Masukเมลานีตื่นขึ้นเพราะเสียงหัวเราะที่คุ้นเคย กะพริบตาเพื่อปรับให้ชินกับความสว่าง ก็เห็นลูกสาวร่างจ้ำม่ำกำลังกระโดดโลดเต้นโดยมีกริชที่ยกนิ้วชี้แตะไปที่ริมฝีปาก ทำเสียง “ชู่” เบา ๆ เพื่อบอกให้ลูกสาวเงียบเสียงก่อน แต่เพราะหน้าตาเขาคงตลกพิลึก หนูพายเลยยิ่งหวีดเสียงหัวเราะดังลั่นขึ้นไปอีก ทำเอาคุณพ่อมือใหม่ทำตัวไม่ถูก ได้แต่นั่งดึงทึ้งหัวตัวเองด้วยความจนใจ
ดี!...จะได้รู้ซะบ้างว่าเลี้ยงเด็กคนหนึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนที่คอยสั่งหรือตวาดพนักงานตัวเล็ก ๆ อย่างเธอให้ทำงานงก ๆ
“ขอโทษที่ทำให้ตื่น” กริชพูดเสียงเบาพร้อมทำหน้าละห้อย เขารู้ว่าเมลานีคงเหนื่อยกับการที่ต้องคอยดูแลเลี้ยงลูกและทำทั้งงานประจำไหนตอนนี้จะหารายได้เสริมจากการทำเทียนหอมอีก
เมลานีขยับลุกขึ้นนั่ง เมื่อคืนเธอหาวิธีศึกษาเกี่ยวกับช่องทางการจัดจำหน่ายเทียนหอมจนดึกดื่น รวมถึงมีเรื่องว้าวุ่นใจจนนอนไม่หลับ ใครจะไปคิดว่าสุดท้ายก็แอบมาอู้หลับกลางวันในเวลาทำงานให้ต้องขายหน้า
“หนูพายมาหาแม่สิคะ”
“ม่าย ม่าย” หนูพายยิ้มทะเล้นเหมือนจะหยอกให้แม่เล่นไล่จับ แล้วใช้ขาอ้วนป้อมพาตัวเองมานั่งบนตักกว้างของชายหนุ่ม ยกมือตบแผ่นอกของผู้เป็นพ่อเล่น จากนั้นยื่นมือออกมากำ-แบ กำ-แบ เหมือนกวักมือร้องเรียกหญิงสาวให้เข้ามาใกล้
“มะ มะ”
“มา มา” กริชเห็นลูกสาวพูดแล้วเมลานียิ้มหวานให้เลยลองเลียนแบบดูบ้าง เพียงแต่ผลลัพธ์ต่างกันลิบลับ เพราะหญิงสาวหุบยิ้มลงทันทีและทำสีหน้าเย็นชาใส่เขาแทน
กริชใจฝ่อแต่ก็เพิ่มพลังโดยก้มลงหอมศีรษะทุยของลูกสาวตัวน้อย จากนั้นยกร่างอ้วนป้อมขึ้นเพื่อเตรียมไปส่งให้เมลานีถึงที่ด้วยหวังจะเอาใจ แต่หนูน้อยยังไม่เบื่อเพื่อนเล่นคนใหม่เลยกอดคอกริชไว้ไม่ยอมปล่อยสักที
“หนูมาที่นี่กับใครคะลูก” เมลานีแปลกใจที่หนูพายขึ้นมาอยู่กับเธอที่ห้องสต็อกอะไหล่กิตติมศักดิ์ ไม่แน่ใจว่ากริชพาตัวมาหรือป้าละไมเป็นคนพามาส่งถึงที่
“มา กิด” หนูน้อยถูหน้าผากไปกับแผ่นอกกว้างของกริชด้วยกิริยาออดอ้อนออเซาะ ทำเอาผู้เป็นพ่อยิ่งโอบกระชับแน่นขึ้นด้วยหัวใจพองโต
“มากับพ่อ” ชายหนุ่มพยายามสอนในสิ่งที่ถูกต้องบ้าง แต่พอเงยหน้าขึ้นเห็นแม่ของหนูพายตาเขียวเหมือนนางยักษ์ กริชก็เปลี่ยนคำสอน “มากับกริชก็ได้ครับ”
“พาลูกมาทำไม” เมลานีไม่พอใจที่เขาเริ่มวุ่นวายกับชีวิตเธอแม่ลูกมากเกินขอบเขต การที่กริชยินดีรับผิดชอบและวิ่งเต้นเรื่องการรักษาพยาบาลลูกอย่างเต็มที่ เมลานียินดีรับ แต่ไม่ต้องการให้เขาเข้ามาข้องแวะมากกว่านี้
“ก็คิดถึง” พอรู้ว่ามีลูกสาวเป็นเด็กน้อยที่เขานึกรักใคร่เอ็นดูตั้งแต่แรกเจอ กริชก็แทบไม่อยากออกห่าง อยากอุ้ม อยากกอดและเฝ้ามองทุกอิริยาบถเพื่อทดแทนช่วงเวลาที่เขาพลาดไปในชีวิต
“คุณไม่ควรพาลูกมาในที่พลุกพล่านแบบนี้ เด็กภูมิคุ้มกันต่ำกว่าผู้ใหญ่อยู่แล้ว แล้วหนูพายก็มีโรคประจำตัว” เมลานีทำเสียงแข็งใส่กริช แต่เด็กน้อยในอ้อมแขนไม่เคยเจอความแข็งกร้าวของมารดาจึงเริ่มเบะปากร้องไห้ หันไปเกี่ยวกอดคอพ่อไว้แน่น ยื้อยุดไม่ยอมเข้าหาหญิงสาวเหมือนที่เคยเป็น
“หนูเมลอย่าขึ้นเสียงกับลูกสิ หนูพายกลัวไปหมดแล้ว” คนเป็นพ่อลูบเนื้อลูบตัว อุ้มลูกสาวขึ้นพาดบ่าเขย่าเบาๆ เป็นการปลอบโยน
“ฉันขึ้นเสียงกับคุณ” หญิงสาวเค้นเสียงลอดไรฟันแต่ไม่กล้าทำเสียงแข็งใส่อีกเหมือนกัน จนกริชต้องเผลออมยิ้ม
“นั่นแหละ พี่ก็กลัวไปหมดแล้ว” นอกจากมือจะปลอบประโลมลูกสาว สายตาของกริชก็ทำหน้าที่เว้าวอนแม่ของลูกไปด้วยจนหญิงสาวสะบัดหน้าหนีไปแบบไม่สนใจไยดี เลือกทอดสายตามองวิวเมืองที่เต็มไปด้วยตึกสูงเรียงรายท้าทายท้องฟ้า
“แมะ แมะ” พอได้ยินเสียงลูกน้อยร้องเรียกอย่างออเซาะ แถมดวงตาของหมูน้อยก็ยังมีน้ำใส ๆ ขังอยู่เมลานีก็ใจอ่อนเหลวละลายกลายเป็นน้ำ รีบชูมือเพื่อเรียกลูกสาวเข้ามาใกล้ กริชถือโอกาสนั้นอุ้มลูกเข้ามานั่งข้าง ๆ แล้วเตรียมส่งลูกสาวให้กับมารดา หนูพายปีนรี่จากตักพ่อเข้าสู่อ้อมกอดแม่ ซุกตัวอยู่กับอกของเมลานี เอียงหน้ายิ้มหวานให้กับกริชที่มองอยู่ตาปรอย
“หิวไหมคะหนูพาย” เมลานีถามลูกสาวที่เปลี่ยนอิริยาบถจากซุกตัวอยู่กับอกเป็นยืนขึ้นบนตัก หน้าของหนูน้อยกับเธอประจันเข้าหากัน
“หิว กิง กิง” เมลานีอมยิ้ม พอพูดถึงเรื่องกินแล้วตาพราวเลยเจ้าหมูน้อยของแม่
“เดี๋ยวแม่หาขนมให้กินนะคะ แต่หนูต้องทำยังไงก่อนเอ่ย”
หนูพายยื่นปากจิ้มลิ้มสีแดงสดเข้ามาจุ๊บปากมารดาเหมือนประจบเอาใจเช่นทุกครั้ง แต่ครั้งนี้เพื่อนคนใหม่ก็ได้รับอานิสงส์ไปด้วยเพราะหนูน้อยผละจากปากของเมลานีแล้วกระเด้งตัวเข้ามาจุ๊บปากของกริชอีกต่อ
มีเสียงหัวเราะสดใสของลูกสาวและเสียงหัวเราะทุ้มต่ำเจ้าเล่ห์สอดประสานกันขึ้น เมลานีถลึงตาใส่กริชเหมือนเอาเรื่อง เพียงแต่ชายหนุ่มกลับยิ้มกว้างตาพราวระยับแถมยังเลิกคิ้วยียวนกวนประสาทกลับมาอีก
“จูบทางอ้อมชัด ๆ”
“อย่ามาพูดจาเพ้อเจ้อต่อหน้าลูก”
“อายอะไรคะหนูเมล มากกว่าจูบก็ทำมาแล้ว”
เมลานีเกือบจะแว้ดใส่คนชีกอพูดจาทะลึ่งตึงตังต่อหน้าลูก แต่พอเห็นหนูพายเดินเตาะแตะเข้ามาแหงนคอมองหน้าและทำตาใสเหมือนลูกแก้วใส่ สุดท้ายเมลานีก็ทำได้แค่ยิ้มหวานกับลูกสาว
กริชกลั้นยิ้มจนตาหยี เจ้าหนูพายตัวกลมของเขาทำหน้าที่ได้ดีเสียจริง เห็นทีต้องตกรางวัลปูนบำเหน็จเป็น ‘ปูกัด’ กองโตซะแล้ว
ร่างสูงใหญ่ขยับตัวเข้ามาใกล้ลูกสาว ยื่นหน้าหอมฟอดใหญ่ จังหวะที่ถอนจมูกออก เผลอโฉบผ่านแก้มนวลของเมลานีไปอีกคน
“หอม ชื่นใจจัง”
“คุณ!”
“หิว แมะ”
กริชหัวเราะลูกสาวที่เข้ามาช่วยชีวิตเขาไว้ได้ทัน มือใหญ่ขยี้ศีรษะน้อย ๆ แล้วหย่งตัวขึ้น นิ้วสากก็ยังอุตส่าห์ลามไปเกี่ยวปอยผมของคนเป็นแม่ไปทัดหลังใบหูบาง จนเมลานีต้องหันมาถลึงตาใส่
“โอเค ๆ” กริชยกมือยอมแพ้ “เดี๋ยวพี่ไปหาอะไรมาให้ลูกกิน เมลอยู่กับลูกไปก่อนนะคะ”
Special Talk : พี่กริชถ้าช่วงชีวิตของคนเราจะมีเพลงประจำของมันอยู่ ชีวิตผมก็คงเริ่มด้วยเพลงบลูส์อันแสนเศร้าสร้อย...ผมจึงใช้มันเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดในใจ และทุกครั้งที่ผมขึ้นไปร้องเพลงบนเวที ผมจะเห็นเด็กสาวแสนสวยคนหนึ่งที่นั่งมองผมอยู่เงียบ ๆ ท่ามกลางผู้คนที่แต่งตัวมาประชันกันในบาร์ราคาแพงสายตาของผมกลับกวาดไปตกลงที่เธอเท่านั้นผมจำเธอได้ดี แม้วันนี้เธอจะไม่ใช่เด็กน้อยผมเปียแต่เติบโตเป็นหญิงสาวสวยสะพรั่ง ผมรอให้เธอเข้ามาหาเพื่อขอโทษกับสิ่งที่ทำร้ายผมในอดีต แต่เธอก็ไม่ได้ทำแบบนั้น นานวันเข้าจากที่เคยชินก็กลายเป็นผมที่เฝ้ารอให้เธอมานั่งฟังเพลงที่นี่ทุกคืน...และผมก็เลือกที่จะลงมือจัดการเธอผมเริ่มเกมด้วยความแค้นในจุดเริ่มต้น และเข้าสู่เส้นชัยด้วยความว่างเปล่าสามปีในมาเก๊า ผมอยู่กับความถวิลหาที่ไม่อาจเติมเต็ม แล้วกลับเมืองไทยอย่างคนไร้ชีวิตจิตใจ อุทิศพลังทั้งหมดเพื่อทำงาน ซมซานกลับไปโดดเดี่ยวในคอนโดหรูที่แสนเวิ้งว้างจนกระทั่งวันที่ผมได้ยินเสียงรับโทรศัพท์ของโอเปอเรเตอร์คนใหม่ ผมจึงเข้าใจว่าทำไมผมถึงเฝ้ามองหาเงาใครบางคนท่ามกลางฝูงชนอยู่ตลอดเวลาผมหันหลังไปยืมกีตาร์จากนักดนตรีในงานไมเนอร์
โซ่รักตอนพิเศษ โซ่รักวันเกิดของกริชเวียนกลับมาครบรอบอีกครั้งหนึ่ง ทุกคนต่างโหวตเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากไปทะเลอีกครั้งเพราะติดใจวิลลาริมทะเลที่เคยไปในอดีต ป้าละไมขออยู่เฝ้าบ้านเพราะกำลังติดซีรีส์อินเดียอย่างหนักหน่วง เจ้าของวันเกิดผู้เป็นทาสเมียและทาสลูกสาวโดยสมบูรณ์จึงไม่อิดออดที่จะเอาใจสองสาวต่างวัย เพียงแต่ระหว่างทางเขาพาทั้งเมลานี และหนูพายแวะที่วัดแห่งหนึ่งก่อน“แวะที่นี่ก่อนนะคะหนูเมล” จังหวัดเดิมที่เคยอาศัยเป็นทางผ่านก่อนไปทะเล และกริชตั้งใจพาลูกสาวกับเมลานีมาที่นี่อยู่แล้ว จึงถือโอกาสพิเศษนี้แวะเสียเลย“ไหว้พระเหรอคะ”“ค่ะ พี่เตรียมสังฆทานใส่รถมาแล้วด้วย ความจริงตั้งใจจะมาที่นี่ในวันเกิดนั่นแหละ อยากมาทำบุญ”“ทำไมไม่บอกล่ะคะ เมลจะได้ช่วยเตรียมของ” เมื่อเปิดท้ายรถก็พบว่าชายหนุ่มเตรียมเครื่องสังฆทานกล่องใหญ่มาแล้ว เขาเลือกของด้วยตัวเองแล้วนำมาใส่กล่องใส ไม่ใช่สังฆทานสำเร็จรูปที่มักจะใส่กระป๋องสีเหลืองตามแบบที่ร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์มักจะทำกัน“ครั้งหน้านะคะ เมื่อคืนวานพี่เห็นเมลเหนื่อย หมดเรี่ยวหมดแรงก็เลยสงสารไม่อยากกวน” เขาว่านัยน์ตาเยิ้ม สื่อความนัยที่เขาและเมลานีเท่านั้นถึง
ซ่อน 2“งั้นมีรางวัลให้ผัวที่น่ารักคนนี้ไหมล่ะคะ” เสียงห้าวแหบพร่าแต่แววตาของเขากลับเปิดเปลือยความต้องการอันร้อนแรงขึ้นมาทันที ฝ่ามือร้อนผ่าวอีกข้างถลกกระโปรงทรงเอสั้นแค่เข่าของหญิงสาวขึ้นมาแล้วประกบมือลงไปบนเนินเนื้อสามเหลี่ยมอวบอิ่ม บีบเคล้นเบา ๆ แบบจาบจ้วงแต่ก็เร้าใจ“พี่กริช เดี๋ยว” เมลานีเสียงสั่นเมื่อเขาบีบเคล้นที่ความเป็นหญิงของเธออย่างเอาแต่ใจ แต่แล้วก็ต้องซบหน้าลงกับอกและใช้มือจิกไหล่กว้างไว้เป็นหลักยึดเมื่อถูกนิ้วเรียวยาวกรีดลงไปในร่องเนื้ออันไวต่อสัมผัส เมื่อพบติ่งเนื้อนิ้วสากระคายก็กดคลึงหมุนวนจนเรียกน้ำชุ่มฉ่ำออกมาได้สำเร็จ“ดื้อกับพี่นัก คนดื้อต้องถูกลงโทษให้หนัก”“อ๊ะ” ความเสียวแปลบเกิดขึ้นทันทีที่ชายหนุ่มสอดนิ้วเข้ามาในช่องทางที่ชุ่มฉ่ำ เขาหงายมือและงอนิ้วขึ้นด้านบน ควงคว้านจนเจอกับจุดที่ทำหญิงสาวครางกระเส่า จากนั้นจึงเพิ่มจำนวนนิ้วสอดเข้าไปเพื่อจัดการกับคนดื้อ ช่องทางของเธอแม้จะชุ่มฉ่ำแต่ก็ยังคับแน่นจนอึดอัด ชวนให้อยากจะเอาตัวตนของเขาสอดใส่เข้าไปแทนที่ในตอนนี้ให้รู้แล้วรู้รอดเมลานีเสียวซ่านไปทั้งสรรพางค์กาย เลื่อนมือข้างหนึ่งมารั้งข้อมือที่รังแกเธอไม่หยุดหย่อนไว้ แต
ซ่อน 1ตั้งแต่ย้ายไปบ้านหลังที่เตรียมไว้ ข้าวของต่าง ๆ ของเมลานีและหนูพายรวมถึงป้าละไมเพิ่งย้ายเสร็จเรียบร้อย ส่วนกริชที่ข้าวของส่วนตัวของเขาน้อยมาก กลายเป็นเมลานีต้องคอยดูคอยซื้อหาเสื้อผ้าใหม่ ๆ ให้กับเขาอยู่เสมอ พอเธอถามเขาก็บอกว่าขี้เกียจเก็บของจากคอนโดเก่า แต่จริง ๆ หญิงสาวเคยแวะไปที่คอนโดของเขาก็ไม่ได้มีเสื้อผ้าเครื่องใช้เหลืออยู่เท่าไรนัก และด้วยความที่มัวแต่วุ่นวายกับการตกแต่งบ้านหลังใหม่ เมลานีจึงเพิ่งมีโอกาสที่จะเข้าไปเก็บของให้หมดเสียที เพราะรู้ว่ากริชเองก็มัวแต่ยุ่งกับการขยายสาขาหญิงสาวหยิบคีย์การ์ดของคอนโดจากลิ้นชักที่โต๊ะเครื่องแป้งเพื่อเตรียมไปเก็บของให้เขา คอนโดของกริชทำเลดี และราคาแพงลิบลิ่ว เมลานีเคยเสนอให้เขาปล่อยเช่าหากไม่ต้องการอยู่ด้วยตนเอง แต่ชายหนุ่มอ้างว่ากลัวคนเช่าจะทำให้คอนโดของเขาเละเทะ และกริชก็ตั้งใจจะเก็บไว้เป็นสมบัติของลูกเสียมากกว่า“พี่กริชคะเมลกำลังออกไปเก็บของที่เหลือในคอนโดให้นะคะ” หลังจากสตาร์ตรถและขับมาได้ครู่หนึ่งหญิงสาวก็โทรแจ้งเจ้าของสินทรัพย์ให้ทราบ“ฮะ ไม่ เมลไม่ต้องไป” ปลายสายดูร้อนรนขึ้นมาทันทีจนหญิงสาวแปลกใจ“ทำไมคะ ก็ในเมื่อพี่กริชยุ่ง
ผมเปียตั้งแต่ฝึกฝนถักเปียกับสายไฟอยู่พักใหญ่จนมั่นใจว่าถูกต้อง กริชก็เริ่มลองถักผมยาวเหมือนแพรไหมของเมลานี ครั้งแรก ๆ เขาเกร็งมากเพราะกะน้ำหนักมือไม่ถูก กลัวจะทำให้หนังศีรษะของภรรยาหลุดติดมือมาด้วย แต่เมลานีก็คอยสอนคอยบอกจังหวะ ไม่นานเขาก็ถักเปียได้สวยและเป็นระเบียบจนอยากจะลองถักให้ลูกสาวดูบ้างพอได้ทำ ก็กลายเป็นกิจวัตรที่ทุกวันมานี้กริชจะต้องถักผมเปียให้หนูพายทุกเช้าก่อนไปโรงเรียน เวลาลูกและเมียชมว่าทำได้สวย เขาภูมิใจกับมันมากกว่าการได้รับรางวัลนักบริหารดีเด่นของวงการยานยนต์เสียอีก“สวยสุด ๆ ไปเลยลูกสาวพ่อ”“พ่อกิด ไม่ใช่แบบนี้ โน โน” หนูพายเอียงศีรษะข้างซ้ายที ข้างขวาที แล้วไปเขย่าแขนคนเป็นพ่อให้จัดการแก้ไข“อะไรคะ”“ไม่สวย จะเอาแบบที่คุณแม่ทำให้ค่ะ”“แต่ปกติพ่อก็ถักเปียแบบนี้ให้นี่คะลูก” กริชบอกอย่างเอาใจลูกสาวตัวน้อยในชุดนักเรียน“หนูชอบแบบใหม่มากกว่าค่ะ” หนูพายทำปากยื่น “พ่อกิด ทำใหม่ค่ะ”“ทำ...ทำแบบไหนดี” คนเป็นพ่อเริ่มเลิ่กลั่ก กว่าเขาจะสำเร็จวิชาถักเปียก็เสียสายไฟไปหลายขด หนูพายกลับเบื่อเปียของเขาเสียง่าย ๆ กลัวเหลือเกินว่าไอ้แบบใหม่ที่ลูกสาวว่ามันจะทำให้เขาต้องกุมขมับและซื้อ
บ้านใหม่ 1กลิ่นดอกโมกหอมอ่อน ๆ โชยกรุ่นทำให้อากาศยามเช้ายิ่งสดชื่น สนามหญ้าเขียวสบายตาที่ถูกดูแลอย่างดีมีละอองน้ำจากหยาดฝนที่เพิ่งทิ้งช่วงไปตอนเช้ามืดพร่างพรมไปทั่วครั้งหนึ่งกริชไม่ชอบบ้านเพราะพื้นที่กว้างขวางทำให้คนตัวคนเดียวอย่างเขายิ่งโดดเดี่ยว แต่พอรู้ว่ามีความรักและมีลูกสาว เขาก็ซื้อบ้าน ซื้อไว้รอตั้งแต่เมลานีบอกให้เขาตัดใจใต้ต้นสนริมทะเลเขาซื้อบ้านที่มีสนามหญ้ากว้างไว้ให้ลูกวิ่งเล่น และปลูกต้นโมกที่ลูกสาวเคยมอบให้ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันไว้รอบรั้ว ตกแต่งบ้านตามความชอบที่เมลานีเคยเพ้อฝันให้ฟังในสมัยเธอยังเป็นนักศึกษา ถ้าหลังกลับมาจากมาเก๊า เขาทุ่มเททุกอย่างเพื่อสร้างไพน์กรุ๊ป หลังกลับมาจากทะเลอย่างเจ็บปวดแสนสาหัสวันนั้น เขาก็อุทิศความหวังทั้งหมดลงมาที่บ้านหลังนี้ สร้างมันทีละส่วนอย่างตั้งใจ เหมือนกับที่เขารอคอยเมลานีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คล้ายหวังอยู่ลึก ๆ ว่าเขาจะได้มีโอกาสเปลี่ยนบ้านที่เป็นแค่โครงสร้างให้กลายเป็นบ้านที่หมายถึงครอบครัวอย่างแท้จริงและเมื่อวันนั้นมาถึง หญ้าก็เขียวขจี ดอกโมกก็ส่งกลิ่นหอมขจรขจาย…กริชจรดศีรษะลงหอมแก้มนุ่มของลูกสาวตัวน้อยที่ขอแยกห้องนอนไปแล้ว เมื่อ







