LOGINกริชไม่มีเงินแม้แต่จะประกันตัว เขาไม่มีญาติคนอื่นอีก และที่เป็นห่วงมากที่สุดก็คือย่าซึ่งนอนติดเตียงอยู่เพียงลำพัง ในตอนกลางวันกริชจะจ้างป้าละไม ซึ่งเป็นคนในชุมชนเดียวกันดูแลย่าของเขา แต่ในตอนกลางคืนป้าละไมเองก็ต้องกลับไปนอนที่บ้านและเตรียมทำขนมขายเพื่อหารายได้อีกทางหนึ่ง
กริชพยายามดิ้นรนและเล่าความจริงว่าเขาเพิ่งขี่รถคันนั้นออกมาจากบ้านของเมฆาเพื่อไปซื้อยาให้ย่า รถคันนั้นถูกจอดไว้เพราะเขานำไปจำนำ แต่เพราะไม่มีสัญญาใด ๆ รวมถึงเมฆาก็ปฏิเสธทุกคำให้การของกริช ทางรอดของเขาจึงช่างน้อยนิด
“เจตน์มึงช่วยไปดูย่าหน่อยได้ไหม อย่าบอกย่าว่ากูติดคุก ให้บอกว่ากูได้ทุนไปฝึกงานต่างประเทศ แล้วกูจะได้เงินรางวัลเขียนแบบเครื่องยนต์ของโรงงานประมาณสองแสนบาทช่วงสิ้นเดือน มึงไปรับแทนกูแล้วเอาไปเป็นค่าคนดูแลย่า ขอร้องป้าละไมให้ช่วยหน่อย เขารักย่า คงเห็นใจอยู่พอสมควร”
กริชบอกเพื่อนเพียงคนเดียวที่มาช่วยเขาวิ่งเต้นและดำเนินการต่าง ๆ รวมถึงเป็นธุระเรื่องย่าที่เขากังวลที่สุด
การบอกว่าต้องไปดูงานที่ต่างประเทศอาจยื้อเวลาได้ระยะหนึ่ง เพราะตั้งแต่เรียนในชั้นมหาวิทยาลัย กริชก็เป็นตัวแทนของคณะไปแข่งขันและประกวดโครงการต่าง ๆ อยู่บ่อยครั้ง และเมื่อกลับมาผู้เป็นย่าจะยิ้มกว้างด้วยความภาคภูมิใจ เขายอมให้ความสุขเดียวของคนติดเตียง ที่เป็นความหวังของย่าหมดสิ้นลงไปไม่ได้
“ชั่วคราวน่ะได้ แต่ถ้านาน ๆ ไป ย่ามึงก็ต้องสงสัยไอ้กริช”
“มึงไปขอให้เด็กคนนั้นช่วยมาเป็นพยานให้กูได้ไหม เด็กที่ชื่อหนูเมล” กริชถามเพื่อนด้วยความหวังอันริบหรี่
เจตน์ส่ายหน้า แถมต่อท้ายประโยคที่เป็นการเปิดประตูห้องขังใส่หน้านักโทษไร้มลทินอย่างเขาให้ยิ่งหมดแรงว่า
“เด็กคนนั้นบอกว่าไม่รู้เรื่อง ไม่มีใครมาเอามอเตอร์ไซค์ที่บ้านทั้งนั้นว่ะกริช”
“ไม่จริง เด็กนั่นโกหก”
“ทำใจเถอะว่ะกริช หลักฐานมันชี้มาที่มึง แถมมึงไม่มีเงิน ไม่มีทนายเก่ง ๆ คอยวิ่งเต้นให้ รับสารภาพในชั้นต้นซะ จะติดคุกน้อยที่สุด”
“แต่กูไม่ได้ทำ”
“กูรู้ แต่ไม่มีใครเป็นพยานให้มึงไง มึงต้องเลือกระหว่างสู้แล้วติดนาน กับคิดซะว่าเป็นเวรกรรมแล้วเลือกทางที่เจ็บตัวน้อยที่สุด คุกมันมีไว้สำหรับขังคนจน มึงเข้าใจไหม”
สุดท้ายคำพูดของเจตน์ก็เป็นเรื่องจริง เขาดิ้นไม่หลุดและถูกพิพากษาให้ติดคุกนานถึงห้าปี
จากบัณฑิตเกียรตินิยมที่มีอนาคตสดใสรออยู่เหมือนตะวันดับในชั่วพริบตา ไหนยังจะย่าที่ชายหนุ่มไม่สามารถดูแลได้อีกแล้ว สุดท้ายย่าก็จากเขาไปในปีที่สามของการจองจำ
แต่ที่เจ็บใจที่สุดคือไอ้สารเลวเมฆายังมีหน้ามาเยี่ยมเขาถึงเรือนจำเพื่อติดต่อให้กริชเป็นเครือข่ายขายยาบ้าในคุกให้มันอีก คล้ายว่ามันไม่สะทกสะท้านกับการที่ทำลายชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปทั้งคน ความหวังที่จะให้ย่าได้เห็นเขาใส่ชุดครุยและตอบแทนที่ดูแลเขาแทนพ่อแม่ที่เสียชีวิตไปตั้งแต่ยังเด็กเป็นเพียงลมพัดผ่านอันเลื่อนลอย โซ่ตรวนและอาญาที่เขาได้รับอย่างอยุติธรรมกลายเป็นความจริงที่ต้องแบกรับและคงเป็นตราบาปไปตราบชั่วชีวิต ต่อให้พยายามล้างอย่างไรประวัติของเขาก็ไม่มีวันกลับมาขาวสะอาด รอยมลทินที่ถูกแต้มจนเปรอะเปื้อนโดยเรียกร้องความรับผิดชอบจากใครไม่ได้ เขาจะจัดการสาดความโสมมคืนกลับไปยังต้นตอแห่งความเลวร้ายด้วยตนเอง นี่คงเป็นสิ่งเดียวที่เขาจะทวงคืนให้กับตนเองและวิญญาณของย่าที่ล่วงลับในปรโลก
คู่พี่น้องที่เสวยสุขอยู่บนความทุกข์ของครอบครัวเขาตลอดหลายปีที่ผ่านมาโดยไม่มีท่าทีสะทกสะท้าน เมฆากลายเป็นเอเจนต์ค้ายารายใหญ่ของจังหวัด กอบโกยเงินทองจากหยาดน้ำตาของคนอื่นไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร ส่วนน้องสาวตัวดีที่ครั้งแรกเขาเองเคยคิดจะละเว้นเพราะเห็นแก่ความเป็นผู้เยาว์ในวันที่เธอเลือกจะโกหกเพื่อปกป้องพี่ชายตนเอง และแน่นอนว่านั่นคือการช่วยผลักเขาเข้าสู่ประตูเรือนจำ เขาเกือบจะอโหสิกรรมให้เพราะหญิงสาวในตอนนั้นอายุเพียงสิบสามปีเท่านั้น
เมลานียังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจถึงกระบวนการยุติธรรม แต่เมื่อเขาพบเธออีกครั้งและถามว่าเคยพบกันมาก่อนหรือไม่ เด็กสาวคนนั้นกลับลืมเลือนคนที่เคยถีบเข้าไปอยู่ในตะรางแทนพี่ชายได้ลงคอ ถึงตอนนี้กริชเองก็ไม่แน่ใจว่าเมลานีจำเรื่องราวที่ผ่านมาไม่ได้จริง ๆ หรือเธอเสแสร้งแกล้งทำเป็นจำเขาไม่ได้ เพราะทุกครั้งที่ถามถึงเมฆาพี่ชายของเธอ เมลานีมักเลี่ยงที่จะตอบอยู่เสมอ
สำหรับกริช ถ้าเพียงแต่ครั้งแรกที่เจอกัน หญิงสาวแสดงอาการตกใจ เสียใจ และยอมขอโทษที่ไม่ยอมเป็นพยานให้เขาเมื่อเจ็ดปีก่อน ชายหนุ่มอาจจะต่อว่าเธอ แต่จะปล่อยเด็กผู้หญิงคนนี้ไป แล้วเลือกจัดการกับคนที่เป็นมารสังคมตัวจริงอย่างเมฆาเพียงคนเดียว
เขาออกจากคุกมาเมื่อสองปีก่อน ได้รับอิสรภาพเพื่อจะมาพบว่าไม่มีใครรอเขาอยู่ ย่าจากไปแล้วแต่กลับทิ้งเงินประกันชีวิตซึ่งเขาไม่เคยทราบมาก่อนไว้ให้ ย่าทำตั้งแต่เมื่อยามครอบครัวของเขายังพอมีกินมีใช้ วันที่ตัวแทนประกันชีวิตนำเงินมามอบให้ เขาถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
กริชเป็นหลานชายคนเดียว เป็นหลานที่ไม่เคยได้ตอบแทน ไม่เคยได้มอบความสุขสบายใด ๆ ให้กับคนที่เขารักที่สุดในชีวิตเลย ในทางตรงกันข้ามแม้ในช่วงที่มืดมนที่สุด ไร้ที่พึ่งอับจนหนทาง กระทั่งตัวของย่าก็จากไปแล้ว ทว่ากลับทิ้งเงินหลักล้านไว้ให้เขาได้ตั้งตัวและเริ่มต้นใหม่
กริชเลือกทำในสิ่งที่ตนเองถนัด นั่นคือเปิดอู่ซ่อมรถจนค่อย ๆ ขยับขยายสู่การทำร้านประดับยนต์ และซื้อขายรถมือสอง ความเชี่ยวชาญที่มีผลักให้เขาทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ การอยู่ในเรือนจำทำให้เขาพบและสนิทสนมกับนักโทษที่มีอิทธิพล ในขณะเดียวกันในวงการของการแต่งรถ เขาก็ได้รู้จักกับกลุ่มคนทั้งสีขาวและสีเทา เรื่องราวของเมฆาในฐานะเอเจนต์ค้ายารายใหญ่ก็เข้าถึงหูเขาไม่เคยขาด
การจะรวบตัวพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ของจังหวัดพร้อมของกลางชนิดดิ้นไม่หลุดไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเป็นไปไม่ได้ เพราะเขารู้ว่าจุดอ่อนของเมฆาอยู่ที่หญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างตัวเขาตอนนี้
เมลานีจะเป็นเหยื่อล่อเรียกพี่ชายเธอออกมาให้ตำรวจรวบตัวได้แบบเบ็ดเสร็จ กริชกดฝีเท้าลงไปบนคันเร่งอย่างเต็มกำลังของเครื่องยนต์ จุดหมายปลายทางของเขาอยู่ไม่ไกล เหมือนที่จุดจบของสองพี่น้องคู่นี้กำลังใกล้เข้ามาทุกทีเช่นเดียวกัน
Special Talk : พี่กริชถ้าช่วงชีวิตของคนเราจะมีเพลงประจำของมันอยู่ ชีวิตผมก็คงเริ่มด้วยเพลงบลูส์อันแสนเศร้าสร้อย...ผมจึงใช้มันเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดในใจ และทุกครั้งที่ผมขึ้นไปร้องเพลงบนเวที ผมจะเห็นเด็กสาวแสนสวยคนหนึ่งที่นั่งมองผมอยู่เงียบ ๆ ท่ามกลางผู้คนที่แต่งตัวมาประชันกันในบาร์ราคาแพงสายตาของผมกลับกวาดไปตกลงที่เธอเท่านั้นผมจำเธอได้ดี แม้วันนี้เธอจะไม่ใช่เด็กน้อยผมเปียแต่เติบโตเป็นหญิงสาวสวยสะพรั่ง ผมรอให้เธอเข้ามาหาเพื่อขอโทษกับสิ่งที่ทำร้ายผมในอดีต แต่เธอก็ไม่ได้ทำแบบนั้น นานวันเข้าจากที่เคยชินก็กลายเป็นผมที่เฝ้ารอให้เธอมานั่งฟังเพลงที่นี่ทุกคืน...และผมก็เลือกที่จะลงมือจัดการเธอผมเริ่มเกมด้วยความแค้นในจุดเริ่มต้น และเข้าสู่เส้นชัยด้วยความว่างเปล่าสามปีในมาเก๊า ผมอยู่กับความถวิลหาที่ไม่อาจเติมเต็ม แล้วกลับเมืองไทยอย่างคนไร้ชีวิตจิตใจ อุทิศพลังทั้งหมดเพื่อทำงาน ซมซานกลับไปโดดเดี่ยวในคอนโดหรูที่แสนเวิ้งว้างจนกระทั่งวันที่ผมได้ยินเสียงรับโทรศัพท์ของโอเปอเรเตอร์คนใหม่ ผมจึงเข้าใจว่าทำไมผมถึงเฝ้ามองหาเงาใครบางคนท่ามกลางฝูงชนอยู่ตลอดเวลาผมหันหลังไปยืมกีตาร์จากนักดนตรีในงานไมเนอร์
โซ่รักตอนพิเศษ โซ่รักวันเกิดของกริชเวียนกลับมาครบรอบอีกครั้งหนึ่ง ทุกคนต่างโหวตเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากไปทะเลอีกครั้งเพราะติดใจวิลลาริมทะเลที่เคยไปในอดีต ป้าละไมขออยู่เฝ้าบ้านเพราะกำลังติดซีรีส์อินเดียอย่างหนักหน่วง เจ้าของวันเกิดผู้เป็นทาสเมียและทาสลูกสาวโดยสมบูรณ์จึงไม่อิดออดที่จะเอาใจสองสาวต่างวัย เพียงแต่ระหว่างทางเขาพาทั้งเมลานี และหนูพายแวะที่วัดแห่งหนึ่งก่อน“แวะที่นี่ก่อนนะคะหนูเมล” จังหวัดเดิมที่เคยอาศัยเป็นทางผ่านก่อนไปทะเล และกริชตั้งใจพาลูกสาวกับเมลานีมาที่นี่อยู่แล้ว จึงถือโอกาสพิเศษนี้แวะเสียเลย“ไหว้พระเหรอคะ”“ค่ะ พี่เตรียมสังฆทานใส่รถมาแล้วด้วย ความจริงตั้งใจจะมาที่นี่ในวันเกิดนั่นแหละ อยากมาทำบุญ”“ทำไมไม่บอกล่ะคะ เมลจะได้ช่วยเตรียมของ” เมื่อเปิดท้ายรถก็พบว่าชายหนุ่มเตรียมเครื่องสังฆทานกล่องใหญ่มาแล้ว เขาเลือกของด้วยตัวเองแล้วนำมาใส่กล่องใส ไม่ใช่สังฆทานสำเร็จรูปที่มักจะใส่กระป๋องสีเหลืองตามแบบที่ร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์มักจะทำกัน“ครั้งหน้านะคะ เมื่อคืนวานพี่เห็นเมลเหนื่อย หมดเรี่ยวหมดแรงก็เลยสงสารไม่อยากกวน” เขาว่านัยน์ตาเยิ้ม สื่อความนัยที่เขาและเมลานีเท่านั้นถึง
ซ่อน 2“งั้นมีรางวัลให้ผัวที่น่ารักคนนี้ไหมล่ะคะ” เสียงห้าวแหบพร่าแต่แววตาของเขากลับเปิดเปลือยความต้องการอันร้อนแรงขึ้นมาทันที ฝ่ามือร้อนผ่าวอีกข้างถลกกระโปรงทรงเอสั้นแค่เข่าของหญิงสาวขึ้นมาแล้วประกบมือลงไปบนเนินเนื้อสามเหลี่ยมอวบอิ่ม บีบเคล้นเบา ๆ แบบจาบจ้วงแต่ก็เร้าใจ“พี่กริช เดี๋ยว” เมลานีเสียงสั่นเมื่อเขาบีบเคล้นที่ความเป็นหญิงของเธออย่างเอาแต่ใจ แต่แล้วก็ต้องซบหน้าลงกับอกและใช้มือจิกไหล่กว้างไว้เป็นหลักยึดเมื่อถูกนิ้วเรียวยาวกรีดลงไปในร่องเนื้ออันไวต่อสัมผัส เมื่อพบติ่งเนื้อนิ้วสากระคายก็กดคลึงหมุนวนจนเรียกน้ำชุ่มฉ่ำออกมาได้สำเร็จ“ดื้อกับพี่นัก คนดื้อต้องถูกลงโทษให้หนัก”“อ๊ะ” ความเสียวแปลบเกิดขึ้นทันทีที่ชายหนุ่มสอดนิ้วเข้ามาในช่องทางที่ชุ่มฉ่ำ เขาหงายมือและงอนิ้วขึ้นด้านบน ควงคว้านจนเจอกับจุดที่ทำหญิงสาวครางกระเส่า จากนั้นจึงเพิ่มจำนวนนิ้วสอดเข้าไปเพื่อจัดการกับคนดื้อ ช่องทางของเธอแม้จะชุ่มฉ่ำแต่ก็ยังคับแน่นจนอึดอัด ชวนให้อยากจะเอาตัวตนของเขาสอดใส่เข้าไปแทนที่ในตอนนี้ให้รู้แล้วรู้รอดเมลานีเสียวซ่านไปทั้งสรรพางค์กาย เลื่อนมือข้างหนึ่งมารั้งข้อมือที่รังแกเธอไม่หยุดหย่อนไว้ แต
ซ่อน 1ตั้งแต่ย้ายไปบ้านหลังที่เตรียมไว้ ข้าวของต่าง ๆ ของเมลานีและหนูพายรวมถึงป้าละไมเพิ่งย้ายเสร็จเรียบร้อย ส่วนกริชที่ข้าวของส่วนตัวของเขาน้อยมาก กลายเป็นเมลานีต้องคอยดูคอยซื้อหาเสื้อผ้าใหม่ ๆ ให้กับเขาอยู่เสมอ พอเธอถามเขาก็บอกว่าขี้เกียจเก็บของจากคอนโดเก่า แต่จริง ๆ หญิงสาวเคยแวะไปที่คอนโดของเขาก็ไม่ได้มีเสื้อผ้าเครื่องใช้เหลืออยู่เท่าไรนัก และด้วยความที่มัวแต่วุ่นวายกับการตกแต่งบ้านหลังใหม่ เมลานีจึงเพิ่งมีโอกาสที่จะเข้าไปเก็บของให้หมดเสียที เพราะรู้ว่ากริชเองก็มัวแต่ยุ่งกับการขยายสาขาหญิงสาวหยิบคีย์การ์ดของคอนโดจากลิ้นชักที่โต๊ะเครื่องแป้งเพื่อเตรียมไปเก็บของให้เขา คอนโดของกริชทำเลดี และราคาแพงลิบลิ่ว เมลานีเคยเสนอให้เขาปล่อยเช่าหากไม่ต้องการอยู่ด้วยตนเอง แต่ชายหนุ่มอ้างว่ากลัวคนเช่าจะทำให้คอนโดของเขาเละเทะ และกริชก็ตั้งใจจะเก็บไว้เป็นสมบัติของลูกเสียมากกว่า“พี่กริชคะเมลกำลังออกไปเก็บของที่เหลือในคอนโดให้นะคะ” หลังจากสตาร์ตรถและขับมาได้ครู่หนึ่งหญิงสาวก็โทรแจ้งเจ้าของสินทรัพย์ให้ทราบ“ฮะ ไม่ เมลไม่ต้องไป” ปลายสายดูร้อนรนขึ้นมาทันทีจนหญิงสาวแปลกใจ“ทำไมคะ ก็ในเมื่อพี่กริชยุ่ง
ผมเปียตั้งแต่ฝึกฝนถักเปียกับสายไฟอยู่พักใหญ่จนมั่นใจว่าถูกต้อง กริชก็เริ่มลองถักผมยาวเหมือนแพรไหมของเมลานี ครั้งแรก ๆ เขาเกร็งมากเพราะกะน้ำหนักมือไม่ถูก กลัวจะทำให้หนังศีรษะของภรรยาหลุดติดมือมาด้วย แต่เมลานีก็คอยสอนคอยบอกจังหวะ ไม่นานเขาก็ถักเปียได้สวยและเป็นระเบียบจนอยากจะลองถักให้ลูกสาวดูบ้างพอได้ทำ ก็กลายเป็นกิจวัตรที่ทุกวันมานี้กริชจะต้องถักผมเปียให้หนูพายทุกเช้าก่อนไปโรงเรียน เวลาลูกและเมียชมว่าทำได้สวย เขาภูมิใจกับมันมากกว่าการได้รับรางวัลนักบริหารดีเด่นของวงการยานยนต์เสียอีก“สวยสุด ๆ ไปเลยลูกสาวพ่อ”“พ่อกิด ไม่ใช่แบบนี้ โน โน” หนูพายเอียงศีรษะข้างซ้ายที ข้างขวาที แล้วไปเขย่าแขนคนเป็นพ่อให้จัดการแก้ไข“อะไรคะ”“ไม่สวย จะเอาแบบที่คุณแม่ทำให้ค่ะ”“แต่ปกติพ่อก็ถักเปียแบบนี้ให้นี่คะลูก” กริชบอกอย่างเอาใจลูกสาวตัวน้อยในชุดนักเรียน“หนูชอบแบบใหม่มากกว่าค่ะ” หนูพายทำปากยื่น “พ่อกิด ทำใหม่ค่ะ”“ทำ...ทำแบบไหนดี” คนเป็นพ่อเริ่มเลิ่กลั่ก กว่าเขาจะสำเร็จวิชาถักเปียก็เสียสายไฟไปหลายขด หนูพายกลับเบื่อเปียของเขาเสียง่าย ๆ กลัวเหลือเกินว่าไอ้แบบใหม่ที่ลูกสาวว่ามันจะทำให้เขาต้องกุมขมับและซื้อ
บ้านใหม่ 1กลิ่นดอกโมกหอมอ่อน ๆ โชยกรุ่นทำให้อากาศยามเช้ายิ่งสดชื่น สนามหญ้าเขียวสบายตาที่ถูกดูแลอย่างดีมีละอองน้ำจากหยาดฝนที่เพิ่งทิ้งช่วงไปตอนเช้ามืดพร่างพรมไปทั่วครั้งหนึ่งกริชไม่ชอบบ้านเพราะพื้นที่กว้างขวางทำให้คนตัวคนเดียวอย่างเขายิ่งโดดเดี่ยว แต่พอรู้ว่ามีความรักและมีลูกสาว เขาก็ซื้อบ้าน ซื้อไว้รอตั้งแต่เมลานีบอกให้เขาตัดใจใต้ต้นสนริมทะเลเขาซื้อบ้านที่มีสนามหญ้ากว้างไว้ให้ลูกวิ่งเล่น และปลูกต้นโมกที่ลูกสาวเคยมอบให้ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันไว้รอบรั้ว ตกแต่งบ้านตามความชอบที่เมลานีเคยเพ้อฝันให้ฟังในสมัยเธอยังเป็นนักศึกษา ถ้าหลังกลับมาจากมาเก๊า เขาทุ่มเททุกอย่างเพื่อสร้างไพน์กรุ๊ป หลังกลับมาจากทะเลอย่างเจ็บปวดแสนสาหัสวันนั้น เขาก็อุทิศความหวังทั้งหมดลงมาที่บ้านหลังนี้ สร้างมันทีละส่วนอย่างตั้งใจ เหมือนกับที่เขารอคอยเมลานีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คล้ายหวังอยู่ลึก ๆ ว่าเขาจะได้มีโอกาสเปลี่ยนบ้านที่เป็นแค่โครงสร้างให้กลายเป็นบ้านที่หมายถึงครอบครัวอย่างแท้จริงและเมื่อวันนั้นมาถึง หญ้าก็เขียวขจี ดอกโมกก็ส่งกลิ่นหอมขจรขจาย…กริชจรดศีรษะลงหอมแก้มนุ่มของลูกสาวตัวน้อยที่ขอแยกห้องนอนไปแล้ว เมื่อ






![นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)
