Masukโลกนอกบ้านคือสิ่งแปลกใหม่สำหรับหนูพาย เด็กน้อยจึงเดินเตาะแตะไปทั่ว เมลานีปล่อยให้ลูกสาวได้ลองเล่นและเคลื่อนไหวอย่างอิสระ ภายในห้องนี้ไม่มีของมีคมหรือปลั๊กไฟติดตั้งอยู่ในระดับต่ำ รวมถึงพื้นก็ปูพรมหนาหากสะดุดล้มเจ้าตัวน้อยก็ไม่เจ็บตัวเท่าใดนัก
หญิงสาวละสายตาจากลูกน้อยเพื่อมาดูเอกสารในหน้าที่ของตนเอง ก่อนจะมีฝีเท้าหนักกระแทกกระทั้นเดินมาให้ได้ยินใกล้ขึ้น ครั้งแรกเมลานีนึกว่าเป็นกริชกลับมาพร้อมกับขนมของหนูพาย แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมองกลับเป็นหญิงสาวปากแดง แต่งหน้าจัดบรรจงขัดกับสีหน้าบูดบึ้งเกรี้ยวกราดของเธออย่างสิ้นเชิง
ตั้งแต่พบกับอีผู้หญิงมารยาที่ตึกแห่งนี้ จารวีก็รู้ว่าเรื่องคงไม่จบง่าย ๆ เด็กสาวที่เธอคิดว่าหงอและโง่งมไม่ทันคนจนฉีกเช็คเงินสดหนึ่งล้านบาททิ้ง ที่แท้แผนสูง ปล่อยท้องโย้เพื่อจับผู้ชายให้อยู่หมัดทันเวลาที่กริชกลับมาจากต่างประเทศจะได้อุ้มลูกเข้ามาแสดงตัว
“ฉันคิดแล้วไม่มีผิด แกปล่อยอีมารหัวขนไว้มาจับพี่กริชจริง ๆ ด้วย”
“อีมาร น่าจะหมายถึงคุณมากกว่านะคะ” เมลานีสวนกลับด้วยความโมโห สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ในโลกใบนี้คือลูกสาว ไม่ว่าวิเศษวิโสมาจากไหนก็ไม่มีสิทธิ์มาแตะต้องของรักของเธอ
“ฉันไม่เชื่อหรอกว่าอีเด็กนี่จะเป็นลูกพี่กริช”
“นั่นมันก็เรื่องของคุณ”
“แกไปมั่วกับผู้ชายที่ไหนมา แล้วยังจะให้พี่กริชรับผิดชอบ อีหน้าด้าน”
จารวีแผดเสียงดังลั่นด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด ลำพังแค่เอาชนะใจกริชเธอก็ใช้ความพยายามอย่างเหลือแสนโดยแทบไม่เคยได้รับอะไรกลับมาเลย อยู่ ๆ ก็มีผู้หญิงคนที่คิดว่ากำจัดออกไปแล้วอุ้มลูกกลับเข้ามาในชีวิตของกริชอีกครั้ง จารวีเห็นสีหน้าของเขาเมื่อวานตอนที่เล่าให้พี่ชายเธอฟัง กริชเหมือนคนที่คว้าดวงดาวมากุมไว้ในกำมือ ท่าทางเปี่ยมสุขแบบนั้นมันกลับเป็นสิ่งที่เธอหวาดกลัว
“เด็กนี่ไม่ใช่ลูกพี่กริช” จารวียังขึ้นเสียงแหวไม่หยุด จนเด็กที่เติบโตมาในบ้านที่มีแต่คนพูดจานิ่มนวลอย่างหนูพายตกใจร้องไห้จ้าและพยายามหนีห่าง แต่จารวีก็เหมือนสติหลุด คว้าตัวของเด็กน้อยเข้ามาจับไว้
เมลานีตกใจรีบวิ่งเข้าไปหวังจะคว้าลูกออกมา แต่จารวีอุ้มหนูพายที่ร้องไห้จ้าเบี่ยงตัวหลบ เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยยิ่งดังลั่นบีบหัวใจคนเป็นแม่ และเสียงแผดร้องของหนูพายก็เรียกเลขาของกริชให้วิ่งหน้าตื่นมาดูเช่นกัน
“ปล่อยลูกฉันนะอีบ้า”
“ฉันจะเอาเด็กนี่ไปตรวจดีเอ็นเอ”
“เอาลูกฉันมา”
“ไม่ แกคงกลัวพี่กริชจะรู้ความจริงสินะ”
“กูบอกให้ปล่อยลูกกูไง” เมลานีกระโจนเข้าถึงตัวและกระชากผมของจารวีจนหงายหลัง อีกแขนคว้าลูกน้อยที่ร้องไห้ด้วยความตกใจมากอดแนบไว้กับอก เห็นอีกฝ่ายยังไม่ยอมสงบก็อุ้มลูกสาวไปฝากคุณเลขาไว้ก่อน
“อีเด็กเลว มึงกล้าทำกูเหรอ” จารวีเบิกตาโพลง ชี้หน้าเมลานีพร้อมตะโกนลั่นด้วยความโกรธ
เมลานีกระชากนิ้วที่ชี้หน้าเธอจนจารวีล้มลงไปกับพื้น จากนั้นกระโดดขึ้นคร่อม ใช้มือข้างหนึ่งจิกผมบนศีรษะผู้หญิงใจร้ายไว้แน่น ฝ่ามืออีกข้างก็ง้างตบไม่ยั้งจนเลือดกบปาก ยิ่งจารวีดิ้น เมลานีก็ยิ่งกระชากหัวของคนที่ทำร้ายลูกสาวโขกลงกับพื้น คนที่อยู่ในตำแหน่งข้างบนและมีแรงโกรธมหาศาลของความเป็นแม่ที่ลูกถูกรังแกย่อมมีพลังอย่างเหลือเชื่อ จารวีพยายามทั้งผลักและข่วน แต่เมลานีก็ไม่ยอมปล่อยมือจากหนังศีรษะแถมยังตบซ้ำเข้าให้อีก จนเธอต้องกรีดร้องขอความช่วยเหลือดังลั่น
“ช่วยด้วย โอ๊ยอีบ้า” ฝ่ามือร้อน ๆ ของเมลานีกระแทกเข้ามาที่ปากเธอซ้ำ จารวีเจ็บจนน้ำหูน้ำตาไหลปนลงมากับเลือดกำเดาที่จมูกและเลือดที่ปาก
“เมล เมลหยุด” กริชกับเจตน์ตกใจจนตาค้างตั้งแต่เห็นเมลานีจิกหัวจารวีลงไปคร่อมตบ จนกระทั่งได้ยินเสียงจารวีร้องไห้ขอความช่วยเหลือนั่นแหละจึงได้สติและตรงเข้ามาแยกหญิงสาวทั้งคู่
กริชพยายามใช้แขนโอบร่างยกเอวเมลานีขึ้นเหนือพื้นแต่มือของหญิงสาวก็ยังกำแน่นอยู่บนหนังศีรษะของจารวีไม่ยอมปล่อย ทั้งดึงทึ้ง ทั้งกระชากจิก เจตน์ต้องเป็นฝ่ายค่อย ๆ งัดแงะนิ้วมือของเมลานีออกจากหัวของน้องสาว ส่วนกริชก็หิ้วตัวของเมลานีให้ลอยละลิ่วออกมาห่างกันเป็นการแยกมวยคนละมุม
“ไอ้เจตน์ มึงเอาตัวจ๋าออกไปก่อน” กริชรีบตะโกนบอกเพื่อนเพราะเมลานีดิ้นรนเพื่อจะกระโจนเข้าหาจารวีอย่างเดือดดาลเหมือนวัวกระทิงเห็นผ้าสีแดงไม่มีผิด
“ใจเย็นเมล”
เจตน์รีบประคองน้องสาวออกไปและปิดประตูตามหลัง ส่วนกริชยังคงดึงรั้งแขนหญิงสาวให้หันกลับมาเผชิญหน้า เมลานีจึงเหวี่ยงแขนอีกข้างเข้าใส่เต็มแรงจนกริชหน้าหัน รีบใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มก็ได้รสเลือดเค็มปร่า
“กูไม่เคยขอให้มึงกลับเข้ามาในชีวิตลูก ไม่เคยอยากให้มึงมาเป็นพ่อของลูกกู”
“พี่รู้ พี่เป็นฝ่ายอยากกลับเข้ามาเองเมล”
กริชพยายามจะเอื้อมคว้าเมลานีเข้ามากอด แม้จะเจ็บจนเหมือนถูกกรีดเนื้อเป็นริ้ว ๆ แล้วเอาเกลือทาซ้ำกับคำพูดของหญิงสาว เมลานีผลักร่างเขาออกพร้อมถอยหนี ทิ่มแทงเขาด้วยสายตาแข็งกร้าวและผิดหวัง มือใหญ่ที่หวังไขว่คว้าเธอไปกอดจึงตกลงข้างตัว รอฟังคำพูดที่เหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจจนแทบล้มทั้งยืน
“จะยากจะจน ลำบากสายตัวแทบขาดกูก็ยังถนอมลูกสุดหัวใจ ถ้ามึงกลับเข้ามาในชีวิตแล้วดีแต่พาความเดือดร้อนมาให้ ต่อไปแม้แต่ปลายก้อยลูก มึงก็จะไม่ได้แตะ”
Special Talk : พี่กริชถ้าช่วงชีวิตของคนเราจะมีเพลงประจำของมันอยู่ ชีวิตผมก็คงเริ่มด้วยเพลงบลูส์อันแสนเศร้าสร้อย...ผมจึงใช้มันเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดในใจ และทุกครั้งที่ผมขึ้นไปร้องเพลงบนเวที ผมจะเห็นเด็กสาวแสนสวยคนหนึ่งที่นั่งมองผมอยู่เงียบ ๆ ท่ามกลางผู้คนที่แต่งตัวมาประชันกันในบาร์ราคาแพงสายตาของผมกลับกวาดไปตกลงที่เธอเท่านั้นผมจำเธอได้ดี แม้วันนี้เธอจะไม่ใช่เด็กน้อยผมเปียแต่เติบโตเป็นหญิงสาวสวยสะพรั่ง ผมรอให้เธอเข้ามาหาเพื่อขอโทษกับสิ่งที่ทำร้ายผมในอดีต แต่เธอก็ไม่ได้ทำแบบนั้น นานวันเข้าจากที่เคยชินก็กลายเป็นผมที่เฝ้ารอให้เธอมานั่งฟังเพลงที่นี่ทุกคืน...และผมก็เลือกที่จะลงมือจัดการเธอผมเริ่มเกมด้วยความแค้นในจุดเริ่มต้น และเข้าสู่เส้นชัยด้วยความว่างเปล่าสามปีในมาเก๊า ผมอยู่กับความถวิลหาที่ไม่อาจเติมเต็ม แล้วกลับเมืองไทยอย่างคนไร้ชีวิตจิตใจ อุทิศพลังทั้งหมดเพื่อทำงาน ซมซานกลับไปโดดเดี่ยวในคอนโดหรูที่แสนเวิ้งว้างจนกระทั่งวันที่ผมได้ยินเสียงรับโทรศัพท์ของโอเปอเรเตอร์คนใหม่ ผมจึงเข้าใจว่าทำไมผมถึงเฝ้ามองหาเงาใครบางคนท่ามกลางฝูงชนอยู่ตลอดเวลาผมหันหลังไปยืมกีตาร์จากนักดนตรีในงานไมเนอร์
โซ่รักตอนพิเศษ โซ่รักวันเกิดของกริชเวียนกลับมาครบรอบอีกครั้งหนึ่ง ทุกคนต่างโหวตเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากไปทะเลอีกครั้งเพราะติดใจวิลลาริมทะเลที่เคยไปในอดีต ป้าละไมขออยู่เฝ้าบ้านเพราะกำลังติดซีรีส์อินเดียอย่างหนักหน่วง เจ้าของวันเกิดผู้เป็นทาสเมียและทาสลูกสาวโดยสมบูรณ์จึงไม่อิดออดที่จะเอาใจสองสาวต่างวัย เพียงแต่ระหว่างทางเขาพาทั้งเมลานี และหนูพายแวะที่วัดแห่งหนึ่งก่อน“แวะที่นี่ก่อนนะคะหนูเมล” จังหวัดเดิมที่เคยอาศัยเป็นทางผ่านก่อนไปทะเล และกริชตั้งใจพาลูกสาวกับเมลานีมาที่นี่อยู่แล้ว จึงถือโอกาสพิเศษนี้แวะเสียเลย“ไหว้พระเหรอคะ”“ค่ะ พี่เตรียมสังฆทานใส่รถมาแล้วด้วย ความจริงตั้งใจจะมาที่นี่ในวันเกิดนั่นแหละ อยากมาทำบุญ”“ทำไมไม่บอกล่ะคะ เมลจะได้ช่วยเตรียมของ” เมื่อเปิดท้ายรถก็พบว่าชายหนุ่มเตรียมเครื่องสังฆทานกล่องใหญ่มาแล้ว เขาเลือกของด้วยตัวเองแล้วนำมาใส่กล่องใส ไม่ใช่สังฆทานสำเร็จรูปที่มักจะใส่กระป๋องสีเหลืองตามแบบที่ร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์มักจะทำกัน“ครั้งหน้านะคะ เมื่อคืนวานพี่เห็นเมลเหนื่อย หมดเรี่ยวหมดแรงก็เลยสงสารไม่อยากกวน” เขาว่านัยน์ตาเยิ้ม สื่อความนัยที่เขาและเมลานีเท่านั้นถึง
ซ่อน 2“งั้นมีรางวัลให้ผัวที่น่ารักคนนี้ไหมล่ะคะ” เสียงห้าวแหบพร่าแต่แววตาของเขากลับเปิดเปลือยความต้องการอันร้อนแรงขึ้นมาทันที ฝ่ามือร้อนผ่าวอีกข้างถลกกระโปรงทรงเอสั้นแค่เข่าของหญิงสาวขึ้นมาแล้วประกบมือลงไปบนเนินเนื้อสามเหลี่ยมอวบอิ่ม บีบเคล้นเบา ๆ แบบจาบจ้วงแต่ก็เร้าใจ“พี่กริช เดี๋ยว” เมลานีเสียงสั่นเมื่อเขาบีบเคล้นที่ความเป็นหญิงของเธออย่างเอาแต่ใจ แต่แล้วก็ต้องซบหน้าลงกับอกและใช้มือจิกไหล่กว้างไว้เป็นหลักยึดเมื่อถูกนิ้วเรียวยาวกรีดลงไปในร่องเนื้ออันไวต่อสัมผัส เมื่อพบติ่งเนื้อนิ้วสากระคายก็กดคลึงหมุนวนจนเรียกน้ำชุ่มฉ่ำออกมาได้สำเร็จ“ดื้อกับพี่นัก คนดื้อต้องถูกลงโทษให้หนัก”“อ๊ะ” ความเสียวแปลบเกิดขึ้นทันทีที่ชายหนุ่มสอดนิ้วเข้ามาในช่องทางที่ชุ่มฉ่ำ เขาหงายมือและงอนิ้วขึ้นด้านบน ควงคว้านจนเจอกับจุดที่ทำหญิงสาวครางกระเส่า จากนั้นจึงเพิ่มจำนวนนิ้วสอดเข้าไปเพื่อจัดการกับคนดื้อ ช่องทางของเธอแม้จะชุ่มฉ่ำแต่ก็ยังคับแน่นจนอึดอัด ชวนให้อยากจะเอาตัวตนของเขาสอดใส่เข้าไปแทนที่ในตอนนี้ให้รู้แล้วรู้รอดเมลานีเสียวซ่านไปทั้งสรรพางค์กาย เลื่อนมือข้างหนึ่งมารั้งข้อมือที่รังแกเธอไม่หยุดหย่อนไว้ แต
ซ่อน 1ตั้งแต่ย้ายไปบ้านหลังที่เตรียมไว้ ข้าวของต่าง ๆ ของเมลานีและหนูพายรวมถึงป้าละไมเพิ่งย้ายเสร็จเรียบร้อย ส่วนกริชที่ข้าวของส่วนตัวของเขาน้อยมาก กลายเป็นเมลานีต้องคอยดูคอยซื้อหาเสื้อผ้าใหม่ ๆ ให้กับเขาอยู่เสมอ พอเธอถามเขาก็บอกว่าขี้เกียจเก็บของจากคอนโดเก่า แต่จริง ๆ หญิงสาวเคยแวะไปที่คอนโดของเขาก็ไม่ได้มีเสื้อผ้าเครื่องใช้เหลืออยู่เท่าไรนัก และด้วยความที่มัวแต่วุ่นวายกับการตกแต่งบ้านหลังใหม่ เมลานีจึงเพิ่งมีโอกาสที่จะเข้าไปเก็บของให้หมดเสียที เพราะรู้ว่ากริชเองก็มัวแต่ยุ่งกับการขยายสาขาหญิงสาวหยิบคีย์การ์ดของคอนโดจากลิ้นชักที่โต๊ะเครื่องแป้งเพื่อเตรียมไปเก็บของให้เขา คอนโดของกริชทำเลดี และราคาแพงลิบลิ่ว เมลานีเคยเสนอให้เขาปล่อยเช่าหากไม่ต้องการอยู่ด้วยตนเอง แต่ชายหนุ่มอ้างว่ากลัวคนเช่าจะทำให้คอนโดของเขาเละเทะ และกริชก็ตั้งใจจะเก็บไว้เป็นสมบัติของลูกเสียมากกว่า“พี่กริชคะเมลกำลังออกไปเก็บของที่เหลือในคอนโดให้นะคะ” หลังจากสตาร์ตรถและขับมาได้ครู่หนึ่งหญิงสาวก็โทรแจ้งเจ้าของสินทรัพย์ให้ทราบ“ฮะ ไม่ เมลไม่ต้องไป” ปลายสายดูร้อนรนขึ้นมาทันทีจนหญิงสาวแปลกใจ“ทำไมคะ ก็ในเมื่อพี่กริชยุ่ง
ผมเปียตั้งแต่ฝึกฝนถักเปียกับสายไฟอยู่พักใหญ่จนมั่นใจว่าถูกต้อง กริชก็เริ่มลองถักผมยาวเหมือนแพรไหมของเมลานี ครั้งแรก ๆ เขาเกร็งมากเพราะกะน้ำหนักมือไม่ถูก กลัวจะทำให้หนังศีรษะของภรรยาหลุดติดมือมาด้วย แต่เมลานีก็คอยสอนคอยบอกจังหวะ ไม่นานเขาก็ถักเปียได้สวยและเป็นระเบียบจนอยากจะลองถักให้ลูกสาวดูบ้างพอได้ทำ ก็กลายเป็นกิจวัตรที่ทุกวันมานี้กริชจะต้องถักผมเปียให้หนูพายทุกเช้าก่อนไปโรงเรียน เวลาลูกและเมียชมว่าทำได้สวย เขาภูมิใจกับมันมากกว่าการได้รับรางวัลนักบริหารดีเด่นของวงการยานยนต์เสียอีก“สวยสุด ๆ ไปเลยลูกสาวพ่อ”“พ่อกิด ไม่ใช่แบบนี้ โน โน” หนูพายเอียงศีรษะข้างซ้ายที ข้างขวาที แล้วไปเขย่าแขนคนเป็นพ่อให้จัดการแก้ไข“อะไรคะ”“ไม่สวย จะเอาแบบที่คุณแม่ทำให้ค่ะ”“แต่ปกติพ่อก็ถักเปียแบบนี้ให้นี่คะลูก” กริชบอกอย่างเอาใจลูกสาวตัวน้อยในชุดนักเรียน“หนูชอบแบบใหม่มากกว่าค่ะ” หนูพายทำปากยื่น “พ่อกิด ทำใหม่ค่ะ”“ทำ...ทำแบบไหนดี” คนเป็นพ่อเริ่มเลิ่กลั่ก กว่าเขาจะสำเร็จวิชาถักเปียก็เสียสายไฟไปหลายขด หนูพายกลับเบื่อเปียของเขาเสียง่าย ๆ กลัวเหลือเกินว่าไอ้แบบใหม่ที่ลูกสาวว่ามันจะทำให้เขาต้องกุมขมับและซื้อ
บ้านใหม่ 1กลิ่นดอกโมกหอมอ่อน ๆ โชยกรุ่นทำให้อากาศยามเช้ายิ่งสดชื่น สนามหญ้าเขียวสบายตาที่ถูกดูแลอย่างดีมีละอองน้ำจากหยาดฝนที่เพิ่งทิ้งช่วงไปตอนเช้ามืดพร่างพรมไปทั่วครั้งหนึ่งกริชไม่ชอบบ้านเพราะพื้นที่กว้างขวางทำให้คนตัวคนเดียวอย่างเขายิ่งโดดเดี่ยว แต่พอรู้ว่ามีความรักและมีลูกสาว เขาก็ซื้อบ้าน ซื้อไว้รอตั้งแต่เมลานีบอกให้เขาตัดใจใต้ต้นสนริมทะเลเขาซื้อบ้านที่มีสนามหญ้ากว้างไว้ให้ลูกวิ่งเล่น และปลูกต้นโมกที่ลูกสาวเคยมอบให้ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันไว้รอบรั้ว ตกแต่งบ้านตามความชอบที่เมลานีเคยเพ้อฝันให้ฟังในสมัยเธอยังเป็นนักศึกษา ถ้าหลังกลับมาจากมาเก๊า เขาทุ่มเททุกอย่างเพื่อสร้างไพน์กรุ๊ป หลังกลับมาจากทะเลอย่างเจ็บปวดแสนสาหัสวันนั้น เขาก็อุทิศความหวังทั้งหมดลงมาที่บ้านหลังนี้ สร้างมันทีละส่วนอย่างตั้งใจ เหมือนกับที่เขารอคอยเมลานีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คล้ายหวังอยู่ลึก ๆ ว่าเขาจะได้มีโอกาสเปลี่ยนบ้านที่เป็นแค่โครงสร้างให้กลายเป็นบ้านที่หมายถึงครอบครัวอย่างแท้จริงและเมื่อวันนั้นมาถึง หญ้าก็เขียวขจี ดอกโมกก็ส่งกลิ่นหอมขจรขจาย…กริชจรดศีรษะลงหอมแก้มนุ่มของลูกสาวตัวน้อยที่ขอแยกห้องนอนไปแล้ว เมื่อ







