่าแต่แววตาของเขากลับเปิดเปลือยความต้องการอันร้อนแรงขึ้นมาทันที ฝ่ามือร้อนผ่าวอีกข้างถลกกระโปรงทรงเอสั้นแค่เข่าของหญิงสาวขึ้นมาแล้วประกบมือลงไปบนเนินเนื้อสามเหลี่ยมอวบอิ่ม บีบเคล้นเบา ๆ แบบจาบจ้วงแต่ก็เร้าใจ“พี่กริช เดี๋ยว” เมลานีเสียงสั่นเมื่อเขาบีบเคล้นที่ความเป็นหญิงของเธออย่างเอาแต่ใจ แต่แล้วก็ต้องซบหน้าลงกับอกและใช้มือจิกไหล่กว้างไว้เป็นหลักยึดเมื่อถูกนิ้วเรียวยาวกรีดลงไปในร่องเนื้ออันไวต่อสัมผัส เมื่อพบติ่งเนื้อนิ้วสากระคายก็กดคลึงหมุนวนจนเรียกน้ำชุ่มฉ่ำออกมาได้สำเร็จ“ดื้อกับพี่นัก คนดื้อต้องถูกลงโทษให้หนัก”“อ๊ะ” ความเสียวแปลบเกิดขึ้นทันทีที่ชายหนุ่มสอดนิ้วเข้ามาในช่องทางที่ชุ่มฉ่ำ เขาหงายมือและงอนิ้วขึ้นด้านบน ควงคว้านจนเจอกับจุดที่ทำหญิงสาวครางกระเส่า จากนั้นจึงเพิ่มจำนวนนิ้วสอดเข้าไปเพื่อจัดการกับคนดื้อ ช่องทางของเธอแม้จะชุ่มฉ่ำแต่ก็ยังคับแน่นจนอึดอัด ชวนให้อยากจะเอาตัวตนของเขาสอดใส่เข้าไปแทนที่ในตอนนี้ให้รู้แล้วรู้รอดเมลานีเสียวซ่านไปทั้งสรรพางค์กาย เลื่อนมือข้างหนึ่งมารั้งข้อมือที่รังแกเธอไม่หยุดหย่อนไว้ แต
ซ่อน 1ตั้งแต่ย้ายไปบ้านหลังที่เตรียมไว้ ข้าวของต่าง ๆ ของเมลานีและหนูพายรวมถึงป้าละไมเพิ่งย้ายเสร็จเรียบร้อย ส่วนกริชที่ข้าวของส่วนตัวของเขาน้อยมาก กลายเป็นเมลานีต้องคอยดูคอยซื้อหาเสื้อผ้าใหม่ ๆ ให้กับเขาอยู่เสมอ พอเธอถามเขาก็บอกว่าขี้เกียจเก็บของจากคอนโดเก่า แต่จริง ๆ หญิงสาวเคยแวะไปที่คอนโดของเขาก็ไม่ได้มีเสื้อผ้าเครื่องใช้เหลืออยู่เท่าไรนัก และด้วยความที่มัวแต่วุ่นวายกับการตกแต่งบ้านหลังใหม่ เมลานีจึงเพิ่งมีโอกาสที่จะเข้าไปเก็บของให้หมดเสียที เพราะรู้ว่ากริชเองก็มัวแต่ยุ่งกับการขยายสาขาหญิงสาวหยิบคีย์การ์ดของคอนโดจากลิ้นชักที่โต๊ะเครื่องแป้งเพื่อเตรียมไปเก็บของให้เขา คอนโดของกริชทำเลดี และราคาแพงลิบลิ่ว เมลานีเคยเสนอให้เขาปล่อยเช่าหากไม่ต้องการอยู่ด้วยตนเอง แต่ชายหนุ่มอ้างว่ากลัวคนเช่าจะทำให้คอนโดของเขาเละเทะ และกริชก็ตั้งใจจะเก็บไว้เป็นสมบัติของลูกเสียมากกว่า“พี่กริชคะเมลกำลังออกไปเก็บของที่เหลือในคอนโดให้นะคะ” หลังจากสตาร์ตรถและขับมาได้ครู่หนึ่งหญิงสาวก็โทรแจ้งเจ้าของสินทรัพย์ให้ทราบ“ฮะ ไม่ เมลไม่ต้องไป” ปลายสายดูร้อนรนขึ้นมาทันทีจนหญิงสาวแปลกใจ“ทำไมคะ ก็ในเมื่อพี่กริชยุ่ง
ผมเปียตั้งแต่ฝึกฝนถักเปียกับสายไฟอยู่พักใหญ่จนมั่นใจว่าถูกต้อง กริชก็เริ่มลองถักผมยาวเหมือนแพรไหมของเมลานี ครั้งแรก ๆ เขาเกร็งมากเพราะกะน้ำหนักมือไม่ถูก กลัวจะทำให้หนังศีรษะของภรรยาหลุดติดมือมาด้วย แต่เมลานีก็คอยสอนคอยบอกจังหวะ ไม่นานเขาก็ถักเปียได้สวยและเป็นระเบียบจนอยากจะลองถักให้ลูกสาวดูบ้างพอได้ทำ ก็กลายเป็นกิจวัตรที่ทุกวันมานี้กริชจะต้องถักผมเปียให้หนูพายทุกเช้าก่อนไปโรงเรียน เวลาลูกและเมียชมว่าทำได้สวย เขาภูมิใจกับมันมากกว่าการได้รับรางวัลนักบริหารดีเด่นของวงการยานยนต์เสียอีก“สวยสุด ๆ ไปเลยลูกสาวพ่อ”“พ่อกิด ไม่ใช่แบบนี้ โน โน” หนูพายเอียงศีรษะข้างซ้ายที ข้างขวาที แล้วไปเขย่าแขนคนเป็นพ่อให้จัดการแก้ไข“อะไรคะ”“ไม่สวย จะเอาแบบที่คุณแม่ทำให้ค่ะ”“แต่ปกติพ่อก็ถักเปียแบบนี้ให้นี่คะลูก” กริชบอกอย่างเอาใจลูกสาวตัวน้อยในชุดนักเรียน“หนูชอบแบบใหม่มากกว่าค่ะ” หนูพายทำปากยื่น “พ่อกิด ทำใหม่ค่ะ”“ทำ...ทำแบบไหนดี” คนเป็นพ่อเริ่มเลิ่กลั่ก กว่าเขาจะสำเร็จวิชาถักเปียก็เสียสายไฟไปหลายขด หนูพายกลับเบื่อเปียของเขาเสียง่าย ๆ กลัวเหลือเกินว่าไอ้แบบใหม่ที่ลูกสาวว่ามันจะทำให้เขาต้องกุมขมับและซื้อ
บ้านใหม่ 1กลิ่นดอกโมกหอมอ่อน ๆ โชยกรุ่นทำให้อากาศยามเช้ายิ่งสดชื่น สนามหญ้าเขียวสบายตาที่ถูกดูแลอย่างดีมีละอองน้ำจากหยาดฝนที่เพิ่งทิ้งช่วงไปตอนเช้ามืดพร่างพรมไปทั่วครั้งหนึ่งกริชไม่ชอบบ้านเพราะพื้นที่กว้างขวางทำให้คนตัวคนเดียวอย่างเขายิ่งโดดเดี่ยว แต่พอรู้ว่ามีความรักและมีลูกสาว เขาก็ซื้อบ้าน ซื้อไว้รอตั้งแต่เมลานีบอกให้เขาตัดใจใต้ต้นสนริมทะเลเขาซื้อบ้านที่มีสนามหญ้ากว้างไว้ให้ลูกวิ่งเล่น และปลูกต้นโมกที่ลูกสาวเคยมอบให้ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันไว้รอบรั้ว ตกแต่งบ้านตามความชอบที่เมลานีเคยเพ้อฝันให้ฟังในสมัยเธอยังเป็นนักศึกษา ถ้าหลังกลับมาจากมาเก๊า เขาทุ่มเททุกอย่างเพื่อสร้างไพน์กรุ๊ป หลังกลับมาจากทะเลอย่างเจ็บปวดแสนสาหัสวันนั้น เขาก็อุทิศความหวังทั้งหมดลงมาที่บ้านหลังนี้ สร้างมันทีละส่วนอย่างตั้งใจ เหมือนกับที่เขารอคอยเมลานีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คล้ายหวังอยู่ลึก ๆ ว่าเขาจะได้มีโอกาสเปลี่ยนบ้านที่เป็นแค่โครงสร้างให้กลายเป็นบ้านที่หมายถึงครอบครัวอย่างแท้จริงและเมื่อวันนั้นมาถึง หญ้าก็เขียวขจี ดอกโมกก็ส่งกลิ่นหอมขจรขจาย…กริชจรดศีรษะลงหอมแก้มนุ่มของลูกสาวตัวน้อยที่ขอแยกห้องนอนไปแล้ว เมื่อ
![สมิงดำ [มาเฟียร้ายรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)






