“คุณมานั่งรอผมตรงนี้ก่อน”เขาขยับเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานให้ แต่เธอกลับเดินไปนั่งที่โซฟาตัวยาวมุมห้อง เล่นเอาคนตัวโตแค่นหัวเราะหยันตัวเองเบาๆ ก่อนปลดกระดุมเสื้อสูทแล้วเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ประจำตำแหน่งของตัวเองไม่นานจากนั้น กนกรัตน์ก็นำน้ำส้มไปเสิร์ฟให้กับผู้หญิงที่สวยราวกับนางฟ้าชนิดที่เธอเทียบไม่ติดฝุ่นแม้แต่จุดเดียว เธอเหลือบตาขึ้นมองผู้หญิงคนนั้น ในขณะที่ผู้หญิงคนนั้นก็มองสบตากับเธอด้วยใบหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึก“ขอบคุณค่ะ”หึ เย่อหยิ่งราวนางหงส์อย่างที่เธอได้ยินมาจริงๆ คอยดูเถอะ ถึงแม้จะสวยเพียงใด แต่คนอย่างปัณจธรไม่เคยใช้ผู้หญิงคนไหนนานๆ นอกจากเธอคนเดียวเท่านั้นที่เขาหลงใหล อีกไม่นานเกินรอ แม่นางหงส์ก็คงจะโดนเขาเขี่ยทิ้ง“ยินดีค่ะ”กนกรัตน์เชิดหน้าขึ้น ส่งยิ้มหยันให้กับผู้หญิงคนใหม่ของเขา แล้วเดินกลับไปเสิร์ฟกาแฟให้กับคนที่ก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารในแฟ้มอย่างตั้งใจกิริยาที่เลขาของเขาแสดงออกมาต่อหน้าเธอ มันยืนยันได้อย่างชัดเจนเลยว่าสองคนนี้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันแน่นอน จึงลอบเบะปากอย่างนึกรังเกียจ ขนาดพนักงานของตัวเองยังไม่เว้น ถ้าเธอต้องแต่งงานกับเขาเพราะความรัก เธอคงหึงหวงเขาจนเป็
ปรมัตถ์ อริสา ปัณยตา และสุทธิรักษ์ เบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อยแล้วลอบหันมามองหน้ากัน รู้แล้วว่าเหตุใดทำให้คนอย่างปัณจธรที่ไม่เคยมีความรักให้ใคร รีบร้อนอยากแต่งงานกับลูกสาวเจ้าของที่ดินขนาดนี้ ทำอย่างกับว่าถ้าช้าอีกเพียงนาทีเดียว เจ้าหล่อนจะเปลี่ยนใจไปแต่งงานกับคนอื่นอย่างไรอย่างนั้นก็ผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงหน้าของพวกเขา เธอสวยงามไปทั้งตัวอย่างไร้ที่ติราวกับนางฟ้าก็ไม่ปาน ไม่ว่าจะพิศมองมุมไหนก็เพลินตา จนแทบไม่อาจละสายตาไปจากเธอได้เลยจริงๆการเจรจาสู่ขอสำเร็จไปได้ด้วยดี เงินสินสอดทองหมั้นที่ฝ่ายชายเสนอให้ช่างสมน้ำสมเนื้อกับว่าที่เจ้าสาวคนสวยเป็นจำนวนหนึ่งร้อยล้านบาท“ยินดีต้อนรับเข้าสู่ครอบครัวของเรานะจ๊ะ น้ำริน ถ้ามีเรื่องไม่สบายใจอะไรก็คุยกับแม่และพี่หยาได้ คิดซะว่าแม่เป็นแม่แท้ๆ ของน้ำนะลูก”อริสาโอบกอดสาวสวยที่กำลังจะเข้ามาเป็นลูกสาวอีกคนของเธอด้วยความอบอุ่น อ้อมกอดจากแม่ที่เธอขาดหายไม่หลงเหลือในความทรงจำ วันนี้ได้รับการทดแทนจากผู้เป็นแม่ของว่าที่สามี มันอบอุ่นจนคนตัวบางน้ำตาซึม“ขอบคุณมากค่ะ คุณป้า”“ไม่เอาสิลูก เรียกพ่อกับแม่เถอะ อีกไม่กี่วันก็ต้องมาใช้นามสกุลเดียวกันแล้วนะ”“ค่ะ คุณแม
“อย่าหาว่าอาเร่งเลยนะปั้น อารู้สึกแย่ลงทุกวัน กลัวไม่ได้อยู่ในงานแต่งของเราสองคน”“พ่อคะ ไม่พูดแบบนี้สิคะ”“พ่อรู้ตัวเองดี ขอให้พ่อรีบจัดการเรื่องนี้ก่อนนะลูก”“พรุ่งนี้ผมจะพาผู้ใหญ่มาสู่ขอคุณน้ำอย่างเป็นทางการ คุณอาจะว่าอะไรไหมครับถ้าสถานที่ต้องเป็นที่นี่”“สบายมาก ไม่ต้องพิธีรีตอง แล้วปั้นคุยกับพ่อแม่หรือยัง”“เอ่อ ยังเลยครับ แต่คืนนี้ผมจะกลับไปคุย พ่อแม่ผมท่านไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว เผลอๆ จะดีใจด้วยซ้ำที่ผมอยากแต่งงาน”อยากแต่งงาน..คำนี้ทำเอาว่าที่เจ้าสาวคนสวยหันมองหน้าเขา มันคงรู้สึกดีมากถ้าเธอกับเขาเป็นคนรักกัน และเขาแต่งงานกับเธอด้วยเหตุผลอื่นที่ไม่ใช่เพื่อที่ดินผืนนั้นและมันคงจะดีกว่านี้ ถ้าคนที่พูด ไม่ใช่เขา ผู้ชายเจ้าชู้มักมากที่ต่อให้แก่ตายก็คงไม่มีทางรู้จักคำว่า “พอ”“ปั้นโอเคจริงๆ เหรอ กับเรื่องสัญญา ไม่ต้องเกรงใจอา ถ้าไม่ไหวก็ถอนตัวได้ เพราะต่อให้ปั้นปฏิเสธ เดี๋ยวอาก็หาเหยื่อรายใหม่มารับดูแลเด็กดื้อของอาได้เอง อาจจะต้องติดสินบนนิดหน่อยกันล่ะนะ ถ้าไม่มีใครจริงๆ ก็คงต้องขอร้องเพื่อนรักของเขา เจ้าราเชนทร์ ให้มารับช่วงต่อดูแลกันไป ตอนนี้เขาเรียนอยู่เมืองนอก อากลัวว่ากว่าเขาจะกลับ
เสียงเคาะประตูห้องทำงานของ CEO สาวดังขึ้นก่อนจะถูกเปิดเข้ามาโดยเลขานุการที่หอบดอกกุหลาบสีขาวช่อใหญ่กับดอกทิวลิปสีชมพูหวานอีกหนึ่งช่อ นำมาให้เจ้านายสาวถึงที่โต๊ะ“วันนี้สองช่อค่ะคุณน้ำ”“ของใครอีกล่ะ”“คุณเทวา เจ้าเก่าเจ้าเดิม ส่วนดอกทิวลิปสีชมพูอ่อนนี่ของคุณราเชนทร์ค่ะ”“เชนเหรอ”“ใช่ค่ะ มีการ์ดด้วยนะคะ”เจ้าของห้องเปิดอ่านการ์ดของช่อกุหลาบสีขาวแล้วกำลังจะหอบเอาไปทิ้งเหมือนเดิม แต่เพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าเธอไม่ได้อยู่ในห้องนี้ตามลำพังจึงเงยหน้าขึ้นมองแขกไม่ได้รับเชิญที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟากลางห้องดวงตาคมกริบเรียบเฉยที่แปลความหมายไม่ออกจ้องเธอนิ่งนาน แต่คนตัวบางกลับไม่คิดจะสนใจ เธอยกช่อกุหลาบสีขาวขึ้นมาดมหน้าตาเฉยราวกับพิศวาสเจ้าของดอกไม้ช่อนี้เสียเต็มประดาจากนั้นจึงเปิดอ่านการ์ดของดอกทิวลิปช่องาม ซึ่งเป็นดอกไม้ช่อเดียวในช่วงนี้ที่เธอคิดจะเก็บเอาไว้ เพราะมันส่งมาจากเพื่อนผู้ชายที่แสนดีของเธอ“ผมกลับมาแล้วนะ คิดถึงน้ำมาก เดี๋ยวจัดการเรื่องที่บริษัทเสร็จแล้วจะเข้าไปหานะครับ”รอยยิ้มที่แต่งแต้มริมฝีปาก ทั้งดวงตาเป็นประกายวิบวับทำเอาปัณจธรกัดกรามกรอด เธอทิ้งดอกไม้ของเขาอย่างไม่ไยดี แต่กลับ
ตอนที่ 6 กระหายในชัยชนะ“น่าขยะแขยงที่สุด”“ตอนอยู่บนเตียงกับผม คุณไม่พูดแบบนี้แน่ น้ำริน”จมูกโด่งตรงเข้าคลอเคลียข้างแก้มใส เธอสะบัดหน้าหนีทันทีด้วยความตกใจ ทำให้ลำคอระหงหอมกรุ่นกลิ่นกายสาวผสมกับน้ำหอมราคาแพงลอยเด่นตรงหน้า เขาจึงฝังจมูกลงไปแทนแล้วกดจูบย้ำๆ สูดกลิ่นหอมหวานที่เขาหลงใหล“หยุดนะ”ไม่เพียงปลายเสียงเท่านั้นที่สั่น แต่ร่างกายบอบบางก็สั่นสะท้านไปทั้งร่างจนน่าสงสาร แค่เขาคุกคามเธอนิดหน่อย คนเก่งของเขาก็ท่าจะเอาตัวไม่รอดเสียแล้ว“หึ ตัวสั่นเชียว กลัวผมเหรอครับ”เขาขยับใบหน้าออกมาจากซอกคอ เธอจึงสะบัดหน้ากลับมามองสบตากับเขาด้วยแววตาวาววับเอาเรื่อง แต่ดันได้รับรอยยิ้มมุมปากแสนมีเสน่ห์กลับไปแทน“บอกแล้วไง ว่าฉันขยะแขยง ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ก่อนที่ฉันจะยกเลิกงานแต่งงานทุเรศๆ นี่”คนตัวโตยอมปล่อยข้อมือของเธอที่ตรึงไว้กับผนัง มือใหญ่ทั้งสองข้างยกขึ้นแบออกอย่างยอมแพ้ แต่ดวงตาคมกริบไม่ได้แสดงถึงความรู้สึกแบบนั้นเลยสักนิด“ยอมแล้วครับ”“หมดธุระก็กลับไปได้แล้ว ฉันจะทำงาน”เธอเอ่ยไล่ว่าที่เจ้าบ่าวแบบไม่ถนอมน้ำใจ ซ้ำยังเดินไปนั่งที่เก้าอี้ทำงานของตัวเองหน้าตาเฉย ซึ่งคนตัวโตก็เดินตามไปนั่งที่เ
ธารารินเปิดประตูห้องทำงานเข้ามาแต่เช้าตรู่แล้วก็ต้องถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย บนโต๊ะทำงานมีดอกกุหลาบสีชมพูอ่อนช่อโตส่งกลิ่นหอมฟุ้งเช่นเดิมเธอเดินตรงดิ่งไปยังดอกไม้ช่อนั้น วางซองเอกสารสีน้ำตาลไว้ข้างๆ หยิบการ์ดใบสวยขึ้นมาดูก็เห็นข้อความของผู้ชายน่าขยะแขยงคนเดิมที่กำลังจะมาเป็นสามีของเธอในอีกไม่นานนี้“ผมดีใจนะครับ ที่จะได้แต่งงานกับคุณ สัญญาว่าจะดูแลคุณให้ดีที่สุด”CEO สาวแสนสวยเบะปาก เสียบการ์ดใบนั้นคืนที่เดิม แล้วหอบดอกไม้ช่อโตเดินตรงดิ่งไปยังถังขยะที่แม่บ้านยังไม่ยอมเพิ่มขนาดให้กับเธอเสียที ก่อนจะใช้เท้าเหยียบเพื่อเปิดฝาแล้วยัดช่อกุหลาบลงไปในถังใบนั้นให้มันเสนอหน้าชูช่อราวกับถังขยะใบน้อยเป็นแจกันทรงสวยเหมือนกับทุกวันดวงตาคมกริบเบิกกว้างด้วยความตกใจ มองแผ่นหลังบอบบางของว่าที่เจ้าสาวซึ่งกำลังยืนสะกดจิตช่อดอกไม้ของเขาในถังขยะอย่างอึ้งๆ ก่อนจะยกยิ้มขำที่มุมปากพร้อมพยักหน้าน้อยๆ ด้วยความชอบใจ เห็นทีหลังจากนี้เขาคงมีเรื่องสนุกท้าทายให้ทำอีกเยอะเลย“ผมเสียใจนะครับ น้ำริน ที่คุณทำกับดอกไม้ของผมแบบนี้”เสียงทุ้มที่ไม่คุ้นหูดังขึ้นมาจากด้านหลัง เจ้าของห้องสะดุ้งโหยงแล้วหันกลับไปมองยังต้นเสียง