Share

ปฏิเสธการแต่งงาน 1.2

Author: sanvittayam
last update Last Updated: 2025-12-17 13:42:18

เมื่อเดินเข้าสู่โถงใหญ่ ไป๋กั๋วจิ้น ราชครูผู้เป็นบิดา นั่งอยู่บนเก้าอี้สูงพร้อมมีใบหน้าขึงขัง ท่ามกลางญาติผู้ใหญ่และพี่น้องหลายคน ทุกสายตาจับจ้องมองมายังไป๋หนิงเฟิ่งทันทีที่นางก้าวเข้ามา

“หนิงเฟิ่ง อีกไม่กี่เดือนเจ้าต้องเข้าพิธีแต่งงานกับต้วนอ๋องแล้ว เรื่องนี้เป็นเกียรติแก่ตระกูลไป๋ยิ่งนัก เจ้าอย่าได้ทำให้ตระกูลเสียหน้าล่ะ” ราชครูไป๋กล่าวเสียงกังวานและหนักแน่น แววตาจับจ้องไปยังบุตรสาวอย่างเข้มงวด

ไป๋หนิงเฟิ่งยืนนิ่งอยู่กลางห้อง แผ่นหลังตรง ภายในใจปั่นป่วนด้วยความทรงจำจากชาติที่แล้ว ภาพวันที่ถูกสวามีเมินเฉยใส่ ภาพที่เขากอดปกป้องหญิงอีกคน แล้วนางถูกทิ้งให้เผชิญหน้ากับความตาย ท่ามกลางเพลิงสงครามของกลุ่มกบฏ ยามนี้ทุกเหตุการณ์หลั่งไหลเข้ามาดังสายน้ำ

“หนิงเฟิ่ง เจ้าจะไม่กล่าวสิ่งใดหรือ” ราชครูไป๋เอ่ยขึ้น เมื่อเห็นบุตรสาวยังยืนนิ่ง ๆ

นั่นทำให้นางเรียกสติกลับมา ก่อนจะโค้งตัวเล็กน้อย แล้วเอ่ยอย่างสงบ “ท่านพ่อโปรดอภัย หากแต่ครั้งนี้ลูกไม่อาจทำตามอย่างที่ตระกูลไป๋คาดหวังได้เจ้าคะ”

คำกล่าวนั้นของนาง ทำให้บรรยากาศในห้องโถงแข็งทื่อ หลายคนพากันอึ้ง บางคนถึงกับเอ่ยท้วงอย่างไม่พอใจ “หนิงเฟิ่ง! เจ้ารู้ตัวหรือไม่ ว่ากล่าวสิ่งใดออกมา”

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร” ราชครูไป๋ขมวดคิ้วเข้ม แล้วเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจว่าเกิดเหตุอันใดขึ้น บุตรสาวของเขาถึงกล่าวออกมาเช่นนี้

ไป๋หนิงเฟิ่งเงยหน้าขึ้นมาสบตากับบิดา แววตาสว่างวาบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ก่อนจะบอกไปว่า “ลูกหมายความตามที่เอ่ยออกไป ลูกไม่ต้องการแต่งเข้าจวนต้วนอ๋องอีกแล้วเจ้าค่ะ”

น้ำเสียงของนางเยียบเย็นและชัดเจนทุกถ้อยคำ จนทุกคนในโถงใหญ่นี้หันมามองนางอย่างไม่เชื่อหูตนเอง สาวใช้ที่ยืนอยู่ต่างก็เบิกตากว้าง ความเงียบเข้าปกคลุมทั่วบริเวณทันที

ไป๋กั๋วจิ้นหลังจากเรียกสติกลับมาได้ จึงตวาดออกมาเสียงดัง “เจ้าเสียสติไปแล้วหรือ รู้หรือไม่ว่าคำกล่าวของเจ้านี้หมายความว่าอย่างไร เจ้าขัดราชโองการได้เช่นนั้นหรือ”

หัวใจของนางเต้นแรงเมื่อได้ยินคำว่าราชโองการ เนื่องจากการขัดราชโองการนั้น มีแค่ตายกับตายเท่านั้นที่รออยู่ แต่เมื่อคิดจะยืนหยัดแล้ว นางจึงเชิดหน้ากล่าวออกมาอย่างหนักแน่น

“ท่านพ่อ ลูกรู้ดีว่าต้วนอ๋องไม่ได้มีใจให้กับลูก แต่งเข้าไปมีแต่จะเสียใจ ลูกไม่อยากเป็นพระชายาที่พระสวามีไม่ต้องการ อย่างไรงานแต่งครั้งนี้ ลูกไม่มีทางยินยอมเจ้าค่ะ”

ทันทีที่ถ้อยคำพวกนี้หลุดออกมา ความโกลาหลก็ปะทุขึ้นในโถงใหญ่ ญาติบางคนถึงกับลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ สีหน้าตื่นตกใจแทบสิ้นสติ “หนิงเฟิ่ง เจ้ากล่าวเหลวไหลสิ่งใดออกมา รู้ตัวหรือไม่!”

“นั่นสิพี่หญิง ท่านนึกจะแต่งงานก็มาร้องขอให้ท่านลุงไปขอราชโองการสมรสพระราชทานให้ แต่เวลานี้เหตุใดท่านจึงไม่ยอมแต่งเล่าเจ้าคะ” บุตรสาวสายรองเอ่ยขึ้นอย่างดูหมิ่น นางอิจฉาไม่น้อยที่บุตรีจากบ้านใหญ่ได้แต่งเข้าจวนอ๋อง ทว่าตัวของนางยังไม่รู้ว่าต้องแต่งกับผู้ใด

“นั่นสิ น้องของเจ้ากล่าวถูกต้องแล้ว อีกอย่าง ยามนี้ไม่สามารถแก้ไขสิ่งใดได้อีกแล้ว” นายท่านรองไป๋เอ่ยอย่างไม่พอใจ ที่หลานสาวจะทำเสียเรื่อง หากขัดราชโองการของฝ่าบาท มิต้องตายกันหมดทั้งตระกูลหรอกหรือ

“นี่เป็นการแต่งตามราชโองการ เจ้ามิอาจขัดราชโองการนี้ได้ สตรีที่โง่งมเช่นเจ้า อย่าทำให้คนทั้งตระกูลต้องพลอยรับเคราะห์ถูกประหารไปด้วย” คราวนี้เป็นนายท่านสามไป๋เอ่ยอย่างเกรี้ยวกราดเพราะความโมโห

“ท่านอาทั้งหลาย แม้ว่าครั้งนี้จะเป็นราชโองการของฝ่าบาท ทว่าตอนนี้ยังเป็นเพียงคำกล่าวว่าให้บุตรสาวจากตระกูลไป๋แต่งกับท่านอ๋องเท่านั้น  อีกทั้งราชโองการจริงยังไม่มาถึงจวนตระกูลไป๋ แล้วเหตุใดข้าจะขัดเรื่องการแต่งงานครั้งนี้ไม่ได้เล่า” นางกล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำ ในเมื่อมีเพียงคำกล่าวว่าจะให้บุตรสาวจากตระกูลไป๋ แต่งกับแม่ทัพอย่างต้วนอ๋อง อ๋องต่างแซ่ของราชวงศ์ แล้วเหตุใดนางจะขัดไม่ได้

ทันทีที่นางกล่าวจบ เสียงตำหนิก็ถาโถมเข้ามาไม่หยุด แต่ไป๋หนิงเฟิ่งกลับยืนนิ่งหลังตรง ไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย แววตาของนางแสดงออกว่ายังคงยึดมั่นกับสิ่งที่กล่าวออกไป

ราชครูไป๋ตบโต๊ะเสียงดัง ก่อนจะกล่าวเสียงดังกว่าเดิม

“เจ้ารู้หรือไม่ หากเจ้าขัดราชโองการด้วยการไม่แต่งงานในครั้งนี้ นั่นหมายความว่าโทษตายจะตกใส่หัวคนทั้งตระกูลไป๋! ต้วนอ๋องหาใช่บุรุษธรรมดาไม่ เขาคือทายาทของตระกูลต้วน ที่เคยรบเคียงบ่าเคียงไหล่ปกป้องแคว้นกับฝ่าบาท แถมยังกุมกำลังทหารนับแสน!”

“ท่านพ่อ ลูกไม่โต้แย้งเรื่องที่ท่านอ๋องมีกำลังนับแสนอยู่ในมือ แต่เรื่องแต่งงานคราวนี้ ลูกยังยืนยันคำเดิมว่าไม่แต่ง ลูกเชื่อว่าท่านพ่อสามารถยื่นฎีกาเพื่อแก้ไขเรื่องนี้ได้ ยามนี้ฝ่าบาทยังไม่มีราชโองการเป็นลายลักษณ์อักษร มีเพียงคำกล่าวที่เอ่ยต่อกันเท่านั้น” นางยังคงกล่าวยืนยันเสียงดังฟังชัด ไม่มีแววว่าจะหวาดกลัวโทษ จากเรื่องที่ต้องยกเลิกงานแต่งในครั้งนี้

“ดี ดี ดีเหลือเกิน เช่นนั้นหากเกิดอะไรขึ้น เจ้าจงรับผลที่ตามมาเองก็แล้วกัน” ราชครูไป๋กล่าวอย่างหมดหนทาง เขาปวดหัวกับบุตรสาวคนนี้มาก เขากลัดกลุ้มใจยิ่งกว่าตอนไปขอราชโองการสมรสเสียอีก

“พี่ใหญ่ ท่านจะปล่อยเรื่องนี้ไปไม่ได้นะ หาไม่แล้วตระกูลไป๋ของพวกเรา คงถึงคราวเคราะห์ใหญ่เป็นแน่” นายท่านสามไป๋เอ่ยอย่างร้อนใจ ด้วยกลัวจะเกิดเรื่องใหญ่ จนบ้านสามของตนเองต้องเดือดร้อนไปด้วย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ไป๋หนิงเฟิ่งสตรีผู้ไม่ยอมแพ้ต่อชะตา    ยื่นข้อเสนอที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง 1.2

    เซียวเฟยหลงมองหน้านาง ก็ย่อมรู้ว่าไป๋หนิงเฟิงไม่ได้เบาใจในเรื่องนี้ นางดูหนักใจกับเรื่องที่เขาบอกอย่างมาก จึงเอ่ยบางอย่างออกมา “ข้าพอมีวิธีช่วยเจ้าในเรื่องนี้ได้”“วิธีใดหรือเพคะ” นางเงยหน้าขึ้นมาถามอย่างตื่เต้น“เจ้าต้องรีบหาบ้านสามีใหม่ ก่อนที่ต้วนอ๋องจะกลับมา” เซียวเฟยหลงกล่าวออกมาเหมือนเป็นเรื่องทั่ว ๆ ไป“อะไรนะเพคะ!” แต่นางกลับตกใจอย่างมากกับสิ่งที่ได้ยิน จนต้องถามเสียงดังกลับไป“ข้าบอกว่าเจ้าต้องหาสามีให้ได้ก่อนที่เขาจะกลับมา เพื่อมาขัดอำนาจกับต้วนอ๋อง แต่ทว่าหากเจ้ามีบ้านสามีที่ธรรมดาหรือไม่มีอำนาจหนุนหลัง เจ้าคิดหรือว่าหากต้วนอ๋องต้องการตัวเจ้า บุรุษที่แต่งกับเจ้าจะไม่ยอมถอยให้เขา ข้ามีข้อเสนอ” ชายหนุ่มกล่าวเสียงจริงจัง เขาคิดเรื่องนี้ไว้แล้ว หากนางรับข้อเสนอ เขาก็พร้อมจะช่วยเหลือ“เจ้าอยากแต่งกับข้าหรือไม่” เขาเอ่ยถามพร้อมกับมองสบสายตากับนาง“องค์ชายหมายความว่าอย่างไรเพคะ” คราวนี้ไป๋หนิงเฟิ่งเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ“ข้าถามเจ้าว่า เจ้าอยากแต่งงานกับข้าหรือไม่ หากเจ้าต้องการ ข้าจะขอสมรสพระราชทานจากฝ่าบาท อย่างน้อยก่อนแต่งงาน เจ้าก็คือคู่หมั้นของข้า ไม่ว่าผู้ใดหากคิดจะรังแกเจ้า ย

  • ไป๋หนิงเฟิ่งสตรีผู้ไม่ยอมแพ้ต่อชะตา    ยื่นข้อเสนอที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง 1.1

    บทที่ 7 ยื่นข้อเสนอที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงตั้งแต่วันนั้นนี่ก็ผ่านมาแล้วสามวัน ไป๋หนิงเฟิ่งไม่คิดที่จะสนใจสหายอย่างหลี่ชุยผิงอีกเลยแม้แต่น้อย ทว่าเรื่องที่คุณหนูหลี่ซื้อเครื่องประดับแล้วไม่มีเงินจ่ายโด่งดังไปทั่วเมือง ทำให้เสนาบดีหลี่โกรธมาก เขาสั่งลงโทษกักบริเวณบุตรสาว เขายอมควักเงินไปจ่ายให้กับทางร้านซินหรง และนำเครื่องประดับเหล่านั้นกลับมาจวนสกุลหลี่“คุณหนู เรื่องของคุณหนูหลี่โด่งดังไปทั่วเลยเจ้าค่ะ บ่าวสาแก่ใจยิ่งนัก” สาวใช้อย่างเสี่ยวหลันเอ่ยอย่างชอบใจ นางไม่ชอบสหายคนนี้ของเจ้านายสักเท่าไร แต่ทำอะไรมากไม่ได้เพราะนางเป็นเพียงสาวใช้เท่านั้น“ที่ผ่านมาข้าโง่จนทำให้ถูกเอาเปรียบ แต่เจ้าไม่ต้องกังวลไป ต่อจากนี้ข้าจะไม่โง่อีกแล้ว ทรัพย์สินและเงินทองของข้า ข้าจะไม่ยอมให้ใครเอาไปใช้เหมือนทรัพย์สินของตนเองแน่นอน” ไป๋หนิงเฟิ่งเอ่ยอย่างจริงจังพร้อมยิ้มออกมา นางไม่อยากให้สาวใช้ผู้ซื่อสัตย์มองว่านางอ่อนแอเหมือนก่อนอีกแล้ว “บ่าวดีใจเหลือเกินเจ้าค่ะ บ่าวพูดจากใจ คุณหนูหลี่ไม่ใช่คนดีอย่างที่เห็น วันที่คุณหนูตกบ่อน้ำ เชื่อไหมเจ้าคะว่านางยืนยิ้มอย่างพึงพอใจโดยไม่คิดจะช่วยเหลือ” เสี่ยวหลันรายงานเรื่อง

  • ไป๋หนิงเฟิ่งสตรีผู้ไม่ยอมแพ้ต่อชะตา   เอาคืนสหายชั่ว 1.2

    เมื่อถูกถามหลี่ชุยผิงรีบหันมาหาไป๋หนิงเฟิ่งแล้วเอ่ยถามออกมาว่า “หนิงเฟิ่ง เจ้าว่าจ่ายที่นี่หรือจะให้ไปเก็บที่จวนดี” น้ำเสียงนั้นอ่อนหวานยิ่งนัก“อันนี้ก็แล้วแต่เจ้าสิ ข้าไม่ได้เป็นผู้ซื้อเสียหน่อย” ไป๋หนิงเฟิ่งเองก็ตอบกลับไปด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มนั่นทำให้หลี่ชุยผิงชะงักไปในทันที ก่อนจะพยายามปรับสีหน้าแล้วกล่าวออกมาอีกครั้ง “แต่ทุกครั้งที่ข้าออกมาเดินเล่นเป็นเพื่อนเจ้า เจ้าก็เป็นคนจ่ายให้ข้ามิใช่หรือ”“นั่นมันเมื่อก่อน ตั้งแต่ข้าขอยกเลิกงานแต่งจนให้ชื่อเสียงเสียหาย ท่านพ่อก็ตัดเงินของข้าเกือบหมด ข้าไม่มีเงินจ่ายให้เจ้าหรอก เห็นทีครั้งนี้เจ้าต้องจ่ายด้วยตัวเองเสียแล้ว” ไป๋หนิงเฟิ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อย คล้ายกับนางไม่มีเงินจริง ๆคราวนี้ใบหน้าของหลี่ชุยผิงซีดเผือดลงทันที นางไม่คิดว่าสหายจะกล่าวเช่นนี้ ถึงแม้ว่านางจะเป็นลูกหลานของตระกูลหลี่ ซึ่งเป็นตระกูลของเสนาบดี แต่ใช่ว่านางจะมีเงินมากมายขนาดนี้ อีกทั้งเครื่องประดับพวกนี้ ราคารวมแล้วก็พันกว่าตำลึงเงิน แล้วนางจะเอาเงินจากไหนมาจ่ายกันล่ะไป๋หนิงเฟิ่งไม่รอให้สหายตั้งสติได้ นางจึงรีบกล่าวออกมาอีกครั้ง “ตลอดเวลาที่ผ่านมา ข้าเป็นค

  • ไป๋หนิงเฟิ่งสตรีผู้ไม่ยอมแพ้ต่อชะตา   เอาคืนสหายชั่ว 1.1

    บทที่ 6 เอาคืนสหายชั่วไป๋หนิงเฟิ่งปรายตามองสหายเล็กน้อย ทว่าไม่ให้ฝ่ายนั้นรู้ตัว เนื่องจากนางต้องการเล่นงานสหายคนนี้ ถึงแม้ว่าบ้านของหลี่ชุยผิงมีฐานะร่ำรวยและเป็นจวนเสนาบดี แต่ทุกครั้งที่ออกมาเดินเล่นหรือซื้อของด้วยกัน กลับกลายเป็นให้นางจ่ายทั้งนั้นคราวนี้มาดูกันเถิดว่า ต่อจากนี้ใครกันแน่เป็นฝ่ายเสียหน้า!หลี่ชุยผิงยิ้มก่อนจะเดินเข้ามาคล้องแขนสหาย แล้วเอ่ยอย่างดีใจ “ถ้าเช่นนั้นเราสองคนไม่ต้องคิดมากแล้ว ไปร้านขายเครื่องประดับกันดีกว่า ข้าอยากซื้อเครื่องประดับสักชุดสองชุด”“อืม ถ้าเจ้าอยากซื้อ ข้าจะไปกับเจ้า” ไป๋หนิงเฟิ่งตอบกลับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ทว่าเน้นคำว่าอยากซื้อ สายตาหันไปสบกับสาวใช้คนสนิทเพื่อส่งสัญญาณบางอย่างให้จากนั้นพวกนางจึงพากันเดินไปทางร้านขายเครื่องประดับทันทีร้านเครื่องประดับซินหรง ภายในร้านมีลูกค้ามากมายที่เข้ามาดูสินค้าและเลือกซื้ออย่างที่ต้องการ เมื่อลูกจ้างสาวในร้านเห็นว่าไป๋หนิงเฟิ่งเดินเข้ามาพร้อมกับคุณหนูหลี่ จึงได้รีบเดินมาทักทายอย่างนอบน้อม“คุณหนูไป๋ คุณหนูหลี่ เชิญเจ้าค่ะ วันนี้ทั้งสองต้องการสิ่งใดเจ้าคะ” ใบหน้าของนางยิ้มแย้ม ไม่คิดดูหมิ่นไป๋หนิงเฟิ่งตามข่

  • ไป๋หนิงเฟิ่งสตรีผู้ไม่ยอมแพ้ต่อชะตา    พบเจอองค์ชายรองเซียวเฟยหลง 1.2

    เมื่อเจอคำถามนี้ หลี่ชุยผิงสะอึกไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบ “ใช่แล้ว เขายังไม่กลับมาจากชายแดน หากกลับมาแล้วเขาคงมาสู่ขอข้าน่ะ แล้วที่เจ้าตกสระน้ำน่ะ อาการดีหรือยัง สตรีอย่างเราต้องดูแลตัวเองให้ดี เพราะหากไอเย็นเข้าร่างกายเยอะ จะทำให้มีบุตรยาก”“ข้าไม่คิดถึงเรื่องนั้นหรอก สตรีที่ชื่อเสียงเสียหายเช่นข้า คงไม่มีชายใดกล้ามาสู่ขอแล้วล่ะ แต่ข้ายินดีกับเจ้านะ และจะไปร่วมงานแต่งของเจ้าอย่างแน่นอน”“เจ้าอยู่แต่ในจวนไม่เบื่อบ้างหรือ เช่นนั้นไปเดินเล่นกับข้าในตลาดดีหรือไม่ เผื่อว่ามีจะของถูกใจเจ้า” หลี่ชุยผิงเอ่ยชวนไปเดินเล่นในตลาด นางเองก็อยากได้เครื่องประดับเหมือนกัน หากไปกับไป๋หนิงเฟิ่งคราใด นางไม่เคยได้จ่ายเงินสักตำลึงเดียวไป๋หนิงเฟิ่งรู้ทันสหายชั่ว แต่ก็แสร้งโอนอ่อนเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายสงสัย “ไปตลาดก็ดีเหมือนกัน ข้าอยากเดินเล่น” นางยิ้มคล้ายกับดีใจ‘คอยดูว่าข้าจะเล่นงานเจ้าอย่างไร มีหรือที่ข้าไม่รู้ว่า เจ้าต้องการให้ข้าไปพบเจอคำติฉินนินทาของชาวบ้าน แต่ในเมื่อเจ้าต้องการเช่นนั้น ข้าก็พร้อมที่จะเล่นกับเจ้าเช่นกัน’ นางคิดในใจ ยิ้มเย็นมุมปากเล็กน้อยไม่นานพวกนางก็พากันนั่งรถม้าออกมาจากจวนตระกูลไป๋จวนอ

  • ไป๋หนิงเฟิ่งสตรีผู้ไม่ยอมแพ้ต่อชะตา    พบเจอองค์ชายรองเซียวเฟยหลง1.1

    บทที่ 5 พบเจอองค์ชายรองเซียวเฟยหลงขณะเดียวกัน มีสายตาคู่หนึ่งมองมาทางนางอย่างพึงพอใจ ก่อนร่างใหญ่จะออกมาจากที่ซ่อน“ไม่คิดว่าเจ้าจะกล้าปฏิเสธการแต่งงาน และยอมแบกรับชื่อเสียงที่ถูกฝ่ายชายยกเลิกงานแต่ง แล้วยังให้บุตรสาวบ้านรองแต่เข้าเป็นอนุอีก”ไป๋หนิงเฟิ่งหันมาตามเสียง นางพยายามทบทวนความทรงจำและรับรู้ได้ว่าเขาคือองค์ชายรอง แววตาของนางสงบเย็น นางลุกขึ้นแล้วค่อย ๆ คุกเข่าลงทำความเคารพ “คารวะองค์ชายรอง”“ลุกขึ้นเถิด เจ้าไม่ต้องพิธีรีตองมากนัก”นางลุกขึ้นหลังจากได้รับอนุญาต เซียวเฟยหลงเดินมาหยุดตรงหน้า “เจ้ายังไม่ได้ตอบข้า เหตุใดเจ้าทำเช่นนั้น นั่นไม่เท่ากับต้องการขัดราชโองการหรอกหรือ”“หม่อมฉันไม่ได้ขัดราชโองการเพคะ ราชโองการส่งมาที่จวนนั้นมอบให้บุตรสาวสายรอง เพื่อแต่งเข้าไปเป็นอนุต่างหาก ไม่ใช่ให้หม่อมฉันแต่งเข้าจวนต้วนอ๋องเสียหน่อย” นางตอบกลับเสียงเรียบนิ่ง พร้อมกับเงยหน้าสบตาเขาตรง ๆ ริมฝีปากยกขึ้นเล็กน้อยเซียวเฟยหลงหัวเราะเบา ๆ เสียงนั้นทุ่มต่ำแต่กลับเย็นยะเยือก “เจ้ากล้ายอกย้อนดีนัก สตรีทั้งแผ่นดินต้องการแต่งเข้าจวนอ๋อง ต้องการสานสัมพันธ์กับราชวงศ์ แต่เจ้ากลับผลักไสวาสนานี้ ช่างน่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status