Share

เปลี่ยนชะตาตัวเอง1.1

Author: sanvittayam
last update Last Updated: 2025-12-17 13:43:16

บทที่ 3 เปลี่ยนชะตาตัวเอง

ไป๋หนิงเฟิ่งหันไปมองด้วยสายตาเย็นชา นางไม่อยากจะเชื่อว่าท่านอาสามของนาง จะขี้ขลาดเช่นนี้ “ท่านอาสาม เช่นนั้นเหตุใดท่านไม่ให้บุตรสาวของท่านแต่งงานแทนข้าล่ะ เวลานั้นใครก็ไม่สามารถเอาผิดกับตระกูลไป๋ได้”

“เจ้าบ้าไปแล้วหรือ บุตรสาวของข้าเป็นเพียงบุตรจากบ้านสาม หาใช่บ้านใหญ่ แต่งเข้าไปก็เป็นได้แค่เพียงอนุเท่านั้น” นายท่านสามไป๋ตวาดออกมา ไม่คิดว่าหลานสาวจะหาเรื่องตายให้บ้านตนเอง

ไป๋หนิงเฟิ่งยกยิ้มเล็กน้อยกับสิ่งที่ได้ยิน นางโค้งศีรษะต่ำแล้วเอ่ยเสียงเรียบ “ลูกยังยืนยันตามเดิม หากไม่มีเรื่องอื่นใดแล้ว ลูกขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะเจ้าคะ ท่านพ่อ”

จากนั้นนางจึงเดินออกมาจากโถงใหญ่ พร้อมกับสาวใช้ข้างตัวด้วยความสง่างาม

ทว่าไม่มีใครคาดคิดข่าวที่ไป๋หนิงเฟิ่งปฏิเสธการแต่งงาน จะแพร่สะพัดออกไปอย่างรวดเร็วราวกับไฟลามทุ่ม จากโถงใหญ่ของจวนตระกูลไป๋ แพร่กระจายไปสู่ปากชาวบ้านที่อยู่รอบ ๆ จวนไป๋ จนไปถึงหูเหล่าขุนนางที่คอยจับตามองเรื่องนี้อยู่ก่อนแล้ว เนื่องจากมีใครบ้างที่ไม่อยากให้บุตรสาวและหลานสาวของตน ได้แต่งงานกับต้วนอ๋อง  

 ดังนั้นไม่กี่วันถัดมา ก็ได้มีคำสั่งเรียกให้ราชครูไป๋และบุตรสาวไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้ที่ห้องทรงอักษร

“ถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”

“ถวายบังคมเพคะ ฝ่าบาท”

“พวกเจ้าลุกขึ้นเถิด พวกเจ้าทั้งสองคนรู้แล้วใช่หรือไม่ว่าเหตุใดเราถึงเรียกพวกเจ้าเข้ามาพบ” ฮ่องเต้เซียวหยางตรัสด้วยเสียงราบเรียบแต่แฝงความดุดันทรงอำนาจ เพื่อต้องการคำตอบจากข่าวลือที่เกิดขึ้น

“เพคะฝ่าบาท หม่อมฉันทราบเรื่องที่พระองค์เรียกพบในวันนี้ดีเพคะ” นางกล่าวเสียงหนักแน่นเช่นกัน แม้ภายในใจจะหวาดหวั่นอย่างมากก็ตาม

“เช่นนั้นเราขอถามได้หรือไม่ เหตุใดเวลานี้คุณหนูไป๋ถึงไม่ยินดีแต่งงานกับต้วนอ๋อง ตามที่บิดาของเจ้าร้องขอมาจากความต้องการของเจ้าเอง”

“หม่อมฉันผิดเองเพคะ เวลานั้นหม่อมฉันคิดแค่ว่าอยากแต่งเข้าจวนอ๋อง เลยให้บิดามาร้องขอราชโองการงานแต่งให้หม่อมฉันกับท่านอ๋อง ทว่าเวลาผ่านไป หม่อมฉันก็รู้แล้วว่า ตัวของหม่อมฉันเพียงแค่ชื่นชมในความสามารถท่านอ๋อง อีกทั้งทราบว่าสตรีที่ท่านอ๋องรักไม่ใช่หม่อมฉันเพคะ” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่ประโยคสุดท้ายมีเสียงสะอื้นปะปนไปด้วย เหมือนคนที่ยอมรับความพ่ายแพ้ให้กับความรักของท่านอ๋องที่มีต่อคนรัก

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร” ฮ่องเต้เซียวหยางมีท่าทีตกใจไม่น้อย “เจ้ากำลังจะบอกเราว่า คนที่ต้วนอ๋องรักและหวังจะแต่งงานด้วย ไม่ใช่เจ้าเช่นนั้นหรือ”

ไม่เพียงแต่ฮ่องเต้เท่านั้นที่ตกใจ ราชครูไป๋ซึ่งเป็นบิดาของนาง ก็มีอาการตื่นตกใจเหมือนกัน

“ใช่เพคะฝ่าบาท หม่อมฉันได้ยินเรื่องนี้ก็เริ่มสืบว่าสตรีนางนั้นเป็นผู้ใด หากเป็นเพียงสตรีชาวบ้านหม่อมฉันอาจจะยอมรับการแต่งงานในครั้งนี้ แต่ทว่าสตรีนางนั้นมีฐานะไม่ต่างจากหม่อมฉัน และไม่แน่ว่าอาจจะสูงส่งกว่าด้วยซ้ำ หม่อมฉันจึงไม่อยากตัดด้ายแดงของผู้ใด ดังนั้นฝ่าบาทโปรดยกเลิกงานแต่ง ระหว่างหม่อมฉันกับต้วนอ๋องด้วยเถิดเพคะ” นางกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงที่แน่วแน่

ไม่ว่าอย่างไร ไป๋หนิงเฟิ่งต้องยกเลิกงานแต่งครั้งนี้ให้ได้ แล้วจะเลือกเส้นทางเดินใหม่ให้กับตนเอง และนางต้องสืบให้แน่ชัดว่าใครคือกบฏที่แท้จริง

“เช่นนั้นเจ้าบอกเราได้หรือไม่ ว่าสตรีนางนั้นคือผู้ใด”

“คุณหนูตระกูลหลี่ หลี่ชุยผิงเพคะ นางคือคนรักที่แท้จริงของท่านอ๋อง” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“อะไรนะ คุณหนูตระกูลหลี่คนนี้ ไม่ใช่สหายของเจ้าหรอกหรือ” ฮ่องเต้ถามย้ำอีกครั้ง ไม่เข้าใจว่าเหตุใดเรื่องความรักของหนุ่มสาว ถึงได้วนเวียนไปมาเช่นนี้

“ใช่แล้วเพคะ หม่อมฉันจึงไม่อยากตัดวาสนาของทั้งคู่ หนึ่งก็สหายที่หม่อมฉันรัก หนึ่งก็บุรุษที่มีความสามารถที่ช่วยปกครองแคว้นอย่างกล้าหาญ แต่หากฝ่าบาทไม่อยากให้ตระกูลไป๋ต้องขายหน้า เช่นนั้นมอบสมรสพระราชทานให้กับบุตรสาวสายรองแต่งเข้าเป็นชายารองหรืออนุก็ได้เพคะ ส่วนหม่อมฉันยินดีที่จะรับชื่อเสียงที่เสียนี้เอง” นางกล่าวย้ำชัดเจน

ราชครูไป๋ไม่คิดว่าบุตรสาวจะยอมยกงานแต่งให้กับน้องสาวจากสายรอง แต่นึกไปแล้วแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยบ้านสายรองก็ได้แต่งเข้าจวนต้วนอ๋อง ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงชายารองหรืออนุก็ตาม

“ท่านราชครู ท่านคิดเห็นว่าอย่างไร เรื่องนี้เรายกให้ท่านตัดสินใจ เราจะได้ออกราชโองการให้” ฮ่องเต้กล่าวอย่างจนปัญญา เนื่องจากคุณหนูตระกูลหลี่ คือคุณหนูจากจวนเสนาบดี เขาจึงไม่คิดที่จะขัดในเรื่องนี้

“เช่นนั้นก็เอาตามที่บุตรสาวของกระหม่อมกล่าวมาเถิดพ่ะย่ะค่ะ” ราชครูไป๋ถอนหายใจเล็กน้อย “หม่อมฉันเองก็ไม่อยากฝืนใจบุตรสาว ในเมื่อคุณหนูหลี่คือสตรีในดวงใจของท่านอ๋อง เช่นนั้นก็แล้วแต่บุญวาสนาเถิดพ่ะย่ะค่ะ”

“เช่นนั้นทำตามที่ท่านราชครูกล่าวมาก็แล้วกัน เราจะออกราชโองการให้บุตรสาวสายรองของตระกูลไป๋ แต่งเข้าจวนอ๋องเพื่อเป็นอนุก็แล้วกัน ส่วนคุณหนูตระกูลหลี่ เราจะส่งจดหมายหาต้วนอ๋อง ให้เขามาจัดการเอง หากเขาต้องการสมรสพระราชทาน เราจะออกราชโองการให้”

นี่คงเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว หากต้วนอ๋องอยากแต่งกับคุณหนูหลี่ผู้นั้นจริง คงมาขอราชโองการสมรสพระราชการกับตนเอง

‘นึกแล้วก็เสียดาย หากบุตรของเราได้นางมาเป็นชายาคงจะดีไม่น้อยเลย’ ฮ่องเต้ได้แต่คิดในใจ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ไป๋หนิงเฟิ่งสตรีผู้ไม่ยอมแพ้ต่อชะตา    ยื่นข้อเสนอที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง 1.2

    เซียวเฟยหลงมองหน้านาง ก็ย่อมรู้ว่าไป๋หนิงเฟิงไม่ได้เบาใจในเรื่องนี้ นางดูหนักใจกับเรื่องที่เขาบอกอย่างมาก จึงเอ่ยบางอย่างออกมา “ข้าพอมีวิธีช่วยเจ้าในเรื่องนี้ได้”“วิธีใดหรือเพคะ” นางเงยหน้าขึ้นมาถามอย่างตื่เต้น“เจ้าต้องรีบหาบ้านสามีใหม่ ก่อนที่ต้วนอ๋องจะกลับมา” เซียวเฟยหลงกล่าวออกมาเหมือนเป็นเรื่องทั่ว ๆ ไป“อะไรนะเพคะ!” แต่นางกลับตกใจอย่างมากกับสิ่งที่ได้ยิน จนต้องถามเสียงดังกลับไป“ข้าบอกว่าเจ้าต้องหาสามีให้ได้ก่อนที่เขาจะกลับมา เพื่อมาขัดอำนาจกับต้วนอ๋อง แต่ทว่าหากเจ้ามีบ้านสามีที่ธรรมดาหรือไม่มีอำนาจหนุนหลัง เจ้าคิดหรือว่าหากต้วนอ๋องต้องการตัวเจ้า บุรุษที่แต่งกับเจ้าจะไม่ยอมถอยให้เขา ข้ามีข้อเสนอ” ชายหนุ่มกล่าวเสียงจริงจัง เขาคิดเรื่องนี้ไว้แล้ว หากนางรับข้อเสนอ เขาก็พร้อมจะช่วยเหลือ“เจ้าอยากแต่งกับข้าหรือไม่” เขาเอ่ยถามพร้อมกับมองสบสายตากับนาง“องค์ชายหมายความว่าอย่างไรเพคะ” คราวนี้ไป๋หนิงเฟิ่งเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ“ข้าถามเจ้าว่า เจ้าอยากแต่งงานกับข้าหรือไม่ หากเจ้าต้องการ ข้าจะขอสมรสพระราชทานจากฝ่าบาท อย่างน้อยก่อนแต่งงาน เจ้าก็คือคู่หมั้นของข้า ไม่ว่าผู้ใดหากคิดจะรังแกเจ้า ย

  • ไป๋หนิงเฟิ่งสตรีผู้ไม่ยอมแพ้ต่อชะตา    ยื่นข้อเสนอที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง 1.1

    บทที่ 7 ยื่นข้อเสนอที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงตั้งแต่วันนั้นนี่ก็ผ่านมาแล้วสามวัน ไป๋หนิงเฟิ่งไม่คิดที่จะสนใจสหายอย่างหลี่ชุยผิงอีกเลยแม้แต่น้อย ทว่าเรื่องที่คุณหนูหลี่ซื้อเครื่องประดับแล้วไม่มีเงินจ่ายโด่งดังไปทั่วเมือง ทำให้เสนาบดีหลี่โกรธมาก เขาสั่งลงโทษกักบริเวณบุตรสาว เขายอมควักเงินไปจ่ายให้กับทางร้านซินหรง และนำเครื่องประดับเหล่านั้นกลับมาจวนสกุลหลี่“คุณหนู เรื่องของคุณหนูหลี่โด่งดังไปทั่วเลยเจ้าค่ะ บ่าวสาแก่ใจยิ่งนัก” สาวใช้อย่างเสี่ยวหลันเอ่ยอย่างชอบใจ นางไม่ชอบสหายคนนี้ของเจ้านายสักเท่าไร แต่ทำอะไรมากไม่ได้เพราะนางเป็นเพียงสาวใช้เท่านั้น“ที่ผ่านมาข้าโง่จนทำให้ถูกเอาเปรียบ แต่เจ้าไม่ต้องกังวลไป ต่อจากนี้ข้าจะไม่โง่อีกแล้ว ทรัพย์สินและเงินทองของข้า ข้าจะไม่ยอมให้ใครเอาไปใช้เหมือนทรัพย์สินของตนเองแน่นอน” ไป๋หนิงเฟิ่งเอ่ยอย่างจริงจังพร้อมยิ้มออกมา นางไม่อยากให้สาวใช้ผู้ซื่อสัตย์มองว่านางอ่อนแอเหมือนก่อนอีกแล้ว “บ่าวดีใจเหลือเกินเจ้าค่ะ บ่าวพูดจากใจ คุณหนูหลี่ไม่ใช่คนดีอย่างที่เห็น วันที่คุณหนูตกบ่อน้ำ เชื่อไหมเจ้าคะว่านางยืนยิ้มอย่างพึงพอใจโดยไม่คิดจะช่วยเหลือ” เสี่ยวหลันรายงานเรื่อง

  • ไป๋หนิงเฟิ่งสตรีผู้ไม่ยอมแพ้ต่อชะตา   เอาคืนสหายชั่ว 1.2

    เมื่อถูกถามหลี่ชุยผิงรีบหันมาหาไป๋หนิงเฟิ่งแล้วเอ่ยถามออกมาว่า “หนิงเฟิ่ง เจ้าว่าจ่ายที่นี่หรือจะให้ไปเก็บที่จวนดี” น้ำเสียงนั้นอ่อนหวานยิ่งนัก“อันนี้ก็แล้วแต่เจ้าสิ ข้าไม่ได้เป็นผู้ซื้อเสียหน่อย” ไป๋หนิงเฟิ่งเองก็ตอบกลับไปด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มนั่นทำให้หลี่ชุยผิงชะงักไปในทันที ก่อนจะพยายามปรับสีหน้าแล้วกล่าวออกมาอีกครั้ง “แต่ทุกครั้งที่ข้าออกมาเดินเล่นเป็นเพื่อนเจ้า เจ้าก็เป็นคนจ่ายให้ข้ามิใช่หรือ”“นั่นมันเมื่อก่อน ตั้งแต่ข้าขอยกเลิกงานแต่งจนให้ชื่อเสียงเสียหาย ท่านพ่อก็ตัดเงินของข้าเกือบหมด ข้าไม่มีเงินจ่ายให้เจ้าหรอก เห็นทีครั้งนี้เจ้าต้องจ่ายด้วยตัวเองเสียแล้ว” ไป๋หนิงเฟิ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อย คล้ายกับนางไม่มีเงินจริง ๆคราวนี้ใบหน้าของหลี่ชุยผิงซีดเผือดลงทันที นางไม่คิดว่าสหายจะกล่าวเช่นนี้ ถึงแม้ว่านางจะเป็นลูกหลานของตระกูลหลี่ ซึ่งเป็นตระกูลของเสนาบดี แต่ใช่ว่านางจะมีเงินมากมายขนาดนี้ อีกทั้งเครื่องประดับพวกนี้ ราคารวมแล้วก็พันกว่าตำลึงเงิน แล้วนางจะเอาเงินจากไหนมาจ่ายกันล่ะไป๋หนิงเฟิ่งไม่รอให้สหายตั้งสติได้ นางจึงรีบกล่าวออกมาอีกครั้ง “ตลอดเวลาที่ผ่านมา ข้าเป็นค

  • ไป๋หนิงเฟิ่งสตรีผู้ไม่ยอมแพ้ต่อชะตา   เอาคืนสหายชั่ว 1.1

    บทที่ 6 เอาคืนสหายชั่วไป๋หนิงเฟิ่งปรายตามองสหายเล็กน้อย ทว่าไม่ให้ฝ่ายนั้นรู้ตัว เนื่องจากนางต้องการเล่นงานสหายคนนี้ ถึงแม้ว่าบ้านของหลี่ชุยผิงมีฐานะร่ำรวยและเป็นจวนเสนาบดี แต่ทุกครั้งที่ออกมาเดินเล่นหรือซื้อของด้วยกัน กลับกลายเป็นให้นางจ่ายทั้งนั้นคราวนี้มาดูกันเถิดว่า ต่อจากนี้ใครกันแน่เป็นฝ่ายเสียหน้า!หลี่ชุยผิงยิ้มก่อนจะเดินเข้ามาคล้องแขนสหาย แล้วเอ่ยอย่างดีใจ “ถ้าเช่นนั้นเราสองคนไม่ต้องคิดมากแล้ว ไปร้านขายเครื่องประดับกันดีกว่า ข้าอยากซื้อเครื่องประดับสักชุดสองชุด”“อืม ถ้าเจ้าอยากซื้อ ข้าจะไปกับเจ้า” ไป๋หนิงเฟิ่งตอบกลับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ทว่าเน้นคำว่าอยากซื้อ สายตาหันไปสบกับสาวใช้คนสนิทเพื่อส่งสัญญาณบางอย่างให้จากนั้นพวกนางจึงพากันเดินไปทางร้านขายเครื่องประดับทันทีร้านเครื่องประดับซินหรง ภายในร้านมีลูกค้ามากมายที่เข้ามาดูสินค้าและเลือกซื้ออย่างที่ต้องการ เมื่อลูกจ้างสาวในร้านเห็นว่าไป๋หนิงเฟิ่งเดินเข้ามาพร้อมกับคุณหนูหลี่ จึงได้รีบเดินมาทักทายอย่างนอบน้อม“คุณหนูไป๋ คุณหนูหลี่ เชิญเจ้าค่ะ วันนี้ทั้งสองต้องการสิ่งใดเจ้าคะ” ใบหน้าของนางยิ้มแย้ม ไม่คิดดูหมิ่นไป๋หนิงเฟิ่งตามข่

  • ไป๋หนิงเฟิ่งสตรีผู้ไม่ยอมแพ้ต่อชะตา    พบเจอองค์ชายรองเซียวเฟยหลง 1.2

    เมื่อเจอคำถามนี้ หลี่ชุยผิงสะอึกไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบ “ใช่แล้ว เขายังไม่กลับมาจากชายแดน หากกลับมาแล้วเขาคงมาสู่ขอข้าน่ะ แล้วที่เจ้าตกสระน้ำน่ะ อาการดีหรือยัง สตรีอย่างเราต้องดูแลตัวเองให้ดี เพราะหากไอเย็นเข้าร่างกายเยอะ จะทำให้มีบุตรยาก”“ข้าไม่คิดถึงเรื่องนั้นหรอก สตรีที่ชื่อเสียงเสียหายเช่นข้า คงไม่มีชายใดกล้ามาสู่ขอแล้วล่ะ แต่ข้ายินดีกับเจ้านะ และจะไปร่วมงานแต่งของเจ้าอย่างแน่นอน”“เจ้าอยู่แต่ในจวนไม่เบื่อบ้างหรือ เช่นนั้นไปเดินเล่นกับข้าในตลาดดีหรือไม่ เผื่อว่ามีจะของถูกใจเจ้า” หลี่ชุยผิงเอ่ยชวนไปเดินเล่นในตลาด นางเองก็อยากได้เครื่องประดับเหมือนกัน หากไปกับไป๋หนิงเฟิ่งคราใด นางไม่เคยได้จ่ายเงินสักตำลึงเดียวไป๋หนิงเฟิ่งรู้ทันสหายชั่ว แต่ก็แสร้งโอนอ่อนเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายสงสัย “ไปตลาดก็ดีเหมือนกัน ข้าอยากเดินเล่น” นางยิ้มคล้ายกับดีใจ‘คอยดูว่าข้าจะเล่นงานเจ้าอย่างไร มีหรือที่ข้าไม่รู้ว่า เจ้าต้องการให้ข้าไปพบเจอคำติฉินนินทาของชาวบ้าน แต่ในเมื่อเจ้าต้องการเช่นนั้น ข้าก็พร้อมที่จะเล่นกับเจ้าเช่นกัน’ นางคิดในใจ ยิ้มเย็นมุมปากเล็กน้อยไม่นานพวกนางก็พากันนั่งรถม้าออกมาจากจวนตระกูลไป๋จวนอ

  • ไป๋หนิงเฟิ่งสตรีผู้ไม่ยอมแพ้ต่อชะตา    พบเจอองค์ชายรองเซียวเฟยหลง1.1

    บทที่ 5 พบเจอองค์ชายรองเซียวเฟยหลงขณะเดียวกัน มีสายตาคู่หนึ่งมองมาทางนางอย่างพึงพอใจ ก่อนร่างใหญ่จะออกมาจากที่ซ่อน“ไม่คิดว่าเจ้าจะกล้าปฏิเสธการแต่งงาน และยอมแบกรับชื่อเสียงที่ถูกฝ่ายชายยกเลิกงานแต่ง แล้วยังให้บุตรสาวบ้านรองแต่เข้าเป็นอนุอีก”ไป๋หนิงเฟิ่งหันมาตามเสียง นางพยายามทบทวนความทรงจำและรับรู้ได้ว่าเขาคือองค์ชายรอง แววตาของนางสงบเย็น นางลุกขึ้นแล้วค่อย ๆ คุกเข่าลงทำความเคารพ “คารวะองค์ชายรอง”“ลุกขึ้นเถิด เจ้าไม่ต้องพิธีรีตองมากนัก”นางลุกขึ้นหลังจากได้รับอนุญาต เซียวเฟยหลงเดินมาหยุดตรงหน้า “เจ้ายังไม่ได้ตอบข้า เหตุใดเจ้าทำเช่นนั้น นั่นไม่เท่ากับต้องการขัดราชโองการหรอกหรือ”“หม่อมฉันไม่ได้ขัดราชโองการเพคะ ราชโองการส่งมาที่จวนนั้นมอบให้บุตรสาวสายรอง เพื่อแต่งเข้าไปเป็นอนุต่างหาก ไม่ใช่ให้หม่อมฉันแต่งเข้าจวนต้วนอ๋องเสียหน่อย” นางตอบกลับเสียงเรียบนิ่ง พร้อมกับเงยหน้าสบตาเขาตรง ๆ ริมฝีปากยกขึ้นเล็กน้อยเซียวเฟยหลงหัวเราะเบา ๆ เสียงนั้นทุ่มต่ำแต่กลับเย็นยะเยือก “เจ้ากล้ายอกย้อนดีนัก สตรีทั้งแผ่นดินต้องการแต่งเข้าจวนอ๋อง ต้องการสานสัมพันธ์กับราชวงศ์ แต่เจ้ากลับผลักไสวาสนานี้ ช่างน่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status