มันเหมือนกับว่าเมื่อครู่นี้เธอพึ่งจะอยู่บนสวรรค์..เมื่อครู่นี้เธอมีความสุขมากจนรู้สึกว่าตัวเองกำลังลอยอยู่ในอากาศ แต่ในวินาทีที่จีเซลมองเห็นสตรีที่ยืนอยู่ด้านหน้าห้องนอนของท่านเคาน์ เธอก็ตระหนักได้ในทันทีเลยว่า..ความจริงมันไม่ได้สวยงามเช่นนั้น คำว่าของเล่นนั้นมันมีระยะเวลาของมัน แน่นอนว่าในยามนี้เพราะเขากำลังสนุกสนานกับการได้ปั่นหัวเธอเล่น เขาจึงต้องพยายามอีกหน่อยเพื่อให้เขาได้ในสิ่งสุดท้ายที่เขาคาดหวังเอาไว้..และเมื่อเขาได้ทุกอย่าง..เรื่องที่เชื่อได้เลยคือท่านเคาน์ย่อมต้องเบื่อหน่ายของเล่นชิ้นเก่าของเขาแน่ๆ เธอยังใหม่อยู่เพราะอย่างนั้นมันไม่แปลกหรอกที่เขาจะสนใจตัวเธอน่ะ ทั้งๆ ที่รู้เรื่องนั้นอยู่แล้วแต่ทำไมเธอถึงได้รู้สึกว่ามันมีบางอย่างที่ผิดปกติเกิดขึ้นมาในใจ แต่กลับระบุไม่ได้ว่ามันคืออะไร ให้ตายสิไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ว่าเธอจะหลงเสน่ห์กับความหล่อนั่นไปแล้วน่ะ.. จีเซลทิ้งตัวนั่งลงบนพื้นหญ้าที่สวนด้านหลัง เธอไม่อยากจะเข้างานเลย ทั้งที่อยากจะเจอเดเมี่ยนมากแท้ๆ แต่กลับไม่อยากเห็นหน้าท่านเคาน์เลย “คนสารเลว!” เมื่อกล่าวจบจีเซลก็หยิบหินที่อยู่ข้างๆ เขวี้ยงเข้าไปในป่าด้วยความโกรธ “อะ..โอ้ย!” จีเซลเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เมื่อเธอได้ยินเสียงดังปั๊ก! ตามด้วยเสียงร้องเปล่งออกมาด้วยความเจ็บปวด เธอรีบวิ่งเข้าไปที่ป่าด้านหลังในทันที “ขะ..ขอโทษนะคะ เป็นอะไรมากรึเปล่า” เธอมองเห็นชายสวมชุดสีดำที่กำลังนั่งหันหลังให้เธออยู่ เขายกมือขึ้นมากุมศีรษะตรงที่ถูกหินที่เธอเขวี้ยงมากระแทก เลือดสีแดงไหลลงมาตามขมับจนถึงปลายคาง และนั่นทำให้จีเซลตกใจมากกว่า เธอรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาแล้วเช็ดเลือดให้เขาในทันที “ขอโทษนะคะ ลุกขึ้นไหวไหมคะ ข้าจะพาท่านไปทำแผลให้เอง..” เสียงของเธอจางหายไปในอากาศ เมื่อจีเซลมองเห็นใบหน้าที่แท้จริงของชายผู้นั้น เรือนผมสีดำและดวงตาที่มีสีแดง ภาพลักษณ์ของเขานั้นคือท่านดยุคในแบบที่เราๆ ทุกคนจินตนาการถึง เพียงแต่เธอไม่รู้ว่าทำไม เดเมี่ยนลูกรักถึงได้มาอยู่ที่นี่กันนะ? “ไม่เป็นอะไร..ข้าไม่ขอรบกวนหรอกนะครับ..” เขาออกมาเดินเล่นเพราะงานยังไม่เริ่มสักที เดเมี่ยนไม่ชอบสถานที่ที่มีคนเยอะๆ แต่อยู่ๆ ก็มีก้อนหินหล่นมาจากฟ้าแล้วมากระแทกหัวของเขาอย่างแรง เขาเจ็บปวดแต่ทว่าเมื่อพบเจอว่าอีกฝ่ายไม่ได้ตั้งใจ เดเมี่ยน ก็ไม่คิดจะเอาเรื่องเอาราวอะไร ทว่าในวินาทีที่เขามองเห็นใบหน้าของสตรีผู้นั้น..เขาก็รู้สึกว่าลมหายใจของตัวเองกำลังติดขัดอยู่..เธอสวมชุดสาวใช้และนั่นทำให้เขาพอจะเดาสถานะของเธอได้ แต่ทว่าขนาดเธอสวมเพียงแค่ชุดสีพื้นๆ เท่านั้น ความงดงามบนใบหน้านั้นยังไม่อาจถูกชุดสาวใช้บดบังได้เลย “ไม่เป็นไรค่ะท่าน..หากท่านไม่สะดวกใจไปที่พักของข้าเช่นนั้นท่านรอข้าอยู่ตรงนี้นะคะ” จีเซลทำท่าจะวิ่งจากไปแต่เขากลับดึงรั้งข้อมือของเธอเอาไว้ “อย่าไปนะครับ ข้าไม่เป็นอะไรมาก อีกทั้งเลือดก็หยุดไหลแล้ว..” จีเซลเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยกับท่าทางของเขาที่กำลังพยายามรั้งเธอเอาไว้ “อา..เช่นนั้นไปนั่งรอที่ด้านนอกได้ไหมคะ ข้าจะไปเอาอุปกรณ์ทำแผลมาให้ท่านเอง” แววตาของเดเมี่ยนอ่อนลงเล็กน้อย “เอาแบบนั้นก็ได้ครับ” จีเซลพาเขามานั่งในสวนก่อนที่เธอจะวิ่งไปในคฤหาสน์เพื่อไปเอาอุปกรณ์ทำแผลมา “ความสามารถของเจ้า..มีมากกว่าการเป็นสาวใช้อีกนะครับ” จีเซลทายาให้เขาเพราะบาดแผลไม่ได้ใหญ่มากเธอจึงไม่ต้องพันผ้าปิดเอาไว้ “ต้องขอโทษอีกครั้งนะคะ เพราะความไม่ทันระวังของข้า ทำให้ท่านต้องเจ็บตัวเลย” เธอก้มหน้าลงเพื่อขอโทษเขาอีกหน “ไม่เป็นไรครับ เท่าที่ข้ามองผ่านกระจก บาดแผลนี้เล็กมากเสียจนดูไม่ออกเลย..ข้าไม่ถือสากับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้หรอกครับ” นี่แหละ..นี่คือเดเมี่ยนลูกรักของเธอเอง เรื่องนิสัยไม่ต้องพูดถึงเขาคือคนอ่อนโยน ใจดี ไทป์โกเด้นเลยล่ะ ปกติเธอก็ปกป้องเขาที่ด้านนอกเกมอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เมื่อเข้ามาอยู่ในเกม หากเป็นไปได้จีเซลเองก็อยากจะปกป้องเขาเอาไว้เหมือนกัน ถึงแม้ว่าจะช่วยได้ไม่มากแต่แค่เธอมองเห็นรอยยิ้มของเขา แค่เท่านั้นเธอก็มีความสุขแล้ว “ท่านดยุคจะเข้างานเลยไหมคะ..ดูเหมือนว่างานจะเริ่มขึ้นมาแล้ว” จีเซลหันไปมองที่ห้องโถงจัดเลี้ยงครู่หนึ่ง เมื่อเธอได้ยินเสียงเพลงที่กำลังเริ่มบรรเลงอีกครั้ง เธอก็รู้ได้ในทันทีว่างานเลี้ยงเริ่มต้นขึ้นแล้ว “..อันที่จริงข้าไม่ค่อยชอบสถานที่ที่มีคนเยอะเท่าไหร่นัก” จริงๆ แล้วเดเมี่ยนแค่อยากจะพูดคุยกับสาวใช้ผู้นี้อีกสักหน่อย เพราะหากเราจากกันไปแล้ว เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้พบเจอนางอีกหรือไม่” จีเซลพยักหน้า “มีคำกล่าวว่าคนเรานั้นไม่อาจกล่าวทุกคำที่พูดหรือว่าทุกคำที่เห็นออกมาได้ทั้งหมด กฎการเข้าสังคมมีเท่านั้นเองค่ะ หากว่าท่านดยุคเข้าใจในคำกล่าวที่ข้าพูด การเข้าสังคมของท่านก็คงจะง่ายดายขึ้นเยอะเลย” ทำไมกันนะ ทำไมสตรีผู้นี้ถึงได้รู้ในสิ่งที่เขากังวลราวกับว่านางสามารถอ่านใจได้ยังไงอย่างนั้นเลย “ข้าพูดตรงมากเกินไปสินะครับ เพราะแบบนั้นทำให้การเข้าหาขุนนางท่านอื่นๆ สำหรับข้ามันคือเรื่องยาก” “ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ แต่ท่านดยุคต้องแยกเรื่องให้ออก ว่ามันคือเรื่องที่ควรพูดหรือว่าเรื่องที่ไม่ควรกล่าวออกมาในสถานการณ์ นั้นๆ แค่ท่านเข้าใจในเรื่องนี้การเข้าสังคมของท่านก็จะง่ายดายขึ้นแล้ว..กับบางเรื่องนั้นไม่ต้องกล่าวออกมาหรอกนะคะ” ขอร้องล่ะ อย่าทำอะไรที่ทำให้มัมหมีคนนี้ปวดใจเลยนะ ยกตัวอย่างเช่นการเปิดเผยว่าท่านเคาน์เลี้ยงดูปีศาจอยู่น่ะ นั่นมันคือจุดเริ่มต้นความยากลำบากในชีวิตของหนูเลยนะลูก “ข้าจะจดจำคำกล่าวของเจ้าเอาไว้ก็แล้วกัน ขอบคุณมากนะ..” จีเซลก้มหน้าลงอีกครั้ง “ขอให้ท่านดยุคมีค่ำคืนที่สวยงามนะคะ” อย่าทำลายตัวเองอีกเลยนะลูก อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับตัวร้ายอีกเลยขอร้องล่ะ “ข้าอยาก..ทราบชื่อของเจ้าได้รึเปล่า?” จีเซลตกใจมากทีเดียว ที่เขาเอ่ยถามชื่อของเธอออกมา “จีเซลค่ะ ท่านดยุคสามารถเรียกข้าว่าจีเซลได้เลย” จีเซลงั้นเหรอ..เป็นชื่อที่ดีและเขาจะจดจำชื่อของเธอเอาไว้ให้ขึ้นใจเลย “แล้วเจอกันใหม่นะจีเซล” นี่เป็นคำลาที่ตราตรึงใจเธอมากทีเดียว..เพราะมันคือการบอกลาที่บอกเล่าถึงความรู้สึกของเดเมี่ยนว่าเขา..อยากจะพบเจอเธออีกครั้งหนึ่ง
ฟาเบียนไม่รู้ว่าเขาควรจะรับมือกับความรู้สึกไม่พอใจที่เกิดขึ้นมาในใจอย่างไรดี..จีเซลมักทำให้เกิดความไม่เข้าใจขึ้นมาในใจของเขาอยู่บ่อยครั้งและแน่นอนว่าครั้งนี้มันดูเหมือนว่าจะรุนแรงมากกว่าทุกครั้งอย่างชัดเจนสายตาของดยุคนิกซ์ที่มองมายังจีเซลมันบอกได้เลยว่าหมอนั่นพึงพอใจในตัวของจีเซลมากทีเดียว..แถมยังส่งมอบเครื่องประดับให้มามากมายเช่นนั้นอีกดวงตาของเธอพร่ามัวไปหมด เมื่อริมฝีปากของเขาประกบแนบลงมาซ้ำๆ แผ่นหลังของเธอแนบชิดลงไปบนต้นไม้ขนาดใหญ่ แรงถาโถมของท่านเคาน์ในยามนี้มันมากมายกว่าทุกครั้งที่เธอเคยสัมผัส มันมีทั้งแรงปรารถนาและ..แรงโกรธผสมปนเปกันไปมาอย่างไม่รู้จักหยุดหย่อนปลายลิ้นชื้นไล้ผ่านกลีบปากของเธอราว กับฟาเบียนต้องการจะยั่วเย้าให้รอยจูบของเรามันลึกซึ้งมากกว่าเดิม เขาแย่งชิงเครื่องประดับพวกนั้นออกมาจากมือของเธอ ก่อนจะโยนมันทิ้งลงไปบนพื้น แล้วใช้เท้าเหยียบย่ำอย่างไม่ไยดีแน่นอนว่าจีเซลตกใจกับการกระทำของเขามากทีเดียว เขามาทำลายสิ่งที่ท่าน เดเมี่ยนมอบให้เธอทำไมกันแต่ยังไม่ได้ทัน ที่จะถาม ริมฝีปากของเขาก็แนบชิดลงมาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อความอุ่นสัมผัสกัน การจูบก็ยิ่งเพิ่มความหนักหน่
ฟาเบียนมองไปที่ใบหน้าของจีเซล แน่นอนว่าเธอกำลังระบายยิ้มหวานส่งให้ ดยุค ทั้งสองพูดคุยกันด้วยบรรยากาศที่ดีมากพอสมควร แถมเธอยังคงกล่าวออกมาอีกต่างหากว่าเธอไม่ต้องการไปจากเขา เธออยากจะอยู่ที่นี่อยู่ที่คฤหาสน์ซากอสเพื่อตอบแทนบุญคุณของเขา แต่ทว่าในช่วงเวลาที่ดยุคผู้นั้นก้มหน้าลงไปเพื่อกระซิบที่ข้างหูของจีเซล ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงได้ไม่ชอบใจเอาซะเลย..จะว่าไปเขาก็ไม่ชอบใจในทุกอย่างที่ดยุคผู้นั้นทำนั่นแหละ หมอนั่นแสดงออกอย่างชัดเจนว่ากำลังสนใจจีเซลมากแค่ไหน...แล้วเขาเป็นอะไรไปวะ ทำไมจะต้องสนใจสาวใช้ผู้หนึ่งมากขนาดนั้นกัน“ยอมรับมาเถิดฟาเบียนว่าเจ้ากำลังหลงเสน่ห์จีเซลเข้าให้แล้ว”ฟาเบียนปรายสายตาไปมองหน้าของปีศาจที่กำลังวนเวียนไปมาอยู่รอบตัวของเขา ด้วยแววตาที่ไม่พอใจเท่าไหร่นัก“นั่นไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเจ้า”“ให้ตายสิเย็นชาจังเลยนะ ข้าอุตส่าห์มีข้อเสนอให้เจ้า..หากว่าเจ้าทำใจสังหารจีเซลไม่ลง เช่นนั้นก็เอาชีวิตของดยุคผู้นั้นให้ข้าแทนสิ หากเป็นพลังของชายผู้นั้นคงทำให้ข้ามีอำนาจเพิ่มมากขึ้นแน่ๆ”สายตาของฟาเบียนมองไปที่ใบหน้าของดยุคนิกซ์พร้อมกับใช้ความคิด..เขาเองก็กำลังไม่ชอบหน้าของหมอนี่
ฟาเบียนยกแก้วสุราขึ้นมาดื่ม ที่ข้างกายของเขานั้นมีเสียงพูดคุยของโรซาลีนดังขึ้นมาไม่หยุดหย่อน นางเฝ้าถามเขาว่าคนนั้นคือใคร และคนนี้คือใคร..มีขุนนางมากมายเดินเข้ามาเพื่อทักทายเขา พร้อมกับเอ่ยปากชมถึงการจัดงานเลี้ยงที่ดีเยี่ยมในวันนี้เขาได้แต่ส่งยิ้มให้เธอพยักหน้าเล็กน้อยเพื่อให้การสนทนาของเขาและผู้อื่นสั้นลงที่สุดในวันนี้เขายืนอยู่ในคฤหาสน์ที่แสนยิ่งใหญ่ของตนเอง มีนักร้องโอเปร่าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเมืองหลวงอยู่ข้างกาย และมีขุนนางมากมายที่ต้องก้มหัวให้เขา..แต่ทว่าไม่รู้เหมือนกันว่าไอ้ความรู้สึกที่สุดแสนจะแปลกประหลาดนี้มันคืออะไรกันแน่เขาไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองมองไปที่ประตูนานแค่ไหนแล้ว ไม่รู้เลยว่าเขามองไปทำไม ไม่รู้ว่าไอ้อาการกระวนกระวายใจพวกนี้มันคืออะไรด้วย“ท่านเคาน์คะ..ดูเหมือนว่าท่านจะดื่มมากไปแล้วนะคะ ยังไงเราขึ้นไปบนห้อง..”“วันนี้ข้าอยากอยู่คนเดียวเพราะอย่างนั้นเจ้ากลับไปก่อนเถอะ”โรซาลีนที่กำลังยิ้มแย้มถึงกับหุบยิ้มในทันที“ท่านเคาน์..”“ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องเงิน ข้าจะส่งให้คอลตันจัดการเรื่องนั้นให้เจ้าเอง..กลับไปซะแล้วถ้าหากว่าข้าไม่ได้เรียกก็ไม่ต้องมาที่นี่อีก”ตั้ง
หลังจากที่ส่งเดเมี่ยนลูกรักเข้าไปในงานแล้ว จีเซลก็ถามตัวเองว่าเธอควรจะทำอย่างไรต่อไปดี จะเข้าไปในงานเลี้ยงหรือว่าจะหายตัวไปเงียบดีล่ะเธอไม่สามารถทำตามคำสั่งของท่านเคาน์ได้ นั่นคือการไปรอเขาอยู่ในห้องเพราะฉะนั้นเธอควรจะหลบหน้าไปสักพัก..ทว่าเธอตัดใจเดินจากไปไม่ได้ เพราะเธอเป็นห่วงเดเมี่ยนมากเกินไป เธอกลัวว่าเขาจะทำเรื่องที่น่าปวดหัวอย่างเช่นการเปิดโปงท่านเคาน์จีเซลไม่อยากให้เขาถูกหมายหัวจากท่านเคาน์อะไรแบบนั้นเลย เธอไม่อยากให้เรื่องราวมันแย่ลงเหมือนในเกมจริงๆเธอชั่งใจอยู่นานก่อนจะเดินเข้ามาในงานเลี้ยง จีเซลเดินเข้าไปหาอันนาและคาริที่กำลังยืนอยู่ตรงมุมห้องในทันที“มาแล้วสินะจีเซล เจ้ารีบมายืนตรงนี้ด่วนเลย จากจุดที่พวกเรากำลังยืนอยู่นี้สามารถมองเห็นท่านดยุคได้ชัดเจนเลยล่ะ”คาริรีบโบกมือเรียกให้จีเซลไปยืนอยู่ข้างๆ ตน ท่าทีเช่นนั้นของเพื่อนสาวใช้ทำให้จีเซลอดหัวเราะออกมาไม่ได้เลย..หากคาริรู้ว่าที่เธอหายไปนั้น เธอไปใช้เวลาอยู่กับท่านดยุคตั้งนานสองนาน เพื่อนของเธอคงจะตกใจมากทีเดียว“งดงามราวกับภาพวาดเลยนะ..”“ใช่ไหมล่ะ ใบหน้าของท่านดยุคโดดเด่นมากทีเดียว ไม่ว่าท่านจะยืนอยู่ตรงไหนก็ล้วนแล้วแต
มันเหมือนกับว่าเมื่อครู่นี้เธอพึ่งจะอยู่บนสวรรค์..เมื่อครู่นี้เธอมีความสุขมากจนรู้สึกว่าตัวเองกำลังลอยอยู่ในอากาศ แต่ในวินาทีที่จีเซลมองเห็นสตรีที่ยืนอยู่ด้านหน้าห้องนอนของท่านเคาน์ เธอก็ตระหนักได้ในทันทีเลยว่า..ความจริงมันไม่ได้สวยงามเช่นนั้นคำว่าของเล่นนั้นมันมีระยะเวลาของมัน แน่นอนว่าในยามนี้เพราะเขากำลังสนุกสนานกับการได้ปั่นหัวเธอเล่น เขาจึงต้องพยายามอีกหน่อยเพื่อให้เขาได้ในสิ่งสุดท้ายที่เขาคาดหวังเอาไว้..และเมื่อเขาได้ทุกอย่าง..เรื่องที่เชื่อได้เลยคือท่านเคาน์ย่อมต้องเบื่อหน่ายของเล่นชิ้นเก่าของเขาแน่ๆเธอยังใหม่อยู่เพราะอย่างนั้นมันไม่แปลกหรอกที่เขาจะสนใจตัวเธอน่ะทั้งๆ ที่รู้เรื่องนั้นอยู่แล้วแต่ทำไมเธอถึงได้รู้สึกว่ามันมีบางอย่างที่ผิดปกติเกิดขึ้นมาในใจ แต่กลับระบุไม่ได้ว่ามันคืออะไรให้ตายสิไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ว่าเธอจะหลงเสน่ห์กับความหล่อนั่นไปแล้วน่ะ..จีเซลทิ้งตัวนั่งลงบนพื้นหญ้าที่สวนด้านหลัง เธอไม่อยากจะเข้างานเลย ทั้งที่อยากจะเจอเดเมี่ยนมากแท้ๆ แต่กลับไม่อยากเห็นหน้าท่านเคาน์เลย“คนสารเลว!”เมื่อกล่าวจบจีเซลก็หยิบหินที่อยู่ข้างๆ เขวี้ยงเข้าไปในป่าด้วยความโกรธ“อะ..โอ
คำถามนั้น..ฟาเบียนไม่รู้เหมือนกันว่าเขาควรจะตอบเช่นไรดี เธอถามอย่างตรงไปและตรงมา ถามด้วยสายตาที่เจือปนไปด้วยความใคร่รู้เธอเอ่ยถามด้วยดวงตาที่แน่วแน่ว่าเรื่องราวของเรานั้นมันจะเป็นเช่นไรต่อไป นี่คงเป็นครั้งแรกรึเปล่าที่ดวงตานั้นมันไม่ได้สั่นไหวในยามที่เธอยืนอยู่ต่อหน้าของเขา..“ในความคิดของเจ้าอยากให้มันเป็นแบบไหนกันล่ะจีเซล หากเจ้าเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานเป็นสาวใช้ เช่นนั้นข้ายินดีที่จะแต่งตั้งเจ้าเป็นนางบำเรอของข้านะ..”เธอเหน็ดเหนื่อยกับการเป็นสาวใช้และไม่ชอบการทำงานเป็นสาวใช้มากๆ เลย แต่ทว่าการเป็นสาวใช้นั้นทำให้เธอมีเพื่อนและเธอน่าจะอยู่ในคฤหาสน์ซากอสได้สบายใจมากกว่าการเป็นนางบำเรอของเขา“ข้ายินดีที่จะเป็นสาวใช้ต่อไปค่ะ..หากนายท่านเมตตาก็ช่วยทำให้ทุกอย่างมันเหมือนเดิม”อย่าฆ่าเธอก็พอแล้ว เธอยังอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปนานๆ ..ฟาเบียนแค่นหัวเราะออกมา ริมฝีปากของเขาแนบลงไปบนกลีบปากนั้นอีกครั้งหนึ่ง ริมฝีปากของเขาไล่ตามมาช่วงชิงลมหายใจของเธออีกครั้ง..นี่ไม่ใช่จูบแสนเร่าร้อนเหมือนอย่างที่เคยเป็นมา แต่เป็นจูบที่ลึกล้ำ แผ่วเบาและนุ่มนวลทำให้รู้สึกผ่อนคลายกับทุกจุดที่ปลายลิ้นสัมผัสแน่นอนว่