ธารารินเปิดประตูห้องทำงานเข้ามาแต่เช้าตรู่แล้วก็ต้องถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย บนโต๊ะทำงานมีดอกกุหลาบสีชมพูอ่อนช่อโตส่งกลิ่นหอมฟุ้งเช่นเดิม
เธอเดินตรงดิ่งไปยังดอกไม้ช่อนั้น วางซองเอกสารสีน้ำตาลไว้ข้างๆ หยิบการ์ดใบสวยขึ้นมาดูก็เห็นข้อความของผู้ชายน่าขยะแขยงคนเดิมที่กำลังจะมาเป็นสามีของเธอในอีกไม่นานนี้
“ผมดีใจนะครับ ที่จะได้แต่งงานกับคุณ สัญญาว่าจะดูแลคุณให้ดีที่สุด”
CEO สาวแสนสวยเบะปาก เสียบการ์ดใบนั้นคืนที่เดิม แล้วหอบดอกไม้ช่อโตเดินตรงดิ่งไปยังถังขยะที่แม่บ้านยังไม่ยอมเพิ่มขนาดให้กับเธอเสียที ก่อนจะใช้เท้าเหยียบเพื่อเปิดฝาแล้วยัดช่อกุหลาบลงไปในถังใบนั้นให้มันเสนอหน้าชูช่อราวกับถังขยะใบน้อยเป็นแจกันทรงสวยเหมือนกับทุกวัน
ดวงตาคมกริบเบิกกว้างด้วยความตกใจ มองแผ่นหลังบอบบางของว่าที่เจ้าสาวซึ่งกำลังยืนสะกดจิตช่อดอกไม้ของเขาในถังขยะอย่างอึ้งๆ ก่อนจะยกยิ้มขำที่มุมปากพร้อมพยักหน้าน้อยๆ ด้วยความชอบใจ เห็นทีหลังจากนี้เขาคงมีเรื่องสนุกท้าทายให้ทำอีกเยอะเลย
“ผมเสียใจนะครับ น้ำริน ที่คุณทำกับดอกไม้ของผมแบบนี้”
เสียงทุ้มที่ไม่คุ้นหูดังขึ้นมาจากด้านหลัง เจ้าของห้องสะดุ้งโหยงแล้วหันกลับไปมองยังต้นเสียงทันที ก็สบตากับชายหนุ่มรูปหล่อในชุดสูทสีดำทั้งตัวนอกตัวใน นั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟากลางห้อง
ดวงตากลมโตที่ตกแต่งเครื่องสำอางอย่างสวยงามเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยเมื่อมองเขาเต็มตา ผู้ชายตรงหน้าผิวพรรณขาวผ่องดูเนียนละเอียดราวกับผิวผู้หญิง ใบหน้าเรียวรูปไข่รับกับคางเหลี่ยมมนกำลังดี แถมเข้ากับผมรองทรงสั้นที่เซตทรงยุ่งเล็กน้อยตามสมัยนิยม คิ้วเข้มดกดำบนหน้าผากกว้างพอเหมาะ จมูกโด่งจัด ริมฝีปากหยักได้รูปสวยสีแดงสดราวกับผลเชอร์รี่ และจุดที่ดึงดูดเธอไว้ให้ยืนมองเขานิ่งราวกับตกอยู่ในภวังค์ คือดวงตาคมกริบดำขลับชวนใจสั่นคู่นั้น
คืนนั้น..เธอก็ว่าเขาหล่อแล้ว แต่เมื่อมาเจอกันในแสงไฟปกติแบบนี้ ต้องยอมรับเลยว่าผู้ชายคนนี้หล่อและมีเสน่ห์มาก ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะมีผู้หญิงมากมายในชีวิต
ไม่ต่างจากเขาที่มองหญิงสาวในชุดเดรสสูทแขนยาวแบบกระโปรงสั้นสีขาว แหวกอกลงลึกจนเห็นความอวบอิ่มของวัยสาวที่เบียดกันจนชิด ตัวชุดเรียบหรูตกแต่งกระดุมสีทองทั้งบนสาบเสื้อและปลายแขน เรียวขายาวบนรองเท้าส้นสูงสีขาวยิ่งทำให้เธอดูสวยเซ็กซี่ชวนตกตะลึง
ไหนจะใบหน้าเรียวรูปไข่ขาวผ่อง ดวงตากลมโตที่เคยสบมองในคืนนั้น จมูกโด่งปลายเชิดรั้น ริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงอมชมพู ผมยาวถึงกลางหลังดัดเป็นลอนตรงปลาย ยิ่งทำให้เขาไม่อาจละสายตาไปจากเธอได้เลย
คืนนั้น..ในความมืด ก็ว่าสวยจนเขาตะลึงแล้ว วันนี้..ภายใต้แสงสว่าง เธอยิ่งสวยจนทำเอาเขาแทบลืมหายใจ
“คุณ..”
ธารารินผู้ไม่เคยตกอยู่ภายใต้มนตร์สะกดของชายใดรู้สึกตัวก่อน จึงเชิดใบหน้าสวยงามขึ้นเล็กน้อย แม้จะตกใจว่าหมอนี่มานั่งอยู่ในห้องเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ก็ปรับสีหน้าได้อย่างแนบเนียน
เพียงเสี้ยววินาที คนตัวโตก็ลุกขึ้นจากโซฟา ก้าวยาวๆ เพียงไม่กี่ก้าวก็มาหยุดยืนตรงหน้าเธอแล้ว
“สวัสดีครับ ผมว่าเรารู้จักกันนะ แค่ยังไม่เคยคุยกันเท่านั้นเอง”
“คุณปัณจธร”
“ครับ ผมปัณจธร คุณเรียกผมว่าปั้น หรือปั้นจั่นก็ได้”
“ค่ะ คุณปัณจธร คุณมาหาฉันถึงที่นี่ มีธุระอะไรหรือเปล่า”
คนตัวโตแค่นยิ้มขำ ท่าทางลูกสาวคนเดียวของเจ้าของที่ดินผืนงามอย่างคุณหนูน้ำริน จะไม่ใช่หมูในอวยอย่างที่เขาหวังจะให้เป็น
ท่าทีพยศและหยิ่งยโสนั้น มันน่าหมั่นไส้จนน่าปราบให้อยู่หมัดจริงๆ
“ถ้าไม่มีธุระ ผมมาหาว่าที่เจ้าสาวของผมไม่ได้หรือครับ”
“ต้องการอะไร พูดมาตรงๆ ไม่ต้องสร้างภาพ เพราะฉันไม่มีวันหลงกลผู้ชายอย่างคุณ”
“ผู้ชายอย่างผมมันแย่ขนาดนั้นเลยหรือครับ”
“คุณน่าจะรู้จักตัวคุณเองดีที่สุดนะ ไม่เห็นต้องมาถามฉันเลย รีบพูดธุระของคุณมา ฉันมีงานต้องทำ”
“ไม่คิดจะเชิญผมนั่งหน่อยเหรอครับ”
“ไม่ค่ะ เราคงไม่มีความจำเป็นต้องคุยกันนาน รีบคุย รีบจบ รีบไป และหวังว่าเราจะไม่ต้องมาพบเจอหน้ากันอีก”
“คุณเป็นคนตรงๆ ดีนะครับ”
“ค่ะ ฉันเสแสร้งไม่เป็น”
“ดีครับ งั้นเราคงตกลงอะไรกันง่ายหน่อย คุณรู้ใช่ไหมว่าผมอยากได้ที่ดินของพ่อคุณมาก แต่ท่านไม่ยอมขายให้ ท่านจะยกให้ผมต่อเมื่อเราแต่งงานกันและทำตามเงื่อนไขในพินัยกรรมได้ คือเราต้องมีลูกกัน คุณยินดีแต่งงานกับผมหรือเปล่า”
“ฉันไม่ยินดีแต่งงานกับคุณ แต่ฉันต้องการทำให้พ่อสบายใจ ก่อนที่ท่าน..จะไป”
ท้ายเสียงสั่นเล็กน้อย ทั้งดวงตาคู่สวยยังไหววูบจนเขาสัมผัสได้
“ที่จริงคุณไม่ควรยอมรับข้อตกลงบ้าๆ นี่แต่แรก ว่างนักหรือไง ถึงมาแต่งงานกับผู้หญิงเพื่อที่ดิน”
“ผมไม่ได้ว่าง แต่ผมทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ผมต้องการ เดี๋ยวอยู่ด้วยกันไปคุณก็รู้”
“ที่ดินมีเยอะแยะ ทำไมต้องมาอยากได้ที่ที่เขาไม่อยากขาย”
“ของดีที่สุด ใครๆ ก็อยากครอบครอง และแน่นอนว่ามันก็คงจะยากหน่อยเป็นธรรมดา ซึ่งผมไม่เกี่ยงในวิธีการที่จะได้มันมา”
“ไร้ยางอายที่สุด”
“ผมไม่รู้สึกหรอกนะ อยากพูดอะไรก็พูดเลยครับน้ำริน”
คนรูปหล่อใช้มือทั้งสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกง ยืนผ่อนคลายด้วยท่วงท่าสบายๆ มองเธอด้วยใบหน้านิ่งเฉย ดวงตาคมกริบไร้ความรู้สึก
“ถ้าคุณไม่มาอยากได้ที่ดินผืนนี้ พ่อฉันคงไม่คิดวิธีบ้าๆ แบบนี้มาหรอก ฉันอยากให้คุณถอนตัวไปซะ ถ้าเป็นไปได้”
“เสียใจที่ต้องบอกคุณตรงๆ ว่ามันเป็นไปไม่ได้ ทำใจซะเถอะ คุณรักพ่อคุณมากนี่ ทำให้ท่านสบายใจก่อนที่ท่านจะจากไป เรื่องแค่นี้ไม่เห็นยาก หรือคุณหนูน้ำรินคนสวยมีแฟนอยู่แล้วครับ”
“มันเรื่องของฉัน คุณเองก็มีผู้หญิงตั้งเยอะ”
“ผมไม่มีแฟน ไม่เคยมี”
“หึ ไม่มีแฟน แต่เมียทั่วบ้านทั่วเมือง”
“ผู้หญิงที่แค่นอนด้วย ไม่เรียกว่าเมียหรอกนะครับ แต่อย่างคุณนี่สิ ที่จะต้องเรียกว่าเมีย”
“ทุเรศ ฉันขยะแขยง คุณยอมแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักได้ยังไง ฉันทำใจไม่ได้หรอกนะ”
“ขนาดทำใจไม่ได้ แต่คุณก็ยอมรับปากแต่งงานกับผมอยู่ดี ไม่ต้องกลัวหรอกนะ แต่งงานกับผมมันไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอก เรื่องบนเตียง ผมทำให้คุณมีความสุขได้ไม่น้อยกว่าผู้ชายคนอื่นในชีวิตคุณหรอกครับ”
“สกปรก”
“ผมป้องกันทุกครั้ง ไม่มีโรค เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปตรวจให้อีกรอบก็ได้ เพื่อความสบายใจ”
“นี่ยังไงคุณก็จะแต่งงานกับฉันให้ได้ใช่ไหม ไม่เข้าใจหรือไง ว่าฉันไม่อยากแต่งงานด้วย ไปยกเลิกกับพ่อฉันซะ”
ในเมื่อเธอไม่สามารถทำให้ท่านผิดหวังได้ คงจะดีกว่าถ้าเขาเป็นคนขอยกเลิกงานแต่งงานและไม่ต้องการที่ดินผืนนี้อีก เดี๋ยวเธอจะหาวิธีอื่นเอาเอง เพื่อให้พ่อของเธอสบายใจและมั่นใจว่าท่านจากไปได้โดยไม่ต้องเป็นห่วงเธอ
“ถ้าพ่อคุณรู้ว่าคุณมาล็อบบี้ให้ผมผิดคำสัญญากับท่านแบบนี้ ท่านคงเสียใจมากนะครับ ที่คุณไม่ได้รักท่านจริงอย่างที่ปากว่า”
“นี่คุณจะเอาเรื่องนี้ไปฟ้องพ่อฉันเหรอ”
“หึหึ ผมไม่ฟ้องหรอกครับ แค่ไปอธิบายให้ท่านเข้าใจในตัวผมเท่านั้นเอง ว่าผมพร้อมทำตามที่ท่านต้องการทุกอย่าง แต่ที่งานแต่งงานมันไม่เกิดขึ้นตามที่ท่านต้องการ เพราะลูกสาวของท่านไม่ได้รักท่านมากพออย่างที่ปากพูด เลยยอมเสียสละความสุขส่วนตัวเพื่อท่านไม่ได้”
คนตัวบางก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เชิดหน้าขึ้นมองคนที่ตัวสูงกว่าเธอค่อนข้างเยอะด้วยแววตาที่แสดงถึงความเกลียดชังอย่างไม่มีปิดบัง
“มันจะมากเกินไปแล้วนะ คุณนี่มันทุเรศที่สุด ถ้ายังยืนยันที่จะแต่งงานกับฉันเพื่อที่ดิน ก็ขอให้รู้เอาไว้ว่าฉันจะไม่มีวันยอมมีลูกกับคุณ อย่าหวังว่าจะมาแตะต้องตัวฉัน และอย่าหวังว่าจะใช้ลูกของฉันเป็นเครื่องมือให้คุณได้ที่ดินของฉันไป ฉันจะทำให้คุณทนไม่ได้ จนขอหย่ากับฉันเลย คอยดูสิ”
“ถ้าคิดว่าทำได้ ก็ลองดูครับ”
เขาขยับตัวเข้าหาเธออีกก้าว โน้มใบหน้าหล่อเหลาลงมาหาเธอเล็กน้อย จนตอนนี้ใบหน้าของคนทั้งสองห่างกันไม่กี่คืบเท่านั้น
เธอจ้องสบตากับเขาอย่างไม่มีเลี่ยงหลบ ผู้ชายเจ้าเล่ห์ไร้ยางอาย อย่าฝันว่าชาตินี้เขาจะได้ที่ดินของพ่อเธอไป มาคอยดูกันว่า ถ้าที่ดินมรดกผืนงามไม่มีวันตกไปเป็นชื่อของเขา คนอย่างเขาจะทนอยู่กับเธอได้สักกี่น้ำ
“รู้เอาไว้..ว่าฉันไม่มีวันยอมให้พินัยกรรมสมบูรณ์ ถ้าชาตินี้ที่ดินผืนนั้นไม่มีวันเป็นของคุณ อยากรู้นักว่าผู้ชายไร้ยางอายอย่างคุณ จะทนอยู่กับฉันได้สักกี่น้ำ”
ดวงตาคมกริบวาบขึ้น ก่อนจะก้มลงมาอีกนิดแล้วกระซิบเสียงแหบพร่าจนเธอขนลุกซู่
“กี่น้ำเหรอ นับให้ไหวแล้วกัน”
“ไอ้บ้า”
เธอออกแรงผลักหน้าอกแกร่ง แต่เขากลับก้าวเดินหน้าอย่างคุกคาม ต้อนจนแผ่นหลังบอบบางชิดกับผนังไร้ทางหนี หนำซ้ำเขายังรวบข้อมือทั้งสองข้างของเธอตรึงไว้ที่ผนังห้องเย็นเยียบ แล้วก้มลงมาสูดกลิ่นหอมหวานจากซอกคอขาวผ่องที่เขาเคยได้กลิ่นมาแล้วครั้งหนึ่ง
“ปล่อยนะ”
“ดูไม่เห็นจะเก่งเหมือนเมื่อกี้เลยนะครับ แค่นี้คุณก็หนีผมไม่พ้นแล้ว เอาอะไรมาคิดว่าคุณจะรอดเงื้อมมือผมไปได้”
“แน่จริงอย่าใช้กำลังสิ”
“หึหึ คุณคงลืมไปแล้ว ว่าว่าที่สามีของคุณเป็นคนที่อยากได้อะไรก็ต้องได้ โดยที่ไม่เกี่ยงวิธีด้วยสิ”
“คุณมานั่งรอผมตรงนี้ก่อน”เขาขยับเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานให้ แต่เธอกลับเดินไปนั่งที่โซฟาตัวยาวมุมห้อง เล่นเอาคนตัวโตแค่นหัวเราะหยันตัวเองเบาๆ ก่อนปลดกระดุมเสื้อสูทแล้วเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ประจำตำแหน่งของตัวเองไม่นานจากนั้น กนกรัตน์ก็นำน้ำส้มไปเสิร์ฟให้กับผู้หญิงที่สวยราวกับนางฟ้าชนิดที่เธอเทียบไม่ติดฝุ่นแม้แต่จุดเดียว เธอเหลือบตาขึ้นมองผู้หญิงคนนั้น ในขณะที่ผู้หญิงคนนั้นก็มองสบตากับเธอด้วยใบหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึก“ขอบคุณค่ะ”หึ เย่อหยิ่งราวนางหงส์อย่างที่เธอได้ยินมาจริงๆ คอยดูเถอะ ถึงแม้จะสวยเพียงใด แต่คนอย่างปัณจธรไม่เคยใช้ผู้หญิงคนไหนนานๆ นอกจากเธอคนเดียวเท่านั้นที่เขาหลงใหล อีกไม่นานเกินรอ แม่นางหงส์ก็คงจะโดนเขาเขี่ยทิ้ง“ยินดีค่ะ”กนกรัตน์เชิดหน้าขึ้น ส่งยิ้มหยันให้กับผู้หญิงคนใหม่ของเขา แล้วเดินกลับไปเสิร์ฟกาแฟให้กับคนที่ก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารในแฟ้มอย่างตั้งใจกิริยาที่เลขาของเขาแสดงออกมาต่อหน้าเธอ มันยืนยันได้อย่างชัดเจนเลยว่าสองคนนี้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันแน่นอน จึงลอบเบะปากอย่างนึกรังเกียจ ขนาดพนักงานของตัวเองยังไม่เว้น ถ้าเธอต้องแต่งงานกับเขาเพราะความรัก เธอคงหึงหวงเขาจนเป็
ปรมัตถ์ อริสา ปัณยตา และสุทธิรักษ์ เบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อยแล้วลอบหันมามองหน้ากัน รู้แล้วว่าเหตุใดทำให้คนอย่างปัณจธรที่ไม่เคยมีความรักให้ใคร รีบร้อนอยากแต่งงานกับลูกสาวเจ้าของที่ดินขนาดนี้ ทำอย่างกับว่าถ้าช้าอีกเพียงนาทีเดียว เจ้าหล่อนจะเปลี่ยนใจไปแต่งงานกับคนอื่นอย่างไรอย่างนั้นก็ผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงหน้าของพวกเขา เธอสวยงามไปทั้งตัวอย่างไร้ที่ติราวกับนางฟ้าก็ไม่ปาน ไม่ว่าจะพิศมองมุมไหนก็เพลินตา จนแทบไม่อาจละสายตาไปจากเธอได้เลยจริงๆการเจรจาสู่ขอสำเร็จไปได้ด้วยดี เงินสินสอดทองหมั้นที่ฝ่ายชายเสนอให้ช่างสมน้ำสมเนื้อกับว่าที่เจ้าสาวคนสวยเป็นจำนวนหนึ่งร้อยล้านบาท“ยินดีต้อนรับเข้าสู่ครอบครัวของเรานะจ๊ะ น้ำริน ถ้ามีเรื่องไม่สบายใจอะไรก็คุยกับแม่และพี่หยาได้ คิดซะว่าแม่เป็นแม่แท้ๆ ของน้ำนะลูก”อริสาโอบกอดสาวสวยที่กำลังจะเข้ามาเป็นลูกสาวอีกคนของเธอด้วยความอบอุ่น อ้อมกอดจากแม่ที่เธอขาดหายไม่หลงเหลือในความทรงจำ วันนี้ได้รับการทดแทนจากผู้เป็นแม่ของว่าที่สามี มันอบอุ่นจนคนตัวบางน้ำตาซึม“ขอบคุณมากค่ะ คุณป้า”“ไม่เอาสิลูก เรียกพ่อกับแม่เถอะ อีกไม่กี่วันก็ต้องมาใช้นามสกุลเดียวกันแล้วนะ”“ค่ะ คุณแม
“อย่าหาว่าอาเร่งเลยนะปั้น อารู้สึกแย่ลงทุกวัน กลัวไม่ได้อยู่ในงานแต่งของเราสองคน”“พ่อคะ ไม่พูดแบบนี้สิคะ”“พ่อรู้ตัวเองดี ขอให้พ่อรีบจัดการเรื่องนี้ก่อนนะลูก”“พรุ่งนี้ผมจะพาผู้ใหญ่มาสู่ขอคุณน้ำอย่างเป็นทางการ คุณอาจะว่าอะไรไหมครับถ้าสถานที่ต้องเป็นที่นี่”“สบายมาก ไม่ต้องพิธีรีตอง แล้วปั้นคุยกับพ่อแม่หรือยัง”“เอ่อ ยังเลยครับ แต่คืนนี้ผมจะกลับไปคุย พ่อแม่ผมท่านไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว เผลอๆ จะดีใจด้วยซ้ำที่ผมอยากแต่งงาน”อยากแต่งงาน..คำนี้ทำเอาว่าที่เจ้าสาวคนสวยหันมองหน้าเขา มันคงรู้สึกดีมากถ้าเธอกับเขาเป็นคนรักกัน และเขาแต่งงานกับเธอด้วยเหตุผลอื่นที่ไม่ใช่เพื่อที่ดินผืนนั้นและมันคงจะดีกว่านี้ ถ้าคนที่พูด ไม่ใช่เขา ผู้ชายเจ้าชู้มักมากที่ต่อให้แก่ตายก็คงไม่มีทางรู้จักคำว่า “พอ”“ปั้นโอเคจริงๆ เหรอ กับเรื่องสัญญา ไม่ต้องเกรงใจอา ถ้าไม่ไหวก็ถอนตัวได้ เพราะต่อให้ปั้นปฏิเสธ เดี๋ยวอาก็หาเหยื่อรายใหม่มารับดูแลเด็กดื้อของอาได้เอง อาจจะต้องติดสินบนนิดหน่อยกันล่ะนะ ถ้าไม่มีใครจริงๆ ก็คงต้องขอร้องเพื่อนรักของเขา เจ้าราเชนทร์ ให้มารับช่วงต่อดูแลกันไป ตอนนี้เขาเรียนอยู่เมืองนอก อากลัวว่ากว่าเขาจะกลับ
เสียงเคาะประตูห้องทำงานของ CEO สาวดังขึ้นก่อนจะถูกเปิดเข้ามาโดยเลขานุการที่หอบดอกกุหลาบสีขาวช่อใหญ่กับดอกทิวลิปสีชมพูหวานอีกหนึ่งช่อ นำมาให้เจ้านายสาวถึงที่โต๊ะ“วันนี้สองช่อค่ะคุณน้ำ”“ของใครอีกล่ะ”“คุณเทวา เจ้าเก่าเจ้าเดิม ส่วนดอกทิวลิปสีชมพูอ่อนนี่ของคุณราเชนทร์ค่ะ”“เชนเหรอ”“ใช่ค่ะ มีการ์ดด้วยนะคะ”เจ้าของห้องเปิดอ่านการ์ดของช่อกุหลาบสีขาวแล้วกำลังจะหอบเอาไปทิ้งเหมือนเดิม แต่เพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าเธอไม่ได้อยู่ในห้องนี้ตามลำพังจึงเงยหน้าขึ้นมองแขกไม่ได้รับเชิญที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟากลางห้องดวงตาคมกริบเรียบเฉยที่แปลความหมายไม่ออกจ้องเธอนิ่งนาน แต่คนตัวบางกลับไม่คิดจะสนใจ เธอยกช่อกุหลาบสีขาวขึ้นมาดมหน้าตาเฉยราวกับพิศวาสเจ้าของดอกไม้ช่อนี้เสียเต็มประดาจากนั้นจึงเปิดอ่านการ์ดของดอกทิวลิปช่องาม ซึ่งเป็นดอกไม้ช่อเดียวในช่วงนี้ที่เธอคิดจะเก็บเอาไว้ เพราะมันส่งมาจากเพื่อนผู้ชายที่แสนดีของเธอ“ผมกลับมาแล้วนะ คิดถึงน้ำมาก เดี๋ยวจัดการเรื่องที่บริษัทเสร็จแล้วจะเข้าไปหานะครับ”รอยยิ้มที่แต่งแต้มริมฝีปาก ทั้งดวงตาเป็นประกายวิบวับทำเอาปัณจธรกัดกรามกรอด เธอทิ้งดอกไม้ของเขาอย่างไม่ไยดี แต่กลับ
ตอนที่ 6 กระหายในชัยชนะ“น่าขยะแขยงที่สุด”“ตอนอยู่บนเตียงกับผม คุณไม่พูดแบบนี้แน่ น้ำริน”จมูกโด่งตรงเข้าคลอเคลียข้างแก้มใส เธอสะบัดหน้าหนีทันทีด้วยความตกใจ ทำให้ลำคอระหงหอมกรุ่นกลิ่นกายสาวผสมกับน้ำหอมราคาแพงลอยเด่นตรงหน้า เขาจึงฝังจมูกลงไปแทนแล้วกดจูบย้ำๆ สูดกลิ่นหอมหวานที่เขาหลงใหล“หยุดนะ”ไม่เพียงปลายเสียงเท่านั้นที่สั่น แต่ร่างกายบอบบางก็สั่นสะท้านไปทั้งร่างจนน่าสงสาร แค่เขาคุกคามเธอนิดหน่อย คนเก่งของเขาก็ท่าจะเอาตัวไม่รอดเสียแล้ว“หึ ตัวสั่นเชียว กลัวผมเหรอครับ”เขาขยับใบหน้าออกมาจากซอกคอ เธอจึงสะบัดหน้ากลับมามองสบตากับเขาด้วยแววตาวาววับเอาเรื่อง แต่ดันได้รับรอยยิ้มมุมปากแสนมีเสน่ห์กลับไปแทน“บอกแล้วไง ว่าฉันขยะแขยง ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ก่อนที่ฉันจะยกเลิกงานแต่งงานทุเรศๆ นี่”คนตัวโตยอมปล่อยข้อมือของเธอที่ตรึงไว้กับผนัง มือใหญ่ทั้งสองข้างยกขึ้นแบออกอย่างยอมแพ้ แต่ดวงตาคมกริบไม่ได้แสดงถึงความรู้สึกแบบนั้นเลยสักนิด“ยอมแล้วครับ”“หมดธุระก็กลับไปได้แล้ว ฉันจะทำงาน”เธอเอ่ยไล่ว่าที่เจ้าบ่าวแบบไม่ถนอมน้ำใจ ซ้ำยังเดินไปนั่งที่เก้าอี้ทำงานของตัวเองหน้าตาเฉย ซึ่งคนตัวโตก็เดินตามไปนั่งที่เ
ธารารินเปิดประตูห้องทำงานเข้ามาแต่เช้าตรู่แล้วก็ต้องถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย บนโต๊ะทำงานมีดอกกุหลาบสีชมพูอ่อนช่อโตส่งกลิ่นหอมฟุ้งเช่นเดิมเธอเดินตรงดิ่งไปยังดอกไม้ช่อนั้น วางซองเอกสารสีน้ำตาลไว้ข้างๆ หยิบการ์ดใบสวยขึ้นมาดูก็เห็นข้อความของผู้ชายน่าขยะแขยงคนเดิมที่กำลังจะมาเป็นสามีของเธอในอีกไม่นานนี้“ผมดีใจนะครับ ที่จะได้แต่งงานกับคุณ สัญญาว่าจะดูแลคุณให้ดีที่สุด”CEO สาวแสนสวยเบะปาก เสียบการ์ดใบนั้นคืนที่เดิม แล้วหอบดอกไม้ช่อโตเดินตรงดิ่งไปยังถังขยะที่แม่บ้านยังไม่ยอมเพิ่มขนาดให้กับเธอเสียที ก่อนจะใช้เท้าเหยียบเพื่อเปิดฝาแล้วยัดช่อกุหลาบลงไปในถังใบนั้นให้มันเสนอหน้าชูช่อราวกับถังขยะใบน้อยเป็นแจกันทรงสวยเหมือนกับทุกวันดวงตาคมกริบเบิกกว้างด้วยความตกใจ มองแผ่นหลังบอบบางของว่าที่เจ้าสาวซึ่งกำลังยืนสะกดจิตช่อดอกไม้ของเขาในถังขยะอย่างอึ้งๆ ก่อนจะยกยิ้มขำที่มุมปากพร้อมพยักหน้าน้อยๆ ด้วยความชอบใจ เห็นทีหลังจากนี้เขาคงมีเรื่องสนุกท้าทายให้ทำอีกเยอะเลย“ผมเสียใจนะครับ น้ำริน ที่คุณทำกับดอกไม้ของผมแบบนี้”เสียงทุ้มที่ไม่คุ้นหูดังขึ้นมาจากด้านหลัง เจ้าของห้องสะดุ้งโหยงแล้วหันกลับไปมองยังต้นเสียง