เมื่อนักดนตรีเริ่มบรรเลงเพลง แขกทั้งหลายก็ทยอยเดินเข้ามากันอย่างคับคั่ง แน่นอนว่าหน้าที่ของสาวใช้นั้นเริ่มงานยุ่งตั้งแต่ตรงนั้น หน้าที่ของจีเซลคือการดูแลความเรียบร้อยแต่ทว่าเพราะเธอไม่อาจเอาเปรียบสาวใช้คนอื่นได้ จีเซลจึงเดินเข้ามาช่วยจัดโต๊ะอาหาร
งานเลี้ยงที่เธอเห็นผ่านจอโทรศัพท์ ในยามนี้เมื่อได้มาเห็นด้วยตาทั้งสองข้างนี้ มันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกเลย..ถึงแม้ว่างานนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นความวุ่นวายใน ชีวิตของเดเมี่ยนก็ตามที เรื่องมันเกิดขึ้นมาตรงที่เดเมี่ยนมีพลังที่สามารถมองเห็นปีศาจได้ และเขามองเห็นปีศาจที่อยู่ด้านหลังของท่านเคาน์..ด้วยเหตุนั้นเขาจึงไม่อาจทนอยู่กับความไม่ถูกต้องได้ เดเมี่ยนจะเปิดโปงท่านเคาน์ต่อหน้าคนอื่นว่าเขา..มองเห็นปีศาจในตัวของท่านเคาน์ ถึงแม้ว่าลูกแม่จะเป็นคนดีมากแค่ไหน แต่การทำแบบนั้นมันออกจะทึ่มทื่อไปสักหน่อย..เพราะนอกจากจะเป็นศัตรูกับท่านเคาน์แล้ว เหล่าขุนนางก็ไม่มีใครเชื่อเขาเลย..บางคนยังกล่าวอ้างว่าท่านดยุคนิกซ์เป็นพวกเสียสติอีกต่างหาก ใจจริงเธออยากจะจับเขามาเขย่าตัวสักหน่อย ว่าหนูทำไปทำไมลูก..การป่าวประกาศออกไปแบบนั้นมีแต่จะทำให้เขาเดือดร้อนทั้งนั้น พอคิดถึงเรื่องนั้นจีเซลก็อดจะถอนหายใจออกมาไม่ได้เลย “เหนื่อยรึเปล่าจีเซล เจ้าไปพักก่อนได้นะ..เจ้าช่วยงานข้ามามากแล้ว อีกทั้งวันนี้ท่านเคาน์ก็ต้องเข้าร่วมงานไม่ใช่รึไง เพราะอย่างนั้นเจ้าควรจะไปดูท่านเคาน์เพื่อรับใช้และช่วยเหลือท่านบ้างนะ” จริงอยู่ที่ท่านเคาน์จะต้องเข้าร่วมงาน แต่ทว่าเขาบอกเองนี่ว่าให้เธอไปพักได้น่ะ อีกทั้ง..เธอควรทำหน้าแบบไหนดีล่ะเมื่อยืนอยู่ต่อหน้าเขา ตีหน้านิ่งๆ ราวกับว่าไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมาก่อน หรือว่าจะส่งยิ้มให้เขาด้วยรอยยิ้มแสนอ่อนหวาน.. แต่ที่คิดมาก็คงไม่กล้าทำหรอก เมื่ออยู่ต่อหน้าของเขาเธอก็คงจะยืนตัวสั่นเหมือนทุกครั้งแน่ๆ “อืม..เช่นนั้นข้าขึ้นไปดูท่านเคาน์หน่อยดีกว่า” เมื่อกล่าวจบจีเซลก็ปลีกตัวออกมา เธอเดินขึ้นไปยังชั้นสองของคฤหาสน์เพื่อตรงเข้าไปยังห้องนอนของท่านเคาน์ “ท่านเคาน์อยู่ด้านในไหมคะ ข้าแค่จะมาช่วยท่านเคาน์เตรียมตัว..” บอกว่าไม่อยู่สิ..ได้โปรด “ท่านเคาน์อยู่ด้านในครับ เจ้าเข้าไปได้เลยจีเซล..ท่านพ่อบ้านกำลังช่วยท่านเคาน์เตรียมตัวอยู่ แต่ทว่าดูเหมือนท่านเคาน์จะไม่ถูกใจเท่าไหร่นัก..เจ้ารีบเข้าไปเลย” ประตูไม้บานใหญ่ถูกเปิดออกมา และนั่นคือสัญญาณที่บอกกล่าวกับเธอว่ามันไม่มีทางเลือกอีกแล้ว เธอต้องเดินเข้าไปด้านในนั้นเพื่อทำหน้าที่สาวใช้ส่วนตัว และเมื่อจีเซลเดินเข้ามา พ่อบ้านคอลตันก็ส่งยิ้มให้เธอราวกับว่าเขารอคอยเธอมานานแสนนาน “อา..จีเซลเจ้ามาแล้วอย่างนั้นสินะ เช่นนั้นเจ้ามาช่วยนายท่านเถิด ข้ามีงานที่จะต้องไปจัดการด้านล่าง..” จีเซลส่งสายตามองท่านพ่อบ้านราวกับเธอกำลังอ้อนวอนขอให้เขาอยู่ที่นี่กับเธอหน่อย แต่ทว่ามีหรือที่คอลตันจะกล้าอยู่เป็นก้างขวางคอน่ะ เขารีบเดินออกมาโดยที่พยายามหันหน้ามองไปทางอื่นเพื่อไม่ให้ตัวเองมองเห็นสายตาอันน่าสงสารของจีเซล เมื่อคอลตันออกไปแล้ว ฟาเบียนก็เดินเข้ามาหาจีเซล กระดุมเสื้อตัวในของเขายังติดไม่ครบทุกเม็ดเลยด้วยซ้ำ..นั่นทำให้เธอมองเห็นแผงอกแกร่งที่โผล่พ้นเสื้อของเขาออกมา “เท่าที่จำได้ ข้าบอกให้เจ้านอนพัก” จีเซลหัวเราะออกมาเบาๆ “ข้า..ไม่ง่วงค่ะ คงเพราะเข้านอนมามากพอแล้ว ให้ข้าช่วยนะคะ” เธอควรจะแยกแยะเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวออกจากกันให้ชัดเจน ไม่ควรเอามารวมกันและ..หน้าที่ของเธอมันคือการเป็นสาวใช้ของเขา เพราะอย่างนั้นเธอควรจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด “อา..อย่างนั้นเองสินะ” เขาหลุบตาลงเพื่อมองหน้าเธอ ส่วนจีเซล..เธอพยายามตั้งสมาธิอยู่กับการติดกระดุมเสื้อของเขา โชคดีเท่าไหร่แล้วที่ท่านคอลตันช่วยใส่กางเกงของท่านเคาน์แล้วนั่นทำให้งานของเธอมันง่ายดายขึ้นเยอะเลย “ยากจังนะ..แค่เจ้าอยู่ใกล้ๆ เช่นนี้ร่างกายของข้าก็ร้อนไปหมดเลย..” คำกล่าวนั้นกระซิบด้วยน้ำเสียงกระเส่าอยู่ที่ข้างหู ฟาเบียนขยับเข้าไปใกล้จีเซลให้มากอีกหน่อย ในขณะที่เธอก้าวเท้าถอยหลังเพื่อหลีกหนีเขา เธอถอยหลังหนีเขาจนแผ่นหลังของตัวเองชนกับกำแพงแล้ว และนั่นทำให้จีเซลหมดหนทางในการหลบหนีออกจากคมเขี้ยวของอสรพิษแล้ว “...ข้าจะสวมเสื้อตัวนอกกับผ้าคลุมให้นะคะ รบกวนท่านเคาน์ช่วยถอยออกไป..สะ..สักหน่อย” ฟาเบียนแสยะยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ “แต่ข้าไม่อยากถอยเลยนี่ ข้าอยากอยู่อย่างนี้อีกสักพัก” นี่มันแย่มากกว่าที่คิดเอาไว้ เพราะเธอเผลอเมื่อไหร่ รับรองได้เลยว่าเธอคงจะตกลงไปในหลุมพรางที่เขาขุดเอาไว้อย่างแน่นอน มาสืบความลับอะไรกัน แค่จะเอาตัวรอดจากท่านเคาน์เธอยังทำไม่ได้เลยให้ตายสิ “แต่ที่ด้านล่าง..แขกทุกท่านกำลังรอคอยท่านเคาน์อยู่นะคะ ข้าอยู่ที่นี่เสมอไม่ได้คิดจะหนีไปไหน..” เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว เพราะถึงเธอจะหนีไปที่ไหนก็คงไม่อาจหนีพ้นเงื้อมมือของเขาหรอก “พูดจาน่าฟังจังเลยนะ...” จีเซลขบเม้มริมฝีปากไปมาอย่างหวาดหวั่น เธอกำลังกลัวว่าเขาจะทำอะไรแปลกๆ กับเธออีกรึเปล่า และยังไม่ทันที่เธอจะได้ตั้งตัว..ท่านเคาน์ก็ยกขาทั้งสองข้างของเธอขึ้นมา ไม่รู้ว่าเพราะตกใจหรือว่าเพราะอะไร..เธอถึงได้ยกมือขึ้นมากอดคอของเขาเอาไว้แน่น.. “คืนนี้หากข้าไม่พบเจอเจ้าที่ห้องนี้ละก็ ข้าจะขังสาวใช้ที่ชื่อว่าอันนาในห้องใต้ดินสักเดือน” “ดะ..เดี๋ยวสิคะ เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับอันนา..” “เพราะหากข้าขู่เจ้า เจ้าก็คงจะตีมึนแล้วหลบอยู่สักแห่งในคฤหาสน์นี้ ข้าไม่ชอบเล่นซ่อนหาหรอกนะจีเซล ข้าอยากมั่นใจว่าเจ้าจะมารอข้าที่นี่..” เขาเลิกกระโปรงของเธอขึ้นไปกองบนเอวก่อนจะขยับสะโพกเบาๆ “เห็นไหมว่าแค่เจ้าสัมผัสข้า มันก็ตื่นขึ้นมาเช่นนี้แล้ว..ข้าต้องการเจ้ามากเหลือเกินจีเซล..” เขาจุมพิตลงไปบนลำคอของเธอเบาๆ สัมผัสแสนวาบหวามนั้นทำเอาเธอต้องหลับตาลงในทันที “แล้ว..มันจะเป็นอย่างไรต่อไปกันคะ หลังจากที่ท่านเก็บเกี่ยวความสุขจากข้าไปแล้ว ข้าควรจะทำอย่างไรต่อไปในวันรุ่งขึ้น ข้าต้องทำเหมือนกับว่าเรื่องมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หรือว่าท่านจะให้เงินข้าสักก้อนเพื่อให้ข้าออกไปจากที่นี่..ไม่อย่างนั้นท่านเคาน์จะเลี้ยงดูข้าในฐานะของนางบำเรออย่างนั้นหรือคะ และในบางทีท่านอาจจะ..สังหารข้าก็ได้ ข้าแค่อยากแน่ใจว่าชีวิตของข้านั้นมันจะดำเนินไปแบบไหนหลังจากที่ท่านได้ในสิ่งที่ต้องการไปแล้วน่ะ”ฟาเบียนไม่รู้ว่าเขาควรจะรับมือกับความรู้สึกไม่พอใจที่เกิดขึ้นมาในใจอย่างไรดี..จีเซลมักทำให้เกิดความไม่เข้าใจขึ้นมาในใจของเขาอยู่บ่อยครั้งและแน่นอนว่าครั้งนี้มันดูเหมือนว่าจะรุนแรงมากกว่าทุกครั้งอย่างชัดเจนสายตาของดยุคนิกซ์ที่มองมายังจีเซลมันบอกได้เลยว่าหมอนั่นพึงพอใจในตัวของจีเซลมากทีเดียว..แถมยังส่งมอบเครื่องประดับให้มามากมายเช่นนั้นอีกดวงตาของเธอพร่ามัวไปหมด เมื่อริมฝีปากของเขาประกบแนบลงมาซ้ำๆ แผ่นหลังของเธอแนบชิดลงไปบนต้นไม้ขนาดใหญ่ แรงถาโถมของท่านเคาน์ในยามนี้มันมากมายกว่าทุกครั้งที่เธอเคยสัมผัส มันมีทั้งแรงปรารถนาและ..แรงโกรธผสมปนเปกันไปมาอย่างไม่รู้จักหยุดหย่อนปลายลิ้นชื้นไล้ผ่านกลีบปากของเธอราว กับฟาเบียนต้องการจะยั่วเย้าให้รอยจูบของเรามันลึกซึ้งมากกว่าเดิม เขาแย่งชิงเครื่องประดับพวกนั้นออกมาจากมือของเธอ ก่อนจะโยนมันทิ้งลงไปบนพื้น แล้วใช้เท้าเหยียบย่ำอย่างไม่ไยดีแน่นอนว่าจีเซลตกใจกับการกระทำของเขามากทีเดียว เขามาทำลายสิ่งที่ท่าน เดเมี่ยนมอบให้เธอทำไมกันแต่ยังไม่ได้ทัน ที่จะถาม ริมฝีปากของเขาก็แนบชิดลงมาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อความอุ่นสัมผัสกัน การจูบก็ยิ่งเพิ่มความหนักหน่
ฟาเบียนมองไปที่ใบหน้าของจีเซล แน่นอนว่าเธอกำลังระบายยิ้มหวานส่งให้ ดยุค ทั้งสองพูดคุยกันด้วยบรรยากาศที่ดีมากพอสมควร แถมเธอยังคงกล่าวออกมาอีกต่างหากว่าเธอไม่ต้องการไปจากเขา เธออยากจะอยู่ที่นี่อยู่ที่คฤหาสน์ซากอสเพื่อตอบแทนบุญคุณของเขา แต่ทว่าในช่วงเวลาที่ดยุคผู้นั้นก้มหน้าลงไปเพื่อกระซิบที่ข้างหูของจีเซล ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงได้ไม่ชอบใจเอาซะเลย..จะว่าไปเขาก็ไม่ชอบใจในทุกอย่างที่ดยุคผู้นั้นทำนั่นแหละ หมอนั่นแสดงออกอย่างชัดเจนว่ากำลังสนใจจีเซลมากแค่ไหน...แล้วเขาเป็นอะไรไปวะ ทำไมจะต้องสนใจสาวใช้ผู้หนึ่งมากขนาดนั้นกัน“ยอมรับมาเถิดฟาเบียนว่าเจ้ากำลังหลงเสน่ห์จีเซลเข้าให้แล้ว”ฟาเบียนปรายสายตาไปมองหน้าของปีศาจที่กำลังวนเวียนไปมาอยู่รอบตัวของเขา ด้วยแววตาที่ไม่พอใจเท่าไหร่นัก“นั่นไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเจ้า”“ให้ตายสิเย็นชาจังเลยนะ ข้าอุตส่าห์มีข้อเสนอให้เจ้า..หากว่าเจ้าทำใจสังหารจีเซลไม่ลง เช่นนั้นก็เอาชีวิตของดยุคผู้นั้นให้ข้าแทนสิ หากเป็นพลังของชายผู้นั้นคงทำให้ข้ามีอำนาจเพิ่มมากขึ้นแน่ๆ”สายตาของฟาเบียนมองไปที่ใบหน้าของดยุคนิกซ์พร้อมกับใช้ความคิด..เขาเองก็กำลังไม่ชอบหน้าของหมอนี่
ฟาเบียนยกแก้วสุราขึ้นมาดื่ม ที่ข้างกายของเขานั้นมีเสียงพูดคุยของโรซาลีนดังขึ้นมาไม่หยุดหย่อน นางเฝ้าถามเขาว่าคนนั้นคือใคร และคนนี้คือใคร..มีขุนนางมากมายเดินเข้ามาเพื่อทักทายเขา พร้อมกับเอ่ยปากชมถึงการจัดงานเลี้ยงที่ดีเยี่ยมในวันนี้เขาได้แต่ส่งยิ้มให้เธอพยักหน้าเล็กน้อยเพื่อให้การสนทนาของเขาและผู้อื่นสั้นลงที่สุดในวันนี้เขายืนอยู่ในคฤหาสน์ที่แสนยิ่งใหญ่ของตนเอง มีนักร้องโอเปร่าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเมืองหลวงอยู่ข้างกาย และมีขุนนางมากมายที่ต้องก้มหัวให้เขา..แต่ทว่าไม่รู้เหมือนกันว่าไอ้ความรู้สึกที่สุดแสนจะแปลกประหลาดนี้มันคืออะไรกันแน่เขาไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองมองไปที่ประตูนานแค่ไหนแล้ว ไม่รู้เลยว่าเขามองไปทำไม ไม่รู้ว่าไอ้อาการกระวนกระวายใจพวกนี้มันคืออะไรด้วย“ท่านเคาน์คะ..ดูเหมือนว่าท่านจะดื่มมากไปแล้วนะคะ ยังไงเราขึ้นไปบนห้อง..”“วันนี้ข้าอยากอยู่คนเดียวเพราะอย่างนั้นเจ้ากลับไปก่อนเถอะ”โรซาลีนที่กำลังยิ้มแย้มถึงกับหุบยิ้มในทันที“ท่านเคาน์..”“ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องเงิน ข้าจะส่งให้คอลตันจัดการเรื่องนั้นให้เจ้าเอง..กลับไปซะแล้วถ้าหากว่าข้าไม่ได้เรียกก็ไม่ต้องมาที่นี่อีก”ตั้ง
หลังจากที่ส่งเดเมี่ยนลูกรักเข้าไปในงานแล้ว จีเซลก็ถามตัวเองว่าเธอควรจะทำอย่างไรต่อไปดี จะเข้าไปในงานเลี้ยงหรือว่าจะหายตัวไปเงียบดีล่ะเธอไม่สามารถทำตามคำสั่งของท่านเคาน์ได้ นั่นคือการไปรอเขาอยู่ในห้องเพราะฉะนั้นเธอควรจะหลบหน้าไปสักพัก..ทว่าเธอตัดใจเดินจากไปไม่ได้ เพราะเธอเป็นห่วงเดเมี่ยนมากเกินไป เธอกลัวว่าเขาจะทำเรื่องที่น่าปวดหัวอย่างเช่นการเปิดโปงท่านเคาน์จีเซลไม่อยากให้เขาถูกหมายหัวจากท่านเคาน์อะไรแบบนั้นเลย เธอไม่อยากให้เรื่องราวมันแย่ลงเหมือนในเกมจริงๆเธอชั่งใจอยู่นานก่อนจะเดินเข้ามาในงานเลี้ยง จีเซลเดินเข้าไปหาอันนาและคาริที่กำลังยืนอยู่ตรงมุมห้องในทันที“มาแล้วสินะจีเซล เจ้ารีบมายืนตรงนี้ด่วนเลย จากจุดที่พวกเรากำลังยืนอยู่นี้สามารถมองเห็นท่านดยุคได้ชัดเจนเลยล่ะ”คาริรีบโบกมือเรียกให้จีเซลไปยืนอยู่ข้างๆ ตน ท่าทีเช่นนั้นของเพื่อนสาวใช้ทำให้จีเซลอดหัวเราะออกมาไม่ได้เลย..หากคาริรู้ว่าที่เธอหายไปนั้น เธอไปใช้เวลาอยู่กับท่านดยุคตั้งนานสองนาน เพื่อนของเธอคงจะตกใจมากทีเดียว“งดงามราวกับภาพวาดเลยนะ..”“ใช่ไหมล่ะ ใบหน้าของท่านดยุคโดดเด่นมากทีเดียว ไม่ว่าท่านจะยืนอยู่ตรงไหนก็ล้วนแล้วแต
มันเหมือนกับว่าเมื่อครู่นี้เธอพึ่งจะอยู่บนสวรรค์..เมื่อครู่นี้เธอมีความสุขมากจนรู้สึกว่าตัวเองกำลังลอยอยู่ในอากาศ แต่ในวินาทีที่จีเซลมองเห็นสตรีที่ยืนอยู่ด้านหน้าห้องนอนของท่านเคาน์ เธอก็ตระหนักได้ในทันทีเลยว่า..ความจริงมันไม่ได้สวยงามเช่นนั้นคำว่าของเล่นนั้นมันมีระยะเวลาของมัน แน่นอนว่าในยามนี้เพราะเขากำลังสนุกสนานกับการได้ปั่นหัวเธอเล่น เขาจึงต้องพยายามอีกหน่อยเพื่อให้เขาได้ในสิ่งสุดท้ายที่เขาคาดหวังเอาไว้..และเมื่อเขาได้ทุกอย่าง..เรื่องที่เชื่อได้เลยคือท่านเคาน์ย่อมต้องเบื่อหน่ายของเล่นชิ้นเก่าของเขาแน่ๆเธอยังใหม่อยู่เพราะอย่างนั้นมันไม่แปลกหรอกที่เขาจะสนใจตัวเธอน่ะทั้งๆ ที่รู้เรื่องนั้นอยู่แล้วแต่ทำไมเธอถึงได้รู้สึกว่ามันมีบางอย่างที่ผิดปกติเกิดขึ้นมาในใจ แต่กลับระบุไม่ได้ว่ามันคืออะไรให้ตายสิไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ว่าเธอจะหลงเสน่ห์กับความหล่อนั่นไปแล้วน่ะ..จีเซลทิ้งตัวนั่งลงบนพื้นหญ้าที่สวนด้านหลัง เธอไม่อยากจะเข้างานเลย ทั้งที่อยากจะเจอเดเมี่ยนมากแท้ๆ แต่กลับไม่อยากเห็นหน้าท่านเคาน์เลย“คนสารเลว!”เมื่อกล่าวจบจีเซลก็หยิบหินที่อยู่ข้างๆ เขวี้ยงเข้าไปในป่าด้วยความโกรธ“อะ..โอ
คำถามนั้น..ฟาเบียนไม่รู้เหมือนกันว่าเขาควรจะตอบเช่นไรดี เธอถามอย่างตรงไปและตรงมา ถามด้วยสายตาที่เจือปนไปด้วยความใคร่รู้เธอเอ่ยถามด้วยดวงตาที่แน่วแน่ว่าเรื่องราวของเรานั้นมันจะเป็นเช่นไรต่อไป นี่คงเป็นครั้งแรกรึเปล่าที่ดวงตานั้นมันไม่ได้สั่นไหวในยามที่เธอยืนอยู่ต่อหน้าของเขา..“ในความคิดของเจ้าอยากให้มันเป็นแบบไหนกันล่ะจีเซล หากเจ้าเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานเป็นสาวใช้ เช่นนั้นข้ายินดีที่จะแต่งตั้งเจ้าเป็นนางบำเรอของข้านะ..”เธอเหน็ดเหนื่อยกับการเป็นสาวใช้และไม่ชอบการทำงานเป็นสาวใช้มากๆ เลย แต่ทว่าการเป็นสาวใช้นั้นทำให้เธอมีเพื่อนและเธอน่าจะอยู่ในคฤหาสน์ซากอสได้สบายใจมากกว่าการเป็นนางบำเรอของเขา“ข้ายินดีที่จะเป็นสาวใช้ต่อไปค่ะ..หากนายท่านเมตตาก็ช่วยทำให้ทุกอย่างมันเหมือนเดิม”อย่าฆ่าเธอก็พอแล้ว เธอยังอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปนานๆ ..ฟาเบียนแค่นหัวเราะออกมา ริมฝีปากของเขาแนบลงไปบนกลีบปากนั้นอีกครั้งหนึ่ง ริมฝีปากของเขาไล่ตามมาช่วงชิงลมหายใจของเธออีกครั้ง..นี่ไม่ใช่จูบแสนเร่าร้อนเหมือนอย่างที่เคยเป็นมา แต่เป็นจูบที่ลึกล้ำ แผ่วเบาและนุ่มนวลทำให้รู้สึกผ่อนคลายกับทุกจุดที่ปลายลิ้นสัมผัสแน่นอนว่