เข้าสู่ระบบตอนที่ 8 เสพสุข 3
หลังจากหวงลู่ ลู่ฉี และซือซือ ล้มลงบนที่นอน ยังคงเหลือไว้แค่เพียงหยางมู่เท่านั้นที่ยังคงค้างคา
ซือซือจึงลุกขึ้น คลานเข่าช้าๆ มายังข้างเตียงที่หยางมู่ยืนชักรูดแก่นกายอยู่
นางยกยิ้มอย่างยั่วยวนด้วยริมฝีปากบางสีชมพูมันวาว ก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งจับมือของหยางมู่ออก แล้วใช้มือของนางจับแก่นกายของหยางมู่ที่กำลังขยายใหญ่จนเต็มมือของนาง นางค่อยๆ ก้มลง และใช้ลิ้นเล็กเลียจากด้านบนไล้ลงไปด้านล่างจากช้าๆ ก็เริ่มเร็วขึ้นๆ จนหยางมู่เสียวซ่าน
ซือซือจึงใช้ปากเล็กของนางดูดกลืนแก่นกายของอย่างมู่จนสุดลำคอ แล้วจึงเริ่มชักเข้า และออกเร็วขึ้นๆ จนกระทั่งในที่สุดหยางมู่ก็ไปแตะถึงสวรรค์ จึงได้ปลดปล่อยเข้าไปเต็มปากบางของนาง นางกลืนกินน้ำนมสีขาวขุ่นจนหมด
ลู่ฉีที่เห็นบั้นท้ายกลมกลึงขาวเนียนนวล บิดส่ายไปมาอย่างเย้ายวนอยู่ด้านข้าง เขาจึงลุกขึ้นมาจับขยำบั้นท้ายนาง แล้วใช้ลิ้นร้อนลามเลีย และขบเม้มจนบั้นท้ายขาวนวลขึ้นรอยช้ำสีกุหลาบ เขาไล้เลียลิ้นร้อนจนมาถึงรอยรีบสีชมพู ก่อนจะใช้ลิ้นหนาแทงกระหน่ำลงไป
"อ่า...อ่า ซี๊ด อ่า" ซือซือครางเสียงหวาน แล้วจึงบิดกายไปมาด้วยความเสียวซ่าน
หยางมู่ที่เพิ่งเสร็จสมไปด้วยปากของนาง เมื่อเห็นเต้าอวบอิ่มส่ายไปมาอยู่ข้างหน้า เขาจึงคุกเข่าลงตรงหน้าซือซือ ก่อนจะใช้มือสองข้างนวดเฟ้นหน้าอกอวบอิ่ม แล้วจึงใช้ปากดูดดึงยอดปทุมถันสีชมพูที่กำลังชูชัน
ลู่ฉีเริ่มรู้สึกถึงแก่นกลางกายที่กำลังแข็งขึงขึ้นมาอีกครั้ง เขาจึงใช้มือสองข้าง แหวกรอยจีบของนางก่อนจะค่อยๆ สอดใส่แก่นกายที่กำลังขยายใหญ่ลงไปอย่างช้าๆ
"อะ..อ่า" ซือซือสะดุ้ง เมื่อลู่ฉีสอดใส่แก่นกลางกายลงมาช้าๆ จนสุด แล้วแช่ค้างไว้
หยางมู่ที่เห็นลู่ฉีสอดใส่จนสุด จึงค่อยๆ ลุกขึ้นยืนแล้วดันซือซือให้ลงไปนอนหงายอยู่บนตัวของลู่ฉี
หยางมู่จับนางแยกขาออกจนกว้าง แล้วจึงสอดใส่แก่นกายที่เพิ่งจะขยายใหญ่ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ลงไปยังกลีบบุปผาอวบอูมที่มีน้ำนมสีขาวขุ่นไหลย้อยลงมา ตามขาขาวนวลเนียนของนาง
"อะ..อ่า ซี๊ด" ซือซือครางอย่างกระสันเสียว เมื่อหยางลู่สอดใส่มาจนสุด
ตั๊บบบบบ....ตั๊บบบบ....ตั๊บบบบบ
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นห้อง ซือซือหัวสั่นหัวคลอนเมื่อโดนขนาบทั้งข้างบนและข้างล่าง
"อ่า...อ่า...อ่า...อ่า....อ่า ซี๊ด อ่า...อ่า...อ่า" เสียงครวญครางประสานเสียงของหนึ่งสตรี และสองบุรุษร้องอย่างเสียวซ่าน แข่งกันกับเสียงเตียงโยกเยก ตึง...ตึง...ตึง
หวงลู่ลุกขึ้นมาใช้สองมือบีบขยำเต้างามที่กำลังกระเด้งขึ้นลงจากแรงกระแทกกระทั้น จนทรวงอกอวบอิ่มมีแต่รอยแดง เขาก้มลงงับยอดปทุมถันที่ชูชันจนแข็งเป็นไต แล้วดูดดึง
จึงทำให้ซือซือเสียวซาบซ่านสะท้านทรวงไปถึงสวรรค์เลยทีเดียว นางรู้สึกเสมือนตัวของนางบางเบาดั่งขนนก และกำลังล่องลอยอยู่บนสวรรค์ชั้นฟ้า นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้รู้จักสวรรค์อย่างแท้จริง มันดีอย่างนี้..นี่เอง "อ่าห์"
หลังจากซือซือไปแตะถึงสวรรค์เป็นคนแรก นางก็บีบรัด และตอดขมิบแก่นกายที่กำลังสอดใส่อยู่ในผนังอ่อนนุ่มอย่างแรง จนในที่สุดลู่ฉี และหยางมู่เสียวซ่านจนทนไม่ไหว ได้ปลดปล่อยออกมาพร้อมกัน "อ่าห์"
สองบุรุษปล่อยน้ำนมสีขาวขุ่น ในผนังอ่อนนุ่มที่ตอดรัดรัวถี่ไม่หยุดในตัวนางจนมันล้นทะลักไหลย่อยลงมาเต็มขานางและเลอะเต็มที่นอน
ทั้งสามล้มนอนทับกันอย่างหมดแรง "แฮ่กๆๆ "
เสียงหอบหายใจของสองบุรุษ หอบหายใจแข่งกัน
ซือซือนอนหอบหายใจเบาๆ อยู่บนตัวของลู่ฉีและอยู่ใต้ล่างของหยางมู่ นางกำลังมองหวงลู่ที่กำลังแข็งค้างอยู่ผู้เดียว
"ท่านขยับมาใกล้ๆ ข้าสิเจ้าค่ะ" นางเรียกหวงลู่ให้ขยับเข้ามาใกล้
ซือซือยกมือขึ้นจับรูดรั้งแก่นกายที่กำลังแข็งขึงขึ้นมา นางเริ่มขยับเร็วขึ้น จนหวงลู่บิดกายไปมาอย่างเสียวซ่าน ก่อนจะอ้าปากแล้วดูดอมอย่างเร็ว นางห่อปากบีบรัดแก่นกายของหวงลู่แล้วดูดดึงอย่างแรง และเร็ว จนบางทีฟันขาวของนางก็ครูดกับแก่นกายของเขา เขาเสียวสะท้านขึ้นมาทันที จึงอัดกระแทกแก่นกายของเขาลงไปในปากเล็กอย่างแรง "อ๊อค...อ๊อค" เมื่อแก่นกายใหญ่กระแทกแรงจนสุดถึงคอหอยจึงเกิดเสียงในลำคอขาวผ่องของนาง
"อ่า...อ่า ซี๊ด แม่นาง เจ้า...เจ้า...ทำให้ข้า ซี๊ด อ่า..อ่า เสียวซ่าน..สุดๆ อ่า...อ่า...อ่า อ่า" หวงลู่ครางเสียงต่ำและแหบพร่า "อ่าห์" ในที่สุดเขาก็ไปแตะถึงสวรรค์ ตามพวกน้องๆ ของเขาที่หลับอยู่บนตัวนางไปแล้ว
หวงลู่ปลดปล่อยน้ำนมสีขาวขุ่นใส่ในปากนางทันที มันล้นทะลักจนไหลย้อยออกมาจากมุมปากของนาง
ซือซือได้กลืนกินน้ำนมสีขาวขุ่นจนหมด และ ใช้ลิ้นเล็กเลียบริเวณมุมปากของนางซึ่งมันได้ไหลย้อยออกมา
หวงลู่ล้มตัวลงนอนหอบหายใจอย่างเป็นสุข และสุดท้ายเขาก็นอนหลับไป......
ซือซือยังคงถูกลู่ฉี และหยางมู่ นอนทับอยู่บนตัวนาง อีกทั้งแก่นกายของสองบุรุษยังคงค้างคาอยู่ภายใน นางจึงผิวปากเรียกซือจงให้เข้ามา
"นายท่าน ข้าน้อยมาแล้วขอรับ" เมื่อซือจงมาถึงก็จัดการยกหยางมู่ออกจากตัวนาง "ป๊อก" เสียงแก่นกายของหยางมู่หลุดออกมา พร้อมน้ำนมสีขาวขุ่นที่ไหลย้อยลงบนที่นอนหนานุ่ม
"อ่า" ซือซือครางเมื่อแก่นกายของหยางมู่หลุดออกไป
ซือจงใช้สองมือ ประคองสะโพกกลมกลึงของนาง แล้วค่อยๆ ยกสะโพกของนางออกมาจากแก่นกายของลู่ฉี ซึ่งบัดนี้กำลังนอนหลับใหลอยู่ข้างล่างซือซือ "ป็อก" เสียงแก่นกายของลู่ชิงดังขึ้น เมื่อหลุดออกมาจากรอยจีบทางด้านหลัง
ซือจงยกสะโพกของซือซือออกมา ทำให้น้ำนมสีขาวขุ่นไหลล้นทะลักลงมาจากรอยจีบสีชมพูของนาง เขาจึงอุ้มนางแนบอก ก่อนจะพานางกลับเรือนนอนด้านหลัง
เมื่อมาถึงด้านในเรือนนอนของซือซือ
"วางข้าลงได้แล้ว เจ้ารีบไปจัดการที่เหลือเถอะ ซือจง" นางสั่งซือจงทันทีที่ถึงเรือนนอน
"ขอรับนายท่าน" ซือจงจึงค่อยๆ วางนางลงยืนบนพื้น เมื่อนางเท้าแตะพื้นก็หันหน้ามาหาซือจง นางใช้มือลูบแผ่นอกแกร่งของซือจง
"ไว้ข้าจะให้รางวัลเจ้าในภายหลังนะ" นางกล่าวเสร็จพลางจูบลงบนแผ่นอกแกร่งของเขา ก่อนจะยกยิ้มอย่างเย้ายวนใจ ทำให้ซือจงหน้าแดง และรีบเดินออกไปจากห้อง
รุ่งเช้าทุกอย่างภายในห้องยังคงปกติเหมือนเดิมทุกอย่าง หวงลู่นั่งอยู่บนที่นอนด้วยความมึนงง เขายังอยู่ในสภาพเดียวกับเมื่อคืน เสื้อผ้าอาภรณ์ยังคงใส่ชุดเดียวกับเมื่อวาน บนเตียงนอนยังคงสภาพเดิม แล้วเรื่องเมื่อคืนคือความจริง หรือความฝัน อาจจะเป็นเพราะเขาคิดถึงสตรีผู้นั้นมากจนเกินไป จึงทำให้เก็บเอาไปฝัน แต่ว่าลู่ฉี กับหยางมู่.....
แอ๊ดดดด เสียงเปิดประตูดังลั่นทำให้เขาตกใจตื่นจากภวังค์
"เมื่อคืนๆ " ลู่ฉี อ้ำๆ อึ้งๆ ว่าควรจะพูดดีหรือไม่
"มีอะไรก็รีบพูดเข้า อย่ามัวแต่อมพะนำอยู่นั่นแหละ" หวงลู่เองก็อยากรู้ในเรื่องที่ลู่ฉีจะพูด ว่าจะเป็นเรื่องเดียวกันหรือไม่
เมื่อลู่ฉีพูดไม่ออก เขาก็หยุดชะงัก และสำรวจรอบๆ ห้องของผู้เป็นพี่ ทุกอย่างปกติดี และเรียบร้อยทุกอย่าง แม้แต่เตียงนอนก็อยู่ในสภาพเรียบร้อยปราศจากรอยยับยู่ยี่ และคราบคาวโลกีย์ หรือว่าเรื่องเมื่อคืนเขาจะฝันไป
ทำไมเขาถึงได้ฝันอกุศลกับผู้เป็นพี่ และน้องเขยเช่นนี้ เมื่อตื่นมาไม่พบหยางมู่ก็รีบมาหาผู้เป็นพี่ จะได้ไต่ถาม แต่เมื่อเห็นสภาพภายในห้องพักของผู้เป็นพี่ รวมถึงสภาพเรียบร้อยของพี่ชายแล้ว หรือข้าแค่ฝันไป
"ลู่ฉี เจ้ามีอะไร ก็รีบๆ พูดมา" เมื่อเห็นผู้เป็นน้องชายเงียบไป เขาจึงถามย้ำอีกครั้ง
"อะ..เปล่าๆๆ ข้าเพียงแค่จะมาสอบถามว่าพี่ใหญ่จะออกเดินทางยามใด นี่ก็เลยยามเหม่าแล้วขอรับ" เขาจึงเปลี่ยนเรื่องที่จะถามทันที เพราะเกรงจะเข้าใจผิดไปผู้เดียว
"อืม..ถ้าเช่นนั้น เจ้าลงไปตรวจตราความเรียบร้อย ข้าจะรีบลงไป" หวงลู่จึงมิได้กล่าวถามเรื่องอื่น เพราะอาจเป็นความฝันเช่นคืนนั้น
"ขอรับ" ลู่ฉีรับคำผู้เป็นพี่ ก่อนจะรีบเดินออกจากห้องพักไป
หลังจากทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว จึงได้เริ่มออกเดินทางไปยังเมืองหยางปิน ทั้งสามต่างจมอยู่กับความคิดของตนเองเกี่ยวกับเรื่องเมื่อคืน
หวงลู่ : เมื่อคืนอาจจะฝันไปเช่นคืนนั้น แต่ที่ค้างคาใจคือการที่มี ลู่ฉี กับ หยางมู่ ร่วมอยู่ด้วย แต่ทั้งสองต่างก็ไม่มีท่าทีแปลกประหลาดอันใด และยังคงทำตัวเช่นปกติ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่.....
ลู่ฉี : เรื่องเมื่อคืนคงจะเป็นแค่เพียงความฝัน ข้าคงตามหาพี่ใหญ่จนเหน็ดเหนื่อย เมื่อกลับถึงห้องพักจึงหลับไป และอาจทำให้ข้าฝันถึงพี่ใหญ่ก็เป็นไปได้ หากแต่ในฝันช่างอุจาดนัก เกรงว่าหากเล่าไปแล้ว อาจทำให้ผู้อื่นมองข้าเป็นคนลามก เช่นนั้นเขาคงมิกล้าเล่าเรื่องนี้ให้ผู้ใดฟังเป็นแน่....
หยางลู่ : เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เมื่อเช้าตื่นขึ้นมา ข้าก็ยังอยู่ในสภาพเรียบร้อยปกติดี คงเป็นเพียงเพราะข้าเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง จึงทำให้ข้าฝันเรื่องเช่นนี้ได้ ช่างโชคดีเสียจริงที่เป็นเพียงความฝัน มิเช่นนั้นข้าคงต้องรู้สึกผิดต่อชิงเอ๋อเป็นแน่แท้
ทั้งสามต่างจมอยู่กับความคิดตนเอง จนเวลาล่วงมาถึงยามอุ้ย พวกเขาก็มาถึงเมืองหยางปิน จึงได้นำสินค้าไปส่งให้เถ้าแก่ฉี
บทส่งท้าย : เคียงคู่ (จบบริบูรณ์)20 ปีต่อมา ซือจง และ ซือซือมีบุตรทั้งหมด 8 คน เป็นบุตรชาย 5 คน และบุตรี 3 คน ลูกๆ ของนางต่างก็เติบโต และออกเรือนไปสร้างวิถีชีวิตใหม่เป็นของตนเอง ซือจิ้ง บุตรชายคนโต เป็นเถ้าแก่โรงเตี๊ยม ดูแลกิจการต่อจากบิดาซือสือ บุตรชายคนรอง รับราชการเป็นขุนนางฝ่ายบุ๋นอยู่ในราชสำนักซือเฉิง บุตรชายคนที่สาม ทำกิจการภัตตาคาร เปิดตามหัวเมืองใหญ่ๆซือจี๋ บุตรชายคนที่สี่ เปิดสำนักคุ้มภัย เพื่อคุ้มกันสินค้าไปส่งตามเมืองต่างๆซืออ้าย บุตรสาวคนที่ห้า ได้ออกเรือนกับบุตรชายของเถ้าแก่ร้านอาภรณ์ จึงช่วยสามีดูแลกิจการงานผ้าซืออิ๋ง บุตรสาวคนที่หก ได้ออกเรือนกับนายอำเภอหนุ่มคนใหม่แห่งเมืองหยางปิน ได้ตบแต่งเป็นฮูหยินเอกซือเป่า บุตรชายคนที่เจ็ด รับราชการเป็นทหารอยู่ในสังกัดทัพหลวง ประจำการอยู่ชายแดนเขตเมืองหยางปินซือซิง บุตรสาวคนสุดท้อง ได้ออกเรือนกับท่านรองแม่ทัพหัวหน้าของซือเป่าซือซือ ยังคงเป็นสตรีที่งดงามแม้จะอยู่ในวัยสี่สิบกว่าปี ส่วนซือจงก็ยังคงเป็นบุรุษแข็งแกร่ง และยังคงดูเป็นหนุ่มใหญ่วัยฉกรรจ์ แม้อายุจะล่วงเลยมาห้าสิบปีทั้งคู่ต่างก็เป็นคู่รัก ที่ผู้คนในเมืองหยางปินอิจฉ
ตอนที่ 32 ชีวิตใหม่ 3 (จบ)หลังจากซือเชี่ยนไปจัดการที่เมืองหยางปิงเรียบร้อยดีแล้ว ก็กลับมาพาพวกเขาย้ายไปอยู่บ้านหลังใหญ่ที่นางซื้อให้บุตรสาวและบุตรเขย "ซือเอ๋อร์เจ้าชอบที่นี่ไหมจ๊ะ" ซือเชี่ยนพาบุตรสาว และบุตรเขยเดินสำรวจเรือนหลังใหญ่"ด้านข้างที่ติดกับกำแพงนี้เป็นโรงเตี๊ยม เอาไว้ให้อาจงดูแลก็แล้วกัน ส่วนนี้เป็นเรือนของเจ้า ด้านหน้าเอาไว้รับรองแขก ส่วนเรือนพักของพวกเจ้า ข้าจัดไว้ด้านหลัง ที่นั่นเป็นส่วนตัว และเงียบสงบดี ส่วนข้าจะพักปีกทางขวานี่ และปีกทางซ้ายก็เก็บไว้ให้ลูกๆ ของเจ้า พวกเจ้าคิดเห็นเป็นเช่นไร" ซือเชี่ยนเอ่ยถามบุตรสาวและบุตรเขย หากพวกเขามิชอบสิ่งใด นางจะได้จัดการโยกย้ายและปรับปรุง"ท่านแม่ขอรับ ทุกอย่างท่านแม่ได้จัดสรรเป็นอย่างดีแล้วขอรับ ลูกเห็นด้วยทุกอย่างขอรับ" ซือจงเอ่ยหลังจากแม่ยาย ได้พาเขาและซือซือเดินชมบริเวณบ้าน"ท่านแม่ ลูกเองก็เห็นด้วยเจ้าค่ะ ท่านแม่รอบคอบดีทุกอย่าง ลูกล้วนเห็นชอบด้วยเจ้าค่ะ"ซือซือเองก็พึงพอใจที่มารดาจัดสรรได้ตรงใจของนางยิ่งนัก"ถ้าพวกเจ้าชอบก็ดีแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ วันพรุ่งนี้แม่จะให้ท่านหมอมาตรวจดูอาการของลูก" ซือเชี่ยนยกยิ้ม ที่บุตรสาวและบุตรเข
ตอนที่ 31 ชีวิตใหม่ 2เมื่อทั้งสองเดินทางมาถึงบ้านของชงเมิ่ง ก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายในบ้าน จึงได้รีบเร่งฝีเท้าเข้าไปในบ้าน"ท่านพี่ภรรยา ต้องขออภัยด้วย ท่านเข้าไปมิได้ขอรับ นางกำลังจะคลอดแล้ว" เป็นน้องเขยของซือจงเข้ามาห้ามทันทีที่เห็นซือจงเดินเข้ามาอย่างรีบร้อน"เป็นเช่นนั้นหรือ" ซือจงหันหน้ามามองภรรยารักของเขาด้วยความปีติยินดี ซือซือก็ยกยิ้มยินดีกับสามีของนางด้วยเช่นกัน"อุแว้...แว้..แว้" เสียงเด็กร้องไห้ดังลั่นห้อง ทำเอาทุกคนปีติยินดีกับสมาชิกใหม่ของครอบครัว"ยินดีด้วยอาปิง นางคลอดแล้วเป็นเด็กผู้ชาย เจ้าได้บุตรชายอาปิง" หมอตำแยอุ้มทารกน้อยตัวสีแดงๆ ที่กำลังหลับสนิทหลังจากดื่มนมจากมารดาอิ่มแล้วซือซือจึงเดินเข้ามาดูใกล้ๆ เด็กทารกช่างน่ารักน่าชังเสียจริง ซือจงเดินมาโอบไหล่บอบบางของนาง แล้วก้มดูหลานชายของตนเอง หากซือซือคลอดลูกจะช่างน่ายินดีขนาดไหนนะเมื่อเห็นชงเมิ่งพักผ่อน ซือจงและซือซือก็ไม่อยากรบกวน จึงจะเดินทางกลับบ้านของซือจงซือซือเดินออกมาพร้อมซือจงก็รู้สึกเวียนศีรษะ และกำลังจะล้มลงโชคดีที่ซือจงยืนอยู่เคียงข้างนาง จึงรับนางเข้ามาในอ้อมกอดของเขาทัน"ภรรยาข้า เจ้าเป็นอันใดไป" ซือจ
ตอนที่ 30 ชีวิตใหม่ 1หลังจากซือจง และซือซืออยู่พูดคุย และทานอาหารร่วมกับครอบครัวของชงเมิ่งแล้ว เขาก็พาซือซือเดินทางกลับบ้านหลังเก่าของเขาเมื่อเดินทางมาถึง เขาก็ปลุกนางให้ตื่นขึ้นมา หลังจากนางพิงแผงอกแกร่งของเขาตลอดทาง นางอาจจะเหนื่อยและอ่อนเพลียก็เป็นไปได้เมื่อซือจงได้จัดเตรียมน้ำให้นางอาบเสร็จเรียบร้อย เขาก็เดินมาปลุกนางที่นั่งสัปหงกอยู่ตรงโต๊ะน้ำชา"ภรรยารัก เจ้าเป็นเช่นไรบ้าง ข้าเห็นเจ้าอ่อนเพลีย และง่วงนอนตลอดเวลา หรือเป็นเพราะเมื่อคืนข้ารังแกเจ้ามากไปจึงได้ทำให้เจ้าอ่อนเพลีย" เขานั่งลงข้างๆ นาง"ข้าก็มิรู้เหมือนกันท่านพี่ สงสัยจะเดินทางติดต่อกัน อาจทำให้ข้าอ่อนเพลียไปบ้าง เดี๋ยวข้านอนพักก็คงจะดีขึ้นเจ้าค่ะ" นางตอบอย่างงัวเงีย สงสัยเมื่อวานนางนั่งม้ามาทั้งวัน อีกทั้งวันนี้ยังต้องตื่นแต่ยามเหม่า เพื่อไปเยี่ยมชงเมิ่ง จึงทำให้นางเหน็ดเหนื่อย และอ่อนแรงก็เป็นไปได้หลังจากซือจงอาบน้ำกลับมา เขาก็เห็นนางนอนหลับสนิทไปเสียแล้ว เขาจึงปีนขึ้นเตียงไปนอนเคียงข้างนาง ก่อนจะขยับศีรษะของนางมาหนุนแขนของเขา แล้วโอบกอดนางนอนหลับไปด้วยกันยามเฉิน ซือจงเดินเข้าไปปลุกซือซือในห้องนอน นางนอนหลับสนิทตล
ตอนที่ 29 เยี่ยมน้องสามี 2รุ่งเช้าซือจงยกโจ๊กร้อนๆ มาให้ภรรยารักของเขา เห็นนางกำลังยุ่งกับการจัดเก็บของลงหีบ"เจ้าทำอะไรอยู่หรือ ภรรยาข้า เจ้าลุกขึ้นมาทำไมรึ หรือว่าเจ้าหายดีแล้ว" เขาวางโจ๊กไว้บนโต๊ะ ก่อนจะลงมานั่งเคียงข้างนางที่โต๊ะกลางห้องโถง"ข้ากำลังหาของขวัญให้น้องสามีเช่นไรเจ้าค่ะ ท่านพี่" นางผละมือบางออกมาจากหีบเล็กบนโต๊ะ แล้ววางลงบนหลังมือหนาของเขาที่ยังจับถาดโจ๊กไว้อยู่ซือจงจึงเปลี่ยนมากอบกุมมือภรรยาที่นุ่มนิ่มแทน"มิเห็นจำเป็นเลย ภรรยาข้า สมบัติของข้าที่ได้ให้นางไว้นั้นก็มากเพียงพอแล้ว นางคงจะใช้ไม่หมดเป็นแน่" เขาลูบหลังมือนุ่มนิ่มเบาๆซือซือยกยิ้มน้อยๆ ก่อนจะวางมือบางอีกข้างลงบนมือหนาของสามีที่กำลังลูบหลังมือของนางอยู่"ท่านพี่ ข้าเป็นพี่สะใภ้ของนาง ข้าควรแสดงความจริงใจต่อนาง สมบัติของท่าน คือ สมบัติของพี่ชายที่มอบให้แก่น้องสาว อีกอย่างท่านเคยบอกแก่ข้ามิใช่หรือเจ้าค่ะ ว่านางท้องแก่ใกล้คลอดแล้ว หากเราไปแล้วนางได้ให้กำเนิดบุตรแล้ว เราจะได้มอบเป็นของรับขวัญหลาน มิดีหรอกหรือเจ้าค่ะ" นางกล่าวพลางสบสายตาหวานซึ้งแก่ผู้เป็นสามีซือจงจึงรั้งนางเข้ามากอด "ภรรยารักของข้าช่างรอบคอบเ
ตอนที่ 28 เยี่ยมน้องสามี 1หลังจากซือจง ปรับปรุงโรงเตี๊ยมให้เป็นเรือนหลังใหญ่เสร็จเรียบร้อย เขาก็ได้ย้ายสัมภาระของซือซือ และตนเองเข้ามาอยู่"เจ้าชอบหรือไม่ ภรรยาข้า ข้าจัดทำห้องโถงด้านล่างเป็นเรือนรับรอง ไว้ท่านแม่ยายมาเยี่ยมเจ้าจะได้มีที่รับรองท่าน" ซือจงโอบไหล่บางของซือซือพาเข้ามาห้องโถงด้านล่าง ที่เขาปรับปรุงเป็นห้องรับรองแขก ก่อนจะพานางเดินขึ้นบันไดไปชมห้องพักข้างบนเมื่อเดินมาถึงชั้นบนของเรือน เขาก็พานางเดินมายังห้องริมสุดท้ายฝั่งซ้ายมือของทางเดินซือซือเดินเคียงข้างสามีที่โอบไหล่บางของนาง นางยิ้มน้อยๆ อย่างมีความสุข ในขณะที่ซือจงก็กระตือรือร้นแนะนำในสิ่งที่เขาปรับปรุงตลอดทางเดิน"ห้องนี้ข้าทำเป็นห้องพักรับรอง ไว้ให้ท่านแม่ยาย ส่วนอีกสองห้องตรงกลางข้าจะจัดทำไว้ให้ลูกๆ ของเรา ส่วนสองห้องริมสุดท้ายนี้ ข้าได้พังผนังกั้นห้องออก รวมเป็นห้องเดียวกัน สำหรับเจ้าและข้า" เมื่อเดินมาถึงห้องสุดท้ายที่ซือจงปรับปรุงใหม่สำหรับเขาและซือซือ เขาก็ผลักประตูเปิดเข้าไปเขาปรับปรุงห้องสุดท้ายเป็นห้องโถง มีเก้าอี้ โต๊ะน้ำชา และกระถางดอกไม้ตกแต่ง เขาทำโต๊ะไม้ติดหน้าต่างอีกชุดหนึ่ง สำหรับให้นางได้นั่งรับ







