เมื่อตกเย็น โหวเซียวเซียวก็หน้าดำราวก้นหม้อ ตามหาตัวเด็กไม่พบ"ไปเรียกทุกคนมา เด็กคนเดียวไม่มีปัญญาหาได้อย่างไร"โหวเซียวเซียวกล่าวขึ้น ทุกคนจึงมารวมตัวกัน ที่นั่นมีกลุ่มบุรุษทั้งสามสิบคนที่ไม่ได้มารวมตัวกัน เนื่องจากสภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวย"ไป๋อวิ่นสหายเจ้าไปไหน"โหวเซียวเซียวถามขึ้น เพราะเขาไม่ชอบไป๋อวิ้นอยู่แล้วจึงอยากที่จะหาเรื่อง ไป๋อวิ่นมองซ้ายมองขวาไม่เห็นจริงๆ"จับไป๋อวิ้นไว้"โหวเซียวเซียวกล่าวขึ้น ลูกศิษย์สี่คนจึงกรูกันเข้ามาจับไป๋อวิ้น ไป๋อวิ้นเองไม่ได้ขัดขืนใดๆเพราะเขารู้อยู่แล้วว่าเขาไม่ได้ผิด ที่สหายเขาหายไปนั้นเขาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหายไปไหน แต่บอกเลยว่าสหายเขาไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้"ตอบข้ามาว่าสหายของเจ้าหายตัวไปไหนต้องเกี่ยวข้องกับเด็กผู้นั้นเป็นแน่เขาเป็นใครเขาช่วยเด็กผู้นั้นออกไปแล้วหรือ"โหวเซียวเซียวถามอย่างโมโห ทุกคนที่มารวมตัวกันก็แตกตื่น พวกเขาไม่รู้เรื่องอะไรเด็กที่ไหนอะไรยังไง ทุกพื้นที่ของแถวที่เข้ากันอยู่พูดคุยกันอย่างจอแจ เพราะคนที่รู้เกี่ยวกับเด็กก็มีกลุ่มที่ออกไปจับตัวเด็กก็พวกทั้งสามสิบคนนั้น และโหวเซียวเซียวที่ยังมีชีวิตอยู่"ข้าสั่งให้เงียบทุกคนข้าถ
"ท่านอาจารย์ใหญ่ขอรับเด็กนั่นหายไปจากเรือนสตรีแล้วขอรับ"โหวเซียวเซียวกล่าวขึ้น อย่างเสียงอ่อย"หายไปได้อย่างไรยังอยู่ในสำนักหรือไม่มีใครพานางไป"อาจารย์ใหญ่ลืมตาจากการขับเคลื่อนวรยุทธมาถามลูกศิษย์ผู้เขาไว้ใจ โหวเซียวเซียวได้แต่ส่ายหัว"ไม่รู้เลยขอรับบังเอิญตอนยามสามเรือนสตรีมีเรื่องวุ่นวายนิดหน่อยพอข้าลงไปเคลียร์เสร็จสิ้นแล้วจึงเข้าไปดูก็ไม่พบเด็กแล้วขอรับ"โหวเซียวเซียวกล่าวขึ้น"เป็นลูกศิษย์สตรีพวกนั้นหรือที่ก่อเรื่องแล้วทำให้เด็กหายหรือว่าเรื่องเป็นมาอย่างไร"อาจารย์ใหญ่ถามขึ้น เขาไม่มีความคิดว่าเด็กคนหนึ่งจะหายออกไปได้หากเป็นฝีมือของลูกศิษย์ในสำนักแล้วต้องเป็นไปไม่ได้"เป็นเรื่องที่ศิษย์น้องที่ข้าให้ไปเฝ้าเรือนสตรีขอรับ พวกเขาเกิดความอยากและคิดจะลงมือกับสตรี เมื่อคนหนึ่งคิดจะทำผู้อื่นคงจะคิดตามๆกันจนเกิดเรื่องใหญ่โตเลยขอรับ ศิษย์ผู้รับผิดชอบเรื่องเปิดปิดประตูเรือนพักสตรีนั้นก็เปิดออกแล้วรีบมาหาข้าน่าจะเป็นช่วงเวลานั้นทีเด็กนั้นหายไปขอรับ"โหวเซียวเซียวกล่าวขึ้น "แล้วเด็กนั้นออกไปนอกประตูสำนักหรือยัง"อาจารย์ใหญ่ถามขึ้น"ไม่ได้ออกไปขอรับ คนคุมประตูแน่นหนา"โหวเซียวเซียวตอบอย่างลั
ไป๋อวิ่นไปแอบดูจินเป่าแล้วก็เข้าเรือนพักไปก่อน รอให้คนเรียกถึงจะลงไปดูสถานการณ์ ได้"ห้ะอะไร ลูกศิษย์พวกนั้นจะขืนใจสตรีหรือ ไปเรียกบุรุษออกไปช่วยกันจัดการ"โหวเซียวเซียวกล่าวขึ้น เขาไปได้ล่าช้าเพราะต้องรอให้อาจารย์อีกคนลงมาเฝ้าหน้าหอคอยเสียก่อน ตนจึงไปที่อื่นได้ เมื่อบอกว่าเหล่าบุรุษจะขืนใจสตรีทำให้ทุกคนสนใจเรือนสตรี แม้แต่คนเฝ้าประตูก็ต่างวิ่งกรูเข้ามาจัดการผู้ที่กระทำผิด จึงทำให้จินเป่ามีโอกาสได้ออกไปนอกสำนัก ตอนนั่นเป็นเวลากลางคืนข้างนอกช่างน่ากลัวจิงๆ แล้วคนอย่างจินเป่าจะกลัวอะไรได้เล่า นางออกประตูที่ตัวเองนั้นเข้ามาและปิดพร้อมเรียบร้อย ก่อนที่จะทะยานออกไป ตอนนี้นางยังไม่วางใจว่าจะปลอดภัยสักเท่าไหร่ นอกจากว่าจะพ้นผ่านเที่ยงคืนของวันพรุ่งนี้นางมีเวลาอีสี่สิบสามชั่วยาม หากนางไม่ถูกจับได้ก็แสดงว่ารอดแล้ว เมื่อโหวเซียวเซียวมาถึงทุกคนก็ถูกจัดการแล้ว ร่างกายของทั้งสามสิบนั้นสบักสบอมไปหมด เพราะทั้งสามสิบคิดจะใช้กำลังกับสตรีจึงมีบทลงโทษเช่นนี้ ไม่มีบุรุษหน้าไหนออกมาให้ปากคำได้เลย โหวเซียวเซียวเดินมาด้วยความโมโห"ข้าถามพวกเจ้าว่าทำสิ่งใดกันข้าให้พวกเจ้าทุกคนรับปากแล้วไม่ใช่หรือว่าจะไม่ทำให
"ท่านอาจารย์สตรีผู้นั้นไม่รู้ว่าเขาจะยอมเปิดให้หรือไม่ ยามสามของคืนพรุ่งนี้ค่อยจัดการก็ได้ หากพรุ่งนี้เขามาตรวจดูแล้วไม่เห็นเด็กอินหย่านั้น ก็จะทำให้พวกเขารู้ตัวเร็ว และค้นหาเร็วขึ้น ข้ามีวิธีที่ดีกว่านั้น ข้าจะปั่นป่วนพวกบุรุษที่นี้ให้สตรีที่อยู่ด้านในวุ่นวาย สตรีผู้นั้นย่อมต้องจำใจเปิดประตูให้ข้าและอินหย่าออกไป ส่วนเมื่อข้างในวุ่นวายแล้วข้ากับอินหย่าจะได้หลบหนีได้ง่าย หากท่านอาจารย์คิดจะไปกับข้า ข้าก็ยินดีแต่หากท่านอาจารย์จะยอมทดแทนบุญคุณของอาจารย์ใหญ่แล้วอยู่ที่นี่ข้าก็ไม่ว่า"ทั้งสองอ่านจดหมายของจินเป่าก่อนที่มันจะเป็นผงไปกับตา"นางหมายความว่าอะไรหรือ"อินบุหลันถามขึ้น"นางหมายความว่าจะใช้วิธีแผลงๆของนางนั่นแหละ พรุ่งนี้เมื่อกลุ่มบุรุษเข้าไปเฝ้าอาจจะมีคนไปตรวจดูเด็กผู้นั้น หากเด็กผู้นั้นอยู่เขาก็จะประจำการอยู่ที่นั่น นางก็คงจะจัดการกับพวกบุรุษที่อยู่ข้างในนั้น แล้วทำให้พวกเขาปั่นป่วนจนพวกสตรีออกมาปั่นป่วนด้วยกัน แล้วเจ้าก็เปิดประตูออกไปหาโหวเซียวเซียวเพื่อรายงาน นางคงคิดออกแบบนั้นแล้วใช้เวลาที่เจ้าไปรายงานสถานการณ์หนีไป ยิ่งเรื่องไปถึงไกลเพียงไหนนางก็จะออกนองสำนักได้ หากทุกคนมารวม
เมื่อลี่หลินกลับมาแล้วก็บอกกับจินเป่าว่าในห้องข้างในสุดนั้นมีอยู่ห้องหนึ่งที่มีเด็กหญิงอายุราวๆ สิบขวบ นางได้อธิบายถึงใบหน้าของเด็กนั้นพร้อมกับทรงผมของเด็กซึ่งจินเป่าฟังแล้วก็รู้สึกว่าน่าจะเป็นอินหย่า"หากเป็นเด็กที่เจ้านายต้องการจริงๆคืนนี้เราก็บุกไปลักพาตัวนางและเราก็ไปหาสตรีที่เปิดปิดประตูก่อนแล้วก็ออกไป หรือว่าเจ้านายมีความคิดเห็นอย่างไร"เจ้ากระต่ายหยกกล่าวขึ้น"หากใช่จริงๆก็ดีแต่ข้ายังครุ่นคิดไม่หายว่าทำไมแถวหอคอยนั้นยังมีผู้ที่เฝ้า แต่ที่นี่แทบไม่มีคนเฝ้าเลย อาจจะเป็นกลลวงก็ได้เพื่อให้เราเปิดเผยตัวแล้วพวกเขาจะลงมือ"จินเป่ากล่าวขึ้น"มันก็จริงดังที่เจ้านายว่า ข้าก็ไม่ได้ถามชื่อเสียงเรียงของเด็กน้อยผู้นั้นด้วย เพราะข้าแค่ดูว่ามีเด็กและจำลักษณะของนางและรีบมาบอกเลยเพราะข้าไม่ได้ปรากฏตัวให้ใครเห็น"ลี่หลินขึ้น"ข้าว่าสตรีผู้นั้นท่าทางจะเอาเรื่องอยู่ นางเหมือนไม่ยินดียินร้ายกับคนเข้าออก มันเหมือนเป็นหน้าที่ที่ต้องเปิดและปิดประตู ส่วนเด็กผู้นั้นข้าว่าตอนนี้สตรีผู้นั้นน่าจะดูแลอยู่ ข้าจึงไม่แน่ใจว่าหากเราชิงตัวเด็กนั่นแล้วสตรีผู้นั้นจะยอมเปิดประตูให้เราหรือไม่ และข้าไม่รู้ว่าหากข้าลอง
จินเป่าจึงกลับเข้าห้องของตัวเองไปก่อน ในเมื่อมีคนจับได้แล้ว นางก็ไม่กล้าที่จะลงมือเองไม่สู้ให้สัตว์อสูรลงมือจะดีกว่า ตอนนี้ก็เหลือเวลาอีกเพียงสามวัน หากหาตัวอินหยาไม่พบจินเป่าก็คงต้องบุกหอคอยเอง เป็นดังที่สตรีผู้นั้นกล่าวนางต้องใช้เวลาตอนกลางคืนเพื่อบุกหอคอย นางให้ลี่หลินออกมาเพื่อที่จะตรวจค้นเรือนพักนี้ "ข้าสงสัยว่าข้างในนั้นมีอะไรทำไม บุรุษที่เฝ้าหน้าหอคอยต้องเดินเข้าไปข้างในเพียงผู้เดียวแล้วให้คนผู้อื่นตรวจดูห้องแต่ละห้องด้วย น่าจะมีอะไรซ่อนอยู่ ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นอินหย่าก็เป็นได้"จินเป่าสงสัยจึงปรึกษากับลี่หลินและเจ้ากระต่ายหยก แต่ข้างในดูแล้วมันก็ซับซ้อนน่าดู "ข้าว่าข้าจะแอบไปดูข้างในก่อนหากข้างในนั้นมีเด็กที่ว่าจริงๆเราก็จะได้พาตัวเขาออกจากสำนักนี้เลย"ลี่หลินพูดขึ้น"เจ้าพูดเหมือนว่ามันง่ายดายแล้วเจ้ารู้หน้าตาของเด็กนั้นหรือเปล่าล่ะ ทั้งที่พวกเราทั้งสองก็ไม่เคยเห็น หากเจ้าคิดว่าใช่แล้วมันไม่ใช่ล่ะ ไม่เท่ากับเราจะเผยตัวให้คนอื่นรู้โดยไม่ได้ผลประโยชน์อะไรเลยหรือ แล้วสตรีผู้นั้นก็น่าสงสัยจับเราได้แล้ว เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ใช่ว่าเขารู้นานแล้วหรือว่าพวกเราแอบเข้ามา พออยู่