คำถามนั้น..ฟาเบียนไม่รู้เหมือนกันว่าเขาควรจะตอบเช่นไรดี เธอถามอย่างตรงไปและตรงมา ถามด้วยสายตาที่เจือปนไปด้วยความใคร่รู้
เธอเอ่ยถามด้วยดวงตาที่แน่วแน่ว่าเรื่องราวของเรานั้นมันจะเป็นเช่นไรต่อไป นี่คงเป็นครั้งแรกรึเปล่าที่ดวงตานั้นมันไม่ได้สั่นไหวในยามที่เธอยืนอยู่ต่อหน้าของเขา.. “ในความคิดของเจ้าอยากให้มันเป็นแบบไหนกันล่ะจีเซล หากเจ้าเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานเป็นสาวใช้ เช่นนั้นข้ายินดีที่จะแต่งตั้งเจ้าเป็นนางบำเรอของข้านะ..” เธอเหน็ดเหนื่อยกับการเป็นสาวใช้และไม่ชอบการทำงานเป็นสาวใช้มากๆ เลย แต่ทว่าการเป็นสาวใช้นั้นทำให้เธอมีเพื่อนและเธอน่าจะอยู่ในคฤหาสน์ซากอสได้สบายใจมากกว่าการเป็นนางบำเรอของเขา “ข้ายินดีที่จะเป็นสาวใช้ต่อไปค่ะ..หากนายท่านเมตตาก็ช่วยทำให้ทุกอย่างมันเหมือนเดิม” อย่าฆ่าเธอก็พอแล้ว เธอยังอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปนานๆ .. ฟาเบียนแค่นหัวเราะออกมา ริมฝีปากของเขาแนบลงไปบนกลีบปากนั้นอีกครั้งหนึ่ง ริมฝีปากของเขาไล่ตามมาช่วงชิงลมหายใจของเธออีกครั้ง..นี่ไม่ใช่จูบแสนเร่าร้อนเหมือนอย่างที่เคยเป็นมา แต่เป็นจูบที่ลึกล้ำ แผ่วเบาและนุ่มนวลทำให้รู้สึกผ่อนคลายกับทุกจุดที่ปลายลิ้นสัมผัส แน่นอนว่าเธอไม่ได้ผลักไสเขาออกไป ตรงกันข้ามจีเซลกลับให้ความร่วมมือกับจุมพิตครั้งนี้เป็นอย่างดีอีกด้วย เธออยากเอาใจเขาสักหน่อย..หากว่าการกระทำเช่นนั้นมันช่วยให้เธอมีชีวิตรอดต่อเช่นนั้นมันก็คุ้มค่าที่จะเสี่ยงไม่ใช่รึไง เธอพยายามแทรกปลายลิ้นไล้ไปตามส่วนต่างๆ ราวกับจะเอาคืนลิ้นของเขาที่มันกำลังซุกซนอยู่ในปาก เมื่อความอุ่นสัมผัสกัน การจูบก็ยิ่งเพิ่มความหนักหน่วงขึ้นในทันที ฟาเบียนนั้นถึงแม้ว่าจะเสียดายแต่เขาก็จำใจที่จะต้องหยุดจุมพิตนี้เอาไว้ก่อน “ข้าต้องลงไปข้างล่างแล้วสิ..” ถึงแม้ว่าจะกล่าวเช่นนั้นแต่ทว่าเขายังคงดันเอวสอบเข้ามาหาเธอ ปลายนิ้วของเขาเลื่อนไล้ลงไปที่ด้านล่างก่อนจะแตะสัมผัสลงไปบนกางเกงชั้นใน “เห็นไหมว่าเจ้าเองก็เปียกมากแล้วเช่นเดียวกัน..หากเจ้าลงไปไม่ไหวเช่นนั้นรอข้าอยู่ที่ห้องนี้ดีไหม ข้าจะรีบกลับมา..” เธอยกมือขึ้นมาผลักเขาออกเล็กน้อย “มะ..ไม่เป็นไรค่ะ ข้าจะลงไปด้านล่างด้วย เชิญท่านเคาน์ลงไปก่อนเถอะค่ะ ข้าจะตามลงไปทีหลัง..” เธอกล่าวออกมาโดยที่สายตาทั้งคู่หันไปมองทางอื่น จีเซลไม่กล้าที่จะช้อนสายตามองหน้าเขาในตอนนี้เลย เธอไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นเพราะอะไรกันแน่ แต่ใบหน้าของเธอในยามนี้มันกำลังเห่อร้อนอย่างห้ามไม่อยู่ และมันคงไม่น่าดูมากแน่ๆ ฟาเบียนโน้มกายลงมาอย่างช้าๆ ริมฝีปากของเขาแตะลงไปบนหน้าผากของเธอ “เรื่องนั้นตามใจเจ้าเลย แต่อย่าลืมว่าคืนนี้เราต้องมาพบเจอกันที่นี่ เข้าใจไหม..” จีเซลพยักหน้าไปก่อน เพราะหากเธอไม่ตกปากรับคำดูเหมือนว่าเขาจะไม่ยอมออกไปจากห้องนี้.. “ให้ข้าสวมเสื้อตัวนอกให้นะคะ” หน้าที่ก็ยังคงต้องกระทำอยู่เหมือนเดิม จีเซลรวบรวมสติของตัวเองกลับมาแล้วเดินไปหยิบเสื้อตัวนอกและผ้าคลุมมาสวมให้เขา “เจ้าเป็นผู้สวมใส่เสื้อผ้าเหล่านี้ลงไปบนตัวข้า เช่นนั้นเจ้าก็จะต้องถอดมันออกด้วยนะจีเซล..” เธอไม่ได้กล่าวคำใด จีเซลเพียงยืนเงียบๆ และพยายามติดกระดุมเสื้อตัวนอกให้เขาเท่านั้น เสียงเคาะประตูดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงของพ่อบ้านคอลตัน “ได้เวลาแล้วครับนายท่าน.” หากเลือกได้คอลตันก็ไม่อยากจะทำหน้าที่นี้เท่าไหร่นัก เพราะว่าเขาไม่อยากทำให้นายท่านโกรธ แต่ดูจากด้านในที่เสียงเงียบเช่นนั้นแล้ว นายท่านคงไม่โกรธเขาที่เข้ามาขัดจังหวะเท่าไหร่หรอกละมั้ง มือของฟาเบียนจับเข้าที่ปลายคางของจีเซล เขาอยากให้เธอเงยหน้าขึ้นมาแล้วช้อนสายตามองหน้าเขา.. “แล้วเจอกันนะจีเซล..” คำกล่าวของเขายังคงมีความสามารถในการสั่นไหวหัวใจของเธออย่างน่าเหลือเชื่อเหมือนเดิมเลย จีเซลมองตามแผ่นหลังของเขาที่กำลังเดินออกไปจากประตูห้องนี้ด้วยแววตาที่สั่นระริก เธอเองก็ไม่ใช่อิฐไม่ใช่ปูนนะเว้ย..มาใกล้ชิดกันแบบไหน ใครมันจะไปทนไหวกันวะ!! ทั้งที่รู้ว่าเขาจะต้องฆ่าเธอในสักวัน แต่ความกลัวในยามนี้มันมีน้อยมากกว่าความต้องการแล้วละสิ ไม่ได้นะโว้ยจีเซล นี่แกจะหลงใหลในตัวของนายท่านไม่ได้นะโว้ย!! ไม่ได้การฉันต้องลงไปข้างล่างเพื่อไปเรียกสติของตัวเองกลับมา หากได้พบเจอ ดยุคเดเมี่ยนลูกรักสักครั้ง บางทีเขาอาจจะดึงสติของฉันกลับมาก็ได้ การอยู่ที่นี่..อยู่ในห้องนอนที่อบอวลไปด้วยกลิ่นของท่านฟาเบียนมันมีแต่จะทำให้สติอันน้อยนิดของฉันจางหายไป นี่แค่ห้ามไม่ให้ตัวเองกระโดดขึ้นเตียงนอนของเขาเพื่อสูดดมกลิ่นของเขายังยากเลย.. จีเซลเดินมาที่ด้านหน้ากระจก เธอจัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เข้าที่เข้าทาง ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อเรียกสติ “ไปเจอเดเมี่ยนลูกรักกันเถอะ!” ทว่าเมื่อจีเซลเปิดประตูออกมา เธอก็พบเจอกับสตรีผู้หนึ่งที่กำลังยืนอยู่ด้านหน้าห้อง “นี่คือห้องของท่านเคาน์รึเปล่าคะ ข้ามีนามว่าโรซาลีนค่ะ เป็นนักร้องโอเปร่าที่ท่านเคาน์เลือกข้าเอาไว้ให้เป็นนางบำเรอคนใหม่ของท่าน นี่คือจดหมายยืนยันค่ะ..” สตรีผู้นั้นงดงามมากทีเดียว สมแล้วที่เป็นนักแสดงละครโอเปร่าอีกทั้งยังสมแล้วที่เป็นนางบำเรอของท่านเคาน์น่ะ จีเซลรีบจดหมายนั้นมาเปิดอ่าน มันมีตราประทับของคฤหาสน์ซากอสจริงๆ ด้วยสินะ และท่านเคาน์น่าจะเป็นผู้ลงนามด้วยตัวเอง “รับทราบแล้วค่ะเลดี้ ไม่ทราบว่าเลดี้ต้องการห้องพักไหมคะ” โรซาลีนยกมือขึ้นมาปิดปากหัวเราะ “ข้าต้องการห้องพักค่ะ และข้าจะพักที่นี่เพราะข้าจะทำหน้าที่นางบำเรอของตัวเองในคืนนี้เลย เจ้าไม่ต้องบอกกล่าวกับท่านเคาน์ก็ได้นะ ข้าอยากจะทำให้ท่านเคาน์แปลกใจน่ะ” เหมือนถูกค้อนทุบลงมาบนศีรษะแรงหลายๆ ครั้งเลย มันเจ็บแบบแปลกๆ แต่ถึงอย่างนั้นจีเซลก็ยังคงยิ้ม “เรื่องนั้นคงต้องขออนุญาตท่านเคาน์ก่อน..” “ขออนุญาตอะไรกัน ในเมื่อจดหมายนี่ก็บอกชัดเจนว่าท่านเคาน์เลือกข้าเป็นนางบำเรอน่ะ ข้าจะเข้าไปรอที่ด้านในห้องนอนของท่าน เคาน์ มีเรื่องอะไรที่ไม่เหมาะสมกัน” เมื่อกล่าวจบโรซาลีนก็เดินเข้าไปในห้องนอนของท่านเคาน์ในทันที “เจ้าเป็นสาวใช้ประจำตัวของท่านเคาน์ใช่ไหม..เช่นนั้นหลังจากเสร็จสิ้นงานเลี้ยงสักสองชั่วโมงเจ้าควรมารอคอยอยู่ด้านหน้าห้องนี้ เพื่อเตรียมน้ำอุ่นให้ข้าอาบด้วยนะ หลังจากทำเรื่องเช่นนั้นเสร็จแล้วข้าชอบแช่น้ำอุ่นน่ะ..แล้วก็เตรียมเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ข้าด้วยล่ะ..”ฟาเบียนไม่รู้ว่าเขาควรจะรับมือกับความรู้สึกไม่พอใจที่เกิดขึ้นมาในใจอย่างไรดี..จีเซลมักทำให้เกิดความไม่เข้าใจขึ้นมาในใจของเขาอยู่บ่อยครั้งและแน่นอนว่าครั้งนี้มันดูเหมือนว่าจะรุนแรงมากกว่าทุกครั้งอย่างชัดเจนสายตาของดยุคนิกซ์ที่มองมายังจีเซลมันบอกได้เลยว่าหมอนั่นพึงพอใจในตัวของจีเซลมากทีเดียว..แถมยังส่งมอบเครื่องประดับให้มามากมายเช่นนั้นอีกดวงตาของเธอพร่ามัวไปหมด เมื่อริมฝีปากของเขาประกบแนบลงมาซ้ำๆ แผ่นหลังของเธอแนบชิดลงไปบนต้นไม้ขนาดใหญ่ แรงถาโถมของท่านเคาน์ในยามนี้มันมากมายกว่าทุกครั้งที่เธอเคยสัมผัส มันมีทั้งแรงปรารถนาและ..แรงโกรธผสมปนเปกันไปมาอย่างไม่รู้จักหยุดหย่อนปลายลิ้นชื้นไล้ผ่านกลีบปากของเธอราว กับฟาเบียนต้องการจะยั่วเย้าให้รอยจูบของเรามันลึกซึ้งมากกว่าเดิม เขาแย่งชิงเครื่องประดับพวกนั้นออกมาจากมือของเธอ ก่อนจะโยนมันทิ้งลงไปบนพื้น แล้วใช้เท้าเหยียบย่ำอย่างไม่ไยดีแน่นอนว่าจีเซลตกใจกับการกระทำของเขามากทีเดียว เขามาทำลายสิ่งที่ท่าน เดเมี่ยนมอบให้เธอทำไมกันแต่ยังไม่ได้ทัน ที่จะถาม ริมฝีปากของเขาก็แนบชิดลงมาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อความอุ่นสัมผัสกัน การจูบก็ยิ่งเพิ่มความหนักหน่
ฟาเบียนมองไปที่ใบหน้าของจีเซล แน่นอนว่าเธอกำลังระบายยิ้มหวานส่งให้ ดยุค ทั้งสองพูดคุยกันด้วยบรรยากาศที่ดีมากพอสมควร แถมเธอยังคงกล่าวออกมาอีกต่างหากว่าเธอไม่ต้องการไปจากเขา เธออยากจะอยู่ที่นี่อยู่ที่คฤหาสน์ซากอสเพื่อตอบแทนบุญคุณของเขา แต่ทว่าในช่วงเวลาที่ดยุคผู้นั้นก้มหน้าลงไปเพื่อกระซิบที่ข้างหูของจีเซล ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงได้ไม่ชอบใจเอาซะเลย..จะว่าไปเขาก็ไม่ชอบใจในทุกอย่างที่ดยุคผู้นั้นทำนั่นแหละ หมอนั่นแสดงออกอย่างชัดเจนว่ากำลังสนใจจีเซลมากแค่ไหน...แล้วเขาเป็นอะไรไปวะ ทำไมจะต้องสนใจสาวใช้ผู้หนึ่งมากขนาดนั้นกัน“ยอมรับมาเถิดฟาเบียนว่าเจ้ากำลังหลงเสน่ห์จีเซลเข้าให้แล้ว”ฟาเบียนปรายสายตาไปมองหน้าของปีศาจที่กำลังวนเวียนไปมาอยู่รอบตัวของเขา ด้วยแววตาที่ไม่พอใจเท่าไหร่นัก“นั่นไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเจ้า”“ให้ตายสิเย็นชาจังเลยนะ ข้าอุตส่าห์มีข้อเสนอให้เจ้า..หากว่าเจ้าทำใจสังหารจีเซลไม่ลง เช่นนั้นก็เอาชีวิตของดยุคผู้นั้นให้ข้าแทนสิ หากเป็นพลังของชายผู้นั้นคงทำให้ข้ามีอำนาจเพิ่มมากขึ้นแน่ๆ”สายตาของฟาเบียนมองไปที่ใบหน้าของดยุคนิกซ์พร้อมกับใช้ความคิด..เขาเองก็กำลังไม่ชอบหน้าของหมอนี่
ฟาเบียนยกแก้วสุราขึ้นมาดื่ม ที่ข้างกายของเขานั้นมีเสียงพูดคุยของโรซาลีนดังขึ้นมาไม่หยุดหย่อน นางเฝ้าถามเขาว่าคนนั้นคือใคร และคนนี้คือใคร..มีขุนนางมากมายเดินเข้ามาเพื่อทักทายเขา พร้อมกับเอ่ยปากชมถึงการจัดงานเลี้ยงที่ดีเยี่ยมในวันนี้เขาได้แต่ส่งยิ้มให้เธอพยักหน้าเล็กน้อยเพื่อให้การสนทนาของเขาและผู้อื่นสั้นลงที่สุดในวันนี้เขายืนอยู่ในคฤหาสน์ที่แสนยิ่งใหญ่ของตนเอง มีนักร้องโอเปร่าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเมืองหลวงอยู่ข้างกาย และมีขุนนางมากมายที่ต้องก้มหัวให้เขา..แต่ทว่าไม่รู้เหมือนกันว่าไอ้ความรู้สึกที่สุดแสนจะแปลกประหลาดนี้มันคืออะไรกันแน่เขาไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองมองไปที่ประตูนานแค่ไหนแล้ว ไม่รู้เลยว่าเขามองไปทำไม ไม่รู้ว่าไอ้อาการกระวนกระวายใจพวกนี้มันคืออะไรด้วย“ท่านเคาน์คะ..ดูเหมือนว่าท่านจะดื่มมากไปแล้วนะคะ ยังไงเราขึ้นไปบนห้อง..”“วันนี้ข้าอยากอยู่คนเดียวเพราะอย่างนั้นเจ้ากลับไปก่อนเถอะ”โรซาลีนที่กำลังยิ้มแย้มถึงกับหุบยิ้มในทันที“ท่านเคาน์..”“ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องเงิน ข้าจะส่งให้คอลตันจัดการเรื่องนั้นให้เจ้าเอง..กลับไปซะแล้วถ้าหากว่าข้าไม่ได้เรียกก็ไม่ต้องมาที่นี่อีก”ตั้ง
หลังจากที่ส่งเดเมี่ยนลูกรักเข้าไปในงานแล้ว จีเซลก็ถามตัวเองว่าเธอควรจะทำอย่างไรต่อไปดี จะเข้าไปในงานเลี้ยงหรือว่าจะหายตัวไปเงียบดีล่ะเธอไม่สามารถทำตามคำสั่งของท่านเคาน์ได้ นั่นคือการไปรอเขาอยู่ในห้องเพราะฉะนั้นเธอควรจะหลบหน้าไปสักพัก..ทว่าเธอตัดใจเดินจากไปไม่ได้ เพราะเธอเป็นห่วงเดเมี่ยนมากเกินไป เธอกลัวว่าเขาจะทำเรื่องที่น่าปวดหัวอย่างเช่นการเปิดโปงท่านเคาน์จีเซลไม่อยากให้เขาถูกหมายหัวจากท่านเคาน์อะไรแบบนั้นเลย เธอไม่อยากให้เรื่องราวมันแย่ลงเหมือนในเกมจริงๆเธอชั่งใจอยู่นานก่อนจะเดินเข้ามาในงานเลี้ยง จีเซลเดินเข้าไปหาอันนาและคาริที่กำลังยืนอยู่ตรงมุมห้องในทันที“มาแล้วสินะจีเซล เจ้ารีบมายืนตรงนี้ด่วนเลย จากจุดที่พวกเรากำลังยืนอยู่นี้สามารถมองเห็นท่านดยุคได้ชัดเจนเลยล่ะ”คาริรีบโบกมือเรียกให้จีเซลไปยืนอยู่ข้างๆ ตน ท่าทีเช่นนั้นของเพื่อนสาวใช้ทำให้จีเซลอดหัวเราะออกมาไม่ได้เลย..หากคาริรู้ว่าที่เธอหายไปนั้น เธอไปใช้เวลาอยู่กับท่านดยุคตั้งนานสองนาน เพื่อนของเธอคงจะตกใจมากทีเดียว“งดงามราวกับภาพวาดเลยนะ..”“ใช่ไหมล่ะ ใบหน้าของท่านดยุคโดดเด่นมากทีเดียว ไม่ว่าท่านจะยืนอยู่ตรงไหนก็ล้วนแล้วแต
มันเหมือนกับว่าเมื่อครู่นี้เธอพึ่งจะอยู่บนสวรรค์..เมื่อครู่นี้เธอมีความสุขมากจนรู้สึกว่าตัวเองกำลังลอยอยู่ในอากาศ แต่ในวินาทีที่จีเซลมองเห็นสตรีที่ยืนอยู่ด้านหน้าห้องนอนของท่านเคาน์ เธอก็ตระหนักได้ในทันทีเลยว่า..ความจริงมันไม่ได้สวยงามเช่นนั้นคำว่าของเล่นนั้นมันมีระยะเวลาของมัน แน่นอนว่าในยามนี้เพราะเขากำลังสนุกสนานกับการได้ปั่นหัวเธอเล่น เขาจึงต้องพยายามอีกหน่อยเพื่อให้เขาได้ในสิ่งสุดท้ายที่เขาคาดหวังเอาไว้..และเมื่อเขาได้ทุกอย่าง..เรื่องที่เชื่อได้เลยคือท่านเคาน์ย่อมต้องเบื่อหน่ายของเล่นชิ้นเก่าของเขาแน่ๆเธอยังใหม่อยู่เพราะอย่างนั้นมันไม่แปลกหรอกที่เขาจะสนใจตัวเธอน่ะทั้งๆ ที่รู้เรื่องนั้นอยู่แล้วแต่ทำไมเธอถึงได้รู้สึกว่ามันมีบางอย่างที่ผิดปกติเกิดขึ้นมาในใจ แต่กลับระบุไม่ได้ว่ามันคืออะไรให้ตายสิไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ว่าเธอจะหลงเสน่ห์กับความหล่อนั่นไปแล้วน่ะ..จีเซลทิ้งตัวนั่งลงบนพื้นหญ้าที่สวนด้านหลัง เธอไม่อยากจะเข้างานเลย ทั้งที่อยากจะเจอเดเมี่ยนมากแท้ๆ แต่กลับไม่อยากเห็นหน้าท่านเคาน์เลย“คนสารเลว!”เมื่อกล่าวจบจีเซลก็หยิบหินที่อยู่ข้างๆ เขวี้ยงเข้าไปในป่าด้วยความโกรธ“อะ..โอ
คำถามนั้น..ฟาเบียนไม่รู้เหมือนกันว่าเขาควรจะตอบเช่นไรดี เธอถามอย่างตรงไปและตรงมา ถามด้วยสายตาที่เจือปนไปด้วยความใคร่รู้เธอเอ่ยถามด้วยดวงตาที่แน่วแน่ว่าเรื่องราวของเรานั้นมันจะเป็นเช่นไรต่อไป นี่คงเป็นครั้งแรกรึเปล่าที่ดวงตานั้นมันไม่ได้สั่นไหวในยามที่เธอยืนอยู่ต่อหน้าของเขา..“ในความคิดของเจ้าอยากให้มันเป็นแบบไหนกันล่ะจีเซล หากเจ้าเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานเป็นสาวใช้ เช่นนั้นข้ายินดีที่จะแต่งตั้งเจ้าเป็นนางบำเรอของข้านะ..”เธอเหน็ดเหนื่อยกับการเป็นสาวใช้และไม่ชอบการทำงานเป็นสาวใช้มากๆ เลย แต่ทว่าการเป็นสาวใช้นั้นทำให้เธอมีเพื่อนและเธอน่าจะอยู่ในคฤหาสน์ซากอสได้สบายใจมากกว่าการเป็นนางบำเรอของเขา“ข้ายินดีที่จะเป็นสาวใช้ต่อไปค่ะ..หากนายท่านเมตตาก็ช่วยทำให้ทุกอย่างมันเหมือนเดิม”อย่าฆ่าเธอก็พอแล้ว เธอยังอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปนานๆ ..ฟาเบียนแค่นหัวเราะออกมา ริมฝีปากของเขาแนบลงไปบนกลีบปากนั้นอีกครั้งหนึ่ง ริมฝีปากของเขาไล่ตามมาช่วงชิงลมหายใจของเธออีกครั้ง..นี่ไม่ใช่จูบแสนเร่าร้อนเหมือนอย่างที่เคยเป็นมา แต่เป็นจูบที่ลึกล้ำ แผ่วเบาและนุ่มนวลทำให้รู้สึกผ่อนคลายกับทุกจุดที่ปลายลิ้นสัมผัสแน่นอนว่